


ฮอนด้า ส่งนักบิดดาวรุ่งไทย “จิมมี่” บูรพา วันมูล จากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” เก็บประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง ในศึก “เอ็มเอฟเจ ออล เจแปน โร้ด เรซ แชมเปี้ยนชิพ” รุ่น ST600 ประจำปี 2023
โดยล่าสุด จิมมี่ บูรพา ในวัยเพียง 14 ปี ที่เติบโตมาจากโครงการ “ฮอนด้า อะคาเดมี่” สร้างฝันนักบิดไทยสู่ระดับโลก ได้ออกเดินทางสู่ประเทศญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อย เพื่อสมทบกับทีมแข่ง แอสติโม ฮอนด้า ดรีม เอสไอ เรซซิ่ง เตรียมความพร้อมในการลงแข่งสนามต่อไปหลังจากเจ้าตัวได้ชิมลางในการแข่งขันสนามแรกของรายการนี้ที่ ทวินริง โมเตกิ มาแล้วก่อนหน้านี้ โดยมี ดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด เดินทางไปส่งและให้กำลังใจถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จิมมี่ บูรพา มีคิวพารถแข่งคู่ใจ Honda CBR600RR หมายเลข 31 ดวลความเร็วในรอบต่อไปที่สนาม ซูโก้ ซึ่งมีกำหนดการชิงชนะเลิศในวันที่ 20-21พฤษภาคมนี้ รวมทั้งสิ้น 2 เรซ สามารถรับชมถ่ายทอดสดได้ที่ช่องยูทูบ moto battle LIVE Global พร้อมติดตามความเคลื่อนไหวของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH
ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม” ฝ่าเรซสุดหินหลัง “ตี” อนุภาพ ซามูล และ “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ขับเคี่ยวอย่างหนักกับนักบิดแถวหน้าของโลกในศึก เวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต แชมเปียนชิพ สนาม 4 เรซแรก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะ “ไอเดีย” กฤตภัทร เขื่อนคำ ดาวรุ่งชาวไทยไล่บี้สุดมันคว้าท็อป 6 ศึกดาวรุ่งชิงแชมป์ยุโรป Yamaha R3 bLU cRU European Cup สนาม 2 ที่ เซอร์กิต เด บาร์เซโลน่า-คาตาลุนญ่า ประเทศสเปน
R18 custom bike จากพันธมิตรหรืพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจของ BMW อย่าง VTR Motorrad AG และ VTR Custom ที่มีแนวทางในการออกแบบที่เกี่ยวโยงถึงอุตสาหกรรมการบิน หรือเครื่องบิน ที่มีแรงบันดาลใจมาจากเครื่องบินขนส่งที่มีชื่อเล่นเรียกว่า Aunt Ju ซึ่งมันก็คือเครื่องบินขนส่งที่ชื่อรุ่นว่า Ju52 ซึ่งเป็นเครื่องบินขนส่งแบบสามเครื่องยนต์ ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์และการขนส่งทางอากาศในช่วงยุค 1930 โดยเจ้า Ju52 ลำที่เป็นแรงบันดาลใจนั้นเป้นเครื่องบินที่ลงทะเบียนในรหัส D-AQUI ของสายการบินLufthansa
ตัวเครื่องบินของสายการบินนี้มีโทนสี grey-black ที่คุ้นเคยกันไปทั่วดลกในช่วงปี1936 อีกทั้งมันยังถูกนำไปใช้บินเส้นทางบินในสหรัฐอเมริกาช่วงปี 1970-1984 โดยได้จดทะเบียนเป็นเครื่องบินของอเมริกันในรหัส N52JU ที่ผู้ครอบคอรงได้ตั้งชื่อเครื่องบินลำนี้ว่า IRON ANNIE เอาเป็นว่าทาง VTR Motorraf AG และ VTR custom จากสวิสเซอร์แลนด์ ได้แรงบันดาลใจดังกล่าว จนนำมาสร้างแบบร่างเพื่อที่จะทำรถคัสตอมสักคัน แน่นอนรถคันนี้จะต้องมาจากพื้นฐานของ BMW R18 และมีการนำแนวคิดรวมทั้งองค์ประกอบชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Ju52 มาใช้ในการสร้างสรรค์นี้ด้วย จนในที่สุดมันก็กลายมาเป็นชิ้นงานที่ชือ R18 IRON ANNIE ที่เรานำภาพมาฝากกันนี้ อย่างที่บอกว่าโทนสีเทาขดำหรือ grey-black ถูกนำมาใช้เป็นเฉดสีหลักที่จะสร้างงานชุดสีของตัวรถ เช่นเดียวกับชุดเรือนไมล์และพื้นที่ค็อกพิทของตัวรถล้วนเป็นการออกแบบประยุกต์แนวทางเดียวกับลักษณะของเครื่องบินด้วยเช่นกัน
ในการเริ่มกระบวนการปรับแต่งตามแพลนงานครั้งนี้ เริ่มต้นด้วย BMW R18 “first edition” หรือโมเดลแรกที่ส่งออกมาจำหน่ายครั้งแรกของรถในรหัสนี้นั่นเอง โดยได้นำเครื่องยนต์ออกไปจากโครงสร้างรถเพื่อทำการจัดการในส่วนของงานสีด้วยการเปลี่ยนให้เครื่องยนตืนั้นมีสีดำทั้งหมด ขณะเดียวกันในส่วนของชิ้นส่วนอื่นๆที่เคยเป็นโครมเมี่ยมมันวาวก้จัดการเปลี่ยนเป็นสีดำด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับชิ้นส่วนของฟอร์คก็ทำการเคลือบสีดำด้วยเช่นกัน ในส่วนของพื้นที่ค็อกพิท หรือพื้นที่ด้านหน้าของผู่ขี่ทั้งหมดรวมถึงชุดเรือนไมล์นั้น ได้มีการออกแบบในการปรับแต่งโดยแพลนไว้ว่า จะต้องทำให้ดูออกมาเล็กกะทัดรัดและมีรูปทรงลวดลายเส้นสายมากขึ้น กล่าวคือในช่วงระหว่างล้อขนาด 18 และ 21นิ้วของตัวรถนั้น จะดูมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น เมื่อชิ้นงานในการปรับแต่งของส่วนดังกล่าวจบลง เพราะโครงสร้างตัวรถนั้นถูกออกแบบให้มีรูปทรงที่เล็กลงหรือกระทัดรัดนั่นเอง ข๊ะที่ในส่วนของระบบเบรกนั้นได้มีการเปลี่ยนปั๊มเบรกเดิมด้วยการแทนที่จากชุดปั๊มเบรก ในสไตล์เรซซิ่ง อย่าง HC3 pumps จากแบรนด์ Magura ที่พิเศษคือชุดเรือนไมล์นั้นได้ทำการสร้างขึ้นมาเป็นกรณีพิเศษ โดยผู้ผลิตนาฬิกาจากสวิสเซอร์แลนด์ อย่าง Zeitzone Zurich
ที่สำคัญคือกาเลียนแบบเพื่อสร้างช่องลมระบายอากาศของเครื่องบินที่เป้นต้นแบบ โดยเจ้าชิ้นส่วนจำลองนี้จะถูกติดตั้งครอบคลุมในส่วนของท่อไอเสีย เพื่อให้แนวคิดในการสร้าง R18 IRON ANNIE นี้ สื่อถึงความเป็นตัวตนของเครื่องบิน JU52 ลำดังกล่าวสมตามที่ตั้งชื่อมานั้น เนื่องจากคอนเซ็พท์ในการที่จะออกแบบชิ้นงานนี้ให้มีแนวทางไปมีลักษณะหรือรูปแบบของเครื่องบินรุ่นดังกล่าว ด้วยเหตุนี้จึงต้องอาศัยการสรเงชิ้นงานในแบบแฮนด์เมดและงานฝีมือหลายส่วนด้วยกัน อย่างไรก็ตาม พอที่จะสรุปรวบรวมรายละเอียดชิ้นส่วนของการปรับแต่งของ BMW R18 IRON ANNIE ได้ดังนี้
BMW R 18 IRON ANNIE by VTR Customs specifications:
– Base: BMW R 18 First Edition.
– Sheet metal parts: Fuel tank, rear, side panels, cockpit,
mudguard, Aluminium handmade by VTR Customs.
– Fork: shortened and DLC-coated stanchions.
– Suspension strut: Wilbers, height adjustable.
– Wheels: Kineo front 3.5 x 21″, rear 6 x18″.
– Tyres: Avon Cobra, 120/70-21 and 200/55-18.
– Handlebars: ABM Vario Clip.
– Speedometer: Customized by Zeitzone Zürich.
– Brake / clutch pump: Magura HC3.
– Saddle: VTR Customs & Yves Knobel Saddlery.
– Exhaust system: Walzwerk.
– Number plate holder: Berham Customs.
– Side indicator and rear lights: Kellermann Atto.
– Headlight: HIGHSIDER.
– Paintwork: VTR Customs & Freuler AG, Benken.
มร.ทากาอากิ ฮิรามะ ที่ปรึกษาด้านบริหารการค้า พร้อมด้วย นายพลัฏฐ์ ประวีร์ชานนท์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดกลุ่มรถสปอร์ต และรถครอบครัว บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ถ่ายภาพร่วมกับพันธมิตรร้านค้าและอุปกรณ์ตกแต่งที่ร่วมออกบูธในกิจกรรม YAMAHA Rev ‘n Ride ซึ่งจัดขึ้นเพื่อไรเดอร์สายสปอร์ต ในกิจกรรมจัดเต็มรูปแบบ ด้วยร้านค้าและอุปกรณ์ตกแต่งจากพันธมิตรต่างๆ ของยามาฮ่า พร้อมด้วยโซนกิจกรรม ที่แบ่งออกเป็น 4 สไตล์ คือ Racing Zone, Naked Zone, Enduro Zone และ Sport Heritage Zone และรถแต่งจากสำนักต่างๆ พร้อมสตั้นท์โชว์จาก 101 ทีมสตั้นท์ชั้นนำของประเทศไทย สนุกเต็มรูปแบบกับดีเจสาวสวยสุดเซ็กซี่ ก่อนปิดท้ายความมันส์ด้วยคอนเสิร์ตจากแร็ปเปอร์ชื่อดังของเมืองไทย โจอี้บอย ที่มาร่วมสร้างสีสันความมันแบบเต็มคาราเบล
คู่หูนักบิด “ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม” อย่าง “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #24 และทีมเมทอย่าง “ตี” อนุภาพ ซามูล #51 ทุ่มเทอย่างสุดความสามารถ ก่อนสร้างผลงานน่าประทับใจในด่านแรกในโซนยุโรปของศึก เวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต แชมเปี้ยนชิพ สนาม 3 ที่ ทีที เซอร์กิต แอสเซ่น ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
จากแบบร่างที่ถูกสเก็ตซ์ขึ้นมา จนถูกส่งออกมาจากไลน์การผลิต ในชื่อรุ่น Drakon125 ที่เป็นหัวหอกในการทำตลาดรุ่นใหม่ล่าสุดของ Malaguti ที่พวกเขาระบุว่านี่คือการปรับเปลี่ยนสู่ทิศทางหรือแนวทางใหม่อย่างเต็มตัวที่พวกเขาปรับแนวทางการที่จะส่งไลน์อัพรถรุ่นใหม่แบบฉีกแนวคิดเดิมๆของตนออกมา ที่สำคัญนี่คือรุ่นรถใหม่ล่าสุดภายใต้ชายคาMalaguti ที่พวกเขาดำเนินทุกกระบวนการด้วยตนเองทั้งหมด นี่คือความท้าทายครั้งใหม่ในการที่จะปรับเปลี่ยนแนวทางเดิมๆของตน
ซึ่งพวกเขากล่าวในเอกสารประชาสัมพันธ์ว่า it inhales new fire into the Spirit of Bolongna แปลง่ายๆมันก็คือการเติมเต็มพลังให้กับจิตวิญญาณของพวกเขา ซึ่งก็อาจจะตีความได้ว่า นี่คือการเปลี่ยนแปลง นี่คือความกระหายของพวกเขาที่จะผลิตรถดีๆรถใหม่ๆออกจากไลน์การผลิต และนี่คือรถรุ่นที่จะบ่งบอกดุถึงทิศทางในอนาคตของแบรนด์ Malaguti ว่า พวกเขาจะเดินหน้าพัฒนาสู่สิ่งใหม่ๆ
มันคือสตรีทไบค์จากแบรนด์ Malaguti ซึ่งโดยทั่วไปแล้วค่ายอื่นๆก็มีรถในสไตล์นี้ในตลาดเป็นปกติไม่น่าแปลกอะไรสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แต่สำหรับโรงงานโบโลญญ่าแล้ว นี่อาจจะเป้นการฉีกจากไลน์อัพเดิมๆที่เป็นสกู๊ตเตอร์และรถขนาดเล็กอื่นๆนั่นเอง อย่างไรก็ตาม นี่คือรถที่มีเครื่องยนต์พื้นฐานขนาด 125 ซี.ซี. สูบเดียว ที่ยังคงเน้นกลุ่มผู้ใช้วันยรุ่นและผู้ใช้ในระดับเริ่มต้นขับขี่เป็นเป้าหมายหลักไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม เพียงแต่นี่อาจจะเป้นการเพิ่มสไตล์หรือรูปแบบของรถในสไตลืสตรีทไบค์อย่าง Drakon125