Yamaha TTX EXTREME MONSTER

โชว์ไอเดียสไตล์การแต่งกับรถจักรยานยนต์ Yamaha TTX ออโตเมติกสายพันธุ์ใหม่ ดีไซน์สุดเท่ห์ บิดสุดมัน ในสไตล์เอ็กซ์ตรีมลูกครึ่ง ทางเรียบ และ ทางฝุ่น ที่ถูกจับมาอยู่รวมกันในรถจักรยานยนต์ออโตเมติก

คงเคยได้เห็นผ่านสายตากันไปบ้างแล้วกับสไตล์การแต่งรถ Yamaha TTX โดยสำนักแต่งต่างๆ จัดกันมาแบบเต็มที่นำเสนอไอเดียใหม่ๆ เป็นแนวทางในการแต่งรถให้กับกลุ่มวัยรุ่น แต่ละคันเท่ไม่แพ้กัน ความโดดเด่นไม่ต้องพูดถึงสภาพรูปร่างหน้าตาเดิมๆ ก็โดนใจเต็มๆ แล้ว แต่ยังไม่พอเพิ่มสำหรับสาวกออโตเมติกยามาฮ่า จัดหนักเข้าไปอีกกับสไตล์การแต่งระดับเทพ ทั้งสีสันลวดลายใหม่ ดุ เข้ม ใช้สีดำด้านเป็นพื้นหลักและตัดด้วยสีเขียวมะนาว ใส่ลายของ MONSTER ENERGY หนึ่งในผู้สนับสนุนทีมแข่งระดับโลกของทีมยามาฮ่าในการแข่งขัน MotoGP

นอกนั้นยังเพิ่มเติมความเท่ระดับเทพ

ด้วยออพชั่นเสริมสไตล์เอ็กซ์ตรีม วงล้อแม็กขนาด 12 นิ้ว ดิสก์เบรกหน้าจานเดี่ยวแบบให้ตัวด้วยโฟลท์ติ้งอลูมินัม คาลิเปอร์ Frondo ชุบโครเมี่ยม 4 พอร์ท สายถักสแตนเลสหุ้มยางเขียวย้ำด้วยหัววงแหวนสแตนเลส โช้คอัพคู่ใหม่ UpSide down ออพชั่นของแต่งสุดอินเทรนด์จาก Gazi แกนโคสติ้งสีทอง ช่วงบนแฮนด์บาร์เสริมด้วยการ์ดแฮนด์สไตล์วิบาก ก้านเบรกขาพับ และกระจกมองหลังทรงสปอร์ต นั่งสบายๆ กับเบาะปาดแต่งเรียบๆ พักเท้าจัดให้ใหม่สไตล์เกียร์โยงอลูมินัมมาวางขนาบข้างให้อารมณ์แบบเรซซิ่งสปอร์ต ช่วงหลังเด่นด้วยโช้คอัพเดี่ยวแบบยูนิตสวิง ใช้ระบบแก๊ส+น้ำมัน ของ Gazi มีซับแท้งค์บิ้วท์อิน กรองอากาศต่อยื่นออกด้านข้างทรงกระบอกอลูมินัม ฝาครอบสายพานไล่โทนสี คันสตาร์ทขาอลูมินัม CNC ดรัมเบรกหลังมือลิงทรงโค้ง พักเท้าหลังสไตล์เอ็กซ์ตรีมพิมพ์ลายกันลื่น และปิดท้ายด้วยท่อเสียปลายเคฟล่าร์เสริมสมรรถนะเครื่องยนต์ให้บิดมันเร้าใจมากยิ่งขึ้น

สวยเด่นน่ามสองและนี่ขับขี่ อัดแน่นด้วยออพชั่น รับรองแต่งสไตล์นี้โดนใจวัยรุ่นแน่นอน…หรือว่าไม่จริง

ยามาฮ่าต้อนรับขุนพลนักบิด YAMAHA THAILAND RACING TEAM อย่างยิ่งใหญ่หลังคว้าชัยจากศึก ARRC สนามที่ 2 ประเทศออสเตรเลีย

มร.ยาซูโทชิ โมริคาวะ รองผู้จัดการใหญ่ด้านวางแผนการค้า พร้อมผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ให้การต้อนรับ และถ่ายภาพร่วมกับนักแข่งในสังกัด Yamaha Thailand Racing Team หลังสร้างผลงานในการแข่งขัน Asia Road Racing Championship 2019 สนามที่ 2 ณ สนาม เดอะเบนด์ มอเตอร์สปอร์ต พาร์ค ประเทศออสเตรเลีย โดยในรุ่น Asia SuperBike 1000 แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #24 ควงคู่หูแชมป์เก่ารุ่น 600 โฟลท – รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ #56 คว้าคะแนนสะสมได้อย่างยอดเยี่ยมทั้ง 2 เรซการแข่งขัน ในรุ่น SuperSports 600 ต๋ง – พีรพงศ์ บุญเลิศ #26 คว้าชัยชนะอันดับที่ 1 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ทั้ง 2 เรซการแข่งขัน และในรุ่น Asia Production 250 มอส – สุทธิภัทร พัชรธร #86 และ โฟลค – สวพล นิลพงษ์ #56 โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจและสามารถคว้าคะแนนสะสมได้อย่างยอดเยี่ยม


โดยการต้อนรับในครั้งนี้มีขึ้น ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเร็วๆ นี้

ต้อนรับทัพนักบิด “เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” สุดอบอุ่น หลังสร้างผลงานกระหึ่ม! เบิลโพเดียมที่ออสเตรเลีย ตั้งเป้ากลับมาคว้าแชมป์ที่สนามโฮมเรซ บุรีรัมย์

ยอดทีมแข่งไทย เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ เดินทางกลับบ้านเกิดเป็นที่เรียบร้อยหลังสร้างผลงานกระหึ่ม เดอะ เบนด์ มอเตอร์สปอร์ต พาร์ค ในศึก เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนาม 2 โดย “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช นักบิดสาวแกร่งผงาดขึ้นโพเดียมทั้ง 2 เรซ ในรุ่นเอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. ขณะที่รุ่นน้องจากโครงการ เรซ ทู เดอะ ดรีม “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ก็สร้างผลงานยอดเยี่ยมไม่แพ้กันเข้าป้ายอันดับ 3 ในเรซที่ 2 ด้าน กรรณิกา กัลปพฤกษ์ ผู้จัดการทีมฯ พอใจผลงานโดยรวมของทีมที่คว้าโพเดียมทั้ง 2 เรซ ตั้งเป้าคว้าแชมป์โฮมเรซในบ้านตัวเอง ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ที่จะทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม – 2 มิถุนายนนี้

หลังจากทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ยอดทีมแข่งไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ สร้างผลงานยอดเยี่ยมในศึก เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนาม 2 ที่สนามเดอะ เบนด์ มอเตอร์สปอร์ต พาร์ค ประเทศออสเตรเลีย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่ง “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช นักบิดสาวแกร่งชาวไทย เจ้าของหมายเลข 44 ควบรถคู่ใจ Honda CBR250RR คว้าชัยอันดับ 3 ในเรซแรก และคว้าอันดับที่ 2 ในเรซที่ 2 มาครอง ขณะที่ ”ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี หมายเลย 149 ก็ทำผลงานยอดเยี่ยมเช่นกันคว้าอันดับ 3 มาครองได้สำเร็จในเรซที่ 2 ซึ่งถือว่าลงแข่งขันครั้งแรกก็สามารถคว้าโพเดียมได้ได้เลย

ล่าสุดทัพนักบิด เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ได้เดินทางถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยด้วยสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ 978 โดยมีแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตและคณะผู้บริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ต้นสังกัด รวมถึงสื่อมวลชนไทยให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา

นายอารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า กล่าวว่า “ “ขอชื่นชมและแสดงความยินดีกับนักแข่งและทีมงานทุกคนที่ต่อสู้และสร้างผลงานที่ดีกลับมาฝากแฟนๆ ชาวไทย โดยเฉพาะ “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ยอดนักบิดสาวแก่งหนึ่งเดียวของเราที่สามารถเบิ้ลโพเดียมได้ทั้ง 2 เรซ ส่วนที่น่าจับตา ”ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ดาวรุ่งของโครงการ เรซ ทูเดอะ ดรีม ที่ลงทำการแข่งขันรายการนี้เป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้เราตั้งเป้าให้ติด 1 ใน 5 แต่ ”ก๊องส์” ธัชกร ก็สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมคว้าโพเดียมมาครองได้สำเร็จ เช่นเดียวกับ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ ที่ก็โชว์ฟอร์มได้ดีเช่นกัน เชื่อว่าทั้งสองคนจะกลายเป็นกำลังหลักของทีมในอนาคต

ด้าน กรรณิกา กัลปพฤกษ์ ผู้จัดการทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า “ถือว่าโดยรวมเป็นที่น่าพอใจกับผลงาน เนื่องจากสามารถคว้าโพเดียมมาครองได้ทั้ง 2 เรซ จาก “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ที่ทำได้อันดับ 3 ในเรซแรกและสามารถก้าวขึ้นมาคว้าอันดับ 2 ได้ในเรซที่ 2 และ ”ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ที่คว้าอันดับ 3 ได้ในเรซที่ 2 ซึ่งลงแข่งขันครั้งแรกก็ประเดิมโพเดียมได้เลย ซึ่งเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม หลังจากนี้ก็จะให้นักแข่งพักผ่อนก่อนจะเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อเตรียมสู้ศึกในสนามต่อไปที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสนามโฮมเรซของเราเอง ทาง เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ มั่นใจว่าจะคว้าแชมป์มาครองให้ได้อีกครั้งหลังจากที่ มุกข์ลดา เคยทำได้ในปี 2018” กรรณิกา กัลปพฤกษ์ กล่าวปิดท้าย

“มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช นักบิดสาวแกร่งชาวไทยที่คว้าโพเดียมได้ทั้ง 2 เรซ กล่าวว่า ยอมรับเสียดายที่ไม่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ ตามที่ทีมงานตั้งเป้าหมายเอาไว้ แต่ มุกข์ ก็ได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งสนามนี้มีปัญหาคือเรื่องลมที่ค่อนข้างแรง ทำให้การคอนโทรลรถได้ยากขึ้น จึงไม่สามารถที่จะบิดได้ตามแผนที่วางเอาไว้ กลับมาครั้งนี้ก็จะกลับมาทำการบ้านในการขับมากขึ้น และฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อที่จะเตรียมสู้ในสนามโฮมเรซที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งปีที่แล้ว มุกข์ ก็คว้าแชมป์มาครองได้ มาในปีนี้ก็จะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อซิวแชมป์ให้ได้อีกครั้ง

สำหรับทัพนักบิดของ เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ที่ร่วมบินลัดฟ้าไปลุยศึก เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2019 ในสนามที่ 2 นำโดย “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ยอดนักบิดสาวแกร่งหมายเลข 44 เจ้าของแชมป์เรซ 2 ในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. สนามแรกที่ประเทศมาเลเซีย ผนึกกำลังกับ ”ก๊องส์” ธัชกร บัวศรีหมายเลข 149 ตามมาด้วย “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ หมายเลข 188 ส่วนในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. นักบิดดาวรุ่ง “นิว” กฤชพร แก้วสนธิ หมายเลข 35 และ “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ หมายเลข 123

การแข่งขัน เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนามถัดไป จะดวลความเร็วกันที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม – 2 มิถุนายนนี้ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวและผลงานของ ทัพนักบิด เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า (Honda Motorcycle Thailand)www.facebook.com/hondamotorcyclethailand/
รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า (Honda Motorcycle Thailand) – Home | Facebook
รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า (Honda Motorcycle Thailand). 1.1M likes. WHAT STOPS YOU? มุ่งไปอย่าให้ …
www.facebook.com

Ducati Hypermotard 950

ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ได้มีการปรับมิติตัวรถใหม่ทั้งหมด Overhauled ergonomics ด้วยการนำแชสซีส์ใหม่มาใช้ซึ่งเป็นแชสซีที่ว่ากันว่าทันสมัย ultra-advance chassis รวมทั้งยังได้อัพเดท electronics package ใหม่

ซึ่งทำให้ตำแหน่งท่าทางการขับขี่ของ Hypermotard 950 ใหม่นี้ ช่วยให้ผู้ขับ
ขี่สามารถสนุกสนานเพลิดเพลินกับทุกจังหวะการขับขี่ ควบคุมรถได้อย่างเต็มสมรรถนะ รวมทั้งแฮนด์เดิ้ลบาร์ที่กว้างขึ้น ตัวรถมีความเพรียวมากขึ้น เบาะใหม่ที่มีส่วนให้สามารถเปลี่ยนท่าทางการขับขี่ได้อย่างมั่นคงมากขึ้น โดยตัวรถสามารถลดน้ำหนักต่ำกว่าเดิมถึง 4 กก. เฉพาะในส่วนของเครื่องยนต์ก็สามารถลดน้ำหนักลง ได้ถึง 1.5 กก. จากเฟรมใหม่, วงล้อใหม่, ดิสก์เบรกใหม่, โช้คอัพหน้าใหม่น้ำหนักเบาของ Marzocchi ที่เป็น aluminiumfork ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ ขนาด 937 ซีซี Testastretta11 twin ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 9,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดขนาด 9.8 kgm โดยแรงบิดกว่า 80% นั้นจะเริ่มส่งกำลังออกมาในช่วง 3,000 รอบ/นาที ซึ่งพร้อมสำหรับตอบสนองการขี่ได้อย่างสนุกสนาน ทั้งบนแทร็ค และเส้นทางถนนอันคดเคี้ยว รวมทั้งสภาพการจราจรในเมือง ขณะที่ในส่วนของระบบอิเล็คทรอนิกส์ที่เป็นหัวใจสำคัญของรถสมัยใหม่นั้น ได้ติดตั้งระบบควบคุมด้วยเทคโนโลยีล่าสุดที่กล่าวว่าเป็น ultra modern electronics ด้วยระบบประมวลผล จาก Bosch 6-axis Inertial Measurement Unit(6D IMU) ที่ประกอบด้วยระบบย่อยต่างอาทิ Bosch CorneringABS, Ducati Traction Control EVO, Ducati Wheelie Control EVO, Ducati uick Shift Up and Down EVO
(DQS นี้จะติดตั้งเป็นชุดมาตรฐานเฉพาะรุ่น 950SP) ที่กล่าวมานั้นเป็นพื้นฐานของ Hypermotard 950 ที่ Ducati ออกแบบมาให้เป็น รถในแบบ fun bike ที่ตอบสนองการขับขี่ที่สนุก ด้วย Racier, more adrenalin packed, more rider friendly สั้นๆ คือให้ความตื่นเต้นเร้าใจที่มากขึ้น ให้กลิ่นอายในแบบรถแข่งโมตาร์ด และมีความเป็นมิตรกับผู้ขับขี่ ซึ่งหมายถึงควบคุมได้ง่ายนั่นเอง

โดยในเวอร์ชั่นมาตรฐาน Hypermotard 950 จะมาพร้อมกับโทนสี ducati Red
พร้อม Red frame กับ Black wheel rims ซึ่งจะใช้ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นฟอร์คของ Marzocchi forks แบบ fully adjustable ที่มีขนาดของ aluminium fork อยู่ที่ 45 มม.พร้อมระยะยุบตัว 170 มม. ส่วนโช้คอัพหลังนั้นเป็นแบบ adjustable ของ Sachs shock absorber ที่มีระยะยุบตัว 150 มม. เรือนไมล์เป็นหน้าจอแสดงผลแบบ colour TFT ขนาดความกว้างหน้าจอ 4.3 นิ้ว พร้อมกับไฟหน้าแบบ Daytime Running Light (DRL) โดยที่น้ำหนักของตัวรถอยู่ที่ 200 กก. ลดลงจากเดิม 4 กก. ส่วน เวอร์ชั่นพิเศษ Hypermotard 950SP นั้น จะมาพร้อมสี SP colour scheme พร้อมกับ red frame และ black wheel rims ซึ่งจะมีองค์ประกอบพิเศษหลัก คือ โช้คอัพหน้า Ohlins fork แบบ Fully adjustable ขนาด 48 มม. พร้อมระยะยุบตัว 185 มม. พร้อมกับกันสะเทือนหลัง Ohlins shock absorber แบบ fully adjustable ที่มีระยะยุบตัว 175 มม. โดยวงล้อเป็นแบบ Forged Marchesini wheels ร่วมด้วยชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ อย่าง front mudguard, belt covers ซึ่งตัวรถมีน้ำหนักอยู่ที่ 198 กก. ลดลงจากโมเดลเดิมสามกิโลกรัม

สรุปคือทั้งสองโมเดลใช้สเปคเครื่องยนต์พื้นฐานเดียวกัน คือ Testatretta11, L-Twin cylinder, 4valve per cylinder, Desmodromic, liquid cooled, magnesium head covers ที่มาพร้อมกับความจุ 937 ซีซี ให้กำลังขนาด 114 แรงม้า พร้อมแรงบิดขนาด 96 นิวตันเมตร กล่าวคือ สเปคพื้นฐานเดียวกัน ยกเว้น วงล้อ กับระบบกันสะเทือน และ ระบบอิเล็คทรอนิกส์บางอย่างเท่านั้นที่แตกต่างกันระหว่างสองเวอร์ชั่นนี้

เอ.พี.ฮอนด้า” สร้างผลงานกระหึ่ม! ออสเตรเลีย “มุกข์ลดา-ธัชกร” ฟอร์มแกร่งเบิ้ลโพเดียม บิดเอเชีย โรด เรซซิ่ง สนาม 2

ยอดทีมแข่งไทย เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ สร้างผลงานกระหึ่ม เดอะ เบนด์ มอเตอร์สปอร์ต พาร์ค ในศึก เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนาม 2 หลัง “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช นักบิดสาวแกร่งผงาดคว้าอันดับ 2 ในคลาส เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. ไล่บี้หัวแถวเหลือแค่ 7 แต้ม เส้นทางลุ้นแชมป์สดใส พร้อมควงรุ่นน้องจากโครงการ เรซ ทู เดอะ ดรีม “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี เข้าป้ายอันดับ 3 พาเหรดขึ้นโพเดียมอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ “เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2019” มีคิวดวลความเร็วสนามที่ 2 ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 25 -อาทิตย์ที่ 28 เมษายนนี้ ที่สนาม เดอะเบนด์ มอเตอร์สปอร์ต พาร์ค ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามที่ท้าทายความสามารถอย่างมาก โดยล่าสุดในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันเรซที่ 2 ของรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี.

ยอดทีมแข่งไทยอย่าง เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ภายใต้สุดยอดรถแข่งคู่ใจ Honda CBR250RR มีลุ้นคว้าโพเดียมกลับมาฝากแฟนๆ ความเร็วชาวไทย โดย “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช นักบิดสาวแกร่งชาวไทย เจ้าของหมายเลข 44 ได้ออกสตาร์ทจากแถวหน้าในกริดที่ 3 ด้านนักบิดดาวรุ่งของโครงการ เรซ ทูเดอะ ดรีม อย่าง “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ หมายเลข 188 และ ”ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี หมายเลย 149 ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 6 และ 7 ตามลำดับ

เกมในเรซนี้ขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้นตั้งแต่ต้นเรซ โดย มุกข์ลดา เสียจังหวะในการออกตัวเล็กน้อย จนร่วงลงไปอยู่ในอันดับ 6 ทว่านักบิดสาวไทยก็กดคันเร่งไล่คู่ต่อสู้ทีละคันใช้เวลาเพียง 2-3 รอบ ก็กลับขึ้นมาเป็นผู้นำได้

ขณะที่นักบิดดาวรุ่งอย่าง ธัชกร ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นตั้งแต่ช่วงแรกของเรซ ขยับขึ้นมาอยู่ในกลุ่มหน้าได้อย่างรวดเร็ว และมีลุ้นคว้าโพเดียมครั้งแรกในฤดูกาลนี้ให้กับตนเอง

ผลการแข่งขันเมื่อครบ 9 รอบสนาม ปรากฏว่า มุกข์ลดา ยังคงรักษาฟอร์มที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง บิดรถแข่งคู่ใจ Honda CBR250RR เข้าป้ายเป็นอันดับ 2 ได้ขึ้นโพเดียม 2 เรซติดต่อกัน ทำเวลาได้ 19 นาที 20.826 วินาที ตามหลังแชมป์อย่าง อาอิกิ อิโยชิ นักบิดญี่ปุ่นเพียง 1.191 วินาที

ส่วน ธัชกร ไล่บี้กับนักบิดอินโดนีเซียนอย่างสุดมันส์ ก่อนบิดเข้าป้ายในอันดับ 3 ทำเวลาได้ 19 นาที 21.930 วินาที ตามหลังแชมป์ 2.295 วินาที ช่วยให้ เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ได้ฉลองโพเดียมที่ เดอะ เบนด์​มอเตอร์สปอร์ต พาร์ค ประเทศออสเตรเลียถึง 2 ตำแหน่ง ด้าน ปิยวัฒน์ จบการแข่งขันในอันดับ 9 ทำเวลาได้ 19 นาที 28.713 วินาที ตามหลังแชมป์ 9.078 วินาที

ภายหลังจบการแข่งขัน 4 เรซ (2 สนาม) ปรากฏว่า มุกข์ลดา ที่คว้าแชมป์มาครอง 1 เรซที่ เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย รวมถึงอันดับ 3 และอันดับ 2 ที่ เดอะ เบนด์ มอเตอร์สปอร์ต พาร์ค รั้งอันดับ 3 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ ไล่บี้จ่าฝูงอย่าง อิโยชิ เหลือเพียง 7 คะแนนเท่านั้น ส่วน ธัชกร รั้งอันดับ 10 มี 29 คะแนน ตามด้วย ปิยวัฒน์ ในอันดับ 14 มีทั้งสิ้น 17 คะแนน

ขณะที่การแข่งขันเรซแรกในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. นักบิดไทยจาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ทำผลงานโดดเด่น โดย “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ หมายเลข 123 ออกสตาร์ทจากกริดที่ 9 ทะยานเข้าป้ายในอันดับ 7 ทำเวลาได้ 19 นาที 48.472 วินาที ตามหลังแชมป์ 11.562 วินาที “นิว” กฤชพร แก้วสนธิ ทีมเมทเจ้าของหมายเลข 35 จาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ออกสตาร์ทจากกริดที่ 7 แต่ทำการแข่งขันไม่จบพลาดเก็บแต้มอย่างเสียดาย

สำหรับการแข่งขัน เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนามถัดไป จะดวลความเร็วกันที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม – 2 มิถุนายนนี้ โดยความเร็วสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและผลงานของ ทัพนักบิด เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า (Honda Motorcycle Thailand) www.facebook.com/hondamotorcyclethailand/

ต๋ง – พีรพงศ์ นักบิดไทยยามาฮ่า ฟอร์มสุดแกร่ง ควบ R6 นำธงไทยโบกสะบัดเหนือโพเดี้ยม คว้าดับเบิ้ลโพเดี้ยม ศึกชิงแชมป์เอเชียสนาม 2 ที่ออสเตรเลีย

ขุนพลนักบิด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ฟอร์มการขับขี่ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง ผงาดยืนโพเดี้ยมพร้อมนำเพลงชาติไทยกระหึ่มแดนจิงโจ้ ในศึกการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ ASIA ROAD RACING CHAMPIONSHIP 2019 สนามที่ 2 ซึ่งจัดการแข่งขันขึ้นระหว่างวันที่ 25 – 28 เมษายน 2562 ณ สนาม เดอะเบนด์ มอเตอร์สปอร์ต พาร์ค ประเทศออสเตรเลีย โดยการแข่งขันในเรซที่ 2 ต๋ง – พีรพงศ์ บุญเลิศ #26 ที่ลงทำการแข่งขันในรุ่น SUPERSPORTS 600cc สามารถนำ YZF-R6 ทะยานคว้าโฮลช็อตขึ้นเป็นหัวแถวตั้งแต่ต้นเกม พร้อมกับโชว์ฟอร์มการขับขี่สุดแข็งแกร่งรักษาตำแหน่งผู้นำแบบม้วนเดียวจนจบการแข่งขันทั้ง 10 รอบสนาม เข้าเส้นชัยแบบเหนือชั้นคว้าชัยชนะอันดับที่ 1 พร้อมนำเพลงชาติไทยดังกระหึ่มบนโพเดี้ยม พร้อมกับรั้งตำแหน่งผู้นำคะแนนสะสม 100 คะแนนเต็มจาก 4 เรซการแข่งขันในรุ่นนี้แบบสมศักดิ์ศรี

สำหรับรุ่น ASIA SUPERBIKE 1000cc คู่หูดีกรีแชมป์เอเชียอย่าง แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศธนานนท์ #24 และ โฟลท – รัฐพงศ์ วิไลโรจน์ #56 ระเบิดฟอร์มเก่งเปิดเกมบู๊แบบสุดมันส์ กดคันเร่งรถแข่ง YZF-R1 ไล่ขับเคี่ยวชิงชัยกับคู่แข่งตั้งแต่ต้นจนจบตลอดทั้ง 12 รอบการแข่งขัน ก่อนจะทะยานเข้าเส้นชัยรับธงตราหมากรุกทำอันดับติด Top 10 สำเร็จ โดย แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศธนานนท์ #24 สามารถจบการแข่งขันได้ในอันดับที่ 6 แบบมีลุ้นยืนโพเดี้ยม ส่วนทีมเมท โฟลท – รัฐพงศ์ วิไลโรจน์ #56 ตามเข้าเส้นชัยมาในอันดับที่ 7 แบบไม่ห่าง ส่งผลให้คะแนนสะสมของคู่หูทีมไทยยามาฮ่าขยับขึ้นมารั้งอยู่ในอันดับที่ 6 และ 7 ตามลำดับ

ส่วนในรุ่น ASIA PRODUCTION 250cc มอส – สุทธิภัทร พัชรธร #86 และ โฟลค – สวพล นิลพงษ์ # 56 คู่หูดาวรุ่งสายเลือดใหม่ของทีมไทยยามาฮ่า ก็สามารถทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ สามารถกระชากคันเร่งรถแข่ง YZF-R25 ขับเคี่ยวบู๊กับคู่แข่งระดับหัวแถวของเอเชียที่โชกโชนสนามได้อย่างเร้าใจตลอดการแข่งขันทั้ง 9 รอบการแข่งขัน ก่อนเข้าเส้นชัยจบการแข่งขันด้วยการมีแต้มได้สำเร็จ โดย มอส – สุทธิภัทร พัชรธร #86 จบการแข่งขันในอันดับที่ 14 ขยับตำแหน่งบนตารางคะแนนสะสมมาอยู่อันดับ 18 ส่วนทีมเมท โฟลค – สวพล นิลพงษ์ # 56 จบการแข่งขันในอันดับที่ 17 รั้งอยู่อันดับที่ 20 บนตารางคะแนนสะสมหลังจบการแข่งขันสนามที่ 2 นี้

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันของทัพนักบิด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ในศึกชิงแชมป์เอเชีย รายการ ASIA ROAD RACING CHAMPIONSHIP 2019 สนามที่ 3 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 31 พ.ค. – 2 มิ.ย. 2562 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ประเทศ ซึ่งจะลงทำการแข่งขันในสนามโฮมเรซต่อหน้ากองเชียร์แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย โดยแฟนมอเตอร์สปอร์ตสามารถร่วมติดตามและให้กำลังใจทัพนักบิด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ได้ที่ Facebook : Yamaha Thailand Racing Team และ Yamaha Society Thailand

Honda Forza 300

Big Scooter ระดับพรีเมี่ยม ที่ได้รับความนิยมและเป็นกระแสในวงกว้าง ตั้งแต่การเปิดตัวกันมาในช่วงปี 2018 ด้วยรูปร่างหน้าตาของตัวรถที่มีความแตกต่างไปจากโฉมก่อนหน้านี้แบบชัดเจน เน้นรูปทรงความหรูหราที่แฝงไปด้วยความสปอร์ต และการขับขี่ที่สะดวกสบาย

การออกแบบดีไซน์ของ Honda Forza 300 มีความสปอร์ตมากขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ค่อนข้างจะลงตัวมากๆ ทำให้มิติโดยรวมของตัวรถนั้นมีความกระชับมากขึ้นกว่าโมเดลเดิมก่อนหน้านี้ โดยตัวเฟรมรถนั้นเป็นแบบเฟรมท่อผลิตจากเหล็กเป็นแบบใหม่ทั้งคัน รวมไปถึงแชสซีของตัวรถนั้นก็ได้รับการออกแบบใหม่ด้วย ที่น่าสนใจอีกประเด็นก็คือการลดระยะห่างระหว่างล้อหน้าและล้อหลังให้สั้นลงกว่าเดิม ทำให้มีความคล่องตัว และเบาะนั่งที่บางลงกว่าเดิมโดยไม่มีขอบกั้นระหว่างคนขี่และคนซ้อนกันอีกต่อไปแล้ว มิติด้านข้างของตัวรถที่แคบลงกว่าเดิม ทำให้งานนี้เจ้า All New Forza 300 นั้นจะดูโฉบเฉี่ยว มีแอร์โรไดนามิกดีกว่าเดิม

Forza 300 มาพร้อมกันกับล้อด้านหน้าที่มีขนาด 15 นิ้ว และด้านหลังมีขนาด 14 นิ้ว โช้คอัพด้านหน้าแบบเทเลสโคปิกจะมีขนาด 33 มม. ส่วนด้านหลังจะเป็นแบบโช้คคู่ที่สามารถปรับระยะพรีโหลดได้ถึง 7 ระดับ เบรกหน้าเป็นแบบดิสก์เดี่ยวขนาด 256 มม. คาลิเปอร์เบรกของ Nissin ส่วนด้านหลังใช้ดิสก์เดี่ยวขนาด 240 มม. ทำงานร่วมกับระบบเบรก ABS แบบ 2 channel ติดรถมาให้จากโรงงานเลย ในขณะที่หน้าจอแสดงผลนั้นเป็นแบบดิจิตอลผสมกับอนาล็อค ในส่วนของเครื่องยนต์ มาพร้อมกับเทคโนโลยีความนุ่มนวลบิดได้สนุกเร้าใจ ขนาดความจุ 279 ซีซี SOHC แบบ 1 ลูกสูบ 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด PGM-FI ให้การเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ซึ่งจะเน้นแรงบิดในย่านความเร็วต้นถึงกลางมากเป็นพิเศษ ให้แรงม้ามาสูงสุดที่ 24.8 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที และทอร์คนั้นอยู่ที่ 27.25 นิวตันเมตรที่ 5,750 รอบ/นาที แสดงให้เห็นความจี๊ดจ๊าด บิดได้สนุก ในส่วนของไฮไลท์ที่เพิ่มเติมมาให้ของรถคันนี้ ก็คือในเรื่องของฟีเจอร์ต่างๆ ที่ติดมากับตัวรถ โดยจะมีระบบ Traction Control หรือระบบป้องกันล้อหมุนฟรีมาให้ โดยจะควบคุมการทำงานของระบบนี้ได้จากปุ่มกดที่แฮนด์รถ โดยระบบจะคำนวณความเร็วสัมพันธ์ระหว่างล้อหน้าและล้อหลังกับแรงบิดในขณะนั้น ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกกับระบบนี้ของทาง Honda ในรถสกู๊ตเตอร์
และอีกส่วนที่น่าสนใจก็วินชิลด์หน้ารถนั้นสามารถปรับระดับความสูงต่ำได้แบบระบบไฟฟ้าด้วยสวิตช์ฟังก์ชั่น ระบบไฟจะเป็นแบบ LED ทั้งคัน และที่สำคัญจะมีระบบสมาร์ทคีย์ ไม่ต้องเสียบกุญแจ แต่สามารถสตาร์ทได้เลย และสามารถค้นหารถได้ กล่องใต้เบาะขนาดใหญ่นั้นสามารถเก็บหมวกกันน็อคแบบเต็มใบได้ 2 ใบแบบสบายๆ การเติมน้ำมันไม่ต้องลุกออกจากรถ กดสวิตช์เปิดและเติมได้ง่ายที่กลางคอนโซน ช่องเก็บของติดตั้งที่เสียบชาร์ทไฟสะดวกสำหรับเชื่อต่อกับโทรศัพท์มือ

นี่คือความสุดยอดเทคโนโลยีสมรรถนะเครื่องยนต์และออพชั่นใหม่ที่ติดมากับตัวรถ แต่อย่าพลาดติดตามกันให้ดี เพราะหลังจากนี้จะถูกเปลี่ยนสภาพ ด้วยสไตล์การปรับแต่งแบบฉบับของไรดิ้ง ทั้งลวดลายสีสัน อุปกรณ์ของแต่ง และรูปทรงที่จะมีความโดดเด่นสะดุดตามากขึ้น ยังมีอีก 3 ตอนสำหรับการลงรายละเอียด

FMSCT Thailand Supercross Championship 2019 สนาม 1

รึคแคร์ปาร์ค สุวินทวงศ์หั่งโมดิฟายแรงจัด ส่ง PowerBoat ประเดิมคว้าชัยนัดเปิดฤดูกาล FMSCT SX เปิดฤดูกาลแข่งขันของ FMSCT SX ด้วยเกมที่ สุวินทวงศ์ บนแทร็คที่เนรมิตขึ้นมาใกล้เมืองกรุงมากที่สุดอย่าง รึคแคร์ปาร์ค (RuckerPark) สำหรับรูปแบบการแข่งขันนั้นได้ปรับมาเป็นแบบ Division คือ Division1 จะแข่งรวมกัน

สำหรับนักแข่ง MX250A กับ MX250B ในรุ่นรองลงมา Division2 ก็จะเป็น MX250 Novice+Junior+C โดยจะมีผลแข่งขันทั้งแบบ โอเวอร์ออล และ แยกแต่ละรุ่น ซึ่งในแต่ละคลาสนั้นเป็นโอกาสที่ดีโดยเฉพาะ Division2 ที่จะเป็นโอกาสให้นักแข่งอายุน้อยอย่าง Junior ที่มีอายุไม่เกิน 16 ปี ได้ฝึกฝนประสบการณ์จากนักแข่งรุ่นพี่ โดยที่ผลการแข่งขัน และการเก็บคะแนนประจำรุ่นยังคงมีเช่นเดิม “อยากเด่นก็ต้องเพิ่มความพยายามในการฝ่านักแข่งรุ่นพี่ขึ้นไปข้างหน้า” นั่นเอง

กลับมาที่ตำแหน่งสูงสุดบนบัลลังก์แชมป์ประเทศไทย ปี 2018 FMSCT SX Champion เป็นของ เบน ประสิทธิ์ ฮัลเกรน นักแข่งลูกครึ่งไทยนอร์เวย์ ที่จะต้องลงท้าทายในปีนี้ด้วยการป้องกันแชมป์ และ ลุ้นครองแชมป์สมัยที่สามให้ตนเองด้วยการ ก้าวมาทำทีมของตนเอง โดยที่ทีมเดิมอย่าง Dirtshop นั้น ให้การสนับสนุน เบน ประสิทธิ์ ในการจัดการระบบทีมทั้งหมดด้วยตนเอง ก็น่าติดตามว่า เขาจะสามารถขับเคลื่อนทีมของตัวเองได้ดีเพียงใดในฤดูกาลนี้ ขณะที่ คู่แข่งอย่าง ธนรัตน์ เพ็ญจันทร์ นั้นยังคง ได้รับการสนับสนุนเส้นทางต่อสู้เพื่อแชมป์อย่างเต็มกำลังจากต้นสังกัดอย่าง หั่งโมดิฟาย ขณะที่ฝั่ง เอ.พี.ฮอนด้า ก็เฟ้นนักแข่งดาวรุ่ง เพื่อเข้าประจำการรบภายใต้แมคคานิคชั้นยอดอย่าง อนันต์ยนต์,อู่ประเวศ,
เอสมอเตอร์เรซซิ่ง ในฤดูกาลนี้ด้วยนักแข่งอย่าง ปิยะณัฐ เกิดศิริ , พัสกร ปริยวงศธร รวมทั้ง จักรกฤษณ์ ศุขศรีไพศาล ซึ่งก็ปรากฏว่า ธนรัตน์ ประเดิมนำ YZ250F จาก หั่งโมดิฟาย ประเดิมคว้าชัยเกมนัดเปิดฤดูกาลไปครอง

“ก็เป็นไปตามแผนที่ฝึกซ้อมมากับการขับขี่บนแทร็คแห่งนี้ ซึ่งในวันแข่งขันนี้รถแข่งเรามีความพร้อมอย่างมากกับเกมการชิงชัยที่ผ่านมา ต้องขอบคุณผู้มีส่วนร่วมทุกท่าน โดยเฉพาะทีมและผู้สนับสนุนทั้งหมด และผมหวังว่าในเกมถัดไปนั้นจะสามารถรักษามาตรฐานการขี่ที่ดีรวมทั้งความพร้อมต่างๆในเกมการแข่งขันให้ดีเช่นนี้เพื่อผลงานที่ดีที่สุดครับ”
ขณะที่แชมป์เก่า เบน ประสิทธิ ฮัลเกรน นั้น กล่าวว่า
“ เปิดฤดูกาลแข่งขันแล้วผมก็ตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด แต่ก็ต้องยอมรับว่าสภาพอากาศที่ร้อนค่อนข้างเป็นปัญหาสำหรับผม แต่ก็ต้องยอมรับกับผลที่ออกมาแล้วโฟกัสไปในเกมสนามถัดไป ซึ่งส่วนตัวผมนั้นคิดว่าน่าจะเป็นเกมที่ไม่ง่ายสำหรับผมกับสภาพอากาศที่เคยสัมผัสมาที่สุโขทัยนั้นจัดว่าร้อนมาก แต่ในฐานะนักแข่งผมก็จะต้องพยายามจัดการให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะสามารถทำได้ เพื่อผลงานที่ดีที่สุด แน่นอนว่าฤดูกาลแข่งขันปีนี้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น เรายังพอมีเวลาที่จะค่อยปรับปรุงหรือพัฒนาส่วนต่างๆให้มีความพร้อมมากยิ่งขึ้นสำหรับเส้นทางป้องกันแชมป์ของผมในปีนี้ ”

นอกจากเกมในรุ่นสูงสุดของประเทศแล้ว ในระดับรองลงมาอย่าง Division2 นั้น ตำแหน่งโอเวอร์ออลอันดับสี่นั้นตกเป็นของ สหรัฐ เพิ่มพูน ซึ่งเป็นหนึ่งในนักแข่งจากรุ่น MX250 C ที่ผลงานในรุ่นตนเองนั้น จบด้วยอันดับสาม ซึ่งก่อนการแข่งขันนั้น เราสะดุดตากับเสื้อยืดทีมที่เป็นโลโก้ม้า “สยามม้าศึก” ก็พบว่า สหรัฐ หรือ โบ้ คือ หนึ่งในนักแข่งในระดับ 50-65 ซีซี ในช่วงเกือบสิบปีที่ผ่านมา ในเกมระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ก่อนจะหายหน้าไปจากเกม FMSCT SX จนกระทั่งในเกมนัดเปิดฤดูกาลได้ฤกษ์หวนคืนสู่เกมระดับประเทศอีกครั้ง พร้อมหนึ่งในสปอนเซอร์ของทีมอย่าง “สยามม้าศึก” ที่ร่วมสนับสนุนทีม ซูซูกิ สยามม้าศึกลูก
สูบแหวนคู่ RK ดูโร่ R-Chi Redzone yala ซึ่งผลก็คือ การคว้าอันดับสี่โอเวอร์ออลใน Division2 กับอันดับสามใน MX250C ซึ่ง สหรัฐ เพิ่มพูน ได้กล่าวว่า

“ดีใจครับที่มีโอกาสได้กลับมาแข่งขันในเกมระดับชิงแชมป์ประเทศไทยอีกครั้ง ซึ่งก็ต้องขอบคุณทีมแข่งและผู้สนับสนุนทั้งหมด ที่ให้โอกาสผมกลับมาร่วมแข่งขันใน FMSCT SX จากการแข่งขันในนัดแรกนี้ต้องยอมรับว่าสภาพร่างกายผมไม่สมบูรณ์เนื่องจากมีการเจ็บที่มือจากการล้มระหว่างซ้อม รวมทั้งนักแข่งรุ่นน้องๆหลายคนพัฒนาฝีมือได้แข็งแกร่งกันหลายคน แม้จะไม่ใช่งานที่ง่ายสำหรับผมในการกลับสู่เกมระดับชิงแชมป์ประเทศ แต่ผมก็จะพยายามตั้งใจสู้ให้เต็มที่ ตามที่ผู้สนับสนุนและทีมให้การช่วยเหลือเพื่อเข้าแข่งขันในปีนี้ ซึ่งผมจะตั้งใจและพยายามให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ และผมเชื่อว่าในระหว่างการแข่งขันก็จะไม่ง่ายสำหรับนักแข่งคนอื่นๆในการที่จะแซงผมเช่นกัน”

ผลการแข่งขัน ในรุ่นต่าง มีดังนี้

รุ่น Division2 (OverAll-MX250 Novice+Junior+C)

  1. ฐิรพรรษ มองขุนท (164) Rucker X Team
  2. วิศรุต ศาลางาม (19) IPONE VESBURN RACING TEAM
  3. สรณ์สิริ เจริญสุข (47) Yamaha Motorex Dirtshop
  4. สหรัฐ เพิ่มพูน(245) ไทยซูซูกิ สยามม้าศึกลูกสูบแหวนคู่
    RK ดูโร่ R-Chi Redzone yala
  5. อภิชัย รุ่งเจริญ (11) P.N.S.Steel ไพศาลพลาสติกอินเตอร์
    24KaratesBKK Dirtshop OSK103 MX Superfast ตรีอินเตอร์ จรัญรุ่งเรือง 2015 Ruccer Park X Team
    รุ่น Division 1(OverAll-MX250A-B)
  6. ธนรัตน์ เพ็ญจันทร์ (71) YamahaHungmodified ยาน้ำระดมพล
    ช้างฟาร์ม อนุชาMotocross Motul DID NGK Technix AlpinestarBellhelmet เพลง Promadic
  7. สุภัทรชัย ผักเครือ (132) A.P.Honda Castrol DID Promedic
    Dirtshop แก่นดีไซน์
    เอสมอเตอร์เรซซิ่ง จันทบุรี
  8. เบน ประสิทธิ์ ฮัลเกรน (1) Yamaha Ben Prasrit Racing
  9. ตระการ ทั่งทอง (5) K45 Maxima CCR G-Max สมุนไพร
    พรหมรังสี SiamsuspensionPhuket
  10. พัสกร ปริยวงศธร(3) A.P.Honda IRC DID YSS อนันต์ยนต์
    รุ่น 85ซี.ซี.อายุไม่เกิน 12 ปี
  11. เตโชดม มีแสง (93) มีแสงคอนสตรัคชั่น วิริยะประกันภัย
    Motorex ชาญยนต์สกลนคร
    ต้อมหม้อน้ำ หมู่บ้านโฮมเพลส
    ช่างเหวะเมืองสิงห์
  12. กรณัฏฐ์ ไชยมั่นคง (38)
  13. ณภัทร จาตูม (86)
    รุ่น 85ซี.ซี. อายุไม่เกิน 15 ปี
  14. กฤตภัทร เขื่อนคำ (32)
  15. บุรพล สรรพสิน (167)
  16. บุรพร สรรพสิน (168)
    รุ่น MX250 A
  17. ธนรัตน์ เพ็ญจันท์ (71) Yamaha Hungmodified ยาน้ำระดมพล ช้างฟาร์ม อนุชาโมโตครอส Motul DID NGK Technix Alpinestar BellHelmet PlengPromedic
  18. เบน ประสิทธิ์ ฮัลเกรน (1) Yamaha BEN Prasrit Racing
  19. ตระการ ทั่งทอง(5) K45 Maxima CCR G-Max สมุนไพรพรหมรังสี SiamSuspension Phuket
    รุ่น Motocross Kid 50ซี.ซี. 2จังหวะ 9/7ขวบ
  20. ณัฐพนธ์ ค้ำชู (19) สยามเอ็นดูโร่ สมบัติทัวร์
  21. กษิดิ์เดช เดชรักษา (27) PTT บ้านลูกโป่ง ออคิดส์บาร์ เจมอเตอร์ไบค์ช็อป กมลาบีชพลาซ่า SiamSuspension Phuket
  22. ศักดิ์ชัย คงดวงดี(18) ไทยซูซูกิ สยามม้าศึก ลูกสูบแหวนคู่ RK ดูโร่ R-chi Redzone Yala
    รุ่น KLX150
  23. สุรเดช ทวีลาภ (9) ดาบทูรแก่งโสภา เจ๊พรสั่งลุย ช่างขิงศรีประจันทร์ โหน่งเด่นชัยแพร่ ช่างเฟิร์สเก้านิ้วครึ่ง สนั่นช็อบทีม
  24. วิศรุต นิลเกษม (71)
  25. ภัทราวุธ พรหมสุวรรณ(26) ดาบทูรแก่งโสภา เจ๊พรสั่งลุย ช่างขิงศรีประจันทร์ โหน่งเด่นชัยแพร่ ช่างเฟิร์สเก้านิ้วครึ่ง สนั่นช็อบทีม
    รุ่น MX250 Junior
  26. วิศรุต ศาลางาม(19) IPONE VESBURN RACING TEAM
  27. เกียรติศักดิ์ สิงหพงษ์ (85)
  28. อทิฌุต เตียงทองคำ (4) Yamaha DID IRC แหนมใบมะยม จ.โมโตครอส อุบลมอเตอร์ไดรฟ์ อำนาจเจริญเก้ว
    รุ่น MX250 Novice
  29. ณัฐพล ปัญญาเครือ (35) Yamaha DID IRC แหนมใบมะยม จ.โมโตครอส อุบลมอเตอร์ไดรฟ์ อำนาจเจริญเก้ว AC-Air เอกสปีดภูเก็ต
  30. Li Yuzhang (21)
  31. ภัทราวุธ พรหมสุวรรณ(26) ดาบทูรแก่งโสภา เจ๊พรสั่งลุย ช่างขิงศรีประจันทร์ โหน่างเด่นชัยแพร่ ช่างเฟิร์สเก้สนิ้วครึ่ง สนั่นช็อปทีม
    รุ่น MX250 C
  32. ฐิรพรรษ มองขุนทด (164) Rucker X Team
  33. สรณ์สิริ เจริญสุข (47) Yamaha Motorex Dirtshop
  34. สหรัฐ เพิ่มพูน (245) ไทยซูซูกิสยามม้าศึกลูกสูบแหวนคู่
    RK ดูโร่ R-Chi Redzone yala
    รุ่น 85 ซี.ซี. Lady
  35. มลฑิดา ในฉิ่น (50)
  36. ชนภรณ์ แก้วเงิน (43)
  37. ปัทมวรรณ กวางทุม (743)
  38. ณัทชา เสนาภิรมย์ (115)

All New CBR150R กำเนิดใหม่ เร้าใจที่หนึ่ง

สิ้นสุดการรอคอย! แฟนรถสปอร์ตได้เฮ! เอ.พี. ฮอนด้า เผยโฉม All New CBR150R ใหม่ทั้งคัน อัดแน่นเทคโนโลยีจากสนามแข่งระดับโลก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “กำเนิดใหม่ เร้าใจที่หนึ่ง”

เอ.พี. ฮอนด้า ผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ที่มียอดขายอันดับ 1 ในเมืองไทย เผยโฉม All New CBR150R กำเนิดใหม่ เร้าใจที่หนึ่ง เอาใจแฟนพันธ์ุแท้รถสปอร์ตด้วยการปฏิวัติใหม่ทั้งคันหัวจรดท้าย ทั้งเครื่องยนต์ใหม่ เฟรมใหม่ บอดี้ใหม่ ถังน้ำมันขนาดใหญ่ 12 ลิตร เท่ล้ำด้วยไฟหน้าคู่ตาเพชรทรงพญาอินทรีย์ แรงเร้าใจด้วยเครื่องยนต์พิกัด 150 ซีซี DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ สายพันธุ์ความแรงระดับโลกจากสนามแข่งโมโตจีพี เฟรมใหม่แข็งแกร่งน้ำหนักเบาให้ความสปอร์ตเพรียว ออกแบบท่านั่งผู้ขับขี่ใหม่ เบาะต่ำ รับกับตำแหน่งแฮนด์ และช่วงขาให้ท่านั่งผู้ขับขี่เป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ ลู่ลมตามหลักแอโรไดนามิค ได้ลุคเท่สไตล์รถสปอร์ตพันธ์ุแท้มาตรวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์ ไฟเตือนอุณหภูมิเครื่องยนต์ ไฟบอกตำแหน่งเกียร์ ระบบ Odo Meter แสดงระยะการเดินทางได้อย่างแม่นยำทั้งทริป A และ B พร้อมคำนวณอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงให้ทุกทริปมีความหมายยิ่งขึ้น พิเศษสุดกับระบบไฟสัญญาณกะพริบอัตโนมัติ (ESS) ระบบเดียวกับในรถยนต์และรถบิ๊กไบค์ระดับพรีเมี่ยม พิเศษสุด…ครั้งแรกของประเทศไทยในพิกัด 150 ซีซี ให้ความเฉพาะตัวเฉพาะคุณเท่านั้น ด้วยระบบกันสะเทือนหน้าปรับค่า preload ได้ พร้อมระบบกันสะเทือนหลังแบบ Pro Link ปรับค่า preload ได้ 5 ระดับ เทคโนโลยีเดียวกับระบบช่วงล่างของรถ
แข่งโมโตจีพี เพื่อการขับขี่ควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดทั้งในช่วงทางตรงและทางโค้ง ท่อไอเสียดีไซน์ใหม่ เสริมลุคสปอร์ตด้วยโพรเทคเตอร์ลายเคฟล่า
All New CBR150R มีให้เลือกในแบบดิสค์เบรกหน้าหลังพร้อมระบบเบรก ABS ป้องกันล้อล๊อค มี 2 ลายคือ ลายกราฟฟิคทีมแข่ง เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ และทีมแข่งเรพโซลฮอนด้า และรุ่น STD ที่เป็นระบบดิสค์เบรกหน้า/หลังไม่มี ABS มี 2 สีคือสีดำ และ สีน้ำเงิน มีราคาแนะนำในรุ่น STD ที่ 92,000 บาท และรุ่น ABS ที่ 99,000 บาท วางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศ 1 เม.ย. นี้ เป็นต้นไป

Royal Alloy สกู๊ตเตอร์ สัญชาติอังกฤษโชว์ความลงตัวในงาน Motor Show 2019

บริษัท สโคว์ มอเตอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมชั้นนำแบร์นอังกฤษแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ปลุกความตื่นตาตื่นใจให้กับสาวกสองล้ออังกฤษกับโมเดลไฮไลท์ใหม่ ได้แก่ ROYAL ALLOY GP150 EL, ROYAL ALLOY GP 150 และ ROYAL ALLOY GP 200s พร้อมยลโฉมและโปรโมชั่นมากมายได้ที่ตัวแทนจำหน่าย ROYAL ALLOY ทั่วประเทศและบูธ RA ในงาน Motor Show 2019 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม ถึง 7 เมษายน 2562

โดยได้รับเกียรติจาก Mr Steve Oliver CEO ของ Royol Alloy Engineering co.ltd บินตรงจากประเทศอังกฤษ มาส่งมอบความใหม่ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ที่มีความ unique (เป็นเอกลักษณ์) มีความเฉพาะตัว ในแบบเรโทรที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง มาพร้อมกับความลงตัวของราคา ความคุ้มค่า กับสีสันที่สดใสรวมถึงความคลาสสิคที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ได้รับความนิยมแพร่หลายในทุกกลุ่มอายุ ทุกเพศ ทุกวัย ที่มีรสนิยมและสไตล์เป็นของตัวเองอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ โชว์ความปราณีตละเอียดลออ เรียบร้อยงดงาม ที่ทำอย่างบรรจงของทั้ง 3 รุ่น ROYAL ALLOY GP 150 EL รถจักรยานยนต์สกู๊ตเตอร์ในแบบคลาสสิคที่คงความเป็นแฟชั่นสไตล์เรโทรอังกฤษ สมรรถนะเยี่ยมด้วยเครื่องยนต์แอร์คูล ขนาดความจุ 150 ซีซี จ่ายเชื้อเพลิงด้วยคาบูเรเตอร์ เกียร์อัตโนมัติ CVT ไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยมเป็นเอกลักษณ์ โครงสร้างน้ำหนักเบาเพราะใช้วัสดุทำจากพลาสติก มาพร้อมกับสี Two Tone ให้การขับขี่ที่นุ่มนวล และคล่องแคล่ว ROYAL ALLOY GP 150 สีสันแห่งแฟชั่นในพิกัด 150 ซีซี เครื่องยนต์แอร์คูลจ่ายเชื้อเพลิงด้วยคาบูเรเตอร์ เกียร์อัตโนมัติ CVT ไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยมคงความคลาสสิคสกู๊ตเตอร์ด้วยโครงสร้างหลักได้แก่เฟรม ตัวถัง ฝาข้าง บังลมหน้า และพักเท้าซึ่งได้ทำด้วยเหล็กทั้งคัน กะโหลกไฟหน้าอะลูมิเนียมหลากสีสันให้เลือกตามใจ ชอบ รวมไปถึงการตกแต่งเพิ่มเติมตามจินตนาการส่วนตัวได้แบบ ROYAL ALLOY GANGSTER และ ROYAL ALLOY GP 200s เครื่องยนต์ ขนาด 200 ซีซี ทวินแคม 4 วาวล์ เกียร์อัตโนมัติ CVT จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด ระบายความร้อนด้วยน้ำ ไฟหน้าทรงกลมเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น 200 ซีซี โครงสร้างแข็งแกร่งทำด้วยเหล็กตามสไตล์คลาสสิคสกู๊ตเตอร์ เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบดิสเบรก ABS หน้า-หลัง อุปกรณ์เสริมครบครัน ตามมาตรฐาน EURO4 มาให้ได้ชมกันอย่างใกล้ชิด

สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว ROYAL ALLOY ได้ทาง www.royalalloythailand.com และ www.facebook.com/royal-alloy-thailand

ยามาฮ่าเปิดประสบการณ์การขับขี่ทดสอบและท่องเที่ยวสไตล์ใหม่ Yamaha Exciter 150 Test Ride Experience

นางสาวเพ็ญศรี สนขาว ผู้จัดการส่วนสื่อสารการตลาดกลุ่มรถครอบครัว พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ประเทศมาเลเซีย ให้เกียรติถ่ายภาพร่วมกับสมาชิก ยามาฮ่า คลับ ทั้งจากประเทศไทยและมาเลเซีย พร้อมคณะสื่อมวลชน ซึ่งได้ร่วมขบวนขับขี่ทัวร์ริ่งและทดสอบสมรรถนะ Yamaha Exciter 150 รถจักรยานยนต์ระดับท็อปคลาสสไตล์ Sport Moped ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งในเมืองไทยและมาเลเซีย ในทริป “Yamaha Exciter 150 Test Ride Experience” ซึ่งได้เดินทางขับขี่ข้ามประเทศด้วยเส้นทางจากประเทศไทย – ปีนัง – คาเมรอน ไฮแลนด์ – กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมี ยามาฮ่าคลับ มาเลเซีย นำทัวร์รอบเมืองกัวลาลัมเปอร์ ก่อนจะเข้าสู่บรรยากาศ Meeting ที่จัดขึ้นเพื่อให้ ยามาฮ่าคลับ ไทย และ มาเลเซีย ได้พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ถึงแม้จะใช้คนละภาษา แต่เราถือว่าเป็น “ครอบครัวยามาฮ่า”

กิจกรรมสุดประทับใจครั้งนี้จัดขึ้น ณ Concorde Hotel Kuala Lumpur ประเทศมาเลเซีย

ได้ฤกษ์เปิดคันเร่ง ทริปแห่งความมันส์ “Yamaha Exciter 150 Test Ride Experience Trip” ทริปนี้ขับขี่ข้ามประเทศ!!!

ยามาฮ่าร่วมกับยามาฮ่าคลับ จาก บริษัท พินิตมอเตอร์ 2555 จำกัด จ.ปัตตานี พร้อมสื่อมวลชนชั้นนำร่วมขับขี่ Yamaha Exciter 150 ในรูปแบบทดสอบขับขี่พร้อมทัวร์ริ่งเดินทางไปในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ สุดประทับใจ เริ่มในช่วงเช้าวันแรกของการเดินทางข้ามประเทศ จากประเทศไทยที่ด่านสะเดา และกดคันเร่งเนียนๆ มุ่งสู่ “ปีนัง” ประเทศมาเลเซีย ขับขี่ Yamaha Exciter 150 ข้ามสะพานปีนังที่มีความยาวถึง 23 กิโลเมตร ชมทิวทัศน์ได้กว้างไกล จากนั้นเข้าเมืองจอด Yamaha Exciter 150 แวะชมภาพสตรีทอาร์ต (Street Art) ที่เป็นไฮไลท์ใครก็ต้องมากดชัดเตอร์กลับไปเป็นที่ระลึก ก่อนจะออกเดินทางต่อไป

#YamahaExciter150TestRideExperienceTrip #Yamaha#YamahaClubThailand
#YamahaExciter150ClubThailand#YamahaExciter150ClubMalaysia
#Exciter150 #PressTestTouringTrip #Thailand_Malaysia#ExciterKingOfStreet150 #AdrenalineOfExcitement #อะดรีนาลีนแห่งความเร้าใจใหม่ #RevsYourHeart 
#YamahaSocietyThailand