Yamaha QBIX125 AUTOMATIC Fashion idol

ถูกปรับเปลี่ยนลุคใหม่เพื่อสร้างความโดดเด่นในการนำเสนอไอเดียให้กับรถสไตล์สกู๊ตเตอร์ออโตเมติก แต่ด้วยรูปลักษณ์ของ QBIX ก็มีการดีไซน์ได้โดนใจวัยรุ่นอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจึงไม่ยากที่จะเสริมเติมแต่งออพชั่นต่างๆ และ สีสันใหม่ให้น่ามองมากยิ่งขึ้น

QBIX รถจักรยานยนต์ในกระแสวัยรุ่นด้วยรูปทรงเทรนด์ใหม่ดูน่ารักกุ๊กกิ๊ก ขนาดที่ไม่ใหญ่ เบาะใหญ่นั่งสบาย เครื่องยนต์ให้กำลังแรงบิดสนุก ขนาด 125 ซีซี และมาพร้อมกับเทคโนโลยี BLUE CORE ให้ประหยัดน้ำมัน ฟิกเจอร์สุดล้ำสมัย จอแสดงผลแบบฟูลดิจิตอล ไฟหน้า LED ส่องสว่าง ไฟเลี้ยวบิ้วท์อิน กล่องเก็บของใต้เบาะเอนกประสงค์ มีช่องเล็กช่องน้อยใช้งานได้สะดวก แต่เมื่อถูกปรับเปลี่ยนแต่งเติมให้น่ามองมากขึ้นจึงทำให้ QBIX คันนี้เป็นรถที่สะดุดตามากขึ้น

สีสันลวดลายถูกเปลี่ยนลุคใหม่ มีการเสริมกันโครงรอบนอกและด้านในด้วยเหล็กดัดสีส้ม แฮนด์บาร์ทรงต่ำลง ปลอกแฮนด์อลูมินัมหุ้มยาง ก้านเบรกอลูมินัมปรับระดับ กระจกมองหลังจอรูปไข่ วงล้อแม็กหน้ายางแบบกึ่งพร้อมลุยทางฝุ่นแบบซอฟๆ โช้คอัพหน้าอินเทรนด์ แบรนด์ของ Gazi แบบ Upside Down ที่โดดเด่นด้วยกระบอกสีขาว ดิสก์เบรกหน้าจานโฟลท์ติ้ง 5 ตัว คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ RCB และสายถักสแตนเลส ย้ำด้วยหัววงแหวน ช่วงท้ายแน่นๆ วงล้อแม็ก 12 นิ้ว ฝาปิดทึบ โช้คอัพหลังแบบยูนิตสวิง เน้นความนุ่มนวลและความหนึบใส่ของ Gazi สปริงแบบโปรเกรสซีฟ ที่มาพร้อมแท้งค์ซับแก๊สบิ้วอินท์ ประจำการอยู่ด้านหลัง

เครื่องยนต์เพิ่มอัตราการบิดเร่งรอบที่เร้าใจมากยิ่งขึ้นด้วยการเสริมไอเสียสแตนเลสเดินลอดออกข้างและสวมด้วยปลายกระบอกคอสปริงยึดเข้ากับแคร้งเครื่องด้านขวาเป็นการแต่งที่เน้นการใช้งานแต่ก็อยากที่ให้ดูโดดเด่น ไม่ซ้ำใคร แบบนี้ก็สะดุดตาบนท้องถนนได้แล้ว จะไปต่อหรือพอแค่นี้…ก็จัดไป

อินเดียนมอเตอร์ไซค์ ประเทศไทย สืบสานตำนาน 120 ปี

รถอเมริกันครุยเซอร์ระดับพรีเมียม ขยายโชว์รูม ย่าน พระราม 5 บริษัท เอ็มเอฟ โมชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ รถจักรยานยนต์ อินเดียนมอเตอร์ไซค์เคิล “America’s First Motorcycle Company”ขยายความแข็งแกร่ง เปิดตัวโชว์รูม บนถนน นครอินทร์ พระราม 5 ขยายศักยภาพและตอบรับกระแสรถสไตล์ อเมริกันครุยเซอร์ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ชูการให้บริการมาตรฐาน ระบบโลก ที่เข้าใจนักขี่ ในทุกแง่มุม ครอบคลุมทั้งการจำหน่ายสินค้า, ไลน์สไตร์ และอุปกรณ์ตกแต่ง

คุณสุทิวัส ชัยศิริวิเชียร กรรมการผู้จัดการ  บริษัท เอ็มเอฟ โมชั่น จำกัด  กล่าวว่า “ทางเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ในการมอบที่สุดแห่งประสบการณ์ รถอเมริกันครุยเซอร์ให้แก่ลูกค้า ในย่าน กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ทางเรามีความมั่นใจและมองเห็นศักยภาพ ในการเติบโตของตลาด ที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น เราจึงยินดีเป็นอย่างยิ่ง กับการขยายโชว์รูม และสร้างการเข้าถึงลุกค้าในกรุงเทพฯ ได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น ทั้งยังตอกย้ำ ความแข็งแกร่ง ของ อินเดียน มอเตอร์ไซค์เคิล ประเทศไทย โดยเรามีความเชื่อมั่นว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดี จากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในพื้นที่นี้

“เอ็มเอฟ โมชั่น ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย รถจักรยานยนต์อินเดียน มอเตอร์ไซค์เคิล แต่เพียงผู้เดียว จากสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 และด้วยความสามารถในการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ซึ่งเกิดจากความเข้าใจและรู้จักลูกค้าทุกคนเป็นอย่างดี เราจึงขยายการให้บริการ โชว์รูมของอินเดียน มอเตอร์ไซค์เคิล มาสู่ย่านพระราม 5 นี้ พร้อมด้วยทีมที่ชำนาญและเชี่ยวชาญในทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าที่มีความเฉพาะตัวในแต่ละบุคคล” คุณสุทิวัส ชัยศิริวิเชียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มเอฟ โมชั่น จำกัด กล่าว

โชว์รูมอินเดียนมอเตอร์ไซค์เคิล พระราม 5 ซึ่งเป็นสาขาที่ 2 ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,400 ตารางเมตร มีพนักงานละเจ้าหน้าที่ พร้อมให้บริการ จึงสามารถให้บริการ ทางด้านการขายที่ตรงตามมาตรฐานระดับโลก ของอินเดียนมอเตอร์ไซค์เคิล อเมริกาในทุกด้าน โดยตัวอาคารและพื้นที่แสดงมอเตอร์ไซค์ที่ได้รับการออกแบบเพื่อยกระดับประสบการณ์ที่มีต่อแบรนด์ให้กับลูกค้า ในขณะที่โซนจัดแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์และโซนรับรองลูกค้าได้รับการจัดวางและออกแบบโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายสูงสุดของลูกค้าอินเดียนมอเตอร์ไซค์เคิลเป็นหัวใจสำคัญ

อินเดียนมอเตอร์ไซค์เคิล สาขา พระราม5 มีพนักงานให้คำปรึกษาทางด้านการขาย ซึ่งได้รับการอบรมตามมาตรฐาน ทั่วโลก พร้อมให้คำปรึกษาเพื่อมอบความประทับใจเหนือระดับให้กับลูกค้าอินเดียน มอเตอร์ไซค์เคิล ทุกท่าน โชว์รูมอินเดียน มอเตอร์ไซค์เคิล พระราม 5 ตั้งอยู่ที่ 135/5 หมู่ 7 ถนนนครอินทร์ ต. บางคูเวียง อ. บางกรวย นนทบุรี 11130 โทรศัพท์ 02-449-4893

และพิเศษไปกว่านั้น ปีนี้ คือปีฉลองครบรอบ 100 ปีรถรุ่น CHIEF ทางบริษัท เอ็มเอฟ โมชั่น จำกัด ยังได้เปิดตัวรถ พร้อมกันถึง 2 รุ่นภายในงาน ทั้ง Indian Chief Dark Horse และ Indian Chief Bobber Dark Horse สุดยอดรถระดับตำนาน กับความสวยงามเลอค่า เหมาะแก่การจับจองเป็นเจ้าของ ตัวรถมาพร้อมเทคโนโลยีร่วมสมัย ผสมผสานความคลาสสิคได้อย่างลงตัว กับการออกแบบเส้นสายตามสไตล์รถสัญชาติอเมริกัน

 

WR155R “Monster Energy Yamaha MotoGP Edition”

เข้าไปดูความมันส์กันแบบเต็มๆกับ WR155R “Monster Energy Yamaha MotoGP Edition” หากความมันส์แบบฉบับ off-road คือทางของคุณ ขอเพียงแค่คุณกล้าก้าวข้ามขีดจำกัดแห่งความธรรมดาบนเส้นทางเดิมๆกระโจนสู่ความท้าทายใหม่ๆ แล้วออกไปสนุกกับเพอร์ฟอร์มานซ์มันส์ๆ ขับขี่คล่องตัวพร้อมลุยทั้งทางเรียบและทางลุย
สัมผัสความตื่นเต้นเร้าใจไปกับ
WR155R สี Monster Energy Yamaha MotoGP
แล้วคุณจะพบเสน่ห์ของการผจญภัยในสไตล์ Monster Energy
? ได้ที่ร้านผู้จำหน่าย #ยามาฮ่า ทั่วประเทศ

“ฮอนด้า” ต่อสัญญา “ก้อง-สมเกียรติ” นักบิดหนึ่งเดียวของไทยลุยโมโตทู 2022

ฮอนด้า ประกาศสนับสนุน “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดหนึ่งเดียวของไทยลงแข่งขันศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก World Grand Prix รุ่นโมโตทู ฤดูกาล 2022 อย่างเป็นทางการ ภายใต้สังกัดทีมแข่ง อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย หมายเลข 35 โดยจะผนึกกำลังกับ ไอ โอกุระ ทีมเมทชาวญี่ปุ่นอีกครั้ง เพื่อร่วมกันพัฒนาศักยภาพพร้อมยกระดับผลงานต่อสู้กับนักบิดแถวหน้าของโลก

สำหรับการต่อสัญญาครั้งนี้ส่งผลให้ สมเกียรติ จันทรา นักบิดชาวชลบุรี วัย 22 ปี จากโครงการ ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม (Honda Race to the Dream) ได้ลงแข่งขันโมโตทูเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน โดยที่ผ่านมา สมเกียรติ สามารถเก็บประสบการณ์และพัฒนาผลงานของตัวเองได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะการโชว์ฟอร์มระดับเวิลด์คลาส คว้าอันดับที่ 5 ในรายการออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ ในปี 2021 และเป็นผลงานดีที่สุดในชีวิต มร.ฮิโรชิ อาโอยาม่า ผู้จัดการทีมของอิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย เปิดเผยว่า “เรามีความยินดีที่จะประกาศรายชื่อนักแข่งของทีมที่จะลงแข่งขันในปี 2022 และยังคงเป็น สมเกียรติ จันทรา และ ไอ โอกุระ ยอดนักบิดชาวไทยและญี่ปุ่นที่กำลังแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นในปีนี้ และนี่คือเป้าหมายที่สำคัญของพวกเรา ซึ่งแน่นอนเราอยากเห็นนักบิดของเราทั้งสองคนร่วมกันพัฒนาผลงานที่ดีขึ้นต่อไป และเราเชื่อว่าในการแข่งขันฤดูกาล 2022 พวกเขามีศักยภาพเพียงพอที่จะต่อสู้เพื่อตำแหน่งแชมป์”
สมเกียรติ จันทรา เปิดเผยว่า “ผมรู้สึกดีใจที่ได้รับโอกาสลงแข่งขันในรายการชิงแชมป์โลกอย่างต่อเนื่องในปีหน้า ร่วมกับทีมแข่ง อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ผมขอขอบคุณการสนับสนุนที่สำคัญจากไทยฮอนด้า รวมถึงผู้ที่มีส่วนร่วมทุกคนที่ช่วยสานฝันให้ผมมาเป็นนักแข่งอาชีพและมาถึงจุดนี้ได้ สำหรับโอกาสใหม่นี้จะช่วยให้ผมได้เติบโตในฐานะนักบิดต่อไป และผมเชื่อมั่นว่าจะนำประสบการณ์และสิ่งที่เรียนรู้มาทั้งหมด นำมาปรับใช้เพื่อยกระดับผลงานของตัวเอง ในปี 2022 จะต้องเป็นฤดูกาลที่ดีของผม ในทุกๆ เรซ ผมพร้อมสู้เต็มที่เพื่อแย่งชิงตำแหน่งในกลุ่มนักบิดแถวหน้า” ทั้งนี้ ผลงานของ สมเกียรติ จันทรา ในการแข่งขันโมโตทู 2021 ล่าสุด มีคะแนนสะสมอยู่ที่ 37 แต้ม รั้งอยู่ในอันดับที่ 17 ของโลก และกำลังเตรียมตัวลงชิงชัย สนามที่ 18 ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายของฤดูกาล ที่เซอร์กิต ริคาร์โด ตอร์โม เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 12-14 พฤศจิกายนนี้ แฟนความเร็วสามารถติดตามข่าวสารของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

DNA จากซูเปอร์ไบค์ CBR Series ปรับใหม่ให้อัตราเร่งและการคอนโทรลสนุกทุกการขับขี่

New CBR 500R หนึ่งในตระกูล 500 Series ได้รับการพัฒนาเพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับกลุ่มลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง และในปี 2021 ได้ทำการยกระดับให้เทียบเท่าซูเปอร์ไบค์ระดับท็อปคลาส เพื่อสร้างความตื่นเต้นและตอบโจทย์นักบิดตัวจริง ด้วยการติดตั้งเทคโนโลยีชั้นสูงเข้าไป เพื่อให้เป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ต้องการเข้าสู่โลกของบิ๊กไบค์

New 500 Series มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “For The Real One” ถ่ายทอดความเร้าใจสู่สาวกบิ๊กไบค์ตัวจริง ตื่นตาตื่นใจด้วยดีไซน์ที่ดูบึกบึนโฉบเฉี่ยว แรงด้วยเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง และออพชั่นที่ดีที่สุดในคลาส ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ ส่งมอบประสบการณ์ขับขี่เต็มรูปแบบ ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 2 สูบ แบบ Parallel Twin DOHC ขนาด 500 ซีซี 47 แรงม้า ระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด เสริมด้วยระบบ Assist Slipper Clutch เพิ่มความนุ่มนวลขณะเปลี่ยนเกียร์

ความคิดเห็นหลังการขับขี่

จตุรงค์ หมื่นทิพย์ กอล์ฟ ไรดิ้ง

เริ่มกันตั้งแต่ขึ้นคร่อมเลยแล้วกัน มันให้ความรู้สึกกระชับด้วยบอดี้แบบสปอร์ต หนีบขาได้แนบแน่นกับตัวรถ ความสูงจากพื้นถึงเบาะไม่สูงไม่มาก คนตัวเล็กๆ หรือผู้หญิงก็ไม่ต้องกลัวจนเกินไป เขย่งปลายเท้าก็เอาอยู่แล้วแค่ทรงตัว เพราะตัวรถมีน้ำหนักลดลงด้วย ท่านั่งด้วยตัวรถที่เป็นทรงสปอร์ตแต่ระดับแฮนด์ที่จับอยู่ใต้แผงคอก็จริงมันไม่ได้ก้มจนเกินไปจนรู้สึกเมื่อย พักเท้าอยู่กึ่งกลางของตัวรถทำให้ตัวไม่ก้มหรือเอนมาทางด้านหลัง

มาถึงความรู้สึกเมื่อได้ขับขี่ในสนามแข่ง มันเค้นสมรรถนะได้เต็มที่ด้วย เครื่องยนต์ 2 สูบ 47 แรงม้า ถึงจะเป็นพื้นฐานเดินจากตัวก่อน แต่มีการปรับระบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ให้มีความสมบูรณ์กว่าตัวเก่า น้ำหนักลดลง ทำให้มีแรงม้าเพิ่มขึ้น 4% ความเร็วเพิ่มขึ้น จนรู้สึกหวิวๆ ในช่วงแรกๆ ได้มีการออกตัวแบบรถแข่ง ด้วยรอบประมาณ 6000-7000 รอบ/นาที ดีดคลัทช์ออกไปล้อลอย กำลังดีไม่ธรรมดา อัตราเร่งรอบเครื่องยนต์กวาดขึ้นแบบเนียนๆ ไม่พุ่งปี๊ดป๊าด เปลี่ยนเกียร์ที่ 9,500 รอบ/นาที เพื่อรักษาแรงม้า ไม่ให้แผ่วปลายรอบตัน ถ้าใครไม่ถนัดหรือไม่ได้สังเกตก็ไม่ต้องหว่างเพราะมีไฟ ชิฟไลท์ โชว์ด้วย อัตราทดเกียร์ 1-2 จะชิด แต่ เกียร์ 3-4-5 และ 6 ลากได้ยาวๆ บางทีเอาจนรอบตันเสียงเครื่องครางดัง ระบบสลิปเปอร์คลัทช์ที่มีมาให้ช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น เมื่อรวบเกียร์ลดลงในความเร็ว ล้อหลังจะลดการสลิปหรือส่าย ทำให้สามารถเลี้ยวง่ายและปลอดภัย ลองแล้วอันนี้ดีจริง ถ้าไม่มีอาจจะทำให้ท้ายสไลด์เสียงการทรงตัว และเลี้ยวรถไม่เข้า แต่ก็ต้องระวังบนพื้นทรายและน้ำ

การทรงตัว ในตรงหมอบกันได้สุดๆ ถึงจะมีลมปะทะบ้างแต่ก็ยังควบคุมรถได้ อันนี้บนนถนนคงไม่ได้ทำกันจริงๆ หรอกนะ มันอันตราย แต่การขับขี่ในโค้งต้องบอกว่ามันต่างจากตัวก่อนหน้านี้ เพราะมีการปรับมุมเคสเตอร์หน้าใหม่ทำให้เลี้ยวได้ง่ายขึ้น และพลิกรถได้เร็ว บวกกับน้ำหนักที่เบาลงด้วย ความเร็วในโค้ง 4 ของสนามช้าง เป็นโค้งขวาไฮสปีดที่ล็อคคันเร่งมาเกือบๆ 180 กม./ชม. เบรกนิดเดียวแล้วยกคันเร่งลดเกียร์ลง จาก 6 เป็น 5 แล้วเอียงรถเข้าไปเลย ตอนแรกยังทำใจไม่ได้ แต่พอลองแล้วถึงรู้ว่ามันเอาอยู่จริงๆ แต่ก็แอบบเสียดายกับรถในคลาสนี้ไม่แทร็คชั่นคอนโทรลมาให้ น่าจะช่วยให้ขี่สนุกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ช่วงล่างที่มีการปรับเปลี่ยนใหม่ โช้คอัพหน้าหัวกลับ Upside Down ไม่ได้มีแค่ความสวยงามเท่านั้น มันถูกเซ็ทค่ามาตรฐานโรงงานมาได้ลงตัว ถึงแม้นมันอาจจะไม่เหมาะในสนามแต่ก็ทำให้รู้ว่า ระยะยุบกับการกดเบรกหนักๆ ยังทำได้ดี ต่อด้วยเบรกหน้าเลยแล้วกัน จัดมาให้เป็นทวินดิสก์เบรก เรเดียลเม้าท์ 4 พอร์ท มันหนึบกว่าเดิมแน่นอนลดระยะให้สั้นลง ทำให้การใช้ความเร็วสูงและต้องเบรกเพื่อเข้าโค้งยกได้ลึกกว่าเดิมและมั่นใจได้ บางครั้งล้อหลังกระดกลอยขึ้นมาเลย ชุดหลังก็มีการเปลี่ยนสวิงอาร์มใหม่ ใหญ่ขึ้นแต่น้ำหนักเบาลง ทำให้ท้ายไม่สะท้านและลดอาการย้วย ด้วยการทำงานร่วมกับโช้คอัพหลัง รถนิ่งกว่าเดิม ส่วนยางถึงจะเป็นยางเดิมๆ ติดรถก็ขี่ได้สนุก แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นยางสำหรับแทร็คก็น่าจะสนุกได้มากกว่านี้

สรุปโดยรวมๆ แล้ว การปรับเปลี่ยนของ New CBR500R ทำให้มีอัตราเร่งดีขึ้น ตัวรถเบาควบคุมง่าย นั่งสบาย ส่วนใครจะเพิ่มเติมเสริมของแต่อะไรก็เอาที่ชอบเลยแล้วกัน และที่สำคัญ มันราคาเดิมนี่สิ…219,800 บาท ถูกใจวัยรุ่นแน่นอน

 

 

ยามาฮ่าจัดหนักแจกโชคใหญ่ผ่านแคมเปญ “ยามาฮ่า ใจดี…ช่วยผ่อน” ซีซั่น 2 มอบโชคครั้งที่ 1 มูลค่า 8.6 ล้านบาท

นายภาณุพล กิตติคำรณ  รองผู้จัดการใหญ่ด้านการขายและการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมจับรางวัลมอบโชคใหญ่ผ่านแคมเปญ “ยามาฮ่า ใจดี…ช่วยผ่อน” ซีซั่น 2 สำหรับผู้ที่ซื้อรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทุกรุ่น (เครื่องยนต์ต่ำกว่า 400 ซีซี) จากร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทุกสาขาทั่วประเทศ รับโชคช่วยผ่อนสูงสุด 50,000 บาท จำนวน 40 รางวัล รวมมูลค่า 2,000,000 บาท พร้อมทั้งรางวัลอื่นๆ อีก 2,380 รางวัล รวมมูลค่า 8,600,000 บาท

แคมเปญ “ยามาฮ่า ใจดี…ช่วยผ่อน” ซีซั่น 2 จะจับรางวัลครั้งต่อไปในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 เวลา 14.00 น. ร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีผ่านแคมเปญนี้ได้ง่ายๆ เพียงซื้อรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทุกรุ่น (เครื่องยนต์ต่ำกว่า 400 ซีซี) จากร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทุกสาขาทั่วประเทศ โดยของรางวัลตลอดทั้งรายการรวม 5,000 รางวัล มูลค่า 20 ล้านบาท

สำหรับการมอบโชคผ่านแคมเปญ “ยามาฮ่า ใจดี…ช่วยผ่อน” ซีซั่น 2 ครั้งที่ 1 จำนวน 2,380 รางวัล รวมมูลค่า 8,600,000 บาท ในครั้งนี้มีขึ้น ณ อาคารสำนักงาน บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมตรวจรายชื่อผู้โชคดีได้ที่ https://www.yamaha-motor.co.th ลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ “ยามาฮ่าใจดี ช่วยผ่อน ซีซั่น 2” ได้ที่ ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ , Yamaha Call Center : 02-263-9999 และสามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมได้ที่ Facebook : Yamaha Society Thailand และเว็บไซต์ www.yamaha-motor.co.th

Honda Safety Riding Park Bangkok

ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้ากรุงเทพ ยกระดับอัพเกรดเป็น Honda Safety Riding Park Bangkok ด้วยมาตรฐานการขับขี่สู่สากล Honda Safety Riding Park Bangkok รองรับไลฟ์สไตล์การขับขี่ของคนรุ่นใหม่ ด้วยสนามฝึกสอนที่ทันสมัยครบครันทั้งทางเรียบและทางฝุ่น พร้อมคอร์สฝึกทักษะที่หลากหลายสำหรับคนทุกวัย มุ่งสร้างวัฒนธรรมการขับขี่ที่ผสมผสานความปลอดภัย และความสนุกเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

สำหรับศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัย Honda Safety Riding Park Bangkok ได้รับการปรับพื้นผิวสนามใหม่ทั้งหมด บนพื้นที่รวมกว่า 16,000 ตารางเมตร พร้อมกับเพิ่ม Dirt Station บนเนื้อที่ 1,500 ตารางเมตร เพื่อใช้สำหรับฝึกสอนการขับขี่ในแนวออฟโรดและแอดเวนเจอร์โดยเฉพาะ พร้อมด้วยคอร์สเรียนขับขี่ทางฝุ่นที่มีความหลากหลายสำหรับคนทุกวัย ประกอบด้วย Dirt for Kids Course สำหรับเด็กอายุ 6-13 ปี ซึ่งนอกจากจะมีความสนุกสนานแล้วยังช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกายและการตัดสินใจได้เป็นอย่างดี ตามด้วยคอร์สของผู้ใหญ่ที่แบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ Dirt Bike Basic สอนการขับขี่พื้นฐาน, Dirt Bike Experience สอนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและการขับขี่ข้ามอุปสรรค, Dirt Bike Pro สำหรับผู้ชำนาญ และ Dirt Drill สำหรับการควบคุมทางวิบากเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มคอร์สพิเศษสำหรับการขับขี่ในสไตล์แอดเวนเจอร์ทัวริง ที่ต้องใช้ทักษะทั้งทางเรียบและทางฝุ่นผสมผสานกัน เพื่อช่วยให้การขับขี่ท่องเที่ยวในเส้นทางที่แตกต่างกันทำได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัย Honda Safety Riding Park ทั้งในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต รวมถึงศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัย Honda Safety Riding Center – Samutprakarn พร้อมเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือจองคอร์สเรียนได้ที่

เว็บไซต์ https://hondasafety.thaihonda.co.th/course

เฟซบุ๊กแชท: http://m.me/HondaSafetyRidingParkBangkok

ไลน์แชท http://line.me/ti/p/~safety-bkk

โทร: 02-735-3999 หรือ 092-546-8070

แผนที่: https://bit.ly/MapToBSR

 

Yamaha Sports in “Styles”

เมื่อความสนุกไม่ได้หยุดแค่การขับขี่แต่คุณสามารถสนุกไปกับการหยิบจับไอเท็มแจ็คเก็ตเท่ๆสักตัว หมวกกันน็อคจี๊ดๆสักใบ
ครีเอททุกลุคให้ตรงกับความชอบ Mix & Match
เข้ากับมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่าคันโปรด
ได้อย่างโดดเด่นมีสไตล์ไม่ว่าจะเป็น
⚡️อารมณ์สปอร์ตอย่าง YZF-R15
⚡️แสบๆซ่าๆตามฉบับ MT-15
⚡️หล่อเท่สไตล์เฮอริเทจแบบ XSR155
⚡️หรือแม้แต่สายลุยมันส์ๆอย่าง WR155R
ก็สามารถสะท้อนตัวตนผ่านไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว
ที่คอมพลีทความสนุกได้ถึงขีดสุด แล้วคุณล่ะ…สไตล์ไหน
ซื้อรถยามาฮ่าสปอร์ต 155ซีซี วันนี้!
(1 ก.ย. – 31 ต.ค. 64)
รับข้อเสนอสุดพิเศษ ที่ #ยามาฮ่า สแควร์ทุกสาขา
ฟรี! ประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ ระยะเวลา 2 ปี*
ฟรี! รับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กม.*
?ดูข้อมูลรถยามาฮ่าสปอร์ตเพิ่มเติมได้ที่นี่
————————————————————
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
*เงื่อนไข และการอนุมัติกรมธรรม์ เป็นไปตามที่วิริยะประกันภัยกำหนด
*ติดต่อ และขายประกันโดยตัวแทนของวิริยะประกันภัย

“กวาร์ตาราโร่” แซงระห่ำ มิซาโน่ ผงาดครองบัลลังก์แชมป์โลกโมโตจีพี

ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ #20 ดาวบิดเฟรนช์แมน สังกัดมอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ไล่แซงคู่แข่งไต่จากกริดที่ 15 ขึ้นมาจบการแข่งขันด้วยอันดับ 4 จากการชิงชัยในเรซสุดเข้มข้นที่ มิซาโน่ เก็บแต้มทิ้งขาดคู่แข่ง ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์แชมป์โลกโมโตจีพีสมัยแรกร่วมกับยามาฮ่า

ศึกโมโตจีพี 2021 สนามที่ 16 ของฤดูกาล ดวลความเร็วเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ มิซาโน่ เวิลด์ เซอร์กิต มาร์โก ซิมอนเซลลี สาธารณรัฐซานมารีโน่ ระยะทางต่อรอบ 4.226 กิโลเมตร กำหนดชิงชัยทั้งสิ้น 27 รอบสนาม ในรายการกราน พรีมิโอ โนแลน เดล เมด อิน อิตาลี เออ เดล เอมิเลีย-โรมันญ่า

โดย ฟรังโก้ มอร์บิเดลลี่ #21 ดาวบิดเจ้าถิ่น สังกัดมอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ได้ออกสตาร์ทจากแถวที่ 2 ด้าน ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ #20 ผู้นำบนตารางแชมเปี้ยนชิพ บิดทำเวลารอบควอลิฟายเข้ามาเป็นอันดับ 15 ส่วน อันเดรีย โดวิซิโอโซ่ #04 และ วาเลนติโน่ รอสซี่ #46 ดูโอ้นักบิดมากประสบการณ์สังกัดปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 21 และ 23 ตามลำดับ
การแข่งขันในเรซดังกล่าวเป็นผลงานอันร้อนแรงของ กวาร์ตาราโร่ หลังเจองานหินในรอบควอลิฟาย อย่างไรก็ดี ดาวบิดเฟรนช์แมน สามารถควบคุมเรซและรีดฟอร์มเก่งของตนเอง ไล่แซงคู่แข่งไต่จากกริดที่ 15 ขึ้นมาเกาะอยู่ในกลุ่มท็อปไฟว์ ก่อนจะบิดเข้าเส้นชัยด้วยอันดับ 4 เก็บแต้มทิ้งขาดคู่แข่ง ผงาดขึ้นครองบัลลังก์แชมป์โลกเป็นที่เรียบร้อย ด้าน ดาวบิดจอมเก๋า อย่าง วาเลนติโน่ รอสซี่ ส่งท้ายเกมโฮมเรซด้วยฟอร์มระดับท็อป ซิ่งไต่จากท้ายขบวนขึ้นมาจบการแข่งขันในอันดับ 10 ขณะที่ อันเดรีย โดวิซิโอโซ่ และ ฟรังโก้ มอร์บิเดลลี 2 ดาวบิดเพื่อนร่วมชาติ บิดจบการแข่งขันต่อหน้าแฟนความเร็วที่ มิซาโน่ ด้วยอันดับ 13 และ 14
ผ่านเกมในสนามที่ 16 ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ คว้าแชมป์โลกประเภทนักขับไปครอง หลังเก็บไปได้ทั้งสิ้น 267 คะแนน ทิ้งห่างอันดับ 2 ถึง 65 คะแนน ขณะเหลือการแข่งขันเพียง 2 สนามในฤดูกาลนี้ ขณะที่ มอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ยังคงรั้งจ่าฝูงในประเภททีมผู้สร้าง เก็บไปได้ 364 คะแนน ถือแต้มเหนืออันดับ 2 อยู่ 13 คะแนน ศึกโมโตจีพี 2021 สนามถัดไป จะยกพลไปดวลที่ อัลการ์ฟ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เมืองปอร์ติเมา ประเทศโปรตุเกส ระหว่างวันที่ 5-7 พฤศจิกายน นี้ ในรายการแกรนเด พรีมิโอ โด อัลการ์ฟ

“มาร์เกซ” คว้าแชมป์ 2 สนามติด “โปล” ปลดล็อกโพเดี้ยมแรกกับฮอนด้าที่มิซาโน

มาร์ค มาร์เกซ ยอดนักบิดสแปนิชจาก เรปโซล ฮอนด้า ร้อนแรงต่อเนื่องผงาดคว้าชัยชนะในศึก โมโตจีพี สนาม 16 เอมิเลีย-โรมันญ่า กรังด์ปรีซ์ อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมควงทีมเมท โปล เอสปาร์กาโร ปลดล็อกขึ้นโพเดี้ยมแบบวันทู หลังจบเรซสุดพลิกผันที่ มิซาโน ประเทศอิตาลี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

เกมรอบชิงชนะเลิศของ โมโตจีพี สนาม 16 ดวลความเร็วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ภายใต้สภาพแทร็กปกติหลังจากที่นักบิดทุกคนต้องเจอฝนมาตลอดทั้งสุดสัปดาห์ โดยเรซนี้ดวลกันทั้งสิ้น 27 รอบสนาม ซึ่ง โปล เอสปาร์กาโร นักบิดสแปนิชหมายเลข 44 จาก เรปโซล ฮอนด้า ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 4 ขณะที่ทีมเมทอย่าง มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลก 8 สมัย เจ้าของหมายเลข 93 ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 7

ผลในเรซนี้ปรากฏว่า มาร์ค มาร์เกซ สตาร์ทได้ยอดเยี่ยมทะยานขึ้นไปรั้งท็อปทรีได้ตั้งแต่เริ่มเกม ก่อนจะไล่บดขึ้นมาเป็นหัวแถวช่วง 5 รอบสุดท้าย และบิดเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 41 นาที 52.830 วินาที คว้าชัยชนะ 2 สนามติดต่อกันอย่างยิ่งใหญ่ ตามด้วย เอสปาร์กาโร ในอันดับ 2 ตามหลัง 4.859 วินาที ปลดล็อกขึ้นโพเดี้ยมครั้งแรกกับ ฮอนด้า ได้สำเร็จ ด้าน ทาคาอากิ นาคากามิ นักบิดญี่ปุ่นหมายเลข 30 จาก แอลซีอาร์ ฮอนด้า จบเรซอันดับ 15 ขณะที่ทีมเมทอย่าง อเล็กซ์ มาร์เกซ หมายเลข 73 ไม่จบการแข่งขัน

หลังผ่าน 16 สนาม มาร์ค มาร์เกซ ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 6 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ มีทั้งสิ้น 142 คะแนน ตามด้วย เอสปาร์กาโร ในอันดับ 12 มี 82 คะแนน, นาคากามิ อันดับ 15 มี 71 คะแนน และ อเล็กซ์ มาร์เกซ อันดับ 16 มี 54 คะแนน ด้าน “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ได้ออกสตาร์ทกริดที่ 10 โดยสามารถพารถแข่งหมายเลข 35 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ทะยานขึ้นไปถึงท็อปโฟร์แต่กลับโดน เรมี การ์ดเนอร์ ชนล้มไปดื้อๆ ส่งผลให้ไร้แต้มอย่างน่าเสียดาย
สำหรับการแข่งขัน โมโตจีพี 2021 สนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 พฤศจิกายนนี้ ที่ อัลการ์ฟ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศโปรตุเกส ในรายการ ปอร์ติเมา กรังด์ปรีซ์ แฟนความเร็วสามารถติดตามข่าวสารของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

YZF-R7 สปอร์ตสองสูบ 74 แรงม้า มาสเตอร์ทอร์ค กระชับ เรียว เพรียว บาง

เชื่อว่าหลายๆ คน คงได้เห็นข้อมูลผ่านตากันไปบ้างแล้วของตัวรถ แต่ผมจะสรุปแบบคร่าวๆ ถึงจุดเด่นของ YZF-R7 ก่อนที่จะให้ความคิดเห็นถึงสมรรถนะการขับขี่บนแทร็คสนามช้างฯภาพลักษณ์ดีไซน์ทันสมัยที่ลงตัวสอดรับผสมผสานความสปอร์ตไบค์ มีความเพรียว ไม่เทอะทะ ที่เป็นเอกลักษณ์ Series-R ดูโฉบเฉียวและลงตัวในการออกแบบ การใช้งานความสะดวกสบาย ที่สำคัญนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นทั้งคัน

หลักพลศาสตร์ที่ใส่ใจในการออกแบบตามหลักการใช้งานจริงเพื่อสนองต่อผู้ใช้ที่ชื่นชอบความเป็นรถสปอร์ต แต่สามารถขับขี่ใช้งานได้ทั้งในเมือง และทางหลวงที่ต้องการความเร็ว ตัวเฟรมแข็งแรงน้ำหนักเบา ปรับมุมเคสเตอร์ให้รถสามารถเลี้ยวได้ง่าย การวางเท้าและเข่ากระชับทำให้แนบสนิทกับบอดี้ที่ลงตัว สมบูรณ์แบบในการเป็น R-Series ไม่แพ้รุ่นพี่ในสนามแข่ง

ออพชั่นที่จัดมาให้ลงตัวทั้งระบบการถ่ายเทความร้อน ช่องแรมแอร์ด้านหน้า โช้คอัพหน้า Upside Down ปรับได้เต็มระบบ ดิสก์เบรกหน้าดูโอ้ จานเบรกใหญ่ 289 มม. คาลิเปอร์แบบ 4 พอร์ท ปั๊มบน Brembo โช้คอัพหลัง ปรับได้ 2 ระบบ พรีโหลด  รีบาวด์ 11 ระดับ องศาการจับแฮนด์แบบวีกริบ บอดี้ถังไม่ใหญ่เกินไปสำหรับคนตัวเล็กๆ ยางที่ติดมากับรถ บริดจสโตน แบทแลค S22 ซึ่งเป็นตัวท็อปของยางถนน ยางหน้าแบบ 3 คอมบาวด์ ยางหลัง 5 คอมบาวด์

เครื่องยนต์ 2 สูบ CP2 ความจุ 699 ซีซี ให้พละกำลัง 74 แรงม้า อาจจะดูไม่ได้มากมาย แต่จุดเด่นของเครื่องยนต์ตัวนี้คือ แรงบิดในช่วงต้นและกลาง ซึ่งได้ปรับระบบอีเล็กทรอนิกส์ให้สามารถทำงานได้ฉับไว พร้อมกับเสริมสลิปเปอร์คลัทช์ให้ขี่สนุกและควบคุมรถได้ง่ายเมื่อลดเกียร์ในความเร็ว อีกหนึ่งจุดที่ไม่ได้มีให้แต่เป็นออพชั่นเสริมกับจุดต่อควิกชิพที่รองรับพร้อมติดตั้งได้เลย

ความคิดเห็นหลังการขับขี่

สัมผัสแรกกับการขึ้นไปนั่งคร่อมจัดท่าทางแบบขับขี่ทั่วไป แฮนด์อยู่ใต้แผงคอมันเป็นรถสปอร์ตที่ไม่ก้มมากจนเกินไป มิติดูเหมือนใหญ่แต่มันเพรียวที่สุดในบรรดา R Series ทั้งหมด นั่งกระชับ หนีบรถได้ง่าย เบาะกว้าง ขยับมอบได้สบายๆ ความสูงจากพื้นถึงเบาะไม่มาก ผมสูง 168 ซม. เหยียบได้ครึ่งเท้า พยุงได้สบายๆ เพราะรถไม่หนักมาก

เครื่องยนต์ 2 สูบ แบบคลอสเพน ที่โดดเด่นเรื่องของกำลังแรงบิด ออกตัวเร็ว รอบขึ้นเร็ว และมีรอบเครื่องยนต์ใช้งานได้เหลือเฟือ จะอยู่เกียร์ 3 หรือ 4 กระแทกคันเร่งออกไปได้โดยที่กำลังไม่ตก อัตราทดเกียร์ 2 จะลากได้ยาว น่าจะเน้นสำหรับการใช้งานทั่วไปทำให้รอบไม่ตึงมาก เปิดคันเร่งเร็วๆ หน้าลอยง่ายๆ เลย ขี่ในแทร็คเปียกต้องใช้เอ็นจิ้นเบรกเยอะ สำหรับเครื่อยนต์ตัวนี้เอ็นจิ้นดึงแรงแต่ได้ออพชั่นเสริม สลิปเปอร์คลัทช์ ก็ช่วยได้ในระดับนึง มันไม่ได้ใช้แบบ 100% เพราะวันที่ขับขี่ฝนตกแทร็คลื่น แต่ก็ได้รับความรู้สึกเล็กๆ ว่ามันทำงาน ซึ่งมันก็คงไม่ต่างไปจากรถสปอร์ตทั่วไป ที่เคยสัมผัส ถ้าจะให้ดีไม่ควรยกคันเร่วจนหมดในจังหวะเดียว ค่อยๆ ผ่อนคันเร่งเครื่องยนต์จะสมูทกว่า แล้วก็ค่อยๆ เปิดคันเร่งเพราะประแทกแรง หน้าหงายได้เลย ความเร็วสุดปลายที่ทำได้ 215 กม./ชม. (มันยังไปได้อีกถ้าแทร็คแห้ง) ถ้าติดตั้งควิกชิพเพิ่มคงจะสนุกขึ้น อีกอย่างก็คือ น่าจะมีระบบแทร็คชั่นคอนโทรมาให้อีกตัว รับรองว่าครบเซ็ท ขี่กันมัน

ช่วงล่าง โดยส่วนตัวชอบมากสำหรับรถในคลาสนี้ โช้คอัพหน้า Upside Down ปรับได้เต็มระบบ ไม่ได้มีแค่ความสวย เท่ แต่ยังทำได้ดีบนแทร็คเปียกๆ ด้วยค่าสแตนเดาร์ดเดิมๆ จากไลน์ผลิต เบรกหน้าดิสก์คู่ พร้อมคาลิเปอร์ 4 พอร์ท และใช้ตัวปั๊มบนของ Brembo อันนี้ก็มั่นใจได้ ขนาดแทร็คเปียกชุ่ม ยังกดล้อหลังลอย แต่ต้องจับแฮนด์ให้ดีๆ นะไม่งั้นก็อาจปลิ้นหน้าไถลได้ แต่นั่นก็ได้ตัวช่วยที่ดีด้วย ก็คือ ยางที่มีประสิทธธิภาพด้วยคอมบาวด์ที่แบ่งไว้ ช่วยให้การขับขี่นั่นง่ายขึ้น ขนาดแทร็คเปียกๆ ยังเอียงรถเข้าโค้งได้

กับราคาค่าตัว 339,000 ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ รูปทรงสปอร์ต ไม่เทอะทะ นั่งสบาย ออพชั่นพอตัว อัตราเร่งดี เหมาะสำหรับไรเดอร์ที่ใช้งานทั่วไปก็ได้ หรือมาขี่บนแทร็คก็ได้ เพราะช่วงล่างมันสามารถปรับได้

 

สนั่นวงการบิ๊กไบค์! ฮอนด้าเปิดตัว New 500 Series ยกระดับออปชันท็อปคลาส

จัดเต็มโช้กอัพหน้าหัวกลับ-ดิสก์เบรกคู่ ยืนหนึ่งโดนใจนักบิดตัวจริง ฮอนด้าบิ๊กไบค์สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญสนั่นวงการรถจักรยานยนต์ไทย ด้วยการเปิดตัวบิ๊กไบค์โมเดลใหม่ล่าสุดในตระกูล 500 Series 3 รุ่นรวด ได้แก่ New CBR500R, New CB500F และ New CB500X ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ ทั้งสปอร์ต เน็กเก็ต และแอดเวนเจอร์ มาพร้อมการยกระดับออปชันที่ดีที่สุดในคลาส เสริมสมรรถนะขั้นสุดด้วยโช้กอัพหน้าหัวกลับ และดิสก์เบรกคู่ พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
มร.ทาคาโนริ มารุยามะ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า “บิ๊กไบค์ฮอนด้าในตระกูล 500 Series ถือเป็นโมเดลที่มีความสำคัญ และเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของกระแสการขับขี่บิ๊กไบค์ในเมืองไทย ด้วยคุณภาพมาตรฐานการผลิตระดับโลก และเทคโนโลยีที่ผู้ขับขี่ให้การยอมรับมากที่สุด ได้ส่งผลให้ 500 Series ขึ้นแท่นเป็นบิ๊กไบค์ที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดทันทีที่เปิดตัวในไทย ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา” “New 500 Series ได้รับการพัฒนาเพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับกลุ่มลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง และในปี 2021 เราได้ทำการยกระดับ 500 Series ให้เทียบเท่าซูเปอร์ไบค์ระดับท็อปคลาส เพื่อสร้างความตื่นเต้นและตอบโจทย์นักบิดตัวจริง ด้วยการติดตั้งเทคโนโลยีชั้นสูงเข้าไป เพื่อให้เป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ต้องการเข้าสู่โลกของบิ๊กไบค์”
ฮอนด้าบิ๊กไบค์ New 500 Series มาพร้อมคอนเซปต์ “For The Real One” ถ่ายทอดความเร้าใจสู่สาวกบิ๊กไบค์ตัวจริง ตื่นตาตื่นใจด้วยดีไซน์ที่ดูบึกบึนโฉบเฉี่ยว แรงด้วยเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง และออปชันที่ดีที่สุดในคลาส ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ด้วย 3 โมเดลที่แตกต่างตามความต้องการของคนรุ่นใหม่ ประกอบด้วย New CBR500R สำหรับนักบิดสายสปอร์ตเต็มขั้น, New CB500F เน็กเก็ตไบค์ที่ออกแบบมาเพื่อสายสตรีทโดยเฉพาะ และ New CB500X แอดเวนเจอร์ไบค์สำหรับผู้รักการผจญภัย ฮอนด้าบิ๊กไบค์ New 500 Series ทั้ง 3 รุ่น ติดตั้งโช้กอัพหน้าแบบหัวกลับขนาดใหญ่ 41 มม. แบรนด์ SHOWA รองรับแรงกระแทกได้มากกว่า ให้การควบคุมที่เหนือชั้น พร้อมยกระดับความปลอดภัยด้วยดิสก์เบรกหน้าคู่ ทำงานร่วมกับระบบเบรก ABS ให้ประสิทธิภาพการเบรกเหมือนบิ๊กไบค์ระดับท็อป โดยในรุ่น New CBR500R และ New CB500F จะเป็นดิสก์เบรกหน้าคู่พร้อมด้วยคาลิปเปอร์แบบ Radial Mount 4 Pots ส่วนในรุ่น New CB500X จะเป็นดิสก์เบรกหน้าคู่พร้อมคาลิปเปอร์แบบ Twin Piston 2 Pots
ฮอนด้าบิ๊กไบค์ New 500 Series ดุดันกว่าเดิมด้วยไฟหน้า LED ใหม่ ให้ความสว่างเพิ่มขึ้นกว่าเดิมถึง 25% มาพร้อมล้อแม็กหน้า-หลัง ลายใหม่ โดยในรุ่น New CBR500R และ New CB500F จะมาพร้อมกับล้อแม็กลาย Y-Spoke 5 ก้านคู่ ขนาด 17 นิ้ว ขณะที่รุ่น New CB500X มาพร้อมกับล้อแม็กดีไซน์ใหม่ ขนาด 19 นิ้ว ฮอนด้าบิ๊กไบค์ New 500 Series ส่งมอบประสบการณ์ขับขี่เต็มรูปแบบ ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 2 สูบ แบบ Parallel Twin DOHC ขนาด 500 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด เสริมด้วยระบบ Assist Slipper Clutch เพิ่มความนุ่มนวลขณะเปลี่ยนเกียร์ ฮอนด้าบิ๊กไบค์ New 500 Series มีให้เลือก 3 รุ่น 3 สไตล์ ประกอบด้วย
• New CBR500R มี 3 สี ได้แก่ Grand Prix Red, สี Sword Silver Metallic และสี Mat Gunpowder Black Metallic ราคาแนะนำ 219,800 บาท
• New CB500F มี 2 สี ได้แก่ Grand Prix Red และสี Mat Axis Gray Metallic ราคาแนะนำ 214,700 บาท
• New CB500X มี 2 สี ได้แก่ Grand Prix Red, สี Pearl Organic Green และสี Mat Gunpowder Metallic ราคาแนะนำ 224,900 บาท
ฮอนด้าบิ๊กไบค์พร้อมวางจำหน่าย New 500 Series ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ศูนย์ Honda Big Wing ทุกสาขาทั่วประเทศ
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของ New 500 Series ได้ที่
เว็บไซต์ : www.hondabigbike.com
เฟซบุ๊กฮอนด้าบิ๊กไบค์ : fb.com/HondaBigBikeTH