ฮอนด้าเปิดตัวฟอร์ซ่าใหม่ สะกดทุกลมหายใจให้หยุดนิ่งด้วยเฉดสีที่ดุดันแต่หรูหรายิ่งกว่าเดิม

ฮอนด้าเปิดตัวฟอร์ซ่าใหม่ สะกดทุกลมหายใจให้หยุดนิ่งด้วยเฉดสีที่ดุดันแต่หรูหรายิ่งกว่าเดิมล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อนอันทรงพลัง และฟังก์ชั่นอัจฉริยะรอบคัน
“เอ.พี. ฮอนด้า” ตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่งตลาดพรีเมี่ยมเอ.ที. ด้วย “นิว ฮอนด้า ฟอร์ซ่า” รถบิ๊กสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมคลาส 300 ซีซี สะดุดตาด้วยเฉดสีใหม่ 4 สไตล์ ได้แก่สีแดง-เทา, สีน้ำเงิน-เทา, สีขาว-น้ำเงิน และสีดำด้าน เน้นความหรูหราในสไตล์สปอร์ต มาพร้อมกับเทคโนโลยีการขับขี่ขั้นสูงของฮอนด้า และฟังก์ชั่นอัจฉริยะครบครัน สะดวกสบาย และปลอดภัย พร้อมวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศที่ Honda Wing Center ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปด้วยราคาแนะนำ 169,000 บาท มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ไทยเปิดเผยว่า “ภายใต้แนวคิด “What Stops You? มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด” เอ.พี.ฮอนด้า ไม่เคยหยุดนิ่งในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ล้ำสมัยเพื่อตอบสนองความต้องการให้กับผู้บริโภคชาวไทย ล่าสุด เพื่อเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของเหล่าไบค์เกอร์ที่หลงไหลการขับขี่บิ๊กสกู๊ตเตอร์ที่มีทั้งความหรูหราและความสปอร์ต ฮอนด้าได้นำเสนอ New Forza กับสีสันใหม่ที่สะกดทุกสายตา โดดเด่นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ให้โดดเด่นและปราดเปรียวมากกว่าที่เคย”

New Forza มาพร้อมกับ 4 สีสันใหม่สไตล์พรีเมี่ยมสปอร์ต ได้แก่ สีแดง-เทา, สีน้ำเงิน-เทา, สีขาว-น้ำเงิน และสีดำด้าน บนรูปทรงที่ปราดเปรียวโดดเด่น เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่กับรูปลักษณ์แบบลักชัวรี่สปอร์ตเหนือระดับ ล้ำกว่าใครด้วยกระจกบังลมหน้าไฟฟ้าจากอิตาลี สามารถปรับระดับอัตโนมัติได้ถึง 110มม. ช่วยลดแรงลมปะทะหน้าขณะขับขี่ ติดตั้งชุดไฟ LED รอบคัน พร้อม Day Time Running Light และ กระจกมองข้างดีไซน์หรู พร้อม ไฟเลี้ยวแบบ Built – in LED ล้ำสมัยด้วย รีโมทอัจฉริยะที่สั่งการครบทุกฟังก์ชั่น ทั้งการระบุตำแหน่งรถสัญญาณกันขโมย และเปิด-ปิดสัญญาณรีโมท พร้อมชุดควบคุมการทำงานอัจฉริยะสั่งงานง่ายเพียงปิดสวิทซ์
New Forza ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 4 จังหวะขนาด 300 ซีซี หัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้แรงบิดสูง ตอบสนองการขับขี่ได้ทันใจทั้งในเมือง และการขับขี่ทางไกล ทั้งยังติดตั้งเทคโนโลยี HSTC (Honda Selectable Torque Control) ระบบควบคุมล้อหน้า-หลังให้สัมพันธ์กัน เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้น 
New Forza ติดตั้งฟังก์ชั่นอัจฉริยะครบครันแบบเดียวกับที่มีในรถยนต์ ด้วยแผงหน้าปัดดิจิตอลสไตล์ Cockpit Area พร้อมระบบแจ้งเตือนการบำรุงรักษา การคำนวณอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน และแสดงอุณหภูมิ นอกจากนี้ยังมีระบบคำนวณระยะทางกับน้ำมันที่เหลืออยู่ ตัวรถยังเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ยิ่งขึ้นกับช่องเก็บของแบบล็อคได้ และ AC Socket ชาร์จไฟมือถือพร้อมที่วางขวดน้ำ
ฮอนด้าพร้อมวางจำหน่าย New Forza ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปด้วยราคาแนะนำที่ 169,000 บาท ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.aphonda.co.th และติดตามข่าวสารจากรถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้ที่ www.facebook.com/hondamotorcyclethailand

Press Information Big Motor Sale 2019

เริ่มขึ้นแล้วสำหรับงานมหกรรมยานยนต์เพื่อขายแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน Bangkok International Grand Motor Sale 2019 ในปีนี้ซูซูกิเตรียมขบวนรถจักรยานยนต์คุณภาพหลากหลายรุ่นมาจัดแสดงให้ทุกท่านได้สัมผัส จับจองเป็นเจ้าของ พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ ซูซูกิ พร้อมพาทุกท่านชมยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยม ที่ซูซูกิมุ่งมั่นและพิถีพิถันในการสรรสร้างรถจักรยานยนต์ที่ดีที่สุด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีความหลากหลายในไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน อีกทั้งรถจักรยานยนต์แต่ละรุ่นที่นำมาจัดแสดงนั้นล้วนได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ทั้งในเรื่องสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น ผสานเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซูซูกิพร้อมเติมเต็มความสุขในทุกการขับขี่ ขอเชิญทุกท่านร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ไปกับครอบครัวซูซูกิ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 16-25 สิงหาคม 2562

Suzuki Booth Concept
โดยในปีนี้บูธของรถจักรยานยนต์ ซูซูกิ ได้ถูกออกแบบและตกแต่งภายใต้ Mood and Tone สีน้ำเงิน และสีขาว ซึ่งสะท้อนให้แลดูสปอร์ต และความเป็นตัวตนของรถจักรยานยนต์สไตล์สปอร์ตของซูซูกิอย่างแท้จริง พร้อมทั้งนำการรูปแบบของ Suzuki Big Bike Showroom มาผสมผสาน ทำให้ผู้เข้าชมรู้สึกผ่อนคลายขณะเข้าเยี่ยมชมบูธเสมือนอยู่ในโชว์รูม Suzuki Big Bike อีกด้วย 
บูธรถจักรยานยนต์ซูซูกิ ในงาน Bangkok International Grand Motor Sale 2019 ครั้งนี้ ได้นำสุดยอดแห่งรถจักรยานยนต์เปี่ยมด้วยคุณภาพ สมรรถนะสูงหลากรุ่น หลายสไตล์ เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสกับรถจักรยานยนต์ของซูซูกิ ทุกรุ่นที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นด้านดีไซน์ สามารถตอบสนองการขับขี่ได้อย่างเหนือระดับ พร้อมเติมเต็มความสุขในทุกการขับขี่ 
พิเศษในงานนี้ทางซูซูกิ ได้นำผลิตภัณฑ์อันเลื่องชื่อที่ทางซูซูกิได้อุทิศเวลาวันแล้ววันเล่าในการสร้าง และออกแบบทุกชิ้นส่วนอย่างพิถีพิถันจนออกมาเป็น Suzuki Katana ที่มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 999 ซีซี DOHC 4 จังหวะ 4 สูบเรียง มาอวดโฉมให้ทุกท่านได้ชม มาพร้อมราคาเปิดตัวที่ 569,000 บาท และเปิดรับจองเป็นที่แรกในงานนี้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีรถจักรยานยนต์อีกหลากรุ่นหลายสไตล์มาให้ทุกท่านได้สัมผัสนวัตกรรมที่ทางซูซูกิมุ่งมันพัฒนาให้ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยแบ่งออกเป็น 5 โซน โซนแรก Ultimate and Sport Zone นำขบวนความแรงระดับตำนานโดย GSX1300R Hayabusa และ GSX-R1000/R โซนที่ 2 Street Zone สำหรับผู้ที่ชอบสตรีทไบค์ขอแนะนำ SV650X, SV650, GSX-S1000F, GSX-S1000 และ GSX-S750 ที่มาพร้อมสีใหม่ให้ทุกท่านได้เลือกชม ถัดมาโซนที่ 3 Adventure Tourer Zone สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยกับทัวร์ริ่งยอดนิยม V-Strom Series ต่อด้วยโซนที่ 4 Cruiser and Pleasure Zone สำหรับผู้ที่ชอบรถสไตล์ครูสเซอร์ Boulevard และบิ๊กสกู๊ตเตอร์ที่หรูหรามีระดับ Burgman 650 โซนสุดท้าย Convenience Zone พบกับ Burgman 200, VanVan 200, GSX-R150, GSX-S150 และ Raider R150 ให้ทุกท่านได้ชม ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด 
นอกจากนี้ยังมีของที่ระลึก และ Apparel เครื่องแต่งกายจากซูซูกิให้ท่านได้เลือกซื้อ อีกทั้งยังมี Accessories Zone ที่นำอุปกรณ์ตกแต่งรถจักรยานยนต์ และสินค้าจากทางซูซูกิมาจำหน่ายให้กับลูกค้าอีกด้วย และในงานนี้ทางซูซูกิได้เตรียมโปรโมชั่นแบบพิเศษสุดให้กับลูกค้าที่มาจองรถจักรยานยนต์ภายในงาน พร้อมมีเจ้าหน้าที่ปรึกษาการขาย คอยแนะนำท่านเพื่อให้ท่านได้เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ซูซูกิได้อย่างง่ายดาย

Suzuki Katana
“A Cut Above”
เฉียบคมเหนือคำบรรยาย
ซูซูกิ Katana ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากดาบญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงอันเลื่องลือ สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในด้านเส้นสายที่เฉียบคม และในด้านสมรรถนะของการขับขี่ที่โดดเด่น ซูซูกิได้ออกแบบพร้อมพัฒนาอุปกรณ์ทุกชิ้นส่วนอย่างพิถีพิถัน ถึงแม้ชิ้นส่วนบางชิ้นส่วนนั้นไม่ได้มองเห็นจากภายนอกก็ตาม นอกจากนี้ยังสะท้อนปรัชญาของซูซูกิที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สุดยอดงานฝีมืออันมีคุณค่าในทุกรายละเอียด 
ซูซูกิ Kanata ได้บรรจุขุมพลังเครื่องยนต์แบบ DOHC 4 จังหวะ 4 สูบเรียง ขนาด 999 ซีซี ระบบเกียร์ 6 สปีด พร้อมด้วยระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่ได้รับการพัฒนาจากเครื่องยนต์ซูซูกิ GSX-R1000 มาพร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด และชุดเรือนลิ้นเร่ง SDTV (Suzuki Dual Throttle Valve) เพื่อการเผาไหม้ในห้องเผาไหม้ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โครงสร้างตัวถังได้รับการออกแบบใหม่หมดให้มีขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา และมีความคล่องตัวสูง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างง่ายดาย ความสูงเบาะนั่งเพียง 825 มม. เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถยืดขาแตะพื้นได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนั้นเบาะนั่งและถังน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถูกออกแบบให้มีขนาดเพรียวบางลงตามสรีรศาสตร์ 
นอกจากนี้ระบบ Traction Control Switch and Traction Control Mode Display ยังเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถ และตอบสนองการบิดคันเร่งในทุกสภาพถนน ทำให้ผู้ขับขี่สามารถสนุกและมีความมั่นใจทุกครั้งที่ได้ขับขี่โดยไม่เหนื่อย และไม่เมื่อยล้าโดยสามารถเลือกใช้ระบบได้ 3 โหมด ระบบเบรกแบบทวินดิสก์ขนาด 310 มม. พร้อมด้วยคาลิเปอร์ Brembo โมโนบล็อกแบบ 4 พอร์ต ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS (Anti-Lock Brake System) แบบหน้า-หลัง ทำงานร่วมกับระบบ Traction Control ที่มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ไปอีกขั้น โช้คอัพหน้าแบบหัวกลับขนาด 43 มม. สามารถยุบตัวได้ถึง 120 มม. และระบบกันสะเทือนหลังแบบ Link-Type ส่วนโช้คหลังสามารถยุบตัวได้ 63 มม. อีกทั้งยังสามารถปรับค่าความหนืด และสปริงแบบพรีโหลดได้ ทำให้สมรรถนะในการยืดหยุ่น และให้การทรงตัวมีความสมดุลมากที่สุดในการขับขี่ที่หลากหลาย 
Suzuki Katana มาพร้อมไฟหน้าโคมคู่ใหม่ ที่ได้ถูกออกแบบและติดตั้งไว้ตรงกลางด้านหน้าด้วยไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยมแบบ LED และไฟหรี่แบบ LED คาดไว้ตรงกลางซ้ายและขวาของเลนส์ไฟ ทำให้ดูเฉียบคมและสะท้อนความมีเอกลักษณ์ได้เป็นอย่างดี เรือนไมล์แบบ Full LCD ที่มีลวดลายกราฟฟิกโลโก้ Katana ในภาษาญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชุดไฟท้ายแบบหลอด LED ได้ถูกออกแบบให้มีเส้นสายไฟท้ายที่เฉียบคมที่ให้แสงสว่างที่เป็นเอกลักษณ์เพิ่มความเป็น Katana ได้อย่างดีเยี่ยม บังโคลนหลังขนาดเล็กแยกอิสระได้ถูกยึดติดกับสวิงอาร์มครอบคลุมยางหลัง พร้อมไฟเลี้ยวหลัง และป้ายทะเบียนรถเป็นชิ้นเดียวกัน ทำให้ดูมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และดูดุดันมากยิ่งขึ้น ท่อไอเสียสั้นแบบยกได้ออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัดสีดำดุดันในทุกมุมมอง

ยามาฮ่าเปิดบูธ Riders’ Café ภายในงาน BIG MOTOR SALE 2019 พร้อมเปิด SUPER BIKE โฉมใหม่ล่าสุด NEW YZF-R1M และ NEW YZF-R1

นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ถ่ายภาพร่วมกับนายจรวย ขันมณี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดงาน Bangkok International Grand Motor Sale 2019 (BIG MOTOR SALE 2019) ในพิธีเปิดบูธ Yamaha Riders’ Café อย่างเป็นทางการ โดยครั้งนี้ยามาฮ่าได้ทำการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ SUPER BIKE โฉมใหม่ล่าสุด New YZF-R1M และ New YZF-R1 พร้อมเปิดจองในงานพร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ พร้อมกันนี้ยามาฮ่ายังได้ยกทัพรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดมาร่วมจำหน่ายอย่างเป็นทางการ นำโดย All New YAMAHA XSR155 น้องใหม่สไลต์สปอร์ตเฮอริเทจ, XSR700 สีใหม่โมเดล 2020 และ XSR900 สีใหม่โมเดล 2020 พร้อมกับโปรโมชั่นสุดพิเศษภายในงาน Bangkok International Grand Motor Sale 2019 (BIG MOTOR SALE 2019) ระหว่างวันที่ 17-25 สิงหาคม 2562 ณ อาคาร EH-106 ศูนย์นิทรรศการ และการประชุมไบเทค บางนา

โดยพิธีเปิดบูธ Yamaha Riders’ Café อาคาร EH-106 ศูนย์นิทรรศการ และการประชุมไบเทค บางนา เมื่อเร็วๆ นี้

ยามาฮ่าตอกย้ำความเป็นผู้นำ สร้างตลาด SPORT HERITAGE เปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ ALL NEW YAMAHA XSR155 ครั้งแรกของโลก

มร.โยชิฮิโร ฮิดากะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) มร.ชิเงโอะ ฮายาคาวะ ประธานกรรมการบริหาร นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ถ่ายภาพร่วมกันในงานแถลงข่าวเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด ALL NEW YAMAHA XSR155 ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์กลุ่มรถสปอร์ตในประเทศไทย ด้วยรถสไตล์ SPORT HERITAGE ครั้งแรกของโลกในคลาส 155 ซีซี ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยี VVA ที่เป็นการผสมผสานระหว่างไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ชื่นชอบวิถีที่งดงามของความคลาสสิคนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับนวัตกรรมสมัยใหม่ เพื่อการขับเคลื่อนได้อย่างลงตัว โดย ALL NEW YAMAHA XSR155 ถูกออกแบบและดีไซน์โดยคนไทย และผลิตขึ้นในประเทศไทย พร้อมจำหน่ายด้วยราคาแนะนำที่ 91,500 บาท

โดยงานแถลงข่าวเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ ALL NEW YAMAHA XSR155 ครั้งแรกของโลก มีขึ้น ณ ห้อง Grand Riverside Ballroom ชั้น 10 โรงแรม AVANI Riverside Bangkok เมื่อเร็วๆ นี้

2020 Yamaha YZ250F

หลังจากที่ออกแบบใหม่หมดในแบบที่เรียกว่า redesign สำหรับโมเดล 2019 ของ Yamaha YZ250F จนส่งผลให้กลายเป็นรถโมโตครอสที่พร้อมสำหรับเกมการชิงชัยมากยิ่งขึ้นในกลุ่มรถ 250F ด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานในสนามแข่งขันที่เห็นได้ชัดเจนจาก Dylan Ferrandis ที่ชนะใน AMA Supercorss West Championship

ซึ่ง Yamaha ได้นำข้อมูลต่างๆระหว่างฤดูกาลแข่งขันมาต่อยอดสู่โมเดลล่าสุดในปี 2020 กับ The Ultimate YZ250F หรือ ที่สุดของ YZ250F ที่ว่ากันว่ามันคือการพัฒนาสูงสุดของรถในซีรี่ส์นี้ แน่นอนว่ามันเป็นรถที่พร้อมสำหรับการแข่งขันในทุกๆระดับมากที่สุดโมเดลหนึ่งที่ Yamaha ผลิตออกมาหลังจากที่เสริมแต่งความเป็นสปอร์ตมากขึ้น ติดตั้ง electric start พร้อมกับตกแต่งเครื่องยนต์บางส่วนในโมเดลที่ผ่านมาให้กับเครื่องยนต์ 250 ซีซี สี่จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำจนมีสมรรถนะที่ดียิ่งขึ้นพร้อมติดตั้งบนโครงสร้าง aluminium bilateral beam frame ที่มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนชั้นนำอย่าง KYB ทั้ง KYB spring type forks และ KYB rear shock จนกระทั่งมาถึงโมเดล 2020 YZ250F นี้ ได้มีการเสริมสมดุลในส่วนของสมรรถนะต่างๆ ที่มีผลต่อการคว้าชัยชนะ ทั้ง performance-rideability-comfort กล่าวคือ นี่จะเป็นรถที่มีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม มีองค์ประกอบในการขับขี่ที่ดี และให้ความสบาย มาพร้อมกับเทคโนโลยีจากการแข่งขันของ Yamaha ไม่ว่าการปรับเปลี่ยนโหมดการขี่ การต่อเชื่อมแบบไร้สาย กับ Yamaha Power Tuner App เป็นต้น โดยทั้งหมดนี้จะอยู่ภายใต้คำจำกัดความที่ว่า Tune-Race-Win นั่นเอง

สำหรับไฮไลท์เบื้องต้นของ 2020 YZ250F ที่มีแนบมาให้กับไฟล์ภาพนั้นมีข้อมูลเทคนิคดังนี้
-เครื่องยนต์เปี่ยมสมรรถนะแบบ DOHC 250cc liqquid cooled 4-stroke engine ที่มาพร้อมกับ 4-valve cylinder head ให้อัตราส่วนกำลังอัด 13.8:1
-ฝาสูบแบบ Reverse cylinderhead โดยจะใช้ Lightweight titanium valves ซึ่ง titanium intake valves จะมีขนาด 31 มม. ขณะที่ titanium exhaust valves จะมีขนาด 25 มม. ซึ่งtitanium valve สามารถลดน้ำหนักได้ระหว่าง 40-45% ของ steel valves
-ปรับเซ็ทสะดวกด้วย Power Tuner smartphone app สามารถปรับให้สมาร์ทโฟนทั้งระบบแอนดรอย และไอโอเอส สามารถที่จะใช้งานได้คล้ายกับ อุปกรณ์ GYTR Power Tuner
-ปรับโหมดการขี่ได้ถึงสองแบบด้วย 2 position engine mapping switch
-เบาแรงด้วยสตาร์ทไฟฟ้า Lighweight electric starter พร้อม lithium-ion battery
-โครงสร้างเพรียวกะทัดรัดSlim and Compact bodywork and seat
-เฟรมแกร่งด้วย Strong bilateral aluminium beam frame
-ฟอร์คหน้า KYB front forks พร้อม speed sensitive damping
-ชุดกันสะเทือนหลัง Link type rear suspension พร้อม KYB rear shock
-Heavy duty clutch ที่รองรับการใช้งานหนักมาพร้อมกับ quick access ใช้งานง่ายน้ำหนักเบาด้วยการที่มือคลัทช์ออกแบบมาให้ใช้แรงกดน้อยลง ช่วยให้สบายขึ้นในขณะขับขี่ โดยฝาครอบด้านนอกเป็นวัสดุแมกนีเซียม
-ออกแบบหม้อน้ำที่มีประสิทธิภาพดีขึ้นด้วย High efficiency angled radiator design

สเปคของตัวรถมีดังนี้
Engine type : liquid-cooled, 4-stroke, 4-valves, DOHC
Displacement : 250cc
Bore x stroke : 77.0 mm x 53.6 mm
Compression ratio : 13.8 : 1
Lubrication system : Wet sump
Clutch type : Wet, Multiple Disc
Ignition system : TCI
Starter system : Electric
Transmission system : Constant Mesh, 5-speed
Final transmission : Chain
Fuel system : Electronic Fuel Injection
Frame : Aluminium
Front travel : 310 mm
Caster angle : 27º1
Trail : 119mm
Front suspension system : Upside-down
telescopic fork
Rear suspension system : Monoshock
Rear travel : 315 mm
Front brake : Hydraulic single disc, Ø270 mm
Rear brake : Hydraulic single disc, Ø245 mm
Front tyre : 80/100 – 21 51M
Rear tyre : 100/90 – 19 57M
Overall length : 2175 mm
Overall width : 825 mm
Overall height : 1285 mm
Seat height : 970 mm
Wheel base : 1475 mm
Minimum ground clearance : 335 mm
Wet weight (including full oil and fuel tank) : 106 kg
Fuel tank capacity : 6.2L
Oil tank capacity : 0.95L

2019 Triumph Speed ​​Twin

ไทรอัมพ์ แบรนด์รถจักรยานยนต์ระดับตำนานของสัญชาติอังกฤษ ประกาศการกลับมาของหนึ่งในโมเดลที่มีชื่อเสียงและโด่งดังมากที่สุด Speed Twin สปีดทวิน

สำหรับในปี 2019 Triumph Speed ​​Twin ใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสาย Bonneville แต่มีการวางแพลนการเปลี่ยนแปลงตั้งเป้าหมายในรูปแบบใหม่ คือการรวมประสิทธิภาพของซีรี่ย์ของ Thruxton เข้ากับ Bonneville T120 เป็นความคลาสสิคที่เร้าใจ เครื่องยนต์คู่ขนานที่เป็นสัญลักษณ์ Triumph Speed ​​Twin มาจาก Thruxton พร้อมกับแรงบิด และคุณสมบัติการปรับแต่งเช่นเดียวกับซีรี่ย์ Thruxton, powerplant ทำให้ Speed ​​Twin มีการเปลี่ยนแปลงในการผลิตแรงม้าสูงสุด 96 แรงม้า ที่ 6,750 รอบ/นาที การปรับเปลี่ยนวัสดุเครื่องยนต์เพื่อลดน้ำหนักจึงใช้ฝาครอบแมกนีเซียม แคมชาฟท์ใหม่ช่วยให้เครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับอย่างเหมาะสมที่สุด ทำให้เบากว่า Bonneville T120 เกือบ 60 ปอนด์ คันเร่งแบบ Ride-by-Wire ที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว และมาพร้อมกับโหมดการขับขี่ คือ Rain, Road และ Sport แต่ละโหมดจะปรับการตอบสนองแรงบิดและการควบคุมแรงฉุดสามารถปรับตามความต้องการแชสซีของ Speed ​​Twin นั้นมาจาก Thruxton R พร้อมการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้รองรับได้มากขึ้น มีตำแหน่งการขับขี่ที่เที่ยงตรง ที่นั่งแบบเพรียวบางและมีระดับต่ำกว่า Thruxton R โช้คอัพหน้า KYB ขนาด 41 มม. ที่ไม่สามารถปรับระดับได้ โช้คอัพหลัง KYB คู่ สามารถปรับสปริงโหลดได้ สวิงอาร์มอลูมินัมที่ออกแบบใหม่เพื่อลดน้ำหนัก และได้ความเสถียรมากขึ้น ระบบเบรกดิสก์หน้าคาลิเปอร์ Brembo 4 ลูกสูบ ร่วมกับจานดิสก์ขนาด 305 มม. ดิสก์เบรกหลังคาลิเปอร์ Nissin 2 ลูกสูบ กับจานดิสก์ขนาด 220 มม. และระบบ ABS ที่เป็นมาตรฐานออกมาจากโรงงาน วงล้อแม็กอลูมินัม 7 ก้าน เป็นการหล่อขึ้นรูปเพื่อความแข็งแรง ขอบขนาด 17 นิ้ว และใส่กับยาง Pirelli Rosso Corsa III

ส่วนเสริมอื่นๆ เช่นบังโคลนอลูมินัมขัดเงา ตัวเรือนลิ้นปีกผีเสื้อตัวยึดแผงด้านข้างและตัวป้องกันส้นเท้า ถังน้ำมันดีไซน์ใหม่ เรือนไมล์ทรงกลมยังคงความคลาสสิคตลอดกาล ปั๊มแรงดันดิสก์เบรกหน้ากระปุกแยก ก้านคลัทช์เหรียญปรับระดับ กระจกที่ปลายแฮนด์บาร์ และชิ้นส่วนอุปกรณ์เสริมจาก Triumph จะมีมากมายเกือบ 100 รายการสำหรับการปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ

รายละเอียดสเปค 2019 Speed Twin
เครื่องยนต์ : คู่ขนาน 2 สูบ กับข้อเหวี่ยง 270 องศา
ปริมาตรความจุ กระบอกสูบ : 1200 ซีซี
กำลังสูงสุด : 96 แรงม้าที่ 6,750 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด : 83 ฟุต / ปอนด์ ที่ 4,950 รอบ/นาที
อัตราส่วนการบีบอัด : 11.0 : 1
ระบบวาล์ว : SOHC, 8 วาล์ว
ระบายความร้อน : หม้อน้ำ
เกียร์ : 6-speed
คลัทช์ : แบบเปียกซ้อนกันหลายแผ่น
ขับเคลื่อนสุดท้าย : โซ่
แชสซี : ท่อเหล็ก / อลูมินัมแบบเปลคู่
ระบบกันสะเทือนหน้า: เทเลสโคปิค KYB 41 มม.
ระบบกันสะเทือนด้านหลัง : แบบคู่ KYB ปรับพรีโหลด
ล้อ : อลูมินัมหล่อขึ้นรูป 7 ก้าน
ล้อหน้า : 3.50 x 18
ล้อหลัง : 5.00 x 17
ยางรถยนต์: Pirelli Diablo Rosso III
ยางหน้า : 120/70 x 17
ยางหลัง : 160/60 x 17
เบรกหน้า: จานดิสก์ 305 มม. พร้อมคาลิเอปร์ Brembo 4 ลูกสูบ
เบรคหลัง : จานดิสก์ 220 มม. พร้อมคาลิเปอร์แบบ 2 ลูกสูบ Nissin
ABS : มาตรฐาน
ระยะฐานล้อ : 56.3 นิ้ว
ความสูงของเบาะ : 31.8 นิ้ว
ความจุเชื้อเพลิง : 3.8 แกลลอน
สี : เงินน้ำ / สีเทา /แดง

2019 MV Agusta Turismo Veloce Lusso SCS

ตอบโจทย์สำหรับสายทัวร์ริ่ง ในเรือนร่างของความสปอร์ต ด้วยดีไซน์ใหม่โดดเด่น ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์แบบ 3 สูบ ขนาด 800 ซีซี ที่ได้มาจากรหัสแรง F3 ด้วยเพลาข้อเหวี่ยงที่ออกแบบให้ส่งพละกำลังออกได้อย่างดุดัน และตอบสนองความต้องการด้วย โหมดการขับขี่ถึง 4 แบบ Touring และ Rain ที่มีกำลังสูงสุด 90 แรงม้า Sport ที่มีพละกำลัง 110 แรงม้า และ Custom ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ

Turismo Veloce 800 มาพร้อมกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ MVICS พร้อมระบบมัลติริปแบบ Ride by Wire โดยมีรูปแบบ และระบบควบคุมแรงฉุดถึง 8 ระดับ นอกจากนี้ยังเป็นจักรยานยนต์เพียงคันเดียวในประเภทที่มีเกียร์อิเล็กทรอนิกส์ EAS 2.0 ที่มีความซับซ้อนและแพลตฟอร์มมาตรฐาน และยังใช้งานควบคู่กับระบบคลัทช์แบบไฮดรอลิก
ภายใต้พละกำลัง 110 แรงม้า ที่ 11,500 รอบต่อนาที และแรงบิด 83 นิวตันเมตร ที่ 7.600 รอบต่อนาที ทำให้ย่านแรงบิดได้รับการออกแบบให้เรียบเนียนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อความสนุกในการขับขี่สูงสุดโดย 90% ของแรงบิดทั้งหมดอยู่ที่ 3,800 รอบต่อนาที คือการขับขี่ความสนุก และความสุขบนท้องถนน ระบบคลัทช์ไฮดรอลิก ที่มีความนิ่มง่ายต่อการบีบไม่เมื่อยมือ และความต่อเนื่องของรอบเครื่องยนต์กับควิกชิฟเตอร์การเปลี่ยนเกียร์ที่สมูทเพิ่มความเร้าใจเมื่อต้องการเร่งสปีดเรื่องของความปลอดภัยที่เน้นเป็นสิ่งสำคัญ ให้สัมพันธ์กับสมรรถนะของเครื่องยนต์ โดยการติดตั้งระบบ Bosch 9 PLUS ABS สองช่องทาง ด้วยการส่งการประมวลผลลดการทำงานของเครื่องยนต์เมื่อล้อหลังลอยขึ้นจากพื้น ระบบจะควบคุมแรงดันที่ใช้กับเบรกหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงล้อหลังลอยโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งมันอาจเกิดขึ้นได้
การออกแบบดีไซน์ทุกรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตั้งแต่ด้านข้างที่มีความกะทัดรัด แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานอย่างลงตัวเพื่อความสุขในการขับขี่และการเดินทาง ทันสมัยพร้อมความสง่างามที่ไม่เหมือนใคร ตัวถังที่มีความโค้งเว้าสปอร์ต แต่มีความจุมากพอที่จะพาคุณออกไปไกลไปใกล้ ไฟหน้า LED ใหม่ แฮนด์บาร์จับกับตุ๊กตาและการ์ดแฮนด์พร้อมไฟเลี้ยวพร้อมสำหรับการลุยและความปลอดภัย จอแสดงผลแบบฟูลดิจิตอล โช้คอัพหน้า Upside-Down ของ Sachs สามารถปรับได้เต็มระบบ วงล้อแม็กอลูมินัมผสมโลหะ หน้า/หลัง ขนาด 17 นิ้ว ดิสก์เบรกหน้า จาน 320 มม. คาลิเปอร์ brembo แบบ 4 ลูกสูบ ดิสก์เบรกหลัง จาน 220 มม. คาลิเปอร์ Brembo ช่วงท้ายดีไซน์ได้สปอร์ต ไฟท้าย LED โช้คอัพหลังเดี่ยว และสวิงอาร์มแบบแขนเดี่ยว

เมื่อสมรรถนะที่โดดเด่น ตอบสนองความต้องการได้อย่างเร้าใจ สนุกสนาน และความสบายในการขับขี่ที่มีความสุข ไม่ว่าจุดหมายปลายทางจะอยู่ไกลแค่ไหน จะได้สัมผัสการขับขี่ที่สะดวกสบายสำหรับการเดินทาง

เครื่องยนต์: 3 สูบเรียง DOHC, 4 วาล์ว ต่อสูบ
ความจุกระบอกสูบ : 798 ซีซี
ระบายความร้อน : หม้อน้ำ
กำลังสูงสุด: 109 แรงม้าที่ 10,150 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด: 59 ฟุต / บอนด์ ที่ 7100 รอบต่อนาที
ความเร็วสูงสุด : 230 กม./ชม.
อัตราส่วนการบีบอัด : 12.2: 1
เกียร์ : 6-speed w / quickshifter
คลัตช์ : ไฮโดรลิค
ขับสุดท้าย : โซ่
แชสซี : ALS เหล็กโครงถัก
กันสะเทือนอัพหน้า : Sachs หัวกลับ ปรับได้เต็ม
แอ็คทีฟ 43 มม.
กันสะเทือนด้านหลัง: Sachs แบบเดี่ยว ปรับระดับได้
วงล้อ : โลหะผสมอลูมินัม
ล้อหน้า : 3.50 x 17
ล้อหลัง : 6.00 x 17
ยางหน้า: 120/70 x 17 Pirelli Scorpion Trail II
ยางหลัง: 190/55 x 17 Pirelli Scorpion Trail II
เบรกหน้า: จานขนาด 320 มม. พร้อมคาลิเปอร์
Brembo แบบ 4 ลูกสูบ
เบรกหลัง: จานขนาด 220 มม. พร้อมคาลิเปอร์
Brembo พร้อมระบบห้ามล้อเมื่อจอด
ABS : Bosch 9 Plus พร้อมการลดการยกล้อหลัง
ระยะฐานล้อ : 1,445 มม.
ความสูงของเบาะ : 850 มม.
ความจุเชื้อเพลิง : 26 ลิตร

2019 MOTUL TT ASSEN Round 8 TT Circuit Assen @ Netherlands 29-30 June Vinales takes on Marquez and comes out on top at Assen. Quartararo Continues podium

เกิดเหตุการณ์ขึ้นหลายอย่างในสนามนี้ เกือบสังเวยนักแข่งระดับแถวหน้า ตั้งแต่เริ่มลงซ้อม FP1 ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ กระเด็นที่โค้ง 8 ซึ่งเป็นโค้งไฮสปีด ทำให้มีอาการบาดเจ็บที่คอ และศีรษะ ทีมงานต้องส่งโรงหมอ หลังจากการตรวจร่างกายแล้วแพทย์สั่งระงับห้ามลงทำการแข่งขันทันที และอีกหนึ่งรายนักแข่งไทย คิงคอง ก้อง-สมเกียรติ จันทรา ล้มในรอบวอร์มอัพ
แล็ปก่อนแข่ง ทำให้แขนซ้ายหัก ไม่ได้ลงเช่นกัน

เกมเดือดตั้งแต่รอบควอลิฟาย กว่าจะได้ผู้นำของเวลาต่อรอบที่เร็วที่สุดต้องรอจนถึงวินาทีสุดท้าย เป็น ฟาบีโอ กัวตาราโร่ ที่คว้าตำแหน่งโพลฯ สองสนามติดต่อกันเป็นสถิตใหม่ของนักแข่งอายุน้อยที่สุด ต่อจาก มาร์ก มาเกวส ที่กดเวลามาได้ กริดที่สอง มาเวอร์ริค บีญาเลส และกริดที่ 3 เป็นของ อเล็กซ์ รินส์
MotoGP
เกมสนามนี้เดือดจริงๆ การออกสตาร์ทไปของกลุ่มหน้า และตามกันมาเป็นกลุ่มใหญ่ อเล็กซ์ รินส์ ขึ้นมานำ ตามมาด้วย บีญาเลส และ กัวตาราโร่ แต่เกมยังไม่ผ่านรอบแรก รินส์ ก็กระเด็นหลุดออกไป กัวตาราโร่ ขึ้นมานำ มาร์เกวส จี้ติดหลัง บีญาเลส ส่วนของคู่หู โดวิซิโอโซ่ และ เปตรุซซี่ ก็ตามอยู่ห่างๆ โจอัน เมีย แผ่วลงไป เกมพลิกไปพลิกมา กัวตาราโร่ รถส่ายสะบัดยกคันเร่งนิดเดียวทำให้ มาร์เกวส แซงขึ้นไปนำ ข้างหลังค่อยๆ ยืดห่าง รอสซี่ ล้มสไลด์ไปโดน นาคากามิ หลุดออกไปทั้งคู่ แต่ข้างหน้ายังหนีกันไม่ออก บีญาเลส แซงขึ้นไปนำบ้าง แต่เกมมาได้ลุ้นสนุกตอนท้ายๆ ปัญหาการเลือกยางหลังซอฟส่งผลให้ มาร์เกวส ต้องประคองตำแหน่ง บีญาเลส ทิ้งห่างเข้าวินคว้าอันดับ 1 เป็นครั้งแรกในปีนี้ มาร์เกวส อันดับ 2 และ กัวตาราโร่ รับอันดับ 3
Moto2
เรมี่ กราด์เนอร์ ที่ได้ตำแหน่งโพลฯ แต่ออกสตาร์ทไม่ดี แบรด บินเดอร์ ขึ้นไปนำโดยที่มี แซม โลวส์ ตามติดมา ช่วงแรกๆ ของเกมยังคงสูสี แต่เมื่อเข้าสู่ครึ่งทางมีการแย่งชิงจังหวะ ซาบี้ บีเย่ ขยับขึ้นมาจี้ท้าย ตามด้วย ออกัสโต้ เฟอร์นันเดส ที่ไล่ขึ้นมาจากอันดับที่ 13 ข้างหลัง แซม พลาดล้มลงไป ทอม ลูติ ก็แผ่ว ทำให้ อเล็กซ์ มาร์เกวส แรงขึ้นมานำ ตามด้วย ลอเรนโซ่ บาลดาสซารี่ ซึ่งเกมเหลืออีกเพียง 2 รอบ รถส้มวิ่งตัดหน้า อเล็กซ์ ล้ม บาลดาสซารี่ ล้ม ทำให้ เฟอร์นันเดส ขึ้นนำและผ่านธงตราหมากรุกคว้าอันดับ 1 แบรด บินเดอร์ ตามมาเป็นอันดับ 2 และ ลูก้า มารินี่ ซึ่งช่วงต้นและกลางเกมไม่ได้อยู่ในหัวแถวด้วยซ้ำ แต่ปิดเกมด้วยอันดับที่ 3
Moto3
จรวดจิ๋ว นิคโคโล่ อันโตเนลลี่ กำลังฟอร์มมาแรงคว้าตำแหน่งโพลฯ แต่กลับออกตัวได้ไม่ดีเท่าไหร่ โดน คาอิดตะ โทบะ แซงขึ้นไปนำและเบียดกับ โรมาโน่ ฟีนาติ แต่ก็ยังมีตัวสอดแทรกอย่าง ดาเรน บิน
เดอร์ ยิ่งทำให้สนุกเร้าใจมากขึ้น เกมที่ไล่กันอย่างสูสีทุกๆ รอบ แต่แล้ว โทบะ ก็มาล้ม ทำให้ข้างหลังชะงักไปพัก อันดับเลยเปลี่ยน ดาลลา ปอร์ต้า ขึ้นมาจากข้างหลังเป็นผู้นำ ตามมาด้วย เจคอบ คอนฟิล แต่ยังเรียงเกาะท้ายมาอีกเพียบ จนมาถึงท้ายเกม โมนี่ อาร์บอลิโน่ ที่ขึ้นๆ ลงๆ เกาะกลุ่มแซงทะลุขึ้นนำ และคว้าอันดับหนึ่งไปแบบหน้าตาเฉย ลอเรนโซ่ ดาลลา ปอร์ต้า อันดับ 2 และ คอนฟิล รับอันดับ 3

สำหรับรายการแข่งขันสนามต่อไป HJC Helmets Motorrad Grand Prix Deutschland จะจัดขึ้นที่ สนาม แซคเซนริง ประเทศเยอรมัน ในวันที่ 6-7 กรกฎาคม 2562
คะแนนสะสมหลังจากจบสนามที่ 7
MotoGP
1 มาร์ก มาร์เกวส Honda 160
2 แอนเดรีย โดวิซิโอโซ่ Ducati 116
3 ดานีโล่ เปตรุซซี่ Ducati 108
4 อเล็กซ์ รินส์ Suzuki 101
5 วาเลนติโน่ รอสซี่ Yamaha 72
Moto2
1 โทมัส ลูติ 117
2 อเล็กซ์ มาร์เกวส 111
3 ออกัสโต้ เฟอร์นันเดส 92
4 ฮอร์เก้ นาวาร์โร่ 89
5 โลเรนโซ่ บาลดาสซารี่ 88
Moto3
1 อารอน คาเน็ท KTM 107
2 ลอเรนโซ่ ดาลลา ปอร์ต้า Honda 100
3 นิคโคโล่ อันโตเนลลี่ Honda 83
4 โทนี่ อาร์บอลิโน่ Honda 76
5 เซเลสติโน่ เวียติ KTM 68

2019 GRAN PREMI MONSTER ENERGY DE CATALUNYA ROUND 7 Circuit de Barcelona @ Spain Marc Marquez wins, Fabio Quartararo 2nd, Danilo Petrucci 3rd and chaos reigns at Catalunya

เป็นการล้างอาถรรพ์ของแชมป์ 5 สมัย มาร์ก มาร์เกวส นักบิดจากแดนกระทิงดุที่ไม่ได้ขึ้นโพเดี้ยมในการแข่งขันสนามโฮมเรซแห่งนี้ที่ บาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ตั้งแต่ปี 2014 โดยในรอบควอลิฟายก็พลาดตำแหน่งโพลฯ เพราะดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง ฟาบีโอ กัวตาราโร่ จาก ปิโตรนาส ยามาฮ่า นั้นกดเวลาคว้าตำแหน่งโพลโพสิชั่นสนามนี้ไปครอง

MotoGP
สภาพสนามไม่ค่อยเป็นใจสักเท่าไหร่ ทั้งอากาศโดยรวมและอุณหภูมิพื้นแทร็คที่ร้อนกว่า 50 องศาเซลเซียส เกมนี้เริ่มออกสตาร์ทได้ลุ้นกันเป็นกลุ่มใหญ่ ไล่เสียบกันนัวเนีย มาร์เกวส ขึ้นมาได้เป็นคันแรก ตามด้วย ดานีโอ เปตรุซซี่ และ โดวิซิโอโซ่ ขณะที่ข้างหลังมีการขยับตำแหน่งไล่แซงกัน และมาถึงโศกนาฏกรรม ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ ที่มีการปรับเปลี่ยนตัวรถใหม่แรงขึ้นมาจ่อท้ายและพยายามที่จะเสียบเข้าโค้งซ้ายในกลุ่มหน้า แต่รถเกิดเสียจังหวะเพราะข้างหน้าพับรถเลี้ยว ทำให้หน้ารถ ลอเรนโซ่ พับสไลด์ไปชน โอวิซิโอโซ่ กระเด้งไปถูก บีญาเลส และ รถ บีญาเลส ไปเสียบท้าย รอสซี่ ทัพอเวเจอร์ทั้งหลายนอนหงายท้อง หมดโอกาสในการที่จะลุ้นโพเดี้ยมตั้งแต่รอบแรก ทำให้ มาร์เกวส นำโด่งแบบไม่มีใครตาม คู่ชิงอันดับนี่สิมันเป็นไฮไลท์ของสนามนี้ เปตรุซซี่ อเล็กซ์ รินส์ และ กัวตาราโร่ ไล่กันมันตั้งแต่เริ่มเกมจนรอบสุดท้าย รินส์ พลาดหลุดไลน์ไม่ล้ม กัวตาราโร่ เสียบ เปตรุซซี่ เกมพลิกไปพลิกมา แต่ข้างหน้า มาร์เกวส นำม้วนเดียวจบ คว้าวินเนอร์โพเดี้ยม ล้างอาถรรพ์สำเร็จ กัวตาราโร่ ตามเข้ามาเป็นอันดับ 2 และ เปตรุซซี่ รับอันดับที่ 3 เป็นการขึ้นโพเดี้ยมสองสนามติดต่อกันด้วย
Moto2
แรงอย่างต่อเนื่องจริงๆ สำหรับ อเล็กซ์ มาร์เกวส ถึงแม้จะต้องเจอกับจอมเก๋าอย่าง โธมัส ลูติ อากัสโต้ เฟอร์นันเดส และ ฮอร์เก้ นาวาร์โร่ กับเกมที่สุดหินในโฮมเรซเพราะเกมที่เริ่มด้วยการนำของ ลูติ และมีทีท่าว่าจะแซงยากเสียด้วย ไหนจะต้องผ่าน เฟอร์นันเดส ที่ขี่ได้ดีทุกสนาม แต่พอเกมมาถึงครึ่งทาง มาร์เกวส ก็ขยับขึ้นมาและสามารถแซงขึ้นไปนำได้ เฟอร์นันเดส ร่วงไปยาว ลูติ ยังประครองอันดับไว้ได้ แต่ นาร์วาโร่ ที่แรงขึ้นมาเกือบถึงข้างหน้าแต่ไล่ไม่ทัน อเล็กซ์ มาร์เกวส ขี่ดีมาก คว้าอันดับ 1 ท่ามกลางกองเชียร์ในโฮมเรซ ลูติ อันดับ 2 และ นาวาร์โร่ อันดับ 3
Moto3
นักแข่งตัวจี๊ดทั้งหลายได้โชว์พาว เล่นเสียบกันตั้งแต่โค้งแรกเกมผ่านไปเพียงสองรอบ ดาลลา ปอร์ต้า ตัวเต็งคะแนนสะสมนำ รถเกิดมีปัญหาขณะที่นำเป็นจ่าฝูงหมดโอกาสยืนโพเดี้ยม ทำให้ตำแหน่งมีการสลับสับเปลี่ยนกันชุนละมุน จอนห์ แมคฟี่ ขึ้นมานำ แต่ยังไม่ทันไรก็โดน โลเปซ เสียบขึ้นไปได้ แมคฟี่ หลุดไลน์ออกไป เกมยิ่งสนุกกับช่วงท้าย อารอน คาเน็ท และ รามีเรซ ได้โอกาสขึ้นมาเกาะท้าย แต่เกมพลิกอีกครั้ง โอคูบะ แรงจากข้างหลังแซงพรวดเดียวขึ้นนำ ทำให้เกมยิ่งสนุกขึ้น มาถึงรอบสุดท้าย โอคูโบะ พลาดล้ม คาเน็ท ขึ้นนำ แต่ รามีเรซ ตามมาชิงจังหวะอีกเพียง 2 โค้งสุดท้าย แซงขึ้นนำและปิดเกม รามีเรซ คว้าอันดับ 1 ทำให้ คาเน็ท ได้อันดับ 2 และ เซเลสติโน่ เวียติ ก็พุ่งขึ้นมาคว้าอันดับ 3 แบบสะใจกองเชียร์

สำหรับการแข่งขันสนามต่อไป จะจัดขึ้นที่ สนาม ทีที เซอร์กิต เอสเซ่น ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในวันที่ 30 มิถุนายน 2562

คะแนนสะสมหลังจากจบสนามที่ 7
MotoGP
1 มาร์ก มาร์เกวส Honda 140
2 แอนเดรีย โดวิซิโอโซ่ Ducati 103
3 อเล็กซ์ รินส์ Suzuki 101
4 ดานีโล่ เปตรุซซี่ Ducati 98
5 วาเลนติโน่ รอสซี่ Yamaha 72
Moto2
1 อเล็กซ์ มาร์เกวส 111
2 โทมัส ลูติ 104
3 ฮอร์เก้ นาวาร์โร่ 89
4 โลเรนโซ่ บาลดาสซารี่ 88
5 มาร์เซล ชร็อทเทอร์ 73
Moto3
1 อารอน คาเน็ท KTM 103
2 ลอเรนโซ่ ดาลลา ปอร์ต้า Honda 80
3 นิคโคโล่ อันโตเนลลี่ Honda 75
4 เซเลสติโน่ เวียติ KTM 68
5 จัวเม่ มาเซีย KTM 65

MOTUL FIM SUPERBIKE WORLD CHAMPIONSHIP 2019 Round 8

PROSECCO DOC UK ROUND – Donington park @ english 6-7 july
Rea takes championship lead with Dubble wins, Bautista crashes again! Razgatlioglu he took his first WorldSBK career podium. เกมความเร้าใจกับเกมชิงแชมป์โลกรถจักรยานยนต์ทางเรียบ World Superbike เข้ามาถึงสนามที่ 8 ซึ่งจัดขึ้นที่ สนาม โดนิงตัน พาร์ค ประเทศอังกฤษ โจนาธาน เรีย เก็บเรียบท็อปโพเดี้ยม และดาวรุ่งเฉิดฉาย ผู้นำตารางสะสมเปลี่ยน รุ่นรอง จูลส์ คูลเซล เบียดขึ้นนำคว้าชัยชนะ ส่วนรุ่นเล็ก นักแข่ง อิตาลี คว้าชัยครั้งแรก

World Superbike 1000cc
Race 1
เจ้าของอดีตฉายาซูเปอร์โพลแมน ทอม ไซคส์ กลับมาคว้าโพลโพสิชั่นอีกครั้งให้กับ BMW ตามด้วย โจนาธาน เรีย และ ลีออน ฮาสแลม ซึ่งทั้ง 3 นักแข่ง เป็นชาวอังกฤษ กับการแข่งขันในโฮมเรซ แต่พอจะเริ่มการแข่งขันฝนตกจะต้องประกาศเวทเรซ ทำให้เกมอาจดูไม่ร้อนแรง นักแข่งต้องควบคุมรถมากกว่าต้องการความเร็ว หลังจากที่ออกสตาร์ท เรีย ก็พุ่งขึ้นไปนำ ตามด้วย ไซคส์ และ ฮาสแลม ส่วน เบาติสต้า ซึ่งดูแล้วไม่ค่อยจะถูกกับฝนสักเท่าไร ผ่านเกมมาได้เพียง 10 รอบ ก็สไลด์หลุดแทร็คออกไป ทำให้ข้างหน้าทิ้งห่าง ลอริส บาส ขยับขึ้นมาแทน ข้างหน้า เรีย ทิ้งห่าง 11 วิ. และเข้ารับธงตราหมากรุกอันดับ 1 ไซคส์ อันดับ 2 และ อันดับที่ 3 เป็นของ ฮาสแลม เหมือนตำแหน่งสตาร์ท
Superpole Race
ในช่วงสายๆ สภาพแทร็คก็ยังไม่เป็นใจมีลื่นเป็นบางจุด ทำให้เกมที่กำลังเข้มข้นต้องจบเร็วเพียง 7 รอบ จากทั้งหมด 10 รอบ กรรมการตีธงแดง เพราะการล้มอย่างรุนแรงของนักแข่งหลายคน แต่เพียงพอสำหรับ 70% การเรซ เรีย คว้าชัยชนะ รัสกัทลีโอกูล อันดับ 2 และ ฮาสแลม อันดับ 3
Race2
กลับมาในเรซสอง สภาพแทร็คแห้งสนิท เกมได้ลุ้นกันตั้งแต่ออกสตาร์ท ดาวรุ่งทีมซับพอร์ท รัสกัทลีโอกูล ส่งสัญญาณเตือนรุ่นพี่ เรีย ด้วยการแซงขึ้นไปนำ ส่วนข้างหลัง ฮาสแลม เบียดกับ เบาติสต้า กลุ่มหลัง อเล็กซ์ โลวส์, ลอริส บาส ก็ไฟท์กันได้สนุก เป็นเกมที่สนุกมีเสียวทุกโค้ง เรีย กลับมาแซงขึ้นนำ เบาติสต้า ก็แซง ฮาสแลม ขึ้นมา แชส เดวี่ส์ แผ่วปลายร่วงไปยาว คู่หน้าจี้กันติดทิ้งห่างข้างหลัง 5 วิ. คู่หลังห่าง โลวส์ ก็แซง ฮาสแลม ขึ้นมาได้ แต่เกมจบด้วย เรีย คว้าอันดับ 1 รัสกัทลีโอกูล อันดับ 2 และ เบาติสต้า ตามห่างอันดับที่ 3 ทำให้คะแนนสะสมในตารางเปลี่ยน เรีย กลับขึ้นนำ
World Supersport 600cc
ด้วยเวลาต่อรอบของนักแข่งแต่ละคนใกล้เคียงกันมาก เกมจึงสนุกเร้าใจตื่นเต้น ได้ลุ้น คาริคาซูโล่ และ ลูคัส มาเฮียส ยังคงทำผลงานได้ดี ออกสตาร์ทตีคู่ขึ้นไปนำ แต่เกมเริ่มเปลี่ยนและยิ่งร้อนแรงเมื่อท้ายเกม จุลส์ คูลเซล ขยับขึ้นมาและแซงเป็นผู้นำ และ ครุมเมนาเชียร์ ที่ออกสตาร์ทจากกริดที่ 10 ก็ขึ้นมาเกาะท้ายกลุ่มหน้า เกมไล่กันได้เสียว แต่ความมุ่งมั่นของ คูลเซล ประสบความสำเร็จ คว้าอันดับ 1 คาริคาซูโล่ อันดับ 2 และ มาเฮียส อันดับ 3
World Supersport 300cc
รถแข่งทะลักกริด 33 คัน ดาวรุ่งแต่ละประเทศเข้าร่วมกันอย่างมากมาย เกม 13 รอบสนาม เริ่มขึ้นด้วย เฮนดร้า ปราทาม่า ชิงขึ้นนำได้ก่อนแต่พลาดล้ม ทำให้ เวอร์ดอย ขึ้นนำแซง อีราซี่ ที่ตามกดดันมาล้มไปอีกทำให้เกมข้างหน้าเปลี่ยน คาลินิน เห็นจังหวะได้เสียบขึ้นมากดดันข้างหน้า แต่ ซาบาตุซซี่ ที่แรงขึ้นมาจากข้างหลังพร้อมกับ สตีแมน แซงทางตรงในสองรอบสุดท้าย ทำให้อันดับเปลี่ยนอีกครั้ง และเบียดกันจนเข้าเส้น ซาบาตุซซี่ คว้าอันดับ 1 เป็นครั้งแรก เวอร์ดอย มาเอาคืนได้อันดับที่ 2 และ คาลินิน อันดับที่ 3

การชิงชัยนัดต่อไป สนามที่ 8 จะแข่งขันกันที่ สนาม เวทเธอร์เทค เรซเวย์ ลากูน่า เซก้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 13-14 กรกฎาคม 2562

คะแนนสะสมหลังจบสนามที่ 8
World Superbike 1000cc
1 โจนาธาน เรีย KAWASAKI 376
2 อัลว่าโร่ เบสติสต้า DUCATI 352
3 ไมเคิล ฟาน เดอร์ มาร์ก YAMAHA 206
4 อเล็กซ์ โลวส์ YAMAHA 192
5 ลีออน ฮาสแลม KAWASAKI 187
World Supersport 600cc
1 เรนดี้ ครุมเมนาเชียร์ YAMAHA 173
2 เฟดเดอริโก้ คาริคาซูโล่ YAMAHA 158
3 จูลส์ คูลเซล YAMAHA 132
4 ลูคัส มาเฮียส YAMAHA 82
5 ฮิคาริ โอคูโบะ KAWASAKI 73
World Supersport 300cc
1 มานูเอล กอนซาเรซ KAWASAKI 108
2 อานา คาราสโก้ KAWASAKI 65
3 สก๊อต เดอรูด KAWASAKI 65
4 แอนดี้ เวอร์ดอย YAMAHA 65
5 ยาน โอลี เยนนิค KTM 59

MOTUL FIM SUPERBIKE WORLD CHAMPIONSHIP 2019 Round 7 Pata Riviera di Rimini Round – Misano World Circuit Marco Simoncelli @ Italy 22-23 June

เอาแล้วไง…คิง เรีย กลับมาคว้าซูเปอร์โพลฯ กริดสตาร์ทแรก ซานโดร คอร์เตซี่ คว้ากริดที่สองได้ออกแถวหน้า ทอม ไซคส์ อดีตซูเปอร์โพลแมนคว้ากริดที่ 3 อเล็กซ์ โลวส์ มาพร้อมกับความมั่นใจสนามนี้กดเวลาได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 4 ส่วน อัลวาโร่ เบาติสต้า ออกสตาร์ทที่ 5 แต่เค้าทำท็อปสปีดเร็วที่สุดของสนามไว้ที่ 276.2 กม./ชม. และเป็นที่น่าเสียดายสำหรับ ไมเคิล ฟาน เดอร์ มาร์ก เกิดอุบัติเหตุในการซ้อมครั้งที่สอง ต้องถอนตัวออกจากการแข่งขันในเรซนี้

World Superbike 1000cc
Race 1
ฝนตกลงมาอย่างหนัก ออกสตาร์ทไปเพียง 3 รอบ กรรมการต้องยกธงแดงหยุดการแข่งขันรอสักพัก กลับมารีสตาร์ทใหม่ 19 รอบสนาม เกมเริ่มขึ้น เรีย ชิงจังหวะขึ้นไปนำ ตามด้วย โลวส์, ไซคส์, เดวี่ส์ และ เบาติสต้า เอ้า เมลันดรี้ แหกโค้งไปแล้วแต่ไม่ล้ม ฮาสแลม แซง เบาติสต้า และจะขึ้นไปแซง เดวี่ส์ เกมเหลืออีก 13 รอบ โลวส์ แซง โจนาธาน เรีย ขึ้นไปจนได้ หลังจากตามเกาะท้ายมาสักพัก และกำลังขยับหนีห่างออกไป แต่แล้ว โลวส์ ก็กระเด็นหลุดโค้งไป เรีย ขึ้นนำเดี่ยวๆ คว้าวินเนอร์แบบสบายๆ ทอม ไซคส์ พา BMW S1000RR ขึ้นโพเดี้ยมอันดับ 2 เบาติสต้า ขึ้นอันดับ 3
Superpole Race
อัลวาโร่ เบาติสต้า กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง กับสภาพแทร็คแห้ง อากาศสดใส อันดับ 2 เล็กซ์ โลวส์ และ ฮาสแลม อันดับที่ 3 แล้วเกิดอะไรขึ้นกับ โจนาธาน เรีย จบอันดับที่ 5 โดนแซงแบบง่ายๆ เวลาห่างจากผู้นำ 12 วิ. กว่าๆ ทำให้คะแนนสะสมโดนยืดหนีออกไปอีก
Race 2
สภาพอากาศที่สดใสถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้ได้ลุ้นกันสนุก เกมเริ่มขึ้นเสียบกันเกือบกระจาย เบาติสต้า ขึ้นนำ ตามมาด้วย ฮาสแลม เรีย และ รัซกัทลีโอกูล เกมผ่านไปเพียง 4 รอบ เบาติสต้า ก็ล้มลงไป ตำแหน่งเปลี่ยน รัซกัทลีโอกูล แรงแซง เรีย ขึ้นไปเป็นผูู้นำ มาร์โก้ เมลันดรี้ ปะทะกับ ฮาสแลม แบบได้เสียวกลิ้ง คู่หน้าเริ่มทิ้งห่างมีหลายจังหวะที่ เรีย จะแซงขึ้นไปแต่หลุดไลน์ เหลือการแข่งอีก 4 รอบสุดท้าย เรีย เสียบขึ้นด้านข้างปะกบก่อนแซงขึ้นเป็นผู้นำ แต่ รัซกัทลีโอกูล ไม่ยอมง่ายๆ จี้ติดตูดหวังจะเอาคืนจนถึงรอบสุดท้ายแต่ไม่ทัน เรีย คว้าอันดับ 1 รัซกัทลีโอกูล คว้าอันดับ 2 และ ฮาสแลม อันดับ 3 เป็นครั้งแรก คาวาซากิ มาแรงเข้าทั้งแผงเหมาโพเดี้ยม

World Supersport 600cc
หลังจากที่เบียดเวลาต่อรอบตั้งแต่
ซูเปอร์โพลฯ การแย่งชิงโพเดี้ยมสูงสุดสนามนี้ก็มัน และตื่นเต้น การเปิดเกมดวลคันเร่งตั้งแต่เริ่มออกสตาร์ทได้เสียวกันทุกโค้ง คู่หูทีมเมท ครุมเมนาเชียร์ และ คาริคาซูโล่ ร้อนแรง แต่การที่ ลูคัส มาเฮียส ออกตำแหน่งโพลฯ ทำให้ข้างหน้าไล่กันไม่ห่าง จูลส์ คูลเซล และ ฮิคาริ โอคูโบะ ก็รอจังหวะเสียบ เกมมาได้เสียวและลุ้นกันสุดๆ ช่วงสองรอบสุดท้าย คู่หูเสียบกันแบบไม่กลัวล้ม ก่อนออกจากโค้งสุดท้าย มีการปะทะกันเล็กน้อย ครุมเมนาเชียร์ ได้ไลน์ใน คาริคาซูโล่ เสียเปรียบทำให้ การชิงออกจากโค้ง ครุมเมนาเชียร์ ดีว่าผ่านธงตราหมากรุกคว้าอันดับ 1 คาริคาซูโล่ อันกับ 2 และ ลูคัสมาเฮียส ที่ตามมาตั้งแต่ต้นไม่มีโอกาสแล้ว
World Supersport 300cc
สาวแกร่ง อานา คาราสโก้ แชมป์โลกหญิงคนแรก หนึ่งเดียวในหมู่ชายกระหายชัยชนะ ออกสตาร์ทขึ้นนำตามมาด้วย มานูเอล กอนซาเรซ และ แอนดี้ เวอร์ดอย เกมเบียดกันมันเหมือน Moto2 เลย 6 คันหน้า ใครพลาดเสียตำแหน่ง กลุ่มหน้า Ninja400 Yamaha R3 และ KTM RC390 ใครจะได้ขึ้นโพเดี้ยม เหลืออีกเพียง 4 รอบสนาม ยังเกาะกัน 6 คัน ตำแหน่งสลับขึ้นๆ ลงๆ สตีแมน ควบ KTM ขึ้นมาได้ แต่ อานา ก็ยืดออกห่างปล่อยให้ข้างหลังเบียดกันนัวเนีย และสุดท้ายจบเกม อานา คว้าอันดับ 1 กอนซาเรซ อันดับ 2 และอันดับ 3 เป็นของ เวอร์ดอย
การชิงชัยนัดต่อไป สนามที่ 8 จะแข่งขันกันที่ สนาม โดนิงตัน พาร์ค เซอร์กิต
สหราชอณาจักร ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 6-7 กรกฎาคม 2562

คะแนนสะสมหลังจบสนามที่ 7
World Superbike 1000cc
1 อัลว่าโร่ เบสติสต้า DUCATI 330
2 โจนาธาน เรีย KAWASAKI 314
3 ไมเคิล ฟาน เดอร์ มาร์ก YAMAHA 188
4 อเล็กซ์ โลวส์ YAMAHA 164
5 ลีออน ฮาสแลม KAWASAKI 153
World Supersport 600cc
1 เรนดี้ ครุมเมนาเชียร์ YAMAHA 160
2 เฟดเดอริโก้ คาริคาซูโล่ YAMAHA 138
3 จูลส์ คูลเซล YAMAHA 107
4 ฮิคาริ โอคูโบะ KAWASAKI 70
5 ลูคัส มาเฮียส YAMAHA 66
World Supersport 300cc
1 มานูเอล กอนซาเรซ KAWASAKI 108
2 อานา คาราสโก้ KAWASAKI 65
3 สก๊อต เดอรูด KAWASAKI 65
4 มาร์ค การ์เซีย KAWASAKI 50
5 ยาน โอลี เยนนิค KTM 48

“มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์” กระหึ่มสนามระดับโลก! พาทีมไทย 100% จารึกประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่

“มุกข์ลดา-ปิยวัฒน์” กระหึ่มสนามระดับโลก! พาทีมไทย 100% จารึกประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่ คว้าแชมป์บิดมาราธอนนานาชาติสุดหฤโหด “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง” นำธงไตรรงค์โบกสะบัดที่ญี่ปุ่น

“มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ยอดนักบิดสาวแกร่งชาวไทยควงคู่ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ ทีมเมทดาวรุ่ง ผนึกกำลังทีมงานคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์จาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ สร้างประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่ คว้าแชมป์ในศึกเอ็นดูรานซ์นานาชาติสุดโหด รายการ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019” ส่งเพลงชาติไทยดังกระหึ่มสนามระดับโลก ซูซูกะ เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น

การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบมาราธอนนานาชาติสุดหฤโหด รายการ ซูซูกะ 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019 ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ สนาม ซูซูกะ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีระยะทางต่อรอบ 5.821 กิโลเมตร

ยอดทีมแข่งไทยอย่าง เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ที่นำโดย “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช นักบิดสาวแกร่งและ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ พร้อมด้วยทีมช่างไทยรอยเปอร์เซ็นต์ ลงแข่งขันเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน และสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมนับตั้งแต่การซ้อมครั้งแรก โดยสามารถคว้ากริดสตาร์ทอันดับที่ 2 มาครอง

เกมในรอบชิงชนะเลิศออกสตาร์ทในช่วงเช้าวันเสาร์ ท่ามกลางสภาพอากาศที่แปรปรวนของประเทศญี่ปุ่น โดย มุกข์ลดา รับหน้าที่เป็นนักบิดไม้แรก และออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะร่วงลงไปอยู่ในอันดับ 3 ได้ก็สามารถกลับมาเป็นผู้นำได้ในรอบที่ 4 และที่รักษาตำแหน่งผู้นำได้อย่างเหนียวแน่น ทิ้งห่างอันดับ 2 ไปถึง 8.2 วินาที ในช่วง 55 นาทีแรก ก่อนจะนำรถเข้ามาเติมน้ำมันและเปลี่ยนตัวนักบิด ส่งไม้ต่อให้ ปิยวัฒน์ ลงไปทำหน้าที่ต่อในชั่วโมงที่ 2 ของการแข่งขัน

ขณะที่สภาพอากาศยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ปิยวัฒน์ ออกมาทำหน้าที่ได้อย่างไร้ที่ติ ทิ้งระยะห่างจากทีมอันดับ 2 อย่าง ยามาฮ่า อินโดนีเซีย & อิโต เรซซิ่ง ออกไปถึง 21.8 วินาที โดยดาวรุ่งจากโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม” ของ เอ.พี.ฮอนด้า ทิ้งห่างคู่แข่งออกไปร่วม 1 นาที กับการแข่งขันชั่วโมงที่ 2

จากนั้น เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ทำการเปลี่ยนตัวนักบิดอีกครั้ง เพื่อให้ มุกข์ลดา ลงมาทำหน้าที่ต่อ โดยหลังจากเติมน้ำมันและเปลี่ยนตัว ทีมไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ลงสู่สนามอีกครั้งด้วยการเป็นผู้นำ และทิ้งห่างคู่แข่งออกไปถึง 2 รอบสนาม

ในช่วง 2 ชั่วโมง 40 นาที ของการแข่งขันมีรถแข่งพลาดล้มอย่างรุนแรง กรรมการต้องตัดสินใจตีธงแดงเพื่อยุตติการแข่งขันชั่วคราว รถทุกคันต้องกลับเข้าพิต โดย มุกข์ลดา ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำได้อย่างเหนียวแน่น

อย่างไรก็ดี จากสภาพอากาศที่มีฝนตกลงอย่างต่อเนื่องส่งผลให้กรรมการประกาศยุตติการแข่งขัน ส่งผลให้ เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ภายใต้รถแข่ง Honda CBR600RR หมายเลข 149 คว้าแชมป์ประวัติศาสตร์จากผลงานของคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์เป็นทีมแรก ด้วยจำนวนรอบทั้งสิ้น 62 รอบสนาม คิดเป็นระยะทาง 360.902 กิโลเมตร

โดยทั้ง มุกข์ลดา และ ปิยวัฒน์ ได้ฉลองแชมป์บนโพเดี้ยม และร้องเพลงชาติไทยกระหึ่ม สนาม ซูซูกะ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น พร้อมกับทีมงานคนไทย และแฟนชาวไทยที่ตามเข้าชมอย่างยิ่งใหญ่