เฮ่ลั่น !!! “มาร์เกซ” ประกาศศักดา ไล่บี้ฉลองแชมป์

“มาร์ค มาร์เกซ” โชว์ฟอร์มเหนือชั้น ไล่บี้คู่แข่งขึ้นอับดับ 1 ฉลองแชมป์ต่อหน้าชาวโลก การแข่งขัน พีทีที ไทยแลนด์ กรังปรีซ์ “มาร์ค มาร์เกซ” โชว์ฟอร์มเหนือ บิดไล่แซงคู่แข่ง ขึ้นอันดับ 1 ต่อหน้าแฟนๆมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย สร้างความฮือฮา ไล่บี้ล้อต่อล้อ แซงขึ้นอันดับหนึ่ง แซง ฟาบิโอ กวาตาราโร ในโค้งสุดท้าย เข้าอันดับ 1 ฉลองแชมป์โลกต่อหน้าแฟนๆชาวไทย มาร์ค มาร์เกซ นักบิดชาวสแปนิช จาก เรปโซล ฮอนด้า โชว์ฟอร์มเหนือชั้น ควบ Honda RC 213V ไล่บี้คู่แข่งชิงเข้าธงหมากรุก คว้าแชมป์สนาม และร่วมฉลองแชมป์โลก ณ สนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ต่อหน้าชาวไทย และ ผู้ชมทั่วโลก สร้างความฮือฮา และประกาศศักดาความแรงของรถ Honda RC213V แรงจนสุด หยุดไม่อยู่ ท่ามกลางเสียงเชียร์ทั่วโลก

นักบิดยามาฮ่า ฟอร์มร้อนแรง การ์ตาราโร่ แท็กทีม บีญาเลส ทะยานขึ้นเบิ้ลโพเดี้ยม ไทยแลนด์ จีพี 2019

การแข่งขันในสนามที่ 15 ศึกโมโตจีพี 2019 ลงทำการชิงชัยในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตรซึ่งเป็นปีที่ 2 ของประเทศไทย ในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขันเกมความเร็ว 2 ล้อทางเรียบหมายเลขหนึ่งของโลก ในรายการพีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์

โพลโพซิชั่นในเรซนี้ตกเป็นของ ฟาบิโอ การ์ตาราโร่ #20 รุ๊กกี้เฟรนช์แมน สังกัดปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ซิ่งคว้าหัวขบวนพร้อมทั้งตอกสถิติใหม่บนสังเวียนช้างฯ เซอร์กิตรวมถึง มาเวริค บีญาเลส #12 ดาวบิดสแปนิชสังกัดมอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ที่ประจำการณ์ในกริดที่ 2 สร้างโอกาสคว้าชัยให้กับตนเองและต้นสังกัดในเกมรอบชิงชนะเลิศ ขณะที่ ฟรังโก้ มอร์บิเดลลี่ #21 จาก ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 4 ส่วน วาเลนติโน่ รอสซี่ #46 สตาร์นักบิดสังกัดมอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ออกสตาร์ทจากกริดที่ 9 โดย ขุนพลนักบิดยามาฮ่า ไล่ขับเคี่ยวกับคู่แข่งอยู่ในกลุ่มหัวขบวน และเป็นทางด้าน ฟาบิโอ การ์ตาราโร่ #20 ที่ทะยานขึ้นโพเดี้ยมอันดับ 2 โดยมี มาเวริค บีญาเลส #12 ตามขึ้นโพเดี้ยมอันดับ 3 ส่วน ฟรังโก้ มอร์บิเดลลี่ #21 บิดจบการแข่งขันในอันดับ 6 ด้าน วาเลนติโน่ รอสซี่ #46 ซิ่งเข้าเส้นชัยในอันดับ 8 หลังผ่าน 26 รอบสนาม ที่ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต

ศึกโมโตจีพี 2019 สนามถัดไป มีคิวดวลความเร็วในวันที่ 20 ตุลาคม นี้ ณ ทวินริง โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น โดยแฟนมอเตอร์สปอร์ตสามารถร่วมติดตามและให้กำลังใจนักบิดยามาฮ่าได้ที่ Facebook : Yamaha Society Thailand

“คิงคองก้อง” บิดสุดแรง คว้าที่ 9 โมโตทู ต่อหน้าแฟนๆ โฮมเรซ

“คิงคองก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดหนึ่งเดียวชาวไทย บิดสุดใจต่อหน้าแฟนๆ สนาม โฮมเรซ ไม่ทำให้ผิดหวัง คว้าอันดับ 9 มีคะแนนสะสม 20 คะแนน อยู่อันดับที่ 20 บนทำเนียบนักแข่งระดับโลก ได้ใจผู้ชมทั่วประเทศ

หลังจาก “คิงคองก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักแข่งหนึ่งเดียวชาวไทย จากรายการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม” ลงชิงชัยในรายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังปรีซ์ ต่อหน้าแฟนๆมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยทั่วประเทศ ณ สนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บุรีรัมย์ จากการออกตัวที่อันดับที่ 13 ไล่แซงนักแข่งต่างชาติจนจบการแข่งขันในอันดับที่ 9 มีคะแนนสะสม 20 คะแนน รั้งอันดับที่ 20 บนตารางการแข่งขันระดับโลก ได้ใจชาวไทยทั้งประเทศ หลังจบการแข่งขันทีมงานร่วมแสดงความยินดี โดยมี มร. ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการ​บริหาร ​บริษัท​ เอ.พี. ฮอนด้า ​จำกัด และ ดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด สวมกอดร่วมแสดงความยินดี

#WhatStopsYou #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด #RacetotheDream #MotorSport #APHonda #APHondaRacingThailand #MotoGP #Moto2 #SomkiatChantra #SC35 #Thailand #ThaiGP #idemitsuHondaTeamAsia

ซูซูกิ รั้งอันดับ 3 ของโลก!!! 2 นักแข่งทีม ซูซูกิ ผนึกกำลัง เก็บแต้มท็อปเท็น ท่ามกลางกองชียร์ชาวไทย

เป็นอีกหนึ่งวันที่ชาว ซูซูกิ ได้เกาะติดสถานการณ์การแข่งขัน พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ที่จัดขึ้นเป็นสนามที่ 15 ได้ทำการแข่งขันที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยในงานนี้ถือว่าเป็นการรวมพลชาว ซูซูกิ ที่พร้อมใจส่งแรงเชียร์ 2 นักแข่งจาก อเล็กซ์ รินส์ เบอร์ 42 และ โจน เมียร์ เบอร์ 36 ที่ยังเดินหน้าเก็บแต้มติดอันดับท็อปเท็นได้ในสนามนี้ โดยผลคะแนนรวมรั้งอันดับที่ 3 ของโลก

ชาว ซูซูกิ ยังคงรวมพลังกันอีกครั้งกับการส่งแรงใจเชียร์ให้กับ 2 นักแข่ง อเล็กซ์ รินส์ และ โจน เมียร์ กันอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับยังมีกิจกรรมพิเศษๆ สำหรับครอบครัว ซูซูกิ โดยเฉพาะ โดยในช่วงเช้ายังเป็นการเปิดโอกาสให้กับครอบครัว ซูซูกิ ได้เข้าไปร่วมสัมผัสอีกหนึ่งมุมมองของการเตรียมรถแข่ง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปเยี่ยมห้องรับรองหรือว่าการเข้าไปดูการเตรียมรถแข่งของ 2 นักแข่งกันถึงในพิท ก่อนที่ในช่วงบ่ายจะยังมาลุ้นกันต่อกับเสื้อ ซูซูกิ พร้อมลายเซ็นของ 2 นักแข่งอีก 10 ตัว ถือว่าเป็นโอกาสพิเศษจากกิจกรรมภายในบูธ ซูซูกิ ที่ได้จัดขึ้นมาให้กับชาวมอเตอร์สปอร์ตโดยเฉพาะ ก่อนที่จะไปร่วมใจส่งแรงเชียร์ให้กับ 2 นักแข่งที่มีคิวลงทำการดวลล้อกันในช่วงบ่าย ซึ่งสนามนี้ 2 นักแข่งต้องใช้พลังกันเยอะพอสมควรกับการที่จะต้องไล่คันเร่งเพื่อเก็บคะแนนให้ได้ในสนามนี้ ช่วงแห่งความตื่นเต้นและรอคอยกับการแข่งขันที่กำลังเปิดฉากขึ้น สนามนี้ โจน เมียร์ ออกสตาร์ทในอันดับ 8 และ อเล็กซ์ รินส์ ออกสตาร์ทในอันดับ 10 แต่เมื่อไฟแดงดับทั้ง 2 คู่หูทีมเมทก็กดคันเร่ง ซูซูกิ GSX-RR ไต่อันดับขึ้นมาได้อย่างมีลุ้นทีเดียว กับการแข่งขันทั้งหมด 26 รอบสนาม และสนามนี้ก็ได้สร้างความประทับใจให้กับแฟน ซูซูกิ กับการสู้อย่างสุดใจของ 2 นักแข่งทั้ง อเล็กซ์ รินส์ และ โจน เมียร์ ที่ขยับอันดับขึ้นมาได้เรื่อยๆ และเมื่อจบการแข่งขัน อเล็กซ์ รินส์ สามารถจบการแข่งขันได้ในอันดับ 5 ส่วน โจน เมียร์ จบอันดับ 7 เก็บแต้มได้อีกครั้งท่ามกลางเสียงกองเชียร์จากชาว ซูซูกิ


นับเป็นการปิดฉากของการแข่งขันในศึก พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ สนามที่ 15 ได้น่าประทับใจของชาว ซูซูกิ ที่ได้มาร่วมกิจกรรมนี้กันตั้งแต่การมาร่วมให้การต้อนรับ 2 นักแข่งอย่างอบอุ่น พร้อมกับได้มาร่วมส่งกำลังใจกันถึงขอบสนามในครั้งนี้ รวมทั้งประสบการณ์ใหม่ๆที่หาที่ไหนไม่ได้ เพราะได้จัดขึ้นมาให้กับชาว ซูซูกิ เท่านั้น แล้วพบกันอีกครั้งกับศึกโมโตจีพี ช่วยเป็นแรงเชียร์ ทีม ซูซูกิ เอสสตาร์ สู้ศึกในสนามต่อไป ในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ ณ สนาม ทวินริง โมเตกิ ประเทศ ญี่ปุ่น
#TeamSuzukiEcstar
#ThaiSuzuki
#SuzukiBigBike
#ThaiGP

ฮอนด้าเปิดตัว “นิว สกู๊ปปี้ ไอ” ทั้งแบบล้อ 12 นิ้ว และ 14 นิ้ว

ฮอนด้าเปิดตัว “นิว สกู๊ปปี้ ไอ” ทั้งแบบล้อ 12 นิ้ว และ 14 นิ้ว ดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนใครพร้อมดึง เดอะทอยส์-ธันวา และ เจ้านาย-จินเจษฎ์ พรีเซนเตอร์ใหม่ร่วมถ่ายทอดคาแรคเตอร์เอ.พี. ฮอนด้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำวงการตลาดรถจักรยานยนต์ เอ.ที. ของเมืองไทยอีกครั้งด้วยการเปิดตัว “นิว ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ” รูปลักษณ์ใหม่ 3 สไตล์ ทั้งรุ่นล้อแม็ก 12 นิ้ว ยางจุ๊บเลส หรือ Club12 ดีไซน์โดดเด่นไม่ซ้ำใครสำหรับคนรุ่นใหม่ และรุ่นล้อ 14 นิ้ว สำหรับวัยรุ่น มีให้เลือกทั้งแบบ Prestige เรียบหรูดูแพง และแบบ Urban Team ทันสมัยโดนใจกว่าเดิม พร้อมกับดึง 2 พรีเซนเตอร์ใหม่ขวัญใจวัยรุ่น “เดอะทอยส์-ธันวา บุญสูงเนิน” และ “เจ้านาย-จินเจษฎ์ วรรธนะสิน” เป็นผู้ถ่ายทอดคาแรคเตอร์ นิวฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอใหม่

มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ไทย เปิดเผยว่า “นับตั้งแต่ที่เราเปิดตัวฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอสู่ท้องตลาดในปี 2009 รถรุ่นนี้ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของวงการรถจักรยานยนต์ไทยสู่ยุคของรถเกียร์อัตโนมัติ หรือ เอ.ที. อย่างเต็มตัว ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอกลายเป็นรถที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในกลุ่มเอ.ที. และมียอดจำหน่ายสะสมสูงถึง 2 ล้านคัน ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จและความนิยมของรถรุ่นนี้ในหมู่วัยรุ่นอย่างไร้ข้อสงสัย”

“ในปีนี้ ภายใต้แบรนด์คอนเซปต์ What Stops You? ฮอนด้ามีความตั้งใจที่จะส่งมอบความสนุกใหม่แบบไร้ขีดจำกัดด้วยฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอโฉมใหม่ ที่ได้รับการออกแบบให้มีดีไซน์สะดุดตาโดนใจวัยรุ่น ทั้งรุ่นล้อ 12 นิ้ว คลับทเวลฟ์ ที่มาพร้อมนิยามใหม่ของความเป็นโมเดิร์นคลาสสิก ในขณะที่รุ่นสแตนดาร์ด 14 นิ้ว แบบเพรสทีจ นำเสนอแก่นแท้ของความคลาสสิกแบบเรียบหรู และแบบเออร์เบิร์นทีม ที่มาพร้อมกับการผสมผสานสีสันอย่างลงตัว กราฟิกของทุกแบบได้รับการออกแบบให้แฝงไปด้วยความสนุกในขณะที่รูปทรงและเครื่องยนต์ก็มีความสมบูรณ์แบบสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันของวัยรุ่น”

นิว ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร เริ่มจากรุ่นคลับทเวลฟ์ล้อ 12 นิ้ว ภายใต้คอนเซปต์ Remarkable-ME เท่ใหม่…โลกไม่ลืม กับกราฟิกใหม่ทันสมัยด้วยเทคนิคการใช้สีแบบพิเศษให้อารมณ์ 2 สี ในมุมที่ต่างกัน (Special Flip Flop Color) ทั้งสีดำ-ชมพู สีขาว-แดง สีเทา-แดง และสีน้ำเงิน-ฟ้า ตามด้วยรุ่นล้อ 14 นิ้ว ได้แก่รุ่นเพรสทีจ (Prestige) มากับคอนเซปต์ Shine Your Way เน้นความเรียบหรู ด้วยเส้นสายสีโรสโกลด์ บนตัวรถสีขาว แดง และดำ และรุ่นเออร์เบิร์นทีม (Urban Team) มาพร้อมคอนเซปต์ #โดนYOUNG สีสันสดใสโดนใจวัยรุ่นกับ 2 สีใหม่ ชมพู-เทา และ ฟ้า-เทา

พร้อมกันนี้ เพื่อถ่ายทอดคาแรคเตอร์ของนิวฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น เอ.พี.ฮอนด้า ยังได้เปิดตัวสองพรีเซนเตอร์ใหม่ประกอบด้วย “เดอะทอยส์” ธันวา บุญสูงเนิน ศิลปินสุดแนวขวัญใจวัยรุ่นเป็นพรีเซนเตอร์รุ่นนิวฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ คลับทเวลฟ์ และ “เจ้านาย” จินเจษฎ์ วรรธนะสิน ดาวรุ่งมากความสามารถที่กำลังมาแรงในวงการบันเทิงเป็นพรีเซนเตอร์ในรุ่นนิวฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ เออร์เบิร์นทีม โดยทั้งคู่ถือเป็นผู้นำทางความคิดของวัยรุ่นในปัจจุบันด้วยคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร

นิวฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ มาพร้อมกับฟังก์ชันที่เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์วัยรุ่นเข้ากับตัวรถ นำโดยฟีเจอร์ AC Socket สำหรับชาร์จไฟสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ต่างๆ และกล่อง U-Box ขนาดใหญ่ที่ใส่หมวกกันน็อคแบบเต็มใบได้อย่างสบาย

นิวฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ ให้สมรรถนะทันใจวัยรุ่นด้วยเครื่องยนต์ eSP ขนาด 110 ซีซี 4 จังหวะ ระบบหัวฉีด PGM-FI มาพร้อมระบบ Idling Stop System ช่วยหยุดและเดินเครื่องอัตโนมัติ ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 62.5 กม./ลิตร มั่นใจด้วยระบบกระจายแรงเบรค Combi Brake System เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยค่าไอเสียที่สะอาดถึงระดับ 6 อีกทั้งยังรองรับน้ำมัน E20 อีกด้วย

เอ.พี. ฮอนด้าพร้อมวางจำหน่าย “นิว ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ” ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2562 เป็นต้นไป ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ ด้วยราคาแนะนำดังต่อไปนี้ Club12 ราคาแนะนำ 51,700 บาท Prestige ราคาแนะนำ 48,600 บาท และUrban Team ราคาแนะนำ

2019 Yamaha WR450F

นี่คือรถออฟโรดที่มีสมรรถนะใกล้เคียงกับรถโมโตครอสและรถวิบากในรหัส YZ และ FX มากที่สุด จากค่ายYamaha หากคุณกำลังมองหารถวิบากสำหรับการขับขี่ในแบบออฟโรดสักคันนี่คือตัวเลือกที่ดี

ซึ่งนิยามที่ฝั่งอเมริกากล่าวถึงรถรุ่นนี้ก็คือ ข้อความที่ว่า The Bike for All Reasons คือหากต้องการตอบคำถามว่าทำไมจึงควรเลือกรถรุ่นนี้ “คำตอบนั้นมีทุกข้อหรือมีทุกเหตุผลที่ควรจะมี” สำหรับ WR450F ในโมเดลปี 2019 นี้ นับเป็นวาระครบรอบยี่สิบปีนับตั้งแต่การผลิตออกมาจนถึงโมเดลล่าสุดในตลาดเวลานี้ที่มีการใช้พื้นฐานของรถ YZ450F นั่นเอง ดังนั้นนี่คือรถหนึ่งในรุ่นที่นักขี่สายเอ็นดูโร่มีความต้องการมากที่สุดรุ่นหนึ่งนั่นเอง
ขุมพลังของเครื่องยนต์ใหม่ new WR450F เป็นเครื่องยนต์รุ่นล่าสุดที่นำมาจาก YZ450F ที่มีการออกแบบภายใต้แนวคิดการออกแบบคือ mass centralized หรือจุดศูนย์ถ่วงน้ำหนักที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งในกลุ่มรถเครื่องยนต์สูบเดียว ซึ่ง WR450F นี้มาพร้อมกับปริมาตรเครื่องยนต์ 449 ซีซี ที่มีการเซ็ทติ้งค่าต่างๆเน้นถึงการตอบสนองการขับขี่ที่เน้นเพื่อเกมเอ็นดูโร่โดยเฉพาะ สำหรับ All new WR450F ได้รับการปรับวางฝาสูบใหม่ด้วยการจัดตำแหน่งเสื้อสูบให้เอียงไปทางด้านหลังเพื่อให้ได้ผลทางด้านจุดศูนย์รวมน้ำหนักของเครื่องยนต์ที่ดียิ่งขึ้นตามแบบที่ได้จากข้อมูลของรถแข่งโมโตครอสใน MXGPแต่ได้ทำการปรับคุณสมบัติให้มีความเหมาะสมกับการขับขี่ในสไตล์เอ็นดูโร่ด้วยการปรับสเปคของ ระบบวาล์วไอดีและวาล์วไอเสียใหม่ รวมทั้งกำหนดค่าเซทติ้งการจ่ายเชื้อเพลิง การจุดระเบิดของเครื่องยนต์ ซึ่งก็คือ ได้ทำการ รีแมพให้ มีความเหมาะสม ด้วยพัฒนา ignition advance maps ให้มีความเหมาะสมกว่าเดิม จนเป็นเครื่องยนต์ที่ให้แรงบิดที่สูง high torque 450 c.c.4valve engine ที่ส่งกำลังได้อย่างนุ่มนวลต่อเนื่องรวมทั้งให้สมรรถนะทางด้านการยึดเกาะที่ยอดเยี่ยมพร้อมตะลุยได้ในทุกสภาพพื้นผิวอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยในการปรับเซทค่าการจูนนิ่งเครื่องยนต์นั้นสามารถทำผ่านสมาร์ทโฟนด้วยการใช้ power tuner app ที่ควบคุมผ่านสัญญาณ wifi ที่ช่วยให้สามารถเลือกเซ็ทติ้งได้เหมาะสมกับสภาพแทร็คหรือสภาวะอากาศที่กำลังเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกันก็จะมีชุดคิทเป็นออพชั่นสำหรับจัดการ CCU หรือ communication control unit ที่จะช่วยให้สามารถอัพโหลดหรือแชร์ค่าการเซ็ทติ้งเพิ่มเติมจากค่ามาตรฐานที่ติดตั้งมาให้ได้อีกด้วย สำหรับ WR450F นี้จะสามารถปรับเลือกใช้ engine mode ได้ด้วยการกดสวิทซ์ที่แฮนเดิ้ลบาร์ ที่สามารถเปลี่ยนค่าได้สองค่าที่เซ็ทไว้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในการขับขี่ที่จะเลือกให้เครื่องยนต์ส่งกำลังได้อย่างเหมาะสม นอกจากเครื่องยนต์ใหม่แล้ว WR450F ยังได้พัฒนาแชสซีให้ตอบสนองการขี่ที่รวดเร็วควบคุมง่ายในทุกจังหวะ โดยเฉพาะการเลี้ยวที่ว่องไว ด้วยเฟรม all-new aluminium bilateral frame ที่มีความเพรียวบางและน้ำหนักเบา ที่ช่วยให้เลี้ยวได้อย่างคล่องแคล่วบนเส้นทางคดเคี่ยวพร้อมผ่านเส้นทางทุกสภาพทั้งหิน ป่า หรือพื้นผิวที่ต้องใช้เทคนิคในการควบคุมมากเป็นพิเศษ ที่สามารถผสานการทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนได้อย่างลงตัว โดย WR450F ได้พัฒนาระบบกันสะเทือนให้สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนและมีการเคลื่อนไหวอย่างมั่น คง สม่ำเสมอ ด้วยการออกแบบให้มีประสิทธิภาพในการรองรับแรงกระแทกได้อย่างยอดเยี่ยม โดยในส่วนของ front forks นั้น ได้ปรับชิ้นส่วนภายในกระบอกโช้คด้วยสปริงแบบ longer high-rate springs ซึ่งเป็นส่วนประกอบในกันสะเทือนหน้าจาก KYB ซึ่งเป็นแบบ air-oir separate upside-down front forks ที่ให้ความมั่นคงในทุกสภาพการขับขี่บนพื้นผิวที่หลากหลาย ส่วนกันสะเทือนหลังนั้นเป็น rear shock absorber ที่ยังคงพื้นฐานระบบกันสะเทือนหลังมาจาก YZ450F แต่ได้มีการปรับค่าเซ็ทติ้งให้เหมาะสมกับการขับขี่ในสไตล์เอ็นดูโร่มากขึ้น เช่นการเปลี่ยน coil spring เป็นขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 11.5 มม. รวมทั้งปรับปริมาตรภายในโช้คหลังให้มีความจุเพิ่มจากเดิมอีก 30 ซีซี เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการซับแรงได้ดีขึ้นอีกทั้งช่วยลดความร้อนของระบบการทำงานภายในของระบบกันสะเทือนหลังอีกด้วย แน่นอนว่าในการใช้งานสไตล์ออฟโรดหรือขี่ในสไตล์เอ็นดูโร่นี้ย่อมมีระยะทางที่เพิ่มากขึ้นจากรถโมโตครอสในสนาม

ดังนั้นจึงได้ปรับขนาดถังเชื้อเพลิงเพิ่มเป็น 7.9 ลิตร หากกล่าวโดยรวมแล้ว โมเดล 2019 ของ WR450F นี้ได้รับการปรับใหม่ พร้อมยกระดับสเปคที่สูงขึ้น All New High-Spec Enduro ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีสมัยใหม่มาจากพื้นฐานของรถโมโตครอสอย่าง YZ450 จนกลายเป็นรถเอ็นดูโร่ที่มีสมรรถนะสูงมากที่สุดรุ่นหนึ่ง ด้วยคุณสมบัติที่ครบถ้วนทั้งด้านกำลังเครื่องยนต์ สมดุลในการควบคุม และความยืดหยุ่นของตัวรถ ที่ล้วนส่งให้ WR450F เป็นรถที่มีความสมบูรณ์มากที่สุดในพิกัดเดียวกันสำหรับสังเวียนเอ็นดูโร่

ซึ่งรายละเอียดของตัวรถมีดังนี้

Engine : Liquid-cooled, DOHC, 4-valve (titanium), single
Displacement : 449 cc
Bore and Stroke : 97 x 60.8 mm
Compression Ratio : 12.8:1
Fuel Delivery : Keihin 44 mm throttle body F.I.
Lubrication : Wet sump
Ignition / Starting : TCI / Electric
Transmission : Wide ratio 5-speed transmission
Primary ratio : 2.609 (60/23)
Secondary ratio : 3.846 (50/13)
1st gear 2.417 (29/12)
2nd gear 1.733 (26/15)
3rd gear 1.313 (21/16)
4th gear 1.050 (21/20)
5th gear 0.840 (21/25)
Final Drive : O-ring chain
Suspension (Front) : 48 mm inverted fork / 310 mm (12.2″) wheel travel
Suspension (Rear) : Fully Adj. Link Monocross / 318 mm (12.5″) wheel travel
Brakes (Front) : 270 mm floating disc / twin-piston caliper
Brakes (Rear) : 245 mm disc / single-piston caliper
Tires (Front) : 90/90-21
Tires (Rear) : 130/90-18
Length : 2,165 mm (85.2″)
Width : 825 mm (32.5″)
Height : 1,280 mm (50.4″)
Wheelbase : 1,465 mm (57.7″)
Ground Clearance : 325 mm (12.8″)
Seat Height : 965 mm (38″)
Fuel Capacity : 7.9 litres (1.7 Imp. gal.)
Wet Weight : 119 kg (262 lbs)

2019 MXGP Round 14-15 ทิม ไกเซอร์ ทีมฮอนด้า คว้าแชมป์ MXGP

เป็นอันว่า ทิม ไกเซอร์ ได้ครองแชมป์รุ่น MXGP หลังจบเกมสนามที่ 15 ด้วยคะแนนสะสมที่ขาดลอย ทั้งที่ยังเหลือการแข่งขันอีก 3 สนาม

ปล่อยสตาร์ทรุ่น MX2 สนามที่ 14
เฮนรี่ จาโคบิ#29 บู๊อยู่กับคาลวิน วานเดอเรน#10

ฉบับนี้ได้ 2 สนาม สนามที่ 14 ทำการแข่งขันกันที่เมืองลอมเมล ประเทศเบลเยี่ยม สภาพสนามเป็นทรายยาว 1.880 กม. เป็นสนามที่ใช้ความเร็วเต็มที่ ส่วนสนามที่ 15 แข่งขันที่เมืองอิโมลา ประเทศอิตาลี สภาพสนามเป็นดินแข็ง ยาว 1.500 กม. เป็นสนามที่ใช้ความเร็วเช่นกัน แต่ถ้ามาเร็วมาก มีสิทธิ์เดี้ยง เพราะเต็มไปด้วยก้อนกรวดน้อยใหญ่ เกมในรุ่นใหญ่ยังไม่มี เจฟฟรี่ย์ เฮอลิงส์ กับอันโตนิโอ คายโรลี สองหัวหอกค่ายเคทีเอ็ม ที่ยังบาดเจ็บอยู่ พวกนักแข่งดาวค้างฟ้าได้เกิดก็คราวนี้ละครับ ส่วนเกมในรุ่นเล็ก ยังหาคนมาบดบังรัศมีของ จอร์จ พราโด ค่ายเคทีเอ็ม ไม่เจอ…..

สนาม 14 (4 ส.ค.62) MXGP of Belguim
MX2
โมโตหนึ่ง จอร์จ พราโด (เคทีเอ็ม) ได้โฮลชอตพร้อมขี่นำโด่งแบบม้วนเดียวจบ ขี่ตามเขามาก็มี ทอม เวียลี (เคทีเอ็ม) อดัม สเทอร์รี่ (คาวาซากิ) โธมัส เกียร์ โอลเซน (ฮัสวาน่า) และเฮนรี่ จาโคบิ (คาวาซากิ) ขึ้นรอบที่ 2 วัตสันแซงจาโคบิขึ้นที่ 5 จาโก กีร์ (ยามาฮ่า) ออกสตาร์ทไม่ดี ไม่ติดท๊อปเทน แต่ใช้เวลาเพียง 3 รอบ ก็ขึ้นมาตามก้นวัตสันอยู่ที่ 6 ก่อนแซงขึ้นที่ 5 ได้ในรอบที่ 5 กีร์ใช้เวลาไม่นานก็ขึ้นมาทันโอลเซน มาแซงขึ้นที่ 4 ได้ในรอบที่ 8 จากนั้น กีร์ก็ชิงที่ 3 มาจากสเทอร์รี่ได้ในรอบที่ 11 และชิงที่ 2 จากเวียลีได้ในรอบถัดมา แต่ไล่ตามพราโดไม่ทัน ขึ้นรอบที่ 13 สเทอร์รี่แซงเวียลีขึ้นที่ 3 โดยเกมจบที่พราโดชนะ กีร์ที่ 2 สเทอร์รี่ที่ 3 เวียลีที่ 4 และวัตสันที่ 5
โมโตสอง อีกครั้งที่พราโดได้โฮลชอตพร้อมขี่นำสบายๆ ม้วนเดียวจบ เวียลีตามมาที่ 2 ต่อด้วยคาลวิน วานเดอเรน (ฮอนด้า) วัตสัน, โอลเซน และกีร์ ขึ้นรอบที่ 2 วัตสัน แซงวานเดอเรนขึ้นที่ 3 ขณะที่กีร์แซงทั้งโอลเซนและวานเดอเรนขึ้นที่ 4 ขึ้นรอบที่ 3 กีร์กับวานเดอเรนรวมหัวกดดันวัตสัน จนพากันแซงขึ้นที่ 3-4 จากนั้น กีร์ก็แซงเวียลีขึ้นที่ 2 ผ่านไปไม่นาน วานเดอเรนกับวัตสัน ก็ถีบเวียลีลงมาอยู่ที่ 5 ตัวเองขึ้นไปครองที่ 3-4 และพอเข้าสู่ช่วงท้ายเกม กีร์ขี่อยู่ที่ 2 พลาดล้มอย่างแรง หล่นไปอยู่ท้ายขบวน โดยเกมจบที่พราโดชนะ วานเดอเรนที่ 2 วัตสันที่ 3 เวียลีที่ 4 และโอลเซนที่ 5
ผลโอเวอร์ออล

  1. จอร์จ พราโด (1-1)
  2. คาลวิน วานเดอเรน (7-2)
  3. เบน วัตสัน (5-3)
  4. ทอม เวียลี (4-4)
  5. อดัม สเทอร์รี่ (3-6)
ปล่อยสตาร์ทรุ่น MXGP ของสนามที่ 15
เบน วัตสัน
ทอม เวียลี
อดัม สเทอร์รี่
เจเรมี่ ซีเวอร์

MXGP
โมโตหนึ่ง เกลน โคเดนฮอฟ (เคทีเอ็ม) ได้โฮลชอตก่อนโดน โรเมน เฟเบรอ (ยามาฮ่า) ที่ตามมาสวนแซงขึ้นนำ แต่แล้วเฟเบรอก็โดน ทิม ไกเซอร์ (ฮอนด้า) แซงขึ้นนำได้ก่อนจบรอบแรก เฟเบรอเกาะติดไกเซอร์จนมาแซงคืนได้ในรอบที่ 2 จากนั้นก็บิดหน้าตั้งจนเข้าเส้นชัยคันแรก ไกเซอร์ตามเข้าที่ 2 โคเดนฮอฟที่ 3 ที่ 4 เป็นของเจเรมี่ ซีเวอร์ (ยามาฮ่า) ที่แซงอาร์โนลด์ โธนัส (ยามาฮ่า) ได้ในรอบที่ 3 อาร์โนลด์โดนพอลส์ โจนาส (ฮัสวาน่า) แซงขึ้นที่ 5 ในรอบที่ 3 แต่เขาแซงคืนมาได้หลังเกมผ่านไปได้ครึ่งทาง พร้อมขี่เข้าเส้นชัยที่ 5
โมโตสอง ไกเซอร์ได้โฮลชอตตามด้วย แม็กซ์ แอนส์ตี้ (เคทีเอ็ม) เจเรมี่ แวนโฮบีค (ฮอนด้า) โคเดนฮอฟ และเฟเบรอแอนส์ตี้ไล่กดดันไกเซอร์จนแซงขึ้นไปนำได้ในรอบที่ 4 และเมื่อเกมผ่านไปได้ครึ่งทาง เฟเบรอโดน อมีนาส จาซิโคนิส (ฮัสวาน่า) ไล่กดดัน มาแซงขึ้นที่ 5 ได้ในรอบที่ 8 แต่เฟเบรอใช้เวลาเพียง 2 รอบก็แซงคืนมาได้ ขณะที่คู่จ่าฝูง ไกเซอร์ทวงจ่าฝูงจากแอนส์ตี้คืนมาได้ในรอบที่ 11 จากนั้นในรอบต่อมา แวนโฮบีคขี่อยู่ที่ 3 พลาดล้ม โคเดนฮอฟ, เฟเบรอ และจาซิโคนิส เลื่อนขึ้นที่ 3-5 มาถึงช่วงท้ายเกม แอนส์ตี้สบโอกาส ชิงจ่าฝูงจากไกเซอร์มาได้ในช่วง 3 รอบสุดท้าย ไกเซอร์ตามเข้าที่ 2 โคเดนฮอฟที่ 3 เฟเบรอที่ 4 และที่ 5 เป็นของซีเวอร์ ที่ชิงมาจากจาซิโคนิสได้ในรอบสุดท้าย

ผลโอเวอร์ออล

  1. ทิม ไกเซอร์ (2-2)
  2. โรเมน เฟเบรอ (1-4)
  3. เกลน โคเดนฮอฟ (3-3)
  4. เจเรมี่ ซีเวอร์ (4-5)
  5. เจเรมี่ แวนโฮบีค (6-7)
ดาเรน ซานาอี
แม็กซิม เรโน
จอร์จ พราโด

สนาม 15 (18 ส.ค.62) MXGP of Italy
MX2
โมโตหนึ่ง พราโดได้โฮลชอตก่อนโดน ดาเรน ซานาอี (คาวาซากิ) แซงขึ้นไปนำแทน แต่พราโดก็แซงคืนมาได้ตรงระนาดของรอบที่ 2 ซานาอีลงมาอยู่ที่ 2 ตามด้วย โอลเซน, เมธิส บัวส์เรม (ฮอนด้า) อิเกอร์ ลาเรนากา (เคทีเอ็ม) แม็กซิม เรโน (ยามาฮ่า) และกีร์โอลเซนขี่ตามซานาอีอยู่ 2 รอบก็แซงขึ้นที่ 2 พอขึ้นรอบที่ 4 อิเกอร์ขี่อยู่ที่ 4 ลื่นล้ม และในรอบต่อมา ซานาอีล้มบ้าง จากที่ 3 รูดไปอยู่ที่ 7 ขึ้นรอบที่ 8 กีร์แซงเมธิสขึ้นที่ 4 จากนั้น เกมในกลุ่มหัวแถว ตำแหน่งไม่มีเปลี่ยน โดยเกมจบที่พราโดชนะ โอลเซนที่ 2 เรโนที่ 3 กีร์ที่ 4 และเมธิสที่ 5
โมโตสอง จาโก กีร์ ได้โฮลชอตก่อน
โดนพราโดแซงขึ้นนำ กีร์ลงมาอยู่ที่ 2 ได้รอบเดียวก็พลาดล้ม โอลเซนเข้าแทนที่อันดับ 2 ตามด้วย วานเดอเรน, สเทอร์รี่จาโคบิ, เรโน และกีร์ ขึ้นรอบที่ 4 เรโนกับกีร์ สบโอกาสแซงจาโคบิขึ้นที่ 5-6 จากนั้นในรอบต่อมา เรโนก็แซงสเทอร์รี่ขึ้นที่ 4 กีร์เอาบ้าง แซงสเทอร์รี่ขึ้นที่ 5 ในรอบที่ 6 จากนั้นเกมเหมือนจะไล่ทัน แต่ก็ทำอะไรกันไม่ได้ โดยเกมจบที่พราโดชนะ โอลเซนที่ 2 วานเดอเรนที่ 3 เรโนที่ 4 และกีร์ที่ 5
ผลโอเวอร์ออล

  1. จอร์จ พราโด (1-1)
  2. โธมัส เกียร์ โอลเซน (2-2)
  3. แม็กซิม เรโน (3-4)
  4. จาโก กีร์ (4-5)
  5. คาลวิน วานเดอเรน (8-3)
คะแนนสะสม
  1. จอร์จ พราโด 694 คะแนน
  2. โธมัส เกียร์ โอลเซน 564 คะแนน)
  3. จาโก กีร์ 477 คะแนน
  4. เฮนรี่ จาโคบิ 422 คะแนน
  5. ทอม เวียลี 416 คะแนน
กาเทียร์ ปูแลง
โธมัส เกียร์ โอลเซน
จาโก กีร์
แม็กซ์ แอนส์ตี้
อาร์โนลด์ โธนัส

MXGP
โมโตหนึ่ง อาร์โนลด์ได้โฮลชอตขณะที่ไกเซอร์พยายามไล่แซงจนเกี่ยวกันในโค้ง ไม่ล้มครับแต่ก็โดนแซงไปหลายคัน หลังจบรอบแรก กาเทียร์ ปูแลง (ยามาฮ่า) ขึ้นนำตามด้วย โคเดนฮอฟ, โจนาส, ไกเซอร์, ซีเวอร์ และอาร์โนลด์ไกเซอร์ไล่กดดันโจนาสอยู่ 3 รอบก็แซงขึ้นที่ 3 รอบเดียวกับที่โคเดนฮอฟแซงปูแลงขึ้นไปนำแทน จากนั้นในรอบที่ 4 ไกเซอร์แซงปูแลงขึ้นที่ 2 เพราะเร่งสปีดจะขึ้นไปชิงจ่าฝูงจากโคเดนฮอฟให้ได้ ไกเซอร์เลยลื่นล้ม หล่นไปอยู่ที่ 8 ถึงตอนนี้ โคเดนฮอฟยังนำอยู่ ตามด้วย ปูแลง, โจนาส, ซีเวอร์, อาร์โนลด์ และเฟเบรอเฟเบรอแซงอาร์โนลด์ขึ้นที่ 5 ได้ในรอบที่ 7 รอบเดียวกับที่ซีเวอร์แซงโจนาสขึ้นที่ 3 เกมผ่านไปอีก 2 รอบ โจนาสพลาดล้ม ขณะที่ซีเวอร์แซงปูแลงขึ้นที่ 2 และเฟเบรอแซงปูแลงขึ้นที่ 3 ได้ในรอบที่ 10 แต่อยู่ได้เพียง 3 รอบ ก็ลื่นล้ม หล่นไปนอกท๊อปเทน ปูแลงได้ที่ 3 คืนง่ายๆ โดยมี อาร์โนลด์กับไกเซอร์ตามอยู่ที่ 4-5 ช่วงครึ่งหลังไม่มีเกมบู๊ โดยเกมจบที่โคเดนฮอฟชนะ ซีเวอร์ที่ 2 ปูแลงที่ 3 อาร์โนลด์ที่ 4 และไกเซอร์ที่ 5
โมโตสอง โคเดนฮอฟได้โฮลชอตพร้อมขี่นำแบบม้วนเดียวจบ ขี่อยู่ที่ 2 คือซีเวอร์ ตามด้วย โจนาส, ไกเซอร์, ปูแลง และเฟเบรอ ไกเซอร์แซงโจนาสขึ้นที่ 3 ได้ในรอบที่ 4 ไกเซอร์มาชิงที่ 2 จากซีเวอร์ได้ก็หลังจากที่เกมผ่านไปแล้วครึ่งทาง เกมโมโตนี้ ไม่ค่อยมีบู๊ คงเพราะสะบักสะบอมจากโมโตแรกมาเยอะ โดยเกมจบที่โคเดนฮอฟชนะ ไกเซอร์ที่ 2 ซีเวอร์ที่ 3 ปูแลงที่ 4 และโจนาสที่ 5

ทิม ไกเซอร์ ครองแชมป์ก่อนปิดฤดูกาล
กองเชียร์ของ ทิม ไกเซอร์

ผลโอเวอร์ออล

  1. เกลน โคเดนฮอฟ (1-1)
  2. เจเรมี่ ซีเวอร์ (2-3)
  3. ทิม ไกเซอร์ (5-2)
  4. กาเทียร์ ปูแลง (3-4)
  5. พอลส์ โจนาส (6-5)

คะแนนสะสม

  1. ทิม ไกเซอร์ 664 คะแนน
  2. เจเรมี่ ซีเวอร์ 481 คะแนน
  3. กาเทียร์ ปูแลง 440 คะแนน
  4. อาร์โนลด์ โธนัส 419 คะแนน
  5. เกลน โคเดนฮอฟ 399 คะแนน