Honda BigWing จัด BigTrip ส่งท้ายปี ASIAN XPERIENCE THE PRIVILEGE สัมผัสมรดกโลก “ปราสาทหินวัดภู ปากเซ”

บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์ในประเทศไทย เปิดประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับกิจกรรม ASIAN XPERIENCE THE PRIVILEGE สัมผัสมรดกโลก “ปราสาทหินวัดพู ปากเซ” ทริปการเดินทางสุดตื่นเต้นที่รวมเหล่าไบค์เกอร์มากกว่า 100 ชีวิต ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์กว่า 50 คัน ผ่านเส้นทางสายธรรมชาติและสัมผัสกับวัฒนธรรมที่สวยงามของสาธารณประชาธิปไตยประชาชนลาว อาทิ ปราสาทหินวัดพู โบราณสถานที่เป็นมรดกโลกแห่งที่2ของประเทศลาวและถือว่าเป็นปราสาทหินที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในประเทศ ,  น้ำตกหลี่ผี น้ำตกที่ไหลตกลงมาด้วยกำลังแรง เกิดเป็นละอองสีขาว สวยงามตื่นตาแก่ผู้พบเห็น  โดยการเดินทางในทริปนี้มีจุดหมายอยู่ที่เมืองปากเซ ตอนใต้ของลาว ที่ถือว่าเป็นดินแดนอีกแห่งหนึ่งที่หลายคนอยากเข้าไปสัมผัส เส้นทางที่ขับผ่านทั้ง2ข้างทางเป็นการเปิดประสบการณ์การขับขี่ที่สัมผัสได้ถึงเรื่องราวที่เป็นวัฒนธรรมที่เก่าแก่และสถานที่ที่เป็นประวัติศาสตร์ของประเทศลาวที่ยังรักษาไว้อย่างดีจนถึงปัจจุบัน ซึ่งทริปนี้ยังถือเป็นการต่อยอดจากกิจกรรมการขับขี่ท่องเที่ยวภายในประเทศและต่างประเทศที่มีอย่างต่อเนื่องให้กับลูกค้าฮอนด้าบิ๊กไบค์อีกด้วย

ทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จัดขึ้นในครั้งนี้ไบค์เกอร์ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์รวมระยะทางทั้งสิ้นมากกว่า 700 กิโลเมตร เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 3 วัน 2 คืน ตั้งแต่วันที่ 9 – 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา สำหรับภาพบรรยากาศและรายละเอียดกิจกรรมในครั้งต่อไป สามารถติดตามได้ที่เว็ปไซต์ www.hondabigbike.com และ www.facebook.com/hondabigbikeTH

“เอ.พี.ฮอนด้า” จุดพลังฝันครั้งยิ่งใหญ่ “ความเท่ที่แท้จริง มาจากใจที่รู้จักให้” ชวนคนไทยร่วมบริจาคโลหิต ต่อเนื่องกว่า 14 ปี รวม 176 ล้านซีซี

บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด  ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ร่วมกับสภากาชาดไทยและโรงพยาบาลทั่วประเทศ พร้อมทั้งร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั้ง 77 จังหวัด จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 14 ปี ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2547 – 2560 โดยปัจจุบันมียอดโลหิตที่ได้รับการบริจาคสะสมแล้วกว่า 176 ล้านซีซี กิจกรรมบริจาคโลหิตเป็นหนึ่งในโครงการ เอ.พี.ฮอนด้า จุดพลังฝัน ชวนประชาชนชาวไทยร่วมจุดพลังฝันสู่การเป็น คนดี มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักการให้ บริษัท ฯ จึงอาสาเป็นหน่วยงานที่จัดกิจกรรมบริจาคโลหิต เพื่อส่งมอบโลหิตให้ได้ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ ผ่านร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศที่มีมากกว่า 1,000 สาขา ซึ่งจัดมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 หรือกว่า 14 ปี ซึ่งคอนเซ็ปต์ในปี 2560 นี้คือ ความเท่ที่แท้จริง      มาจากใจที่รู้จักให้”  โดยได้รับเกียรติจาก ณอน บูรณะหิรัญ นักคิดและนักปรัชญารุ่นใหม่ มาร่วมเผยพลังความเท่ที่แท้จริงภายในงาน

ทั้งนี้ เอ.พี.ฮอนด้า จะจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตทั่วไทย ทั้งหมด 3 ครั้ง คือในเดือน ส.ค. 60, ธ.ค. 60 และ ช่วงเดือน มี.ค. 61 ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน “การให้ที่ยิ่งใหญ่” โดยการบริจาคโลหิต เพียง 1 ยูนิต สามารถช่วยชีวิตได้ถึง 3 ชีวิต  ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ฮอนด้าวิงเซ็นเตอร์ใกล้บ้านท่าน หรือที่คอลเซ็นเตอร์ 02-725-4000

 

“ฮอนด้า” สร้างโปรเจ็กต์ยักษ์ใหญ่!!! ตั้งเป้าปั้นเด็กไทยสู่โมโตจีพี ภายในปี 2025

เอ.พี.ฮอนด้า ค่ายจักรยานยนต์เบอร์หนึ่งของไทย ผู้บุกเบิกวงการกีฬามอเตอร์สปอร์ตมาอย่างต่อเนื่อง เดินหน้าเฟ้นเด็กไทยกว่า 100 คน คัดหาสุดยอดนักบิดวัยเยาว์เพียง 15 คน ที่ผ่านบททดสอบสุดโหด เพื่อเข้าโครงการยักษ์ใหญ่ “เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี ไทยแลนด์” สานฝันสู่การเป็นนักบิดระดับโลก ขณะ มร.โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร ชี้ต้องมีหลักการพัฒนานักแข่งที่เป็นระบบ ประกาศตั้งเป้ามีนักแข่งไทยโลดแล่นในศึกโมโตจีพีภายในปี 2025

มร.โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดถึงโครงการล่าฝันของเด็กไทยสู่เวทีโมโตจีพีว่า “เรากำลังพูดถึงการเฟ้นหาและการพัฒนานักแข่งไทยให้ก้าวสู่การแข่งขันระดับสูงสุดของโลก ซึ่งในการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” นักบิดจะมีอายุเฉลี่ยเพียง 26 ปี เท่านั้น ตอนนี้ “มาร์ค มาร์เกซ” แชมป์โลกจากฮอนด้า เพิ่งจะอายุเพียง 24 ปี ขณะที่นักบิดที่อายุน้อยที่สุดที่เข้าแข่งขันในโมโตจีพีคือ 21 ปี เมื่อดูจากอายุเฉลี่ยแล้วจะเห็นได้ว่าจุดสูงสุดของอาชีพนักแข่งรถมืออาชีพนั้นอายุไม่ได้สูงเลย”

“ฮอนด้า มีความตั้งใจที่จะปั้นนักแข่งโมโตจีพีชาวไทยให้ได้ภายในปี 2025 นั่นหมายว่าเราต้องเฟ้นหานักบิดอายุไม่เกิน 19 ปี และพัฒนาตัวเขาอย่างต่อเนื่องเพื่อการก้าวเข้าสู่โมโตจีพีในอีก 7 ปี ให้หลัง เขาจะมีอายุราว 26 ปี เมื่อโลกของความเป็นมืออาชีพมีความเข้มข้นเช่นนี้ เอ.พี.ฮอนด้า จึงได้ก่อตั้งโครงการ “เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี ไทยแลนด์” ขึ้นมาเพื่อพัฒนานักแข่งที่จะเป็นอนาคตของประเทศไทยในการแข่งขันในสนามระดับโลกต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าเราจะพยายามเฟ้นหานักแข่งที่มีไหวพริบ มีพัฒนาการรวดเร็ว และสามารถสื่อสารถ่ายทอดให้ทีมช่างเข้าใจได้อย่างถูกต้อง เพื่อทำให้รถแสดงสมรรถนะได้ดีที่สุดตามที่นักแข่งต้องการ”

โครงการ เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี ไทยแลนด์ หรือโปรเจกต์บิดล่าฝัน ปั้นนักบิดไทยสู่ศึกการแข่งขันรถจักรยานยนต์ระดับเวิล์ดกรังด์ปรีซ์ ก่อนต่อยอดสนับสนุนไปสู่รายการแข่งขันสูงสุด รุ่นโมโตจีพีในอนาคต จึงมีวัตถุประสงค์ในการเฟ้นหาดาวรุ่งดวงใหม่ อายุระหว่าง 9-14 ปี จำนวน 15 คน  เข้าร่วมโปรแกรมพัฒนาเป็นนักแข่งรถจักรยานยนต์มืออาชีพ เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยที่ใช้รถสูตร ฮอนด้า เอ็นเอสเอฟ100 (Honda NSF100) นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นทั้งคัน ซึ่งผลิตและพัฒนาขึ้นมาเพื่อขับขี่ในสนามแข่งขันโดยเฉพาะเป็นรถสำหรับฝึกสอน

โดยตลอดช่วงระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ได้จัดการแข่งขันเพื่อคัดเลือกตัวเยาวชนจากทั่วประเทศ 93 คน ให้เหลือ 33 คน ซึ่งในวันเสาร์ที่ 16 ธันวาคมนี้ จะเป็นการคัดตัวรอบสุดท้าย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดนักแข่งเยาวชนไทยฝีมือดีเพียง 15 คน เข้าสู่โครงการ ผ่านการควบคุมและฝึกสอนโดย “โทรุ อูกาว่า” อดีตนักบิดญี่ปุ่นคนแรกที่คว้าแชมป์โมโตจีพี และแชมป์ ซูซูกะ เอ็นดูรานซ์ 8 ชั่วโมงถึง 5 สมัย รวมถึง “มาโกโตะ ทามาดะ” นักแข่งชาวญี่ปุ่นผู้มีประสบการณ์บนเวทีระดับโลกในศึกโมโตจีพี และหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ นอกจากนี้ยังมี  “ฟิล์ม-รัฐภาคย์ วิไลโรจน์” นักบิดชาวไทยคนแรกที่เคยโลดแล่นในรายการโมตีจีพี รุ่นโมโตทู เป็นหนึ่งในทีมผู้ฝึกสอนและคัดเลือกตัวเยาวชนฝีมือดีทั่วประเทศด้วย เด็กไทยทั้ง 15 คนที่ผ่านการคัดเลือกคือตัวเต็งนักแข่งโมโตจีพีในอนาคต โดยหลังจบหลักสูตรจาก เอ.พี. ฮอนด้า อะคาเดมี่ ก้าวต่อไปคือโครงการ ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ และก้าวเข้าสู่การแข่งขันรายการคัดเลือกดาวรุ่งของทวีปเอเชียอย่าง “เอเชีย ทาเลนต์ คัพ” หลังจากนั้นนักแข่งที่ฉายแววโดดเด่น ก็จะได้รับการผลักดันให้ก้าวขึ้นสู่การแข่งขันระดับโลกในอนาคต เอ.พี.ฮอนด้า วางเส้นทางไว้เพื่อพัฒนานักแข่งด้วยความเป็นธรรมและโปร่งใส เพราะเราอยากก้าวไปสร้างความท้าทายในการแข่งขันระดับโลก ซึ่งแน่นอนว่าเยาวชนทั้ง 15 คนนี้จะถือเป็นนักบิดดาวรุ่งสายเลือดใหม่ของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ที่มีการเปลี่ยนถ่ายกับนักบิดอาชีพในปัจจุบัน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งถือเป็นวัฏจักรของวงการมอเตอร์สปอร์ต เพื่อสร้างความเติบโตของบุคลากรจนเป็นที่ยอมรับในระดับโลก แฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ตชาวไทย สามารถติดตามข่าวสารและร่วมส่งแรงใจเชียร์เยาวชนไทย ได้ทางเว็บไซต์ http://www.aphondaracingthailand.com/

โซ่-อานนท์ สังวาลย์ ฮึดสู้หลังพลาดล้ม ก่อนบิดคันเร่ง R1 ยืนโพเดี้ยม ST1 รายการ R2M สนามสุดท้าย ผงาดครองแชมป์ประเทศไทย

โซ่-อานนท์ สังวาลย์ #3 นักบิดมาดแบดบอยสังกัด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM สวมหัวใจนักสู้ ฮึดเต็มเหนี่ยวหลังพลาดล้ม ลุกขึ้นมากระชากคันเร่งรถแข่ง YZF-R1 ทะยานเข้าเส้นชัยคว้าอันดับที่ 2 รุ่น Professional ST1 ในการแข่งขันรายการ R2M THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 สนามที่ 5 เก็บคะแนนสะสมสูงสุด ผงาดคว้าแชมป์ประจำรายการได้สำเร็จ พร้อมครองบัลลังก์แชมป์ประเทศไทยศึก ALL THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 ได้อย่างยิ่งใหญ่ โดยการแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้น ณ สนามไทยแลนด์ เซอร์กิต นครชัยศรี จ.นครปฐม เมื่อเร็วๆ นี้

เปิดตัว“All New Honda PCX150”

เปิดตัวที่สุดแห่งการครอบครอง “All New Honda PCX150” สัมผัสความภูมิใจครั้งใหม่ด้วยที่สุดของเทคโนโลยีและดีไซน์หรูที่เป็นหนึ่งเดียวบริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ตอกย้ำภาพความเป็นที่สุดแห่งผู้นำรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย ล่าสุดกับการเปิดตัวรถจักรยานยนต์เอ.ที. ระดับพรีเมี่ยม All New Honda PCX150 ภายใต้คอนเซปต์  “Welcome to The New Pride” สัมผัสความภูมิใจครั้งใหม่..เหนือระดับทุกการครอบครอง ด้วยเอกลักษณ์แห่งงานดีไซน์ผสานความหรูหรา จัดเต็มระบบไฟ LED ดีไซน์ใหม่รอบคัน พร้อม NEW WELCOME LIGHT ครั้งแรกในประเทศไทยของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าที่มีไฟ LED ส่องสว่างขึ้นที่พื้น ให้ค่าสถานะครบถ้วนด้วยแผงหน้าปัดใหม่แบบฟูลดิจิตอลเต็มระบบ ล้ำหน้ากับนวัตกรรมแห่งการขับขี่ด้วยฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยีที่สมบูรณ์แบบ มาพร้อมขุมพลัง eSP ขนาด 150 ซีซี. หัวฉีด PGM-FI พัฒนาใหม่ ระบายความร้อนด้วยน้ำ รองรับมาตรฐานไอเสียสากล Euro4 ให้สมรรถนะความแรงและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม เตรียมวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2017 เป็นต้นไป ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ

นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มรถเอ.ที. ของฮอนด้านั้นได้รับความนิยมจากผู้ขับขี่ชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความโดดเด่นของรูปลักษณ์และเทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองความต้องการใช้งานได้อย่างตรงกลุ่มและโดนใจ โดยเฉพาะ Honda PCX150 หนึ่งในโมเดลแฟลกชิพกลุ่มรถเอ.ที. พรีเมี่ยมที่เพียบพร้อมด้วยเอกลักษณ์แห่งความหรูหราผสานนวัตกรรมล้ำสมัยและให้ความภาคภูมิใจกับผู้เป็นเจ้าของ

“สำหรับภาพรวมของตลาดรถจักรยานยนต์ประเภทเอ.ที. ในปีนี้มียอดจำหน่ายจนถึงเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ประมาณ 584,117 คัน คิดเป็น 34.6% จากตลาดรวมและเป็น Honda PCX อยู่ประมาณ 66,963 คัน คิดเป็น 11.5% ของตลาดรถประเภทเอ.ที. หากลงในรายละเอียด Honda PCX ถือครองส่วนแบ่งตลาดของรถประเภทพรีเมียมเอ.ที. มากที่สุดในขณะนี้ และเพื่อตอกย้ำความเป็นที่สุดแห่งความภาคภูมิใจดังกล่าว วันนี้เราจึงขอแนะนำ All New Honda PCX150 ที่ได้พัฒนาไปอีกขั้น กับการออกแบบในทุกรายละเอียดให้ความหรูหราที่เหนือระดับยิ่งขึ้น พร้อมกับพัฒนาเทคโนโลยีด้านการขับขี่ ที่ช่วยเติมเต็มความสะดวกสบายได้อย่างสมบูรณแบบ เพื่อก้าวขึ้นสู่ความเป็นที่สุดแห่งการครคอบครองรถเอ.ที. พรีเมี่ยมยอดนิยมอันดับหนึ่งในเมืองไทย”

สำหรับ All New Honda PCX150 ได้รับการออกแบบใหม่ภายใต้คอนเซปต์ “Welcome to The New Pride” สัมผัสความภูมิใจครั้งใหม่ด้วยเอกลักษณ์แห่งงานดีไซน์ผสานความหรูหรา โดดเด่นด้วยระบบไฟ LED ดีไซน์ใหม่รอบคัน ยกระดับไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยีเสมือนรถยนต์ด้วย NEW WELCOME LIGHT ครั้งแรกในรถจักรยานยนต์ฮอนด้าที่มีไฟ LED ส่องสว่างขึ้นที่พื้น และแผงหน้าปัดระบบดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่บอกค่าสถานะต่างๆได้ครบถ้วนตอบโจทย์ชีวิตยุคดิจิทัล อาทิ มาตราวัดความเร็วแบบดิจิทัล ระบบบันทึกระยะทางการขับขี่ มาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิงระบบดิจิทัล และนาฬิกาดิจิทัลบอกเวลา เป็นต้น พร้อมเสริมความมั่นใจด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 14 นิ้ว ที่มาพร้อมกับยาง Michelin ขนาดใหญ่ ยึดเกาะถนนได้มั่นใจ, สะดวกสบายด้วยกล่องเก็บของใต้เบาะขนาด 28 ลิตร พร้อมการปรับพื้นที่แนวราบให้ใช้งานสะดวกมากขึ้น สามารถเก็บหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ โดยมีกลไก Seat Stopper ที่ออกแบบใหม่แข็งแรงขึ้น ช่วยเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัย ทั้งยังติดตั้งกล่อง Console Box พร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟสำหรับสมาร์ทโฟนของผู้ขับขี่

ในด้านเทคโนโลยีของ All New Honda PCX150 ยังคงเอกลักษณ์ด้วยฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยี (Honda Smart Technology) ที่พัฒนาไปอีกขั้นเพื่อการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ ประกอบด้วยเครื่องยนต์ทรงประสิทธิภาพ eSP (Enhanced Smart Power) ขนาด 150 ซีซี. หัวฉีด PGM-FI ที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ รองรับมาตรฐานไอเสียสากล Euro4 ให้สมรรถนะความแรงและอัตราการประหยัดน้ำมันที่คุ้มค่า, ระบบหยุดเครื่องยนต์อัตโนมัติ Idling Stop System, และระบบกระจายแรงเบรกหน้า-หลัง Combi Brake System ให้ความมั่นใจในทุกเส้นทาง พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อชีวิตสมาร์ทกับฮอนด้าสมาร์ทคอนโทรลเลอร์ชุดควบคุมการทำงานอัจฉริยะ และฮอนด้าสมาร์ทคีย์ รีโมทอัจฉริยะ ที่ประกอบด้วยระบบสั่งการครบ 3 ฟังก์ชั่น เพื่อช่วยระบุตำแหน่งและสะดวกสบายในการค้นหารถ พร้อมด้วยสัญญาณกันขโมยป้องกันการโจรกรรมโดยระบบจะส่งสัญญาณเตือนทันทีเมื่อรถมีการเคลื่อนที่หรือสั่นสะเทือน และระบบเปิด-ปิดสัญญาณรีโมท เพื่อสั่งการเปิดหรือล็อกการเชื่อมต่อสัญญาณรีโมทกับ สมาร์ทคอนโทรลเลอร์ เพื่อการล็อกนิรภัยอีกขั้น

เอ.พี.ฮอนด้า พร้อมวางจำหน่าย All New Honda PCX150 ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2017 เป็นต้นไป ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ ด้วยราคาแนะนำที่ 82,300 บาท มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีเทา-ดำ, สีแดง-ดำ, สีดำ และสีขาว-ดำ สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของ All New Honda PCX150 โฉมใหม่ ได้ที่ www.aphonda.co.th และ www.facebook.com/hondamotorcyclethailand

ยามาฮ่ารุกตลาดบิ๊กไบค์เปิดโชว์รูม “ยามาฮ่า ไรเดอร์ส คลับ ภูเก็ต” เอาใจสาวกบิ๊กไบค์ พร้อมให้บริการครบวงจร

.ชิเงโอะ ฮายาคาวะ ประธานกรรมการบริหาร และนายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์  รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และนายไพศาล เวชวนิชสนอง ประธานกรรมการ บริษัท รวมพงศ์มอเตอร์ จำกัด ร่วมทำพิธีเปิดโชว์รูม Yamaha Riders’ club Phuket โดย บริษัท รวมพงศ์มอเตอร์ จำกัด ศูนย์บริการบิ๊กไบค์แบบครบวงจรที่ได้รับมาตรฐาน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าบิ๊กไบค์ในพื้นที่ภูเก็ตที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจากนางอัญชลี วานิช เทพบุตร  อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเมื่อเร็วๆ นี้

Yamaha Riders’ club Phuket โดย บริษัท รวมพงศ์มอเตอร์ จำกัด แห่งนี้ ใช้งบประมาณกว่า 60 ล้านบาท เพื่อเนรมิตให้เป็นโชว์รูมศูนย์จำหน่ายรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ยามาฮ่าเต็มรูปแบบที่พร้อมให้บริการแบบครบวงจร โดยมีช่างผู้ชำนาญพร้อมให้บริการ และพื้นที่ทดสอบการขับขี่ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าบิ๊กไบค์ในพื้นที่ได้อย่างครบครัน

สำหรับ Yamaha Riders’ club Phuket โดย บริษัท รวมพงศ์มอเตอร์ จำกัด ตั้งอยู่ที่ อำเภอถลาง ใกล้อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08:30 – 18:00 น. วันจันทร์ – วันเสาร์ โดยสามารถติดต่อได้ทาง โทร 076-273-619 ถึง 23 และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ www.yamaha-motor.co.th/ridersclub และ Facebook : Yamaha Riders’ club Thailand

“ฮอนด้า…สู้สู้” เชียร์สนั่นแทร็ก ซ้อมใหญ่รับศึกโมโตจีพี

รูดม่านปิดฉากความเร้าใจไปแล้ว สำหรับศึกชิงเจ้าความเร็วสองล้อแห่งเอเชีย รายการเอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ ประจำปี 2017 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ไฮไลต์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมชมเกมการแข่งขันอย่างมากมาย โดยนอกจากผลงานของเหล่านักบิดยอดฝีมือชาวไทยที่สามารถคว้าชัยชนะยืนบนโพเดียมได้แล้ว ยังมีกิจกรรมที่เรียกเสียงฮือฮาได้สนั่นแทร็กไม่น้อย กับโอกาสการยลโฉม “ฮอนด้า RC213V-S” สุดยอดรถสปอร์ตที่ถอดแบบรถของแชมป์โลกได้โลดแล่นอยู่ในสนามแข่งขัน จำนวน 7 คัน มูลค่าคันละ 8.7 ล้านบาท อาจฟังดูโอเวอร์ไปหน่อย แต่ก็เป็นความจริง ชาตินี้แม้ไม่มีบุญได้เป็นเจ้าของ อย่างน้อยงานนี้ก็เป็นบุญตาที่ได้เห็น ขณะเดียวกันหากย้อนมองกลับมาที่อัฒจันทร์หรือสแตนด์คนดู อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของเรซส่งท้ายครั้งนี้ต้องยกให้กับบรรยากาศความคึกคักของกลุ่มแฟนคลับค่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ที่ยกทัพเดินทางเข้ามาร่วมเชียร์ทีมแข่งขวัญใจคนไทย “เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ถึงในสนามจำนวนกว่า 2,000 คน ภาพของกองทัพสาวกนักบิดค่ายปีกนก ดีลเลอร์ ตลอดจนพนักงานของ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ที่พร้อมใจรวมพลยกโขยงมากันทั้งครอบครัว พ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อมาร่วมให้กำลังใจและส่งเสียงเชียร์ “ฮอนด้า…สู้สู้ ฮอนด้า…สู้สู้” ถือเป็นการเริ่มต้นปูรากฐานที่ดีให้กับความเข้าใจในกีฬาชนิดนี้ ด้วยการเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาสัมผัสด้วยตัวเอง เพื่อรับรู้ถึงความสนุกตื่นเต้นและมีความน่าสนใจชวนติดตามไม่แพ้ชนิดกีฬาอื่นๆ รวมถึงมีความปลอดภัยจากมาตรฐานการจัดแข่งขันในสนามระดับโลก ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะช่วยขยายความนิยมให้จำนวนแฟนมอเตอร์สปอร์ตในบ้านเรามีมากขึ้น อย่างที่ทราบกันดีว่า แทร็กดวลความเร็วแดนเซราะกราวได้ถูกบรรจุอยู่ในปฏิทินการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก สำหรับศึกโมโตจีพี ฤดูกาล 2018 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคม 2561

 

ดังนั้น การเข้ามามีร่วมส่วนของกองเชียร์ในศึกโฮมเรซครั้งนี้ จึงเสมือนเป็นการซ้อมใหญ่เพื่อต้อนรับศึกใหญ่ดังกล่าวด้วยจากเสียงเชียร์สนั่นแทร็กเพื่อเชียร์ทีมแข่งขวัญใจคนไทย จะดังต่อเนื่องถึงปีหน้าเพื่อเชียร์นักบิดหนึ่งเดียวของไทย “ชิพ-นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์” ดาวรุ่งนักบิดชาวขอนแก่น ผู้ได้รับโอกาสลงทำการแข่งขันตลอดฤดูกาลเป็นปีที่สอง ในรุ่นโมโตทรี สังกัดฮอนด้า ทีม เอเชีย หมายเลข 41 “ฮอนด้า…สู้สู้ ฮอนด้า…สู้สู้” ในฐานะเจ้าบ้านต้องซ้อมไว้ให้ขึ้นใจ เพราะเสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มจะเป็นหัวใจสำคัญช่วยเพิ่มบรรยากาศในสนามให้สนุกตื่นเต้นเป็นอย่างมากเหนืออื่นใดยังช่วยกระตุ้นความฮึกเหิมให้กับคนฟังเป็นอย่างยิ่ง แฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ตชาวไทย สามารถติดตามข่าวสารและร่วมส่งแรงใจเชียร์ทีมแข่งสัญชาติไทย “เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ได้ทางเว็บไซต์ www.aphondaracingthailand.com

 

เปิดตัวสามนักบิดดาวรุ่งจาก เอ.พี.ฮอนด้า

ว่าที่นักบิดระดับโลก-เปิดตัวสามนักบิดดาวรุ่งจาก เอ.พี.ฮอนด้า ก๊อง-ธัชกร บัวศรี นักแข่งหมายเลข 3 ผู้คว้าแชมป์รายการแข่งขันไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ ประจำปี 2017 พร้อมรองอันดับ 1 แชมป์-กอบชัย แซ่หลิว หมายเลข 4 และรองอันดับ 2 บิว – วริทธิ์ ทองนพคุณ หมายเลข 9 ก่อนที่ เจ้าก๊อง ธัชกร และ เจ้าแชมป์ กอบชัย รวมถึง เจ้าไอซ์ – นิติพงษ์ แสงสว่าง จะเตรียมตัวเข้าโปรแกรมพัฒนาสู่การเป็นนักแข่งระดับโลกหลังผ่านการคัดเลือกที่ประเทศมาเลเซีย ก่อนเริ่มประเดิมเวทีใหญ่ในศึกเอเชีย ทาเลนต์ คัพ ปีหน้า

ยามาฮ่าเชิญชวนคู่รักนักเดินทาง MotorBike journey ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวสุดประทับใจในการเดินทาง พร้อมร่วมทดสอบขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าบิ๊กไบค์รุ่นใหม่ SCR950 และ XSR700

นางสาวสินันทะวดี วรเทพนิตินันท์ ผู้จัดการอาวุโส แผนกสื่อดิจิทัล บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมต้อนรับ และมอบของที่ระลึกให้แก่คู่รักนักเดินทางเจ้าของ Page ดัง MotorBike Journey คู่รักที่หลงใหลการท่องเที่ยวด้วยรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ พร้อมมาถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางต่างๆ สุดประทับใจ และยังเข้าร่วมทดสอบขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าบิ๊กไบค์รุ่นใหม่อย่าง ยามาฮ่า SCR950 และ ยามาฮ่า XSR700 ณ ลานหน้าสนามฟุตบอลเมืองทองยูไนเต็ด โดยการต้อนรับในครั้งนี้มีขึ้นภายในงาน Motor Expo 2017 ณ บูธ Yamaha Riders’ Community เมื่อเร็วๆ นี้

“โฟลท” สู้สุดฤทธิ์ตอบแทนแฟนคลับ ปิดจ๊อบอันดับ 11 บิดเอเชียที่บุรีรัมย์

 “โฟลท-รัฐพงษ์ วิไลโรจน์” นักบิดหนุ่มจาก เอ.พี.ฮอนด้า ฝืนอาการบาดเจ็บบิดสู้สุดฤทธิ์ คว้าอันดับที่ 11 ศึกเอเชียเกมส่งท้ายของฤดูกาล ได้ใจแฟนคลับรถจักรยานยนต์ฮอนด้ากว่า 2,000 คน ที่เดินทางมาร่วมเชียร์ถึงขอบสนามช้างฯ เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ทวีปเอเชีย รายการ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ ปี 2017 ระเบิดความเร้าใจสังเวียนปิดฤดูกาล ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.554 กม. โดยวันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม 2560 เป็นรอบชิงชนะเลิศเรซที่สองของทุกรุ่นการแข่งขัน

 

สำหรับเรซส่งท้ายของปีนี้ บรรยากาศภายในสนามมีความคึกคักเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีบรรดาแฟนคลับค่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เดินทางเข้ามาร่วมเชียร์ทีมแข่งขวัญใจคนไทย เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ถึงในสนามจำนวนกว่า 2,000 คน โดยในรุ่น SS600 หรือซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี. ดวลความเร็ว 18 รอบ ผลการชิงชัยปรากฏว่า  “โฟลท-รัฐพงษ์ วิไลโรจน์” หมายเลข 59 แม้มีอาการบาดเจ็บตั้งแต่รอบควอลิฟาย แต่ยังฝืนสู้และจบเรซแรกด้วยอันดับที่ 8 ขณะที่เรซสองก็ยังไม่ยอมแพ้ และที่สำคัญเจ้าตัวต้องการแสดงสปิริตเพื่อหวังตอบแทนแฟนคลับที่มาร่วมฉลองวันคล้ายวันเกิดพร้อมกับส่งเสียงเชียร์ตลอดการแข่งขันถึงในสนาม สุดท้ายปิดจ๊อบวิ่งจบได้อันดับที่ 11 ฝั่งทีมเมทชาวญี่ปุ่น “ทัตซูยะ ยามากูชิ” หมายเลข 104 ตามเข้าป้ายในอันดับที่ 15 สรุปอันดับการแข่งขันประจำปี 2017 บนตารางแชมเปียนชิพ รุ่น SS600 โฟลท-รัฐพงษ์ อยู่อันดับที่ 9 เก็บคะแนนได้ทั้งสิ้น  77 แต้ม ส่วน ยามากูชิ อยู่ที่ 12 มี 58 แต้ม ทั้งนี้ ศึกเอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ ปี 2018 ล่าสุด โปรแกรมการแข่งขันอย่างเป็นทางการยังไม่มีการระบุชัดเจน อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าต้องมีคิวกลับมาระเบิดความเร้าใจขึ้นที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ อย่างน้อยสองสนามแน่นอน แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยเตรียมติดตามชม

สามารถติดตามข่าวสารและร่วมส่งแรงใจเชียร์ทีมแข่งสัญชาติไทย “เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ได้ทางเว็บไซต์ www.aphondaracingthailand.com

 

ขุนพลนักบิด YAMAHA THAILAND RACING TEAM ผงาดยืนโพเดี้ยมต่อหน้ากองเชียร์ไทยสุดยิ่งใหญ่!!!

แสตมป์ – อภิวัฒน์ ผลงานระดับมาสเตอร์พีซ คว้า “ดับเบิ้ลแชมป์” Super Sports 600 ตี – อนุภาพ หัวใจนักสู้ บู๊สุดมันส์ จบอันดับ 2 Asia Production 250 ทั้ง 2 เรซ

ระเบิดความมันส์ ที่สุดแห่งความเร้าใจ ในเกมชิงความเป็นเจ้าความเร็วสองล้อของทวีปเอเชีย สนามสุดท้าย กับการชิงดำเพื่อก้าวสู่บัลลังก์ “แชมป์เอเชีย” รายการ ASIA ROAD RACING CHAMPIONSHIP 2017 สนามที่ 6 ซึ่งจัดขึ้น ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2560 โดยทัพนักบิดไทยทีม YAMAHA THAILAND RACING TEAM ประกาศกร้าวพร้อมผนึกกำลังเป็นหนึ่ง ทำผลงานระดับมาสเตอร์พีซก่อนยืนโพเดี้ยมต่อหน้ากองเชียร์ชาวไทย

สำหรับการแข่งขันในสนามโฮมเรซของนักบิดไทยทีม YAMAHA THAILAND RACING TEAM นั้น ยังคงลงทำการชิงชัยด้วยกัน 2 รุ่น โดยในรุ่น Asia Production 250 cc นำทัพโดยนักบิดดาวรุ่ง ตี – อนุภาพ ซามูล #500 ที่ยังคงมีลุ้นชิงดำตำแหน่งแชมป์เอเชีย พร้อมด้วย พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง #14 และ พีรพงศ์ บุญเลิศ #39 ซึ่งใช้รถแข่งตระกูล R-SERIES ลงทำการแข่งขัน โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การรักษาแชมป์ในรุ่นนี้ให้อยู่กับนักบิดไทยยามาฮ่าอีกครั้ง ส่วนในรุ่น Super Sports 600 cc นำทัพโดย 2 นักบิดดีกรีแชมป์เอเชียอย่าง ตั้น – เดชา ไกรศาสตร์ #24 และ เบียร์ – เฉลิมพล ผลไม้ #65 พร้อมผนึกกำลังนักบิดดาวรุ่งดีกรีแชมป์เอเชียอย่าง แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #22 ที่จะนำรถแข่ง YZF-R6  ลงทำการชิงชัย เพื่อประกาศศักดาความเป็นหนึ่งในเอเชียอีกครั้ง

โดยในรอบการควอลิฟายหาตำแหน่งสตาร์ทนั้น ตี – อนุภาพ ซามูล #500 นักบิดดาวรุ่ง YAMAHA THAILAND RACING TEAM ฟอร์มสุดแกร่งโชว์ลีลาการขับขี่สุดร้อนแรงก่อนกระชากคันเร่งรถแข่ง R-SERIES กดเวลาในรอบควอลิฟายรั้งอันดับ 1 ด้วยเวลา 1’53.22 นาทีต่อรอบ คว้าตำแหน่งโพลโพซิชั่นได้ออกสตาร์ทในตำแหน่งหัวแถวของรุ่น Asia Production 250 cc ส่วนเพื่อนร่วมทีม พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง #14 ได้ออกสตาร์ทอันดับที่ 5 และ พีรพงศ์ บุญเลิศ #39 ได้ออสตาร์ทอันดับที่ 12

ส่วนในรุ่น Super Sports 600 cc แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #22 ทำเวลาดีที่สุด 1’38.770 นาทีต่อรอบ คว้าตำแหน่งโพลโพซิชั่นออกสตาร์ตำแหน่งหัวแถว ตามด้วย เบียร์ – เฉลิมพล ผลไม้ #65 กดเวลา 1’38.978 นาทีต่อรอบ ออกสตาร์ทในแถวหน้ากริดที่ 2 ส่วน ตั้น – เดชา ไกรศาสตร์ #24 ออกสตาร์ทแถวที่ 2 แม้พลาดล้มในช่วงแรกแต่ยังสามารถรั้งอยู่ในอันดับ 6 ด้วยเวลา 1’39.577 นาทีต่อรอบ

 

Race 1 :

ตี – อนุภาพ ซามูล #500 ยืนโพเดี้ยมอันดับ 2 Asia Production 250 cc

แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #24 สุดแกร่ง นำธงไทยเหนือโพเดี้ยมรุ่น Super Sports 600 cc

ประเดิมความมันส์ของการแข่งขันศึกชิงแชมป์เอเชีย รายการ ASIA ROAD RACING CHAMPIONSHIP 2017 สนามสุดท้ายกันด้วยรุ่น Asia Production 250 cc ที่มีรถแข่งเข้าร่วมการชิงชัยด้วยกันทั้งหมด 33 คัน กับรอบการแข่งขันจำนวน 10 รอบสนาม ซึ่งทันทีที่เกมการแข่งขันเริ่มขึ้น ตี – อนุภาพ ซามูล #500 นักบิด YAMAHA THAILAND RACING TEAM ก็เปิดเกมบู๊ทะยานออกตัวไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับขึ้นนำเป็นจ่าฝูงตั้งแต่เริ่มต้น โดยมีนักบิดญี่ปุ่น Tomoyoshi Koyama #71 ไล่ประกบติดมาด้านหลัง ส่วนคู่แข่งลุ้นแชมป์อย่างนักบิดอินโดนีเซีย Gerry Salim #31 หล่นไปอยู่กลุ่มหลัง

โดยในกลุ่มนำนั้นเป็นการขับเคี่ยวกันอย่างสนุกระหว่าง 3 นักบิดอย่าง ตี – อนุภาพ ซามูล #500, Tomoyoshi Koyama #71 และ Rheza Danica Ahrens #123 นักบิดชาวอินโดนีเซียที่ไล่เข้ามาจนได้ติดกลุ่ม ทำให้เกมการชิงชัยเป็นไปอย่างดุเดือดในทุกรอบการแข่งขัน โดยมีการสลับตำแหน่งผู้นำกันอยู่หลายต่อหลายครั้ง ซึ่งนักบิด YAMAHA THAILAND RACING TEAM ก็พยายามอย่างเต็มกำลังไล่บี้คู่แข่งแบบไม่ยอมลดละเพื่อที่จะคุมเกมเอาไว้ให้ได้ ทำให้กองเชียร์ชาวไทยได้ลุ้นกันอย่างสนุกกันเลยทีเดียว

ในช่วงท้ายเกมการแข่งขัน 3 นักบิดในกลุ่มหน้ายังคงเปิดเกมบู๊กันอย่างดุเดือด และมีการเปลี่ยนตำแหน่งผู้นำอยู่เกือบทุกโค้ง จนกระทั้งในรอบสุดท้าย Rheza Danica Ahrens #123 ก็ชิงจังหวะขึ้นมาอยู่หัวแถวได้ แม้นักบิด YAMAHA THAILAND RACING TEAM จะพยายามไล่กดดันอยู่ด้านหลัง แต่ก็ไม่สามารถที่จะหาจังหวะแซงขึ้นหน้าไปได้ ทำให้เมื่อธงตราหมากรุกโบยสะบัดก็เป็นนักบิดอินโดนีเซียที่ผ่านธงเป็นคนแรก ส่วน ตี – อนุภาพ ซามูล #500 ตามติดเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับที่ 2 โดยตามหลังผู้นำอยู่เพียงแค่ 0.211 วินาที เท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ Tomoyoshi Koyama #71 ที่ตามหลังนักบิดไทยเข้าเส้นมาติดๆ เช่นกัน

ขยับความมันส์มาที่รุ่น Super Sports 600 cc โดยในรุ่นนี้มีรถแข่งลงชิงชัยด้วยกันทั้งสิ้น 22 คัน และทำการแข่งขันด้วยกันทั้งหมด 18 รอบสนาม ซึ่งทันทีที่สัญญาณไฟแดงสตาร์ทดับลง แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #22 ที่สตาร์ทจากตำแหน่งหัวแถวก็พุ่งทะยานขึ้นไปเป็นผู้นำได้อย่างรวดเร็ว โดยมีทีมเมทรุ่นพี่อย่าง เบียร์ – เฉลิมพล ผลไม้ #65 ตามหลังมาติดๆ รวมถึงนักบิดมาเลเซีย Azlan Shah Kamaruzaman #25 และ ฐิติพงษ์ วโรกร #100 ที่เกาะติดเป้นกลุ่มผู้นำในช่วงต้นเกมการแข่งขัน

จากนั้นเกมการชิงชัยก็เป็นไปอย่างตื่นเต้นเร้าใจเมื่อ Anthony West #13 นักบิดออสซี่จอมเก๋าที่ผ่านเกมโมโตจีพีมาแล้ว ไล่บี้ติดกลุ่มนำได้สำเร็จในช่วงกลางๆ เกมการแข่งขัน ทำให้บรรยากาศการขับเคี่ยวของกลุ่มนำเต็มไปด้วยความเร้าใจโดยที่ แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #22 ยังคงรั้งจ่าฝูงไว้ได้อย่างเหนียวแน่น แม้ในบางจังหวะจะเสียตำแหน่งให้กับ Azlan Shah Kamaruzaman #25 และ ฐิติพงษ์ วโรกร #100 ที่เบียดแซงผ่านไปได้ แต่นักบิด YAMAHA THAILAND RACING TEAM ก็สามารถทวงตำแหน่งคืนได้เช่นกัน รวมถึง Anthony West #13 ที่ขับขี่ได้อย่างดุดันทำให้ขยับขึ้นมาเป็นผู้นำได้ในบางรอบ

ในช่วงท้ายเกมกลุ่มนำยังคงขับเคี่ยวกันได้อย่างสนุกตื่นเต้น และ ตั้น – เดชา ไกรศาสตร์ #24 ขยับเข้ามาติดกลุ่มได้สำเร็จทำให้กลุ่มหน้านี้มีด้วยกันถึง 6 คัน โดยที่ผู้นำยังคงเป็นการสลับตำแหน่งกันระหว่าง แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #24, Azlan Shah Kamaruzaman #25 และ Anthony West #13 ทำให้กองเชียร์ชาวไทยต่างลุ้นกันแบบใจหายใจคว่ำเลยทีเดียว โดยเฉพาะเข้าสู่รอบสุดท้ายของการแข่งขัน เมื่อ Anthony West #13 ขยับขึ้นมาเป็นผู้นำได้สำเร็จ ตามมาด้วย Azlan Shah Kamaruzaman #25 และ แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #22 ซึ่งเป็น 3 คันที่ดีดออกมาจากกลุ่มได้ห่างพอสมควร ก่อนที่นักบิด YAMAHA THAILAND RACING TEAM จะแซงผ่านนักบิดมาเลเซียขึ้นไปได้จนเกาะติดท้ายผู้นำเมื่อเหลืออีกครึ่งรอบสนาม จากนั้นนักบิดดาวรุ่งไทยก็ไล่จี้นักบิดออสซี่เข้าเพื่อที่จะหาจังหวะแซงให้ได้ จนกระทั้งมาถึงโค้งสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัย แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #22 ก็พุ่งเข้าเสียบใน และสามารถคุมรถแข่งได้นิ่งกว่า ก่อนที่จะทะยานออกจากโค้งพุ่งเข้ารับธงตราหมากรุกเป็นคันแรกได้สำเร็จ พร้อมกับนำธงชาติไทยโบกสะบัดเหนือโพเดี้ยม และทำให้เสียงเพลงชาติไทยดังสนั่นไปทั่วสนามช้าง ท่ามกลางความสะใจของกองเชียร์ชาวไทยเป็นอย่างมาก

Race 2 :

ตี – อนุภาพ สู้สุดใจ เฉือนคว้าชัยหน้าเส้น รั้งอันดับ 2 เรซที่ 2

แสตมป์ – อภิวัฒน์ ฟอร์มเฉียบ คว้า “ดับเบิ้ลแชมป์” Super Sports 600 เพลงชาติไทยกระหึ่มสนามโฮมเรซ

สำหรับการแข่งขันศึกชิงแชมป์เอเชีย รายการ Asia Road Racing Championship 2017 สนามสุดท้าย รุ่น Asia Production 250 cc เรซที่ 2 นั้น ตี – อนุภาพ ซามูล #500 นักบิด YAMAHA THAILAND RACING TEAM ยังคงได้ออกสตาร์ทในตำแหน่งหัวแถว ส่วนเพื่อนร่วมทีม พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง #14 พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง #14 ออกสตาร์ทอันดับที่ 4 และ พีรพงศ์ บุญเลิศ #39 ได้ออสตาร์ทอันดับที่ 11 เนื่องจาก Rheza Danica Ahrens #123 ที่อยู่ในกริดที่ 4 ไม่สามารถเข้าแข่งขันในเรซนี้ได้ จึงทำให้มีการขยับอันดับกริดสตาร์ทขึ้นมาแทนที่นักบิดอินโดนีเซีย

ทันทีที่สัญญาณไฟแดงดับลง เริ่มการแข่งขัน ตี – อนุภาพ ซามูล #500 ก็พุ่งออกตัวทะยานขึ้นเป็นผู้นำได้อย่างรวดเร็ว โดยมีคู่ปรับคนสำคัญอย่าง Tomoyoshi Koyama #71 ตามติดมาด้านหลัง และเพียงแค่ไม่ถึงรอบสนามทั้งคู่ก็ดีดตัวออกห่างจากกลุ่มได้พอสมควร ทำให้การขับเคี่ยวชิงชัยตำแหน่งผู้นำนี้อยู่แค่เพียงนักบิดไทยกับญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งตลอดเกมการแข่งขันก็มีจังหวะที่สลับผลัดกันนำผลัดกันตามอยู่เกือบทุกรอบ ทำให้กองเชียร์ชาวไทยต่างส่งเสียงเชียร์นักบิด YAMAHA THAILAND RACING TEAM กันดังลั่นสนามช้างเลยทีเดียว

ในช่วงท้ายเกมทั้ง ตี – อนุภาพ ซามูล #500 และ Tomoyoshi Koyama #71 พยายามที่จะฉีกทิ้งห่างคู่แข่งในจังหวะที่ตัวเองขึ้นนำ แต่ก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จเพราะต่างฝ่ายต่างกดคันเร่งได้ตามกันแบบไม่ลดละ ทำให้ในรอบสุดท้ายเกมการชิงชัยยังคงเต็มไปด้วยความเข้มข้นตึงเครียดของทั้งนักแข่ง ทีมงาน และกองเชียร์เป็นอย่างมาก จนกระทั้งมาพีคสุดๆ ในจังหวะก่อนเข้าโค้งสุดท้ายรอบสุดท้าย ซึ่งเป็นจังหวะที่ Tomoyoshi Koyama #71 ยังเป็นผู้นำอยู่ แต่ ตี – อนุภาพ ซามูล #500 ก็ยกคันเร่งลึกพุ่งเข้ามาเสียบด้านในได้ก่อน และจังหวะออกจากโค้งนักบิดไทยสามารถพุ่งออกมาได้ก่อนเล็กน้อย แต่นักบิดญี่ปุ่นที่ตั้งลำได้เร็วก็สามารถกดคันเร่งตามเบียดขึ้นมาแซงหน้าเข้าเส้นชัยก่อนได้เพียงแค่เส้นยาแดงผ่าแปดเท่านั้น ส่งผลให้ ตี – อนุภาพ ซามูล #500 ทำได้เพียงแค่ยืนโพเดี้ยมอันดับที่ 2 ส่งท้ายการแข่งขันรุ่น Asia Production 250 cc ในปีนี้เท่านั้น ส่วนเพื่อนร่วมทีม พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง #14 และ พีรพงศ์ บุญเลิศ #39 จบการแข่งขันอันดับที่ 4 และ 5 ตามลำดับ

ปิดท้ายศึกชิงแชมป์เอเชียในปีนี้ด้วยการแข่งขันรุ่น Super Sports 600 cc ที่ยังคงมีรถแข่งลงชิงชัยครบทั้ง 22 คัน และทำการแข่งขันด้วยกันทั้งหมด 18 รอบสนาม โดย แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #22 ยังคงได้ออกสตาร์ทในตำแหน่งหัวแถว ตามด้วย เบียร์ – เฉลิมพล ผลไม้ #65 ในกริดที่ 2 ส่วน ตั้น – เดชา ไกรศาสตร์ #24 ออกสตาร์ทในกริดที่ 6 เช่นเดิม

ทันทีที่สัญญาณการแข่งขันเริ่มขึ้น นักบิด YAMAHA THAILAND RACING TEAM แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #22 ก็กระชากคันเร่งรถแข่ง YZF-R6 พุ่งทะยานขึ้นเป็นผู้นำได้ตั้งแต่โค้งแรก โดยมี เบียร์ – เฉลิมพล ผลไม้ #65 และนักบิดมาเลเซีย Azlan Shah Kamaruzaman #25 ตามเกาะมาในอันดับ 2 และ 3 แบบไม่กระชั้นชิดมากนัก ทำให้เมื่อผ่านรอบแรกไป แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #22 สามารถที่จะยืดระยะทิ้งห่างกลุ่มตามออกไปพอสมควร

จากนั้นเกมการชิงชัยก็ถูกจับตาอยู่ในการแย่งชิงอันดับที่ 2-3-4-5 ที่ตามหลัง แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #22 ซึ่งมี เฉลิมพล ผลไม้ #65 นำกลุ่ม และตามด้วย Azlan Shah Kamaruzaman #25 โดยมี ฐิติพงษ์ วโรกร #100, ตั้น – เดชา ไกรศาสตร์ #24 และ Anthony West #13 ขับเคี่ยวไล่บี้กันอย่างตื่นเต้น เป็นอย่างมาก มีการเบียดแย่งสลับตำแหน่งกันอยู่ทุกรอบการแข่งขันเลยทีเดียว ทำให้กองเชียร์ของแต่ละทีมได้ลุ้นกันอย่างสนุก ส่วน แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #22 ที่แม้จะเป็นผู้นำอยู่แบบห่างๆ ก็ยังคงขี่รักษาเวลา และระยะห่างเอาไว้จนยากที่กลุ่มหลังจะตามมากดดันได้

ในช่วงท้ายเกมการแข่งขัน Anthony West #13 สามารถขยับขึ้นมารั้งอันดับ 2 เป็นผู้นำของกลุ่มตามได้สำเร็จ โดยมี Azlan Shah Kamaruzaman #25 ที่มีลุ้นแชมป์ประจำปีตามเกาะติดมาแบบไม่ห่าง รวมถึง เฉลิมพล ผลไม้ #65 ที่ต้องแย่งชิงอันดับอยู่กับ ฐิติพงษ์ วโรกร #100 ที่ยังคงเกาะกลุ่มอยู่แบบไม่ห่างมากนัก จนกระทั้งเข้าสู่รอบสุดท้ายของการแข่งขัน แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #22 ที่โชว์ฟอร์มการขับขี่ได้อย่างเหนือชั้น ก็สามารถทะยานเข้าเส้นชัยรับธงตราหมากรุกได้สำเร็จเป็นคันแรก ทำผลงานคว้า “ดับเบิ้ลแชมป์” ในการแข่งขันสนามสุดท้ายนี้ได้สำเร็จ ทำให้กองเชียร์ชาวไทยต่างส่งเสียงเฮกันดังกระหึ่มสนามช้าง อันดับ 2 ตกเป็นของ Anthony West #13 และอันดับ 3 เป็นของ Azlan Shah Kamaruzaman #25 ที่เฉือนเข้าเส้นยืนโพเดี้ยมได้ก่อน เฉลิมพล ผลไม้ #65 เพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น ส่วน ตั้น – เดชา ไกรศาสตร์ #24 จบการแข่งขันอันดับที่ 6 ในสนามโฮมเรซ ปิดท้ายศึกชิงแชมป์เอเชียในปีนี้

 

นับเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของขุนพลนักบิด YAMAHA THAILAND RACING TEAM ที่สวมหัวใจนักสู้ พร้อมทำผลงานระดับมาสเตอร์พีซ โชว์ฝีมือการขับขี่อย่างเหนือชั้นต่อหน้ากองเชียร์ชาวไทย ก่อนนำธงชาติไทยผงาดเหนือโพเดี้ยมได้สำเร็จ ทำให้เพลงชาติไทยดังกระหึ่มไปทั่วสนาม ส่งท้ายศึกชิงแชมป์เอเชีย รายการ ASIA ROAD RACING CHAMPIONSHIP 2017 ได้อย่างเต็มภาคภูมิ และเป็นการประกาศศักดาความยิ่งใหญ่ของนักบิดไทยในเกมการแข่งขันระดับทวีปเอเชียได้สำเร็จอีกครั้ง