การมาของกระแสมอเตอร์สปอร์ตชั่วโมงนี้แรงสุดเกินฉุดรั้งกันจริงๆ ไม่ใช่แค่ในส่วนของรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ แต่ความยิ่งใหญ่ระดับโลกของสภาพแวดล้อมทั้งสนามแข่ง เกมการแข่งขัน และการเลือกซื้อที่ง่ายดายมากขึ้น ยามาฮ่า ตอบสนองอย่างทันใจด้วยโมเดลใหม่ล่าสุดที่ทุกคนรอคอย Yamaha YZF-R3 แรงเกินซีซีพร้อมการขับขี่ที่จะมาเร้าใจคุณตามสัญญากับการรีวิวสปอร์ตตัวล่าสุดค่ายยามาฮ่า วายแซดเอฟ อาร์ 3 กับการขับขี่แบบตรงสายสไตล์เรซซิ่ง ในสนามระดับโลก ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ที่ทางบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด จัดให้สื่อมวลชนร่วมทดสอบ แต่ด้วยเวลาที่จำกัดกับผู้สนใจเข้าร่วมทดลองขับขี่จำนวนมาก เราจึงได้จัดหนักอีกครั้งกับการค้นหาสมรรถนะกันอย่างเต็มที่ ณ สนามโบนันซ่า สปีดเวย์ เขาใหญ่

ดุเข้มเต็มสไตล์สปอร์ต
หน้าตาของเจ้า YZF-R3 เข้าขั้นดุดันด้วยการออกแบบไฟหน้าคู่สไตล์ดุที่หากลองมองหน้ากันแบบสบตาตรงๆ แล้วจะเข้าใจ ไฟหน้าแบบฮาโลเจนทำงานตามเทรนด์ด้วยไฟต่ำติดสว่างข้างเดียวที่ด้านขวา อีกดวงด้านซ้ายจะติดขึ้นมาเมื่อสั่งด้วยสวิทช์ไฟสูง เพื่อความปลอดภัยในการสังเกตเห็นให้ง่ายจึงมีการใช้ไฟ LED เป็นไฟหรี่ดวงใหญ่ วางตรงกึ่งกลางใต้แผ่นบังลมที่จะติดสว่างตลอดเวลา แผ่นบังลมไม่ใสซะทีเดียวออกสีเข้มเล็กน้อยไว้ช่วยกรองแสง แฟริ่งแยกชิ้นปิดคลุมเครื่องยนต์มิดชิด เผยให้เห็นเฟรมทรงกลมเพียงเล็กน้อยทำให้รู้ว่า R3 ไม่ได้ใช้เฟรมเหลี่ยม Delta Box เหมือนกับ R15 ถังน้ำมันความจุ 14 ลิตร ทรงยาวเรียวเว้ารับ ลำตัวขณะก้มจับแฮนด์ สีสันที่เห็นด้านนอกคือชิ้นครอบหลอกที่ออกแบบเป็น 3 ชิ้นประกอบครอบทับถังจริงที่อยู่ด้านใน หากเกิด ความเสียหายไม่ต้องจ่ายแพง แฟริ่งท้ายวางใต้เบาะผู้ขับขี่และยังมีอีกชิ้นสำหรับผู้ซ้อนท้ายในตำแหน่งที่สูงสไตล์ตูดมดเหมือนรถแข่ง ไฟท้ายแบบ LED ทรงเท่กลมกลืนกับตัวรถ ส่วนไฟเลี้ยวนั้นแยกตัวออกมายึดอยู่กับบังโคลนหลังที่ยื่นยาวพร้อมใช้เป็นที่ยึดแผ่นป้ายทะเบียน ไฟเลี้ยวหน้า ก็ไม่ได้มาแบบฝังข้างตัว ยื่นยาวออกมาจากแฟริ่งเช่นกัน กระจกมองข้างทรงสปอร์ตยกตัว ขึ้นจากแฟริ่งในรูปแบบคุ้นตา เบาะนั่งแบบสองชั้นแยกผู้ซ้อนท้ายจากผู้ขับขี่ชัดเจน

ไดมอนด์เฟรม
ตามสมัยนิยมสำหรับการใช้เหล็กท่อทรงกลมเชื่อมต่อเป็นโครงสร้างหลักของตัวรถ ด้วยรูปทรงเพชรเชื่อถือได้เรื่องความแข็งแรง ยึดติดกับเครื่องยนต์ด้วยวิธี “หิ้ว” ไม่มีแปลอุ้ม เหมือนรถสมัยก่อน เฟรมแบบนี้ไม่กินที่และออกแบบให้กลมกลืนได้ง่ายมันจึงได้ถูกกำหนดให้ใช้สีดำกลมกลืนกับสีของเครื่องยนต์ดูไม่แปลกแยก สวิงอาร์มดูมีความ ตั้งใจในการออกแบบด้วยการลบเหลี่ยมคม ด้านขวาเว้าหลบท่อไอเสียปลายสั้น ส่วนด้านซ้ายวางตรงกว่าเพื่อความสะดวกในการขับเคลื่อนของโซ่ บังโซ่หลอกตาเหมือนว่าเป็นทรงสามเหลี่ยมได้แนบเนียนมาก โดยที่ทั้งสองด้านจะมีขนาดใหญ่ที่ใกล้จุดหมุน แล้วเรียวเล็กลงในช่วงปลาย ได้ทั้งความสวยงามและความแข็งแกร่งในการรับแรงกระแทกจากท้องถนน
ช่วงล่าง
โช้คหน้าแบบเทเลสโคปิกขนาด 41 มม. มีการติดตั้งตัวป้องกันแกนและซีลโช้คเสียหายจากด้านหน้ามาให้เรียบร้อย เป็นโช้ค แบบตายตัวผู้ใช้ไม่สามารถปรับจากภาย นอกได้ โช้คหลังเดี่ยวก็ได้รับการป้องกันแกนและซีลโช้คด้วยกระบอกพลาสติกปิดทึบ ไว้ด้านในของสปริง ตัวโช้ควางรับแรงโดย ตรงไม่มีกระเดื่องทดแรงกระแทก การปรับก็มาตรฐานคือปรับความแข็งของสปริงได้ 7 ระดับ สแตนดาร์ดอยู่ที่ระดับ 3 วงล้อหน้าและหลังเป็นแบบล้อแมก 5 ก้านแล้วแยกออกจับที่ขอบ 10 ก้าน ยางที่ให้ติดรถมาเป็นของค่ายตุ๊กตาอ้วนจากสัญญาการผลิตที่ทางโรงงานอินโดนีเซียมีพันธะต่อกันในขนาดมาตรฐานสปอร์ตไลท์เวท ดิสก์เบรกคือเทคโนโลยีความปลอดภัยด้วยการใช้ระบบ ABS ทั้งหน้าและหลัง ดิสก์เบรกหน้าขนาด 298 มม. คาลิเปอร์ลูกสูบคู่ ดิสก์เบรกหลัง 220 มม. คาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว

เครื่องยนต์
เป็นเครื่องยนต์บล็อคใหม่ล่าสุด ถึงจะใช้รหัส R3 เลข 3 น่าจะหมายถึง 300 ซีซี ด้านข้างรถบอกใบ้ใกล้เคียงด้วยการคาดตัวเลข 320 มาให้ แต่ปริมาตรประบอกสูบที่แท้จริงของ YZF-R3 คือ 321 ซีซี จากเครื่องยนต์แบบ 2 สูบ 4 วาล์ว 4 จังหวะ เพลาลูกเบี้ยวคู่วางเหนือฝาสูบ กระบอกสูบไดอะซิล 6 เกียร์ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดและจุดระเบิดแบบ TCI ประกาศชัดให้กำลังสูงสุด 42 แรงม้าที่ 10,750 รอบต่อนาที ท่อไอเสียปลายสั้นออกแบบได้เท่มากๆ รวมทั้งยังเก็บงานด้านใต้ด้วยชิ้นพลาสติกมาอย่างเรียบร้อย ขับเคลื่อนด้วยโซ่ขนาด 520 โอริง
ลูกเล่นเต็มอารมณ์สปอร์ต
รายละเอียดของหน้าปัดเรือนไมล์ให้มาครบจริงๆ ด้วยมาตรวัดรอบเครื่องยนต์แบบเข็มวางด้านซ้ายสไตล์อะนาล็อคเพียงสิ่งเดียว ที่เหลือนอกจากนั้นว่ากันด้วยดิจิตอลและไฟเตือนล้วนๆ ที่บอกว่าครบเพราะมีทั้งตัวเลขบอกความเร็วในหน่วยกิโลเมตรต่อชั่วโมง บอกตำแหน่งเกียร์ บอกระยะทางรวมและบันทึกระยะทางต่างหากได้อีก 2 ทริป A และ B แถมยังมีโหมดคำนวณอัตราสิ้นเปลืองขณะขับขี่และนาฬิกาที่บอกมาเป็นตัวเลขชัดเจนอ่านง่าย ส่วนปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงในถังกับอุณหภูมิเครื่องยนต์นั้นเป็นสเกลดิจิตอล สัญญาณไฟเตือนต่างๆ ครบครัน และมันยิ่งเท่มากขึ้นเมื่อมีการติดตั้ง Shift Light ไฟเตือนเมื่อถึงรอบที่ควรเปลี่ยนเกียร์ เป็นไฟสีขาวด้านบนสุดของตัวเรือนไมล์จะกระพริบเตือนเพื่อป้องกันการลากรอบเครื่องยนต์สูงเกินความจำเป็น ช่วยให้ใช้สมรรถนะเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มที่และประหยัดเชื้อเพลิงอีกด้วยมีจำหน่าย 3 สี แดง/ขาว, น้ำเงิน/เทา และสีดำ ราคาจำหน่าย 185,000 บาท วางจำหน่ายเดือนมีนาคม 2558 ที่ Yamaha Square และร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดได้ที่ Yamaha Call Center โทร.02-2639999 หรือที่ www.yamaha-motor.co.th และติดตามความเคลื่อนไหวของยามาฮ่า ทางสื่อออนไลน์ที่www.facebook.com/yamahasociety และที่ Instagram: @yamahasociety

ข้อมูลเทคนิค YZF-R3
เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 2 สูบ 4 วาล์ว DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ
ปริมาตร 321 ซีซี
กระบอกสูบ x ระยะชัก 68.0 x 44.1 มม.
อัตราส่วนการอัด 11.2 : 1
กำลังสูงสุด 30.9 kW (42.0PS) @ 10,750 rpm
แรงบิดสูงสุด 29.6 Nm (3.0 kg-m) @ 9,000 rpm
ระบบหล่อลื่น อ่างเปียก
คลัทช์ แบบเปียกหลายแผ่น
ระบบเชื้อเพลิง หัวฉีด
ระบบจุดระเบิด TCI
สตาร์ท ไฟฟ้า
เกียร์ 6 สปีด
ขับเคลื่อน โซ่ D.I.D 520 VF (O-Ring)
สเตอร์ 14-43 ฟัน
เฟรม เหล็กท่อทรงเพชร
โช้คหน้า เทเลสโคปิก 41 มม.
ช่วงยุบ 320 มม.
มุมคาสเตอร์ 25 องศา

ระยะเทรล 95 มม.
โช้คหลัง โช้คเดี่ยว
ช่วงยุบ 125 มม.
เบรกหน้า ดิสก์เบรกจานเดี่ยว 298 มม. คาลิเปอร์สูบคู่ พร้อมระบบ ABS
เบรกหลัง ดิสก์เบรกจานเดี่ยว 220 มม. คาลิเปอร์สูบเดี่ยว พร้อมระบบ ABS
วงล้อหน้า แมก 10 ก้าน กว้าง 2.75 นิ้ว
วงล้อหลัง แมก 10 ก้าน กว้าง 4 นิ้ว
ยางหน้า 110/70-17
ยางหลัง 140/70-17
ยาว 2,090 มม.
กว้าง 720 มม.
สูง 1,135 มม.
ความสูงเบาะ 780 มม.
ระยะฐานล้อ 1,380 มม.
สูงจากพื้น 160 มม.
ถังน้ำมันจุ 14 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง 2.4 ลิตร
น้ำหนักพร้อมขับขี่ 170 กก.

ความเห็นนักทดสอบ

“ตื่นเต้นกันมากครับกับการมาของ YZF-R3 คันนี้ การลองขี่ครั้งแรกที่บุรีรัมย์ ผมมีโอกาสได้ขี่เพียง 9 รอบ เป็นรอบที่ขี่ได้เต็มที่จริงเพียง 3 รอบ น้อยไปสำหรับรถที่เน้นสมรรถนะในการขับขี่ แต่ก็ยอมรับว่าเครื่องยนต์ของเค้าเป็นความประทับใจที่โดดเด่นจริงๆ และต้องขอบคุณไทยยามาอ่ามอเตอร์ที่ให้โอกาสนิตยสารไรดิ้งในการนำมาทดสอบอีกครั้งแบบจัดเต็มที่โบนันซ่าสปีดเวย์ครั้งนี้การจับจูงของเจ้า YZF-R3 ให้ความรู้สึกถึงน้ำหนักตัวระดับ 170 กก. ได้น้อยมาก จูงง่ายเบาแรงครับ สำรวจรอบคันก่อนขี่อันนี้เช็คได้ง่ายทั้งระดับน้ำมันเครื่องจากตาแมวข้างแคร้งด้านขวา น้ำหล่อเย็นจากหม้อพักด้านซ้ายใกล้จุดต่อระหว่างเฟรมกับแฟริ่ง ลมยางกำหนดสเป็คมาไม่เท่ากันนะครับ หน้า 29 หลัง 36 ปอนด์ แปลกๆ ดีแต่การขับขี่ครั้งนี้เราใช้แรงดันตามคำแนะนำครับ
ขึ้นไปนั่งคร่อมดู พบว่าเท้าทั้งสองข้างวางถึงพื้นสบายๆ ถึงส้นจะลอยแต่ก็ไม่มาก ไม่รู้สึกเกร็งหรือเขย่งกับความสูง 165 ซม. ก้มลงมาจับแฮนด์ มันรู้สึกสบายๆ นะ เทียบกับระดับของเบาะแล้ว จัดว่าแฮนด์อยู่สูงทำให้ไม่ต้องก้มมาก และไม่อยู่ไกลเกินไป บิดสวิทช์กุญแจที่วางค่อนไปทางขวา ตำแหน่งนี้ทำให้ไม่ต้องเอื้อมไกลสำหรับคนถนัดขวา กดปุ่มสตาร์ทที่แฮนด์เสียงเครื่องยนต์ก็ทำงานให้ได้ยิน นุ่มๆ เบาๆ แต่รัวเร้าใจเล็กๆ สไตล์สองสูบชักสั้น น้ำหนักคลัทช์นุ่มมือดี (น่าจะมียางหุ้มตัวปรับคลัทช์มาให้สักหน่อย) เข้าเกียร์ได้ง่ายนุ่มนวล เอาล่ะ…ได้เวลาลองของกันแล้ว เครื่องยนต์ยังคงเป็นสิ่งแรกที่ต้องกล่าวถึงอย่างแรง! การตอบสนองของมันเป็นไปอย่างกระฉับกระเฉงตั้งแต่รอบต้นๆ ส่งขึ้นไปกลางอย่างต่อเนื่องแล้วเฉลี่ยถึงรอบปลายได้อย่างตื่นเต้น ผมใช้คำว่า “ตื่นเต้น” อย่างเต็มปากเพราะมันทำให้รู้สึกอย่างนั้นตั้งแต่เกียร์แรกจนถึงเกียร์สุดท้าย อัตราทดของเกียร์ 1-2-3 ส่งกันค่อนข้างชิด เกียร์ 4 เดินได้ยาวหน่อยแต่ยังน้อยเมื่อเทียบกับเกียร์ 5 ย้าวววว..ยาว เกียร์ 6 ยังส่งให้เร็วได้อีก ชิพไลท์จะกระพริบเตือนที่ 11,000 rpm แต่ฝืนลากไปก็ยังไหวเพราะรอบจะไปตัดที่เรดไลน์ แถวๆ 12,500 rpm ไฟชิพไลท์ให้สีขาวมาผมว่ามันสังเกตยากไปนิดในช่วงกลางวันแดดจ้าๆ การทำงานของคลัทช์กระฉับกระเฉงมากค่อนข้างจะดิบๆ ด้วยซ้ำไป ความเร็วสูงสุดที่เห็นผ่านหน้าปัดอยู่ที่ 156 กม./ชม. ท่านั่งมันไม่ใช่สปอร์ตจ๋าอย่าง R15 สำหรับ YZF-R3 นั่งสบาย
กว่าเยอะ ออกแนวเบาะต่ำแฮนด์สูง ลมปะทะตัวคนขี่จึงน้อย สบายสำหรับการขี่ใช้งานทั่วไป ตุ้มปลายแฮนด์สั้น พักเท้าไม่สูงไปแต่ก็ไม่โดนพื้นง่ายๆ นะครับขอบอก กันสะเทือนเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้ ดูจะเอาใจกลุ่มใช้งานมากกว่าสิงห์สนามอย่างชัดเจน จับอาการของช่วงล่างด้านหลังได้ตั้งแต่ขี่ครั้งแรกที่บุรีรัมย์ ออกอาการนิ่มไปหน่อยสำหรับเครื่องยนต์ 42 แรงม้าที่ส่งกำลังลักษณะนี้ คือเมื่อเร่งออกจากโค้งล้อหลังจะมีอาการสไลด์ได้ง่าย เราจึงลองปรับความแข็งของสปริงดู พบว่าสำหรับน้ำหนักตัวผู้ขับขี่ที่ประมาณ 65-70 กก. (ไม่รวมชุด) การปรับสปริงแข็งขึ้น 2 ล็อคช่วยให้ดีขึ้นระดับหนึ่ง ความประหลาดใจของผมก็คือเมื่อลองเร่งออกจากโค้งแบบเนียนสักหน่อยให้ท้ายสไลด์ออกไปนั้นมันมีระยะจำกัดของมัน เป็นการสไลด์สั้นๆ แล้วกลับมานิ่งอีกครั้ง อันนี้น่าจะต้องยกความดีให้หุ้นส่วนอีกตัวคือยางครับ ชอบอีกอย่างคือการคุมมุมเลี้ยวของด้านหน้า ง่ายและนิ่งมาก ไม่มีสักครั้งที่ทำให้รู้สึกว่าจะดึงแหกโค้งออกไป
โดยรวมผมว่า Yamaha YZF-R3 เป็นสปอร์ตพิกัดเล็กที่มีเครื่องยนต์ตอบสนองได้อย่างโดดเด่น สะใจอย่างที่คนหัวใจสปอร์ตต้องการ มิติตัวรถและน้ำหนักเหมาะกับคนเอเชียมาก การบังคับขับขี่นั่งสบายเลี้ยวง่าย ช่วงล่างนุ่มนวลเหมาะกับการเดินทางใกล้ไกลและใช้ในชีวิตประจำวัน ถ้ารักจะขี่ในสนามแนะนำให้เน้นยางดีๆ และขี่ให้เนียนหรือใช้โช้คที่ปรับมาโดยเฉพาะเพื่อรองรับแรงม้าที่ดุดัน ราคาก็ไม่สูงกว่าคู่แข่งในพิกัดเดียวกันมากนัก ส่วนเรื่องความสวยงามผมว่าคุณรู้อยู่แก่ใจว่าโดนแค่ไหนกับสายพันธุ์ R-Serise รุ่นล่าสุดคันนี้ครับ”