ไทยฮอนด้า เดินหน้าส่งเสริมการขับขี่ปลอดภัย จัดอบรมเพื่อรับใบขับขี่สำหรับชุมชนและสถานศึกษา

ไทยฮอนด้า จัดโครงการ “อบรมเพื่อรับใบขับขี่สำหรับชุมชนและสถานศึกษา”

ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย จัดโครงการ “อบรมเพื่อรับใบขับขี่สำหรับชุมชนและสถานศึกษา” (Driving License Training for Community and School) โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนในชุมชนและนักศึกษาที่ใช้รถจักรยานยนต์ในชีวิตประจำวันมีใบขับขี่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย การอบรมในโครงการฯ นี้ครอบคลุมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการขับขี่ที่ถูกต้องตามกฎจราจร อันเป็นส่วนสำคัญในการลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุบนท้องถนน

สืบเนื่องจากความสำเร็จของโครงการ “ชุมชนปลอดภัย” ซึ่งไทยฮอนด้าได้ริเริ่มในพื้นที่เขตลาดกระบังและนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังเมื่อปีที่ผ่านมา และได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากประชาชนในพื้นที่ จึงเป็นแรงผลักดันให้ขยายผลสู่กลุ่มนักศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มประสบอุบัติเหตุจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ในระดับสูง โดยส่วนใหญ่ยังไม่มีใบขับขี่ที่ถูกต้อง

โครงการฯ ในปีนี้เริ่มต้นที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังเป็นแห่งแรก มีนักศึกษาเข้าร่วมอบรมจำนวน 40 คน และคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมอบรมรวมตลอดทั้งปีไม่น้อยกว่า 320 คน โดยมีแผนขยายกิจกรรมไปยังสถานศึกษาอื่น ๆ ในลำดับต่อไป

ทั้งนี้ ไทยฮอนด้ามุ่งหวังว่าโครงการฯ อบรมดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการสร้างโอกาสให้เยาวชนไทยได้พัฒนาทักษะการขับขี่อย่างปลอดภัย เสริมสร้างวินัยจราจร และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนรุ่นใหม่อย่างยั่งยืน

#HondaSafetyThailand #HaveAGoodRide #ฮอนด้าเมืองไทยขับขี่ปลอดภัย

#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #ThaiHonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou

“กวาร์ตาราโร” แฮปปี้ประสิทธิภาพ M1 ที่ ซิลเวอร์สโตน

“กวาร์ตาราโร” ชี้เป็นรถแข่งที่ดีที่สุดในรอบ 3-4 ปีของ “ยามาฮ่า”

“เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ยอดนักบิดเฟรนช์จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ออกโรงแสดงความพอใจกับศักยภาพของรถแข่ง M1 ที่โชว์ความเร็วระดับท็อป ชี้เป็นรถแข่งที่ดีที่สุดในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา หวังยกระดับต่อเนื่องในศึก โมโตจีพี ยอมรับผิดหวังที่ต้องรีไทร์ขณะเป็นผู้นำ บริติช กรังด์ปรีซ์ แต่ไม่ยอมแพ้ในการทำงานเพื่อพา ยามาฮ่า กลับสู่ความยิ่งใหญ่

การแข่งขัน โมโตจีพี 2025 สนาม 7 รายการ บริติช กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต สหราชอาณาจักร และนับเป็นอีกครั้งที่ ยามาฮ่า เดินหน้ายกระดับความเร็วของรถแข่ง M1 โดยเฉพาะการคว้าโพลเป็นสนามที่ 3 ติดต่อกันของ กวาร์ตาราโร

เกมในรอบ “เมนเรซ” ต้องออกตัวครั้งที่ 2 หลังมีเหตุธงแดง กวาร์ตาราโร ทะยานขึ้นนำและทิ้งห่างคู่แข่งออกไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นเรซ และนี่คือโอกาสคว้าชัยชนะ กรังด์ปรีซ์ ครั้งแรกของ ยามาฮ่า ในรอบหลายปี ก่อนที่รถแข่งของนักบิดเฟรนช์จะมีปัญหากับระบบ Rear Ride High Device ขณะเป็นผู้นำ จนต้องออกจากการแข่งขันอย่างน่าเสียดาย

กวาร์ตาราโร กล่าว่า “มันคือเรซที่น่าทึ่งสำหรับเรา แต่โชคร้ายที่ต้องเจอปัญหาทางเทคนิคกับระบบ Rear Ride High Device ผมคิดว่าการแข่งขันของเราไปได้สวยเลยละ ผมรู้ว่าต้องเค้นตรงไหน ต้องเบรกลึกตรงไหนเมื่อต้องคำนึงถึงลมในสนามระหว่างแข่ง ทุกอย่างอยู่ภายใต้ความควบคุมจนกระทั่งถึงรอบนั้น (ที่รถมีปัญหา)”

“ผมคิดว่าเราสามารถพอใจกับงานที่ทำได้ในวันนี้ นี่คือรถแข่งที่ดีที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา เรากำลังทำได้ดี ผมหวังว่าเราจะทำมันได้อีกครั้ง แม้ผมจะผิดหวังแต่ก็ไม่ยอมแพ้” กวาร์ตาราโร ทิ้งท้าย

สำหรับ พัฒนาการของรถแข่ง M1 จากการคว้าโพล 3 สนามติดต่อกัน แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าอย่างมากในแง่การค้นหาประสิทธิภาพ ก่อนที่ศึก โมโตจีพี 2025 สนามถัดไป จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6-8 มิถุนายนนี้ ที่ มอเตอร์แลนด์ อารากอน ประเทศสเปน ในรายการ อารากอน กรังด์ปรีซ์

—————————–
#YamahaSocietyThailand #RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #YamahaWorldChampion #YamahaNumber1RacingTeam
#YamahaMotoGP25 #TheBlueShift
#YamahaFactoryRacingTeam
#MonsterEnergyYamahaMotoGP #FQ20 #AR42
#PrimaPramacYamaha
#JM43 #MO88

“ชิพ-นครินทร์” ระเบิดผลงาน บิด Honda CBR1000RR-R คว้าโพเดียม ST1000

ดาวรุ่งไทย คว้าท็อป 4 J-GP3 ศึกออลเจแปน ที่ ซูโก้ ประเทศญี่ปุ่น

“ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ระเบิดผลงานประเดิมสนาม ศึกออลเจแปน 2025 MFJ All Japan Road Race Championship “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภัวภัทร์ ยอดนักบิดไทยจาก “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะแชมเปี้ยน” และยอดรถแข่ง Honda CBR1000RR-R หมายเลข 34 สังกัดทีม Astemo SI Racing with Thai Honda ทำผลงานคว้าโพเดียมอันดับที่ 2 ขณะที่นักแข่งดาวรุ่งไทยลงแข่งขันเพื่อพัฒนาศักยภาพระดับนานาชาติด้วยเรซแมชชีน Honda NSF250R ทำผลงานเก็บคะแนนสะสมได้ทั้ง 3 คัน นำโดย “อุ้ม” นพรุธพงษ์ บุญประเวศ แซงคู่แข่งขึ้นมาคว้าท็อป 4 ได้อย่างยอดเยี่ยม ที่ สนามซูโก้ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

ศึกออลเจแปน 2025 สนามที่ 2 ซึ่งเป็นสนามแรกที่ทัพนักบิดไทยลงสนามร่วมทำการแข่งขัน ในรุ่น ST1000 และรุ่น J-GP3 ไปดวลกันที่ สนามซูโก้ ประเทศญี่ปุ่น ด้วยความท้าทายจากความแข็งแกร่งของคู่แข่งในรายการท่ามกลางสภาพอากาศที่เปียกชื้น

โดยการแข่งขันรุ่น ST1000 “ชิพ-นครินทร์” บิด Honda CBR1000RR-R หมายเลข 34 ออกสตาร์ตขึ้นดวลความเร็วกับนักบิดเจ้าถิ่นได้ทันทีและเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับที่ 2 จากการขับเคี่ยวชิงอันดับลุ้นแชมป์ที่เป็นไปอย่างสูสี ตามหลังผู้ชนะเพียง 0.117 วินาที เท่านั้น

ด้านการแข่งขันรุ่น J-GP3 ของดาวรุ่งนักแข่งไทย ที่ได้รับการพัฒนามาจาก ฮอนด้า อะคาเดมี่ และ ไทยแลนด์ ทาเลนต์ ลงแข่งขันใน สังกัด Astemo SI Racing with Thai Honda ด้วยรถแข่ง Honda NSF250R ที่มีการปรับแต่งตามที่กติการายการกำหนด เก็บประสบการณ์ในเวทีระดับนานาชาติต่อกรกับคู่แข่งที่แข็งแกร่งได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถเก็บคะแนนสะสมได้ทันทีทั้ง 3 คนในการลงแข่งขันสนามแรก

โดย “อุ้ม” นพรุธพงษ์ บุญประเวศ หมายเลข 30 สามารถคว้าท็อป 4 มาครองได้สำเร็จ ขณะที่ “ออสติน” ธนฉรรต ประทุมทอง หมายเลข 15 เข้าเส้นชันมาในอันดับที่ 11 โดยมี “ไบร์ท”เตชินท์ อินทร์อภัย หมายเลข 31 ตามมาในอันดับที่ 13

ทั้งนี้ การแข่งขันโปรแกรมต่อไป รุ่น J-GP3 จะลงสนามอีกครั้งในโปรแกรมสนามที่ 3 ของรายการ ออลเจแปน ระหว่างวันที่ 21-22 มิถุนายน ที่ สนามสึคุบะ เซอร์กิต (Tsukuba Circuit) ประเทศญี่ปุ่น และรุ่น ST1000 จะแข่งขันกันอีกครั้งในสนามที่ 4 ของโปรแกรมออลเจแปน ระหว่างวันที่ 23-24 สิงหาคม ที่ สนามโมบิลิตี้ รีสอร์ท โมเตกิ (Mobility Resort Motegi) ประเทศญี่ปุ่น

แฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ต ร่วมติดตามข่าวสารของ นักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กเฟซบุ๊กฮอนด้าเรซทูเดอะดรีม : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH

#ThaiHonda #HondaRacingThailand #HondaRaceToTheDream #HondaRaceToTheChampion #RoadToMotoGP #Motorsport #AllJapan

ประวัติศาสตร์หน้าใหม่! ฮอนด้าสร้างสถิติยอดผลิตรถจักรยานยนต์ ครบ 500 ล้านคันทั่วโลก

รถจักรยานยนต์ฮอนด้า บันทึกสถิติใหม่ เผยยอดการผลิตรถจักรยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ที่ทะยานสู่ 500 ล้านคันทั่วโลก โดยนับว่าเป็นครั้งแรกของโลก* ที่บริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์สามารถทำยอดการผลิตได้ถึงระดับดังกล่าว หลังจากที่ฮอนด้าเริ่มต้นการผลิตรถจักรยานยนต์รุ่นแรก “Dream D-Type” เมื่อปี ค.ศ. 1949 หรือกว่า 76 ปีก่อน

*ข้อมูลจากการวิจัยของฮอนด้า

นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 1948 ฮอนด้า ได้พัฒนาและส่งมอบผลิตภัณฑ์รวมถึงบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในหลายประเทศและภูมิภาค ภายใต้ความเชื่อ “จุดประสงค์ของเทคโนโลยี คือการทำให้ชีวิตของผู้คนง่ายขึ้น”
ฮอนด้า เริ่มต้นการผลิตรถจักรยานยนต์ในต่างประเทศเป็นครั้งแรกที่ประเทศเบลเยียมในปี 1963 หลังจากนั้นได้สานต่อและขยายการผลิตไปทั่วโลก โดยยึดหลักการสำคัญของบริษัทคือ “ผลิตในพื้นที่ที่มีความต้องการ”
นับแต่นั้นเป็นต้นมา ฮอนด้าได้บรรลุยอดการผลิตสะสมครบ 100 ล้านคันในปี 1997 ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 200 ล้านคันในปี 2008 และ 300 ล้านคันในปี 2014 ซึ่งในปี 2018 ฮอนด้าได้สร้างสถิติใหม่ด้วยการผลิตรถจักรยานยนต์กว่า 20 ล้านคันภายในปีเดียว จนมียอดการผลิตสะสมทั่วโลกถึง 400 ล้านคันในปี 2019
แม้ว่าการผลิตรถจักรยานยนต์จะลดลงชั่วคราวในปี 2020 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่อุปสงค์ทั่วโลกก็ได้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจนกลับสู่ระดับเดียวกันกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาด
นอกเหนือจากรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ฮอนด้ายังได้กำหนดให้ปี 2024 เป็น “ปีแรกของการขยายตัวสู่ระดับโลก” ของรถจักรยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยเริ่มเปิดตัวรุ่นใหม่ ๆ เพื่อสร้างไลน์ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและครอบคลุมมากขึ้น
ปัจจุบัน ฮอนด้า มีไลน์ผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์หลากหลายประเภท ตั้งแต่รุ่นที่ตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงรุ่นขนาดใหญ่สำหรับกิจกรรมในช่วงสุดสัปดาห์ รวมถึงรถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยมีกำลังการผลิตประจำปีมากกว่า 20 ล้านคัน ใน 23 ประเทศและภูมิภาค ผ่านศูนย์การผลิต 37 แห่ง พร้อมทั้งส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ลูกค้าทั่วโลกผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายฮอนด้ากว่า 30,000 ราย
ฮอนด้า จะยังคงเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจรถจักรยานยนต์ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายและน่าดึงดูดใจ เพื่อมอบ “ความสนุกและอิสระในการเดินทาง” ให้กับลูกค้ากลุ่มต่าง ๆ อย่างทั่วถึง พร้อมทั้งยกระดับโครงสร้างธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ และมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน รวมถึงพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า
นายโทชิฮิโระ มิเบะ ผู้อำนวยการ ประธานกรรมการบริหาร และตัวแทนเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “ธุรกิจรถจักรยานยนต์คือธุรกิจที่ผู้ก่อตั้งของเราวางรากฐานไว้ และจะยังคงเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของฮอนด้าต่อไป เราสามารถสร้างความไว้วางใจจากลูกค้า ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย จนสามารถบรรลุยอดการผลิตสะสมกว่า 500 ล้านคันได้สำเร็จ”
“ผมขอขอบคุณลูกค้าและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่มีบทบาทสำคัญในความสำเร็จครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายพัฒนา ผลิต ฝ่ายขาย หรือบริการหลังการขาย ฮอนด้าจะยังคงมุ่งมั่นก้าวข้ามทุกความท้าทาย เพื่อส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง”
เส้นทางของฮอนด้าในการก้าวสู่การผลิตรถจักรยานยนต์กว่า 500 ล้านคัน

1948
บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ก่อตั้งขึ้น
1949
ฮอนด้า เปิดตัวรถ ‘Dream D-Type’ จักรยานยนต์รุ่นแรก
1958
ฮอนด้าเปิดตัว Super CUB C100 รถตระกูล Super CUB รุ่นแรก
1963
ฮอนด้า เริ่มต้นการผลิตในประเทศเบลเยียม
(การผลิตรถจักรยานยนต์นอกประเทศญี่ปุ่นครั้งแรก)
1964
ฮอนด้า เริ่มการผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศปากีสถาน
1967
ฮอนด้า เริ่มการผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย (ก่อตั้งโรงงานครั้งแรก ในปี 1965)
1968
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์ทั่วโลกของฮอนด้าทะยานสู่ 10 ล้านคันทั่วโลก
1969
ฮอนด้า เริ่มผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศมาเลเซีย
1971
ฮอนด้า เริ่มผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศอินโดนีเซีย
1973
ฮอนด้า เริ่มผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศฟิลิปปินส์
1976
ฮอนด้า เริ่มผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศบราซิล
ฮอนด้า เริ่มผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศอิตาลี
1979
ฮอนด้า เริ่มผลิตรถจักรยานยนต์ในอเมริกาเหนือ
1980
ฮอนด้า เริ่มผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศไนจีเรีย
1984
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์ทั่วโลกของฮอนด้าทะยานสู่ 50 ล้านคันทั่วโลก
1985
ฮอนด้า เริ่มผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศอินเดีย
1988
ฮอนด้า เริ่มผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศเม็กซิโก
1992
ฮอนด้า เริ่มผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศจีน
1997
ฮอนด้า เริ่มผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศเวียดนาม
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์ทั่วโลกของฮอนด้าทะยานสู่ 50 ล้านคันทั่วโลก (ภายใน 48 ปี)
2004
ฮอนด้า สร้างประวัติศาสตร์ผลิตรถจักรยานยนต์เกิน 10 ล้านคันต่อปีเป็นครั้งแรก
2006
ฮอนด้า เริ่มผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศอาร์เจนตินา
2007
ฮอนด้า เริ่มผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศเปรู
2008
ฮอนด้า สร้างประวัติศาสตร์ผลิตรถจักรยานยนต์ทั่วโลกครบ 200 ล้านคัน
(11 ปีนับตั้งแต่ผลิตครบ 100 ล้านคัน)
2013
ฮอนด้า เริ่มผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศบังกลาเทศ
ฮอนด้า เริ่มผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศเคนยา
2014
ฮอนด้า สร้างประวัติศาสตร์ผลิตรถจักรยานยนต์ทั่วโลกครบ 300 ล้านคัน
(6 ปีนับตั้งแต่ผลิตครบ 200 ล้านคัน)
2018
ฮอนด้า สร้างประวัติศาสตร์ผลิตรถจักรยานยนต์กว่า 20 ล้านคันต่อปีเป็นครั้งแรก
2019
ฮอนด้า สร้างประวัติศาสตร์ผลิตรถจักรยานยนต์ทั่วโลกครบ 400 ล้านคัน
(5 ปีนับตั้งแต่ผลิตครบ 300 ล้านคัน)
2025
ฮอนด้า สร้างประวัติศาสตร์ผลิตรถจักรยานยนต์ทั่วโลกครบ 500 ล้านคัน
(6 ปีนับตั้งแต่ผลิตครบ 400 ล้านคัน)

“ฮอนด้า” แรงต่อเนื่อง! คว้าโพเดียม โมโตจีพี 2 สนามติด

“ซาร์โก” ซิวรองแชมป์ “ก้อง-สมเกียรติ” ฮึดสู้จบเรซ

“ฮอนด้า” ส่งสัญญาณที่ดีในการคัมแบ็ก แรงต่อเนื่อง สู่ความยิ่งใหญ่ในศึก โมโตจีพี ล่าสุดคว้าโพเดียม 2 สนามติด จากผลงานร้อนแรงของ “โยฮันน์ ซาร์โก” นักบิดชาวฝรั่งเศสจาก ฮอนด้า แอลซีอาร์ บิดเข้าป้ายอันดับ 2 จาก บริติช กรังด์ปรีซ์ ขณะที่ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีไทยฝืนเจ็บสู้จนจบเรซเก็บข้อมูลจาก ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต สหราชอาณาจักร เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ศึก บริติช กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วรอบ “เมนเรซ” ท่ามกลางเหตุวุ่นวายในช่วงต้นเรซ จากการพลาดล้มของนักบิดหลายคน ก่อนจะมีธงแดงเพื่อเริ่มการแข่งขันใหม่ ลดระยะทางลงเหลือ 19 รอบสนาม โดย “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ ฝืนอาการบาดเจ็บเริ่มต้นเรซจากกริดที่ 22

เกมเรซนี้แสดงให้เห็นความคืบหน้าอย่างมากของการพัฒนารถแข่ง Honda RC213V โดย “โยฮันน์ ซาร์โก” นักบิดเฟรนช์จาก ฮอนด้า แอลซีอาร์ สร้างผลงานร้อนแรงอีกครั้ง สตาร์ตกริดที่ 9 ทะยานเข้าป้ายในอันดับ 2 ด้วยเวลารวม 38 นาที 20.125 วินาที ตามหลังผู้ชนะ 4.088 วินาที พารถแข่งฮอนด้าคว้าโพเดียม 2 สนามติดต่อกัน หลังชนะสนามที่ผ่านมาที่ เลอมองส์

ขณะที่ “ก้อง-สมเกียรติ” ยอดนักบิดไทยหมายเลข 35 กัดฟันสู้บิดจบเรซเพื่อเก็บข้อมูลในอันดับที่ 19 ส่วน “ลูก้า มารินี” นักบิดอิตาเลียน หมายเลข 10 จาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี ตามเข้าป้ายในอันดับที่ 8 และ “โจอัน เมียร์” ทีมเมทชาวสแปนิช หมายเลข 36 ในอันดับที่ 11

ด้าน “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ดาวรุ่งชาวไทย หมายเลข 5 จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย เริ่มเกมจากกริดที่ 22 ทะยานตามหลังกลุ่มลุ้นแต้ม ขึ้นมาคว้าอันดับ 19 ในศึก โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ

ทั้งนี้ ศึก โมโตจีพี 2025 สนามถัดไป จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6-8 มิถุนายนนี้ ที่ มอเตอร์แลนด์ อารากอน ประเทศสเปน ในรายการ อารากอน กรังด์ปรีซ์

แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กฮอนด้าเรซทูเดอะดรีม: https://facebook.com/HondaRacingTeamTH

#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #Motorsport #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #LCRHondaTeam #LCRHonda #IdemitsuHondaLCR #SC35 #Kong #TheFirstThaiRiderInMotoGP #JZ5 #HondaHRCCastrol #JM36 #LM10 #HondaTeamAsia #TB5 #Gonz #BritishGP

Zarco คว้าโพเดี้ยม BritishGP

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา จบการแข่งขันในอันดับ 19
การแข่งขัน BritishGP รอบ Main Race ที่ Silverstone Circuit ประเทศอังกฤษ Zohan Zarco #5 จาก Castrol LCR Honda เริ่มการแข่งขันจากกริดสตาร์ทที่ 9 อาศัยความเก๋าไล่แซงทีละคัน จนจบการแข่งขันในอันดับที่ 2 ด้าน “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา #35 จาก Idemitsu LCR Honda เริ่มเกมจากกริดที่ 22 และจบการแข่งขันในอันดับที่ 19 ส่วน Luca Marini #10 จาก Honda HRC จบการแข่งขันด้วยอันดับ 8 และ Joan Mir #36 จบการแข่งขันอันดับ 11

“ฮอนด้า” ดีต่อเนื่อง! “ซาร์โก” คว้าท็อป 5 ซิลเวอร์สโตน

“ก้อง-สมเกียรติ” ฮึดสู้บิดสปรินต์เรซ 

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดโมโตจีพีชาวไทย จากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” กัดฟันบิดสู้ความเจ็บปวด เก็บข้อมูลสำคัญจาก “สปรินต์เรซ” ในศึก โมโตจีพี สนาม 7 รายการ บริติช กรังด์ปรีซ์ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่ ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต สหราชอาณาจักร ด้าน “โยฮันน์ ซาร์โก” ทีมเมทชาวฝรั่งเศส บิดคว้าท็อป 5 ขณะที่ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี คว้ากริดแถว 8 โมโตทรี ลุ้นล่าแต้มวันอาทิตย์นี้

โดยในเรซนี้ นักบิดขวัญใจชาวไทยบิด Honda RC213V หมายเลข 35 ออกสตาร์ตจากกริดที่ 22 ไต่ขึ้นไปถึงอันดับ 19 ก่อนที่อาการบาดเจ็บจะรบกวนหลังผ่านรอบที่ 3 และจบการแข่งขันในอันดับ 21 ด้วยเวลารวม 20 นาที 26.189 วินาที ด้านทีมเมท “โยฮันน์ ซาร์โก” หมายเลข 5 เก็บแต้มได้สำเร็จ ไล่แซงจากกริดที่ 9 ขยับขึ้นมาคว้าอันดับที่ 5 ตามหลังผู้ชนะ 6.707 วินาที

ส่วน “ลูก้า มารินี” นักบิดอิตาเลียน หมายเลข 10 จาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี จบเรซในอันดับที่ 10 ตามด้วย “โจอัน เมียร์” ทีมเมทชาวสแปนิช หมายเลข 36 จบในอันดับที่ 12 และ “อเลช เอสปาร์กาโร” นักบิดทดสอบชาวสแปนิช หมายเลข 41 จบในอันดับที่ 17

หลังจบ สปรินต์เรซ “ก้อง-สมเกียรติ” เปิดเผยว่า “หลังผ่านรอบที่ 3 ผมเริ่มมีปัญหากับแขนขวา แต่ผมต้องการจบสปรินต์เรซให้ได้เพื่อเก็บข้อมูลและความรู้สึกอย่างไรในการขับขี่ วันพรุ่งนี้ (เมนเรซ) จะเป็นวันที่ยากแน่นอน แต่ผมจะทำสุดความสามารถ ขอบคุณทีมสำหรับการทำงานที่ยอดเยี่ยม”

ด้าน “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี นักบิดดาวรุ่งชาวไทย หมายเลข 5 จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย คว้ากริดที่ 22 ด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 11.864 วินาที จะลุ้นแต้มโดยเริ่มเกมจากแถวที่ 8 ของการแข่งขันในรุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ

ทั้งนี้ ศึก บริติช กรังด์ปรีซ์ จะแข่งขันรอบ “เมนกรังด์ปรีซ์” ในวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม เริ่มต้นด้วยรุ่น โมโตทู เวลา 17.15 น. ต่อด้วย โมโตจีพี 19.00 น. และปิดท้ายด้วย โมโตทรี 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง TrueVisions SPOTV

แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กฮอนด้าเรซทูเดอะดรีม: https://facebook.com/HondaRacingTeamTH

#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #Motorsport #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #LCRHondaTeam #LCRHonda #IdemitsuHondaLCR #SC35 #Kong #TheFirstThaiRiderInMotoGP #JZ5 #HondaHRCCastrol #JM36 #LM10 #HondaTeamAsia #TB5 #Gonz #BritishGP

“กวาร์ตาราโร” รั้งรองจ่าฝูงวันแรก ซิลเวอร์สโตน “ยามาฮ่า” พาเหรดตีตั๋ว Q2 บริติช จีพี 3 คันรวด

ทัพนักบิดยามาฮ่า สร้างผลงานยอดเยี่ยมซ้อมวันแรก โมโตจีพี 2025 สนาม 7 บริติช กรังด์ปรีซ์ โดยสามารถทะลุเข้าสู่รอบ Q2 ได้ถึง 3 คัน จากการรั้งรองจ่าฝูงของ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ขณะที่ แจ็ค มิลเลอร์ และ อเล็กซ์ รินส์ กอดคอคว้าอันดับ 3 และ 9 จากการซ้อมรอบตัดตัว มีลุ้นล่าอันดับกลุ่มหน้าในสุดสัปดาห์นี้ ที่ ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต สหราชอาณาจักร

ศึก บริติช กรังด์ปรีซ์ ออกสตาร์ตการซ้อมวันแรกในช่วงค่ำวันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยสถานการณ์ของ ยามาฮ่า เริ่มส่งสัญญาณที่ดีในการพัฒนารถแข่ง M1 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในสนามนี้หลังมีการอัปเกรดเครื่องยนต์ ก็ได้รับการอัปเดต “แอโรไดนามิกส์” ส่วนหน้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

ความพยายามของ ยามาฮ่า เห็นผลอย่างชัดเจนในการซ้อมรอบแบ่งกลุ่ม (PR) และสามารถผ่านเข้าสู่ Q2 ได้ถึง 3 คัน โดยผลปรากฏว่า ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลกโมโตจีพีปี 2021 จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี บิดคว้าอันดับ 2 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 57.342 วินาที ตามหลังจ่าฝูงเพียง 0.047 วินาทีเท่านั้น

ขณะที่ แจ็ค มิลเลอร์ นักบิดออสเตรเลียนจาก พรีมา พรามัค ยามาฮ่า โมโตจีพี จบวันแรกในอันดับ 3 ตามหลัง 0.347 วินาที ตามด้วย อเล็กซ์ รินส์ นักบิดสแปนิชจากทีมโรงงานในอันดับ 9 ตามหลัง 0.524 วินาที โดยมีเพียง มิเกล โอลิเวียร่า นักบิดโปรตุกีส จาก พรามัค ที่ต้องลุ้นใน Q1 หลังจบวันแรกในอันดับ 13 ตามจ่าฝูง 0.704 วินาที

ทั้งนี้ ศึก บริติช กรังด์ปรีซ์ จะจับเวลารอบควอลิายเพื่อจัดอันดับสตาร์ตในวันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคมนี้ ก่อนจะดวลความเร็ว “สปรินต์เรซ” ในคืนเดียวกัน จากนั้นจากแข่งขันรอบ “เมน กรังด์ปรีซ์” ในวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคมนี้ 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง SPOTV

—————————–
#YamahaSocietyThailand #RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #YamahaWorldChampion #YamahaNumber1RacingTeam
#YamahaMotoGP25 #TheBlueShift
#YamahaFactoryRacingTeam
#MonsterEnergyYamahaMotoGP #FQ20 #AR42
#PrimaPramacYamaha
#JM43 #MO88

“ก้อง-สมเกียรติ” ฝืนเจ็บซ้อมวันแรก โมโตจีพี หวังยกระดับที่ ซิลเวอร์สโตน

ศึก บริติช กรังด์ปรีซ์ ซ้อมวันแรกอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดย “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทย หมายเลข 35 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ คัมแบ็กกลับมาจากอาการบาดเจ็บ แต่ยังมีอาการปวดที่แขนจากการผ่าตัดตลอดทั้งวัน ก่อนรั้งอันดับ 22 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 59.648 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 2.353 วินาที

โดยนักบิดไทยกล่าวหลังจบการซ้อมวันแรกว่า “ดีใจที่ได้กลับมาร่วมทีมและแข่งขันอีกครั้ง วันนี้เป็นวันที่ท้าทายครับ เพราะผมยังคงรู้สึกเจ็บอยู่ ผมต้องกลับมาสู่จังหวะเดิมอีกครั้ง พรุ่งนี้ผมจะพยายามก้าวไปข้างหน้าในกระบวนการฟื้นตัว ผมต้องทำงานหนักเพื่อบรรลุเป้าหมายของเรา”

ขณะที่ “โยฮันน์ ซาร์โก” นักบิดทีมเมทชาวฝรั่งเศส หมายเลข 5 ผลงานยอดเยี่ยมผ่านเข้าสู่ Q2 ได้อีกครั้งในอันดับ 8 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 57.741 วินาที ตามผู้นำ 0.446 วินาที ตามด้วย “โจอัน เมียร์” นักบิดสแปนิช หมายเลข 36 จาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี ในอันดับ 12 และ “ลูก้า มารินี” ทีมเมทชาวอิตาเลียน หมายเลข 10 ในอันดับ 16

ด้าน “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ดาวรุ่งชาวไทย หมายเลข 5 จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย ยกระดับความเร็วได้ดีในการแข่งขัน โมโตทรี โดยจบวันแรกในอันดับ 23 ด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 11.332 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 2.228 วินาที ลุ้นขยับกริดสตาร์ตในวันเสาร์นี้

ทั้งนี้ ศึก บริติช กรังด์ปรีซ์ จะจับเวลารอบควอลิฟายและดวลความเร็วในรอบ “สปรินต์เรซ” ในวันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม ก่อนจะแข่งขันรอบ “เมนกรังด์ปรีซ์” ในวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม เริ่มต้นด้วยรุ่น โมโตทู เวลา 17.15 น. ต่อด้วย โมโตจีพี 19.00 น. และปิดท้ายด้วย โมโตทรี 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง TrueVisions SPOTV

แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กฮอนด้าเรซทูเดอะดรีม: https://facebook.com/HondaRacingTeamTH

#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #Motorsport #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #LCRHondaTeam #LCRHonda #IdemitsuHondaLCR #SC35 #Kong #TheFirstThaiRiderInMotoGP #JZ5 #HondaHRCCastrol #JM36 #LM10 #HondaTeamAsia #TB5 #Gonz #BritishGP

คู่หู Monster Yamaha ตีตั๋ว Q2 Silverstone

ในรอบ Practice ของ BritishGP ที่ Silverstone Circuit เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น คู่หูนักบิดจาก Monster Energy Yamaha MotoGP ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมตีตั๋วเข้าสู่รอบ Q2 โดย Fabio Quatararo #20 อยู่ในอันดับ 2 ด้วยเวลา 1:57.342 นาที และ Alex Rins #42 ทีมเมทอยู่ในอันดับ 9 ด้วยเวลา 1:59.819 นาที
.

นักบิดเยาวชน “Honda Academy Thailand 2025” ลงสัมผัสประสบการณ์จริงบนแทร็ค พัฒนาต่อเนื่องสนาม 3

ฝึกเข้ม Race Simulation ด้วย Honda NSF100 จ.บุรีรัมย์

โครงการ “Honda Academy Thailand 2025” สนามที่ 3 ยังคงยึดมั่นแนวทางพัฒนาเยาวชนด้วยหลักสูตรที่ต่อยอดจากประสบการณ์จริง โดยจัดการแข่งขัน Race Simulation 2 เรซ ติดต่อกัน “สร้างแรงบันดาลใจ” ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้การพัฒนา การเอาชนะตัวเอง และประเมินศักยภาพในมิติต่างๆ จากทีมโค้ช “Honda Racing Thailand” นำโดย เฮดโค้ชมุกข์ (มุกข์ลดา สารพืช) , โค้ชมิกซ์ (ธนัช ละอองปลิว) และ โค้ชไฮเปค (กฤษฎา ธนโชติ) มุ่งเน้นให้ความสำคัญในการพัฒนาฝีมือของแต่ละคนมากกว่าผลลัพธ์ของการแข่งขัน โดยสอดแทรกเรื่อง กฎ กติกา และมารยาทในสนามแข่งเพื่อปลูกฝังความเป็นนักแข่งอย่างแท้จริง ณ สนามโกคาร์ท จ.บุรีรัมย์

การแข่งขันเรซที่ 1 เป็นเวทีโชว์ความแกร่งของ “เปเปอร์” อนพัทย์ ดวงเจริญ เจ้าของหมายเลขรถเบอร์ 14 ที่ควบรถ Honda NSF100 ทะยานเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 แบบไร้ข้อกังขา ตามมาด้วย “เบสท์” ภาสกร แกล้วกล้า หมายเลข 13 ที่ไล่บี้มาติดๆ คว้าอันดับที่ 2 ไปครอง และ “มาวิน” ศรัณวัชร์ จิราวรรณรัตน์ หมายเลข 11 คว้าอันดับ 3

ช่วงบ่ายมีดวลกันต่อใน เรซที่ 2 ซึ่งคราวนี้เป็นศึกชิงธงตราหมากรุกที่เข้มข้นยิ่งขึ้น แต่ผู้นำยังคงเป็นคนเดิม! “เปเปอร์-อนพัทย์” หมายเลข 14 โชว์ฟอร์มสุดร้อนแรง บิดเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกอีกครั้ง คว้าชัยสองเรซรวด ขณะที่ “มาวิน-ศรัณวัชร์” หมายเลข 11 ขยับฟอร์มขึ้นมาอีกขั้นคว้าอันดับที่ 2 ตามด้วย “เบสท์-ภาสกร” หมายเลข 13 ยังคงโชว์ความนิ่งและแม่นยำ คว้าโพเดียมในอันดับที่ 3 มาครอง

ทั้งนี้ “Honda Academy Thailand 2025” สนามที่ 4 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 7-8 มิถุนายนนี้ ที่ สนามบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เรซซิ่ง สคูล & โกคาร์ท จังหวัดบุรีรัมย์

 

#HondaAcademy #ThaiHonda #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #HondaRacingThailand

#idemitsu #Sittipol #KrungsriAuto #KELA #Kushitani #ยำยำ #Arai #IRC #RCB #DID #NGK #KOWA #โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ #DiosDesign #GariGari #HondaChemicals #HondaBigBike #SAT #NSDF #FMSCT