2019 AMA Motocross R 4-5

รายการ เอเอ็มเอ โมโตครอส ชิงแชมป์อเมริกา ยังอยู่ในช่วงต้นฤดูกาล แต่เกมสูสีกันมากทั้ง 2 รุ่น ผลัดกันขึ้นโพเดี้ยมแบบไม่ซ้ำหน้ากันเลย และสภาพสนามทั้ง 2 สนามนี้ จะเป็นดินดำนุ่ม เป็นสนามที่ใช้ความเร็วกันสุดๆ ใครเทคนิคดีก็มีลุ้น…

เกมในช่วงแรกๆ ของรุ่น 250cc

สตาร์ทสนามที่ 5 รุ่น 250cc ดีริก เดรก#233 ได้โฮลชอต

สนาม 4 (15 มิ.ย.62) ไฮพอยท์ เรซเวย์, เขามอร์ริส, รัฐเพนซิลเวเนีย
250cc
โมโตหนึ่ง จัสติน คูเปอร์ (ยามาฮ่า) ได้โฮลชอตตามด้วย โคล์ท นิโคลส์ (ยามาฮ่า) ฮันเตอร์ ลอว์เรนซ์ (ฮอนด้า) ดีแลน เฟอร์แรนดิส (ยามาฮ่า) และอดัม เชนเชียรูโล (คาวาซากิ)
เชนเชียรูโลแซงเฟอร์แรนดิสขึ้นที่ 4 ได้ในรอบที่ 2 แต่โดนเฟอร์แรนแซงคืนในรอบที่ 5 จากนั้นในรอบต่อมา ลอว์เรนซ์แซงนิโคลส์ขึ้นที่ 2 และชิงจ่าฝูงจากคูเปอร์ได้ในรอบที่ 7 ในรอบเดียวกัน เฟอร์แรนดิสกับเชนเชียรูโล ก็พากันแซงนิโคลส์ขึ้นที่ 3-4 พอขึ้นรอบที่ 8 คูเปอร์ขี่อยู่ที่ 2 พลาดล้ม หล่นไปอยู่ที่ 5 ขณะที่เชนเชียรูโลแซงเฟอร์แรนดิสขึ้นที่ 2 เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางเกม เชส เซกซ์ตัน (ฮอนด้า) ก็ไล่ขึ้นมาตามก้นนิโคลส์อยู่ที่ 5 ก่อนแซงขึ้นที่ 4 ได้ในช่วงท้ายเกม โดยเกมจบที่ลอว์เรนซ์ชนะ เชนเชียรูโลที่ 2 เฟอร์แรนดิสที่ 3 เซกซ์ตันที่ 4 และนิโคลส์ที่ 5
โมโตสอง นิโคลส์ได้โฮลชอต ตามด้วย เชนเชียรูโล, เซกซ์ตัน และลอว์เรนซ์
เชนเชียรูโลไล่กดดันนิโคลส์อยู่นานก่อนแซงขึ้นนำได้ในรอบที่ 5 เซกซ์ตันได้โอกาสแซงนิโคลส์ขึ้นที่ 2 ได้ในรอบเดียวกัน และเมื่อเกมผ่านมาถึงรอบที่ 11 ลอว์เรนซ์ก็เข้าถึงตัวนิโคลส์ กดดันไม่นานก็แซงขึ้นที่ 3 โดยเกมจบที่เชนเชียรูโลชนะ เซกซ์ตันที่ 2 ลอว์เรนซ์ที่ 3 และที่ 4 เป็นของเฟอร์แรนดิสที่แซงนิโคลส์ขึ้นมาได้ในช่วง 2 รอบสุดท้าย นิโคลส์รับที่ 5
ผลโอเวอร์ออล

  1. อดัม เชนเชียรูโล (2-1)
  2. ฮันเตอร์ ลอว์เรนซ์ (1-3)
  3. เชส เซกซ์ตัน (4-2)
  4. ดีแลน เฟอร์แรนดิส (3-4)
  5. โคล์ท นิโคลส์ (5-5)
อีไล โทแมค
สนาม 5 โมโตหนึ่ง มูสแกน#25 ไล่ชิงจ่าฝูงจากร็อคเซน#94 จนพลาดล้ม แต่สุดท้ายก็แซงขึ้นนำจนได้
คูเปอร์ เวบบ์#2 กับเจสัน แอนเดอร์สัน#21
เชส เซกซ์ตัน
คู่กัดประจำสนาม มาร์วิน มูสแกน#25 กับเคน ร็อคเซน#94
ล้มมั๊ย!?! แซค ออสบอร์น

450cc
โมโตหนึ่ง เบลค แบคเก็ต (เคทีเอ็ม) ได้โฮลชอต ตามด้วย อีไล โทแมค (คาวาซากิ) คูเปอร์ เวบบ์ (เคทีเอ็ม) โจอี้ ซาวัตจี้ (คาวาซากิ) เจสัน แอนเดอร์สัน (ฮัสวาน่า) และเคน ร็อคเซน (ฮอนด้า) เกมไปได้แค่รอบเดียว ซาวัตจี้ก็พลาดล้ม จากที่ 4 ลงไปที่ 7 แอนเดอร์สันกับร็อคเซ็น เลื่อนขึ้นที่ 4-5 เกมมาถึงรอบที่ 3 โทแมคลื่นล้มอีกราย จากที่ 2 ลงมาที่ 4 โดยเวบบ์กับแอนเดอร์สันขึ้นที่ 2-3 แอนเดอร์สันไล่กดดันเวบบ์ มาแซงขึ้นที่ 2 ได้ในรอบที่ 7 และในรอบถัดมา เวบบ์มาเสียที่ 3 ให้โทแมคไปซะอีก เวบบ์พยายามจะไล่ทวงคืนจนพลาดล้ม หล่นไปอยู่ที่ 7 ด้านหลังโทแมคนั้น มูสแกนกำลังไล่ฟัดจะเอาที่ 4 จากร็อคเซน มาแซงได้ในช่วง 4 รอบสุดท้าย แถมร็อคเซนยังมาเสียตำแหน่งที่ 5 ให้กับออสบอร์นไปอีกในรอบถัดมา โดยเกมจบที่แบคเก็ตชนะ แอนเดอร์สันที่ 2 โทแมคที่ 3 มูสแกนที่ 4 และออสบอร์นที่ 5
โมโตสอง ซาวัตจี้ได้โฮลชอตก่อนโดนเวบบ์แซงขึ้นนำได้ก่อนจบรอบแรก ขณะที่มูสแกนล้มช่วงสตาร์ท ซาวัตจี้ลงมาอยู่ที่ 2 ตามด้วย จัสติน บาร์เชีย (ยามาฮ่า) ที่ลื่นล้มในรอบแรกลงไปอยู่ที่ 7 แอนเดอร์สันขึ้นที่ 3 ขณะที่ร็อคเซนไล่กดดันออสบอร์น มาแซงขึ้นที่ 4 ได้ในรอบที่ 3 พอขึ้นรอบที่ 5 โทแมคก็แซงออสบอร์นขึ้นที่ 5 จากนั้นในรอบถัดมา ร็อคเซนแซงแอนเดอร์สันขึ้นที่ 3 และแซงซาวัตจี้ขึ้นที่ 2 ในรอบที่ 8 พอขึ้นรอบที่ 9 ก็แซงเวบบ์ขึ้นไปนำแทนเรียบร้อย ถึงตอนนี้ เวบบ์ลงมาอยู่ที่ 2 ตามด้วยแอนเดอร์สัน, โทแมค, ซาวัตจี้ และออสบอร์นไม่กี่รอบต่อมาออสบอร์นก็ชิงที่ 5 มาจากซาวัตจี้ ส่วนโทแมคแซงแอนเดอร์สันขึ้นที่ 3 ได้ในรอบที่ 13 และแซงเวบบ์ขึ้นที่ 2 ได้ในช่วง 3 รอบสุดท้าย โดยเกมจบที่ร็อคเซนชนะ โทแมคที่ 2 เวบบ์ที่ 3 ส่วนที่ 4 ออสบอร์นชิงมาได้ในช่วง 2 รอบสุดท้าย แอนเดอร์สันเข้าที่ 5
ผลโอเวอร์ออล

  1. อีไล โทแมค (3-2)
  2. เคน ร็อคเซน (6-1)
  3. เจสัน แอนเดอร์สัน (2-5)
  4. คูเปอร์ เวบบ์ (7-3)
  5. แซค ออสบอร์น (5-4)
โคล์ท นิโคลส์
ไมเคิล โมซิแมน
อดัม เชนเชียรูโล#92 กับฮันเตอร์ ลอว์เรนซ์#196

สนาม 5 (22 มิ.ย.62)ฟลอริด้า เนชั่นแนล, แจคสันวิว, รัฐฟลอริด้า
250cc
โมโตหนึ่ง ดีริก เดรก (เคทีเอ็ม) ได้โฮลชอต แต่ขี่นำไปได้ 2 รอบ ก็ลื่นล้มไปเอง คูเปอร์ที่ตามมาขึ้นนำสบาย ตามด้วย ไท มาสเตอร์พูล (ยามาฮ่า) เซกซ์ตัน, โมซิแมน, มิชเชล โอเดนเบิร์ก (ยามาฮ่า) และเชนเชียรูโลเซกซ์ตันแซงไทขึ้นที่ 2 ในรอบที่ 4 จากนั้นในรอบที่ 5 เชนเชียรูโลก็แซงโอเดนเบิร์กขึ้นที่ 5 และโมซิแมนแซงไทขึ้นที่ 3 ได้ในรอบที่ 7 ขึ้นไปที่คู่จ่าฝูง เซกซ์ตันไล่กดดันคูเปอร์ก่อนแซงขึ้นนำได้ในรอบที่ 9 ขณะที่เชนเชียรูโลชิงที่ 4 จากไทได้ในรอบที่ 11 มาถึงช่วงท้ายเกม เฟอร์แรนดิส จากสตาร์ทอยู่ที่ 15 ในรอบแรก ไล่แซงคู่แข่งจนขึ้นมาตามก้นเชนเชียรูโลได้ในรอบที่ 13 และชิงที่ 4 จากเชนเชียรูโลมาได้ในช่วง 3 รอบสุดท้าย โดยเกมจบที่เซกซ์ตันชนะ คูเปอร์ที่ 2 โมซิแมนที่ 3 เฟอร์แรนดิสที่ 4 และเชนเชียรูโลที่ 5
โมโตสอง โอเดนเบิร์กได้โฮลชอตก่อนโดนแซงเป็นพรวน โดยคูเปอร์ขึ้นนำตามด้วย เฟอร์แรนดิส, โมซิแมน, เชนเชียรูโล และโอเดนเบิร์ก ขึ้นรอบที่ 2 เชนเชียรูโลแซงโมซิแมนขึ้นที่ 3 ขณะที่ลอว์เรนซ์แซงโอเดนเบิร์กขึ้นที่ 5 และแซงโมซิแมนขึ้นที่ 4 ได้ในรอบที่ 7 เข้าสู่ช่วงกลางเกม เฟอร์แรนดิสที่ขี่ตามดูไลน์จ่าฝูงคูเปอร์ มานานก็สบโอกาสแซงขึ้นไปนำแทนได้ในรอบที่ 10 จากนั้นก็ครองไว้ได้จนจบเกม คูเปอร์ตามเข้าที่ 2 เชนเชียรูโลที่ 3 ลอว์เรนซ์ที่ 4 และโมซิแมนที่ 5
ผลโอเวอร์ออล

  1. จัสติน คูเปอร์ (2-2)
  2. ดีแลน เฟอร์แรนดิส (4-1)
  3. อดัม เชนเชียรูโล (5-3)
  4. ไมเคิล โมซิแมน (3-5)
  5. ฮันเตอร์ ลอว์เรนซ์ (8-4)
    คะแนนสะสม
  6. อดัม เชนเชียรูโล 222 คะแนน
  7. จัสติน คูเปอร์ 204 คะแนน
  8. ดีแลน เฟอร์แรนดิส 187 คะแนน
  9. เชส เซกซ์ตัน 159 คะแนน
  10. โคล์ท นิโคลส์ 152 คะแน
จัสติน คูเปอร์
ไท มาสเตอร์พูล
จัสติน บาร์เชีย
มาร์วิน มูสแกน ชอบใจถ้วยรางวัลของสนามที่ 5
ดีแลน เฟอร์แรนดิส

450cc
โมโตหนึ่ง เวบบ์ได้โฮลชอตแต่ขึ้นนำได้เพียงรอบเดียว ก็โดนร็อคเซนไล่แซงขึ้นนำ เวบบ์ลงมาอยู่ที่ 2 ตามด้วย มูสแกน แอนเดอร์สัน, ออสบอร์น, บาร์เชีย และซาวัตจี้มูสแกนเร่งสปีดขึ้นไปหาจ่าฝูงร็อคเซน ไล่กดดันก่อนแซงขึ้นนำได้ในรอบที่ 7 จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงท้ายเกม แอนเดอร์สันไล่ขึ้นมาทันเวบบ์ กดดันอยู่นาน มาแซงขึ้นที่ 3 ได้ในช่วง 4 รอบสุดท้าย โดยเกมจบที่ มูสแกนชนะ ร็อคเซนที่ 2 แอนเดอร์สันที่ 3 เวบบ์ที่ 4 และออสบอร์นที่ 5
โมโตสอง โทแมคได้โฮลชอตพร้อมขี่นำแบบม้วนเดียวจบ ขี่ตามเขามาก็มี แอน
เดอร์สัน, ออสบอร์น, มูสแกน, ร็อคเซน, และเวบบ์ช่วงต้นเกมยังไม่มีอะไรตื่นเต้น จนเข้าสู่รอบที่ 7 ร็อคเซนขี่เสียจังหวะ เปิดช่องให้ เวบบ์กับบาร์เชียแซงขึ้นที่ 5-6 ขณะที่ด้านบน แอนเดอร์สันโดนมูสแกนกับออสบอร์นไล่กดดัน จนพากันแซงขึ้นที่ 2-3 ได้ในรอบที่ 10 ออสบอร์นรุกต่อ ไล่กดดันมูสแกน มาแซงขึ้นที่ 2 ได้ในช่วง 3 รอบสุดท้าย โดยเกมจบที่โทแมคชนะ ออสบอร์นที่ 2 มูสแกนที่ 3 แอนเดอร์สันที่ 4 และเวบบ์ที่ 5
ผลโอเวอร์ออล

  1. มาร์วิน มูสแกน (1-3)
  2. อีไล โทแมค (7-1)
  3. แซค ออสบอร์น (5-2)
  4. เจสัน แอนเดอร์สัน (3-4)
  5. คูเปอร์ เวบบ์ (4-5)
    คะแนนสะสม
  6. อีไล โทแมค 215 คะแนน
  7. เคน ร็อคเซน 209 คะแนน
  8. มาร์วิน มูสแกน 184 คะแนน
  9. แซค ออสบอร์น 182 คะแนน
  10. เจสัน แอนเดอร์สัน 182 คะแนน

Sport Automatic AEROX155 Tri Color

ถ้าพูดถึงรถจักรยานยนต์ที่ให้ความสะดวกสบายขับขี่ง่าย เครื่องยนต์ นิ่มนวล ดูแลไม่จุกจิก ก็คงจะพูดถึงรถจักรยานยนต์ออโตเมติกที่ครองใจผู้ใช้มายาวนานกว่า 14-15 ปี ด้วยสมรรถนะการใช้งาน และราคาที่ไม่แพงมากนักเมื่อเทียบกับการใช้งาน ยามาฮ่าเอง ถือเป็นเจ้าแรกที่สร้างกระแส จากวันนั้นถึงวันนี้ ยามาฮ่าผลิตรถออโตเมติกมากมายหลายรุ่น และรุ่นที่กำลังฮอตฮิตติดกระแสอยู่ในขณะนี้กับพิกัด 155 ซีซี ก็คือ AEROX155 นั่นเอง

การดีไซน์เน้นความสปอร์ต ที่โดดเด่นของ AEROX155 ทำให้ได้รับความนิยม และมีการปรับแต่งเพิ่มเติมสีสันส่วนอื่นเพิ่มความสวยงามตามยุคสมัย สำหรับความลงตัวของ AEROX คันนี้ เด่นสะดุดตาด้วยสีสันที่คาดลวดลายใหม่ทั้งคันด้วยสติ๊กเกอร์ แบบไตรคัลเลอร์ ด้วยพื้นสีขาว และลายน้ำเงินแดง ทำให้ดูสปอร์ตพรีเมี่ยมมากขึ้น ออพชั่นเสริมมาพร้อมกับ ชิ้นส่วนเคฟล่าร์ให้ดู ดุดัน คมเข้ม ที่บังโคลนหน้า บังลมหน้า ฝาปิดถังนำมัน และวินชิลด์ ระบบเบรกจัดมาชุดใหญ่ด้วย ชุดปั๊มบน และ ก้านเบรกหลัง อิตาลี Adelin กระจกติดตั้งอยู่ที่ปลายแฮนด์ ดิสก์เบรกหน้าจานเดี่ยว แต่เพิ่มออพชั่นด้วยคาลิเปอร์ด้วยคาลิเปอร์แบบ 4 ลูกสูบ เรเดียลเม้าท์ Brembo สายถักสแตนเลสแบบหัวปัก 45 องศา และที่โดดเด่นสีทองอร่ามกับระบบกันสะเทือนหน้า โช้คอัพแบบหัวกลับแบรนด์ดังของแต่งระดับท๊อป Gazi แกนโคสติ้งสีทอง วงล้อแม็ก 14 นิ้ว หน้ากว้างรัดขอบด้วยยางหลัง Diablo ROSSO SCOOTER 150/70-14 สำหรับข้างหน้าใส่ยางไซส์ 120/70-14 ดูแน่นๆ แบบสปอร์ตออโตเมติก ระบบซับแรงด้านหลังดีไซน์ใหม่แบบโช้คอัพเดี่ยว เสริมด้วยโช้คของ Gazi ที่ปรับพรีโหลดได้

ในส่วนของเครื่องยนต์ขนาด 155 ซีซี พร้อมด้วยระบบ วาลว์แปรฝัน VVA ให้สมรรถนะที่เร้าใจ แต่ยังไม่พอจัดออพชั่นเพิ่มการรีดแรงม้าด้วยท่อไอเสียลอดท้องคอไทเทเนียมสวมด้วยปลายทรงสปอร์ต ลงตัวและดูสวยงาม เห็นแล้วสะดุดตา ดูเรียบๆ แต่มีระดับ

Review All New Yamaha XSR155 Sport Heritage

ทีมงานไรดิ้งได้ไปทดสอบ”All New Yamaha XSR155 Sport Heritage” ที่สนามแข่งและมาเล่าสู่กันฟังครับแสดงเพิ่มเติม

2020 Yamaha YZF-R1

มาแล้วจร้าสุดยอดรถซูเปอร์ไบค์ 2020 จาก Yamaha ที่ได้มีการปรับอัพเกรดให้โดดเด่นทั้งสมรรถนะและดีไซน์ โดยยังคงรูปแบบของรถสปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งแบบ Replica ซึ่งให้ความโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้นด้วยชุดแฟร์ริ่งที่ออกแบบใหม่โดยมีการถ่ายทอด DNA มาจากรถแข่ง MotoGP Yamaha YZR-M1 ซึ่งมาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 998 ซีซี 4 สูบเรียง Cross Plane ลิขสิทธิ์ความแรงเฉพาะตัว จุดระเบิดแบบไม่สม่ำเสมอที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเครื่องยนต์จาก Yamaha โดยมีอัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 13.0:1 นิวตัน เมตร ขนาดกระบอกสูบxช่วงชักอยู่ที่ 79.0×50.5 มม. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้พละกำลังสูงสุด 200 แรงม้า ที่ 13,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 113.3 นิวตันเมตรที่ 11,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด ระบบคลัทช์แบบเปียกซ้อนกันหลายชั้น ระบบไฟรอบคันแบบ LED หน้าจอแสดงผลแบบดิจิตอล TFT เต็มรูปแบบพร้อมกับเทคโนโลยีอัพเดทล่าสุด EBM&BC Display

โครงสร้างใหม่เป็นแบบ Diamond ยังคงเป็นแบบเดียวกับโมเดลเดิม ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Telescopic Upside-Down ใช้ของ KYB สามารถปรับระดับได้แบบ Full adjustable เช่นเดียวกับโช้คอัพหลังที่เลือกใช้ของแบรนด์ KYB แต่เป็นรุ่นใหม่กว่า และมีการติดตั้งส่วนของ Sub-Tank ใช้อากาศในการเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้นิ่มนวลมากขึ้น ส่วนระบบเบรกหน้า/หลังนั้นจะมาในรูปแบบของ Hydraulic Disc Brake โดยด้านหน้าจะมาในรูปแบบของจานดิสก์แบบคู่ขนาด 320 มม. ปั้มเบรกแบบ Radial Mount ส่วนด้านหลังจะมาในรูปแบบของจานดิสก์เดี่ยวขนาด 220 มม. วงล้อแม็กนีเซียมอัลลอยด์ขนาด 17 นิ้วสวมยางขนาด 120/70 ZR17 M/C (58W) และ 190/55 ZR17 M/C (75W) มิติตัวรถมีความยาว 2,025 มม. ความกว้าง 690 มม. ความสูงโดยรวม 1,165 มม. ความสูงเบาะนั่ง 855 มม. Wheelbase 1,405 มม. ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง 17 ลิตร น้ำหนักตัวรวมของเหลวเต็มถัง 201 กิโลกรัม ทางด้านของระบบอิเล็กทรอนิกส์ใน R1 ของปี 2020 ถูกพัฒนาด้วยเช่นกัน เพิ่มความสมูทด้วยระบบคันเร่งไฟฟ้าใหม่ Ride-By-Wire APSG ใหม่ให้การตอบสนองที่นุ่มนวลและเสถียรกว่าคันเร่งชุดเดิม ระบบ Brake Control ใหม่โดยเพิ่มรูปแบบการทำงานให้เลือกใช้ถึง 2 โหมด และมีการติดตั้งระบบ Cornering ABS เสริมความปลอดภัยในระดับสูงสุด และยังคงรูปแบบความแรงของเครื่อง CP4 ด้วย 3 Engine Brake System ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับได้ตามใจชอบ และยังอัพระบบ LCS (Launch Control System) ใหม่ให้ใช้งานได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม

และล่าสุดก็เปิดตัวในงาน BIG Motor Sale 2019 พร้อมกับเปิดราคาให้สายสปอร์ตได้น้ำลายไหล YZF-R1M ราคา 1,149,000 บาท และ YZF-R1 849,000 บาท

CRF250RALLY TRIP

เที่ยวแบบแอดเวเจอร์กับ CRF250RALLY ลุยป่าเมืองกาญจน์ เส้นทางขึ้นเขาปลาน้อย กับสภพาอากาศฝนตกพร่ำๆ ทั้งวัน ทางทางลูกรังดินอัดแน่น กลายเป็นทะเลโคลน อากาศเย็นสบาย ชุ่มฉ่ำกับเม็ดฝน สนุกกับเส้นทาง ได้ประสบการณ์ใหม่รถดีก็ไปได้ดี การออกแบบ CRF250Rally ที่ตอบโจทย์การขับขี่เดินทางไกล และในเส้นทางที่วิบาก ดิน โคลน หลุ่มบ่อ ทราย น้ำ ฯลฯ ความสูงของตัวรถทำให้การผ่านอุปสรรคนั้นทำได้ง่าย ไรดิ้งโพลสิชั่นการควบคุมง่าย การขับขี่ด้วยท่านั่งหรือยืน กระชับกับตัวรถ ระบบการทำงานของโช้คอัพหน้า และหลัง ของเดิมๆ สามารถรับแรงกระแทกช่วยการทรงตัวให้ผ่านอุปสรรคไปได้เป็นทริปที่สนุกถึงจะเหนื่อย จะเมื่อย แต่มันก็ได้อรรถรสของความมัน กับเส้นทาง และบรยยากาศอันสดชื่น เพราะฉะนั้น ออกมาเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ กับ CRF250Rally คู่ใจของคุณดูสักครั้ง

KR150 2 STOKE REBORN

เก๋าเรียกพี่ สปอร์ตในตำนาน การกลับมาของสายแว๊นซ์ 2 จังหวะ กับโมเดลยอดฮิตตลอดกาล KR150 รหัสนี้ 30 ปีที่แล้ว เกลื่อนถนน เจอได้ทุกหน้าไฟแดง!

ถึงแม้ว่าจะผ่านมาแล้ว 30 กว่าปี แต่เสน่ห์ของเครื่องยนต์ 2 จังหวะ ยังคงอยู่ในความทรงจำเสมอ และความนิยมของ KR150 คือตัวเลือกต้นๆ ของวัยรุ่น กับความแรงทะลุ 180 กม./ชม. ที่สามารถอัพเกรดด้วยการโมดิฟายเครื่องยนต์เพิ่มเติมได้อีกจะกี่โฉมจะกี่เวอร์ชั่นก็ได้รับความนิยม สำหรับค่ายนี้เกิดมาเพิ่มแรงโดยเฉพาะ สำหรับคันนี้เป็นเวอร์ชั่นที่เค้าเรียกว่า ท้ายโรโบคอป เป็นยุคแรกๆ โดดเด่นด้วยสีสันลายกราฟฟิค เบาะกระดานเรียบๆ ตามสไตล์สายแว๊นซ์ ปรับเพิ่มเติมด้วยออพชั่นอีกหลายจุด วงล้อซี่ลวด 1.40×17 หน้าหลัง ดุมล้อแปลงสำหรับใส่กับจานดิสก์แบบให้ตัว คาลิเปอร์ Brembo แบบเรเดียลเม้าท์ กระบอกโช้คโนวา แผงคอเสริมบูทอลูมินัม แฮนด์แบบจับโช้ค ประกับคันเร่งแบบทดรอบ ชุดปั๊มบน Brembo กระปุกลอย ก้านคลัทช์ขาพับเพิ่มความสปอร์ตกับท่านั่งด้วยชุดพักเท้าแบบเกียร์โยงอลูมนัม ช่วงหลังเปลี่ยนจากของเดิมแบบ UNITRACK เป็นสวิงอาร์มหลังอลูมินัม และโช้คอัพแบบโมโน เลือกใช้ตัวซับเพนชั่นหลังของ Gazi แกนใหญ่สปริงเหลืองที่สามารถปรับพรีโหลดได้ ระบบเบรกดรัมหลังกับดุมล้อชุดใหม่

สำหรับเครื่องยนต์ แน่นอนว่ารุ่นนี้ขี่เดิมๆไม่ได้ มันต้องเพิ่มเติมด้วยการโมดิฟาย สเปคภายในมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะแยะมากมาย เสื้อสูบ ฝาสูบ ท่อไอเสียปลายคาร์บอน และหม้อน้ำอลูมินัม เพิ่มอัตราเร่งและแรงม้า คาร์บูเรเตอร์ตัวนี้เป็นคาร์บูเหลี่ยม 28 มม. เซ็ทชุดนมหนูใหม่ ชุดไฟข้างโมฯ คลัทช์คงไม่ใช้ของเดิมๆ แน่นอน อัตราการทดรอบตั้งต้นยันปลายใช้สเตอร์เล็กตามสเปคของ 2 จังหวะ ถึงแม้ยุคนี้จะมีแต่ 4 จังหวะ แต่เสน่ห์ของ 2 จังหวะ ยังคงอยู่ในความทรงจำหลายๆ คน ทำให้กลับมาชุบชีวิตอีกครั้ง และไม่ได้มีแค่รุ่นนี้รุ่นเดียวที่ได้รับความนิยม ยังมีอีกหลายรุ่น

2019 Suzuki Burgman 400 ABS

มีเซอร์ไพรส์ได้เห็นตัวเป็นๆ ไปแล้วในงาน Bangkok Motor Show 2019 รถจักรยานยนต์จากค่าย Suzuki เผยโฉมบิ๊กสกู๊ตเตอร์ Suzuki Burgman400 เครื่องยนต์ที่มีความต่างจากค่ายอื่นที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด

รายละเอียดของบิ๊กสกู๊ตเตอร์ในตระกูล Burgman มาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 399 ซีซี 1 ลูกสูบ 4 จังหวะ แบบ DOHC ซึ่งเทคโนโลยีเครื่องยนต์มีการปรับใหม่ให้สามารถตอบสนองในย่านความเร็วเครื่องยนต์รอบต่ำได้ดีมากขึ้น จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด Suzuki Fuel Injection ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ ขับเคลื่อนด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ CVT ส่งกำลังสุดท้ายด้วยระบบสายพาน V-Belt Drive ที่มีความนุ่มนวล แฮนด์เป็นแบบ T-Handle ง่ายต่อการควบคุม ระดับไม่สูงมากจนเกินไป ฟีคเจอร์ ทันสมัย หน้าจอแสดงผลอะนาล็อก 2 จอ และหน้าจอ LCD แสดงผลเป็นดิจิตอล เน้นความสะดวกสบายใต้เบาะนั่งมีช่องเก็บสัมภาระตามสไตล์ของรถสกู๊ตเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ถึง 42 ลิตร และมีช่องเก็บของใต้แผงควบคุมทั้งฝั่งซ้ายและขวา ขนาด 2.8 ลิตร ระบบไฟส่องสว่างรอบคันเป็นแบบ LED
โครงสร้างตัวรถของ Suzuki Burgman 400 นั้นจะมาในรูปแบบของ High-Tensile Steel-Tube ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Telescopic สปริง+น้ำมัน ชุดกันสะเทือนหลังแบบ Mono Shock สปริง+น้ำมัน พร้อมระบบ Link Type ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มหลังอลูมินัม ระบบเบรกด้านหน้าแบบดิสก์คู่ ขนาด 260 มม. เบรกหลังดิสก์เดี่ยวขนาด 210 มม. พร้อมระบบเบรก ABS แบบ Sual Channel วงล้อแม็ก หน้าขนาด 15 นิ้วและ หลัง 13 นิ้ว พร้อมกับยางแบบ Tubeless ขนาด 120/70-15 m/c และ 150/70-13 m/c ถังน้ำมันมีขนาด 13.5 ลิตร ความสูงเบาะนั่ง 755 มม. น้ำหนักตัวรถพร้อมน้ำมันเต็มถังอยู่ที่ 220 กิโลกรัม ถือว่ามีน้ำหนักเอาเรื่อง

เป็นบิ๊กสกู๊ตเตอร์ที่ได้รับกระแสการตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยสมรรถนะที่ดดดเด่น ราคาที่จับต้องได้ และฟิคเจอร์สำสหรับอำนวยความสะดวกมากมาย

2020 Yamaha PW50 & TT-R50E

สำหรับก้าวแรกของนักบิดยุวชนที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ Yamaha ได้ส่งตัวเลือกแรกของบรรดาผู้ชื่นชอบทางวิบากที่ทั่วโลกคุ้นเคยกันดีกับ PW50 ที่ว่ากันว่านี่คือ “ตัวเลือกแรก” สำหรับ ประสบการณ์ครั้งแรกของหนูน้อยนักบิด

ซึ่งโมเดลล่าสุดนี้ มีองค์ประกอบเพิ่มเติมที่น่าสนใจอย่างเช่น คันเร่งแบบปรับตั้งค่าได้ และระบบเกียร์อัตโนมัติ แบบ fully automatic transmission ที่มีการส่งกำลังเพียงเกียร์เดียว ดังนั้นในการขับขี่จึงทำได้ง่ายๆ ด้วยการปิดเปิดคันเร่งเท่านั้น โดยไม่ต้องกังวลกับการเปลี่ยนเกียร์และต้องใช้คลัทช์ให้ยุ่งยาก ภายใต้นิยามที่ว่า twist the throttle and Go นั่นเอง ด้วยเครื่องยนต์แบบสองจังหวะในพิกัด 50 ซีซี ที่ออกแบบมาให้มีความเป็นมิตรกับผู้ขับขี่ ด้วยพื้นฐานโมเดลล่าสุดจะมีเครื่องยนต์สองจังหวะสูบเดียว ปริมาตรความจุ 49 ซีซี reed valve ระบายความร้อนด้วยอากาศจ่ายเชื้อเพลิงด้วยคาร์บูเรเตอร์ Mikuni VM12SC ที่ส่งกำลังได้นุ่มนวลและให้ย่านกำลังที่กว้าง กับน้ำหนักตัวรถที่มีเพียง 39 กก.จึงเพียงพอสำหรับนักแข่งหรือผู้ขี่ที่จะเริ่มต้นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่าในส่วนของระบบการส่งกำลังนั้น PW50 ยังคงรูปแบบเดิมด้วยการใช้การส่งกำลังด้วยเพลาหรือ shaft drive system ที่ไม่ต้องมีการเซอร์วิสหรือปรับแต่งใดๆแบบระบบส่งกำลังด้วยโซ่ ความสูงของรถจากพื้นถึงเบาะนั่งนั้นมีระยะเพียง 485 มม.ที่คำนวณให้เหมาะสมกับสรีระของนักขี่ในระดับยุวชน ซึ่งโครงสร้างแชสซีส์นั้นเริ่มต้นด้วยการออกแบบเฟรม เป็น rugged steel backbone-type frame พร้อมด้วยเลือกฟอร์คหน้าแบบ telescopic front fork ขนาด 22 มม. ที่มีช่วงยุบตัว 60 มม. เพียงพอสำหรับการขับขี่บนทางวิบาก ส่วนกันสะเทือนหลังนั้นเป็น dual rear shock suspension ที่มีระยะยุบตัวที่ 50 มม. โดยระบบเบรกนั้นเป็นแบบดรัมเบรกทั้งหน้าและหลัง

ระดับอนุบาล 1 แล้ว ทาง Yamaha ยังได้เตรียมบทเรียนที่สองในระดับ อนุบาล 2 หรือ ประถมต้น ด้วยตัวเลือกอย่าง TT-R50 ไว้เป็นสเตปถัดไป ซึ่งเจ้าโมเดลล่าสุดของ Yamaha TT-R50 นี้ จะเป็นรถแบบ tree-speed automatic-clutch gearbox หรือสามเกียร์อัตโนมัติที่ไม่ต้องใช้คลัทช์ โดยมาพร้อมกับพื้นฐานเครื่องยนต์แบบสี่จังหวะ 2 วาล์ว SOHC ปริมาตรเครื่องยนต์ 50 ซีซี ระบายความร้อนด้วยอากาศที่มีการจ่ายเชื้อเพลิงด้วยคาร์บูเรเตอร์ Mikuni VM11 พร้อมกับระบบสตาร์ทไฟฟ้า เพิ่มเติมในส่วนของวาล์วนั้นได้ระบุว่า จะมีระยะในการปรับเซ็ทภายในเป็นระยะเวลาใช้งานนานถึง 150 ชม. ขณะที่ในส่วนโครงสร้างแชสซีส์นั้นใช้เฟรมขนาดเล็กแบบ steel backbone-type frame อีกทั้งยังมีสวิงอาร์มหลังแบบ triangulated steel tube swingarm ที่นอกจากรองรับนักขี่ในระดับยุวชนแล้วก็ยังแข็งแกร่งพอที่ผู้ใหญ่จะขี่เล่นได้เช่นกัน ขณะที่ระบบกันสะเทือนหน้านั้นติดตั้งฟอร์คหน้าเป็น showa front fork ขนาด 22 มม. ที่มีระยะยุบตัวที่ 96 มม.ส่วนระบบกันสะเทือนหลังนั้นเป็น monocross single-shock rear suspension ที่มีระยะยุบตัว 71 มม. จากโครงสร้างของแชสซีส์ที่ออกแบบมานี้มีส่วนให้ความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 556 มม. โดยที่ระบบเบรกหน้าและหลังนั้นก็ใช้ระบบดรัมเบรกทั้งหน้าและหลังเช่นกัน

สเปคของ2020Yamaha PW50
Engine: 2-stroke, air-cooled, reed-valve, single
Displacement: 49cc
Bore and Stroke: 40 x 39.2mm
Compression Ratio: 6.0:1
Maximum Torque: 0.36kg-m (2.6 ft-lb)@ 4,500 rpm
Fuel Delivery: Mikuni VM12SC
Ignition / Starting: CDI / Kick
Transmission: Single-speed automatic (no clutch)
Final Drive: Shaft
Suspension (Front): 26 mm fork / 60mm (2.4″) wheel travel
Suspension (Rear): Unit swingarm / 50 mm (2″) wheel travel
Brakes (Front): Drum
Brakes (Rear): Drum
Tires (Front): 2.50-10 4PR
Tires (Rear): 2.50-10 4PR
Length: 1,245 mm (49″)
Width: 610 mm (24″)
Height: 705 mm (27.8″)
Wheelbase: 855 mm (33.7″)
Ground Clearance: 95 mm (3.7″)
Seat Height: 475 mm (18.7″)
Fuel Capacity: 2 litres (0.4 imp. gallons)
Wet Weight: 41 kg (90 lb)

สเปคของ2020 Yamaha TT-R50E
Engine: 4-stroke, air-cooled, SOHC, 2-valve, single
Displacement: 50cc
Bore and Stroke: 36 x 48.6 mm
Compression Ratio: 9.5:1
Maximum Torque: 0.32 kg-m (2.3 ft-lb) @ 5,500 rpm
Fuel Delivery: Mikuni VM11
Ignition / Starting: CDI / Electric
Transmission: Constant mesh, 3-speed, semi automatic
Final Drive: Chain
Suspension (Front): 26 mm conventional fork / 96mm (3.8″) wheel travel
Suspension (Rear): Monocross, single shock / 71mm (2.8″) wheel travel
Brakes (Front): Drum
Brakes (Rear): Drum
Tires (Front): 2.50-10 4PR
Tires (Rear): 2.50-10 4PR
Length: 1,305mm (51.4″)
Width: 595mm (23.4″)
Height: 795mm (31.3″)
Wheelbase: 925mm (36.4″)
Ground Clearance: 135mm (5.3″)
Seat Height: 555mm (21.9″)
Fuel Capacity: 3.1 litres (0.7 imp. gal.)
Wet Weight: 58 kg (128 lb)

K-Light 202 Custom Bike American Springer

งานศิลปะการสร้างสรรค์เพื่อความสวยงามบนเรือนร่างของรถจักรยานยนต์ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ละไอเดียมีความแตกต่างกันไป เรียกได้ว่ามันคือ มาสเตอร์ พีซ

K-Light รถจักรยานยนต์สไตล์สปอร์ตครุยเซอร์ ของค่าย KEEWAY จะว่าไปแล้วรูปลักษณ์เดิมๆ ก็ดูเท่อยู่แล้ว แต่เมื่อมันถูกคัสตอมใหม่ออกมาไฉไลกว่าเดิมในสไตล์ของ ช๊อปเปอร์ อเมริกัน สปริงเกอร์ ที่ออกแบบมาได้สวยลงตัว ตัดเสริมเติมแต่งจนจำไม่ได้ว่านี่คือ ครุยเซอร์ ของค่าย KEEWAY ไม่ต้องไปนึกภาพเดิมๆ เห็นแล้วก็ต้องตะลึงนี่คืองานคัสตอมของคนไทย การปรับเปลี่ยนเพิ่มเติม ด้วยชุดโช้คอัพหน้าที่เปลี่ยนใหม่ทั้งหมดแบบ สปริงเกอร์ หน้ายาวยกสูง ไฟหน้าทรงกลมสีอำพัน แฮนด์เดิ้ลบาร์ปีกนกต่ำ กระจกมองหลังกลับลงล่าง ถังน้ำมันหลังอูฐ พร้อมด้วยลวดลายกราฟฟิคแบบแอร์บรัช และแฮนด์เมด เบาะหนังเดี่ยวมีสปริงและไฟเลี้ยวดีไซน์ใหม่อยู่ใต้เบาะ เรือนไมล์ที่แบบดิจิตอลถูกจับมาวางด้านข้างเฟรม พักเท้าแบบฟอร์เวิร์ด

วงล้อกล่องยกขอบแบบซี่ลวดหน้ากว้างสีดำรัดขอบด้วยยางสตรีทขอบขาวเพิ่มความคลาสสิค ขนาด 17 นิ้ว หน้า/หลัง บังโคลนไม่มีเวลาขี่ถนนแห้งก็สบาย แต่พอเจอสายฝนถนนเปียกไม่อยากจะบรรยาย โช้คอัพหลังเดี่ยว สวิงอาร์มเหล็กและที่ยึดแผ่นผ่านทะเบียนท้าย ดิสก์เบรกหน้า/หลัง และเครื่องยนต์แบบสูบเดี่ยว 200 ซีซี ให้อารมณ์จัดจ้าน รีดแรงม้า และได้เสียงคำรามที่เร้าใจด้วยท่อไอเสียตีออกด้านข้าง คาร์บุเรเตอร์เปลือยกรองเพิ่มการดูอากาศช่วยเพิ่มการเผาไหม้ในรอบปลาย ครอบแคร้งด้านซ้ายให้มีความดุดันมากขึ้น

ถือว่าเป็นงานชิ้นเอกในการคัสตอมทั้งคันกับสไตล์ อเมริกัน สปริงเกอร์ ที่ได้ทั้งความสวย และความเท่ อย่างลงตัว

Indian FTR1200 Hooligan racers

ตัวแข่งจากค่ายรถอเมริกันอย่าง Indian ได้เปิดตัวมาจัดแสดงอย่างเป็นทางการในงาน Bike Shed Show ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นรถแข่งในสไตล์ Flat Track ที่จะใช้แข่งขันใน S&S Cycle European Hooligan Championship ที่จะเริ่มต้นขึ้นในงานจัดแสดงรถแต่งชื่อดังของฝรั่งเศสอย่าง Wheels&Waves โดยรถแข่ง FTR1200 นี้จะใช้ลงแข่งขันในอีเว้นท์ดังกล่าวโดย Lee Kirkpatric กับ Leah Tokelove

“จากรถสแตนดาร์ดของ FTR1200 นั้นมันมีความเป็น roadbike ที่มีกำลังเครื่อง ยนต์และการควบคุมขณะขับขี่ที่กำลังเหมาะสมในการตอบสนองการใช้งานทั่วไป” Grant Bester ประธานกลุ่มของ Indian Motorcycle EMEA ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับการแข่งขันในแบบ Dirt Ovals หรือ flattrack จึงต้องมีการปรับเสริมอะไรบางส่วน โดยทาง S&S Cycles ได้จัดการปรับแต่งให้มีความเป็นรถแข่งเพิ่มขึ้น ด้วยชุดแต่งบางส่วน ที่เป็น Hooligan race package ที่จะช่วยให้รถสามารถตอบสนองความต้องการในการแข่งขันได้เป็นอย่างดี”
ขณะที่ Lee Kirkpatrick ได้กล่าวว่า “เมื่อทาง Indian ถามว่าสนใจที่จะลงขี่ FTR1200 Hooligan ในยุโรปไหม ซึ่งตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นรถก็ไม่ต้องเดาว่าจะตอบเช่นไร ที่สำคัญรถแข่งคันนี้ได้รับการตกแต่งโดย ผู้เชี่ยวชาญอย่าง S&S Cycle ด้วยแล้ว มันคงจะเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมอย่างมากที่ได้มีส่วนกับการแข่งขัน” เช่นเดียวกับ Leah Tokelove ที่กล่าวว่า “จากรถสแตนดาร์ดที่มีความสวยงามในแบบของ Indian มันมีสเน่ห์น่าหลงใหลยิ่งขึ้นเมื่อได้รับการปรับแต่งเพิ่มเติมให้กลายเป็นรถแข่งในแบบของ Hooligan ความรู้สึกเหมือนกับว่ามันได้รับการอัพเกรด ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น หลายชิ้นส่วนที่ถูกนำมาใช้ปรับแต่งล้วนเป็นชิ้นงานที่มีคุณภาพชั้นยอด ภาพรวมของรถดูราวกับเป็นงานฝีมือชั้นยอดที่สามารถทำให้ FTR1200 สแตนดาร์ดกลายมาเป็นรถแข่งที่น่าสนใจยิ่งขึ้น”

สำหรับ S&S Cycles นั้นมีส่วนกับการ

ผลิตชิ้นส่วน และการพัฒนารถแข่งในสหรัฐอเมริกาให้กับรถแข่งอย่าง FTR750 เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อมีการเปิดตัว FTR12000 ออกมาสู่ตลาด จึงได้รับเลือกจาก Indian ในการทำหน้าที่อัพเกรดให้กับ FTR1200 ให้กลายมาเป็นโปรเจ็ครถแข่ง Hooligan ด้วยความเป็นรถในสไตล์ Flattrack ดังนั้น เบรกหน้าจึงถูกถอดออกแล้วปรับช่วงหน้าด้วยการติดเพลทหน้าหรือป้ายเบอร์ พร้อมกับถอดอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในสนามแข่งออกไป พร้อมทั้งเปลี่ยนชุดท่อไอเสียเป็นแบบ 2 in to 2 หรือท่อแบบ 2 ออก 2 ของ S&S อีกทั้งยังมีการปรับมิติของตัวรถเพื่อปรับท่าทางการขับขี่ให้เหมาะสมกับการแข่งขัน รวมถึงเซ็ทอัพระบบกันสะเทือน อีกทั้งทดแทนอุปกรณ์บางอย่างด้วยชุดแต่งพิเศษโดยเฉพาะ special race parts ที่ออกแบบโดย S&S ซึ่งสามารถลดน้ำหนักได้ไม่ต่ำกว่า 25 กก. อาทิเปลี่ยนชุดแผงคอมาเป็น S&S Triple clamps ในขณะที่ถ้วยคอยังคงเป็นของเดิมแต่การเปลี่ยนชุดแผงคอแต่งนี้ช่วยให้ได้องศาของช่วงหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมสององศา และยังลดระยะวีลเบสจากเดิม 157 ซม. เหลือ 148 ซม. นอกจากนั้นในส่วนของระบบกันสะเทือนหน้าได้ใช้ชุดกันสะเทือนพิเศษชนิด race ready suspension แบบ fully adjustable inverted cartridge frontforks เช่นเดียวกัน ชุดกันสะเทือนหลังที่ใช่ของ FOX ที่ออกแบบมาเฉพาะ FTR 1200 race monoshock ซึ่งจะทำงานร่วมกับสวิงอาร์มหลังแต่ง Shorter S&S swingarm ที่สั้นกว่าของสแตนดาร์ด 25 มม. สำหรับวงล้อรถแข่งนั้นใช้ล้อแต่ง จาก Roland Sands Design ขนาด 19 นิ้ว ที่ติดตั้งมากับยาง Dunlop DT3 flattrack race tyre โดยใช้โซ่ขนาด 520 race chain ทำงานร่วมกับสเตอร์หน้าเดิม กับสเตอร์หลังแต่ง แบบ custom Vortex rear sprocket นอกจากนั้นก็มีดีเทลอีกเล็กน้อยในการปรับแต่งจาก FTR1200 สแตนดาร์ด มาเป็น FTR1200 Hooligan ที่จะประเดิมลงสนามในช่วงระหว่างงาน Wheels and Waves ที่จะจัดขึ้นในฝรั่งเศส

ไหนๆก็พูดถึงงาน Wheels&Waves ของฝรั่งเศสที่ FTR1200 Hooligan จะไปร่วมกิจกรรมแล้ว ทางกอง บก.ไรดิ้งเรายังได้รับไฟล์ภาพที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมนี้ เป็นรถแต่งจำนวนหนึ่ง และหนึ่งในนั้นที่น่าสนใจก็ คือ Africa Four CRF1000R ที่เป็นรถแต่งของ Honda Europe ในวาระครบรอบ 50 ปี ของรถเครื่องยนต์สี่สูบแถวเรียงจากตระกูล CB ดังนั้นจึงได้มอบหมายให้สำนักแต่งชั้นนำของยุโรปนำ CB1000R ไปตกแต่งในรูปแบบต่างๆเพื่อนำมาร่วมแสดงใน Wheels&Waves และ Africa Four CRF1000R ก็คือหนึ่งในผลงานนั้น ซึ่งไม่มีรายละเอียดใดๆนอกจากบอกว่า เป็นพื้นฐานของ CB1000R ที่ได้ยกชุดกันสะเทือนหน้ามาจาก CRF450R พร้อมทั้งเปลี่ยนวงล้อเป็น Gold Wheels พร้อมทั้งทำโทนสีใหม่ตามแบบฉบับของ HRC นั่นเอง

2019 MXGP Round 8-10

พบกันอีกครั้ง กับการรายงานการแข่งขันโมโตครอสชิงแชมป์โลก สำหรับสามสนามนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นดินแดง ก็ดินภูเขาละครับ เป็นสนามที่ใช้ความเร็วเต็มที่ เอารถไม่อยู่ก็มีสิทธิ์ล้มง่ายๆ ในรุ่น MXGP หลังจากที่สองหัวหอกค่ายเคทีเอ็ม อันโตนิโอ คายโรลี กับเจฟฟรี่ย์ เฮอลิงส์ ไม่ได้ลงแข่งเพราะบาดเจ็บ โรเมน เฟเบรอ เริ่มมีผลงาน แต่คะแนนสะสม ไกเซอร์ยังนำอยู่ ขณะที่เฟเบรออยู่ที่ 10 โน่น….กับ 5 สนาม ที่เหลืออยู่ จะลุ้นขึ้นมั๊ย….

ปล่อยสตาร์ทสนาม 13 ในรุ่น MX2
แมกซ์ แอนส์ตี้
จอร์จ พราโด#61 กำลังไล่แซง ทอม เวียลี#28
กองเชียร์ข้างสนาม

สนาม 11 (7 ก.ค.62) MXGP of Indonesia
MX2
โมโตหนึ่ง จอร์จ พราโด (เคทีเอ็ม) ได้โฮลชอตตามด้วย ทอม เวียลี (เคทีเอ็ม) แม็กซิม เรโน (ยามาฮ่า) และคาลวิน วานเดอเรน (ฮอนด้า) ไม่นาน จาโก กีร์ (ยามาฮ่า) ก็ไล่ขึ้นมาอยู่ที่ 5 ก่อนลื่นล้มในรอบที่ 8 เจด บีทตัน (ฮัสวาน่า) กับ โธมัส เกียร์ โอลเซน (ฮัสวาน่า) เลื่อนขึ้นที่ 5-6 เมื่อเกมผ่านไปได้ครึ่งทาง พราโดพลาดล้มในโค้ง เวียลีขึ้นนำทันที แต่พราโดก็ไล่ทวงคืนจนได้ในรอบที่ 16 พร้อมยึดไว้ได้จนจบเกม เวียลีเข้าที่ 2 แม็กซิมที่ 3 วานเดอ เรนที่ 4 และบีทตันที่ 5
โมโตสอง เวียลีได้โฮลชอตเขาโดนพราโดแซงได้ แต่พราโดเข้าโค้งไลน์นอก เวียลีเลยขึ้นนำได้อีก ตามด้วย กีร์, พราโด, โอลเซน และบีทตัน ขึ้นรอบที่ 2 กีร์แซงขึ้นนำ ขณะที่โอลเซนแซงพราโดได้ จากนั้นก็ แซงกีร์ขึ้นที่ 2 ทันที พราโดยังเลือกไลน์ขี่ถูกใจไม่ได้ เลยโดนบีทตันแซงขึ้นที่ 4 ได้ในรอบที่ 4 พราโดเริ่มขี่เข้าที่ เราเร่งสปีดขึ้นไปหาบีทตันก่อนแซงขึ้นที่ 4 ได้ในรอบที่ 9 เกมมาถึงจุดเปลี่ยนเมื่อจ่าฝูงกีร์ลื่นล้มตรงระนาด โอลเซนขึ้นนำแทนในรอบที่ 15 ผ่านไปอีกสองรอบ พราโดแซงเวียลีขึ้นที่ 2 แต่ไล่ตามจ่าฝูงไม่ทัน เกมจบที่โอลเซนชนะ พราโดที่ 2 เวียลีที่ 3 กีร์ที่ 4 และบีทตันที่ 5
ผลโอเวอร์ออล

  1. จอร์จ พราโด (1-2)
  2. ทอม เวียลี (2-3)
  3. โธมัส เกียร์ โอลเซน (6-1)
  4. แม็กซิม เรโน (3-7)
  5. เจด บีทตัน (5-5)

MXGP
โมโตหนึ่ง ทิม ไกเซอร์ (ฮอนด้า) ได้โฮลชอตก่อนโดน เจเรมี่ ซีเวอร์ (ยามาฮ่า) แซง แต่ไกเซอร์ก็แซงคืนมาได้ใน 2-3 โค้งต่อมา พร้อมขี่นำแบบม้วนเดียวจบ ขี่ตามเจเรมี่มาก็มี เกลน โคเดนฮอฟ (เคทีเอ็ม) แมกซ์ แอนส์ตี้ (เคทีเอ็ม) โรเมน เฟเบรอ (ยามาฮ่า) และอาร์โนลด์ โทนัส (ยามาฮ่า) แอนส์ตี้ไล่กดดันโคเดนฮอฟ มาแซงขึ้นที่ 3 ได้ในรอบที่ 6 จากนั้นก็เร่งสปีดขึ้นไปหาซีเวอร์ กดดันไม่นานก็ชิงที่ 2 มาได้ในรอบที่ 10 เกมดูเหมือนจะไม่ใครทำอะไรกันได้ เพราะเป็นสนามที่ใช้ความเร็ว ถ้าคันข้างหน้าไม่ขี่เสียจังหวะซะเอง และในช่วงท้ายเกม เฟเบรอได้โอกาสแซงโคเดนฮอฟขึ้นที่ 4 โดยเกมจบที่ไกเซอร์ชนะ แอนส์ตี้ที่ 2 ซีเวอร์ที่ 3 เฟเบรอที่ 4 และโคเดนฮอฟที่ 5
โมโตสอง ไกเซอร์ได้โฮลชอตอีกครั้ง คราวนี้เขาขี่นำได้ 3 รอบก็ลื่นหลุดขอบสนาม เฟเบรอที่ตามติด แซงขึ้นนำทันที ตามด้วยซีเวอร์ ส่วนไกเซอร์หล่นมาที่ 3 เขาไล่ตามซีเวอร์แค่รอบเดียวก็แซงขึ้นที่ 2 ได้ ขึ้นรอบที่ 8 โคเดนฮอฟแซง กาเทียร์ ปูแลง (ยามาฮ่า) ขึ้นที่ 4 จากนั้นไม่นานก็ขึ้นมาทันซีเวอร์ มาแซงขึ้นที่ 3 ได้ในรอบที่ 16 โดยเกมจบที่เฟเบรอชนะ ไกเซอร์ที่ 2 โคเดนฮอฟที่ 3 ซีเวอร์ที่ 4 และปูแลงที่ 5

ผลโอเวอร์ออล

  1. ทิม ไกเซอร์ (1-2)
  2. โรเมน เฟเบรอ (4-1)
  3. เจเรมี่ ซีเวอร์ (3-4)
  4. แมกซ์ แอนส์ตี้ (2-6)
  5. เกลน โคเดนฮอฟ (5-3)
เจเรมี่ แวนโฮบีค

สนาม 12 (14 ก.ค.62) MXGP of Asia
MX2
โมโตหนึ่ง โอลเซนได้โฮลชอตโดยมีพราโดเกาะแจก่อนแซงขึ้นไปนำแทนในรอบที่ 2 และในรอบต่อมา โอลเซนก็มาโดนเวียลีแซงขึ้นที่ 2 ไปได้อีก เกมไม่มีอะไรมาก เพราะเป็นสนามที่ใช้ความเร็วสุดๆ เอารถไม่อยู่ ก็มีสิทธิ์ล้มกลิ้ง และเกมจบที่พราโดชนะ เวียลีที่ 2 โอลเซนที่ 3 บีทตันที่ 4 และที่ 5 เป็นของวานเดอเรนที่สตาร์ทไม่ติดท๊อปเทน ก่อนไล่ขึ้นมาอยู่ที่ 5 ได้ในรอบที่ 10
โมโตสอง จาโคบิได้โฮลชอต แต่ขึ้นนำได้ไม่ถึงรอบก็โดน พราโดกับเวียลีแซงขึ้นนำ แต่จาโคบิก็แซงเวียลีคืนมาได้ในรอบที่ 2 เวียลียังคงตื้อจะเอาที่ 2 จากจาโคบิ มาแซงได้อีกครั้งในรอบที่ 5 จาโคบิตั้งท่าจะแซงคืน ก็มาโดนวานเดอเรนขึ้นมาท้าทายก่อนแซงขึ้นที่ 3 ได้ในรอบที่ 6 จาโคบิลงมาอยู่ที่ 4 สักพักก็ได้เรโนขึ้นมาไล่กดดันก่อนชิงที่ 4 ไปได้ในรอบที่ 9 จาโคบิมาเสียอันดับ 5 ให้ เบรนท์ แวนโดนิค (ฮอนด้า) อีกคันในรอบที่ 10 ขึ้นรอบที่ 12 วานเดอเรนแซงเวียลีขึ้นที่ 2 ในรอบเดียวกัน เรโนแซงเวียลีขึ้นที่ 3 จากนั้นในรอบต่อมาก็แซงวานเดอเรนขึ้นที่ 2 และเกมจบที่พราโดชนะ เรโนที่ 2 วานเดอเรนที่ 3 เวียลีที่ 4 และแวนโดนิคที่ 5

ผลโอเวอร์ออล

  1. จอร์จ พราโด (1-1)
  2. ทอม เวียลี (2-4)
  3. คาลวิน วานเดอเรน (5-3)
  4. แม็กซิม เรโน (8-2)
  5. เฮนรี่ จาโคบิ (7-7)
อดัม สเทอร์รี่#811 กับ เฮนรี่ จาโคบิ#29
อาร์โนลด์ โทนัส
จาโก กีร์
กาเทียร์ ปูแลง#21 กับอมีนาส จาซิโคนิส#27

MXGP
โมโตหนึ่ง ไกเซอร์ได้โฮลชอตพร้อมขี่นำแบบม้วนเดียวจบ ตามด้วย พอลส์ โจนาส (ฮัสวาน่า) ซีเวอร์ และเฟเบรอที่ขี่ไปได้แค่ 2 รอบก็พลาดล้ม อมีนาส จาซิโคนิส (ฮัสวาน่า) โทนัส และโคเดนฮอฟ เลื่อนอันดับขึ้นมา และเมื่อเกมผ่านไปได้ครึ่งทาง โจนาสขี่อยู่ที่ 2 เอารถไม่อยู่ ล้มซิครับ อันดับต่างๆ เลื่อนขึ้นอีกครั้ง อาโนลด์เห็นโอกาสเปิด แซงจาซิโคนิสขึ้นที่ 3 จากนั้นก็ขึ้นไปกดดันซีเวอร์ก่อนแซงขึ้นที่ 2 และในช่วงท้ายเกม โคเดนฮอฟแซงจาซิโคนิสขึ้นที่ 4 ได้ในช่วง 3 รอบสุดท้าย โดยเกมจบที่ไกเซอร์ชนะ โทนัสที่ 2 ซีเวอร์ที่ 3 โคเดนฮอฟที่ 4 และจาซิโคนิสที่ 5
โมโตสอง ซีเวอร์ได้โฮลชอต ไปได้ไม่กี่โค้งก็โดนไกเซอร์แซงขึ้นนำ ขี่ตามซีเวอร์มาก็มี โทนัส, โจนาส และปูแลง โจนาสล้างอาย เขาเร่งสปีดขึ้นมาไล่กดดันโทนัส ก่อนเสียบในแซงขึ้นที่ 3 และเมื่อเกมผ่านไปได้ครึ่งทาง ปูแลงพลาดล้ม เฟ เบรอเข้าแทนที่ตำแหน่งที่ 5 มาที่โจนาสอีกครั้ง ความเร็วไม่มีตก ไม่นานก็ขึ้นไปทันซีเวอร์ มาแซงขึ้นที่ 2 ได้ในรอบที่ 12 โทนัสฉวยโอกาสขึ้นมาไล่กดดันซีเวอร์ต่อ มาแซงขึ้นที่ 3 ได้ในช่วง 4 รอบสุดท้าย โดยเกมจบที่ไกเซอร์ชนะ โจนาสที่ 2 โทนัสที่ 3 ซีเวอร์ที่ 4 และเฟเบรอที่ 5
ผลโอเวอร์ออล

  1. ทิม ไกเซอร์ (1-1)
  2. อาร์โนลด์ โทนัส (2-3)
  3. เจเรมี่ ซีเวอร์ (3-4)
  4. เกลน โคเดนฮอฟ (7-4)
  5. แมกซ์ แอนส์ตี้ (7-6)

สนาม 13 (28 ก.ค.62) MXGP of Czech Republic
MX2
โมโตหนึ่ง โฮลชอตเป็นของพราโด เขาขี่นำแบบสบายๆ ม้วนเดียวจบ ตามเขามาก็มี เวียลี, วานเดอเรน, จาโคบิ, อิเกอร์ ลาร์แรนเนก้า โอลาโน (เคทีเอ็ม) และโอลเซน
โอลเซนไล่ตามโอลาโนอยู่ 4 รอบ ก็แซงขึ้นที่ 5 ถึงจะอยู่ไม่ห่างกันนัก แต่โอกาสแซงกัน..ยาก และเมื่อเกมผ่านไปได้ครึ่งทาง วานเดอเรนไล่ล่าเวียลีหวังชิงที่ 2 จนเกี่ยวกันล้มทั้งคู่ อันดับต่างๆ เลื่อนขึ้นอัตโนมัติ โดยเกมจบที่พราโดชนะ จาโคบิที่ 2 โอลเซนที่ 3 บีทตันที่ 4 และกีร์ที่ 5
โมโตสอง อีกครั้งที่พราโดได้โฮลชอต พร้อมขี่นำแบบม้วนเดียวจบ ตามด้วย เวียลี, จาโคบิ, วานเดอเรน, อดัม สเทอร์รี่ (คาวาซากิ) และโอลเซนจาโคบิไล่กดดันจะเอาที่ 2 จากเวียลี มาแซงได้ในรอบที่ 7 รอบต่อมา วานเดอเรนกับสเทอร์รี่พากันแซงเวียลีขึ้นที่ 3-4 และในรอบที่ 9 เวียลีโดนโอลเซนชิงที่ 5 ไปได้อีก ขึ้นรอบที่ 10 วานเดอเรนขี่อยู่ที่ 3 ลื่นล้ม สเทอร์รี่เลื่อนขึ้นที่ 3 ตามด้วย โอล เซนกับเวียลี ไม่กี่รอบต่อมา วานเดอเรนก็ไล่ขึ้นมาแซงเวียลีขึ้นที่ 5 โดยเกมจบที่พราโดชนะ สเทอร์รี่ที่ 2 จาโคบิที่ 3 โอลเซนที่ 4 และวานเดอเรนที่ 5

ผลโอเวอร์ออล

  1. จอร์จ พราโด (1-1)
  2. เฮนรี่ จาโคบิ (2-3)
  3. โธมัส เกียร์ โอลเซน (3-4)
  4. อดัม สเทอร์รี่ (6-2)
  5. จาโก กีร์ (5-6)
    คะแนนสะสม
  6. จอร์จ พราโด 594 คะแนน
  7. โธมัส เกียร์โอลเซน 504 คะแนน
  8. จาโก กีร์ 391 คะแนน
  9. ทอม เวียลี 380 คะแนน
  10. เฮนรี่ จาโคบิ 377 คะแนน
ทิม ไกเซอร์
โรเมน เฟเบรอ
เกลน โคเดนฮอฟ
เจด บีทตัน
โพเดี้ยมสนาม 13 รุ่น MX2 จากซ้าย: เฮนรี่ จาโคบิ, จอร์จ พราโด และโธมัส เกียร์ โอลเซน

MXGP
โมโตหนึ่ง ซีเวอร์ ได้โฮลชอต เขาโดนเฟเบรอไล่กดดันก่อนแซงขึ้นนำในรอบที่ 2

ซีเวอร์ลงมาอยู่ที่ 2 ตามด้วย ไกเซอร์, ปูแลง ไบรอัน โบเกอร์ (ฮอนด้า) และจาซิโคนิส
จาซิโคนิสไล่ตามโบเกอร์อยู่ 2 รอบก็แซงขึ้นที่ 5 ขณะที่ไกเซอร์ขี่ตามซีเวอร์อยู่ไม่ห่าง มาแซงขึ้นที่ 2 ได้ในรอบที่ 15 จากนั้นก็ต่างคนต่างขี่จนเข้าเส้นชัย โดยเฟเบรอเข้าที่ 1 ไกเซอร์ที่ 2 ซีเวอร์ที่ 3 ปูแลงที่ 4 และจาซิโคนิสที่ 5
โมโตสอง อีกครั้งที่ซีเวอร์ได้โฮลชอต ขณะที่เฟเบรอไล่กดดันไกเซอร์ก่อนแซงขึ้นที่ 2 ได้ก่อนจบรอบแรก ขี่ตามไกเซอร์มาคือ ปูแลงกับอาร์โนลด์
เฟเบรอท้าดวลล้อจ่าฝูงซีเวอร์ มาแซงขึ้นนำได้ในรอบที่ 6 รอบต่อมา ซีเวอร์โดนไกเซอร์ชิงที่ 2 ไปได้อีก จากนั้นก็ต่างคนต่างเร่งสปีดหนีคู่แข่งกันสุดๆ โดยเกมจบที่เฟ
เบรอชนะ ไกเซอร์ที่ 2 ซีเวอร์ที่ 3 ปูแลงที่ 4 และอาร์โนลด์ที่ 5
ผลโอเวอร์ออล

  1. โรเมน เฟเบรอ (1-1)
  2. ทิม ไกเซอร์ (2-2)
  3. เจเรมี่ ซีเวอร์ (3-3)
  4. กาเทียร์ ปูแลง (4-4)
  5. เจเรมี่ แวนโฮบีค (5-5)
    คะแนนสะสม
  6. ทิม ไกเซอร์ 582 คะแนน
  7. เจเรมี่ ซีเวอร์ 405 คะแนน
  8. กาเทียร์ ปูแลง 379 คะแนน
  9. อาร์โนลด์ โทนัส 373 คะแนน
  10. อันโตนิโอ คายโรลี 358 คะแนน
โพเดี้ยมสนาม 13 รุ่น MXGP จากซ้าย: ทิม ไกเซอร์, โรเมน เฟเบรอ และเจเรมี่ ซีเวอร์

2019 AMA SUPERSCROSS R.1-3

เปิดฉากเกมโมโตครอสปี 2019 ปีนี้มีทั้งสิ้น 12 สนาม เกมสนามแรกมีฝนตกลงมาระหว่างแข่ง และอีกสองสนามนั้นเป็นดินแข็งขรุขระ เกมในรุ่น 450cc เป็นการป้องกันแชมป์ของ อีไล โทแมค เขาดูมุ่งมั่นจนกลายเป็นร้อนรนเมื่อออกสตาร์ทได้ไม่ค่อยดีนัก ส่วนเกมในรุ่น 250cc แชมป์เก่า อารอน เพลสซิงเกอร์ ได้ขยับไปขี่รุ่นใหญ่ แต่เขาบาดเจ็บจากการแข่งเกมซูเปอร์ครอส สนาม 10 ที่ผ่านมา ล้มจนส้นเท้าหัก ตอนนี้ยังไม่หายดี ต้องดูกันอีกนาน กว่าจะเห็นแววแชมป์….

อีไล โทแมค
มาร์วิน มูสแกน#25 กำลังหนี อีไล โทแมค#1

สนาม 1 (19 พ.ค.62) แฮงค์ทาวน์, สคราเมนโต รัฐแคลิฟอร์เนีย
250cc
โมโตหนึ่ง จัสติน คูเปอร์ (ยามาฮ่า) ได้โฮลชอต พร้อมขี่นำม้วนเดียวจบ แม้ว่าอดัม เชนเชียรูโล (คาวาซากิ) ที่ขี่ตามมาตั้งแต่รอบแรก จะมีโอกาสได้ไล่กดดันช่วงท้ายเกม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ขี่ตามทั้งคู่มาก็มี เชส เซกซ์ตัน (ฮอนด้า) โคล์ท นิโคลส์ (ยามาฮ่า) ไมเคิล โมซิแมน (ฮัสวาน่า) ดีแลน เฟอร์แรนดิส (ยามาฮ่า) และอาร์เจ แฮมพ์ชายร์ (ฮอนด้า) เกมเหมือนจะเรียบง่าย แต่ผ่านไปได้ไม่กี่รอบ เฟอร์แรนดิสก็แซงโมซิแมนที่ลื่นล้มในโค้งขึ้นที่ 5 ได้ในรอบที่ 6 และในช่วงท้ายเกมก็แซงทั้งนิโคลส์และเซกซ์ตันขึ้นที่ 3 โดยเกมจบที่คูเปอร์ชนะ เชนเชียรูโลที่ 2 เฟอร์แรนดิสที่ 3 เซกซ์ตันที่ 4 และนิโคลส์ที่ 5
โมโตสอง ฝนโปรยปรายลงมา จากดินดำนุ่ม กลายเป็นเละในบางจุด นิโคลส์ได้โฮลชอตก่อนโดนเชนเชียรูโลแซงขึ้นนำตามด้วย นิโคลส์, มาร์ติน ดาวาลอส (คาวาซากิ) โมซิแมน, เซกซ์ตัน และอเล็กซ์ มาร์ติน (ซูซูกิ) ผ่านไปแค่รอบเดียว โมซิแมนลื่นล้มในโค้งหล่นไปนอกท๊อปเทน อเล็กซ์เร่งสปีดแซงคู่แข่งจนขึ้นมาอยู่ที่ 3 ได้ในรอบเดียวกัน ขึ้นรอบที่ 3 ดาวาลอสสะดุดล้มในโค้งหล่นไปอยู่กลุ่มท้ายๆ ขณะที่เฟอร์แรนดิสไล่ขึ้นมาตามก้นอเล็กซ์อยู่ที่ 4 และคูเปอร์แซงเซกซ์ตันขึ้นที่ 5 เมื่อเกมผ่านไปได้ครึ่งทาง อเล็กซ์แซงนิโคลส์ขึ้นที่ 2 เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เฟอร์แรนดิสมาเสียตำแหน่งที่ 4 ให้กับคูเปอร์

ผลโอเวอร์ออล

  1. อดัม เชนเชียรูโล (2-1)
  2. จัสติน คูเปอร์ (1-4)
  3. โคล์ท นิโคลส์ (5-3)
  4. ดีแลน เฟอร์แรนดิส (3-5)
  5. เชส เซกซ์ตัน (4-6)
เจสัน แอนเดอร์สัน
อาร์เจ แฮมพ์ชายร์#31 อดัม เชนเชียรูโล#92 และจัสติน คูเปอร์#32
ปล่อยสตาร์ทสนาม 2 ในรุ่น 450cc

450cc
โมโตหนึ่ง โฮลชอตเป็นของ คูเปอร์ เวบบ์ (เคทีเอ็ม) ก่อนโดน เคน ร็อคเซน (ฮอนด้า) แซงขึ้นไปนำได้ก่อนจบรอบแรก ขี่ตามเวบบ์มาคือ เจสัน แอนเดอร์สัน (ฮัสวาน่า) กับจัสติน บาร์เชีย (ยามาฮ่า) ขึ้นรอบที่ 2 อีไล โทแมค (คาวาซากิ) ไล่ขึ้นมาตามก้นบาร์เชียก่อนแซงขึ้นที่ 4 ได้ในรอบที่ 3 โดยในรอบเดียวกัน แซค ออสบอร์น (ฮัสวาน่า) แซงบาร์เชียขึ้นที่ 5
เกมผ่านไปได้ครึ่ง โทแมคแซงแอนเดอร์สันขึ้นที่ 3 แต่โดนแอนดอร์สันแซงคืนในรอบถัดมา แอนเดอร์สันเร่งสปีดขึ้นไปหาเวบบ์ มาแซงขึ้นที่ 2 ได้ในช่วง 3 รอบสุดท้าย โดยเกมจบที่ร็อคเซนชนะ แอนเดอร์สันที่ 2 เวบบ์ที่ 3 โทแมคที่ 4 และออสบอร์นที่ 5
โมโตสอง มูสแกนได้โฮลชอตไม่นานก็โดนโทแมคแซงได้ก่อนจบรอบแรก ไล่ตามโทแมคมาติดๆ คือร็อคเซน มาแซงกลางอากาศขึ้นไปนำได้ในรอบที่ 2 เพราะโดดได้ไกลกว่า ขึ้นรอบที่ 3 แอนเดอร์สันแซงมูสแกนขึ้นที่ 3 ขณะที่คู่จ่าฝูงยังซัดกันนัว ที่สุด โทแมคก็ทวงจ่าฝูงคืนได้ในรอบที่ 5 พร้อมยึดไว้ได้จนจบเกม มาที่กลุ่มหลัง มูสแกนแซงแอนเดอร์สัน ชิงที่ 3 คืนมาได้ในรอบที่ 10 และในช่วง 2 รอบสุดท้าย โทแมคโดนออสบอร์นแซงไปได้อีกคัน
ผลโอเวอร์ออล

  1. เคน ร็อคเซน (1-2)
  2. อีไล แมค (4-1)
  3. เจสัน แอนเดอร์สัน (2-5)
  4. .แซค ออสบอร์น (5-3)
  5. คูเปอร์ เวบบ์ (3-6)
คูเปอร์ เวบบ์
เคน ร็อคเซน
อีไล โทแมค สนามแรก
มาร์วิน มูสแกน

สนาม 2 (25 พ.ค.62) ฟอกซ์ เรซเวย์, พาลา, รัฐแคลิฟอร์เนีย
250cc
โมโตหนึ่ง คูเปอร์ได้โฮลชอตตามด้วย นิโคลส์, ขณะที่ ฮันเตอร์ ลอว์เรนซ์ (ฮอนด้า) กับจอร์ดอน สมิธ (เคทีเอ็ม) ไล่บี้ชิงที่ 3 กันอย่างเมามัน จนเกมมาถึงรอบที่ 4 สมิธที่ขี่อย่างเร็วเสียจังหวะไปเกี่ยวรถของลอว์เรนซ์จนล้มทั้งคู่ อันดับ 3 หล่นมาอยู่ที่ อาร์เจ แฮมพ์ชายร์ (ฮอนด้า) ตามด้วยเซกซ์ตัน กับเชนเชียรูโล กว่าที่เชนเชียรูโลจะเข้าถึงตัวเซกซ์ตันและแซงขึ้นที่ 4 ได้ก็เข้าสู่รอบที่ 10 จากนั้นก็มามันส์กันอีกทีในช่วงท้ายเกม เมื่อแฮมพ์ชายร์ไล่ขึ้นมาทันนิโคลส์ มาแซงขึ้นที่ 2 ได้ในช่วง 2 รอบสุดท้าย ขณะที่เชนเชียรูโลแซงนิโคลส์ขึ้นที่ 3 ได้ในรอบสุดท้าย นิโคลส์เข้าที่ 4 และเซกซ์ตันที่ 5 โมโตสอง แมคเอลราธได้โฮลชอต ขี่
นำไปได้ 2 รอบ ก็โดนเชนเชียรูโล ที่แซงอเล็กซ์มาได้ในรอบแรก แซงขึ้นไปนำแทน ขณะที่ด้านหลัง ลอว์เรนซ์ที่เร่งสปีดแซงดะ จนขึ้นมาอยู่ที่ 2 ได้ในรอบที่ 3 และในรอบเดียวกันแมคเอลราธลื่นล้ม คูเปอร์เข้าแทนที่ในอันดับที่ 3 โดยมีเฟอร์แรนดิสไล่กดดันก่อนแซงขึ้นที่ 3 ได้ในรอบที่ 6 ไปดูที่คู่จ่าฝูง ช่วงกลางเกม ลอว์เรนซ์แซงเชนเชียรูโลขึ้นไปนำแทนได้ 2 รอบก็ลื่นล้มในโค้ง เชนเชียรูโลได้จ่าฝูงคืนง่ายๆ พร้อมขี่เข้าเส้นชัยคันแรก ลอว์เรนซ์ตามเข้าที่ 2 เฟอร์แรนดิสที่ 3 คูเปอร์ที่ 4 และเซกซ์ตันที่ 5
ผลโอเวอร์ออล

  1. อดัม เชนเชียรูโล (3-1)
  2. จัสติน คูเปอร์ (1-4)
  3. ดีแลน เฟอร์ดิส (7-3)
  4. เชส เซกซ์ตัน (5-5)
  5. โคล์ท นิโคลส์ (4-7)

450cc
โมโตหนึ่ง เบลค แบคเก็ต (เคทีเอ็ม) ได้โฮลชอตก่อนโดนร็อคเซนแซงขึ้นนำในโค้งสอง แบคเก็ตขี่อยู่ที่ 2 ได้ 2 รอบก็พลาดล้ม มูสแกนขึ้นที่ 2 ตามด้วย แอนเดอร์สัน เวบบ์, โทแมค และออสบอร์น โทแมคเร่งสปีด มาแซงเวบบ์ขึ้นที่ 4 ได้ในรอบที่ 7 แต่กว่าจะแซงแอนเดอร์สันขึ้นที่ 3 ก็ในรอบที่ 13 โน่น โทแมครุกต่อ คราวนี้เขาแซงทั้งมูสแกนและร็อคเซนขึ้นไปนำได้ในรอบที่ 14 โดยเกมจบที่โทแมคชนะ ร็อคเซนที่ 2 มูสแกนที่ 3 แอนเดอร์สันที่ 4 และออสบอร์นที่ 5 โมโตสอง จัสติน โบเกิล (เคทีเอ็ม) ได้โฮลชอตก่อนโดนมูสแกนแซงขึ้นนำตามด้วย โทแมค, แอนเดอร์สัน, ร็อคเซน และออสบอร์น ไม่นาน ร็อคเซนก็แซงแอนเดอร์แซงขึ้นที่ 3 ได้ในรอบที่ 6 ขณะที่ออสบอร์นแซงแอนเดอร์สันขึ้นที่ 4 ได้ในรอบที่ 8 และโทแมคที่ไล่กดดันมูสแกนอยู่นานก็แซงขึ้นไปนำแทนได้ในรอบที่ 9 พร้อมยึดครองไว้ได้จนจบเกม มูสแกนตามเข้าที่ 2 ร็อคเซนที่ 3 ออสบอร์นที่ 4 และแอนเดอร์สันที่ 5
ผลโอเวอร์ออล

  1. อีไล โทแมค (1-1)
  2. มาร์วิน มูสแกน (3-2)
  3. เคน ร็อคเซน (2-3)
  4. แซค ออสบอร์น (5-4)
  5. เจสัน แอนเดอร์สัน (4-5)
เชส เซกซ์ตัน
แซค ออสบอร์น
โคล์ท นิโคลส์
ฮันเตอร์ ลอว์เรนซ์
อาร์เจ แฮมพ์ชายร์
จัสติน คูเปอร์
อดัม เชนเชียรูโล

สนาม 3 (1 มิ.ย.62) ธันเดอร์วัลเลย์, เลควู๊ด, รัฐโคโลราโด
250cc
โมโตหนึ่ง ไท มาสเตอร์พลู (ยามาฮ่า) ได้โฮลชอตก่อนโดนแซงรวดสามคัน แฮมพ์ชายร์ขึ้นนำตามด้วย เชนเชียรูโล, คูเปอร์ และไท ผ่านไปได้ 2 รอบ คูเปอร์ก็แซงเชนเชียรูโลขึ้นที่ 2 จากนั้นก็ชิงจ่าฝูงมาจากแฮมพ์ชายร์ได้ในรอบที่ 4 เชนเชียรูโลแซงแฮมพ์ชายร์ขึ้นที่ 2 ได้ในรอบที่ 5 และเมื่อเกมผ่านไปได้ครึ่งทาง เฟอร์แรนดิสกับโมซิแมนก็พากันรุมแซงแฮมพ์ชายร์ขึ้นที่ 3-4 จากนั้นก็ไม่มีใครทำอะไรกันได้ โมโตสอง โฮลชอตเป็นของคูเปอร์ ตามด้วย เชนเชียรูโล, สมิธ, นิโคลส์ และโมซิแมน ผ่านไปสองรอบ โมซิแมนโดนเซกซ์ตันชิงที่ 5ไปได้ ส่วนคู่จ่าฝูง คูเปอร์โดนเชนเชียรูโลไล่ล่าจนเสียกระบวนท่า อีกทั้งสนามขรุขระ เลยขี่เสียจังหวะหลุดออกนอกสนาม เชนเชียรูโลขึ้นนำสบาย และในรอบต่อมา สมิธลื่นล้ม เซกซ์ตันกับโมซิแมนเลื่อนขึ้นที่ 4-5 แล้วโมซิแมนก็แซงเซกซ์ตันขึ้นที่ 4 ได้ในรอบที่ 10 และแซงนิโคลส์ขึ้นที่ 3 ได้ในรอบต่อมา โดยเกมจบที่เชนเชียรูโลชนะคูเปอร์ที่ 2 โมซิแมนที่ 3 นิโคลส์ที่ 4 และที่ 5 เป็นของเฟอร์แรนดิสที่สตาร์ทไม่ติดท๊อปเทน

ผลโอเวอร์ออล

  1. อดัม เชนเชียรูโล (2-1)
  2. จัสติน คูเปอร์ (1-2)
  3. ไมเคิล โมซิแมน (4-3)
  4. ดีแลน เฟอร์แรนดิส (3-5)
  5. เชล เซกซ์ตัน (7-6)
    คะแนนสะสม
  6. อดัม เชนเชียรูโล 139 คะแนน
  7. จัสติน คูเปอร์ 133 คะแนน
  8. ดีแลน เฟอร์แรนดิส 106 คะแนน
  9. โคล์ท นิโคลส์ 94 คะแนน
  10. เชส เซกซ์ตัน 94 คะแนน

450cc
โมโตหนึ่ง ออสบอร์นได้โฮลชอตก่อนโดนร็อคเซนแซงด่วนพร้อมขี่เข้าเส้นชัย คันแรก เช่นกันกับอันดับ 2-3 คือออสบอร์นกับเวบบ์ ที่ขี่ตำแหน่งนี้ตลอดเกมส่วนอันดับที่ 4 เป็นของแอนเดอร์สันที่สตาร์ทไม่ติดท๊อปเทน กว่าจะไล่จนขึ้นมาอยู่ที่ 4 ได้ก็เข้าสู่ช่วง 3 รอบสุดท้าย ส่วนอันดับที่ 5 เป็นของโทแมค นี่ก็สตาร์ทไม่ติดท๊อปเทนเช่นกัน โทแมคใจร้อน ขี่รนจนเสียจังหวะหลายครั้ง ตำแหน่งเลยขึ้นลงตลอด ขึ้นมาอยู่ที่ 5 ได้ในช่วง 3 รอบสุดท้ายเช่นกัน
โมโตสอง เวบบ์ได้โฮลชอตแต่ขึ้นนำได้รอบเดียวโดนร็อคเซนแซงไปได้ เวบบ์ลงมาอยู่ที่ 2 ได้ 2 รอบก็โดนโทแมคชิงไปได้อีก เวบบ์โดนมูสแกนกับออสบอร์นแซงไปได้อีกรอบละคัน
หลังเกมผ่านไปได้ครึ่งทาง โทแมคก็แซงร็อคเซนขึ้นไปนำแทน ร็อคเซนขี่ตามเข้าที่ 2 มูสแกนที่ 3 ออสบอร์นที่ 4 และแอนเดอร์สันที่ 5
ผลโอเวอร์ออล

  1. เคน ร็อคเซน (1-2)
  2. อีไล โทแมค (5-1)
  3. แซค ออสบอร์น (2-4)
  4. เจสัน แอนเดอร์สัน (4-5)
  5. มาร์วิน มูสแกน (8-3)
    คะแนนสะสม
  6. เคน ร็อคเซน 136 คะแนน
  7. อีไล โทแมค 134 คะแนน
  8. แซค ออสบอร์น 110 คะแนน
  9. มาร์วิน มูสแกน 107 คะแนน
  10. เจสัน แอนเดอร์สัน 106 คะแนน