ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า นี่คือไลน์การผลิตรถสำหรับจำหน่าย “เฉพาะในอิตาลี” ที่ทางตัวแทนจำหน่ายรถในประเภทวิบากนั้นจะเป็นสิทธิ์ของ Honda RedMoto โดยทางกอง บก.ไรดิ้งได้รับไฟล์ภาพชุดรถแข่งสายเอ็นดูโร่จากยุโรปมา โดยระบุว่ามีสี่เวอร์ชั่นหรือสี่โมเดลที่ใช้รหัส Enduro ต่อท้ายก็คือ CRF250RX Enduro , CRF300RX Enduro , CRF400RX Enduro และ CRF450RX Enduro
โดยพื้นฐานแล้ว CRF450RX ก็จะพัฒนาควบคู่กับ CRF450R ตามรูปแบบการผลิต
ที่ทำในสหรัฐอเมริกา ดังนั้นพื้นฐานจึงมีความแกร่งและสมรรถนะในระดับเดียว
กับรถแข่งโมโตครอสเช่นเดียวกับ CRF250R และ CRF250RX ที่ Honda แบ่งแนวทาง
การพัฒนามาเพื่อตอบสนองคาแรคเตอร์ของการใช้งานหรือใช้ในการแข่งขันระหว่าง Motocross กับ Enduro นั่นเอง ซึ่งมาตรฐานการผลิตและจำหน่ายทั่วโลกก็จะคงมีสองคลาสสี่เวอร์ชั่นระหว่างรหัส RX กับ R ตามที่กล่าวไปแล้ว แต่ความพิเศษสำหรับตัวแทนในอิตาลีนั้นก็คือ การแตกไลน์ย่อยเพิ่มเติมสำหรับรถในกลุ่ม Enduro ที่ Honda RedMoto ได้ป้อนสู่ตลาดเพิ่มเติมด้วยรุ่น 300RX และ 400RX ซึ่งเราได้นำข้อมูลสเปครถภาษาอิตาลีมาลงไว้เพื่อที่จะได้พอดูรายละเอียดบางส่วนของตัวรถหรือเครื่องยนต์ได้ในระดับหนึ่ง กับ
ฝูงรถอ็นดูโร่จากผู้แทนจำหน่ายเฉพาะในอิตาลีอย่าง Honda Red Moto ที่นำมาฝากกัน แน่นอนว่าไฮไลท์คงจะไม่พ้นพี่ใหญ่อย่าง CRF450RX Enduro ที่มาพร้อมกับ ECU พิเศษ ที่ติดตั้งโปรแกรมจากโรงงาน ด้วย HRC Launch Control พร้อมด้วยการปรับเลือกโหมดการใช้งานด้วยการเลือกแมปปิ้งที่เหมาะสม คือ standard – smooth – aggressive สำหรับพื้นฐานของ CRF450RX นั้นจะมีน้ำหนักตัวรถเบากว่าเวอร์ชั่นก่อนหน้า 1.7 ปอนด์ ถือว่าเป็นรถที่มีน้ำหนักเบาในอันดับต้นๆ ของรถประเภทนี้ ด้วยอานิสสงค์ของการพัฒนารถแข่งโมโตครอส RF450R ที่เป็นพื้นฐานเดียวกันดังนั้นสเปคและสมรรถนะจึงไม่แตกต่างกันมากนัก รวมทั้งการอัพเกรดโครงสร้างแชสซีส์ ทั้งเฟรมและสวิงอาร์ม มาเป็นอิดิชั่นล่าสุดเช่นเดียวกันนอกจากนั้น CRF450RX ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์บางอย่างเพิ่มเติมเช่น ขาตั้งข้าง ระบบไฟส่องสว่างรวมทั้งการเปลี่ยนวงล้อหลังเป็นขนาด 18 นิ้ว มีการปรับเซ็ท
ค่าแมปปิ้งสำหรับการออกตัวใหม่ special launch control ติดตั้งแฮนด์เดิ้ลบาร์ใหม่ new Renthal fatbar รวมทั้งทำการปรับ เซ็ทระบบกันสะเทือนใหม่สำหรับการใช้
งานในการแข่งขันเอ็นดูโร่ special suspention settings ขณะเดียวกันเพื่อให้ได้ระยะทางการขับขี่ที่เพิ่มขึ้นจึงได้เพิ่มขนาดความจุถังเชื้อเพลิงเป็น 2.25 แกลลอน ด้วยถังเรซิน High capacity resin fuel tank ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ย้อนกลับมาที่ส่วนของเฟรมนั้นได้รับการปรับมิติองศาใหม่กับ Next-Gen twin spar aluminum frame ซึ่งมีผลให้ตำแหน่งติดตั้งหรือยึดโช้คอัพหลังอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าเดิม อีกทั้งยังมีผลให้พื้นที่ของ
แอร์บ๊อกซ์เปิดมากขึ้นกว่าเดิมและอยู่ในตำแหน่งใกล้ศูนย์รวมน้ำหนักที่ดียิ่งขึ้น
บวกกับการปรับสวิงอาร์มและซัพบเฟรมได้อย่างลงตัวยิ่งขึ้นช่วยให้ตัวรถมีสมดุลที่ดีมากยิ่งขึ้น ในรุ่นเล็กสุดของซีรี่ส์อย่าง CRF250RX ก็มาแนวทางเดียวกัน คือ ใช้พื้นฐานของรถแข่งโมโตครอสอย่าง CRF250R ดังนั้นสิ่งแรกเลยก็คือ New Throttle Body หรือ เรือนลิ้นเร่ง ที่ออกแบบให้อากาศไหลผ่านได้ เร็วขึ้น ซึ่งมีผลที่ดีต่อการขับขี่ในช่วงรอบการทำงานของเครื่องยนต์ต่ำได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งทำการ เซ็ทระบบการจ่ายเชื้อเพลิงใหม่กับ New Double Sprey Injector ที่หัวฉีดจะจ่ายเชื้อเพลิงสองครั้งในหนึ่งรอบของการทำงานในจังหวะดูดอากาศอันจะช่วยเพิ่มละอองเชื้อเพลิงโดยที่ไม่เพิ่มน้ำหนักของเชื้อเพลิงที่พ่นเข้าไปในห้องเผาไหม้ เอาเป็นว่าไม่ต้องอธิบายกระบวนการก็แล้วกัน สรุปก็คือ การเซ็ทติ้งในส่วนนี้นั้นจะมีผลให้ได้กำลังที่เพิ่มมากขึ้นในรอบการทำงานเครื่องยนต์ที่ช่วงรอบกลางขึ้นไป ขณะที่วาล์วมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น โดยวาล์วไอดีมีขนาด 33 มม. กับวาล์ว ไอเสีย ขนาด 26 มม. ด้วยการออกแบบเครื่องยนต์ DOHC ที่ใช้แนวทาง big
bore/ short stroke engine ทำให้ได้เรดไลน์ของเครื่องยนต์ตัวใหม่นี้เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น CRF250RX ใหม่นี้จะมีทั้งกำลังและแรงบิดที่เพิ่มมากกว่าเดิม โดยสรุปพื้นฐานของทั้งสี่โมเดลจาก redmoto นี้ จะมีพื้นฐาน จาก CRF250RX และ CRF450RX ก่อนที่จะขยายไลน์การผลิตด้วยการปรับในส่วนของกระบอกสูบกับช่วงชักซึ่งจะแตกต่างกันเล็กน้อย คือ CRF450RX Enduro จะมีมิติของกระบอกสูบxช่วงชัก ที่ 96×62.1 มม. มีปริมาตรความจุ 449.7 ซีซี ให้อัตราส่วนกำลังอัด 13.5:1 ขณะที่ CRF400RX Enduro จะมีมิติของ กระบอกสูบxช่วงชัก ที่ 92×62.1 มม. มีปริมาตรความจุ 413 ซีซี ให้อัตราส่วนกำลังอัด 13.0:1
ขณะที่ CRF250RX Enduro มีมิติของ กระบอกสูบxช่วงชัก ที่ 70.9×50.9 มม. มีปริมาตรความจุ 249 ซีซี ให้อัตราส่วนกำลังอัด 13.9:1 ส่วน CRF300RX Enduro มีมิติของกระบอกสูบxช่วงชัก ที่ 86×50.9 มม. มีปริมาตรความจุ 295.5 ซีซี ให้อัตราส่วนกำลังอัดที่ 13.5 มม. และนี่ก็คือไลน์ผลิตและจำหน่ายรถสายเอ็นดูโร่ในอิตาลีจากตัวแทนจำหน่ายอย่าง Honda Redmoto ที่เรานำมาฝากกัน