“ธนกร” ประเดิมแชมป์ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ 2020

“หยก” ธนกร หลักหาญ นักบิดดาวรุ่งจากโครงการ เรซ ทู เดอะ ดรีม ของ เอ.พี. ฮอนด้า ผงาดประเดิมแชมป์สนามแรก ศึกฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ 2020 ท่ามกลางเวทเรซสุดเดือด หลังควบรถแข่ง Honda NSF250 หมายเลข 20 บิดเข้าเส้นชัยแบบม้วนเดียวจบ ขณะที่ วัชรินทร์ ทับทิมอ่อน หมายเลข 19 และ ชานน อินทร์ต๊ะ หมายเลข 7 ฮึดสู้ไม่ถอยได้ฉลองชัยบนโพเดี้ยม ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบ รายการฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ ฤดูกาล 2020 หนึ่งในบันไดปั้นนักบิดไทยสู่โมโตจีพี ได้ฤกษ์เปิดฉากเกมดวลความเร็วสนามแรกแบบนิวนอร์มอล ซึ่งไม่อนุญาตให้มีผู้ชมในสนาม แต่สามารถร่วมเชียร์ผ่านการถ่ายทอดสดทางออนไลน์ จัดร่วมในรายการโออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 1-2 สิงหาคม ที่ผ่านมา

รอบชิงชนะเลิศเรซแรกจัดขึ้นในช่วงเย็นของวันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม ออกสตาร์ทเวลา 15.15 น. เรซนี้เกิดอุบัติเหตุขึ้นระหว่างแข่งและต้องใช้เวลาในการเคลียร์แทร็ก สุดท้ายทีมงานตัดสินใจให้ยุติการแข่งขันและไม่มีการเก็บคะแนนในเรซนี้

ขณะที่เรซที่สองมีขึ้นต่อเนื่องในเช้าวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม เหล่านักบิดดาวรุ่ง อายุ 13-18 ปี จากโครงการ เรซ ทู เดอะ ดรีม ของ เอ.พี. ฮอนด้า พร้อมประจำการบนรถแข่งสมรรถนะสูง Honda NSF250 สเปกเดียวกับรุ่นโมโตทรีในระดับเวิลด์กรังด์ปรีซ์ กริดสตาร์ทแรกเป็นของ ธนกร หลักหาญ หมายเลข 20 ขนาบข้างด้วยดาวรุ่งจาก เอ.พี. ฮอนด้า อะคาเดมี่ ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาในปีนี้ ได้แก่ ธนัช ละอองปลิว หมายเลข 13 และ จักรีภัทร พฤฒิสาร หมายเลข 3 ในกริดที่ 2 และ 3 ตามลำดับสำหรับผลการแข่งขันท่ามกลางสายฝนแบบเวทเรซ หลังดวลความเร็ว 15 รอบ ปรากฏว่า “หยก” ธนกร ประเดิมแชมป์เรซนี้ไปครอง หลังบิดนำม้วนเดียวจบ รับธงหมากรุกก่อนใคร ด้วยเวลา 30 นาที 40.693 วินาที อันดับที่ 2 เป็นของ วัชรินทร์ ทับทิมอ่อน หมายเลข 19 โชว์ฟอร์มร้อนแรงไล่แซงคู่แข่งจากกริดที่ 10 ตามหลังแชมป์ 4.771 วินาที และอันดับที่ 3 เป็น ชานน อินทร์ต๊ะ หมายเลข 7 ที่ฮึดสู้จากกริดที่ 5 ได้ฉลองพื้นที่บนโพเดี้ยมที่สนามช้างฯ ด้วยเช่นกัน

ศึกปั้นนักบิดไทยสู่เวทีโมโตจีพี รายการฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ 2020 สนามถัดไปมีคิวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-6 กันยายนนี้ บนสังเวียนระดับโลกเช่นเดิม ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม” และการแข่งขันฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ ตลอดปี 2020 ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม fb.com/aphondaracingth

2020 KTM 125SX

ฝั่งอเมริกายังคงเป็นตลาดหลักที่พอมีกลุ่มเล่นรถโมโตครอสเครื่องยนต์สองจังหวะจำนวนมาก หลายค่ายผู้ผลิตตยังคงสถานการณ์ทำตลาดไว้เหมือนเดิม เช่นเดียวกับที่ KTM ได้เปิดตัว 2021 KTM125SX เพื่อรักษาฐานการตลาดในอเมริกา และแน่นอนว่า นี่ก็คืออานิสสงค์สำหรับส่วนอื่นๆของโลกที่ยังคง ถวิลหามนต์สเน่ห์ของรถโมโตครอสเครื่องยนต์สองจังหวะ

ซึ่งในกลุ่มรถโมโตครอสแบบ full size bikes พิกัดเดียวกัน กล่าวได้ว่า KTM125SX เป็นรุ่นที่มีความกะทัดรัด และน้ำหนักเบามากที่สุดรุ่นหนึ่ง โดยเฉพาะรถในระดับ compettive 125cc 2T engine หรือรถแข่งพิกัด 125 ซีซี ด้วยกันนั้นองค์ประกอบในส่วนของแชสซีส์พร้อมส่วนควบต่างๆของ KTM125SX นั้น มีน้ำหนักที่เบาเป็นพิเศษและด้วยโครงสร้างแชสซีส์ที่เบากะทัดรัดจึงมีส่วนสำคัญให้นักแข่งหรือผู้ขับขี่สามารถควบคุมจังหวะการขับขี่ได้อย่างคล่องตัวเฉียบคมในทุกจังหวะ จนสามารถที่จะเค้นเอาสมรรถนะของกำลังเครื่องยนต์ที่มีออกมาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นี่คือตัวแข่งเครื่องยนต์สองจังหวะที่ทรงประสิทธิภาพ ที่พร้อมมีส่วนสำคัญในการพัฒนานักแข่งในระดับวัยรุ่นได้ก้าวขึ้นไปสู่ระดับมืออาชีพด้วยสมรรถนะอันทรงประสิทธิภาพของตัวแข่งโมโตครอส อย่าง KTM125SX

ด้วย know how ล่าสุดทางด้านวิศวกรรม ของ KTM ที่ได้พัฒนาเครื่องยนต์สองจังหวะของ 125SX ให้มีกำลังเครื่องยนต์ที่ดุดันเปี่ยมประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งกำลังในแต่ละรอบของการทำงานของเครื่องยนต์นั้นสามารถส่งต่อกำลังได้อย่างต่อเนื่อง ผู้ขับขี่สามารถควบคุมได้ง่ายและเค้นกำลังสูงสุดออกมาได้ตามต้องการในแต่ละจังหวะการขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์ขนาดกะทัดรัด ทนทาน และมีกำลังที่โดดเด่นมากที่สุดในพิกัดเดียวกัน ทำให้ KTM125SX นี้ เป็นรถแข่งที่พร้อมจะทำความเร็วต่อรอบได้ดียิ่งขึ้นและนำมาซึ่งผลงานในสนามที่ดีกว่าเดิม เฟรมของ 125SX นี้ยังคงเอกลัษณ์เช่นที่ผ่านมาด้วยโครงสร้าง hydroformed chromium molybdenum steel tubes ที่ใช้หุ่นยนต์ในการเชื่อมต่อชิ้นส่วนได้อย่างสวยงามแม่นยำ และสามารถควบคุมคุณภาพการผลิตได้ในระดับสูง

นอกจากความแข็งแกร่ง เบาแล้วเฟรมยังมีความเที่ยงตรงแม่นยำในมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด และด้วยความแข็งแกร่งของโครงสร้างเฟรม จึงมีส่วนทำให้การควบคุมรถเป็นไปได้อย่างมั่นคง สามารถรักษาความเร็วไว้ได้อย่างสม่ำเสมอในทุกจังหวะการขับขี่ แล้วเมื่อมีการติดตั้งองค์ประกอบ “ชั้นดี” เข้าไปประกอบร่างกับเฟรมชั้นยอด จึงทำให้ ประสิทธิภาพต่างๆ ที่ได้รับนั้น ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ ระบบกันสะเทือน ที่มีความนุ่มนวล รองรับแรงกระแทกได้อย่างดี ซับเฟรมอลูมิเนียมน้ำหนักเบา บังโคลนหลังที่มีความแข็งแรงมั่นคง พักเท้าแบบ no dirt ที่สามารถลดหรือสลัดบการยึดติดของเศษดินโคลนได้ดี พร้อมทั้งสามารถเลื่อนกลับสู่ตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ เป็นต้น

ซึ่งส่วนประกอบเหล่านี้ล้วนมีน้ำหนักเบาแข็งแรง หรือแม้แต่เบาะนั่งที่ออกแบบมิติของเบาะได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งมีการออกแบบชุดคลุมเบาะที่มีแถบซิลิโคลนที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะ มีส่วนเสริมให้ผู้ขับขี่มีความมั่นคงในทุกจังหวะการขับขี่มากยิ่งขึ้น สำหรับสเปคพื้นฐาน ของ 2021 KTM 125SX มีดังนี้

สำหรับสเปคพื้นฐาน ของ 2021 KTM 125SX มีดังนี้

ENGINE
TRANSMISSION: 6-speed
STARTER: Kickstarter
STROKE: 54.5 mm
BORE: 54 mm
CLUTCH: Multi-plate clutch, Brembo hydraulics
DISPLACEMENT: 124.8 cm³
EMS: Kokusan
CHASSIS
WEIGHT (WITHOUT FUEL): 87.5 kg
TANK CAPACITY (APPROX.): 7.5 l
FRONT BRAKE DISC DIAMETER: 260 mm
REAR BRAKE DISC DIAMETER: 220 mm
FRONT BRAKE: Disc brake
REAR BRAKE: Disc brake
CHAIN: 5/8 x 1/4”
FRAME DESIGN :Central double-cradle-type 25CrMo4 steel
FRONT SUSPENSION: WP XACT-USD, Ø 48 mm
GROUND CLEARANCE: 375 mm
REAR SUSPENSION: WP XACT Monoshock with linkage
SEAT HEIGHT: 850 mm
STEERING HEAD ANGLE: 63.9 °
SUSPENSION TRAVEL (FRONT): 310 mm
SUSPENSION TRAVEL (REAR): 300 mm

New Yamaha Tenere700 Rally Edition

ในบ้านเราเพิ่งจะเปิดตัวขาย Tenere700 ตามหลังยุโรปไปได้ไม่นาน ทางฝั่งยุโรปก็ส่งเวอร์ชั่นล่าสุดออกมาเป็นทางเลือกเพิ่มเติมด้วย Tenere700 Rally Edition ที่มาพร้อมกับ โทนสีอันเป็นสัญลักษณ์ที่คุ้นเคยกันดีสำหรับคนที่ติดตามผลงานของ Yamaha ในรายการแรลลี่ดาการ์ และนี่คือ Iconic Dakar heritage colours ที่ย้อนไปถึง Tenere โมเดลแรกซึ่งผลิตออกมาจำหน่ายในปี 1983 ที่มาด้วยโทนสีน้ำเงินเหลืองพร้อมลวดลาย speed block อันเป็นเอกลักษณ์ของ Yamaha

ก่อนจะถึงคราวกำเนิดของ Tenere นั้น ต้องย้อนไปในปี 1976 ที่ Yamaha ได้เปิดตัวรถในสไตล์ Dual purpose อย่าง XT500 เครื่องยนต์สี่จังหวะสูบเดียว มีคาแรคเตอร์ไปในทางรถเอ็นดูโร่ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีในยุโรป จากนั้นรถรุ่นนี้ก็เริ่มปรากฏในสังเวียนการแข่งขันเมื่อผู้ใช้นำไปลงแข่งขัน อย่างนักขี่ชาวฝรั่งเศส ได้นำไปลงแข่งแรลลี่ จากนั้นในระหว่างช่วงเดือนธันวาคม ปี 1978 รถรุ่นนี้ก็เป็นจำนวนหนึ่งใน 182 คันที่ลงแข่งดาการ์แรลลี่ และนับจากนั้นมา XT500 ก็กลายเป็นรถที่ขายดีมากที่สุดรุ่นหนึ่งในยุโรป ควบคู่กับความสำเร็จของการคว้าชัยชนะใน DakarRally ด้วยกระแสความสำเร็จในฐานะรถแข่งแรลลี่นี้เองจึงทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะสร้างรถในแบบแอดเวนเจอร์แท้ๆออกมาสู่ตลาด ด้วยการมีถังเชื้อเพลิงที่มีความจุมากพอสำหรับการเดินทางไกล ระบบกันสะเทือนที่มีระยะยุบตัวมากพอสำหรับรองรับทุกสภาพเส้นทางพร้อมกับระบบกันสะเทือนหลังแบบโช้คอัพเดี่ยวโมโนครอส และนี่คือรถโปรดักชั่นในประเภทแอดเวนเจอร์รุ่นแรกของ Yamaha มาในชื่อ XT600Z Tenere ที่ผลิตออกมาในปี 1983 และนับตั้งแต่ผลิตออกมาในฐานะรถ โปรดักชั่นแล้ว XT600 Z Tenere นี้ ยังได้ถูกนำไปใช้เป็นรถแข่งโดยทีมแข่งอิสระต่างๆอีกด้วย

หลังจากที่ Tenere700 เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี 2019 ก็กลายเป็นรถรุ่นหนึ่งที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้ทั่วโลกด้วยเครื่องยนต์ที่เน้นเรื่องแรงบิดและมีพละกำลังที่ดี จาก CP2 engine ซึ่งมีความจุ 689 ซีซี พร้อมตอบสนองการใช้งานในแบบออฟโรด และมีคุณสมบัติรองรับการเดินทางไกล ร่วมด้วยการตอบสนองที่สะดวกสบายขณะขับขี่บนทางไฮเวย์ ที่ผู้ขับขี่จะได้รับจาก Tenere700 และเพื่อเพิ่มทางเลือก จึงได้ส่งเวอร์ชั่นล่าสุด Tenere700 Rally Edition ที่มาพร้อมกับโทนสีน้ำเงินเหลือง พร้อมลวดลาย speedblock ตามแบบฉบับของตัวแข่งแรลลี่ ในปี 83-84 จากสังเวียน Dakar Rally เราคงจะไม่พูดถึงสเปคพื้นฐานของ Tenere700 ที่เป็นพื้นฐานเดียวกับ Tenere700 Rally Edition แต่จะกล่าวถึงเฉพาะองค์ประกอบเพิ่มเติมที่ทาง Yamaha บอกว่า เป็น high specification เหนือกว่ารถเวอร์ชั่นสแตนดาร์ด ที่มีการติดตั้งชิ้นส่วนเพิ่มเติมเพื่อยกระดับการป้องกันตัวรถ อาทิ chassis protection ที่คอยป้องกันตัวรถขณะนำไปขับขี่ในเส้นทางออฟโรด ด้วยแผ่นอลูมิเนียมที่มีความหนา 4 มม. ซึ่งติดตั้งมาจากโรงงาน หรือแม้แต่ heavy duty skid plate ที่เป็นการ์ดคอยปกป้องการกระแทกเครื่องยนต์ และป้องกันการกระแทกที่บริเวณชิ้นส่วนของเฟรมด้านล่าง รวมทั้ง aluminium radiator protector ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันความเสียหายของชิ้นส่วนหม้อน้ำ และยังรวมถึงชิ้นส่วน aluminium chain guard ที่ชิ้นส่วนเหล่านี้ออกมาเพื่อเพิ่มการป้องกันโครงสร้างตัวรถจากการกระแทกหรือขูดขีดจากสิ่งต่างๆระหว่างการขับขี่ในเส้นทางออฟโรดนั่นเอง

มาที่ส่วนของเบาะนั่งได้ปรับมาเป็นเบาะนั่งที่เหมาะกับการใช้งานในแบบแรลลี่ ด้วย one-piece rally seat ที่เป็นเบาะแบบชิ้นเดียวซึ่งมีความสูงเพิ่มจากเดิม 20 มม. ทำให้ตำแหน่งเบาะนั่งสูงอยู่ที่ 895 มม. ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถขยับปรับเปลี่ยนช่วงขาได้สะดวกยิ่งขึ้น ทำให้ง่ายต่อการเคลื่อนไหวในการปรับเปลี่ยนจากการนั่งขี่มาเป็นยืนขี่ระหว่างตะลุยไปบนทางออฟโรด พร้อมกันนี้ยังมี grip pads ซึ่งเป็นแผ่นยางพิเศษที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานกับ Tenere700 Rally Edition ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้สะดวกขึ้น โดยด้านในของช่วงขาจะสามารถยึดเกาะกับรถได้ดีขึ้น เช่นเดียวกับชุดแฮนเดิ้ลบาร์ที่มาแบบออฟโรดสไตล์ที่ปรับองศาให้เหมาะสมกับการใช้งานกับ off road handlebar grips และรายละเอียดอื่นๆ ของ Tenere700 Rally Edition มีข้อมูลดังนี้

Engine type : liquid-cooled, 4-stroke,
4-valves, DOHC, 2-Cylinder
Displacement : 689cm³
Bore x stroke : 80.0mm x 68.6mm
Compression ratio : 11.5:1
Maximum power : 54.0kW@9000rpm
Maximum Torque : 68.0Nm@6500rpm
Lubrication system : Wet sump
Clutch Type : Wet, Multiple Disc
Ignition system : TCI
Starter system : Electric
Transmission system : Constant Mesh, 6-speed
Final transmission : Chain
Carburettor : Fuel Injection
Frame : Steel tube backbone, Double cradle
Front suspension system : Upside down
telescopic fork
Rear suspension system : Swingarm, (Link type suspension)
Front travel : 210mm
Rear Travel : 200mm
Front brake : Hydraulic dual disc, Ø 282mm
Rear brake : Hydraulic single disc, Ø 245mm
Front tyre : 90/90 R21 M/C 54V M+S – Spoke wheels with Pirelli Scorpion Rally STR
Rear tyre : 150/70 R18 M/C 70V M+S – Spoke wheels with Pirelli Scorpion Rally STR
Overall length : 2,370mm
Overall width : 910mm
Overall height : 1,455mm
Seat height : 895mm
Wheel base : 1,595mm
Minimum ground clearance : 240mm
Wet weight (including full oil and fuel tank) : 204kg
Fuel tank capacity : 16L

New Honda Forza 350 Test Ride

ฮอนด้า ฟอร์ซา 350 รุ่นใหม่ (Honda Forza 350) พร้อมอัพเกรดเครื่องยนต์ใหม่หมด ออพชั่นแน่นขึ้นกว่าเดิม เพิ่มเติมคืออัตราเร่งสุดจี๊ดจ๊าด หล่อแบบมีเขี้ยวเล็บ

รถบิ๊กสกู๊ตเตอร์รุ่นยอดนิยมในบ้านเรา รุ่นใหม่นี้นอกจากรูปลักษณ์จะถูกเหลาให้มีเส้นสายที่คมชัดเจนมากขึ้นกว่าเก่า การออกแบบช่องอากาศด้านข้างแฟริ่งให้ไหลผ่านและช่วยในการทรงตัวที่ดีขึ้น รวมไปถึงมุมเทลที่ปรับใหม่ให้การเข้าโค้งง่ายดายแน่นอน New Honda Forza 350 รุ่นใหม่ จะมีความกระฉับกระเฉง และคล่องตัวเพิ่มมากขึ้นในส่วนชิลด์หน้ายังคงเป็นการปรับด้วยระบบไฟฟ้าเพิ่มความสูงจากเดิม 110 มม. เป็น 150 มม. ปรับได้ที่สวิตช์แฮนด์ด้านซ้าย และตัวรถมาพร้อม Smart key ที่ใช้งานได้สะดวกสามารถบิดเพื่อเปิดระบบและสตาร์ทเครื่องยนต์ได้เลยโดยไม่ต้องเสียบกุญแจ ในส่วนช่องสัมภาระใต้เบาะขนาดใหญ่ รุ่นนี้สามารถเก็บหมวกกันน็อคได้พร้อมกันถึง 2 ใบ

ลื่นขึ้น แรงขึ้น ด้านขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์ eSP+ แบบ 4 วาล์ว ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI 4 จังหวะ แบบซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมระบบ Honda Selectable Tourque Control ป้องกันล้อหมุนฟรีท้ายสไลด์ไม่ให้เสียการทรงตัวให้แรงม้าเพิ่มขึ้น 4 ตัว New Honda Forza 350 มาพร้อมกับวงล้อหน้าขนาด 15 นิ้ว และล้อหลังขนาด 14 นิ้ว โช้คอัพด้านหน้าแบบเทเลสโคปิกจะมีขนาด 33 มม. เท่านั้น บางลงกว่าโมเดลเดิมที่มีขนาด 35 มม. ส่วนด้านหลังจะเป็นแบบทวินโช้คที่สามารถปรับระยะพรีโหลดได้ถึง 7 ระดับ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานระบบดิสก์เบรกหน้า/หลัง ที่มาพร้อมกับ ABS แบบ 2 channel เช่นเดียวกับรถบิ๊กไบค์ ในขณะที่หน้าจอแสดงผลนั้นเป็นแบบดิจิตอลผสมกับอนาล็อค ซึ่งให้ความสดใหม่และโฉบเฉี่ยวกว่าเดิม สะดวกสบายกับ In-console USB Charger & Bottle Holder ที่เก็บของคอนโซลหน้าขนาดใหญ่ พร้อมที่วางขวดน้ำในตัว รองรับไลฟ์สไตล์ดิจิตอลด้วยที่ชาร์ทไฟสำรองอเนกประสงค์แบบ USB Charger Type C สีที่เปิดตัวกันในปีนี้นั้นจะมี สีน้ำเงิน-ดำ สีดำ, สีแดง-ดำ และ สีขาว-น้ำเงิน ในราคาเปิดตัวที่ 173,500 บาท

ความคิดเห็นนักทดสอบ
จตุรงค์ หมื่นทิพย์
ได้ลองขับขี่แล้วววว…กลุ่มแรกของประเทศไทยเลย
มีความหรู พรีเมี่ยม แต่ซ่อนเขี้ยวเล็บที่แหลมคม อัตราเร่งม้าดีดเร้าใจตั้งแต่ออกตัว เพราะใส่ม้าเพิ่มมาให้อีก 4 ตัว อัพไซส์ลูกสูบจาก 72 มม. เป็น 77 มม. ความจุเป็น 330 ซีซี หัวเว้า 4 วาล์ว พร้อมค่าสปริงใหม่ ก้านข้อเหวียงใหญ่ เครื่องยนต์นิ่งเงียบลดอาการสั่นด้วยการเสริมเพลาบาร์ล้านซ์เซอร์ที่ข้อเหวี่ยง ทำให้รอบเดินเบาพลาสติกไม่มีกระพรือให้รำคาญ
ท่านั่งไม่ต่างจากตัวเดิม วิ่งฉลุยลดการปะทะลมด้วยวินชิลด์ทรงสูง 150 มม. กรองอากาศขนาดใหญ่เปิดคันเร่งรอบสูงไม่ต้องกังวลเรื่องการดูดอากาศเข้าไปเผาไหม้ เรือนลิ้นเร่งแบบยิงตรง เห็นว่าหม้อน้ำย้ายไปข้างหน้าเพื่อให้ลมผ่านได้ดีและเสริมพัดลมไฟฟ้าระบายความร้อนอีกตัว แหม…แบบนี้ก็เย็นสบายเลยสิชุดหลังทดอัตรากำลังส่งเฟืองท้ายปรับใหม่ เม็ดแรงเหวี่ยงเพิ่มน้ำหนักเป็น 21 กรัม ต้นจัด ปลายไหล สายพานหน้ากว้างและยาวขึ้น ทำงานฉับไวด้วยชุดคลัทช์ 5 แผ่น (จาก 3 แผ่น) ดิสก์เบรก ABS 2 Channels แยกการทำงานหน้า/หลัง สั่งหยุดหนึบๆ ระบบแทร็คชั่นสั่งทำงานเร็วเมื่อล้อหลังสัมผัสกับฝุ่นทราย หินกรวด หรือน้ำ
สรุปโดยรวมๆ แล้ว มีอัตราเร่งที่ฉับไวติดมือมากขึ้น เครื่องยนต์นิ่ง เงียบ ราคาแพงกว่า ตัว 300 นิดหน่อย แต่รับรองว่าอร่อยเหาะแน่นอน

Benelli TNT 600i Naked Bike For Fun Ride

สวย เท่ ดูดี แบบไม่มีที่สิ้นสุดกับไอเดียการแต่งรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นกระแสที่ฮิตติดต่อกันมาเป็นสิบๆ ปี ถึงแม้จะมีการพัฒนารูปแบบของตัวรถหรืออุปกรณ์ของแต่งตามยุคสมัย แต่คนชอบความโดดเด่นบนท้องถนนก็ยังมีอย่างต่อเนื่อง

จะแต่งอย่างไรมันก็อยู่ที่ไอเดียของแต่ละคนรับรองได้เลยว่าไม่เหมือนใครกับ
Benelli 600i รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ขนาด 600 ซีซี 4 สูบเรียง สไตล์เน็กเก็ดที่ชาวไบค์
เกอร์หลายๆ คนชื่นชอบกับสมรรถนะความเร้าใจ สามารถขับขี่ใช้งานได้คล่องตัว ทั้งในเมือง และการเดินทางท่องเที่ยว

Benelli 600i คืออีกหนึ่งของรถบิ๊กไบค์ที่มีผู้ขับขี่ทั่วประเทศ และมีการปรับแต่งเพิ่มเติมความสวยโดดเด่นด้วยของอุปกรณ์ของแต่งมากมาย ทำให้มีความน่าขับขี่มากยิ่งขึ้น สำหรับเน็กเก็ดไบค์คันนี้ ถูกปรับให้ตำแหน่งท่านั่งก้มหมอบยิ่งกว่าเดิม สลัดคราบเน็กเก็ดธรรมดาจากแฮนด์บาร์ด้วยการใส่ชุดแฮนด์อลูมินัมแบบจับหัวโช้ค ขยับตำแหน่งลงต่ำ และใส่สวิตช์ครบครันเพื่อการใช้งานที่สะดวก ที่ปลายแฮนด์เป็นตำแหน่งของกระจกมองหลังสไตล์คาเฟ่ ก้านเบรกเหรียญปรับระดับสำหรับใช้กับแท้งค์แรงดันกล่องเหลี่ยม ต่อสายไล่น้ำมันถักเชื่อมต่อกับชุดดับเบิ้ลดิสก์เบรกหน้า คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ เรเดียลเม้าท์ เป็นแบรนด์ของ Benelli จานดิสก์แบบให้ตัวขนาด 300 มม. โช้คอัพหน้าหล่อเต็มๆ กับ UpSide-Down
ไฟหน้าโคมเดี่ยวทรงสปอร์ต เรือนไมล์ดิจิตอลอ่านค่าได้ง่ายเห็นเด่นชัดด้วยจอ LED ถังน้ำมันแบบครอบด้วยวัสดุ ABS เสริมความบึกบึน ปีกข้างหม้อน้ำออกแบบด้วยมุมเหลี่ยมให้ตัดอากาศไม่เสียการทรงตัว เบาะนั่ง ปรับแต่งใหม่ปาดเว้าลึกรองรับท่านั่งที่กระชับด้วยชุดพักเท้าเกียร์โยง และเปลือยชิ้นแฟริ่งส่วนไฟหลังมาเป็นแผงด้วยหลอด LED

ช่วงหลังรองรับการทำงานรับแรงกระแทกด้วยโช้คอัพเดี่ยววางอยู่ด้านข้าง กับโช้คอัพแก๊ส Gazi พร้อมด้วยแท้งค์แบบบิ้วท์อิน สามารถปรับตั้งค่าการทำงานรีบาวด์ได้ตามน้ำหนักหรือตามสไตล์ของผู้ขับขี่ ยัดติดทำงานร่วมกับสวิงอาร์มขนาดใหญ่ ด้านข้างดุดันด้วยปลายท่อคู่ท่อด้วยสีดำ วงล้อแม็ก 17 นิ้ว ก้านแบบตัว Y รัดแน่นด้วยยางหน้ากว้างพร้อมสำหรับการขับขี่ที่สนุกทุกการเข้าโค้ง

Suzuki Burgman 400 พรีเมี่ยม ด้วยดอกเบี้ยพิเศษสุด 5% ต่อปี

Suzuki Burgman 400 พรีเมี่ยม ตั้งแต่สตาร์ท กับความหรูหราและฟังก์ชั่นที่เข้ามาเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ โดดเด่นด้วยรูปทรงที่เพรียวบาง ขับขี่ง่ายทั้งรูปแบบการขับขี่ในเมืองและเดินทางไกล กับเครื่องยนต์ขนาด 400 ซีซี DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ เหนือชั้นด้วยระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Telescopic และระบบกันสะเทือนหลังแบบ Link-Type Monoshock สามารถปรับค่า Spring Preload ได้ถึง 7 ระดับ ปรับได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ โคมไฟหน้าโคมคู่แบบมัลติรีเฟลกเตอร์ที่ให้ความสว่าง ได้ดีทั้งกลางวันและกลางคืน พร้อมไฟหรี่แบบ LED ส่วนชุดไฟท้ายถูกออกแบบใหม่ทำให้ดูสปอร์ตและดูเฉียบคมมากยิ่งขึ้น ส่องสว่างชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน เบาะสามารถปรับระดับได้ถึง 2 ระดับ ทำให้ผู้ขับขี่ปรับท่านั่งได้ตามความต้องการ

อเนกประสงค์ทุกการใช้งานด้วยกล่องเก็บของใต้เบาะได้รับการออกแบบให้มีขนาดใหญ่ มีความจุถึง 42 ลิตร ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ด้วยช่องจ่ายไฟสำรองขนาด 12 โวลต์ สามารถชาร์จโทรศัพท์มือถือ ปลอดภัยทุกการขับขี่ด้วยระบบดิสก์เบรกหน้าขนาดใหญ่แบบ Twin Disc Brake ขนาด 260 มม. และดิสก์เบรกหลังขนาด 210 มม. มาพร้อมกับระบบ ABS (Antilock Brake System) นอกจากนี้ยังได้ติดตั้ง Rear Brake Lock System เพื่อป้องกันรถลื่นไถลบนพื้นที่ลาดชันขณะจอดรถ จึงช่วยให้ความมั่นใจและสะดวกสบายในทุกการใช้งาน Suzuki Burgman 400 มีให้เลือกทั้งหมด 3 สีคือ สีขาว, สีน้ำเงิน และสีดำ
Suzuki Burgman 400 มาพร้อมกับความพรีเมี่ยม ด้วยดอกเบี้ยพิเศษเพียง 5% ต่อปี เมื่อดาวน์ตั้งแต่ 15% ขึ้นไป
ฟรี! ค่าจดทะเบียน
ฟรี! พ.ร.บ.
ฟรี! ประกันรถหาย
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร 0-2533-1170, customercare@thaisuzuki.co.th, www.facebook.com/suzukisocietyhttps://burgman400.thaisuzuki.co.th/ หรือ www.thaisuzuki.co.th

เอช เซม มอเตอร์ เปิดบ้าน ต้อนรับตัวแทนจำหน่ายและดีลเลอร์ทั่วประเทศ

คุณวันชัย ลี้นะวัฒนา กรรมการผู้จัดการบริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด พร้อมวิศวกร ให้การต้อนรับและร่วมบรรยายเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติ การซ่อมบำรุง การรับประกันและการบริการหลังการขายของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เอช เซม ให้กับดีลเลอร์และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศที่เดินทางมาร่วมรับฟังข้อมูลพร้อมทดสอบสมรรถนะด้วยความสนใจ ณ สำนักงานใหญ่ เอช เซม มอเตอร์ อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด (H SEM Motor Co., Ltd.) บริษัทในเครือ ฮั้วเฮงหลี กรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รถกอล์ฟไฟฟ้า รถสามล้อไฟฟ้า และรถสามล้อเครื่องยนต์อเนกประสงค์ ภายใต้ชื่อ “เอช เซม” เพื่อตอบโจทย์ให้กับลูกค้าทั้งในกลุ่มเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการใช้ระบบขนส่งขนาดเล็ก คล่องตัว ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยระบบ เครื่องยนต์ไฟฟ้า ที่ไม่ปล่อยมลพิษออกสู่อากาศด้วยราคาที่สามารถจับต้องได้ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่เวบไซต์ https://www.hsemmotor.com/ หรือแฟนเพจ www.facebook.com/hsemmotor.sev และ www.facebook.com/hsemmotor.stc

ซูซูกิ จัดโปรฯ แน่นบูธ Gift Voucher *สูงสุด 165,000 บาท

ซูซูกิ จัดโปรโมชั่นเด็ดเพื่อคนพิเศษอย่างคุณโดยเฉพาะในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 พบกับ Gift Voucher *สูงสุด 165,000 บาท ในรุ่นของ *V-Strom 1000(L8)​ รถจักรยานยนต์ที่สุดแห่งสมรรถนะของการเดินทาง พร้อมให้ทุกท่านจับจองเป็นเจ้าของกันได้ไม่ยาก อีกทั้งยังจะได้พบกับ V-Strom 650 สีใหม่… !!! ที่มาพร้อมกับ Gift Voucher สูงสุดถึง 35,000 บาท

รถจักรยานยนต์ในตำนาน ซูซูกิ ได้จัดโปรโมชั่นออกมาให้ได้จับจองกันเป็นเจ้าของกันอีกครั้งกับ Suzuki Katana ด้วย Gift Voucher สูงสุดถึง 35,000 บาท พร้อมด้วย ฟรี! ค่าจดทะเบียน, พ.ร.บ. และบริการ​ Suzuki Big Bike Roadside Assistance
และที่พลาดไม่ได้กับ Burgman 400 สกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยม ที่มาพร้อมกับดอกเบี้ยพิเศษเพียง 5% ต่อปีเท่านั้น หากดาวน์ 15% ขึ้นไป ฟรี! ค่าจดทะเบียน, พ.ร.บ. และประกันรถหาย
นอกจากนั้นยังมีรถจักรยานยนต์ซูซูกิอีกหลากหลายรุ่นที่จัดโปรโมชั่นพิเศษ! มาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Call Center โทร 0-2533-1170, customercare@thaisuzuki.co.th, www.facebook.com/suzukisociety หรือ www.thaisuzuki.co.th

Review All New YAMAHA WR155R

2020 Yamaha WR155 R ออฟโรดเอ็นดูโร่ ทางเลือกใหม่ของสายทางฝุ่น พร้อมดีไซน์ใหม่โฉบเฉี่ยวกับขุมพลังรีดแรงมา 16 ตัว

ครั้งแรกของโลก! ฮอนด้าเชิญทดสอบขับขี่ All New Forza350 เฉพาะวันนี้ที่เมืองทองธานี

เอ.พี. ฮอนด้า ผู้นำวงการรถจักรยานยนต์ไทย เปิดรับสมัครผู้สนใจทดสอบความแรงของ All New Forza350 บิ๊กสกู๊ตเตอร์ระดับท็อปคลาสรุ่นใหม่ล่าสุดของโลก ที่มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ eSP+ สมรรถนะสูง ให้พลังความแรงสูงสุด พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซปต์ “Only For The Greatest เพราะที่สุด มีเพียงหนึ่งเดียว” ในวันอาทิตย์ที่ 19 ก.ค. 2563 ณ ลานอเนกประสงค์ข้าง AKTIV SQUARE อิมแพค เมืองทองธานี

สำหรับผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อนัดหมายเวลาทดสอบขับขี่ได้ผ่านทางออนไลน์ เพียงสแกน QR code ตามรูปที่ใช้ประชาสัมพันธ์ หรือที่บูธรถจักรยานยนต์ฮอนด้า หมายเลข M4 ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020 พร้อมกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน โดยงานเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.

#AllNewForza350 #OnlyForTheGreatest #WhatStopsYou #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า

Review All New YAMAHA WR155R

2020 Yamaha WR155 R ออฟโรดเอ็นดูโร่ ทางเลือกใหม่ของสายทางฝุ่น พร้อมดีไซน์ใหม่โฉบเฉี่ยวกับขุมพลังรีดแรงมา 16 ตัว

รีวิว เบเนลลี่ IMPERIALE400

สำหรับไบค์เกอร์ที่ชื่นชอบความคลาสสิคของรถจักรยานยนต์ด้วยการดีไซน์ความโค้งมนของรูปทรง และความโดดเด่นบนท้องถนนที่เป็นอมตะ สืบทอดจนมาถึงทุกวันนี้ คงไม่ต้องหาซื้อรถเก่า หรือเอาไปดัดแปลงให้เสียเวลาอีกต่อไป