2020 KTM Duke 250 BS-VI

เป็นอีกหนึ่งโมเดลที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงจากมาตรฐาน BS-VI ข้อบังคับเรื่องไอเสียที่ประกาศใช้งานในประเทศอินเดีย โดยเจ้า 2020 KTM Duke 250 BS-VI นั้นนอกจากจะได้รับการปรับปรุงในเรื่องของไอเสียใหม่แล้ว ยังมีการเพิ่มสีสันใหม่สำหรับการขายในปี 2020
ที่ประเทศอินเดีย

KTM Duke 250 BS-VI รถมอเตอร์ไซค์ในแนวทางของเน็กเก็ดสปอร์ตรุ่นใหม่ ปี 2020 มาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 248.8 ซีซี 1 ลูกสูบ 4 จังหวะแบบ DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้พละกำลังสูงสุด 30 แรงม้า ที่ 9,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 24 นิวตันเมตรที่ 7,500 รอบต่อนาที โดยที่เครื่องยนต์นั้นจะมีการติดตั้งระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ตัวใหม่ พร้อมระบบท่อไอเสียใหม่เพื่อให้ผ่านมาตรฐาน BS-VI โดยยังคงรูปแบบของตัวรถที่ดุดันทั้งการออกแบบ และประสิทธิภาพที่เทียบเท่ากับโมเดลเดิม

โครงสร้างหลักของ KTM Duke 250 BS-VI ยังคงรูปแบบของ Trellis Frame โครงถักสีส้มกระจายแรงได้เป็นอย่างดี ระบบกันสะเทือนหน้าจาก WP ขนาด 43 มม. แบบหัวกลับ Upside-Down โดยที่ระบบกันสะเทือนหลังจะเป็นแบบ Monoshock จากแบรนด์ WP เช่นเดียวกัน ระบบเบรกแบบดิสก์เดี่ยวหน้าหลังขนาด 320 มม. ปั้มเบรก 4 พอร์ทในด้านหน้าและด้านหลังดิสก์เดี่ยวขนาด 230 มม. ปั้มเบรก 1 พอร์ต พร้อมกับระบบนิรภัย ABS จาก Bosch แบบ Dual Channel

สำหรับส่วนประกอบอื่นๆ ก็มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลดิจิตอล LCD เต็มรูปแบบ ระบบไฟส่องสว่างแบบฮาโลเจน โดยมีการเสริมระบบไฟ DRL แบบ LED เข้ามา ตัวรถยังมีการติดตั้งระบบ Assist & Slipper Clutch มาให้ใช้งาน ถังน้ำมันจุได้ 13.5 ลิตร น้ำหนักตัวโดยรวมอยู่ที่ 161.9 กิโลกรัม

Husqvarna 701 Supermoto

ด้วยขุมพลังระดับ 74 แรงม้า มาพร้อมระบบอิเล็คทรอนิคส์ล้ำสมัย advanced electronics และ โครงสร้างแชสซีส์ชั้นยอดที่ขนานให้เป็น state-of-the-art chassis ทำให้ 701 Supermoto เป็นรถจักรยานยนต์ที่มีสมรรถนะในระดับรถแข่ง แต่พร้อมที่จะตอบสนองการขับขี่บนท้องถนนในเวลาเดียวกัน

รหัสรุ่น 701 นี้คือรถในไลน์ผลิต street motorcycle segment หรือรถที่พัฒนามาเพื่อใช้งานบนท้องถนนตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งมีทั้ง endure และ supermoto ที่มีการอัพเดทปีต่อปีที่มีการพัฒนาเวอร์ชั่นล่าสุดออกมา

และแน่นอนว่าโมเดล 2020 ล่าสุดนี้ ก็ได้รับการปรับเปลี่ยนคาแรคเตอร์การส่งกำลังเครื่องยนต์ใหม่เพื่อให้สนุกกับการขับขี่ยิ่งขึ้น ด้วยการเซ็ทค่าของโหมดการขี่ใหม่ที่สามารถปรับผ่าน New Switchable Ride Modes พร้อมด้วยการติดตั้งระบบอิเล็คทรอนิคส์ที่จำเป็น และสำหรับรถจักรยานยนต์สมัยใหม่ อย่างเช่น New Bosch cornering ABS ที่จะช่วยคำนวณจังหวะการเบรกกิ้งได้เหมาะสมกับองศาการเลี้ยว หรือแม้แต่ New Easy Shift function ที่ช่วยให้จังหวะการเปลี่ยนเกียร์สั้นลง และพัฒนาค่าแทร็คชั่นที่ล้อหลังให้ดีขึ้น improved rear wheel traction อีกทั้งยังมี New lean angle sensitive motorcycle Traction Control มีการคำนวณค่าแมร็คชั่นของล้อหลังที่เหมาะสมกับแต่ละจังหวะที่รถกำลังเอียงหรือเลี้ยวได้เหมาะสมกับแต่ละองศาในการขี่ขณะเลี้ยวนั่นเอง แน่นอนว่า กราฟฟิคและสีสันคือสิ่งที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนเป็นปกติโดยกราฟฟิคในโมเดลล่าสุดนี้ได้ออกแบบให้เข้ากับมิติตัวรถที่เพรียวมากขึ้นจากเดิม

ด้วยขุมพลังขนาด 74 แรงม้า ตามที่กล่าวไว้แล้วนั้น มาจากเครื่องยนต์สูบเดียว single overhead camshaft สี่วาล์วระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่มีการปรับฝาสูบด้วยการใช้ intake valve หรือ วาล์วไอดี ขนาด 42 มม. พร้อม exhaust valve หรือ วาล์วไอเสีย ขนาด 34 มม. ซึ่งเครื่องยนต์ให้แรงบิดขนาด 71 นิวตันเมตร ที่ 6,750 รอบ ต่อนาที และแน่นอนว่ากำลังสูงสุด 74 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ ต่อนาที ซึ่งจะส่งผ่านชุดเกียรแบบ เกียร์บ๊อกซ์น้ำหนักเบา lightweight 6 speed gearbox ที่มาพร้อมกับ easy shift function ที่ออกแบบมาให้จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ทำได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้คลัทช์ในการจ่ายน้ำมันนั้นใช้ Keihin electronic fuel injection system ที่มีเรือนลิ้นเร่งขนาด 50 มม. ซึ่งจังหวะการเปิดปิดคันเร่งนั้นเป็นแบบ Ride-by -wire throttle ที่ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า และผ่านการสั่งงานโดย engine management system หรือ EMS ที่จะประมวลผลผ่านเซ็นเซอร์

สเปคพื้นฐานของตัวรถมีข้อมูลดังนี้
ENGINE
Displacement 7 cm³
Power in KW 55 kW
Design1-cylinder, 4-stroke engine
Bore 105 mm
Stroke 80 mm
Starter Electric starter
Lubrication Forced oil lubrication with 2 oil pumps
Transmission 6-speed
Cooling Liquid cooled
Clutch APTC(TM) slipper clutch, hydraulically actuated
EMS Keihin EMS with RBW, twin ignition
CHASSIS
Frame design Chromium-Molybdenum steel trellis frame, powder coated
Suspension travel (front) 215 mm
Suspension travel (rear) 240 mm
Front brake Brembo four-piston radial fixed calliper, brake disc
Rear brake Brembo single-piston floating calliper, brake disc
Front brake disc diameter 320 mm
Rear brake disc diameter 240 mm
ABS Two-channel Bosch 9.1 MP ABS (incl. Cornering ABS and Supermoto mode Disengegable)
Steering head angle 6 °
Ground clearance 238 mm
Seat height 890 mm
Tank capacity (approx.) 13 l
Weight without fuel 147 kg

รีวิว ยามาฮ่าฟินน์ สีสันใหม่ สไตล์ ฟินน์

ยามาฮ่า ฟินน์ สีสันใหม่ มาพร้อมฟังก์ชั่นใหม่ๆ มีให้เลือกทั้งสตาร์ทมือ และสตาร์ทเท้า ให้ความสะดวกสบาย ทั้งสวย ทนทาน ไม่จุกจิก และสุดประหยัดด้วยสมองกลอัจฉริยะ ECU ควบคุมหัวฉีดสุดประหยัดสั่งจ่ายน้ำมันทำให้ประหยัดมากขึ้น เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รับประกัน 5 ปี

Review New Honda MSX125SF

New Honda MSX125SF นับเป็นสตรีทไบค์ที่ได้รับการออกแบบให้เป็นรถที่ขับขี่สนุกด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวคล่องตัว มันส์กว่าด้วยคลัทช์มือ ทั้งยังให้ความมั่นใจทุกครั้งที่ใช้เบรกหน้าด้วยการติดตั้งเทคโนโลยีสุดล้ำอย่างระบบเบรก ABS With G-Sensor ซึ่งที่ผ่านมาเราจะได้เห็นเทคโนโลยีนี้เฉพาะในรถบิ๊กไบค์สายสปอร์ตเป็นส่วนใหญ่อาทิ CBR1000RR ครับ

Review All New YAMAHA NMAX 155

ยามาฮ่าตอกย้ำความเป็นผู้นำออโตเมติกสุดแม็กซ์เปิดตัว All New YAMAHA NMAX 155 รุกตลาดรถออโตเมติกพรีเมี่ยมระดับ 155 ซีซี เปิดจำหน่ายในราคา 85,900 บาท

Review New Yamaha GT125

Yamaha GT125 ใหม่! New Generation of Torque เฟี้ยวฟาสต์ บาดใจ สไตล์สปอร์ตเต็มขั้น ที่สุดแห่งความเร้าใจ โฉบเฉี่ยวขี่สนุก ด้วยเครื่องยนต์บลูคอร์ ขนาด 125 ซีซี ออกตัวแรง บิดเร่งเร้าใจ…สไตล์วัยมันส์ พร้อมรับประกันทั้งคัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร* เป็นครั้งแรกของโลก!

Yamaha Thailand Racing Team

ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมของทีมแข่ง ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ในสังเวียนระดับเอเชีย สามารถคว้าโพเดี้ยมมาครองได้ทั้งสองเรซในการแข่งขัน เอเชีย โรดเรซซิ่ง แชมเปี้ยมชิพ สนามแรกที่ เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอรืกิต ประเทศมาเลเซีย มีคะแนนสะสมอยู่หัวตารางลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้

รุ่นใหญ่สุดของรายการ Superbike 1000cc ทีม ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิง ทีม ส่งสองนักแข่งระดับหัวกะทิ สแตมป์-อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์#24 และ ตรี-อนุภาพ ซามูล#500 เพื่อลุ้นแชมป์ของฤดูกาลนี้ โดยทั้งคู่จะใช้รถแข่งทีเป็นสุดยอดของเทคโนโลยีรหัสแข่ง YZF-R1M 2020 ที่มีการพัฒนาสมรรถนะเครื่องยนต์เพื่อรองรับการขับขี่ที่เร้าใจทั้งในสนามแข่งและการขับขี่ทั่วไป แต่สำหรับใช้ในการแข่งขันจึงมีการปรับเปลี่ยนใหม่เหมาะสมในสนาม

มีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้างดูได้ที่รูป และข้อมูลตัวรถ

Yamaha YZF-R1M #24 & #500
Yamaha Thailand Racing Team
ชุดแฟริ่ง สำหรับการแข่งขัน
กราฟฟิคสี Yamaha Thailand Racing Team
มือคลัตช์ Gale Speed
พักเท้า อะลูมิเนียมสำหรับการแข่งขัน
เครื่องยนต์ 4 สูบ ปริมาตรกระบอกสูบ
998 ccm. DOHC 4 วาล์วต่อสูบ
ระบบระบายความร้อน ระบายความร้อนด้วยน้ำ
หม้อน้ำ BM Radiator
ระบบจ่ายน้ำมัน ระบบหัวฉีดพร้อมเทคโนโลยี YCC-T และ YCC-I
กรองอากาศ Sprint Filter
เกียร์ 6 ระดับ
ระบบคลัตช์ แบบเปียกพร้อมเทคโนโลยี
สลิปเปอร์คลัตช์ STM
โซ่ DID
สเตอร์ อะลูมิเนียม Sunstar
ท่อ Akapovic
ECU GYTR
การ์ดแคร้งเครื่อง GB Racing
โช้คอัพหน้า Ohlins 43 mm. โมดิฟายชุดคิท FKR
โช้คอัพกันสะบัด Ohlins
โช้คอัพหลัง Ohlins TTX-GP
ระบบเบรกหน้า ดิสก์เบรกแบบคู่ ปั๊มลอย brembo Racing ขนาด 19×18 มือเบรก RCB การ์ดมือเบรก RC เพิ่มชุดรีโมทสำหรับปรับระยะมือเบรก จานเบรก brembo T Drive 320 mm. คาร์ลิปเปอร์ YZF-R1M ขนาด 4 ลูกสูบ
ระบบเบรกหลัง ดิสก์เบรกแบบเดี่ยว
ปั๊มเบรก YZF-R1M
จานเบรกหลัง YZF-R1M 220 mm. สายเบรก Active
ล้อ YZF-R1M 17×3.50, 17×6.00
ยาง DUNLOP

2020 AMA Supercros R.6-7

หลังจากที่โลกเผชิญกับโลกร้าย โควิด-19 รายการเอเอ็มเอซูเปอร์ครอส ก็ยังคงเดินหน้าจัดการแข่งขันต่อไป กระทั่งเข้าสู่ต้นเดือนมีนาคม ซึ่งดำเนินการจัดแข่งขันมาถึงสนามที่ 10 โดยช่วงนี้ ไวรัสโควิด-19 ได้ขยายวงกว้างไปหลายประเทศ และเริ่มแทรกซึมเข้าสู่สหรัฐอเมริกา ทางผู้จัดแข่งขัน จึงได้ประกาศเลื่อนการแข่งขันไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งเป็นไปตามประกาศของทางการสหรัฐที่ว่า ห้ามชุมนุม ห้ามเดินทางข้ามรัฐ จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น….และทางไรดิ้งจะทำการรายงานการแข่งขันที่ได้แข่งไปแล้ว ไปเรื่อยๆ ครับผม

สนาม 6 (8 ก.พ.63)
ซานดิเอโก, รัฐแคลิฟอร์เนีย
250cc ฝั่งตะวันตก
โฮลชอตเป็นของ ออสติน โฟร์คเนอร์ (คาวาซากิ) ก่อนโดน ไมเคิล โมซิแมน (ฮัสวาน่า) แซงขึ้นนำ โฟร์คเนอร์พยายามไล่ทวงคืน และแซงขึ้นไปนำได้ในรอบที่ 5 โมซิแมนได้ ดีแลน เฟอร์แรนดิส (ยามาฮ่า) ขึ้นมาไล่กดดัน ทั้งคู่ผลัดกันขึ้นนำอยู่หลายโค้ง จนโมซิแมนขี่เสียจังหวะ เฟอร์แรนดิสเลยได้ขึ้นที่ 2 โมซิแมนเริ่มขี่ข้าลง เลยโดน จัสติน คูเปอร์ (ยามาฮ่า) แซงขึ้นที่ 3มาที่ เฟอร์แรนดิส เขาเร่งสปีดขึ้นไปหาจ่าฝูงโฟร์คเนอร์ พอทันก็ไล่กดดัน และแซงขึ้นนำได้โดยการเสียบไลน์ในโค้ง ช่วง 4 รอบสุดท้าย โดยเกมจบที่ เฟอร์แรนดิสชนะ โฟร์คเนอร์ที่ 2 คูเปอร์ที่ 3 โมซิแมนที่ 4 และแบรนดอน ฮาร์ทแรน (เคทีเอ็ม) ที่ 5
คะแนนสะสมฝั่งตะวันตก (6 จาก 10 สนาม)

  1. ดีแลน เฟอร์แรนดิส 135 คะแนน
  2. จัสติน คูเปอร์ 128 คะแนน
  3. ออสติน โฟร์คเนอร์ 122 คะแนน
  4. แบรนดอน ฮาร์ทแรน 110 คะแนน
  5. อเล็กซ์ มาร์ติน 98 คะแนน

450cc
เบลค แบคเก็ต (เคทีเอ็ม) ได้โฮลชอต แต่มาโดน อดัม เชนเชียรูโล (คาวาซากิ) กับคูเปอร์ เวบบ์ (เคทีเอ็ม) ที่ขี่อยู่ไลน์ในแซงขึ้นไปนำ ผ่านไปอีกไม่กี่โค้งเว็บบ์ก็โดน อารอน เพลสซิงเกอร์ (ยามาฮ่า) มัลคอม สจ๊วต (ฮอนด้า) และจัสติน ฮิล (ฮอนด้า) แซงขึ้นที่ 3-4-5 ได้ก่อนจบรอบแรก เวบบ์ตั้งหลักได้ก็จะขอแซงคืน เริ่มจากแซงฮิลขึ้นที่ 5 ในรอบที่ 2 แซงมัลคอมขึ้นที่ 4 ในรอบที่ 4 และแซงเพลสซิงเกอร์ขึ้นที่ 3 ในรอบที่ 7 ด้านหลังเวบบ์กลายเป็น จัสติน บาร์เชีย (ยามาฮ่า) เคน ร็อคเซน (ฮอนด้า) และอีไล โทแมค (คาวาซากิ) ที่ค่อยๆ ไล่แซงตามเวบบ์ขึ้นมา จากนั้นโทแมคก็แซงร็อคเซนขึ้นที่ 5 ในรอบที่ 9 และแซงบาร์เชียขึ้นที่ 4 ในรอบที่ 11 ไปที่คู่ชิงจ่าฝูง เวบบ์พอขึ้นมาทันโฟร์คเนอร์ ก็ไล่กดดัน ผลัดกันเสียบในอยู่หลายครั้ง แต่ที่สุดเวบบ์ก็นำขาด โดยเกมจบที่ เวบบ์ชนะ เชนเชียรูโลที่ 2 แบคเก็ตที่ 3 โทแมคที่ 4 และบาร์เชียที่ 5

สนาม 7 (15 ก.พ.63) แทมพา, รัฐฟลอริดา
250cc ฝั่งตะวันออก
เป็นสนามแรกของฝั่งตะวันออก จอร์ดอน สมิธ (คาวาซากิ) ได้โฮลชอตก่อนโดน เชน แมคเอลราธ (ยามาฮ่า) แซงขึ้นนำได้ก่อนจบรอบแรก จากนั้นสมิธก็มาโดน เจเรมี่ มาร์ติน (ฮอนด้า) ชิงที่ 2 ไปในรอบที่ 2 ขี่ตามสมิธมาก็มี เชส เซกซ์ตัน (ฮอนด้า) โจ ชิโมดา (ฮอนด้า) และอาร์เจ แฮมชายร์ (ฮัสวาน่า) เชสตันไล่กดดันสมิธ มาแซงขึ้นที่ 4 ได้ในรอบที่ 4 จากนั้นก็ชิงที่ 2 มาจากเจเรมี่ได้ในรอบที่ 5 ขณะที่ด้านหลัง สมิธโดน แกเรตต์ มาร์ชแบงค์ (คาวาซากิ) แซงขึ้นที่ 4 ได้ในรอบที่ 8 โดยเกมจบที่แมคเอลราธชนะ เซกซ์ตันที่ 2 เจเรมี่ที่ 3 มาร์ชแบงค์ที่ 4 และสมิธที่ 5
คะแนนสะสม

  1. เชน แมคเอลราธ 26 คะแนน
  2. เชส เซกซ์ตัน 23 คะแนน
    3 .เจเรมี่ มาร์ติน 21 คะแนน
  3. การ์เรตต์ มาร์ชแบงค์ 19 คะแนน
  4. จอร์ดอน สมิธ 18 คะแนน

450cc
วินซ์ ฟรีซ (ฮอนด้า) ได้โฮลชอตก่อนโดน เชนเชียรูโลแซงขึ้นไปนำแทน และในรอบที่ 2 ก็โดนโทแมคกับมัลคอมแซงขึ้นที่ 2-3 แถมในรอบที่ 3 ฟรีซยังมาโดน เวบบ์กับร็อคเซน ชิงที่ 3-4 ไปได้อีก โทแมคไล่กดดันจ่าฝูงเชนเชียรูโลก่อนแซงขึ้นนำได้ในรอบที่ 11 ขึ้นรอบที่ 15 โทแมคแซงมัลคอมขึ้นที่ 3 และในรอบต่อมา เชนเชียรูโลพลาดล้ม หล่นไปหลายตำแหน่ง โทแมคเลื่อนขึ้นที่ 2 เกมผ่านไปอีก 2-3 รอบ ร็อคเซนเสียบในมัลคอม แซงขึ้นที่ 3 ได้ในรอบที่ 18 ช่วงท้ายเกม มัลคอมโดน จัสติน ฮิล ชิงที่ 4 ไปได้ แต่ใน 2 รอบสุดท้าย ฮิลก็โดนบาร์เชียที่แซงมัลคอมมาได้ แซงชิงที่ 4 ไปได้อีก โดยเกมจบที่โทแมคชนะ เวบบ์ที่ 2 ร็อคเซนที่ 3 บาร์เชียที่ 4 และฮิลที่ 5
คะแนนสะสม (7 จาก 17 สนาม)

  1. อีไล โทแมค 155 คะแนน
  2. เคน ร็อคเซน 151 คะแนน
    3 .คูเปอร์ เวบบ์ 144 คะแนน
  3. จัสติน บาร์เชีย 135 คะแนน
  4. อดัม เชนเชียรูโล 128 คะแนน

Vespa Racing Sixties

นี่คือที่สุดของ Elegant Sports Style ที่ค่ายอิตาเลี่ยนสกู๊ตเตอร์อย่าง Vespa ออกแบบมาหรือตกแต่งภาพลักษณ์ให้กับ Vespa Sprint และ GTS Super โดยซีรี่ส์รถนี้เรียกว่า Vespa Racing Sixties ที่จัดอยู่ใน Special Series ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการแข่งขันในยุคคลาสสิค อย่างยุค ’60 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีตำนานประวัติศาสตร์ในวงการแข่งขันมากมาย

ดังนั้นเพื่อความพิเศษทาง Vespa จึงได้นำ Vespa Sprint และ Vespa GTS Super มาปรับแต่งเป็น Special Series ด้วยโทนสีและกราฟิคเฉพาะซีรี่ส์พิเศษ โดยในกลุ่มรถ Sprint จะมีทั้งขนาดเครื่องยนต์ 50-125-150 ซีซี ส่วนกลุ่มรถ GTS Super จะมีขนาด 125-300 ซีซี นอกจากลวดลายกราฟฟิค และสีดังกล่าวแล้ว ยังมีการปรับเบาะนั่งใหม่ และวงล้อใหม่อีกด้วยเพื่อให้เป็นซีรีส์พิเศษที่แตกต่างจากไลน์ผลิตปกติ ก็ติดตามจากภาพที่เรานำมาให้ชมกันนี้เลย

พร้อมด้วยคอลเล็คชั่นเครื่องแต่งกายที่ออกมาพร้อมกันนี้ ลองสอบถามตัวแทนจำหน่ายในประเทศว่ามีซีรีส์พิเศษนี้เข้ามาจำหน่ายหรือไม่ เพราะนี่เป็นภาพชุดที่เราได้รับมาจากต่างประเทศนำมาฝากกัน

Fino Sporty On The Road

จะมองมุมไหนก็โดนใจกับรถจักรยานยนต์ออโตเมติกแฟชั่นสุดสวยจากค่าย ยามาฮ่า หาเทรนด์ใหม่ให้ผู้ใช้ตลอดเวลา และไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนักแต่งรถยุคนี้เพราะว่าอุปกรณ์ของแต่งทั้งหลายสามารถหาได้ง่าย แต่ใครจะสามารถออกไอเดียได้โดดเด่นกว่ากันนั่นมันอีกเรื่อง อย่างเจ้า FINO คันนี้ ถูกปรับแต่งเพิ่มออพชั่นด้วยของแต่งเทรนด์ใหม่ล้วนๆ ทั้งสมรรถนะที่ดีขึ้น และความสวยงามที่เตะตาบนท้องถนน

จัดแต่งมาแบบเห็นแล้วอยากได้ขี่ไปโฉบสาวสักรอบ ลวดลายสีสันเน้นความเป็นสปอร์ตคมเข้ม ด้วยพื้นดำด้านตัดด้วยลายข้างสีส้มและสีเทา ด้วยรูปทรงของตัวรถที่ออกแบบใหม่ จิวเวอรี่ลุค ทำให้มุมมองต่างๆ มีความโค้งมนรับกันตลอดทั้งคัน เรียกได้ว่าหล่อ เท่ห์ ไม่ซ้ำใคร

ปรับลุคให้ไฉไลด้วยของเล่นเทรนด์ใหม่ เพิ่มสมรรถนะการควบคุมที่สนุกสนานมากยิ่งขึ้นด้วยโช้คอัพหน้าคู่ใหม่ เทคโนโลยีล้ำสมัยกับระบบการทำงานแบบหัวกลับ Up Side Down กระบอกดำแกนโคสติ้งสีทองสุดฮอตจาก โช้คอัพ Gazi วงล้อแม็กเปลี่ยนลายเพิ่มความสปอร์ตด้วยแม็กขนาด 12 นิ้ว หน้ากว้าง 10 ก้าน รัดขอบด้วยยางเรเดียลทูปเลส ระบบดิสก์เบรกใช้จานดิสก์สร้างขนาด 200 มม. แบบให้ตัวด้วยโฟลท์ติ้งอลูมินัม 8 ตัว คาลิเปอร์เบรกสไตล์ของรถสกู๊ตเตอร์ลูกสูบคู่ สายไล่น้ำมันแบบถักย้ำด้วยหัวสแตนเลสแบบวงแหวน ส่วนเบรกหลังแบบดรัมเบรกปรับเปลี่ยนขารั้งใหม่อลูมินัมแบบแยกชิ้น ช่วงบนควบคุมบังคับด้วยแฮนด์บาร์กว้างสวมด้วยปลอกแฮนด์อลูมินัมก้านเบรกแบบปรับระดับ กระจกมองข้างทรงเหลี่ยม เบาะนั่งปาดเรียบๆ ในส่วนของฟุตบอร์ดเสริมออพชั่นด้วยชุดพักเท้าโครงเหล็กดัด พักเท้าแบบพับขึ้น

ช่วงหลังจัดมาเต็มๆ กับระบบรองรับกันสะเทือนด้วยโช้คอัพเดี่ยว ทำงานสองระบบ ทั้งแก๊ส และน้ำมัน พร้อมกับแท้งค์แก็สแบบบิ้วท์อิน ที่สามารถปรับความพรีโหลด รีบาวด์ ได้ และยกสูงปรับองศาขึ้นด้วยสเปเซอร์อลูมินัม และเครื่องยนต์เสริมออพ ชั่นการดูดอากาศเพิ่มด้วยตัวกรองต่อยื่นออกมาด้านนอกปลายอลูมินัมเทรนด์ใหม่มาแรง ส่วนทางด้านขวา ท่อไอเสียสแตนเลสสวมด้วยปลายสแตนเลสชุบรุ้ง เบียดทุกกระแสความเท่ห์ด้วยไอเดียแบบสปอร์ตยอดนิยม ทั้งสีสัน และออฟชั่นที่ลงตัว…นี่ล่ะ Fino Sporty

Yamaha TMAX

เปิดตัวมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาระหว่างงาน EICMA 2019 รวมทั้งในโตเกียวมอเตอร์โชว์ สำหรับรถบิ๊กสกู๊ตเตอร์จาก Yamaha ที่ผู้ขับขี่ทั่วโลกคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับชื่อของ TMAX ที่ล่าสุดได้เพิ่มปริมาตรเครื่องยนต์เป็น 560 ซีซี นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับอีกเวอร์ชั่นที่ส่งมาคู่กัน คือ Tech MAX

ด้วยขุมพลังใหม่สองสูบ 560 ซีซี นั้นมาจากการเพิ่มขนาดกระบอกสูบอีก 2 มม.
จนขยายเป็น 70 มม. นั่นเอง ด้วยปริมาตความจุที่เพิ่มขึ้นมานี้ทำให้ได้กำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นมาอีก 3.5% พร้อมกับมีแรงบิดสูงสุดเพิ่มอีก 6% เมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ ขณะที่น้ำหนักของเครื่องยนต์ใหม่มาจากตัวเดิม 1% เท่านั้น และเครื่องยนต์ใหม่นี้ยังมีค่ามาตรฐาน
ไอเสียระดับ Euro5 อีกด้วย โดยได้รับอานิสสงค์มาจากการปรับรูปทรงห้องเผาไหม้ใหม่ ไม่ว่าการปรับวาล์วไอดี intake valve ใหม่ใหญ่ขึ้นเป็น 27 มม. การปรับตั้งค่า valve timing
ทั้งในส่วนของ intake valve และ exhaust valve ขณะเดียวกันตัวหัวฉีดเองก็สามารถพ่นละอองเชื้อเพลิงได้อย่างแม่นยำมีประสิทธิภาพช่วยให้มีการเผาไหม้ที่ยอดเยี่ยม

นอกจากนี้ในส่วนอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องกับเครื่องยนต์ก็ได้แก่ชิ้นส่วนของระบบระบายความร้อนที่ได้ปรับขนาดหม้อน้ำให้ใหญ่ขึ้น รวมทั้งการเปลี่ยนชุดท่อเดินอากาศ air duct ใหม่ สำหรับ TMAX เวอร์ชั่นใหม่นี้ ยังมาพร้อมกับสองเอ็นจิ้นโหมด 2engine modes คือ โหมดแบบสปอร์ตสำหรับการใช้ขับขี่บนถนนเดินทางไกล กับโหมดการใช้งานในเมือง โดยที่ภาพรวมของระบบการส่งกำลังใน TMAX ใหม่นี้ได้มีการปรับชุดส่งกำลัง CVT ให้สามารถส่งกำลังได้ต่อเนื่องรุนแรงดีกว่าโมเดลก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะการทำความเร็วในรอบสูง โดยยืนยันว่าอัตราเร่งที่ส่งออกมานั้นให้ความนุ่มนวล และเร่งติดมือมากขึ้นกว่าเดิม

ด้วยโครงสร้างแชสซีส์เช่นเดียวกับ TMAX ที่ผ่านมา ที่มีการออกแบบโครงสร้างใกล้เคียงกับความเป็นรถจักรยานยนต์มากกว่าสกู๊ตเตอร์ ด้วยการที่ส่วนของเครื่องยนต์กับสวิงอาร์มนั้นแยกจากกันต่างกับรูปแบบของสกู๊ตเตอร์ทั่วไป ดังนั้นพื้นที่ส่วนนี้จึงเอื้อให้ทีมวิศวกรสามารถออกแบบระบบกันสะเทือนที่จะนำมาใช้ได้กว้างขวางกว่า ด้วยการเลือกใช้กันสะเทือนหลัง link type monocross rear shock ส่วนกันสะทือนหน้านั้นเป็น upside down fork ขนาด 41 มม. นั่นหมายความว่าระบบกันสะเทือนของ TMAX พร้อมสำหรับรองรับการขับขี่ในแบบสปอร์ตอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับชิ้นส่วนของ bodywork ที่แม้ว่าแทบทุกชิ้นส่วนจะมีความเป็นสกู๊ตเตอร์ แต่การออกแบบ

โครงสร้างของ TMAX นั้นเน้นรูปทรงการออกแบบที่ออกมาเป็น boomerang shaped อีกทั้งยังมีพื้นที่ใต้เบาะสำหรับเก็บสัมภาระที่มากเพียงพอสำหรับหมวกกันน๊อคแบบเต็มใบหนึ่งใบ หรือแบบเปิดหน้าสองใบ และอย่างที่กล่าวไปแล้วว่า TMAX มาพร้อมกับ TMAX Tech MAX ที่เป็นตัวเลือกอีกเวอร์ชั่น ซึ่งเสริมแต่งเติมความสะดวกสบายให้การขับขี่ อาทิเช่น การรองรับ smartphone app อย่าง GPS tracking อีกทั้งยังติดตั้ง อุปกรณ์มาตรฐานด้วย electric-adjustable windscreen ระบบ cruise control หรือแม้แต่ adjustable rear suspension ระบบกันสะเทือนหลังแบบปรับได้ ก็เป็นทางเลือกสำหรับผู้ชื่นชอบบิ๊กสกู๊ตเตอร์จาก Yamaha ในระดับเรือธง ที่มาทั้ง TMAX สแตนดาร์ต และเวอร์ชั่นออพชั่นครบอย่าง Tech Max

ยามาฮ่าตอกย้ำความเป็นผู้นำออโตเมติกสุดแม็กซ์ เปิดตัว All New YAMAHA NMAX 155 รุกตลาดรถออโตเมติกพรีเมี่ยมระดับ 155 ซีซี

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฝ่าวิกฤติไวรัสโควิด-19 เดินหน้ารุกตลาดรถจักรยานยนต์เมืองไทยครั้งใหม่ โดยครั้งนี้ยามาฮ่าได้ทำการเปิดตัว All New YAMAHA NMAX 155 รถจักรยานยนต์ออโตเมติกพรีเมี่ยมระดับ 155 ซีซี ซึ่งมาพร้อมกับรูปลักษณ์ใหม่ที่เต็มไปด้วยความทันสมัย พร้อมฟังก์ชั่นใหม่ที่ตอบสนองการใช้งานได้อย่างครบครัน ถึงแม้ในปี 2563 ตลาดจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ ไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจยังชะลอตัวอยู่ แต่ในช่วงไตรมาสแรกของปีตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2563 ที่ผ่านมารถจักรยานยนต์ออโตเมติกระดับพรีเมี่ยมของยามาฮ่ายังคงสามารถทำยอดขายได้ต่อเนื่อง ผนวกกับการรับประกันคุณภาพของรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ด้วยการรับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร จึงสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี

สำหรับ All New YAMAHA NMAX 155 รถจักรยานยนต์ออโตเมติกพรีเมี่ยมระดับ 155 ซีซี ใหม่นี้ มาพร้อมกับความสุดแม็กซ์ทั้งในด้านดีไซน์ เทคโนโลยี สมรรถนะการขับขี่ และฟีเจอร์ฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างครบครัน ได้รับการออกแบบดีไซน์ใหม่ ด้วยสไตล์ตามแบบฉบับของ MAX Series อย่างแท้จริง โดยเฉพาะไฟหน้า และไฟท้ายแบบ LED ใหม่ ที่ออกแบบตามรุ่นพี่อย่าง YAMAHA XMAX300 ได้อย่างลงตัว และเพิ่มระบบไฟสัญญาณฉุกเฉิน Hazard Lamp เพื่อความปลอดภัยให้มากขึ้น มาพร้อมกับสมรรถนะที่เหนือชั้นจากรถออโตเมติกพรีเมี่ยมในระดับเดียวกันอย่างสิ้นเชิง ด้วยเครื่องยนต์ BLUE CORE เจนใหม่ ขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 155 ซีซี แบบ 1 ลูกสูบ 4 วาล์ว พร้อมระบบ VVA ระบบวาล์วแปรผันที่ตอบสนองอัตราเร่งได้ดีในทุกรอบเครื่องยนต์ ลูกสูบ Forged แบบรถสปอร์ต อัดขึ้นรูปที่มีความทนทานและแข็งแรง เพิ่มระบบ SMART MOTOR GENERATOR มอเตอร์ไฟฟ้าที่ช่วยให้การสตาร์ทเครื่องยนต์เงียบขึ้นและสตาร์ทติดได้อย่างรวดเร็ว เสริมด้วยระบบ Stop & Start System ระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถจอดสนิท ช่วยให้การประหยัดน้ำมันยิ่งกว่าเดิม

นอกจากนี้ All New YAMAHA NMAX 155 ยังสุดแม็กซ์อัดแน่นด้วยสมาร์ทฟังก์ชั่นใหม่ๆ ที่พร้อมตอบสนองการใช้งานไว้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ Digital LED ใหม่ มีขนาดใหญ่ที่แสดงได้ครบทุกฟังก์ชั่น พร้อมสวิตช์ควบคุมเปลี่ยนโหมดหน้าจอที่แฮนด์ ที่ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ SMART KEY SYSTEM พร้อมสัญญาณตอบรับ ANSWER BACK ช่องเก็บของด้านหน้าทั้ง 2 ข้าง พร้อม ACC Socket Charger อุปกรณ์ชาร์จไฟขนาด 12V สำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์นำทางในขณะเดินทาง และที่เก็บสัมภาระใต้เบาะขนาดใหญ่ สามารถใส่หมวกกันน็อกเต็มใบได้ และยังเหลือพื้นที่เก็บของได้อีก ส่วนในด้านความปลอดภัย All New YAMAHA NMAX ยังคงติดตั้งระบบเบรก ABS เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ในจังหวะเบรกเพื่อชะลอหรือหยุดรถ พร้อมดิสก์เบรกทั้งล้อหน้า และล้อหลัง ซึ่งมีเพียงรุ่นเดียวเท่านั้นในรถออโตเมติกพรีเมี่ยมระดับเดียวกัน โดย All New YAMAHA NMAX 155 พร้อมเปิดจำหน่ายในราคาเร้าใจสุดแม็กซ์ เพียง 85,900 บาท มีให้เลือกด้วยกัน 4 สี คือสีเทา-ล้อทอง สีดำ-ล้อทอง สีแดง และสีน้ำเงิน ฃ

พบกับรถจักรยานยนต์ All New YAMAHA NMAX 155 ใหม่ รถจักรยานยนต์ออโตเมติกระดับพรีเมี่ยม 155 ซีซี ที่จะทำให้ชีวิตสุดแม็กซ์ ได้แล้วที่ร้านผู้จำหน่ายรถยามาฮ่าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป