Kawasaki Thailand Racing Team

Kawasaki Thailand Racing Team และ ศูนย์อบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ KGRS ได้รับเกียรติจาก มิตรยนต์ คาวาซากิ บิ๊กไบค์ เพื่อเข้าอบรมกลุ่มลูกค้าคาวาซากิที่สนใจในคอร์สเรียน Racing เพื่อทักษะในสนามแข่งขันทั้งนี้บริษัทมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มอบประสบการณ์ตรงของนักแข่งบนพื้นฐานความปลอดภัยจากศูนย์อบรมคาวาซากิ KGRSสำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถติดตามกิจกรรมได้ที่ตัวแทนจำหน่ายคาวาซากิทั่วประเทศ

S__11747391

S__11747388

S__11747387

S__11747392

S__11747390

ยามาฮ่าห่วงใยความปลอดภัยมอบหมวกนิรภัยแก่หน่วยงานราชการในจังหวัดร้อยเอ็ด

นายธนะชัย เลขวณิชกุล (คนที่ 6 จากซ้าย) ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายภาคอีสาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ซี.เจ.เค มาร์เก็ตติ้ง ร้านรุ่งเจริญ มอเตอร์ และร้านแสงชัย ร้อยเอ็ด ตระหนักถึงความปลอดภัยในท้องถนน ร่วมมอบหมวกนิรภัยจำนวน 50 ใบ ให้แก่หน่วยงานราชการในจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีนายอนุสรณ์ แก้วกังวาล (คนที่ 6 จากขวา) ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นผู้รับมอบในพิธีเปิดกิจกรรม ยามาฮ่า คัพเรซ 2016 สนามที่ 4 ณ ลานหน้าห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จ.ร้อยเอ็ด เมื่อเร็วๆ นี้

 

MSX 125 Cross Touring

เบียดทุกกระแสกับสไตล์การตกแต่งรถสวยด้วยไอเดีย สุดยอดกับรถจักรยานยนต์ มินิสตรีทไบค์ MSX125 จากค่ายฮอนด้า ที่กำลังฮอตฮิตติดกลุ่มวัยรุ่นด้วยความเท่และดีไซน์ที่โดดเด่นและมาพร้อมกับออพชั่นเพิ่มความหล่อในสไตล์ครอสทัวร์ริ่งความแปลกตาที่โดดเด่นเห็นได้ชัดเจนกับชุดคอฟเวอร์หน้า สปอร์ตหลอดไฟโปรเจ็คเตอร์ ทรานฟอร์เมอร์มาพร้อมกับบังโคลนลอยหน้ายุง ไฟเลี้ยว LED เรือนไมล์ดิจิตอลล้ำสมัย ส่วนทางด้านหลังเพิ่มช่องดักอากาศ แอร์ดัก ให้ดูโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น และตะแกรงหลังสำหรับมัดสัมภาระในการเดินทาง เป็นการอำนวยความสะดวก ท่านั่งถูกควบคุมด้วยชุดแฮนด์เดิ้ลบาร์ประกบยึดกับตุ๊กตาอลูมินั่ม เพิ่มประสิทธิภาพการบิดเร่งด้วยประกับคันเร่งแบบสายคู่ ปั๊มดิสก์เบรกกระปุกลอย ก้านปรับระดับแบบสกรู กระจกมองหลังถูกวางตำแหน่งไว้ที่ปลายแฮนด์ เสริมการ์ดแฮนด์กันกระแทกสำหรับการลุย
เข้าป่า เบาะนั่งปาดแต่งทรงใหม่ พักเท้ายกระดับปรับสเตปได้แบบอลูมินัมไดซ์ฟุตเพจแบบหยักกันลื่น

IMG_9395

เสริมสมรรถนะการขับขี่ให้มั่นใจมากยิ่งขึ้นด้วยระบบเบรกหน้า ดิสก์เบรกคาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยวพร้อมด้วยขายึดอลูมินัม จานเบรกดิสก์สร้าง 220 มม. ใส่โพลท์ติ้ง 6 ตัว โช้คอัพหน้าหล่อมาตั้งแต่เกิดด้วยโช้คแบบหัวกลับ Up Side Down เพิ่มตัวปิดหัวโช้คสไตล์บิ๊กไบค์ วงล้อซี่ลวดอลูมินั่มหน้ากว้างใส่กับยางแก้มเตี้ยอารมณ์ของรถสปอร์ต ส่วนทางด้านหลังใส่ยางดอกสำหรับการปั่นในสภาพ ถนนขรุขระ เกาะหนึบทุกโค้งวิ่งได้ทุกสภาพเส้นทางด้วยโช้คอัพหลัง Gazi ของแต่งสุดเท่ กับโมเดลล่าสุดแบบแท้งก์ขวาง สามารถปรับตั้งค่าความหนืดได้ สวิงอาร์มแบบเหล็กกลมแยกเป็นสองชิ้นช่วงหลังอลูมินัมสำหรับการตั้งโซ่ สำหรับทางด้านของเครื่องยนต์ถูกอัพเกรดให้
พร้อมในการเดินทางที่เร้าใจตามสไตล์ของครอสทัวร์ริ่ง เพิ่มระบบระบายความร้อนด้วยชุดออยคลูเลอร์อลูมินัม ตัวครอบแคร้งข้างคลัทช์และจานไฟ อลูมินั่ม ปิดท้ายด้วยท่อไอเสียเดินลอดใต้ท้องเลื้อยออกท้ายด้านขวาคอสแตนเลสสวมด้วยปลายอลูมินัม เพิ่มเสียงคำรามให้เร้าใจ

IMG_9363

IMG_9366

IMG_9374

IMG_9379

IMG_9385

IMG_9382

IMG_9394

IMG_9389

IMG_9412

IMG_9400

IMG_9376

IMG_9377

 

การแต่งสไตล์ครอสทัวร์ริ่ง กับรถขนาดเล็กไม่ได้เห็นกันบ่อย แต่นี่คือไอเดียสุดเจ๋งของสำนักแต่งไทยที่ไม่มีลิขสิทธิ์ สนใจก็เอาปรับแต่งกับรถของคุณได้ เพราะเรื่องของการแต่งรถมันไม่มีวันจบ

THREEBOND SUPER CHAIN LUBE & SUPER CLEANER

เชื่อหรือไม่ว่า การปล่อยให้โซ่แห้ง หย่อนยาน และขาดการหล่อลื่น ทำให้ความเร็ว ของรถหายไปได้ถึง 5 กม./ชม. และทำให้ อัตราเร่งของรถเฉื่อยลงอย่างมาก จึงนับว่าโซ่ขับเคลื่อนมีความสำคัญมากกับการ ขับขี่ ประสิทธิภาพของรถจักรยานยนต์ การสึกหรอสิ้นเปลือง การดูแลปรับตั้งและหล่อลื่นโซ่อยู่เสมอจึงเป็นเรื่องที่ควรกระทำ และจะดีมากแค่ไหนหากเราสามารถทำความสะอาดเศษสิ่งสกปรกที่อาศัยเกาะหนึบมากับสารหล่อลื่น ให้ถูกชะล้างออกไป มันจะช่วยให้การเคลื่อนไหวคล่องตัวยิ่งขึ้น โดยทั่วไปการดูแลก็จะเน้นที่การปรับตั้งและหล่อลื่นเท่านั้น วันนี้เราได้ทดสอบผลิตภัณฑ์ของทรีบอนด์ สเปรย์ทำความสะอาดประสิทธิภาพสูง (SUPER CLEANER) และสเปรย์หล่อลื่นโซ่ (SUPER CHAIN LUBE)

1.เตรียมเครื่องมือที่ใช้ให้พร้อม กับสเปรย์จาระบีและสเปรย์ทำความสะอาดโซ่
1.เตรียมเครื่องมือที่ใช้ให้พร้อม กับสเปรย์จาระบีและสเปรย์ทำความสะอาดโซ่
ทรีบอนด์ซูเปอร์เชนลูป ชอบใจตรงที่ไม่กระเด็น
ทรีบอนด์ซูเปอร์เชนลูป ชอบใจตรงที่ไม่กระเด็น

 

ดูกันจะๆ ประสิทธิภาพการชะล้างของซูเปอร์คลีนเนอร์ แห้งไว ไม่กัดยาง
ดูกันจะๆ ประสิทธิภาพการชะล้างของซูเปอร์คลีนเนอร์ แห้งไว ไม่กัดยาง

IMG_3265

ลองใช้ทรีบอนด์ซูเปอร์คลีนเนอร์แล้วจะพบว่าโซ่สะอาดง่ายดายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ลองใช้ทรีบอนด์ซูเปอร์คลีนเนอร์แล้วจะพบว่าโซ่สะอาดง่ายดายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ทดสอบหลังฉีดซูเปอร์เชนลูป 5 นาที ไม่มีกระเด็นสักเม็ด
ทดสอบหลังฉีดซูเปอร์เชนลูป 5 นาที ไม่มีกระเด็นสักเม็ด

THREEBOND SUPER CLEANER
ทรีบอนด์ ซูเปอร์คลีนเนอร์ เป็นสารทำความสะอาดที่สลายได้แม้คราบกาว แห้งไว มีกลิ่นไม่รุนแรง ไม่เป็นอันตรายต่อชิ้นส่วนที่เป็นยาง จึงสามารถใช้ได้ทั้งโซ่ธรรมดา และโซ่ที่มีโอริง เมื่อกดหัวฉีดน้ำยาจะถูกพ่นออกมาด้วยแรงดันสูง บวกกับประสิทธิภาพในการชะล้างของตัวน้ำยาทำให้เห็นได้ชัดเจนเลยว่าสิ่งสกปรกที่ฝังตัวอยู่ในมุมอับคือข้อต่อโซ่นั้นได้ถูกชะล้างให้ไหลออกมาอย่างมากมาย การระเหยของน้ำยานั้นเร็วจริงๆ ล้างทำความสะอาดง่ายเพราะไม่เกิดเป็นยางเหนียว กระป๋องขนาดบรรจุ 480 มล. ราคา 220 บาท เพียงพอสำหรับโซ่ที่ไม่สกปรกมาก ถ้าเลอะหนักๆ อาจจะต้องใช้สักสองกระป๋อง ก็ถือว่าไม่แพงเกินไปสำหรับการทำความสะอาดนานๆ ครั้ง ไม่บ่อยเหมือนการหล่อลื่น

THREEBOND SUPER CHAIN LUBE
ทรีบอนด์ ซูเปอร์เชนลูป กระป๋องเล็กขนาดบรรจุ 120 มล. เท่านั้น ราคากระป๋องละ 180 บาท ฉีดได้ประมาณ 20 รอบโซ่ เหมาะมือกำลังดี พกพา เดินทางก็ไม่ถือว่าเกะกะ คุณสมบัติเด่นที่ทีมงานเราพิสูจน์แล้วของซูเปอร์เชนลูปนี้ก็คือ การยึดเกาะพื้นผิวที่เซตตัวเร็ว ฉีดไว้เพียง 5 นาทีก็ไม่มีกระเด็นออกมา หมดกังวลเรื่องเสื้อเลอะหรือรถเป็นรอยได้เลย อีกอย่างก็คือสามารถทนการชะล้างของน้ำได้ดีกว่าน้ำมันหล่อลื่นทั่วไป ไม่ต้องสเปรย์กันบ่อยๆ แต่ก็แน่นอนว่าเมื่อตัวมันเกาะติดผิวโลหะได้ดี ก็ย่อมต้องมีสิ่งสกปรกมาติดมันได้ง่ายเช่นกัน นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมทางทรีบอนด์จึงแนะนำให้ใช้ซูเปอร์คลีนเนอร์ในการทำความสะอาดและดูแลควบคู่กันไป สรุปว่าเป็นคู่หูในการทำความสะอาดและหล่อลื่นโซ่ที่มีคุณสมบัติเด่น สมราคา ขจัดปัญหา น่ารำคาญของการหล่อลื่นและทำความสะอาดที่เคยมีมาได้แทบทั้งหมด ทีมงานเราประทับใจอย่างมากกับคุณสมบัติของทั้งสอง ลองใช้ดูแล้วคุณจะลืมน้ำมันหยอดโซ่เดิมๆ ไปเลย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท วีไอวี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร 0-2381-4808-16 ต่อ 446

แสตมป์-อภิวัฒน์ โชว์ฟอร์มร้อนแรงทะยานคว้าชัยรุ่น 250 cc. ขยับเข้าใกล้แชมป์เอเชีย

แสตมป์-อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #24 นักบิดสังกัด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม โชว์ฟอร์มร้อนแรงกระชากคันเร่งรถแข่งยามาฮ่าตระกูล R-Series ทะยานเข้าเส้นชัยเฉือนนักบิดแดนซามูไรคว้าชัยชนะอันดับ 1 รุ่น Asia Production 250 cc. ในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชียรายการ FIM ASIA ROAD RACING CHAMPIONSHIP 2016 สนามที่ 4 เรซที่ 2 ส่งผลให้อภิวัฒน์ ยังคงเป็นผู้นำคะแนนสะสมต่อไปที่ 171 คะแนน โดยขยับแต้มทิ้งห่างคู่แข่งถึง 36 คะแนน ในขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 2 สนาม ส่วนเพื่อนร่วมทีมอย่าง พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง #14 และ   อนุภาพ ซามูล #500 จบการแข่งขันในอันดับที่ 5 และ 8 รั้งอันดับ 3 และ 4 ในตารางคะแนนสะสมตามลำดับ รวมทั้ง ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ยังคงเป็นผู้นำคะแนนสะสมประเภททีมในรุ่นนี้ ด้วยคะแนน 179 คะแนน ทิ้งห่างทีมคู่แข่งอยู่ 38 คะแนน ส่วนในรุ่น SuperSport 600 cc. อนุชา นาคเจริญศรี #14 จบอันดับที่ 13 และ เดชา ไกรศาสตร์ #24 พลาดล้มต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย โดยการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชียครั้งนี้จัดขึ้น ณ เซนตูล เซอร์กิต ประเทศอินโดนีเซีย  ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในไรดิ้งฉบับ 251 เดือนสิงหาคมครับ

05 แสตมป์-อภิวัฒน์ โชว์ฟอร์มร้อนแรงทะยานคว้าชัยรุ่น 250 cc

07  แสตมป์-อภิวัฒน์ โชว์ฟอร์มร้อนแรงทะยานคว้าชัยรุ่น 250 cc

11  แสตมป์-อภิวัฒน์ โชว์ฟอร์มร้อนแรงทะยานคว้าชัยรุ่น 250 cc

10  แสตมป์-อภิวัฒน์ โชว์ฟอร์มร้อนแรงทะยานคว้าชัยรุ่น 250 cc

09  แสตมป์-อภิวัฒน์ โชว์ฟอร์มร้อนแรงทะยานคว้าชัยรุ่น 250 cc

08  แสตมป์-อภิวัฒน์ โชว์ฟอร์มร้อนแรงทะยานคว้าชัยรุ่น 250 cc

06 แสตมป์-อภิวัฒน์ โชว์ฟอร์มร้อนแรงทะยานคว้าชัยรุ่น 250 cc

04 แสตมป์-อภิวัฒน์ โชว์ฟอร์มร้อนแรงทะยานคว้าชัยรุ่น 250 cc

02 แสตมป์-อภิวัฒน์ โชว์ฟอร์มร้อนแรงทะยานคว้าชัยรุ่น 250 cc

12  แสตมป์-อภิวัฒน์ โชว์ฟอร์มร้อนแรงทะยานคว้าชัยรุ่น 250 cc

 

 

ผ่อนคลายสไตล์ 4 ล้อ FUSE T-BEST 250 ขับขี่ท่องเที่ยวแบบสบายๆ ในไลฟ์สไตล์ ที่เป็นตัวคุณ

เมื่อคิดจะซื้อรถสักคัน มันคง มีจุดเริ่มต้นมาจากการนำไปใช้งาน อาจจะใช้ในชีวิตประจำวัน หน้าที่การงาน หรือแม้แต่กิจกรรมยามว่างที่จะมาช่วยเพิ่มสีสันให้กับชีวิต ซึ่งแต่ละคนมีรสนิยมที่แตกต่างกัน กิจกรรมตกปลาก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ได้รับความนิยม ทำให้เกิดมีสถานที่พักผ่อนพร้อมบ่อตกปลาที่เรียกกันว่า “ฟิชชิ่งรีสอร์ท” เกิดขึ้นมากมาย บริการกันได้ทั้งกิจกรรมตกปลา พร้อมบ้านพักในบรรยากาศดีๆ ที่สามารถเดินทางมาพักผ่อนกันได้ทั้งครอบครัว

IMG_0652

ที่พักสไตล์นี้ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงมากนัก เพราะนอกจากกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว การได้รับอากาศบริสุทธิ์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ร่างกายและจิตใจสดชื่นขึ้นมาได้ เจ เอส ฟิชชิ่ง รีสอร์ท จังหวัดนครราชสีมา คือสถานที่ที่ทีมงานเราแนะนำกันในทริปนี้ สามร้อยกิโลเมตรเศษจากกรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าสู่อีสานผ่านจังหวัดสระบุรีเลี้ยวขวาผ่านนครราชสีมา มุ่งหน้าขอนแก่น จากตัวเมืองนครราชสีมาประมาณ 40 กม. จะเจอทางแยกซ้ายเข้าอำเภอโนนสูง ก่อนถึงตัวอำเภอมีสามแยก ให้แยกขวาไปอำเภอขามสะแกแสง เจออีกหนึ่งไฟแดงให้ตรงไปผ่านชุมชนเล็กน้อย ตรงมาเรื่อยๆ จนเข้าสู่เขตท้องนา มองหาป้ายทางซ้ายมือเลี้ยวเข้าสู่ เจ เอส ฟิชชิ่ง รีสอร์ท สถานที่พักผ่อนตกปลาท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของท้องทุ่ง

IMG_0471

IMG_0523

IMG_0693

 

IMG_0444

 

แต่การมาท่องเที่ยวรีสอร์ทที่มีพื้นที่กว้างใหญ่อย่างนี้ ไปไหนมาไหนย้ายจุดย้ายที่กันทีดูจะไม่สะดวกนักกับรถยนต์คันใหญ่ๆ หรือจะเดินไปก็คงหลายเหนื่อย อีกทั้งยังมีสัมภาระข้าวของ ทริปนี้เราเลยมีของทุ่นแรงมา ด้วยการเอารถเอทีวีบรรทุกท้ายกระบะมาด้วย เจ้าตัวลุยสี่ล้อในทริปนี้คือ FUSE T-BEST 250 เอทีวีพันธุ์แกร่งสายเลือดไทยนั่นเอง ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ใส่กระบะท้ายบรรทุกเดินทางได้ ขับขี่ง่ายด้วยวีธีการคล้ายรถจักรยานยนต์ ยกเว้นคันเร่งที่เป็นแบบใช้นิ้วโป้งโยกเอาเท่านั้น ที่เหลือทั้งเกียร์และคลัทช์ รวมถึงเบรกไม่ต่างจากรถมอเตอร์ไซค์ แถมยังง่ายกว่าเพราะเป็นรถสี่ล้อไม่ล้มง่ายเหมือนสองล้อไหนๆ มาถึงบ่อปลาก็ต้องมาลองตกปลากันหน่อย หลังจากที่ลองโยนเบ็ดอยู่ไม่นาน ดูเหมือนจะไม่มีดวงทางล่าเหยื่อใต้ผิวน้ำ จึงขอปลีกตัวหาความสุขในแนวถนัด ด้วยการขับขี่รถเอทีวีคันเก่งท่องเที่ยวชมบรรยากาศรอบๆ รีสอร์ทสักหน่อย เจ้า FUSE T-BEST 250 ขี่ง่ายมากๆ บิดกุญแจแล้วตาร์ทเครื่องด้วยระบบสตาร์ทไฟฟ้า อ้อ…อย่าลืมว่าต้องบีบคลัทช์ด้วยทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย ตำแหน่งเกียร์ของ FUSE T-BEST 250 ออกจะแตกต่างไปสักนิด เพราะนอกจากเกียร์เดินหน้า 4 ระดับแล้ว รถสไตล์นี้จะมีเกียร์ถอยหลังมาให้ใช้อำนวยความสะดวกในการกลับรถ การเหยียบเกียร์ด้านหน้าหนึ่งครั้งจะเป็นตำแหน่งเกียร์ถอยหลัง ส่วนตำแหน่งเกียร์เดินหน้าจะต้องงัดขึ้น (หรือกดด้านหลัง) ทั้งหมด เอาล่ะเท่านี้เราก็ออกไปโลดแล่นกันได้แล้วการบังคับควบคุมก็ไม่ยาก เส้นทางภายในรีสอร์ทนั้นจะเป็นถนนกว้างๆ ขับขี่ได้เพลินๆ เส้นทางไม่ซับซ้อนวนรอบบ่อปลาแล้วก็กลับมาที่บ้านพัก ดูทุ่งนาเขียวขจี ดูน้ำเต็มทุ่งก็เพลินตาดี ขับเล่นสักพักเริ่มคุ้นมือกับการเร่งเครื่องด้วยนิ้วโป้งข้างขวา อึม…ไปไกลอีกหน่อยดีกว่า ว่าแล้วก็เลี้ยวแว้บออกจากประตูรีสอร์ตไปสู่ถนนลูกรังด้านนอกที่กว้างใหญ่กว่าเดิม ได้ลองเดินคันเร่งยาวๆ ในช่วงเกียร์ 2 ต่อเกียร์ 3 โอ้ว…รอบกลางต่อปลายไม่ธรรมดาเลย ทำความเร็วได้สนุกมากๆ โดยที่การทรงตัวก็ยังคงนิ่งอยู่ ขี่ไปมองไปข้างหน้า เอ๊ะ!…อะไรสะท้อนแสงเงาๆ บนทางจนต้องเบรกเอี๊ยด…น้ำท่วมทางนี่นา ดีที่ระบบดิสก์เบรกทำงานได้ตามสั่งดังใจจึงสามารถหยุดรถได้ก่อนถึงจุดน้ำท่วมขัง มองๆ ดูแล้วท่วมไม่มากเท่าไรน่าจะลุยได้มั้ง? อยากรู้ต้องลอง ว่าแล้วก็เข้าเกียร์ 1 ลุยข้ามไปช้าๆ เครื่องยนต์ทำงานต่อเนื่องไม่มีสะดุดแม้ว่าน้ำจะกระเด็นไปโดนชิ้นส่วนบ้างก็ตาม หลังจากผ่านการลุยน้ำไปได้ก็รู้สึกมั่นใจที่จะไปกันได้ต่อเท่าที่ต้องการ เป็นการขับขี่ที่สนุกมากอีกครั้งหนึ่งจริงๆ

คันเร่งที่มือขวาคือสิ่งแรกๆ ที่ต้องทำความคุ้นเคย
คันเร่งที่มือขวาคือสิ่งแรกๆ ที่ต้องทำความคุ้นเคย
พักลมไฟฟ้าขนาดใหญ่ไม่ต้องกลัวร้อน
พักลมไฟฟ้าขนาดใหญ่ไม่ต้องกลัวร้อน
ระบบขับเคลื่อนที่ไว้ใจได้ทุกสภาวะ
ระบบขับเคลื่อนที่ไว้ใจได้ทุกสภาวะ
ยางดอกหนาที่สามารถลุยได้ทุกที่
ยางดอกหนาที่สามารถลุยได้ทุกที่
ดิสก์เบรกทรงประสิทธิภาพจริงๆ
ดิสก์เบรกทรงประสิทธิภาพจริงๆ
แรคท้ายสารพัดประโยชน์
แรคท้ายสารพัดประโยชน์

เที่ยวชมทิวทัศน์จนทั่วแล้ว ก็กลับมายังที่พัก ปรากฏว่าพรานเบ็ดของเราได้จัดการย่างปลาอร่อยๆ เอาไว้เรียบร้อย อิอิ สบายเรา มาเที่ยวฟิชชิ่งกับคนตกปลาเก่งๆ ก็ดีอย่างนี้เอง เป็นอีกหนึ่งสีสันของกิจกรรมยามว่างกับรถในสไตล์เอทีวี ซึ่งยังมีอีกหลากหลายรูปแบบของการใช้งานที่เราสามารถไปได้ทุกที่กับเอทีวีคันเก่ง สำหรับทริปนี้ต้องขอขอบคุณ คุณจรวย ถนอมศักดิ์ พี่จ๋าแห่งเจ เอส ฟิชชิ่ง ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการถ่ายทำเป็นอย่างดีสนใจโทรสอบถามได้ที่ 08-1977-5953 แล้วพบกันใหม่คร้าบ

คุณจรวย ถนอมศักดิ์ (พี่จ๋า) ให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง
คุณจรวย ถนอมศักดิ์ (พี่จ๋า) ให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง

 

ยามาฮ่าแจกหนักผ่านแคมเปญใหญ่ “อะไหล่แท้ แจกจริง ปี 4” สำหรับร้านซ่อมอิสระ รางวัลรวมมูลค่ากว่า 5 แสนบาท

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด จัดแคมเปญ “อะไหล่แท้ แจกจริง ปี 4” เพื่อเป็นการจูงใจ และกระตุ้นให้ร้านซ่อมอิสระทั่วประเทศเห็นถึงความสำคัญในการเลือกใช้อะไหล่แท้ในการให้บริการซ่อมรถจักรยานยนต์กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ให้ได้ผลิตภัณฑ์ของแท้ และมีคุณภาพ สำหรับกิจกรรม “อะไหล่แท้ แจกจริง ปี 4” เริ่มแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2559 จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 โดยการจับรางวัลจะมีขึ้น 2 ครั้ง จับรางวัลครั้งที่ 1 ในวันที่ 2 กันยายน 2559 ประกาศผลวันที่ 20 กันยายน 2559 จับรางวัลครั้งที่ 2 ในวันที่ 2 ธันวาคม 2559 ประกาศผลวันที่ 20 ธันวาคม 2559 ประกาศผลทาง www.yamaha-motor.co.th

กติกาการร่วมลุ้นโชค

แคมเปญนี้เฉพาะร้านช่างซ่อมอิสระเท่านั้นที่มีสิทธิ์ลุ้นโชค เมื่อซื้ออะไหล่แท้ยามาฮ่า เขียน   ชื่อร้านค้า ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และชื่อร้านที่ซื้อผลิตภัณฑ์ พร้อมติดสติ๊กเกอร์ YAMAHA Genuine Parts & Accessories ลงบนไปรษณียบัตร และส่งมาที่ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เลขที่ 64 หมู่ 1 ถ.บางนา-ตราด กม.21 ต.ศีรษะจรเข้ใหญ่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ 10540 และวงเล็บมุมซองว่า (อะไหล่แท้ ปี 4)
รางวัล 1

รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า Spark 115i จำนวน 2 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 41,000 บาท รวมเป็นจำนวนเงิน 82,000 บาท

รางวัลที่ 2

สร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง จำนวน 20 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 12,000 บาท รวมเป็นจำนวนเงิน 240,000 บาท

รางวัลที่ 3

ชุดเคมีภัณฑ์สำหรับบำรุงรักษา จำนวน 600 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 390 บาท รวมเป็นจำนวนเงิน 234,000 บาท

 

 

ศึกนินจาสลาตัน ระหว่างหนึ่งที่เพิ่งมา กับ หนึ่งที่ต้องลาจากไป Ninja 300 VS 250

คลื่นลูกเก่าต้องไปเมื่อคลื่นลูกใหม่โถมเข้ามา สัจธรรมของธรรมชาติใช้ได้กับทุกเรื่อง แม้แต่กับรถจักรยานยนต์ที่วางจำหน่ายในท้องตลาด แม้จะสิ้นสุดการจำหน่ายแต่คนที่ซื้อไปก็ยังคงใช้อยู่ เรื่องคันๆ ของทีมงานไรดิ้งซึ่งอยากจะรู้ว่า เจ้าโมเดลใหม่ Ninja 300 ที่วางจำหน่ายแทนที่ Ninja 250 นั้น มันจะเหนือชั้นกว่ากันมากแค่ไหนถึงขนาดกล้าถอดนินจาผู้พี่ออกจากโชว์รูม สำหรับเจ้าของ Ninja 250 บทความในคอลัมน์นี้อาจจะเป็นการปลอบใจให้คลายช้ำหรือตอกย้ำซ้ำยิ่งกว่าเดิม ขอบคุณชุดนักทดสอบจากโปรช็อพ แพดด็อค สนามแข่งรถไทยแลนด์เซอร์กิต และ บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับรถทดสอบทั้งสองคัน _MG_3846

 

BRAKE TEST
พื้นฐานของระบบเบรกทั้งสองรุ่นนั้น เป็นแบบดิสก์เบรกเดี่ยว คาลิเปอร์ ลูกสูบคู่ จานหน้า 290 มม. จานหลัง 220 มม. เหมือนกัน ส่วนที่ นินจา 300 ได้รับการติดตั้งเพิ่มเติมก็คือระบบ ABS ที่ช่วยป้องกันล้อล็อคเพียงอย่างเดียวเท่านั้นการทดสอบระบบเบรกของนินจาทั้งสองรุ่นนั้น เราได้จัดการทดสอบด้วยความเร็ว 60 กม./ชม. แล้วเบรกเต็มที่ทั้งหน้าและหลัง ระยะเบรกที่ทำได้นั้นสะท้อนออกมาได้อย่างชัดเจนว่า การติดตั้งระบบ ABS มาให้ในนินจา 300 ช่วยให้การเบรกทุกครั้งระยะเบรกสั้นกว่านินจา 250 ได้ค่าเฉลี่ยออกมาดังตารางสรุป ซึ่งนอกจากระยะเบรกที่เราได้ข้อมูลมาแล้ว การทำงานของเบรกแบบที่ ไม่ได้ติดตั้ง ABS ยังส่งผลให้การควบคุมรถยากขึ้นจากอาการของรถที่มีทั้งการล็อคของล้อ และการสับของกันสะเทือน ซึ่งแทบจะไม่เกิดขึ้นเลยกับระบบเบรก ABS

IMG_4564

IMG_4570

 

รุ่น ระยะเบรก
Ninja 250 11.50 เมตร
Ninja 300 7.70 เมตร
ผลต่าง Ninja 300 เบรกสั้นกว่า
Ninja 250 = 3.80 เมตร (ค่าเฉลี่ย)

IMG_4517

ASIST & SLIPPER CLUTCH TEST
มันคือระบบคลัทช์ที่ช่วยลดแรงกระชากของเครื่องยนต์เมื่อเปลี่ยนสู่เกียร์ต่ำลง เป็นโจทย์ที่ยากต่อการเปรียบเทียบให้เห็นเป็นตัวเลขจริงๆ และในการทดสอบครั้งแรกของนินจา 300 ที่สนามโบนันซ่านั้น สภาพอากาศก็ไม่เปิดโอกาสให้ได้ทดลองระบบ แอสซิส แอนด์ สลิปเปอร์คลัทช์ สักเท่าไรเนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจนแทร็คนองไปด้วยน้ำ ดังนั้นวันนี้เราจึงมาทดสอบด้วยการจับความรู้สึกกันแบบเน้นๆ ที่โค้ง 4 และโค้ง 12 ซึ่งเป็นโค้งแคบและต้องลดลงมาถึงเกียร์ 2 มันไม่ได้รับรู้แต่คนที่ขับขี่เท่านั้น คนที่ยืนดูอยู่ก็จะรับรู้ได้จากอาการกระตุกของรถ รวมทั้งเสียงเอี๊ยดของยางที่ฟ้องว่ามันถูกแรงฉุดจากเกียร์ดึงรอบอย่างกะทันหัน ท่านสามารถชมภาพเคลื่อนไหวผ่านวิดีโอคลิปที่เรานำเสนอได้อย่างชัดเจน ผลสรุปเป็นตัวหนังสือคือ Ninja 250 เมื่อลดเกียร์แล้วปล่อยคลัทช์จะเกิดแรงฉุดจากเอ็นจิ้นเบรกอย่างหนัก จนทำให้ยางหลังเกิดเสียดสีกับพื้นดังเอี๊ยดอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันยังทำให้โช้คสแตนดาร์ดเกิดอาการสับจนเสี่ยงต่อการทรงตัว ข้อดีคือมันช่วยลดภาระของการใช้เบรกลงได้ แต่ข้อด้อยก็คือเราต้องมีสมาธิในการควบคุมรถมากขึ้น ต้องรอให้รถนิ่งเสียก่อนจึงจะเอียงรถเข้าโค้งได้อย่างสบายใจ หากจะแก้ไขอาการดังกล่าวสามารถทำได้โดยเทคนิคการขับขี่ที่ต้องฝึกฝนNinja 300 เมื่อลดเกียร์แล้วปล่อยคลัทช์จะเกิดแรงฉุดจากเครื่องยนต์สั้นๆ ได้ยินเสียงเอี๊ยดของยางเสียดสีกับพื้นเพียงสั้นๆ หลังจากนั้นจะเป็นการหน่วงที่ไม่รุนแรงของเกียร์ที่ต่ำลง รถยังคงมีความเร็วในการไหลอย่างต่อเนื่อง การทรงตัวของรถไม่เสีย โช้คไม่สับ ข้อดีคือสามารถเอียงรถเข้าโค้งได้ไวกว่า ข้อด้อยคือต้องทำความคุ้นเคยกันเล็กน้อย แรกๆ มี “เหวอ” บ้างเหมือนกัน

_MG_3760

_MG_3681

 

CIRCUIT TEST
การทดสอบกำลังของเครื่องยนต์ที่เห็นเป็นตัวเลขชัดเจนที่สุดคือการนำรถไปขึ้นเครื่องวัดแรงม้า ตรงนั้นทางคาวาซากิแจ้งมาชัดเจนแล้วว่า นินจา 300 นั้นมีแรงม้ามากกว่า นินจา 250 ถึง 8 แรงม้า เครื่องยนต์ที่ยังคงเค้าโครงภายนอกของเดิมเอาไว้ แต่ภายในนั้นเปลี่ยนยกไส้กันก็ว่าได้ ลำพังเอาแค่ความจุกระบอกสูบที่พิ่มขึ้นมาก็นำพาความได้เปรียบมามากมายแล้ว แต่นี่เล่นปรับปรุงกันใหม่หมดทั้งระบบหัวฉีด กล่องควบคุม อิเล็คทรอนิกส์ สลิปเปอร์คลัทช์ ภายนอกก็ให้เบรกเอบีเอสที่ทำงานได้ละเอียดกว่าเข้ามาอีก ความสงสัยของทีมงานเราก็คือ อยากจะรู้ว่าทั้งหมดของเทคโนโลยีที่มีอยู่ใน นินจา 300 เมื่อลงสนามดวลกันแบบรอบต่อรอบนั้นมันจะทำให้เกิดความแตกต่างทางด้านเวลากับ นินจา 250 มากน้อยขนาดไหน เราจึงได้ทดสอบด้วยการจับเวลาต่อรอบเปรียบเทียบระหว่างรถทั้งสองรุ่น นำเอาเวลาดีที่สุด ในการขับขี่รอบสนามแข่งรถ ไทยแลนด์เซอร์กิต ทำให้ได้ข้อมูลในการอ้างอิงดังนี้

รุ่น เวลาต่อรอบ (ดีที่สุด)
Ninja 250 1:46.26 นาที
Ninja 300 1:43.27 นาที
ผลต่าง Ninja 300 เร็วกว่า Ninja 250 = 2.99 วินาที / รอบ

_MG_3692

_MG_3735

_MG_3753

_MG_3803

_MG_3824

 

IMG_0005

ความเห็นนักทดสอบ
เขมรัฐ สุธรรมวาท
“ทั้งสองคันเป็นรถที่มีพื้นฐานมิติเดียวกัน น้ำหนักต่างกันเล็กน้อยครับแค่ 2 กก. แต่การตอบสนองของทุกอย่าง ทั้งการเร่งเครื่องยนต์ เบรก และระบบสลิปเปอร์คลัทช์ มันทำให้การขับขี่ต่างกันมาก…เน้นว่า “มาก” ครับเครื่องยนต์ของนินจา 300 นั้นอัตราเร่งจัดกว่า 250 มาก มากจนหลายจุดของสนามสามารถขี่ได้ด้วยเกียร์ที่สูงกว่า 1 เกียร์ สลิปเปอร์คลัทช์มันช่วยให้การเข้าโค้งราบรื่น ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ นินจา 250 ต้องตั้งลำให้ตรงไว้เพื่อจัดการกับเอ็นจิ้นเบรกแล้วทรงตัวให้นิ่งเสียก่อนการเอียงรถจึงจะเริ่มขึ้น แต่กับนินจา 300 รถทรงตัวได้นิ่ง มีช่วงเวลาของเอ็นจิ้นเบรกมารบกวน ไม่ใช่ไม่มีเลย แต่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาที่สั้นมากๆ จนแทบไม่มีผลครับ ความเร็วที่ทำได้ปลายทางตรงในเกียร์ 5 นินจา 300 ได้ถึง 146 กม./ชม. เร็วกว่านินจา 250 ที่ทำได้ 136 กม./ชม.เบรกเอบีเอสเมื่อทำงานร่วมกับสลิปเปอร์คลัทช์ มันกลายเป็นความราบรื่นที่ลงตัว ในนินจา 250 แม้ว่าเบรกจะไม่มีเอบีเอสและเป็นคลัทช์แบบธรรมดา น่าจะช่วยชะลอความเร็วของรถก่อนเข้าโค้งได้มากกว่า ใช่ครับ…แต่สิ่งที่ไม่ต้องการแถมมาด้วยคืออาการของรถที่ทื่อเพราะความจริงแล้วก็ยังคงต้องใช้เบรกหนักเหมือนเดิมก่อนจะพับรถเลี้ยวลงไป ขณะที่ผมรู้สึกสบายกว่าและเลี้ยวได้ง่าย ความเร็วในโค้งดีกว่าเมื่อขี่นินจา 300 อาจจะใจร้ายไปนิด แต่ผมแนะนำว่าคนที่มีนินจา 250 อยู่แล้ว อย่าได้สนใจหรือเผลอไปลองขี่เจ้านินจา 300 เลยครับ มันทำใจลำบาก”

IMG_0001

ความเห็นนักทดสอบ
จตุรงค์ หมื่นทิพย์
“ต้องบอกเลยว่า หลากรสต่างอารมณ์ สำหรับคู่แฝด นินจา 250 และ 300 รูปร่างหน้าตาถอดแบบกันมาเด๊ะๆ แทบดูไม่ออก แต่สิ่งที่สังเกตชัดเจนน่าจะเป็นที่ เบรก ABS ซึ่งมีส่วนช่วยให้การสั่งหยุดได้มั่นใจมากในความเร็วสูง จากการขับขี่ในสนามแข่ง ซึ่งถ้าใช้งานบนท้องถนนคงไม่ต้องพูดถึงกับประสิทธิภาพว่าจะเพิ่มความปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น แต่ในตัว 250 ไม่มี ทำให้การกดเบรกแต่ละครั้งจะหยุดได้ไกลกว่า และมีอาการล้อล็อคแต่ก็ไม่ถึงกับมีอาการเสียการทรงตัว การอัพเกรดเครื่องยนต์จาก 250 ขึ้นมาเป็น 300 โดยใช้ฐานเครื่องเดิม ให้อารมณ์ที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดในเรื่องของแรงบิดต่อรอบ 250 จะไล่รอบขึ้นมาแบบนิ่มๆ ควบคุมง่าย และจะพุ่งช่วงปลายๆ ที่ 7,000 รอบ แต่สำหรับ 300 รอบกวาดขึ้นเร็ว เรียกใช้กำลังได้ง่ายกว่าเมื่อกระแทกคันเร่งในแต่ละรอบ และโดดเด่นด้วยระบบสลิปเปอร์คลัทช์ เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำในความเร็วสูง ลดอาการกระชากและล้อหลังล็อค ทำให้การเชนเกียร์กะทันหันรถไม่เสียการทรงตัวแม้อยู่ในโค้ง ซึ่งในตัว 250 เป็นระบบคลัทช์แบบธรรมดาที่ต้องใช้เอ็นจิ้นเบรกช่วยเยอะ สำหรับความคล่องตัวและมิติท่านั่งของตัวรถไม่แตกต่าง นั่นเป็น 3 จุดหลักๆ ที่ 300 ได้พัฒนาขึ้นเพื่อการขับขี่ที่สนุกมากขึ้น ทำให้เจ้า 250 ต้องกลายเป็นตำนานโดยปริยาย”

ซูซูกิ…ร่วมเชียร์ไทย สู่เหรียญทองโอลิมปิก พร้อมแจกรางวัลใหญ่อีก!!!

บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด และ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ หนังสือพิมพ์สยามกีฬา จัดโครงการ “สยามกีฬา เชียร์ไทยสู้ศึกโอลิมปิก” เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่าน ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดโครงการดังกล่าว เพื่อสร้างสีสันและเป็นกำลังใจให้กับทัพนักกีฬาไทยในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 31 ที่จะจัดขึ้น ณ กรุงริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ณ สตูดิโอใหญ่ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด

โดยในงานนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.ไชยยันต์ สาวนะชัย กรรมการบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด ร่วมถ่ายภาพในงานแถลงข่าวร่วมเปิดโครงการ โดยกิจกรรมในครั้งนี้ ซูซูกิ ได้แจกรถจักรยานยนต์ ซูซูกิ เรดเดอร์ 150 จำนวน 5 คัน และรถยนต์ ซูซูกิ สวิฟท์ ไซ จำนวน 1 คัน พร้อมของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อให้ลูกค้าของซูซูกิ และผู้อ่าน นสพ.สยามกีฬา และ นสพ.มวยสยาม ได้ร่วมส่งข้อความเชียร์ และให้กำลังใจนักกีฬาไทย พร้อมร่วมสนุก และลุ้นรับโชค

ด้วยวิธีการร่วมสนุกง่ายๆ เพียงเขียนชื่อ, ที่อยู่, เบอร์ติดต่อ พร้อมข้อความ เชียร์ หรือให้กำลังใจนักกีฬาไทย โดยส่งผ่าน 3 ช่องทาง ดังนี้

  1. เพียงท่านไปทดลองขับรถยนต์ ซูซูกิ ที่โชว์รูม ซูซูกิ ทั่วประเทศ สามารถรับคูปองทันที 1 ใบ พิเศษสุดสำหรับท่านลูกค้าที่จองรถยนต์ ซูซูกิ รุ่นใดก็ได้ รับคูปองทันที 10 ใบ เขียนชื่อ-ที่อยู่ พร้อมข้อความ “เชียร์ หรือ ให้กำลังใจนักกีฬาไทย” ส่งมาที่ ตู้ปณ.39 ปณจ.จรเข้บัว กรุงเทพฯ 10230 วงเล็บมุมซอง (ฝ่ายโฆษณาสยามกีฬา)
  2. ตัดคูปองใน นสพ.สยามกีฬา และ นสพ.มวยสยาม เขียนชื่อ-ที่อยู่ พร้อมข้อความ “เชียร์ หรือ ให้กำลังใจนักกีฬาไทย” ส่งมาที่ ตู้ปณ.39 ปณจ.จรเข้บัว กรุงเทพฯ 10230 วงเล็บมุมซอง (ฝ่ายโฆษณาสยามกีฬา)
  3. ส่ง SMS โดยพิมพ์ OL ตามด้วยข้อความ “เชียร์ หรือ ให้กำลังใจนักกีฬาไทย” ส่งมาที่หมายเลข 4890011 (ครั้งละ 3 บาท)

ทั้ง 3 ช่องทาง เริ่มส่งได้ตั้งแต่วันที่ 5 – 21 สิงหาคม 2559 โดยจับรางวัลในวันที่ 29 สิงหาคม 2559 และประกาศรายชื่อผู้โชคดีทาง นสพ.สยามกีฬารายวัน ฉบับวันที่ 9 กันยายน 2559

105

 

Gazi Test รีดคันเร่ง มั่นใจได้ทุกโค้ง เมื่อลงสู่สนามแข่ง

การคอนโทรลที่มั่นคงในการขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 ล้อ ต้องเน้นและใส่ใจในรายละเอียดเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าผลิตภัณฑ์โช้คที่ติดมากกับตัวรถจะให้คุณภาพที่ดี แต่ว่าเมื่อการขับขี่ที่มีความเร็วสูงขึ้นก็ต้องให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้น โช้คอัพ คือส่วนสำคัญหลักของการควบคุมรถให้อยู่บนเส้นทาง ต้องรองรับน้ำหนักและถ่ายเทได้อย่างนิ่มนวล Gazi แบรนด์ดังเป็นที่รู้จักกันดีของ โช้คอัพ ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อการขับขี่ โดยนำข้อมูลจากสนามแข่งเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับรถจักรยานยนต์แต่ละรุ่นที่ออกมาสู่ตลาดอย่างเต็มประสิทธิภาพ

IMG_4842

ล่าสุดกับการพัฒนาระบบซับเพนชั่นเพื่อออกมารองรับรถจักรยานยนต์จากค่ายยุโรป KTM DUKE200 รถจักรยานยนต์สไตล์เน็คเก็ด โดยซับพอร์ทให้กับทีมแข่ง เลยมาเชียงคาน EPAP SHOP ใช้ในการลงแข่งรายการ Super Duke โดยนักแข่ง อำนวยชัย นันทนา ที่คว้าแชมป์มาแล้วหลายสนามด้วยคุณภาพที่อัดแน่นมาอย่างเต็มเปี่ยมกับรหัสแรง Gazi ADVANCE KTM DUKE200 โช้คอัพทำงานแบบ 2 ระบบ ทั้งน้ำมันและแก๊ส โดยที่มีแท้งค์แก๊สบิ้วท์อินติดมากับตัวโช้ค ออกแบบได้อย่างโดดเด่น เรียกได้ว่าออกมาสำหรับ Duke โดยเฉพาะ และถูกปรับแต่งเพื่อลงสนามแข่งด้วยสมรรถนะที่เหนือระดับ สามารถปรับเซ็ท รีบาวด์ดัมฟ์ปิ้ง และ รีบาวด์คอมเพรสชั่น เหมาะกับการใช้งานได้หลากลายรูปแบบ หลังจากที่ได้ลงขับขี่แบบเต็มๆ ในสนามแข่งเพื่อหาข้อมูลต่างๆ การทำงานของโช้คอัพ ADVANCE KTM DUKE200 ที่ออกมาซับพอร์ทรุ่นนี้โดยเฉพาะ รู้สึกถึงความแตกต่างกับโช้คอัพเดิมๆ ติดรถอย่างชัดเจน ด้วยการเซ็ทที่ปรับได้หลายระดับให้เหมาะกับสภาพของสนาม

IMG_5195

IMG_5154

 

 

 

 

กำลังของเครื่องยนต์ที่ส่งผ่านออกมาในช่วงของการเดินคันเร่งออกจากโค้ง ช่วงท้ายของตัวรถจะถูกกดด้วยแรงม้าจนตัวโช้คยุบและคลายออกช้าๆ ทำให้ไม่รู้สึกถึงอาการส่ายหรือสะบัดสามารถควบคุมรถออกจากโค้งได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีเอฟเฟคให้ตัวรถเสียการทรงตัว การพลิกรถ ซ้าย/ชวา ก็ทำได้อย่างคล่องแคล่วต่อเนื่องไม่ย้วย

IMG510

IMG_4892

IMG_4941

 

ด้วยคุณภาพที่อัดแน่นมาอย่างเต็มพิกัด ทำให้มั่นใจในการใช้คันเร่งเติมออกจากโค้งด้วยความเร็ว โช้คอัพตัวนี้สามารถใช้ได้ทั้งในสนามแข่งและการขับขี่ทั่วไป เพียงปรับเซ็ทตามให้เหมาะสม เพิ่มความสนุกสนานและความปลอดภัยในการขับขี่มากยิ่งขึ้น

IMG_0373

SRvintage Scramble

อีกหนึ่งสไตล์แต่งแบบเรโทรที่ถ่ายทอดรูปแบบความเก๋าของ YAMAHA SR “BIG SINGLE” ที่ยังคงเป็นอมตะด้วยเสน่ห์ของการดีไซน์ตัวรถและสมรรถนะขอเครื่องยนต์แบบสูบเดี่ยวรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปกับดีไซน์ในแบบ VINTAGE SCRAMBLE โดยการปรับแต่งจาก RIDE and PRIDE ที่นำเสนอรูปแบบการแต่งในแนวนี้ด้วยการปรับเปลี่ยนถังน้ำมันด้วยการเลือกใช้ถังแต่งแนวคาเฟ่ จากนั้นทำการเปลี่ยนเอาชุดเบาะงาน CUSTOM สวมใส่แทนที่ของเก่า ชุดบังโคลนหน้าเปลี่ยนใช้เป็นบังโคลนแต่งพร้อมด้วยตำแหน่งติดตั้งที่จัดให้ตัวบังโคลนอยู่ใต้แผงคอ บังโคลนหลังเปลี่ยนใส่เป็นชุดบังโคลนแต่ง ไฟหน้าทรงกลมปรับเปลี่ยนเอาเลนส์ CVE และเพิ่มตะแกรงไฟหน้ามาติดตั้ง พร้อมชุดขายึดไฟหน้าที่ครอบเข้าที่แกนโช้ค ไฟเลี้ยวปรับเปลี่ยนเอาไฟแต่งมาติดตั้ง รวมถึงชุดไฟท้ายที่เป็นของ WM สีปรับแต่งเป็นสีเขียวพร้อมด้วยการคาดลายเส้นเป็นสีทองเพื่อถ่ายทอดความคลาสสิค เติมดีไซน์ด้วยชุดกระเป๋าหนังที่แขวนเอาไว้ทางด้านท้ายของตัวรถ เรือนไมล์คู่แบบเข็มที่แสดงค่าความเร็วและรอบการทำงานของเครื่องยนต์ ชุดแฮนด์สไตล์เดฟสวิตช์ไฟและประกับคันเร่งใช้เป็นของ SR ตำแหน่งพักเท้าเปลี่ยนใส่เป็นพักเท้าอลูมินัม OVER RACINGSR VINTAGE SCRAMBLE P2-3เครื่องยนต์แบบสูบเดียว SOHC 4 วาล์ว ปรับเพิ่มปริมาตรกระบอกสูบเพื่อให้เป็น 500 ซีซี ด้วยการเปลี่ยนลูกสูบและเสื้อสูบ ระบบระบายด้วยอากาศเพิ่มเอาชุดออยคูลเลอร์อลูมินัมของ KENDO ที่รัดกับตัวเฟรมด้วยขายึดอลูมินัม ควบคุมการจ่ายน้ำมันด้วยคาร์บูเรเตอร์แบบแฟลตสไลด์ของ KEIHIN FCR39 เสริมกำลังความแรงด้วยชุดท่อสแตนเลส MEGAPHONE ระบบกันสะเทือนที่เลือกใช้เป็นโช้คอัพแบบเทเลสโคปิกของ SR โดยมีตัวครอบโช้ค มาติดตั้ง เพื่อเข้ากับคอนเซ็ปต์การปรับแต่งแนว VINTAGE SCRAMBLE สวิงอาร์มหลังแบบโลหะรองรับการทำงานด้วยโช้คอัพคู่ของ OHLINS มารองรับแรงสะเทือนด้วยฟังก์ชั่นการปรับพรีโหลดสปริงได้ ระบบเบรกหน้ากับชุดดิสก์เบรกแบบเดี่ยว ควบคุมการทำงานด้วยชุดปั๊มลอย brembo ขนาด 16 มม. มือเบรกปรับ 4 ระดับ จานเบรกหน้าของ XJR 400 คาลิเปอร์หน้าใช้ brembo ขนาด 4 ลูกสูบ สายเบรกหน้าแทนที่ด้วยสายถักของ EARL’S ระบบเบรกหลังแบบดรัมเบรก ล้อหน้า-หลัง เลือกใช้เป็นล้อแม็กของ SR ด้วยวงล้อขนาด 18 นิ้ว ยางหน้า-หลัง ดอกยางที่เข้ากับสไตล์การปรับแต่งแนว VINTAGE SCRAMBLE

DSC_3934

DSC_3933

DSC_3920

DSC_3911

DSC_3890

DSC_3900

DSC_3915

อีกหนึ่งของไอเดียการแต่งรถที่ไร้ขีดจำกัด ผสมผสานด้วยอุปกรณ์ของแต่งเสริมความโดดเด่นทำให้รถยุคเก่ายังคงมีเสน่ห์ตลอดกาล

 

 

ยามาฮ่าพาทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อะคาเดมี เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ของยามาฮ่า ประเทศญี่ปุ่น

นายวราธร เจนจรัสสกุล (แถว 3 คนที่ 4 จากซ้าย) ผู้จัดการส่วนกิจกรรมการตลาด และกิจกรรมสนับสนุน บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด นำทัพนักกีฬาเยาวชนจากประเทศไทย “ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อะคาเดมี” เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ของยามาฮ่า ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองอิวาตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีนายพงศธร เอื้อมงคลชัย (แถว 3 คนที่ 4 จากขวา) General Manager of Global Human Resources Development Division บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมให้การต้อนรับ ณ บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเร็วๆ นี้