ครั้งแรกของโลก! ฮอนด้าเชิญทดสอบขับขี่ All New Forza350 เฉพาะวันนี้ที่เมืองทองธานี

เอ.พี. ฮอนด้า ผู้นำวงการรถจักรยานยนต์ไทย เปิดรับสมัครผู้สนใจทดสอบความแรงของ All New Forza350 บิ๊กสกู๊ตเตอร์ระดับท็อปคลาสรุ่นใหม่ล่าสุดของโลก ที่มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ eSP+ สมรรถนะสูง ให้พลังความแรงสูงสุด พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซปต์ “Only For The Greatest เพราะที่สุด มีเพียงหนึ่งเดียว” ในวันอาทิตย์ที่ 19 ก.ค. 2563 ณ ลานอเนกประสงค์ข้าง AKTIV SQUARE อิมแพค เมืองทองธานี

สำหรับผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อนัดหมายเวลาทดสอบขับขี่ได้ผ่านทางออนไลน์ เพียงสแกน QR code ตามรูปที่ใช้ประชาสัมพันธ์ หรือที่บูธรถจักรยานยนต์ฮอนด้า หมายเลข M4 ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020 พร้อมกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน โดยงานเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.

#AllNewForza350 #OnlyForTheGreatest #WhatStopsYou #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า

Review All New YAMAHA WR155R

2020 Yamaha WR155 R ออฟโรดเอ็นดูโร่ ทางเลือกใหม่ของสายทางฝุ่น พร้อมดีไซน์ใหม่โฉบเฉี่ยวกับขุมพลังรีดแรงมา 16 ตัว

รีวิว เบเนลลี่ IMPERIALE400

สำหรับไบค์เกอร์ที่ชื่นชอบความคลาสสิคของรถจักรยานยนต์ด้วยการดีไซน์ความโค้งมนของรูปทรง และความโดดเด่นบนท้องถนนที่เป็นอมตะ สืบทอดจนมาถึงทุกวันนี้ คงไม่ต้องหาซื้อรถเก่า หรือเอาไปดัดแปลงให้เสียเวลาอีกต่อไป

รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เอช เซม

เปิดประสบการณ์ใหม่กับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า H SEM ให้คุณสนุกไปกับสีสัน และ การขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร โฉบเฉี่ยว คล่องตัว ที่สำคัญประหยัดแน่นอน

Review New Honda CT125

เปิดตัวแล้ว New Honda CT125 กับคอนเซปต์ ได้เวลา… ออกนอกเส้นทาง รถเลเชอร์ไบค์ ดีไซน์เฉพาะตัว สานตำนานอันโด่งดังจากยุค 60s ของ Original CT Series พร้อมเครื่องยนต์ขนาด 125 ซีซี ด้วยราคาแนะนำ 84,900 บาท สำหรับรุ่นมาตรฐาน

เอ.พี. ฮอนด้ากระตุ้นตลาดด้วยสองรุ่นใหม่ล่าสุดในงานบางกอกมอเตอร์โชว์!

เอ.พี. ฮอนด้ากระตุ้นตลาดด้วยสองรุ่นใหม่ล่าสุดในงานบางกอกมอเตอร์โชว์!
เปิดตัว
All New Forza350ครั้งแรกของโลก พร้อมด้วย CT125 Special Edition

เอ.พี. ฮอนด้า ผู้นำวงการรถจักรยานยนต์ไทยเดินเกมรุกสร้างความคึกคักอีกครั้งด้วยการเปิดตัวรถใหม่ล่าสุดถึงสองรุ่นในงานบางกอกอินเตอร์เนชันแนลมอเตอร์โชว์ เริ่มด้วย All New Forza350 รถบิ๊กสกู๊ตเตอร์ระดับท็อปคลาสเปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทย และ New CT125 Special Edition เปิดรับจองทันที พร้อมนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษมากมายเฉพาะภายในงาน ตั้งแต่วันนี้ถึง 26กรกฏาคมนี้

มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ไทย เปิดเผยว่า “ปี 2563 นี้เป็นปีแห่งความท้าทายของวงการรถจักรยานยนต์ไทย สถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบที่ชัดเจนต่ออุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ไทย โดยตัวเลขยอดจดทะเบียนครึ่งปีแรกของปีนี้อยู่ที่ 733,722 คัน คิดเป็น 82% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนฮอนด้ามียอดจดทะเบียนครึ่งปีอยู่ที่ 572,989 คัน ปรับตัวลดลงในระดับเดียวกันของตลาดรวม” “สำหรับแนวโน้มของตลาดในช่วงครึ่งปีหลังนั้นยังเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ยาก หากสถานการณ์โดยรวมของประเทศดีขึ้นเป็นลำดับ และไม่มีปัจจัยลบเข้ามาเพิ่มเติม ตัวเลขจดทะเบียนของปีนี้อาจจะแตะระดับ 85% เทียบกับปีก่อนหน้า”“ในฐานะผู้นำตลาด ฮอนด้าพร้อมแล้วที่จะกลับมากระตุ้นวงการรถจักรยานยนต์ไทยให้คึกคักอีกครั้ง เริ่มด้วยการเปิดตัว All New Forza350 เป็นครั้งแรกของโลกในเมืองไทย มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ eSP+ที่ให้ความแรงเหนือระดับ ตอบโจทย์การใช้งานของคนที่ชอบรถสมรรถนะสูงในขณะที่ตัวรถได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้น ให้ทั้งความสปอร์ตและความหรูหราเหนือใครนี่คือรถที่จะเปลี่ยนทิศทางของตลาดในกลุ่มบิ๊กสกู๊ตเตอร์ของไทยสู่ยุคใหม่”

All New Forza350 ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซปต์ “Only For The Greatest เพราะที่สุด มีเพียงหนึ่งเดียว” ติดตั้งเครื่องยนต์ eSP+ ขนาด 330ซีซี 4 วาล์ว ให้การเผาไหม้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แรงเสียดทานต่ำลง ให้สมรรถนะสูงและแรงส่งที่ต่อเนื่อง พร้อมกระเดื่องวาล์วแบบโรลเลอร์ยูนิแคม ให้อัตราเร่งติดมือ เพิ่มเพลาบาลานเซอร์เพื่อสร้างสมดุลให้เพลาข้อเหวี่ยง หม้อกรองอากาศมีขนาดใหญ่ถึง 5.5 ลิตร เพิ่มประสิทธิภาพในการอัดอากาศเข้าสู่ห้องเครื่องยนต์ พร้อมหม้อน้ำที่ย้ายตำแหน่งมาอยู่ที่ด้านหน้ารถส่งผลให้การระบายความร้อนเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น และยังช่วยในการกระจายน้ำหนักมาทางด้านหน้าทำให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น ตัวรถยังติดตั้งท่อไอเสียใหม่ที่คายไอเสียออกได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม ช่วยรักษากำลังตั้งแต่ช่วงออกตัวจนถึงช่วงเร่งแซง All New Forza350 มาพร้อมฟังก์ชันใหม่ที่เหนือชั้น ไม่ว่าจะเป็นกระจกบังลมหรือวินด์สกรีนหน้าที่ปรับระดับได้สูงถึง 150 มม. ช่วยลดแรงลมปะทะขณะขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น ระบบไฟฉุกเฉิน ESS เพิ่มความปลอดภัยสะดวกสบายด้วยIn-Console USB Charger & Bottle Holder ช่องชาร์จไฟผ่าน USB Port ขนาดใหญ่ที่สามารถวางขวดน้ำได้ในตัว พร้อมด้วยฟังก์ชั่นล้ำสมัยมากมายอาทิ แผงหน้าปัดแบบดิจิทัลสไตล์ Cockpit Area แสดงข้อมูลการขับขี่ครบครัน รีโมทอัจฉริยะฮอนด้าสมาร์ทคีย์ระบุตำแหน่งพร้อมกันขโมย ระบบเบรก ABS หน้า-หลัง สะดวกสบายด้วยกล่องเก็บของขนาดใหญ่ใส่หมวกกันน็อกได้ถึง 2 ใบ

เอ.พี. ฮอนด้า พร้อมวางจำหน่าย All New Forza350 แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ศูนย์ Honda Wing Center ทั่วประเทศด้วยราคาแนะนำ173,500 บาท โดยมีให้เลือกทั้งหมดสี่สีได้แก่ สีดำ สีขาว-น้ำเงิน สีแดง-ดำ และสีน้ำเงิน-ดำ“พร้อมกันนี้ เอ.พี. ฮอนด้า ยังได้เปิดตัว CT125Special Edition ในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ด้วย โดย CT125 ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของฮอนด้า ล่าสุด รถรุ่นนี้ได้กลายเป็น Lifestyle Gadget ที่สร้างวัฒนธรรมการขับขี่แบบใหม่ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยแล้ว นี่คือรถที่ได้รับผลตอบรับที่ดีมากและจำหน่ายหมดภายในเวลาเพียงไม่กี่วันหลังจากเปิดตัว ครั้งนี้ เรานำเสนอCT125รุ่นแต่งพิเศษที่ติดตั้งชุดแต่งจากแบรนด์ชั้นนำของญี่ปุ่นเพิ่มอีก 2 รุ่น ได้แก่ CT125 Military Campsterและ CT125 Farm Campsterซึ่งมีจำนวนจำกัดเพียงรุ่นละ 125 คัน เท่านั้น” ประธานกรรมการบริหาร เอ.พี. ฮอนด้า กล่าวเพิ่มเติมCT125 Military Campsterโดดเด่นด้วยชุดแต่ง Kitacoที่มาในสไตล์ “Military” กับลาย “พราง” ให้สัมผัสได้ถึงความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ มาพร้อมกระเป๋า Giviและ Guard ที่ดีไซน์มาให้ผู้ขับขี่สามารถออกไปลุยได้ไกลกว่าที่เคย รวมชุดแต่งทั้งสิ้นกว่า 12 ไอเท็ม ราคาแนะนำ104,900 บาทCT125 Farm Campsterเสริมไลฟ์สไตล์ทุกรายละเอียดอย่างปราณีตเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ออกนอกเส้นทางไปดื่มด่ำกับธรรมชาติ ด้วยชุดแต่ง G-craft มาพร้อม Wood Box ที่ออกแบบพิเศษติดตั้งเข้ากับด้านท้ายของตัวรถได้อย่างลงตัว และ Adjustable Right Stand ขาตั้งด้านขวาที่ปรับระดับได้ อัดแน่นชุดแต่งทั้งสิ้นกว่า 17 ไอเท็ม ราคาแนะนำ105,900 บาท

สำหรับผู้ที่สนใจ ฮอนด้าได้เตรียมโปรโมชั่นพิเศษแห่งปีสำหรับรถหลากหลายรุ่นให้กับผู้ร่วมชมงานโดยเฉพาะ ได้แก่ All New Forza350 ดอกเบี้ยพิเศษเพียง 5% ต่อปี ผ่อนเริ่มต้นเพียง 3,600 กว่าบาท พร้อมรับฟรีเสื้อโปโล Forza350 ไปใส่หล่อก่อนใคร, ADV150, CB150R, CBR150R และ PCX Hybrid ดอกเบี้ยพิเศษเพียง 0.9% ต่อเดือน รับฟรีเสื้อดีไซน์เฉพาะรุ่น, PCX150 ราคาพิเศษเฉพาะในงานเพียง 84,900 บาท และสำหรับสายสปอร์ต CBR250RR รับของแถมมูลค่าสูงถึง 35,000 บาท

นอกเหนือจากรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ภายในบูธแล้ว ฮอนด้ายังได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายทางออนไลน์ตามวิถี New Normal ด้วยการวางจำหน่ายสินค้าประเภทอุปกรณ์ตกแต่ง เครื่องแต่งกายและหมวกกันน็อกผ่านร้านออนไลน์Honda Motorcycle Store บนเว็บไซต์ Shopee และ Lazadaอีกด้วย โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บูธรถจักรยานยนต์ฮอนด้า

พบกับบูธรถจักรยานยนต์ฮอนด้า หมายเลขM4 ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020 ตั้งแต่วันที่ 15-26 กรกฎาคม 2563 ที่อิมแพค ชาเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี ติดตามรายละเอียดและโปรโมชั่นสุดพิเศษของรถรุ่นต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่

เว็บไซต์ www.aphonda.co.th

เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า fb.com/hondamotorcyclethailand

เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์ fb.com/HondaBigBikeTH

เฟซบุ๊กคับเฮ้าส์fb.com/cubhousebyhonda

ซูซูกิ พร้อมแล้วกับความหรูหราเหนือระดับในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41”

ซูซูกิ กับการเปิดบูธอย่างเป็นทางการในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41” ปีนี้มากับแนวคิด Suzuki Move On “ก้าวไปข้างหน้า” อัดแน่นไปด้วยรถจักรยานยนต์หลากหลายรุ่น ซึ่งสามารถเข้ามาหาคำตอบและสัมผัสถึงความเป็นตัวตนกันได้ที่บูธซูซูกิ

การเปิดบูธอย่างเป็นทางการได้รับเกียรติจาก มร.ชินจิ ฮะสึอิ President, คุณเลิศศักดิ์ นววิมาน กรรมการบริหาร, มร.คาสึยูกิ โอซาว่า กรรมการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด อีกทั้งยังได้รับเกียรติจาก คุณสุรชัย ชัยวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บ้านซูซูกิ จำกัด รวมถึงได้รับเกียรติจาก คุณอโนทัย เอี่ยมลำเนา พร้อมด้วย คุณพีระพงษ์ เอี่ยมลำเนา รองประธานจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 ที่ได้มาร่วมแสดงความยินที่บูธซูซูกิอีกด้วย

ในปีนี้บูธ ซูซูกิ ได้มีการจัดแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ Ultimate and Sport, Street Sport and Adventure Tourer, Cruiser & Pleasure และ กลุ่ม Convenient ที่พร้อมจะดึงทุกความเป็นตัวตนออกมาได้อย่างครบถ้วน และเร้าใจไปในทุกการสัมผัสกับรถจักรยานยนต์ระดับเวิลด์คลาสอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น Suzuki GSX-R1000/R สปอร์ตไบค์ที่ถูกถ่ายทอดเทคโนโลยีโดยตรงมาจาก MotoGP อีกทั้งยังมีรถจักรยานยนต์สกู๊ตเตอร์ระดับพรีเมี่ยม Suzuki Burgman 400 พร้อมด้วย Suzuki V-Strom 650XT ที่คว้ารางวัล Best Touring Middle Weight และ Suzuki Boulevard การันตีด้วยรางวัล Best Cruiser Middle Weight จากการประกวดรถจักรยานยนต์ Bike of The Year 2020 มาร่วมโชว์ในบูธอีกด้วย

นอกจากนี้ ซูซูกิ ได้นำรถจักรยานยนต์ที่เป็นไฮไลท์มาให้ทุกท่านได้ชมอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ในระดับตำนานอย่าง Suzuki Katana, Suzuki GSX1300R Hayabusa, Suzuki GSX-R1000R และ Suzuki GSX-R1000 ต่อมาที่รถจักรยานยนต์สไตล์สตรีทสปอร์ต Suzuki GSX-S1000, Suzuki GSX-S1000F, Suzuki GSX-S750, Suzuki SV650X และ Suzuki SV650 ถัดมาที่รถจักรยานยนต์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยกับทัวร์ริ่งยอดนิยม Suzuki V-Strom 1000, Suzuki V-Strom 650XT และ Suzuki V-Strom 650 นอกจากนี้ทาง ซูซูกิ ยังได้นำรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กที่พร้อมเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ชอบความเป็นอิสระ อาทิ Suzuki VanVan 200, Suzuki GSX-R150 และ Suzuki GSX-S150 ให้ทุกท่านได้จับจองเป็นเจ้าของได้อย่างง่ายดาย

อีกทั้งยังมี Accessories ที่ได้รวบรวมอุปกรณ์ตกแต่งรถจักรยานยนต์ และ Apparels อาทิ เครื่องแต่งกาย พร้อมผลิตภัณฑ์และของที่ระลึกจากซูซูกิอีกมากมายมาให้ท่านเลือกชมได้อย่างเต็มที่ ทั้งหมดนี้คือความภาคภูมิใจที่ ซูซูกิ นำเสนอและพร้อมพาทุกท่านก้าวไปข้างหน้าอย่างมีระดับ ตอบสนองทุกความต้องการของผู้รักการขับขี่ในทุกไลฟ์สไตล์ แล้วพบกันได้ที่บูธแสดงรถจักรยานยนต์ซูซูกิ ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 13 – 26 กรกฎาคม 2563

“ยามาฮ่า” เฉลิมฉลอง 65 ปี จัดทัพใหญ่ร่วมงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41

“ยามาฮ่า” เฉลิมฉลอง 65 ปี จัดทัพใหญ่ร่วมงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 นำเสนอเทคโนโลยีสุดล้ำ ภายใต้แนวคิด “Yamaha Life”

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 โดย มร.เท็ตสึยะ โนซากิ ประธานกรรมการบริหาร นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร และคณะผู้บริหารระดับสูง พร้อมด้วยนายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา รองประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดบูธยามาฮ่า ซึ่งเนรมิตขึ้นภายใต้แนวคิด “Yamaha Life” เพื่อร่วมเฉลิมฉลองปีที่ 65 ของ ยามาฮ่า มอเตอร์

สำหรับภายในบูธ “Yamaha Life” ถูกออกแบบจากแนวคิด Future Technology x Human Subsistence โดยผสานเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของยามาฮ่าเข้ากับนวัตกรรมธรรมชาติได้อย่างลงตัวเพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตแนวใหม่และทุกไลฟสไตล์ของชาว YAMAHA Society และได้แบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็น 2 โซนหลัก ได้แก่ NOW Zone ศูนย์รวมสุดยอดเทคโนโลยี และนวัตกรรมยานยนต์เทรนด์ใหม่ล่าสุด ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ และ Heritage Zone ศูนย์รวม Heritage of Pride อันทรงคุณค่าของยามาฮ่าในประเทศไทย ประกอบด้วยรถรุ่นต่างๆ ที่ได้รับความนิยมในอดีต

นำทัพโดยรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่อย่าง All New Yamaha WR155R, Grand Filano Hybird สีใหม่ พร้อมทั้ง MT-10, MT-07 และ MT-15 ที่มาร่วมสร้างสีสันให้กับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ในปีนี้

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมบูธ “Yamaha Life” ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม- 26 กรกฎาคม ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี หรือติดตามความเคลื่อนไหวและข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ www.yamaha-motor.co.th
หรือแฟนเพจ www.facebook.com/yamahasocietythailand

ยามาฮ่า จัดทริปทดสอบ โชว์สมรรถนะ King of 150 Class

ยามาฮ่า จัดทริปทดสอบ โชว์สมรรถนะ King of 150 Class พร้อมกัน 2 รุ่น ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จัดทัพสื่อมวลชนทดสอบสมรรถนะ ยามาฮ่า แอร๊อกซ์ 155 และ ยามาฮ่า เอ็กซ์ไซเตอร์ 150 ตอกย้ำความนิยมของตลาดรถจักรยานยนต์ออโตเมติก และรถครอบครัวสไตล์สปอร์ตที่ได้รับความนิยมและเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยสโลแกน King of 150 class

นางสรวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายการตลาดกลุ่มรถออโตเมติก และตราสินค้า บริหารลูกค้าสัมพันธ์ ประชาสัมพันธ์ และสื่อดิจิทัล พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด พาสื่อมวลชนชั้นนำของประเทศไทยร่วมทดสอบ รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 และ ยามาฮ่า เอ็กซ์ไซเตอร์ 150

โดยในครั้งนี้ ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ได้ชวนสื่อมวลชนร่วมสัมผัสสมรรถนะของรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 และ ยามาฮ่า เอ็กซ์ไซเตอร์ 150 ที่สุดของรถจักรยานยนต์คลาส 150 ซีซี สไตล์สปอร์ต ในแบบสปอร์ตออโตเมติก และแฟมิลี่สปอร์ต ณ อ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี ซึ่งได้รับการตอบรับจากสื่อมวลชนที่ร่วมทำการทดสอบอย่างคับคั่งสำหรับ ยามาฮ่า เอ็กซ์ไซเตอร์ 150 ตอบโจทย์การใช้งานด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 150 ซีซี สูบเดี่ยว 4 จังหวะ ระบบ SOHC 4 วาล์ว ภายใต้ดีไซน์ที่ลงตัวตามหลักแอโรไดนามิค เติมเต็มอารมณ์สปอร์ต ใช้งานได้อย่างคล่องตัวด้วยโครงสร้างเฟรมใหม่น้ำหนักเบา ทั้งยังเร้าใจด้วยระบบเกียร์แบบสปอร์ต 5 สปีด พร้อมคลัตช์มือ

โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ LED สว่างชัดทุกการขับขี่พร้อมไฟ HAZARD ที่ลงตัวกับบังลมใหม่ให้ความรู้สึกปราดเปรียวสไตล์สปอร์ต รวมถึงเรือนไมล์สุดไฮเทคที่ให้ความคมชัดทุกมุมมอง ครบทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน ทั้งยังล้ำสมัยด้วย Sport Moped ช่วยค้นหารถได้ในระยะ 20 เมตรด้าน ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์และฟังก์ชั่นการใช้งานที่มาพร้อมกับความสปอร์ต ด้วยเรือนไมล์ดิจิทัลแบบ NEGATIVE ขนาดใหญ่ 5.8 นิ้ว รวมถึงไฟหน้าคู่แบบ LED ดีไซน์สปอร์ตและช่องต่อชาร์จแบตมือถือหรือไฟสำรอง พร้อมช่องเก็บของด้านหน้า ให้ความสะดวกสบาย

แรงสุดในคลาส ด้วยเครื่องยนต์บลูคอร์ 155 ซีซี 4 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVA ตอบสนองทุกอัตราเร่ง ทั้งยังประหยัดทุกความเร็ว มาพร้อมกุญแจรีโมทอัจฉริยะ และระบบดับเครื่องยนต์อัจฉริยะเพิ่มความประหยัด ทั้งยังปลอดภัยสูงสุดด้วยระบบเบรก ABS ควบคุมการเบรกป้องกันล้อล๊อคในรุ่น ABS Version

2020 Yamaha WR155 R สายโดด สายดีด

2020 Yamaha WR155 R สายโดด สายดีด พร้อมกับสปีดสุดเร้าใจ
ยามาฮ่าพร้อมลุยสายฝุ่น ตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ที่มีหลากหลายสไตล์ เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ กับการขับขี่ที่ตื่นเต้น หลังจากที่ อินโดนีเซีย เปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยพร้อมกับนักแข่ง MotoGP มาเวอร์ริค บีญาเลส ก็ได้เวลาของสยามประเทศที่จะได้สัมผัสกับความมันส์กันเร็วๆ นี้

Yamaha WR155R มาพร้อมกับความโดดเด่นของตัวรถที่ถอดดีเอ็นเอมาจากรุ่นพี่สายเอ็นดูโร่ รหัส WR ที่รู้จักทั่วโลกถึงสมรรถนะ และความลงตัว ของดีไซน์ เพรียว กระชับ คล่องตัว ควบคุมง่าย มาดูกันสิว่า WR155R มีฟีเจอร์และอะไรน่าสนใจที่จะกระชากเงินในกระเป๋าคุณได้บ้าง ระบบกันสะเทือนหน้าเทลเลสโคปิคขนาด 41 มม. และมีความยาวมากถึง 899.1 มม. ทำให้การซับแรงกระแทกในเส้นทางที่ขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อนั้น มีความเสถียร ระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นแบบโมโนครอสแบบแก๊ส ที่สามารถปรับระดับพรีโหลดได้ตามสไตล์ของแต่ละคนเลย ส่วนยางจะเป็นแบบเอนกประสงค์ใช้งานได้ทั้งถนนทั่วไป และพร้อมลุยฝุ่น วงล้อซี่แบบอลูมินัม ข้างหน้า 21 นิ้ว หลัง 18 นิ้ว เพื่อให้สายลุยฝ่าอุปสรรคได้เต็มที่

ตัวเฟรมรถจะเป็นแบบ Semi Double Cradle Frame น้ำหนักเบาแต่แข็งแรง ถังน้ำมันจุมาให้มากถึง 8.1 ลิตร ตามสไตล์ของรถเอ็นดูโร่ แหม..ลุยกันได้ทั้งวัน ระบบเบรกจะเป็นแบบดิสก์เบรกจานหน้า 240 มม. ดิสก์ด้านหลังจาน 220 มม. หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ LCD Meter แสดงค่าต่างๆ อย่างครบครัน

มาดูที่เครื่องยนต์กันบ้าง มีขนาดปริมาตร 155 ซีซี 1 สูบ 4 จังหวะ SOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีการติดตั้งระบบวาล์วแปรผัน VVA มาให้ด้วย เน้นพละกำลังที่จี๊ดจ๊าด ให้แรงม้าสูงสุดมาอยู่ที่ 16.5 แรงม้า ที่ 10,000 รอบต่อนาที แรงบิดอยู่ที่ 14.3 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที และกำลังอัด 11.6:1 ตรงนี้บอกเลยว่าจุดระเบิดได้เต็มที่สมบูรณ์มากเพราะการสั่งจ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีดที่ละเอียด

แต่จะว่าไปแล้วด้วยข้อมูลที่แกะออกมาได้ ก็จะเหมือนกับเครื่องยนต์ลูกเดียวกันกับ MT-15 และ YZF-R15 ที่โดดเด่นเรื่องของพละกำลังแรงบิดที่โดดเด่น

Benelli 752S

รถอีกหนึ่งซีรีส์ของ Benelli ที่เกิดขึ้นมาจากการตีความหมายของคำว่าความเป็นสปอร์ต และความสง่างามที่เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของ Benelli ในประวัติศาสตร์การก่อนตั้งแบรนด์นี้ขึ้นมา ประวัติศาสตร์ที่เริ่มตั้งแต่การถือกำเนิดใน Pesaro โดยรถในรุ่น 752S นี้ คือการประกาศอย่างเป็นทางการของ Benelli ว่า พวกเขาจะกลับมาทวงบัลลังก์ความเป็นสุดยอดของรถในพิกัด medium-large หรือ ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่นั่นเอง พวกเขาตั้งเป้าหมายที่จริงจังกับการที่จะหวนคืนสู่การรุกตลาดของรถจักรยานยนต์ที่มีปริมาตรความจุในพิกัดดังกล่าวอย่างเต็มที่ ด้วยแนวคิดของคำว่า ดุดัน จริงจัง เน็กเก็ดขนานแท้ และพร้อมตอบสนองถึงขีดสุดของความสนุกสนานบนท้องถนน และทุกโค้ง

กะทัดรัด ปราดเปรียว แข็งแกร่ง ทันสมัย คือทิศทางการออกแบบ ของ 752S ที่พร้อมจะกระตุ้นทุกสัญชาตญาณของผู้ขับขี่ ด้วยโครงสร้างเฟรมจากท่อเหล็กและแผ่นเหล็กที่ผสานเป็นโครงข่ายเฟรมในแบบที่เรียกว่า trellis frame พิมพ์นิยมที่คุ้นตาในแบบฉบับของรถจากยุโรป ซึ่ง Benelli เองก็ได้พัฒนามาเป็นพิเศษจนมีความลงตัวเหมาะสมกับรถในสไตล์ naked ที่พร้อมรองรับเครื่องยนต์ใหม่ Benelli four-stroke 750 cc liquid-cooled twin-cylinder engine ที่ให้กำลังสูงสุดในระดับ 76 แรงม้าที่ 8,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดขนาด 67 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที โดยกำลังและแรงบิดที่มีนี้จะไม่เกินขีดจำกัดในการควบคุมของผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์ไม่มากด้วยการออกแบบให้มีการส่งกำลังที่นุ่มนวลเป็นมิตรกับผู้ขับขี่ ด้วยการกำหนดจังหวะ Double overhead camshaft timing ที่เหมาะสม โดยเครื่องยนต์เป็นแบบ 4valves ต่อสูบ พร้อมเรือนลิ้นเร่งคู่ double throttle body ที่มาพร้อมกับ electronic fuel injection ให้การจ่ายเชื้อเพลิงอย่างแม่นยำเหมาะสมกับการทำงานของเครื่องยนต์ในแต่ละย่าน

ขณะเดียวกันระบบกันสะเทือนยังมีเสถียรภาพด้วยช่วงหน้า upside-down Marzocchi ขนาดฟอร์ค 50 มม. ที่มาพร้อม adjustable hydraulic brake rebound compression และ spring preload ที่มีความมั่นคงและเปี่ยมประสิทธิภาพ โดยมีระยะยุบตัว 130 มม. ขณะที่ในส่วนของระบบกันสะเทือนหลังนั้น เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง สวิงอาร์ม กับ โช้คหลังเดี่ยว swingarm+adjustable monoshock ที่กำหนดให้สามารถปรับค่า spring preload โดยกันสะเทือนหลังนี้จะมีระยะยุบตัวอยู่ที่ 60 มม.

ทีนี้ก็มาต่อกันที่ระบบความปลอดภัยที่ Benelli เลือกไว้วางใจในสมรรถนะของพลังเบรกจาก Brembo braking system ที่เปี่ยมประสิทธิภาพ พร้อมรองรับขุมพลังของเครื่องยนต์ที่มีใน 752S โดยในชุดเบรกหน้าจะเป็นจานดิสก์คู่ double 320 mm. semi-floating disc ที่มาพร้อมพลังของคาลิเปอร์แบบ four-piston caliper เรียกว่าจัดเต็มด้วยพลังแบบสี่ลูกสูบกันเลย ส่วนเบรกหลังนั้น เป็นคาลิเปอร์แบบสองลูกสูบ double piston floating caliper ที่มาคู่กับจานดิสก์เบรก ขนาด 260 มม. โดยเบรกนั้นจะติดตั้งบนวงล้ออลูมินัมขนาด 17 นิ้ว ซึ่งยางที่ใช้ก็จะเป็น ยางหน้า 120/70-17 กับ ยางหลัง 180/55-17 โดยจะมีความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 14.5 ลิตร และที่น่าสนใจก็คือจอเรือนไมล์แสดงผลเป็นแบบ TFT ที่จะเป็นแบบ two modes ซึ่งการแสดงผลของหน้าจอ จะปรับเปลี่ยนเองแบบอัตโนมัติ คือ day/night mode เพื่อที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถอ่านข้อมูลต่างๆ บนจอแสดงผลได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้นในทุกสภาพแสง ส่วนไฟหน้านั้นออกแบบให้มีความโฉบเฉี่ยวทันสมัย อีกทั้งยังเป็นไฟแบบ full-LED อีกด้วย