












อเล็กซ์ มาร์เกซ น้องชายแชมป์โลก จาก เรปโซล ฮอนด้า หมายเลข 73 ระเบิดฟอร์มแกร่ง ไล่แซงคู่แข่ง 9 คันรวด ผงาดคว้ารองแชมป์ ศึกโมโตจีพี 2020 สนามที่ 10 โฮมเรซของเจ้าตัวที่อารากอน ประเทศสเปน ขณะที่นักบิดไทย “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา จากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” สตาร์ทกริดที่ 25 ฮึดเข้าป้ายที่ 23 รุ่นโมโตทู เตรียมแก้มือลุ้นแต้มเรซถัดไปบนสังเวียนเดิม ดวลความเร็วต่อเนื่องสัปดาห์หน้า
การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบระดับโลก “โมโตจีพี” สนามที่ 10 ของฤดูกาล จัดขึ้นที่มอเตอร์แลนด์ อารากอน ประเทศสเปน มีคิวดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันรุ่นใหญ่ปรากฏว่า อเล็กซ์ มาร์เกซ นักบิดรุกกีส์ชาวสแปนิช จาก เรปโซล ฮอนด้า หลังปลดล็อกตำแหน่งบนโพเดียมได้สำเร็จเป็นครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ก่อน เรซนี้เจ้าของหมายเลข 73 สามารถระเบิดฟอร์มแกร่งได้อีกครั้ง หลังออกตัวกริดที่ 11 ไล่แซงคู่แข่ง 9 คันรวด จบอันดับที่ 2 ห่างผู้ชนะเพียง 0.263 วินาที ผงาดคว้ารองแชมป์โฮมเรซไปครอง พร้อมเก็บแต้มขยับขึ้นไปรั้งอันดับที่ 12 บนตารางแชมเปียนชิพ มี 67 แต้ม
สำหรับนักบิดฮอนด้าคนอื่นๆ ได้แก่ ทาคาอากิ นาคากามิ นักบิดเลือดซามูไร หมายเลข 30 จากแอลซีอาร์ ฮอนด้า อิเดมิตสึ เข้าป้ายท็อปไฟว์ในอันดับที่ 5 มี 92 แต้ม อยู่ที่ 5 คาล ครัทช์โลว หมายเลข 35 จากแอลซีอาร์ ฮอนด้า คาสตรอล หายเจ็บกลับมาเก็บแต้มได้อีกครั้ง เข้าที่ 8 มี 21 แต้ม อยู่ที่ 18 ส่วน สเตฟาน แบรเดิล หมายเลข 6 นักบิดทดสอบ ลงสนามเป็นตัวแทน มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลก 8 สมัย จาก เรปโซล ฮอนด้า จบที่ 17 มี 8 แต้ม รั้งที่ 21
ขณะที่รุ่นโมโตทู นักบิดหนึ่งเดียวของไทยอย่าง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา หมายเลข 35 จากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ได้ออกสตาร์ทกริดที่ 25 ฮึดสู้เต็มที่ บิดเข้าเส้นชัยอันดับที่ 23 ยังมีโอกาสแก้มือลุ้นแต้มเรซถัดไป เตรียมชิงชัยบนสังเวียนเดิม ในสัปดาห์หน้า ระหว่างวันที่ 24-25 ตุลาคมนี้
“โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ #56 นักบิดหน้าหยกจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม โชว์ฟอร์มเก่งสมราคาแชมป์เอเชีย ควบรถแข่ง Yamaha YZF-R6 คว้าอันดับ 3 ฉลองโพเดี้ยมในศึก โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี สนามสุดท้าย ขณะ “ฟอง” คณาทัต ใจมั่น #90 จาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด ดี.ไอ.ดี. เออห์ลิน กิ๊กะไบค์ ลิควิ โมลี เคเอ็นบี เรซซิ่ง ฝ่าวิกฤติจบเรซอันดับ 7 พร้อมผงาดคว้าแชมป์ประจำปีอย่างยิ่งใหญ่ หลังจบเรซสุดมันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 สนามสุดท้าย ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร
โดยในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ที่มีดาวบิดระดับเอเชียลงดวลอย่างคับคั่ง ชิงชัยกันทั้งสิ้น 12 รอบสนาม กริดสตาร์ทเรซนี้มี “เอ้” วรพงศ์ มาลาหวล #146 จาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด เป็นเจ้าของโพล ขนาบข้างด้วย “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ #56 แชมป์เอเชียสังกัด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ขณะที่จ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพอย่าง คณาทัต ใจมั่น #90 จาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด ดี.ไอ.ดี. เออห์ลิน กิ๊กะไบค์ ลิควิ โมลี เคเอ็นบี เรซซิ่ง ต้องเริ่มเกมจากกริดที่ 4
หลังผ่าน 5 รอบแรกของการแข่งขัน เกมยังคงพลิกผันตลอดเวลา เพราะมีนักบิดถึง 6 คนที่มีโอกาสคว้าชัยชนะในเรซนี้ โดยเกมมาเข้มข้นอีกครั้งในช่วง 3 รอบสุดท้าย ผลปรากฏว่า วรพงศ์ บิดเข้าป้ายในอันดับ 2 ตามหลังแชมป์เพียง 0.627 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ รัฐพงษ์ ตามหลังแชมป์ 3.763 วินาที
ขณะที่ดาวรุ่งของยามาฮ่าอย่าง กฤตภัทร เขื่อนคำ #33 วัย 15 ปี จาก ยามาฮ่า ทีเอส เรซซิ่งทีม สร้างผลงานอย่างโดดเด่น ทะยานขึ้นมาเป็นผู้นำได้ในช่วง 3 รอบแรก ก่อนจะบิดเข้าป้ายในอันดับ 4 ตามหลังแชมป์เพียง 10.515 วินาที พลาดโพเดี้ยมอย่างเฉียดฉิว ส่วนทีมเมทอย่าง นิติพงษ์ แสงสว่าง #32 วัย 18 ปี จบเรซในอันดับ 6 ตามหลังแชมป์ 37.692 วินาที
ด้าน คณาทัต จ่าฝูงที่ได้ออกตัวจากกริดที่ 4 แต่เจอปัญหาในช่วงแรก ทำให้ร่วงลงไปถึงอันดับ 11 ทว่ายังสามารถฮึดขึ้นมาเข้าป้ายในอันดับ 7 แต่ยังคงเพียงพอให้นักบิดหนุ่มจากขอนแก่น ผงาดคว้าแชมป์ประจำปีในคลาส ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เอสเอส1 ในฤดูกาลนี้ไปครอง
“ทัพนักบิดฮอนด้า” สร้างผลงานยอดเยี่ยมในศึก โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ สนามสุดท้าย โดย “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ ดาวรุ่งจากเอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ประเดิมซิวท็อปไฟว์ ขณะ “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ บู๊ระห่ำขึ้นนำ ด้าน “ดรีม” สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง จาก ไทย ฮอนด้า เรซซิ่ง คลับ ผงาดคว้าชัยชนะส่งท้ายปี เมื่อวันอาทิตย์ ที่สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์
ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการโออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 สนามสุดท้าย ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม 2563 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยในรุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ที่มีดาวบิดระดับเอเชียลงดวลอย่างคับคั่ง ชิงชัยกันทั้งสิ้น 12 รอบสนาม
โดยยอดดาวรุ่งอย่าง “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ เจ้าของหมายเลข 188 จาก เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ได้เริ่มเกมในแถวหน้าจากกริดที่ 3 ส่วนทีมเมทอย่าง “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ เจ้าของหมายเลข 123 ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 5
ออกสตาร์ทเรซ ด้วยการทะยานขึ้นนำของ ภาสวิชญ์ ที่พุ่งขึ้นมาจากกริดที่ 5 ทว่าหลังผ่านโค้ง 3 กลับกลายเป็น ปิยวัฒน์ ที่ไต่ขึ้นมารั้งหัวแถวได้ในรอบแรกของการแข่งขัน โดยมี “ดรีม” สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง จาก ไทย ฮอนด้า เรซซิ่ง คลับ ที่ตามอยู่ในอันดับ 2
หลังผ่าน 5 รอบแรกของการแข่งขัน สิทธิศักดิ์ รองจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพ สามารถขยับขึ้นมาเป็นหัวแถวได้สำเร็จ ทว่าเกมยังคงพลิกผันตลอดเวลา เพราะมีนักบิดถึง 6 คนที่มีโอกาสคว้าชัยชนะในเรซนี้ จากนั้นในรอบถัดมา ภาสวิชญ์ แซงขึ้นมาเป็นผู้นำ ทว่ากลับพลาดล้มไปอย่างน่าเสียดาย
จบการแข่งขัน 12 รอบสนาม แชมป์เรซนี้ตกเป็นของ สิทธิศักดิ์ ที่ควบรถแข่ง Honda CBR600RR เข้าป้ายเป็นคันแรก คว้าแชมป์เรซส่งท้ายฤดูกาล 2020 ไปครอง ส่วน ปิยวัฒน์ ตามเข้าป้ายในอันดับ 5 ประเดิมสนามในรุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ได้ยอดเยี่ยม ตามหลังแชมป์ 18.880 วินาที
ทั้งนี้ เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ที่แม้จะส่งทีมลงแข่งขันใน 2 สนามสุดท้าย แต่สามารถยกระดับเกมดวลความเร็วและสร้างความแตกต่างให้กับเรซได้อย่างมาก จากการขึ้นมาขับเคี่ยวในกลุ่มนำ และแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานการสร้างทีมในระดับสากลได้อย่างชัดเจน
“โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ #56 แชมป์เอเชียในสังกัดยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ที่คัมแบ็คในการลงสนามชิงเจ้าความเร็วภายในประเทศรายการโออาร์ ไทยแลนด์ สนามสุดท้ายซิ่งฝ่าสายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนัก กดเวลาควอลิฟายอยู่ที่ 1 นาที 56.336 คว้าอันดับออกสตาร์ทในกริดที่ 2 โดยทำเวลาตามหลัง “เอ้” วรพงศ์ มาลาหวล #146 จาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด เพียง 0.34 วินาที ส่วนสองดาวรุ่งอย่าง นิติพงษ์ แสงสว่าง #33 และกฤตภัทร เขื่อนคำ #32 คว้าอันดับในการออกสตาร์ทอยู่ที่อันดับ 7 และ 9 ตามลำดับ ขณะที่จ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพอย่าง คณาทัต ใจมั่น #90 จาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด ดี.ไอ.ดี. เออห์ลิน กิ๊กะไบค์ ลิควิ โมลี เคเอ็นบี เรซซิ่ง ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 4
ส่วนรุ่นใหญ่ซูเปอร์ไบค์ 1000 “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #24 แชมป์เอเชียนักแข่งในสังกัดยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ที่รายการนี้ลงทำการแข่งขันในนาม ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ทีม ควบรถแข่ง วายแซดเอฟ-อาร์วัน ฝ่าฝนผงาดคว้าโพลในศึก โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ สนามสุดท้าย พร้อมลุ้นแชมป์เดือดในเรซนี้ ส่วนทีมเมทอย่าง “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ #41 คว้าอันดับออกสตาร์ทในกริดที่ 2 ช้ากว่าเพียง 0.462 วินาที ส่วน “ตี” อนุภาพ ซามูล #94 นักแข่งในสังกัดยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ที่ลงทำการแข่งขันในนามจีเอ็มที94 ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 5
ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 (OR BRIC Superbike Championship 2020) สนามสุดท้ายของฤดูกาล เตรียมดวลความเร็วในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสนามตัดสินแชมป์ประจำปีของทุกคลาส ทั้งนี้ แฟนความเร็วสามารถรับชมถ่ายทอดสด ในวันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม 2563 ทาง TRUE4U ช่อง 24 เวลา 14.30-17.00 น. หรือ Online Live Streaming ทางเพจ Chang Circuit Buriram หรือทาง Youtube ช่อง BRIC Channel ตั้งแต่เวลา 8.00 น. เป็นต้นไป
ร่วมให้กำลังใจนักแข่งในสังกัด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม คว้าชัยในรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยได้ที่ Facebook : Yamaha Thailand Racing Team และ Yamaha Society Thailand
เอ.พี. ฮอนด้า ผู้นำแห่งวงการรถจักรยานยนต์ไทย และผู้บุกเบิกกิจกรรมรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในประเทศไทย สานต่อกิจกรรมการแข่งขันทักษะครูฝึกขับขี่ปลอดภัยระดับประเทศ ครั้งที่ 18 ตั้งเป้ายกระดับความสามารถครูฝึกขับขี่ปลอดภัยประจำร้านผู้จำหน่าย Honda Wing Center กว่า 900 แห่ง เพื่อส่งมอบความรู้และวิธีการขับขี่อย่างปลอดภัยทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติให้กับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าผ่านทางเครือข่ายร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ โดยโปรแกรมการแข่งขันรอบคัดเลือกระดับภูมิภาค มีกำหนดการดังนี้
สำหรับผู้ที่สนใจกิจกรรมฮอนด้าขับขี่ปลอดภัย สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์รถจักรยานยนต์ฮอนด้า : www.aphonda.co.th/hondasafetythailand และกดติตดามสาระดีๆ เกี่ยวกับการขับขี่ปลอดภัยได้ที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก :
การแข่งขันที่ทรหดและการวางแผนของทีมอันยอดเยี่ยมในการแข่งขัน Endurance World Championship เป็นอีกหนึ่งรายการที่ต้องพิสูจน์ความอึดของคนกับรถรวมไปถึงทีมแข่ง และในรายการนี้ ซูซูกิ เอ็นดูลานซ์ เรซซิ่ง ทีม หรือ SERT โดย Etienne Masson, Gregg Black และ Xavier Simeon ได้ลงทำการแข่งขันนี้ด้วย โดยใช้รถจักรยานยนต์ Suzuki GSX-R1000 จากนักแข่ง 3 คนที่ผนึกกำลังทำเวลาเอาไว้ได้ 12 ชั่วโมง ที่ 416 รอบ ณ สนาม Estoril ที่ประเทศ โปรตุเกส หลังจบการแข่งขันทีมสามารถเก็บคะแนนทิ้งห่างที่ 2 ถึง 18 คะแนน
การแข่งขันได้ปิดฉากไปเมื่อช่วงเช้าของวันเสาร์ ซึ่งทีม ซูซูกิ เอ็นดูลานซ์ เรซซิ่ง ทีม หรือ SERT ออกสตาร์ทใน กริดที่ 4 โดย Gregg Black เป็นผู้ขับขี่ไม้แรก และเขาก็ไม่ทำให้ผู้ชมผิดหวัง เมื่อไฟสัญญาณออกตัวดับลง Gregg Black ที่ขับขี่ Suzuki GSX-R1000 ทะยาน ขึ้นเป็นที่ 1 คว้า Holeshot (ขึ้นนำเป็นที่ 1 ในโค้งแรก) ได้สำเร็จ จากนั้น Gregg Black พยายามรักษาอันดับของตัวเองให้ดีที่สุด
แต่ในเกมการแข่งขันเต็มไปด้วยความเข้มข้น กดดันและดุเดือด การวางแผนของทีมคือสิ่งสำคัญ และ ทีม SERT สามารถทำงานได้ตามแผนที่วางเอาไว้ได้ โดยยังรักษาอันดับให้อยู่ในกลุ่มผู้นำ ถึงแม้ในระหว่างที่ต้องนำรถเข้ามาเซอร์วิสหรือต้องเปลี่ยนตัวนักแข่ง ทางทีมงานสามารถทำเวลาได้อย่างยอดเยี่ยม จนการแข่งขันเข้าสู่ช่วงสุดท้ายก่อนที่ Suzuki GSX-R1000 ผ่านธงตราหมากรุกเข้ามาในอันดับที่ 4 ทำเวลาเอาไว้ 12 ชั่วโมง ที่ 416 รอบสนาม ถึงแม้จะจบการแข่งขันในอันดับ 4 แต่เมื่อรวมคะแนนเก็บมาตลอดฤดูกาลแล้ว ทีม ซูซูกิ เอ็นดูลานซ์ เรซซิ่ง ทีม หรือ SERT ก็มีคะแนนเก็บสะสมขึ้นเป็นที่ 1 ของรายการนี้ ส่งผลให้ ซูซูกิ เอ็นดูลานซ์ เรซซิ่ง ทีม หรือ SERT เป็นแชมป์ประจำฤดูกาล 2019 – 2020 นับเป็นแชมป์สมัยที่ 16 และเป็นทีมแข่งที่มีสถิติการคว้าแชมป์มากที่สุดในรายการนี้อีกด้วย
การชิงชัยในสนามที่ 12 ศึกโมโตครอส เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 ยกพลดวลความเร็ว ณ อินตู ซานาดู-อาร์โรโยโมลินอส กรุงมาดริด ประเทศสเปน แทร็กฮาร์ด แพ็ค ระยะทางต่อรอบ 1.720 กิโลเมตร ในวันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา ในรายการเอ็มเอ็กซ์จีพี ออฟ สเปน
สำหรับการแข่งขันในเรซแรกคลาสเอ็มเอ็กซ์ทู รองจ่าฝูงอย่าง ยาโก้ คีทส์ #193 ดาวบิดเบลเจี้ยน สังกัดมอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า แฟคทรี่ เอ็มเอ็กซ์ทู ไล่บดคู่แข่งได้อย่างสุดมันส์ในกลุ่มหัวขบวน ก่อนจะควบรถแข่ง ยามาฮ่า YZ250FM เข้าเส้นชัยในอันดับ 5 หลังผ่าน 17 รอบสนามที่ อินตู ซานาดู-อาร์โรโยโมลินอส
ทว่าในเรซที่ 2 ของการชิงชัยที่สเปน ยาโก้ คีทส์ #193 จาก มอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า แฟคทรี่ เอ็มเอ็กซ์ทู สามารถขยับผลงานและรีดฟอร์มเก่งของตนเอง บิดรั้งอยู่ในอันดับ 2 ตั้งแต่รอบแรกของการแข่งขัน ก่อนจะหาจังหวะเร่งเครื่องแซงคู่แข่งในรอบสุดท้ายของการแข่งขัน ผงาดคว้าแชมป์ที่ 10 ในฤดูกาลให้กับตนเอง
จากผลการแข่งขันดังกล่าวส่งผลให้ ยาโก้ คีทส์ #193 คว้าอันดับที่ 2 จากการแข่งขันที่ สเปน มาครอง หลังเก็บไปได้ 41 คะแนน ส่วนแชมป์ตกเป็นของ ทอม ฟีอัลเล่ ดาวบิดเฟรนช์แมนผู้นำบนตารางแชมเปี้ยนชิพ ที่ยังครองตำแหน่งต่อไปหลังผ่านการชิงชัยในสนามที่ 12 รวมถึง ยาโก้ คีทส์ #193 ที่ยังคงรั้งรองจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพประเภทนักบิด หลังเก็บไปได้ทั้งสิ้น 473 คะแนน
ศึกโมโตครอส เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 สนามที่ 13 ของฤดูกาล มีคิวดวลความเร็วในวันที่ 18 ตุลาคม นี้ ที่ ลอมเมล ประเทศเบลเยี่ยม ในรายการมอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ เอ็มเอ็กซ์จีพี ออฟ แฟลนเดอร์ส
ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด สีสันใหม่ สไตล์พรีเมี่ยมคลาสสิก New Norm. of High ความสุขกับสิ่งที่ใช่…สไตล์ชีวิตที่มีคลาส สามร์ทแบบไฮบริด
เครื่องยนต์บลูคอร์ไฮบริด 125cc เทคโนโลยีแห่งความประหยัด เผาไหม้หมดจด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ไฟหน้า-ไฟท้าย แบบ LED ดีไซน์ไฮคลาสรับก้บตัวรถ สว่างชัดเจน ประหยัดพลังงาน
ช่องเก็บของใต้เบาะขนาด 27 ลิตร พร้อมไฟส่องสว่าง ใส่ของได้จุใจ ถูกใจไลฟ์สไตล์แบบ New Normal
เป็นเวลาที่ยาวนานมากที่ค่ายผู้นำอย่างฮอนด้านั้นห่างหายไปจากการผลิตรถจักรยานยนต์สไตล์คลาสสิคครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญกับการเปิดตัวรถจักรยานยนต์คลาสสิค ในประเทศอินเดียที่เรียกร้องกันมานาน และเป็นตลาดที่มีคู่แข่งอย่าง Royal Enfield ซึ่งก่อนหน้านี้ Honda ได้มีการปรับรูปลักษณ์ใหม่ของรถคลาสสิคให้มีความโมเดิร์นเข้ากับยุคสมัยอย่าง NEO Sport Cafe ในรุ่น CB150R, CB300R, CB650R และรุ่นใหญ่ CB1000R เพื่อเป็นการต่อยอดซีรี่ส์ CB ที่ให้ความโดดเด่นด้วยดีไซน์ และเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ แต่กับความที่เป็นออริจนอลกับรูปลักษณ์ของรถยุคเก่าที่มีกะแสกลับมาให้ความสนใจอีกครั้ง และนั่นทำให้ 2021 Honda CB350 กลับมาลุยตลาดเรโทรอีกครั้งแรก
2021 Honda CB350 ถูกออกแบบมาให้สานต่อสไตล์คลาสสิคแบบดั้งเดิม คงความเป็นออริจนอล ตั้งแต่ไฟหน้าแบบทรงกลมเปลี่ยนไปใช้หลอด LED เพื่อความส่องสว่างและการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ถังน้ำมันทรงคลาสสิคมีความโค้งมน และใช้โลโก้ Honda ติดไว้ด้านข้างถังแบบยุคเก่า รุ่นเก๋าเค้ารู้กัน ท่อไอเสียที่ชุบโครเมียมทั้งใบ แต่ที่โดดเด่นเป็นพีเจอร์สมัยใหม่กับเรือนไมล์ที่ผสมผสานแบบอนาล็อกดั้งเดิมเข้ากับจอแสดงผลดิจิตอลสมัยใหม่ ทำให้กลายเป็นคลาสสิคพรีเมี่ยม
ทางด้านของเครื่องยนต์ Honda CB350 ในเวอร์ชั่นนี้ มีการพัฒนาและออกแบบใหม่ เป็นแบบลูกสูบเดี่ยว ความจุขนาด 348 ซีซี ระบายความร้อนด้วยอากาศ ให้กำลังสูงสุด 21 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 30 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบต่อนาที จะเห็นได้ว่าเครื่องยนต์จะมีกำลังแรงบิดที่สูง ทำให้การออกตัวหรือการขับขี่ในแต่ละย่านรอบเครื่องยนต์นั้นทำงานได้รวดเร็ว ในช่วงต้นและกลาง ทำงานร่วมกับระบบเกียร์ 5 สปีด ระบบกันสะเทือนหน้าแบบเทเลสโคปิก ส่วนด้านหลังเป็นแบบโช้คคู่ และเบรก ABS ทั้งด้านหน้า และหลัง วงล้อแม็ก 17 นิ้ว
ถึงแม้ 2021 Honda CB350 จะเป็นรถสายคลาสสิค แต่ในเรื่องของเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็จัดมาเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นระบบ (HSTC) Honda Selectable Torque Control ช่วยควบคุมล้อจะช่วยให้คุณควบคุมรถได้ดีอย่างไร้ที่ติ อยากจะบิดเร่งออกตัวแบบก็ไร้กังวล หรือจะเข้าโค้งบนถนนสุดชิล เพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
อันนี้เป็นข้อมูลคร่าวๆ และภาพรวมๆ ของตัวรถ แต่สำหรับการตลาดในเมืองไทย ทาง บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า ยังไม่มีข่าวระแคะระคายออกมาว่าจะจำหน่ายหรือไม่อย่างไร
ถึงแม้กระแสรถใหม่ๆ จะออกมาอย่างต่อเนื่องแต่อย่าลืมว่ารถจักรยานยนต์แนวออโตเมติกที่มีดีไซน์ และเทคโนโลยี พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่สามารถขับขี่ใช้งานได้อย่างสบาย และโดดเด่นก็ยังได้รับความนิยมเหมือนกัน
QBIX คืออีกหนึ่งโมเดลของรถออโตเมติกที่มีรูปทรงน่ารักได้ใจวัยรุ่น สีสันใหม่ที่ปรับเปลี่ยนเพิ่มลวดลายรอบคันผสมผสานกับสติ๊กเกอร์ฉีกแนว และสะดุดตาน่ามองมากยิ่งขึ้น จากหน้าถึงหลังมีการเพิ่มของแต่งอื่นๆ เพื่อความโดดเด่น เบาะนั่งปาดแต่งใหม่ และครอบท้ายวางตระแกรงรองรับการมัดสัมภาระในการเดินทาง จริงๆ แล้วใต้เบาะที่มีขนาดใหญ่ใส่ของได้อย่างจุใจ อเนกประสงค์ด้วยช่องเสียบชาร์จไฟ เพื่อที่จะไม่พลาดโลกแห่งโซเชียล และการติดต่อ
แฮนด์บาร์กว้างควบคุมได้ง่าย สวมปลอกแฮนด์ใหม่ ก้านเบรกแบบปรับระดับ แต่ยังคงใช้ปั๊มแรงดันแท้งค์เหลี่ยม ประกับคันเร่งแบบสองสายกันค้าง กระจกมองหลังทรงเหลี่ยม เรือนไมล์แบบฟูลดิจิตอล และครอบปิดด้านหน้า ไฟหน้าแบบสองชั้น ไฟเลี้ยวแยกวงล้อแม็กขนาด 12 นิ้ว ยางแบบกึ่งทางเรียบ และทางขรุขระ ดิสก์เบรกหน้าคาลิเปอร์ ลูกสูบคู่ จานดิสก์แต่งลายเพื่อระบายความร้อน โช้คอัพหน้าของแต่งยอดฮิต Gazi แบบหัวกลับ โช้คอัพหลังแบบยูนิตสวิงที่มั่นใจใช้ของแต่งยอดฮิต Gazi แบบมีซับแท้งค์บิ้วท์อินสามารถปรับพรีโหลดได้ วงล้อหลังปิดทึบ เบรกหลังแบบดรัมใช้ขารั้งโค้งอลูมินัมแยกชิ้น
เครื่องยนต์พิกัด 125 ซีซี ที่ให้ความประหยัด และขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลกับเทคโนโลยี BLUE CORE ปรับเพิ่มการเผาไหม้ในรอบปลายด้วยกรองอากาศเดินคอสแตนเลสออกมาสูดอากาศด้านข้าง และเสริมพละกำลังรีดแรงม้าด้วยท่อไอเสีย
สแตนเลส ซึ่งเพียงพอสำหรับรถขนาดเล็กที่อยากจัดจ้าน
เข้าสู่การแข่งขันในสนามที่ 11 ของศึกโมโตครอส เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 ยังคงดวลความเร็วที่ ซิตต้า ดิ มานโตว่า ประเทศอิตาลี สังเวียนฮาร์ด แซนด์ ระยะทางต่อรอบ 1.660 กิโลเมตร ในรายการเอ็มเอ็กซ์จีพี ออฟ ยุโรป ชิงชัยในวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา
โดมเกมเอ็มเอ็กซ์ทู ในเรซแรกเป็นการขับเคี่ยวระหว่าง ทอม ฟีอัลเล่ นักบิดฝรั่งเศส และ ยาโก้ คีทส์ #193 ดาวบิดเบลเจี้ยน สังกัดมอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า แฟคทอรี่ เอ็มเอ็กซ์ทู ที่ไล่บดกันอย่างสุดมันส์ตลอดทั้งเกม ก่อนที่ ทอม ฟีอัลเล่ จะเฉือนเอาชนะ ยาโก้ คีทส์ #193 ไปเพียง 1.423 วินาที
รวมถึงการชิงชัยในเรซที่ 2 ยังคงเป็น ยาโก้ คีทส์ #193 ที่ไล่บดแย่งแชมป์กับ ทอม ฟีอัลเล่ และเป็นทางด้าน ยาโก้ คีทส์ #193 ที่สามารถรีดฟอร์มเก่งของตนเอง ควบรถแข่งยามาฮ่า YZ250FM เข้าเส้นชัยเป็นคันแรก คว้าแชมป์ในเรซที่ 2 ไปครอง ตามเข้ามาด้วย ทอม ฟีอัลเล่ ในอันดับ 2 และ เบน วัตสัน #919 เพื่อนร่วมสังกัดมอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า แฟคทอรี่ เอ็มเอ็กซ์ทู ในอันดับ 3