ก้อง-สมเกียรติ” คนไทยคนแรกที่สร้างชื่อกระหึ่มสนามช้างฯ!! บิดเข้าที่ 9 เก็บแต้ม “โมโตทรี” บนแผ่นดินแม่ครั้งแรก ที่บุรีรัมย์

สมเกียรติ จันทรา นักบิดดาวรุ่งมือไวลด์การ์ดของ เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ สร้างชื่อต่อหน้ากองเชียร์ชาวไทยเมื่อบิดเข้าอันดับ 9 คว้าแต้มสำคัญในศึก “โมโตทรี” ครั้งแรกที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ และนับเป็นคนไทยคนแรกที่คว้าแต้มได้สำเร็จในการแข่งขันรายการรถจักรยานยนต์อันดับ 1 ของโลก ในโฮมเรซของตัวเอง

ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี สนามที่ 15 ของฤดูกาล 2018 รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ ปรีซ์ ณ สนาม ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยวันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2561 เป็นการดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศ ท่ามกลางสภาพอากาศแจ่มใส และมีแฟนๆ ชาวไทย ชาวต่างชาติ มาชมกันแน่นทั้งบริเวณ แกรนด์ สแตนด์ และ ไซด์ สแตนด์

โดยเวลา 11.00 น. เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของรุ่นโมโตทรี ดวลความเร็ว 22 รอบสนาม โดยเรซนี้มีนักบิดไทยสังกัด เอ.พี.ฮอนด้า ลงแข่ง 2 รายคือ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ หมายเลข 41 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ออกสตาร์ทกริดที่ 21 และ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา หมายเลข 35 นักบิดดาวรุ่งของไทยที่ได้สิทธิ์ไวลด์การ์ด ของ เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ออกสตาร์ทกริดที่ 24

ก่อนเรซจะเริ่มต้นขึ้น ทั้งคู่สร้างความประทับใจแก่ผู้ชมรอบสนาม รวมถึงผู้ชมที่รับชมการถ่ายทอดสดเมื่อ “ชิพ” และ “ก้อง” นำธงชาติไทยเข้ามาที่สนามพร้อมกับรถแข่งคู่ใจของพวกเขา ก่อนทั้งสองจะปูธงบนพื้นแล้วคุกเข่าก้มกราบพื้นแทร็ค อันเป็นแผ่นดินบ้านเกิด ที่พวกเขาได้ลงแข่งรายการระดับโลกครั้งแรก และบันทึกลงในประวัติศาสตร์ของเมืองไทย

ส่วนการแข่งขัน เมื่อสิ้นสัญญาณไฟ สมเกียรติ จันทรา หมายเลข 35 ออกตัวจากกริดได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนบิดคันเร่งแซงคู่แข่งขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่องหลังผ่านไป 6 รอบสนาม ท่ามกลางคู่แข่งมือพระกาฬจากต่างแดนที่พยายามช่วงชิงอันดับเก็บแต้มในสนามแห่งนี้ กระนั้น “เจ้าก้อง” ก็ยังรักษาพื้นที่ของตัวเองในการลุ้นแต้มในโฮมเรซได้อย่างเหนียวแน่น

และในรอบสุดท้าย สมเกียรติ โชว์ฟอร์มนิ่งพารถเข้าเป็นลำดับที่ 9 ส่งผลให้เจ้าตัวเก็บแต้มเข้ากระเป๋าไป 7 แต้ม ด้วยเวลา 38 นาที 12.432 วินาที ขณะที่ นครินทร์ ไม่มีแต้มหลังพลาดล้มในช่วง 2 รอบสุดท้ายอย่างน่าเสียดาย ส่วนแชมป์ตกเป็นของ ฟาบิโอ ดิ จานนานโตนิโอ นักบิดชาวอิตาเลียน สังกัด เดล คอนชา เกรซินี โมโตทรี เวลา 38 นาที 10.789 วินาที

สำหรับ สมเกียรติ จันทรา สร้างประวัติศาสตร์สำคัญในวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยเมื่อเจ้าตัวกลายเป็นนักบิดชาวไทยคนแรกที่คว้าแต้มในรายการ โมโตทรี ที่โฮมเรซบ้านของตัวเอง ต่อหน้าผู้ชมชาวไทย นับเป็น 7 แต้มล้ำค่าที่สำคัญยิ่ง หลังเพิ่งได้รับข่าวดีจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ด้วยการผลักดันเข้าร่วมทีมเพื่อแข่งขันในศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2019 แบบเต็มฤดูกาล

“มาร์เกซ”ผงาดคว้าโพล โมโตจีพี “นครินทร์” สตาร์ทแถว 7 ลุ้นโพเดี้มโฮมเรซ ที่ จ.บุรีรัมย์

มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกโมโตจีพีชาวสแปนิชจาก เรปโซล ฮอนด้า ผงาดคว้าโพลครั้งแรกของ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ พร้อมล่าแชมป์ครั้งแรกในประเทศไทย ขณะ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ นักบิดไทยจาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย ฟอร์มเข้าฝักสตาร์ทแถวที่ 7 มีลุ้นโพเดี้ยมในบ้านเกิดกับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

 

การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2018 เดินทางมาดวลความเร็วครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โดยถูกบรรจุสนามที่ 15 ภายใต้รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคมนี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร โดยล่าสุดในช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ท ซึ่งผลการควอลิฟายปรากฏว่า มาร์ค มาร์เกซ จ่าฝูงชาวสแปนิชจาก เรปโซล ฮอนด้า กดเวลาคว้าโพลโพซิชั่นไปครองได้สำเร็จ ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 30.088 วินาที ส่วน คาล ครัทช์โลว นักบิดอังกฤษจาก แอลซีอาร์ ฮอนด้า คาสตรอล ในกริดที่ 5 ด้านผลการควอลิฟายในรุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ นักบิดไทยทำผลงานยอดเยี่ยม ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย กดเวลามาเป็นอันดับ 21 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 43.365 วินาที ตามด้วยรุ่นน้องจาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ อย่าง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ในกริดที่ 24 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 43.437 วินาที ขณะที่โพลโพซิชั่นตกเป็นของ มาร์โก เบซเซ็คคี นักบิดอิตาเลียนจาก รีด็อกซ์ พรุสเทล จีพี เพียง 0.836 วินาที สำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของศึก โมโตจีพี รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ จะมีขึ้นในเวลา 14.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคมนี้ ส่วนในรุ่นเล็กอย่าง โมโตทรี จะดวลความเร็วเป็นรุ่นแรกในเวลา 11.00 น.

ผลเวลาการลงซ้อมครั้งที่ 3 ของรุ่นใหญ่

ต้องบอกว่าสถิติยังคงอยู่ที่ค่ายสีแดงแรงกระฉูด ดูคาติ ที่เร็วที่สุด จะว่าไปแล้วก่อนหน้านี้ ในช่วงต้นปี winter Test ดูคาติก็รั้งตำแหน่งผู้ที่ทำเวลาเร็วที่สุดของสนามช้าง และไม่แน่ว่าเกมในวันอาทิตย์ แอนเดรีย โดวืิวิโอโซ่ จะขึ้นโพเดี้ยมคว้าแชมป์ก็ได้
**** ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ ไม่ได้ลงซ้อมเพราะอาการบาดเจ็บ
1 Andrea DOVIZIOSO 1’30.399
2 Jack MILLER 1’30.566
3 Maverick VIÑALES 1’30.647
4 Cal CRUTCHLOW 1’30.719
5 Danilo PETRUCCI 1’30.727
6 Dani PEDROSA 1’30.818
7 Valentino ROSSI 1’30.859
8 Andrea IANNONE 1’30.881
9 Johann ZARCO 1’30.979
10 Alvaro BAUTISTA 1’31.015
11 Marc MARQUEZ 1’31.079
12 Franco MORBIDELLI 1’31.117
13 Bradley SMITH 1’31.118
14 Pol ESPARGARO 1’31.169
15 Aleix ESPARGARO 1’31.187
16 Alex RINS 1’31.209
17 Takaaki NAKAGAMI 1’31.385
18 Hafizh SYAHRIN 1’31.728
19 Thomas LUTHI 1’31.816
20 Xavier SIMEON 1’31.867
21 Scott REDDING 1’32.028
22 Karel ABRAHAM 1’32.148
23 Jordi TORRES 1’32.272

“Nine Stamp” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #9 ไล่บี้กดเวลารอบควอลิฟายสุดมันส์

“Nine Stamp” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #9 ไล่บี้กดเวลารอบควอลิฟายสุดมันส์ คว้ากริดสตาร์ท 15 ดีสุดเด็กไทยพร้อมลุ้นแต้มแรกในเวิลด์ กรังซ์ปรีซ์ ต่อหน้ากองเชียร์ไทยในสนามโฮมเรซ”Nine Stamp” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #9 นักบิดดาวรุ่ง ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ซึ่งได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ดลงทำการแข่งขันศึกชิงแชมป์โลกรุ่น Moto3 ในนามสังกัด VR46 MASTER CAMP ทีมของ “เดอะ ด๊อกเตอร์” วาเลนติโน่ รอสซี่ ในรายการ PTT Thailand Grand Prix 2018 กระชากคันเร่งรถแข่งหมายเลข 9 สู้สุดกำลัง งัดฟอร์มการขับขี่แชมป์เอเชียไล่กดเวลาเบียดกับคู่แข่งในรอบควอลิฟายแบบสุดมันส์จนถึงรอบสุดท้าย ก่อนทำเวลาต่อรอบดีที่สุดอยู่ที่ 1’43.071 นาที คว้าตำแหน่งกริดสตาร์ทที่ 15 ในการเข้าร่วมเกมการแข่งขันระดับเวิลด์ กรังซ์ปรีซ์ ครั้งแรกในชีวิตบนแทร็คโฮมเรซ พร้อมมีลุ้นคว้าแต้มแรกต่อหน้ากองเชียร์ชาวไทยที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในวันการชิงชัยรุ่น Moto3 วันพรุ่งนี้

 

“Nine Stamp” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #9 เซ็ทอัพลงตัว กดเวลาลงเกือบ 1 วินาที ช่วง FP3 มั่นใจเต็มที่ พร้อมควอลิฟายเพื่อตำแหน่งที่ดีที่สุด!!

“Nine Stamp” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #9 นักบิดดาวรุ่ง ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ซึ่งได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ดลงทำการแข่งขันศึกชิงแชมป์โลกรุ่น Moto3 ในนามสังกัด VR46 MASTER CAMP ทีมของ “เดอะ ด๊อกเตอร์” วาเลนติโน่ รอสซี่ ในรายการ PTT Thailand Grand Prix 2018 ฟอร์มเข้าฝักหลังเซ็ทอัพรถแข่งได้ลงตัว ในช่วงของการซ้อม FP3 สามารถกดเวลาลงมาจากการซ้อมวันแรกอีกเกือบ 1 วินาที โดยทำเวลาต่อรอบดีที่สุดอยู่ที่ 1’43.141 นาที ตามหลังผู้นำเวลาในช่วงนี้อยู่เพียง 0.701 วินาที เท่านั้น ซึ่งในการซ้อมครั้งที่ 3 นักบิดไทยยามาฮ่าลงขับขี่ด้วยกันทั้งหมด 15 รอบสนาม มีการเข้าพิท 2 ครั้งเพื่อเข้ามาปรับเซ็ทอัพรถแข่งให้ลงตัวที่สุด ก่อนลงทำการควอลิฟายในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้


โดย “Nine Stamp” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #9 ได้กล่าวหลังจบการซ้อมว่า “วันนี้เราเซ็ทอัพรถแข่งได้ลงตัว และมีความพร้อมมากขึ้น ทำให้สามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจ จนทำให้เวลาดีขึ้นกว่าเมื่อวาน ในการซ้อมครั้งที่ 3 นี้ก็พยายามเก็บข้อมูลต่างๆ โดยเฉพาะยาง เพื่อเอามาตัดสินใจว่าจะใช้ยางแบบไหนในช่วงของการควอลิฟาย และการแข่งขัน ซึ่งตอนนี้ทางทีมก็ได้ข้อมูลเป็นอย่างมาก เดี๋ยวต้องประชุมกันอีกทีว่าจะใช้เซ็ทอัพรถ และยางแบบไหนในช่วงบ่าย ส่วนตัวผมก็เริ่มมั่นใจกับรถแข่งมากขึ้น และจะพยายามอย่างเต็มที่ในช่วงควอลิฟายเพื่อให้ได้ตำแหน่งสตาร์ทที่ดีที่สุดครับ”

4ดาวรุ่งค่ายปีกนก “ก๊อง-ไอซ์-แชมป์-บิว” พร้อมล่าโพเดี้ยมโฮมเรซที่บุรีรัมย์

4 นักบิดดาวรุ่งจาก เอ.พี.ฮอนด้า “ก๊อง” ธัชกร, “ไอซ์” นิติพงษ์, “แชมป์” กอบชัย และ “บิว” วริทธ์ พร้อมลงสนามล่าโพเดี้ยมในศึกเอเชีย ทาเล้นต์ คัพ 2018 โฮมเรซที่สนามช้างฯ เซอร์กิต หลังผ่านรอบควอลิฟายด้วยการคว้าตำแหน่งสตาร์ทแถวหน้า แฟนชาวไทยเตรียมส่งกำลังใจรอบชิงชนะเลิศ เรซแรกพรุ่งนี้ เริ่ม 16.30 น. การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์นักบิดดาวรุ่งแห่งทวีปเอเชีย รายการอิเดมิตซึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ประจำปี 2018 สนามที่ 4 มีคิวจัดขึ้นที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร โดยจัดร่วมเป็นซับพอร์ตเรซในศึกใหญ่ระดับโลก โมโตจีพี ครั้งแรกที่ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคม 2561

 

ล่าสุด วันนี้(5ต.ค.)เปิดฉากวันแรกในรอบการควอลิฟายเพื่อจัดอันดับกริดสตาร์ท ผลปรากฏว่า นักบิดสายเลือดใหม่ชาวไทยภายใต้การสนับสนุนจาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ที่ร่วมชิงชัยในรายการนี้ตลอดฤดูกาล จำนวน 3 คน ได้แก่ “ก๊อง” ธัชกร บัวศรี หมายเลข 5, “ไอซ์” นิติพงษ์ แสงสว่าง หมายเลข 17 และ “แชมป์” กอบชัย แซ่หลิว หมายเลข 23 คว้ากริดสตาร์ทที่ 3, 12, และ 6 ตามลำดับ

ขณะเดียวกันอีกหนึ่งดาวรุ่งค่ายปีกนกที่ร่วมลงสนามในฐานะนักบิดไวลด์การ์ดอย่าง “บิว” วริทธ์ ทองนพคุณ หมายเลข 6 ทำเวลาเร็วสุดอยู่ในกริดที่ 11

แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยเตรียมส่งกำลังใจเชียร์ 4 นักบิดดาวรุ่ง ลุ้นทำผลงานขึ้นโพเดี้ยมในศึกโฮมเรซครั้งประวัติศาสตร์ รอบชิงชนะเลิศ เรซแรก ดวลความเร็วจำนวน 16 รอบ จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 6 ต.ค.นี้ เริ่มชิงชัยเวลา 16.30 น.

สัมภาษณ์พิเศษ ไมเคิล ดูฮาน

“มิค ดูฮาน” ตำนานแชมป์โลก โมโตจีพี ของฮอนด้า ชมสนามช้างฯ มาตรฐานดีเยี่ยม ยก “มาร์ค มาร์เกซ” ลุ้นสลักชื่อคว้าแชมป์คนแรกที่เมืองไทย มิค ดูฮาน ตำนานนักบิดแชมป์โลก โมโตจีพี 5 สมัย ปรากฏตัวพูดคุยกับสื่อมวลชนระหว่างเยี่ยมชมการแข่งขัน โมโตจีพี ครั้งแรกในเมืองไทย ชมสนามแข่งขันได้มาตรฐานไม่แพ้สนามที่ยุโรป ขณะเดียวกันยังเชื่อมั่นว่า มาร์ค มาร์เกซ นักบิดรุ่นน้องของ เรปโซล ฮอนด้า มีลุ้นสลักชื่อเป็นแชมป์คนแรกของสนามแห่งนี้

       

เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม 2561 มิค ดูฮาน ตำนานนักบิดชาวออสเตรเลีย เจ้าของแชมป์โลก โมโตจีพี 5 สมัย เดินทางมายัง เอ.พี.ฮอนด้า พาวิลเลียน เพื่อพบปะกับสื่อมวลชนหลังเดินทางมาที่ประเทศไทยเพื่อร่วมชมการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี ณ สนาม ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยมี มร.โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด คุณอารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด และคุณสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ให้การต้อนรับ

โดยงานนี้ ตำนานแห่งวงการจักรยานยนต์ที่ขับขี่ให้กับ ฮอนด้า ในรายการระดับโลกมาตั้งแต่ปี 1989-1999 เปิดใจถึงการเดินทางมาเยี่ยมชมการแข่งขัน โมโตจีพี ครั้งแรกในเมืองไทย โดยกล่าวว่าจากที่ตนเองได้เดินชมรอบสนามและบริเวณการจัดการภายนอก พบว่าสนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต มีมาตรฐานที่ดีไม่แพ้รายการที่ยุโรป

ตำนานนักบิดวัย 53 ปี เผยว่า “จากประสบการณ์ที่ลงแข่งขันระดับอาชีพ และคลุกคลีอยู่ในวงการนี้มานานกว่า 20 ปี เดินทางไปสัมผัสสนามมาหลายประเทศ สนามช้างฯ ถึงจะจัดการแข่งขันเป็นครั้งแรกแต่ก็ถือว่ามีมาตรฐานที่ดี แม้ตัวโครงสร้างหลายๆส่วนจะถูกสร้างขึ้นมาแบบชั่วคราวแต่ปีต่อไปอาจพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมได้ ส่วนตัวสนาม ผมดูจากเวลาของนักแข่งแต่ละคนในวันแรก พบว่านักบิดกลุ่มแถวหน้าทำเวลาในระดับใกล้เคียงกัน ถือเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าสนามนี้มีมาตรฐานที่ดี และน่าจะทำให้การแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ สนุกตื่นเต้นทีเดียว”

ส่วนการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคมนี้ มิค ดูฮาน เผยยากที่จะฟันธงว่าใครจะเป็นแชมป์เพราะมีหลายทีมที่ทำผลงานได้ดี แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่า มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลก 4 สมัย รุ่นน้องสังกัด เรปโซล ฮอนด้า มีลุ้นเป็นผู้ชนะ “หลายทีมทำผลงานได้ดีมากในวันซ้อม แต่จากที่ผมสังเกตเห็น มาร์ค มาร์เกซ มักสร้างเซอร์ไพรส์ให้ผู้ชมได้เสมอในวันชิงชนะเลิศ เป็นคนที่ไม่สามารถตัดชื่อออกจากการลุ้นแชมป์นัดชิงชนะเลิศได้ ดังนั้นขอให้รอดูกัน”

Honda CB150R Sport Neo Café

กระแสยังคงร้อนแรงกับรถโมเดิร์นคลาสสิคสไตล์คาเฟ่ที่มีการปรับเปลี่ยนผสมผสานความลงตัวกับรูปแบบใหม่ๆ ทำให้น่าขับขี่มากยิ่งขึ้น และต่อเนื่องกับกระแสของการแต่งรถสวยของคนไทยที่ยังคงคึกคักและเป็นเอกลักษณ์มีชื่อเสียงไปยังต่างประเทศ

สำหรับ CB150R คันนี้มีการปรับแต่งเพิ่มเติมออพชั่นที่ให้ความโดดเด่นน่าสนใจมากยิ่งขึ้น สีสันตัดลวดลายให้ดูมีความสปอร์ตและโดดเด่นด้วยสีดำแดง โดยที่รูปทรงนั้นยังคงความเป็นคาเฟ่แต่เน้นให้ชัดเจนมากขึ้นด้วยแฮนด์อลูมินัมที่มาจับที่หัวโช้ค แผงคออลูมินัม กระจกมองหลังปลายแฮนด์ ก้านเบรก/คลัทช์ ปรับระดับ และตัวปั๊มกระปุกลอย ไฟหน้าทรงกลมเสริมบังไมล์ตัวเล็กๆ เบาะด้านท้ายครอบปิดเป็นเบาะเดี่ยวออกแบบใหม่ให้มีช่องระบายลมด้านข้าง ไฟท้าย LED พักเท้าเกียร์โยงผสมกับความเป็นสปอร์ตและช่วยให้นั่งได้กระชับ โช้คอัพหน้าแบบอัพไซด์ดาวน์ที่จัดให้มาเกินไซส์ แกน 41 มม. ดิสก์เบรกหน้าจานเดี่ยวแบบให้ตัว คาลิเปอร์เรเดียลเม้าท์ 4 ลูกสูบ และสายถักหัววงแหวน ดิสก์เบรกหลังเดี่ยวแต่งขอบคาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว วงล้ออลูมินัมขึงซี่ลวด 17 นิ้ว สีดำคมเข้ม โช้คอัพหลังแบรนด์ยอดฮิต Gazi แบบมีซับแท้งค์บิ้วท์อินปรับระดับเสริมโดดเด่นในช่วงหลัง และทำงานร่วมกับสวิงอาร์มเสริมความแข็งแรงขนาดใหญ่ขึ้น ในส่วนของเครื่องยนต์ด้านนอกปรับหน้าตาให้ดูดี ด้วยชุดแต่งกันสไลด์ที่ฝาครอบแคร้งด้านข้าง และเพิ่มสมรรถนะให้เร้าใจตอบสนองความต้องการแรงบิดที่มากยิ่งขึ้นถึงจะสูบเดี่ยว 150 ซีซี แต่ก็ไม่ธรรมดาสวมท่อสูตรลอดท้องปลายสั้นระบายไอเสียให้พละกำลังของเครื่องยนต์ทำงานได้จี๊ดจ๊าดบิดได้ติดมือ หม้อน้ำอลูมินัมเก็บรายละเอียดด้วยแผงกันสแตนเลส ส่งกำลังการขับเคลื่อนด้วยชุดโซ่สแตนเลสและบังโซ่อลูมินัม

นี่คืออีกหนึ่งสไตล์ของการตกแต่งที่เป็นแนวทางให้กับหลายๆ คน ได้เห็นถึงความสวยงามในมุมต่างๆ โดยจะนำไปปรับใช้กับรถของตัวบ้างก็ได้

อดใจรอให้ถึง #ThaiGP ที่สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์ ไม่ไหวววว.. มาเจอกันก่อนเลยเป็นไง!!!

ที่แรกในประเทศไทย.. ที่สาวกยามาฮ่าจะได้พบกับนักบิด MotoGP ตัวเป็นๆ มายืนอยู่ตรงหน้า ในงาน Pre-MotoGP MEET & GREET
พบกับ.. “เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี่ แชมป์โลก 9 สมัยชาวอิตาเลียน และ “ท๊อปกัน” มาเวริค บีญาเลส นักบิดสุดหล่อชาวสเปน จาก Movistar Yamaha MotoGP พร้อม โยฮัน ซาโก้ รุคกี้ออฟเดอะเยียร์ 2017 นักบิดฝรั่งเศส และนักบิดอาเซียนคนแรกในโมโตจีพีอย่าง ฮาฟิซ ไซอาห์ริน ชาวมาเลเซียจาก Monster Yamaha Tech 3 และนักบิดฮีโร่ชาวไทย ดีกรีแชมป์เอเชียอย่าง “แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์” ที่ลงจะลงแข่งขันในรุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ดภายใต้สังกัดทีม วีอาร์46 มาสเตอร์แคมป์ ทีม รวมถึงนักแข่งดีกรีแชมป์ในสังกัด Yamaha Thailand Racing Team

พร้อมร่วมสนุกกิจกรรมภายในงานมากมาย เช่น Lucky Draw Big-Black-Box ที่จะพาคุณสู่โอกาสในการใกล้ชิดเหล่านักบิดในระยะเผาขน!!
พร้อมรับเสื้อที่มีลายเซ็นนักบิดในดวงใจเองกับมือ เตรียมใส่กันไปมันส์ใน “PTT Thailand Grand Prix 2018” ได้เลย

นอกจากนี้ยังมีของรางวัลแจกภายในงานอีกเพียบ!
ร่วมลุ้นบัตรเข้าชม MotoGP โซน Rossi Stand ถึง 20 รางวัล และของที่ระลึกต่างๆ ร่วมช็อป-ชิม-ชิลล์ พบปะกับเพื่อนใหม่ในคอมมูนิตี้สไตล์ไบค์เกอร์สายสปอร์ท

แล้วเจอกันที่.. “เดอะสตรีท รัชดา” เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป!
งานนี้มาเจอกันได้ทุกคน ไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น..
ยามาฮ่าพามาหาถึงที่ขนาดนี้.. ไม่ไปก็พลาดแล้ววว!!

#YamahaPreMotoGP #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด

เอ สปีด โมโต เซอร์วิส สำหรับบิ๊กไบค์-ให้บริการครบวงจร

บริษัท เอ สปีด โมโต เซอร์วิส จำกัด ได้ฤกษ์งามยามดี ทำบุญเปิดร้านใหม่เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น บริการครบวงจร รับเคลมประกันอุบัติเหตุทุกบริษัท รับทำ พรบ. ประกันวินาศภัยทุกประเภท รถยนต์ รถบิ๊กไบค์ รถจักรยานยนต์ รับต่อภาษี โอนย้าย งานทะเบียนทุกชนิด บริการเช็คระยะซ่อมบำรุงมาตรฐานศูนย์บริการ ซื้อ-ขาย รถบิ๊กไบค์ รถจักรยานยนต์มือหนึ่ง-มือสอง จำหน่ายและติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งทุกชนิด และทำสี 2K

ก่อนหน้านี้ บริษัท ออนไทม์มอเตอร์ แอนเซอร์วิส จำกัด ที่ให้บริการเคลมประกันอุบัติเหตุกับรถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก พร้อมรถยกให้บริการ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง ทำธุรกิจนี้เติบโตอย่างรวดเร็วจนกระทั้งปี 2560 คุณสุกิจ ลับกิ่ม ประธานกรรมการ ได้เล็งเห็นว่ารถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (บิ๊กไบค์) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นใหญ่จึงจดทะเบียนอีกบริษัท ใช้ชื่อว่า เอ-สปีด โมโต เซอร์วิส จำกัด เพื่อรองรับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์เป็นหลัก มีคอนแทคกับดีลเลอร์ของซูซูกิ บีบีโคราช นอกจากนี้มีบริการติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์สำหรับรถแอดเวนเจอร์ รถที่เข้ามาใช้บริการก็มีบรรทุกส่งรถของลูกค้าถึงบ้าน ไม่ว่าจะไกล้ไกลแค่ไหน
สำหรับการเปิดร้านอย่างเป็นทางการครั้งนี้ได้รับเกียรติจากหลายๆ บริษัทที่ให้การสนับสนุน และกลุ่มบิ๊กไบค์เข้าร่วมงานจำนวนมาก ที่ร้านนอกจากรับเคลม รับซ่อม และอะไหล่ที่มีไว้รองรับทุกแบรนด์ ซื้อขายรถมือหนึ่ง มือสอง และยังมีศูนย์ฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์โมโตเอ็นจอย ไว้ใช้สอนทักษะให้กับผู้ที่สนใจเข้ามาเรียนรู้ โดยมี อาจารย์อาร์ต ผู้มากประสบการณ์เป็นผู้ฝึกสอน สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ คุณสุกิจ ลับกิ่ม โทร 081-357-3838 หรือ โทร 02-422-5111

Ultimate Honda Super Cub125i

ในวงการรถจักรยานยนต์ถ้าได้ยินคำว่า Super Cub ก็คงจะมโนภาพกันได้ถึงรถจักรยานยนต์ที่มีบังลม คันเล็กๆ บางๆ ไฟกลมๆ ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ขี่ใช้งานกันแบบชิวๆ ไม่ได้เสริมเติมแต่งอะไรกันมากนัก แต่มาถึงยุคนี้ยุคที่รถสไตล์คลาสสิคอย่าง Super Cub กลับมาจำหน่ายกันอีกครั้ง ก็ต้องตามกระแสกับไอเดียสุดบรรเจิดของคนไทย

 สำหรับ Super Cub คันนี้ มีการปรับเปลี่ยนไปมาก แต่ก็พอที่จะมองออกว่านี่คือรถคลาสสิค Super Cub การดีไซน์หลุดไปจากความเป็นจริงเน้นความโดดเด่นของไอเดียซะมากกว่าใช้งานบนท้องถนนจริงคงลำบาก สีสันทูโทนไม่ฉูดฉาดดูเก๋าๆ เข้มๆ บังโคลนหน้าทำเหมือนกันชนครอบยาว บังลมยังใช้งานตามปกติแต่ไฟหน้าถูกย้ายตำแหน่งใหม่ เพื่อการดีไซน์ของชุดแฮนด์บาร์ที่สร้างแผงคอแบบตุ๊กตา ประกับคันเร่งแบบสองสาย กระจกปลายแฮนด์ และปั๊มแรงดันดิสก์เบรกตู้ปลาหน้าหลัง เรือนไมล์ถูกวางตำแหน่งใหม่หลังคอนโซลด้านในลดขนาดเล็กลงเบาะนั่งจัดไว้สำหรับหนุ่มโสดเบาะเดี่ยว ช่วงท้ายตัดสั้น พักเท้าใช้อลูมินัมพิมพ์ลายกันลื่นที่ขนาดใหญ่วางได้เต็มเท้า วงล้ออลูมินัมแบบซี่ลวดแต่ปิดทึบ ดิสก์เบรกหน้าจานเดี่ยวแบบให้ตัวได้ คาลิเปอร์เดิมลูกสูบเดี่ยว แต่เบรกหลังจากดรัมเพิ่มสมรรถนะด้วยดิสก์เบรกแต่เดินสายขึ้นไปเป็นเบรกที่มือ โช้คอัพหลังจัดมาให้แบบเต็มที่ข้างละสองต้นโดยต้องสร้างจุดยึดของหัวโช้คใหม่ทั้งสองข้างกับสวิงอาร์มใหม่ และเสริมสมรรถนะของเครื่องยนต์ขนาด 125 ซีซี สูบเดี่ยว ระบบหัวฉีด ก็เพิ่มการรีดแรงม้าด้วยท่อไอเสียสแตนเลสปลายสวมทรงหัวปลีลอดออกด้านขวา

เป็นสไตล์การคัสตอมที่มีความโดดเด่นแปลกตาในรูปทรงของ Super Cub ที่กลับมาให้ได้สัมผัสอีกครั้ง

APRILIA SX125

จากพื้นฐานเครื่องยนต์สี่จังหวะสูบเดียว 4 วาลว์ DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดเล็กของ Aprilia ได้นำมาแตกไลน์เป็นรถสำหรับวัยรุ่นในสายออฟโรด กับ สายโมตาร์ด ด้วยรหัส RX กับ SX ที่พร้อมตอบสนองในเรื่องของความสนุกสนานซึ่งโดยก่อนหน้านี้เราก็เคยแนะนำ RX ไปแล้ว

 

คราวนี้ก็จะถึงคิวที่จะมาทำความรู้จักกับ SX125 ที่พร้อมตอบสนองการขับขี่ในสไตล์ Supermotard ด้วยการปรับองค์ประกอบบางอย่างของตัวรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วงล้อที่มีการนำขนาด 17 นิ้ว มาติดตั้งในเวอร์ชั่น SX125 นี้แทนวงล้อสไตล์ออฟโรด โดยที่พื้นฐานเฟรมและเครื่องยนต์นั้นยังคงเดิม นอกจากการปรับจูนเพื่อให้ได้คาแรกเตอร์การขับขี่ที่แตกต่างกันตามรูปแบบของการใช้งาน โดยที่ทาง Aprilia บอกว่านี่คือเทคโนโลยีของเครื่องยนต์สี่จังหวะรุ่นใหม่ ที่ให้กำลังสูงสุดจากขนาดของเครื่องยนต์ในพิกัดนี้ นอกจากนี้ยังผ่านค่ามาตรฐานไอเสีย Euro 4 อีกด้วย สำหรับ SX125 นี้ ยังได้มาพร้อมกับระบบเบรก ABS ซึ่งเป็นของ Bosch ABS Sytem ที่เสริมด้วย anti roll-over mode ให้กับส่วนของล้อหน้าอีกด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ล้อหมุนมากเกินไปหรือเคลื่อนไหวมากเกินไป ขณะที่จานดิสก์นั้นมีการปรับเป็นจานขนาดใหญ่ 300 มม.ที่ใช้กับ double piston flcoating caliper ส่วนจานดิสก์หลังนั้นเป็นขนาด 220 ม.ม.ใช้ร่วมกับ flcoating caliper

 

ซึ่งข้อมูลสเปคพื้นฐานของตัวรถ SX125 มีดังนี้

Aprilia SX 125 – Technical Data
Engine type Single-cylinder, 4-stroke, 4-valve,
DOHC, liquid cooling
Bore and stroke 58 x 47 mm
Total engine capacity 124.2 cc
Compression ratio 11.8
Max Power 11 kW at 10,700 rpm
Maximum torque at crankshaft 11.3 Nm at 8,000 rpm
Ignition E.C.U. Magneti Marelli M3G ø 32 mm
Starter Electric
Lubrication Wet sump
Transmission 6 speed, drive ratio 1st 11/33 2nd 15/30
3rd 18/27 4th 20/24 5th 25/27 6th 23/22
Clutch Multi plate wet clutch
Primary drive Straight cut gears, drive ratio: 29/69
Final drive Chain, drive ratio: 13/62
Frame Twin-tube steel frame
Front suspension Upside down fork with Ø 41 mm stanchions, 240 mm excursion
Rear suspension Steel swingarm, monoshock with progressive link system, wheel travel 220 mm
Brakes
Front: Ø 300 mm stainless steel disc with floating calliper
Rear: Ø 220 mm stainless steel disc with floating calliper
Wheel rims Front: 2.5 X 17” rear: 3.5 X 17”
Tyres Front: 100/80 – 17” rear 130/70 -17”
Dimensions Max. width: 820 mm
Wheelbase: 1410 mm (1420 mm)
Weight 134 Kg (kerb weight with full fuel tank)
Consumption (WMTC cycle) 2.76 l/100 km
(RX 2.73 l/100 km)
CO2 Emissions (WMTC cycle) 64 g/km (RX 63 g/km)
Fuel tank capacity 7 litres