มร.ชิเงโอะ ฮายาคาวะ ประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และนายภูวนาถ อุดมวุฒิวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.เค. เจริญยนต์ จำกัด ร่วมทำการเปิดโชว์รูม Yamaha Riders’ Club Khonkaen อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นโชว์รูมจำหน่ายรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ของยามาฮ่า ศูนย์บริการเต็มรูปแบบครบวงจร โดยมีช่างผู้ชำนาญพร้อมให้บริการ และพื้นที่ทดสอบการขับขี่ เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเร็วๆนี้
YAMAHA TRICITY INNOVATIVE SPORT ADVANCE
เปิดตัวสร้างความอลังการผลงาน สุดเท่ในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ ปี 2557 กับกระแสความฮือฮาของ YAMAHA TRICITY ที่เป็นรถสกู๊ตเตอร์ 3 ล้อ พร้อมด้วยความคล่องตัวและขนาด 125 ซีซี ด้วยการออกแบบ ที่เน้นการเคลื่อนไหวอย่างอิสระแต่เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะและความเท่ในแบบฉบับของรถสกู๊ตเตอร์YAMAHA TRICITY คันนี้ผ่านการปรับแต่ง จากทาง LIKIT SCOOTER ดีไซน์ตัวรถโดยไฟหน้าได้ทำการโมดิฟายติดตั้งหลอดโปรเจคเตอร์อยู่ภายในโคมไฟ ไฟเลี้ยวแบบแยกส่วนปรับแต่งเลนส์ไฟให้เป็นสีฟ้า ชุดไฟท้ายแบบหลอด LED พร้อมชุดไฟเลี้ยวที่อยู่เป็นชุดเดียวกัน ออกแบบสีสันใหม่โดยเน้นความสปอร์ตพร้อมกับความหรูหราจากนั้นเสริมความสปอร์ตด้วยชุดครอบเคฟล่าร์ ที่จัดมาเสริมเป็นชุดสเกิร์ตด้านหน้า ติดตั้งชุดวินชีลด์ช่วยในเรื่องของการลดแรงปะทะของอากาศในการขับขี่ เบาะปรับแต่งดีไซน์โดยเน้นความสปอร์ตแบบล้ำสมัย บังโคลนหลังทำการตัดออกแล้วติดตั้งขายึดป้ายทะเบียนอลูมินัม ปรับตำแหน่งและมุมมอง การขับขี่ด้วยชุดกระจกมองข้างแบบปลายแฮนด์ ทางด้านของเครื่องยนต์ 4 จังหวะ สูบเดียว 125 ซีซี ทนทานแข็งแกร่งด้วยกระบอกสูบแบบไดอะซิล พร้อมด้วยระบบหัวฉีด YM_JET-FI ระบายความร้อนด้วยน้ำเปลี่ยนฝาครอบหม้อน้ำเป็นเคฟล่าร์ ขับเคลื่อน ด้วยสายพาน V-BELT ในแบบฉบับของรถออโตเมติก ครอบแคร้งสายพานเคฟล่าร์ เสริมความเท่ด้วยชุดท่อสเตนเลส EVO TRAPP พร้อมชุดกันร้อนท่อสีดำ เพิ่มชุดสไลด์เดอร์ที่ยึดจากสวิงอาร์มระบบกันสะเทือนหน้าเทคโนโลยีล่าสุดพร้อมด้วยดีไซน์อันล้ำสมัยของ YAMAHA ที่เน้นความเท่และการทำงานอย่างเป็นอิสระเพื่อการรองรับแรงสะเทือนอย่างเต็มสมรรถนะ รองรับแรงสะเทือนด้วยโช้คอัพเทเลสโคปิค 2 คู่ ที่ติดตั้งเข้ากับชุดแผงคอที่ต่อเข้ากับชุดลิงค์กันสะเทือน ควบคุมวงเลี้ยวจากตัวแฮนด์พร้อมการทำงานของล้อทั้ง 2 ข้างที่รักษาบาร์ล้านซ์ของการขับขี่ โช้คอัพหลังคู่ ระบบดิสก์เบรกหน้าแบบกระจายแรงเบรก ทั้งหน้า-หลัง ที่ลิงค์การทำงานอย่างเต็มระบบ ดิสก์เบรกหน้าที่แยกตามล้อทั้ง 2 ฝั่ง คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ NISSIN ควบคุมด้วยชุดปั๊มลอย RACING BOY ขนาด 16X18 สายถัก GOODRIDGE ส่วนเบรกหลังดิสก์เบรกคาร์ลิปเปอร์ 1 ลูกสูบ ชุดล้อด้านหน้าด้วยการทำงานของล้อแม็กคู่ขนาด 14X2.15 ปรับแต่งทำสีล้อคู่หน้าเป็นสีน้ำเงิน บรอนซ์เทรนด์เดียวกับตัวรถ และล้อหลังขนาด 12X2.15 สีดำ ยางหน้า IRC IZ-R 80/90-14 และยางหลัง IRC 120/70-12
หรูหราปราดเปรียวนำเทรนด์สไตล์แฟชั่นใหม่ สำหรับวัยซนคนวัยมันขับขี่ในแบบฉบับของ YAMAHA TRICITY
คู่หูในวันเบาๆของชาวฝุ่น M BIKE ADVENTURE X1 150
MBIKE นำเสนออีกทางเลือกหนึ่งของรถจักรยานยนต์เพื่อสันทนาการและการใช้งานในชีวิตประจำวันสไตล์ลุย ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ไซส์เครื่องยนต์สำหรับผู้เริ่มต้น 150 ซีซี กับพัฒนาการในเรื่องคุณภาพการผลิตที่ดีขึ้นเป็นลำดับกับ M BIKE ADVENTURE X1 150

150 ซีซี 5 เกียร์
เครื่องยนต์หน้าตาดูทันสมัยในสไตล์ของรถที่ระบายความร้อนด้วยอากาศขนาดไม่ใหญ่โต เป็นแบบเครื่องยนต์สูบตั้งเพลาลูกเบี้ยวเดี่ยววางเหนือฝาสูบทำให้ช่วงบนของเครื่องยนต์ไม่เทอะทะ มีพื้นที่มากพอสำหรับการจัดวางมอเตอร์สตาร์ทไว้หลังเสื้อสูบ คาร์บูเรเตอร์วางใต้ถังน้ำมันเหล็กทรงกระชับ โดยเป็นการรับช่วงเชื่อมต่อกับท่อไอดีที่ส่งผ่านหม้อกรองอากาศวางใต้เบาะ ดักฝุ่นผงสิ่งสกปรกเอาไว้ด้วยกรองอากาศแบบฟองน้ำเสริมตะแกรงเหล็กให้ใช้งานได้ยาวนานเพราะทำความสะอาดได้ง่ายและใช้ซ้ำได้หลายครั้ง เกียร์ 5 ระดับแบบสปอร์ต


เฟรมเหล็กทรงเปล
โครงสร้างที่อาจจะดูไม่ล้ำสมัยแต่ไว้ใจได้เรื่องความทนทาน ปกป้องใต้ท้องที่เป็นส่วนแคร้งเครื่องยนต์ด้วยแนวเหล็กท่อกลมสองเส้นแถมด้วยการคาดกั้นด้านหน้าเอาไว้อีก พร้อมการเดินแนวซับเฟรมยาวไปถึงด้านหลัง ด้านข้างมีการติดตั้งการ์ดพลาสติกป้องกันการเสียดสีมาให้เรียบร้อย แฮนเดิลบาร์ความกว้างมาตรฐานยกทรงสูงขึ้นมาจากแผงคอค่อนข้างมาก สวิงอาร์มเหล็กทรงเหลี่ยมเน้นความแข็งแรง พักรถด้วยขาตั้งข้างขนาดใหญ่ พักเท้าขาเบรกขาเกียร์มาแบบฟันแหลมพร้อมลุยเต็มเหนี่ยว
ช่วงล่างลุยได้เลย
กันสะเทือนจัดให้เป็นแบบเทเลสโคปิกแกน 31 มม. ที่ด้านหน้าพร้อมยางหุ้มปกป้องตลอดช่วงยุบ โช้คหลังเดี่ยวปรับความแข็งของสปริงแบบขันเกลียวทำให้ปรับได้ละเอียด หูล่างยึดจับกับชุดกลไกทดแรงที่ช่วยลดภาระของตัวโช้คให้น้อยลงและซับแรงได้นุ่มนวลขึ้น วงล้อเป็นเหล็กมาพร้อมยางกึ่งถนนขนาดถือว่าใหญ่ทีเดียวสำหรับรถ 150 ซีซี ระบบเบรกเป็นแบบดิสก์ทั้งหน้าและหลัง คาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยวทั้งคู่แต่รูปร่างแตกต่างกัน
รูปร่างปราดเปรียว
ออกแบบเน้นความเพรียวบางตลอดทั้งคัน ตั้งแต่บังโคลนหน้าไปจนถึงปลายบังโคลนหลังไม่มีส่วนที่เทอะทะเกะกะออกมาเลย โดยเฉพาะถังน้ำมัน ฝาครอบดักลม ต่อกับช่วงเบาะ ฝาครอบข้างจนถึงบังโคลนหลังนั้นแคบเพรียวเรียวยาวอย่างกลมกลืนต่อเนื่อง จุดที่มักจะติดขัดในส่วนข้างเครื่องด้านขวากับคันสตาร์ทนั้นก็จัดวางจนพบปัญหาน่องเกี่ยวคันสตาร์ทน้อยลงมาก ท่อไอเสียเป็นอีกชิ้นหนึ่งที่ออกแบบมาเล็กบางคล้ายกับท่อไอเสียของรถ 2 จังหวะมากกว่า ทำให้ตัวรถไม่ดูใหญ่หนา แถมยังมีตรา มอก. ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรมใช้ได้สบายใจไทยแลนด์

ทัวร์สะดวกลุยสบาย
อุปกรณ์ติดตั้งมากับตัวรถนั้นให้มาครบครันทั้งสำหรับการลุยทางยาก หรือการเดินทางยาวๆ ด้วยพักเท้าสำหรับคนซ้อนท้ายในตำแหน่งวางเท้าได้สบาย แต่ก็สามารถถอดออกได้หากต้องการความคล่องตัว ที่วางสัมภาระด้านท้ายรถออกแบบให้มีความแข็งแรงในการรับน้ำหนักและเกี่ยวรัดสัมภาระในขณะที่ไม่ดูเกะกะสายตาเวลาอยู่บนตัวรถ แฮนด์การ์ดทรงสวยปกป้องมือทั้งสองข้างอย่างครอบคลุมถึงปลายแฮนด์คือผู้ช่วยที่ดีในวันที่ออกทริปหนักในป่าดง








เซอร์วิส ไม่ซับซ้อน
การดูแลรักษาก็ไม่ยุ่งยากซับซ้อนโดยการถอดเบาะออกด้วยน็อตล็อคตัวเดียวที่แทงทะลุจากใต้บังโคลนหลังขึ้นมา ก็จะ พบว่ามีแบตเตอรี่และอุปกรณ์ทางไฟฟ้าจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ส่วนกรองอากาศนั้นสามารถเข้าถึงได้โดยการเปิดฝาครอบทางด้านขวาของตัวรถ ด้านซ้ายถ้าเปิดออกมาจะเป็นมุมที่สามารถปรับสปริงโช้คหลังได้อย่างถนัด
ขอขอบคุณรถจักรยานยนต์เอ็มไบค์ในความไว้วางใจให้ทีมงานไรดิ้งได้ทดสอบก่อนใคร ราคาค่าตัวของ M BIKE รุ่น ADVENTURE X1 150 นั้นจำหน่ายที่ 43,500 บาท (ราคานี้เมื่อเดือน สิงหาคม 2557)สอบถามเพิ่มเติมที่ โชว์รูมรองเมือง 0-2613-9727 แคราย 0-2951-0722 ขอบคุณพิเศษสนามทดสอบในไลน์เอ็นดูโร่สวยๆ ของศรีสมานโมโตครอสแทร็ค และชุดทดสอบจากเมก้าเดิร์ท ติดตามคลิปวิดีโอทดสอบได้ทางยูทูปหรือไรดิ้งแฟนเพจ
ข้อมูลตัวรถ
เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 150 ซีซี
เกียร์ 5 ระดับ
ระบบเชื้อเพลิง คาร์บูเรเตอร์
สตาร์ท ไฟฟ้าและเท้า
คลัทช์ แมนนวล
ขับเคลื่อน โซ่ 428H
สเตอร์ 15-45
โช้คหน้า เทเลสโคปิก 31 มม.
โช้คหลัง โช้คเดี่ยวพร้อม กระเดื่องทดแรง
เบรกหน้า ดิสก์เบรกคาลิเปอร์
ลูกสูบเดี่ยว
เบรกหลัง ดิสก์เบรกคาลิเปอร์
ลูกสูบเดี่ยว
ล้อหน้า 1.85×19
ล้อหลัง 2.15×17
ยางหน้า YUANXING 90/90-19
ยางหลัง YUANXING 110/90-17
ความเห็นนักทดสอบ “เขมรัฐ สุธรรมวาท”
“เป็นรถที่ได้ขี่แล้วให้ความรู้สึกที่เหนือความคาดหมายหลายอย่าง พูดถึงรถที่มาจากแผ่นดินใหญ่ หลายคนอาจจะตั้งคำถามไว้มากมาย ผมเองก็เช่นกัน ADVENTURE X1 150 เป็นรถวิบากกึ่งถนนแนวใช้งานทั่วไปกับใช้ลุยเบาๆ การออกแบบรูปทรงถือว่าเข้าตา เนื้องานพลาสติกดีครับ รูปทรงปราดเปรียว คันสตาร์ทที่ชอบโผล่มาเกี่ยวน่องเวลาโยกตัวก็ไม่ค่อยโดนแล้วครับ เก็บงานได้ดีขึ้นสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ยินเสียงทุ้มเล็กน้อยท่อเรียวๆ เล็กๆ แต่เก็บเสียงดีนะ ตำแหน่งท่านั่งขับขี่เน้นสบายด้วยแฮนด์ที่ยกสูงขึ้นมา ตัวรถเพรียวมากสามารถเลื่อนเคลื่อนตัวได้ไม่ติดขัด น้ำหนักในการบีบคลัทช์ให้มาดีครับช่วยให้การเข้าเกียร์แม่นยำขึ้นแม้จะรู้สึกกึกกักตอนเหยียบเกียร์อยู่บ้างจากการวางมุมคันเกียร์แบบทิ่มปลายลง จับจังหวะได้ก็จะเริ่มแม่น การตอบสนองของเครื่องยนต์อยู่ในระดับดีตามสไตล์รถ 4 จังหวะ ซีซีขนาดนี้ กันสะเทือนเป็นสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้ผมมากที่สุด ทั้งด้านหน้าและด้านหลังที่มีประสิทธิภาพในการดูดซับแรงกระแทกอย่างรู้สึกได้ ลองโยนผ่านเนินย่อมๆ ดูพอลงพื้นแล้วมันหนึบ! ไม่ดีดแต่เป็นการดูดซับแรงกดได้ดีครับทำให้เลี้ยวและเร่งต่อได้ทันที ด้วยกลไกกระเดื่องที่โช้คหลังทำให้การทรงตัวมั่นคงมาก การลีนการเอียงไม่พบจังหวะก้ำกึ่งของน้ำหนักควบคุมได้ต่อเนื่องสมูทมากครับ ดิสก์เบรกทำงานได้ดีในทางฝุ่น แต่บนถนนนั้นเบรกหน้ายังรู้สึกตอบสนองช้าไปนิด เบรกหลังทำได้ดีทั้งสองสภาพทาง ยางติดรถที่ให้มาหน้าตายางถนนแต่ขี่บนทางดินได้อย่างสนิทใจเกินคาดครับกับราคาสี่หมื่นกว่าๆ 150 ซีซี ขี่ใช้งานไปจนถึงการลุยเบาๆ อุปกรณ์ที่ให้มาทั้งแรควางของด้านหลังหรือแฮนด์การ์ดครบ พร้อมใช้แบบไม่ต้องจัดเพิ่มเลยครับ”
100% SPEEDLAB VISION SYSTEM
ความสามารถในการมองเห็นเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การใช้ชีวิตเป็นปกติ หากสูญเสียประสิทธิภาพในการมองเห็นไปเสียแล้ว อย่าว่าแต่การขับขี่รถเลย แม้แต่จะหยิบฉวยสิ่งของที่อยู่ตรงหน้า ก็ยังทำไม่ได้ ในการขับขี่บนสนามวิบากที่มีสภาพเปียกเลอะไปด้วยน้ำและโคลน แว่นธรรมดาจะทำหน้าที่ป้องกันได้ในครั้งแรกของการโดนสาดเท่านั้น เลนส์แว่นจะเลอะไปด้วยน้ำโคลน เอามือขึ้นมาเช็ดถุงมือก็เต็มไปด้วยดินโคลนเหมือนกัน มันช่วยอะไรกันไม่ได้ก็ต้องถอดแว่นออก พอไม่มีอะไรป้องกันดวงตาเวลาขี่ก็ต้องคอยหรี่ตา กระพริบตา หลับตา เบือนหน้าหนี เวลาที่ต้องขี่ตามคันอื่น จะตามต่อก็ยิ่งเลอะ จะแซงก็ลำบาก เพราะมองไม่ถนัด แถมยังเสี่ยงเป็น ตาอักเสบจากเชื้อโรคที่อาจปนมากับน้ำหรือโคลนอีกด้วย เท่าที่สังเกต นักขี่หรือแม้แต่นักแข่งไทย ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องนี้เท่าไร พอแว่นเลอะก็โยนทิ้งแล้วก็ขี่ให้โคลนพอกหน้า แสบตาไปหมด ทั้งที่เขาคิดค้นอุปกรณ์ป้องกันมาให้เลือกใช้กันตั้งนานแล้ว แต่ก็เห็นน้อยคนที่ใส่ใจ ยูสรีพอร์ทครั้งนี้เราจึงเสนออีกหนึ่งทางเลือกอุปกรณ์ปกป้องดวงตา เป็นระบบเลื่อนแผ่นฟิล์มบนแว่นที่เรียกกันทั่วไปว่า Roll off (โรลออฟ) แต่ละยี่ห้ออาจมีชื่อเรียกเฉพาะที่แตกต่างกันออกไป โดยแว่นยี่ห้อ 100% เรียกว่า SPEEDLAB VISION SYSTE
การทำงานของมันจะมีแผ่นฟิล์มใสกว้าง 3.1 ซม. คาดผ่านด้านนอกของเลนส์ตรงจุดสายตาเราพอดี โดยม้วนฟิล์มนี้จะถูกเก็บไว้ด้านขวา เมื่อมีโคลนมาโดนที่หน้าเลนส์ ส่วนที่เป็นแผ่นฟิล์มนี้เราจะสามารถดึงให้เลื่อนเอาส่วนที่ สกปรกไปเก็บไว้ในแกนม้วนด้านซ้าย แล้วฟิล์มใหม่ที่ใสสะอาดจะเลื่อนเข้ามาทำให้เรามีช่องมองที่ชัดใสทุกครั้งที่เราดึงเลื่อนฟิล์ม ใช้งานง่าย แต่ไม่ค่อยมีใครใช้ ไม่เข้าใจเหมือนกัน จุดเด่น โดยพื้นฐานแล้วก็เป็นกลไกการทำงานที่เหมือนๆ กับยี่ห้ออื่น แต่ส่วนที่มีประโยชน์จริงๆ ก็คือกระปุกเก็บฟิล์มด้านข้างแว่นที่ทำมาเป็นพลาสติกใส ทำให้มองเห็นได้ว่าฟิล์มถูกใช้ไปขนาดไหนแล้ว จะเพียงพอกับการใช้งานหรือไม่ ง่ายต่อการตัดสินใจเปลี่ยนม้วนใหม่แทนเข้าไป จะได้ไม่เสียอารมณ์ ว่าอุตส่าห์ใส่โรลออฟมาแต่ว่าไม่เหลือฟิล์มให้ดึงเพราะหมดม้วน ข้อสังเกต วัสดุประเภทพลาสติก ที่ใช้ผลิตนั้นจะมีความแข็งมากกว่า ยืดหยุ่น ดังนั้นเวลาถอดประกอบชิ้นส่วนจึงควรทำด้วยความระมัด ระวัง และอย่าทำตกลงบนพื้นแข็งอย่างคอนกรีตที่อาจทำให้แตกเสียหายได้ อ้อ…อีกอย่างคือระบบโรลออฟนี้ออกแบบมาสำหรับเฟรมของรุ่น Acurri และ Strata ส่วนรุ่นท็อป อย่าง Race Craft ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้










สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ร้านเมกาเดิร์ท โทร 08-1262-2355 ในกล่องให้เลนส์ใสที่ติดตั้งกระปุกฟิล์มมาให้ในตัว ม้วนฟิล์มใส 2 ม้วน และแผ่นบังด้านบนหนึ่งชิ้น
ความเห็น การติดตั้งด้วยตัวเองทำได้ง่ายมาก แต่ยอมรับว่ากังวลนิดๆ กับฝาปิดประปุกฟิล์มที่เป็นพลาสติกแข็งกดแล้วเสียงดังเหมือนจะแตก แต่ก็แข็งแรงกว่า
ที่คิด แผ่นกันหยดน้ำด้านบนมีขนาดใหญ่ช่วยให้ติดตั้งง่าย ในกล่องมีฟิล์มให้สองม้วนใช้ได้นานมาก จากประสบการณ์ของผู้เขียนเองสองม้วนนี้ใช้ได้หนึ่งปีสบายๆ การเลื่อนดึงฟิล์มแต่ละครั้งดึงได้ยาวจนเกือบเต็มหน้าเลนส์ทำให้ใช้เวลาน้อย ตัวดึงที่ปลายสายขนาดกำลังดีแล้วก็มีรูปทรงกระดิ่งที่ไม่ลื่นหลุดง่ายๆ การถอดล้างทำความ สะอาดก็ไม่ยาก ช่วยได้มากสำหรับ การปกป้องดวงตาที่มีค่ายิ่งของเรา ในราคาขนาดนี้ พอๆ กับซื้อแว่นธรรมดามาเพิ่มอีกหนึ่งตัว นับว่าเกินคุ้มก่อนจากกันเราแถมท้ายด้วยขั้นตอนการติดตั้งเพื่อความสะดวกและเข้าใจที่ง่ายขึ้น ใส่ใจดวงตาของท่านก่อนจะสายเกินไป ด้วยความ ห่วงใยจากทีมงานไรดิ้ง
ยามาฮ่าร่วมงานแถลงข่าวโครงการสานฝันบอลไทยไปบอลโลก
นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมงานแถลงข่าวโครงการสานฝันบอลไทยไปบอลโลก ด้วยลีกเยาวชนแห่งชาติ 2016 ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของ กกท. ในการพัฒนาเยาวชนอย่างจริงจัง โดยยามาฮ่าเป็นหนึ่งในผู้มีส่วนร่วมการช่วยผลักดัน และพัฒนาวงการฟุตบอลไทยมาโดยตลอด และเห็นความสำเร็จต่างๆ ของฟุตบอลไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยงานแถลงข่าวครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก พลเอกธนะศักดิ์ ปฎิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี ณ ห้องประชุมชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้
ภูซาง เอ็นดูโร่ ครั้งที่ 1
คาวาซากิ จัดสัมมนาและอบรมการขับขี่ให้แก่ตัวแทนจำหน่ายคาวาซากิทั่วประเทศ
บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดสัมมนาและอบรมการขับขี่ให้แก่ตัวแทนจำหน่ายคาวาซากิทั่วประเทศ โดยมีการจัดคอร์สอบรมเจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจกรรมในรูปแบบของสนามและเส้นทางจริง พร้อมผลักดันการจัดกิจกรรมรูปแบบใหม่เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง คาวาซากิจัดการฝึกอบรมนี้ขึ้นเพื่อเสริมสร้างทักษะให้แก่ตัวแทนจำหน่ายเพื่อสามารถรองรับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบและเป็นการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ควบคู่ไปพร้อมกับเส้นทางธรรมชาติสวยงามในเมืองไทย เห็นได้ว่าการขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงในสนามแข่งขันเท่านั้น แต่ยังสามารถขับขี่เพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมและเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ผู้รักการเดินทาง ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจและสร้างกระแสการขับขี่รถจักรยานยนต์ให้เติบโตในตลาดเมืองไทยอีกด้วย ในขณะเดียวกันบริษัทได้จัดสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะคติของการจำหน่ายรถจักรยานยนต์พร้อมทั้งวางแผนการดำเนินกิจกรรมอันใกล้เพื่อให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมกับคาวาซากิทั่วประเทศ การฝึกอบรมจัดขึ้นที่สนามเอกสีมาเอ็นดูโร่ปาร์ค จังหวัดนครราชสีมา ในคอร์สฝึกทักษะพื้นฐานและสกิลการขับขี่ที่มากขึ้น โดยได้รับการฝึกอบรมจาก Kawasaki KGRS และทีม K45 นำโดยอาจารย์โอเล่ ซึ่งเน้นการขับขี่พื้นฐาน การทรงตัว และการฝ่าอุปสรรคบนเส้นทางที่จัดวาง เพื่อนำไปใช้ในเส้นทางการท่องเที่ยวเอ็นดูโร่ได้จริงอีกด้วย สำหรับวันที่สอง ได้จัดอบรมในเส้นทางท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมาเพื่อให้สอดคล้องกับทักษะเพื่อการขับขี่อย่างมีประโยชน์มากที่สุด เส้นทางการท่องเที่ยวในคอร์สนี้คือ อุทธยานแห่งชาติทับลาน วังน้ำเขียว ตามเส้นทางผู้อบรมจะได้เรียนรู้ทักษะการขับขี่เอ็นดูโร่พร้อมกับเที่ยวชมธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด การพักชมความสวยงามของธรรมชาติพร้อมกับทบทวนการขับขี่เพื่อให้ความเข้าใจที่ตรงกัน อันนำไปสู่กิจกรรมให้แก่ลูกค้าได้อย่างถูกต้องแม้ว่าเส้นทางจะมีอุปสรรคบ้างแต่ก็ทำให้คอร์สเรียนในวันนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยเสียงหัวเราะและความสุขจากเจ้าหน้าที่ทุกท่าน สำหรับผู้สนใจติดตามข่าวสารคาวาซากิและการรายงานผลแข่งขันได้ที่เว็ปไซต์และแฟนเพจได้ที่ www.kawasaki.co.th และwww.facebook.com/KawasakiMotorsThailand/ พร้อมทั้งยังสามารถชมวีดีโอและถ่ายทอดสดทางยูทูปได้ที่ Kawasaki Thailand
Benelli Riding Spirit : SURATTHANI
Benelli Suratthani ร่วมเปิดประสบการณ์การขับขี่ พร้อมสร้างจิตสำนึกของการขับขี่อย่างถูกต้อง ให้กับกลุ่มสมาชิกในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียง ในโครงการ Benelli Riding Spirit ณ สนามแข่งรถเปาโลเซอร์กิต เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา สานต่อความสนุก พร้อมสร้างจิตสำนึกที่ดี สำหรับสมาชิก Benelli โดยในครั้งนี้ได้เดินทางมายังเมืองร้อยเกาะ(จังหวัดสุราษฎร์ธานี) อีกหนึ่งพื้นที่ที่ทาง Benelli ได้ปักหมุด สร้างแลนด์มาร์คของครอบครัวชาวสิงโตไว้ ซึ่งในปัจจุบันได้ขยายและเพิ่มจำนวนสมาชิกไปอย่างมาก ดังนั้นเพื่อให้ทุกการขับขี่ของเหล่าสมาชิกได้เกิดความปลอดภัยสูงสุดจึงได้มีการจัดอบรมการขับขี่ Benelli Riding Spirit : SURATTHANI โดยได้ทีมงานมืออาชีพจาก Benelli Thailand เดินทางไปให้ความรู้เช่นเดิม ซึ่งการอบรมในครั้งนี้ค่อนข้างสดชื่นเนื่องด้วยสนามแห่งนี้ถูกรายล้อมไปด้วยสวนยาง ที่ตั้งตระหง่านปกคลุมพื้นที่ช่วยลดอุณหภูมิไปได้มากเลยทีเดียว เริ่มต้นกันด้วยภาคทฤษฎี ที่ให้เหล่าสมาชิกได้เรียนรู้ถึงคุณสมบัติของรถที่ใช้ การเตรียมตัวในก่อนออกเดินทาง รวมถึงข้อมูลอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เพื่อให้การขับขี่ทุกครั้งเกิดความปลอดภัยสูงสุด ก่อนที่ทุกคนจะได้ลงสู่สนามการขับขี่ที่ได้จัดเตรียมไว้ ซึ่งผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้ถึงการขับขี่ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการขี่ในที่แคบ การขี่แบบ Slalom การขี่ในทางโค้ง เป็นต้น และที่สำคัญเรื่องการใช้เบรคในกรณีต่างๆ เรียกได้ว่าทุกข้อมูล ทุกความรู้ที่ได้นี้ นำไปใช้ได้จริงบนท้องถนน และเพิ่มเติมเทคนิคการขับขี่แบบคาราวาน ทั้งในเรื่องของสัญญาณมือ การตั้งขบวน หลังจากเสร็จสิ้นการอบรม ก็ถึงเวลาเฮฮา สนุกสุดตัวตามประสาครอบครัว Benelli กับงานเลี้ยงสังสรรค์ ที่ให้เหล่าสมาชิกได้มาพูดคุยทำความรู้จักกันมากขึ้น พร้อมปักหมุดความเป็น Benelli ในพื้นที่แห่งนี้ อีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ ที่ทาง Benelli จัดขึ้นเพื่อร่วมรณรงค์ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน และพบกันได้ครั้งต่อไป Benelli Riding Spirit : HUAHIN เร็วๆนี้ พร้อมติดตามข่าวสารของกิจกรรมดีๆ ได้ทุกช่องทาง www.benelli-thailand.co.th, www.facebook.com/benelliTH และ Instagram@benellithailand
Kawasaki Ninja 300 Sting of Speed By Link Thailand
สปอร์ต แรง หล่อ ในพิกัด 300 ซีซี. ช่วงนี้ถือว่ากำลังแข่งขันกันอย่างสนุกกับ 3 ค่ายใหญ่ เพราะด้วยขนาดที่กำลังดีสามารถใช้งานได้อย่างคล่องตัวทั้งในเมืองหรือการเดินทางออกทริปท่องเที่ยวความโฉบเฉี่ยวของ Kawasaki Ninja 300 ABS ก็ไม่ธรรมดาเป็นตัวเลือกระดับต้นๆ ที่วัยรุ่นให้ความนิยมด้วยการดีไซน์สัดส่วนมาจากตัวแข่งระดับแชมป์เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ สำหรับสปอร์ตขนาดเล็กคันนี้ เป็นตัวแต่งจาก Link Thailand โดยที่มีจุดเด่นอยู่ที่ชุดแฟริ่งแต่งแบบ Racing สีเหลืองตัดดำ พร้อมด้วยการปรับแต่งในส่วนต่างๆ อีกเพียบ
เติมแต่งชุดบังคับเลี้ยวเพิ่มความสปอร์ตในการขับขี่ด้วยแฮนด์จับโช้คงานอลูมินัม GMP สีทอง ปั๊มแรงดันดิสก์เบรกหน้าแบบแท้งค์เหลี่ยมติดรถเปลี่ยนก้านมือเบรกและมือคลัทช์ Savage ปรับได้ 6 ระดับ ปลอกแฮนด์ rizoma และ ProGuard ติดตั้งไว้ที่ปลายแฮนด์ทั้ง 2 ข้างช่วยป้องกันก้านมือเบรกและก้านคลัทช์เสริมกันสะบัด HyperPro รุ่น RSC ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ติดเกจวัดโวลท์ Koso ไว้อีกด้วย ส่วนไฟหน้าเปลี่ยนไปใส่เป็นหลอดแบบ Projector Xenon หน้ากากครอบไฟหน้าแต่งเพิ่มความเท่ ที่ชุดเบรกหน้าจานดิสก์เบรก Nassert Beet ขนาด 320 มม. จับด้วยคาลิเปอร์ขนาด 2 ลูกสูบ หม้อน้ำระบายความร้อนปกป้องด้วยการ์ดแต่ง Nice And Trendy ตัวรถด้านข้างติดกันล้มงาน CNC ชุดเกียร์โยงอลูมินัมแต่ง Arashi สีทอง ครอบด้านท้ายเบาะทรงตูดมด Storm ไฟเบรกหลังแบบ LED ระบบกันสะเทือนหลังเปลี่ยนใส่โช้คอัพแต่ง YSS ซับแท้งค์แยก
ชุดหลังอลังการงานใหญ่ สวิงอาร์ม วงล้อแม็ก และจานดิสก์เบรก ยกชุดมาจากรุ่นใหญ่อย่าง ZX-14 ระบบขับเคลื่อนโซ่และสเตอร์อลูมินัม เพิ่มความเร้าใจในการขับขี่ด้วยท่อไอเสียแต่ง Diavolo Slip-On ปลายคาร์บอนงามๆ ยืดอายุการใช้งานของระบบไฟด้วยแบตเตอรี่ จาก MotoBatt พร้อมตัวเตือนแบตเตอรี่ วงล้อแม็กหน้าหลังทำสีเหลืองตัดดำเข้ากับตัวรถ ยึดเกาะถนนด้วยยาง Continental Attack2 หน้า 110/70 ZR17 และหลัง 190/50 ZR17
SCOYCO TOURING BOOTS : MBT003
รองเท้าหุ้มข้อสำหรับขับขี่รถจักรยานยนต์ทั่วไปที่ต้องการความสะดวกในการใช้งาน ออกแบบให้มีความเท่ภูมิฐานโดยใช้งานในชีวิตประจำวันได้โดยไม่ขัดสายตา แต่ยังบ่งบอกตัวตนของคนไบเกอร์ด้วยการป้องกันจุดสำคัญและเซ็นเซอร์ปลายเท้าโลหะสุดเท่

จุดเด่น : รูปทรงที่เป็นรองเท้าหุ้มข้อก็ดูดีอยู่แล้ว การมีเซ็นเซอร์ปลายเท้ามาด้วยยิ่งทำให้มันชัดเจนมากยิ่งขึ้นในการเป็นรองเท้าของคนขี่มอเตอร์ไซค์ สะดวกสบายมากด้วยการถอดใส่แสนง่าย แต่ก็แน่นหนาอย่างมั่นใจ ด้วยการรัดสองชั้น ชั้นแรกจะเป็นเชือกพร้อม ตัวล็อคสะดวกมากไม่ต้องผูก ปิดทับอีกชั้นด้วยแถบเมจิกหนามเตยที่อยู่ปลายแผ่นกันหลังเท้า





ข้อสังเกต : ขนาดที่ระบุมาจะใหญ่กว่าปกติ เล็กน้อย เช่นคนที่ใส่รองเท้าทั่วไปเบอร์ 8 อาจจะต้องขอลองเบอร์ 7 ซึ่งอาจจะพอดีกว่า ผลิต : Scoyco (สคอยโก้) เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อนักขับขี่ชั้นนำที่ประกาศตัวอย่างภูมิใจในความเป็น Made in China ราคา : 3,500 บาท จำหน่ายในประเทศไทย โดย บริษัท เจ.เอส.บี เทรดดิ้ง จำกัด มีตัวแทน จำหน่ายทั่วประเทศไทย
ความเห็น : “ดูตัวงานแล้วถือว่าวัสดุที่ใช้กับฝีมือการผลิตนั้นอยู่ในขั้นดี น้ำหนักเบา สวมใส่สะดวกมากครับถอดใส่ง่าย รัดเข้าไป ก็แน่นหนาโดยเฉพาะส่วนรัดข้อเท้า ผ้าบุด้านในนุ่มทำให้สวมใส่สบาย ไม่มีรอยต่อหรือตะเข็บให้รู้สึกรำคาญ พื้นอัดกาวดูบางๆ แต่ก็ไม่รู้สึกยวบยาบ รายละเอียดของพื้นรองเท้าที่ใช้สีแดงเข้าไปทำให้ดูเป็นงานที่ใส่ใจในรายละเอียดดี กันความร้อนและละอองน้ำได้ดีมาก มีจุดรองรับหลังเท้าที่จะต้องใช้งัดเกียร์ ตรงส้นเท้าเสริมพลาสติกเพื่อความแข็งแรงให้จุดเสี่ยงซึ่งมักจะบาดเจ็บ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ มีช่องระบายอากาศที่ไม่ได้เปิดโล่งซะทีเดียว ส่วนความสะอาดภายนอก ไม่ยุ่งยากเพราะเป็นหนังเรียบ

ออกแบบได้เท่ ป้องกันจุดสำคัญได้ครบ สวมใส่กับยีนส์ชุดในชีวิตประจำวันได้ไม่ดูขัดตา ราคาไม่แรงแต่ได้สไตล์หรูไม่แพ้แบรนด์ตะวันตกก็แล้วกัน”
EVS R4 PRO RACE COLLAR
เรียบง่าย วัสดุคุณภาพดี ประสิทธิภาพป้องกันสูง
การ์ดรองคอป้องกันการบิดงอผิดธรรมชาติรอบทิศทาง ซึ่งเกิดจากการกระแทกด้วยอุบัติเหตุของการขับขี่รถจักรยานยนต์วิบาก ผลิตจากไบโอโฟมฉีดขึ้นรูปเพื่อรับแรงกระแทกสูงโดยเฉพาะ เนื้อวัสดุมีความนุ่มแน่น ซับแรงกระแทกได้ดี ครอบทับชั้นนอกเอาไว้ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีความแข็งแรงสูง แต่มีน้ำหนักเบา ซึ่งทางผู้ผลิตแจ้งว่าเป็นการ์ดคอที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในโลกขณะนี้ที่ 585 กรัม ซึ่งทีมงานไรดิ้งได้ลองเทียบน้ำหนักกับ R4 รุ่นธรรมดาพบว่ามีน้ำหนักที่ 680 กรัมโดยประมาณ

R4Pro มีคุณสมบัติเด่น ในการใช้งานดังนี้
Fiber Top Cops ชิ้นครอบบนที่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ วัสดุยอดฮิตที่ให้ได้ทั้งความแข็งแรง น้ำหนัก เบา สวยงาม ทำความสะอาดง่ายBio-Foam Liner โครงสร้างทั้งตัวผลิตจากโฟมฉีดขึ้นรูปที่มีความนุ่มในตัว ขณะเดียวกันก็สามารถรองรับแรงกระแทกได้สูง Rapid Lock ระบบล็อคที่เป็นแบบสองชั้นเพิ่มความแน่นหนาในการสวมใส่ไม่หลุดเมื่อกระแทก Air Bladder Shock เพิ่มประสิทธิภาพการรองรับแรงกดบนไหล่ให้นุ่มนวลปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยระบบถุงลมขนาดย่อมเรียงรายอยู่ด้านข้าง ช่วยซับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น Adjustable Rear Strut ปรับแผ่นรองรับด้านหลัง 2 ระดับได้ง่ายๆ ตามขนาดของร่างกาย ใช้ได้ทั้งคนอ้วนคนผอมโดยไม่ต้องเปลี่ยนไซส์ Strap มีสายรัดมาให้เลือกใช้กันถึง 2 แบบแล้วแต่ความถนัด คือแบบเอี้ยมสวมรอบตัว กับแบบใหม่ไขว้เป็นรูปตัว X โดยมีการเพิ่มตัวเกี่ยวสายรัดที่ด้านข้างเพื่อเพิ่มความกระชับ






แหล่งผลิต EVS เป็นบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สหรัฐอเมริกา แต่งาน การ์ดคอ R4 PRO ผลิตจาก โรงงานในประเทศจีนราคา 12,900 บาท ที่ร้านเมก้าเดิร์ท โทร
08-1262-2355 มี 2 ไซส์สำหรับเด็ก (Youth) และผู้ใหญ่ (Adult)
ความเห็น
“ประเด็นเรื่องน้ำหนักที่เบาที่สุดในโลกนั้นมีผลเมื่อต้องสวมใส่เป็นเวลานานๆ อุปกรณ์ที่เบากว่าย่อมให้ความสบายที่มากกว่า นานกว่า ระบบล็อคแบบสองชั้นไม่เคยมีปัญหาเรื่องหลุดหลวมดูจากรูปร่างเหมือนจะหนาแต่พอสวมลงมาที่ไหล่แล้วก็ไม่เกะกะการเคลื่อนไหวของศีรษะ ดูจากร่องรอยหลังการใช้งานแล้วพบว่ามีรอยเสียดสีที่ด้านหลัง น่าจะเกิดจากการเบียดกับขอบด้านหลังของหมวกกันน็อคในบางขณะ น่าแปลกที่เวลาสวมใส่ไม่รู้สึก ถึงเวลานั้นเลย” หากมองหาการ์ดคอที่มีโครงสร้างไม่ซับซ้อน น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย ทำความสะอาดง่าย ทนทาน ไม่ต้องระวังในการจัดเก็บมากนัก แนะนำ EVS R4 PRO เป็นคำตอบที่น่าสนใจครับ
2015 KX250F หน้าตาอาจไม่หวือหวาแต่เทคโนโลยีใหม่ๆ ติดตัวมามากที่สุดในบรรดาซามูไรทั้งหมด
โลกหมุนเร็วขึ้น ทุกอย่างขับเคลื่อนเร็วตาม เพิ่งจะผ่านกลางปีไปไม่นานแต่การมาถึงของโมโตครอสปี 2015 ก็มาถึงแล้ว ด้วยการสนับสนุนเป็นอย่างดีโดยยางรถจักรยานยนต์ควิกและวงล้อโยโก ทำให้คอลัมน์ทดลองสัมผัสโมโตครอสแซมเปิ้ลของปี 2015 เริ่มต้นได้อย่างทันการณ์ พบกับรุ่นแรก ของการรีวิว KX250F

มีอะไรใหม่ใน 2015 KX250F
ภายนอกเท่าที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือโทนสีของน็อตข้างเครื่องที่เดิมใช้สีน้ำเงินก็เปลี่ยนเป็นอะโนไดซ์สีเขียวซึ่งเป็นโทนเดียวกับพลาสติกของตัวรถ อีกชิ้นที่เปลี่ยนเป็นเขียวเช่นกันคือสปริงโช้คหลัง ส่วนโช้คหน้า ที่เป็นระบบ SFF ผลงานโชวานั้นได้ใช้กระบอกโช้คผิวด้านสีเทาอ่อนเหมือนที่ใช้ในรถแข่งของแชมป์มาเพิ่มความเข้มขลัง จานเบรกหน้าเพิ่มขนาดจาก 250 มม. เป็น 270 มม. คือขนาดโอเวอร์ไซส์ที่มีขายเป็นของแต่งกันเลย กับซับเฟรมที่เบาขึ้นเล็กน้อย


เครื่องยนต์
ภายในเครื่องยนต์แบบ DOHC 4 จังหวะสูบเดียว ได้มีการพัฒนาลูกสูบใหม่ที่เรียกว่า Bridged Box Bottom พร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีอยู่ยังพร้อมพรั่ง ด้วยระบบหัวฉีดคู่อันเลื่องลือ เรือนลิ้นเร่ง 43 มม. ของเคฮิน แถมยังสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้กำลังด้วยปลั๊กเปลี่ยนนิสัย เลือกใช้ตามสภาพสนามได้ถึง 3 แบบมาให้สั่งงานระบบหัวฉีดง่ายๆ เพียงแค่เสียบปลั๊กเข้าไปเท่านั้น ท่อไอเสียพร้อมคอท่อสไตล์เมก้าบอมบ์ อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่รู้ใจผู้ขับขี่ก็คือระบบช่วยการออกตัว Launch Control ที่จะช่วยปรับสมดุลระหว่างรอบเครื่องยนต์กับการหมุนฟรีของล้อหลัง ลดอาการล้อฟรีมากเกินควร ช่วยให้ชิงโค้งแรกได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยระบบนี้จะทำงานด้วยปุ่มกดด้านซ้ายของแฮนด์ แสดงสถานะทำงานด้วยสัญญาณไฟกระพริบ โดยจะทำงานในเกียร์ 1 และ 2 เท่านั้น ยกเลิกระบบอัตโนมัติทันทีที่เข้าสู่ตำแหน่งเกียร์ 3กันสะเทือนด้านหน้ายังคงคบหากับ Showa ด้วยระบบ SFF แบบที่ 2 (Saparate Function Front Fork) Type 2 ด้วยการแยกทำงานระหว่างด้านซ้ายที่เป็นระบบวาล์วน้ำมันสร้างความหนืด ส่วนด้านขวาทำหน้าที่ยันออกและรับแรงกระแทกด้วยสปริง ลดได้ทั้งน้ำหนักและความฝืดสามารถปรับพรีโหลดของสปริงได้จากภายนอก โดยที่แกนโช้คนั้นก็ยังคงมีการเคลือบผิวที่จัดให้สาวกสีเขียวเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวจนถึงปัจจุบัน ส่วนด้านหลังก็เป็นโช้คเดี่ยวกับระบบกระเดื่องเช่นเคย
มิติปรับได้กับเบรกแบรนด์ดัง
อีกส่วนที่คาวาซากิคิดเผื่อสำหรับนักขี่นักแข่งที่มีสรีระแตกต่าง ด้วยการจัดวางตำแหน่งของแฮนด์เดิลบาร์ เรนธอล (Renthal) ที่สามารถขยับปรับหน้าหลังได้ และพักเท้าที่สามารถปรับสูงต่ำได้เช่นกัน อีกหนึ่งความใส่ใจของระบบเบรกที่นอกจากจะมี Nissin เป็นผู้รับเหมาในส่วนปั๊มเบรกและคาลิเปอร์แล้ว จานเบรกที่ใช้ก็ปั๊มตรา Braking เบรกดียี่ห้อดังมาให้จากไลน์ผลิตอีกด้วย

ขอบคุณการประสานงานถ่ายทำและทดลองโดยคุณเกรียงไกร วรรัตนธรรม แห่งศรีสกลมอเตอร์สปอร์ต ผู้จำหน่ายรถแข่งคาวาซากิ KX250F โทร 08-1873-4551 คุณสาโรจน์ ทศพร เจ้าของรถใจดี และ คุณประสิทธิ์ กองเงิน (ลุงแจ๋นด่านขุนทด) ผู้ร่วมประสานงานของกลุ่ม ด่านขุนทดโมโตครอสเอื้อเฟื้อสถานที่ ชุดนักทดสอบ จากร้านเดิร์ทช็อพ พบกันใหม่กับคิวต่อไปของ 2015 MX Sample เร็วๆ นี้

ข้อมูลเทคนิค 2015 KX250F
เครื่องยนต์ ระบายความร้อนด้วยน้ำ, 4 จังหวะสูบเดียว
DOHC 4 วาล์ว
ปริมาตรกระบอกสูบ 249cc
ลูกสูบ x ระยะชัก 77.0 x 53.6 มม.
ระบบเชื้อเพลิง 2 หัวฉีด DFI เรือนลิ้นเร่งเคฮิน 43 มม.
อัตราส่วนการอัด 13.8:1
ระบบจุดระเบิด Digital DC-CDI
ระบบส่งกำลัง เกียร์ 5 สปีด คลัทช์แบบหลายแผ่น
ระบบขับเคลื่อน โซ่ 520
เฟรม เฟรมเหลี่ยมอลูมินัม
แรค / เทรล 28.7 องศา / 5.0 นิ้ว
โช้คหน้า 48 มม. หัวกลับ Showa SFF ทำงานแยกส่วน
สปริงพรีโหลด 40 ระดับ คอมเพรสชั่น 22 ระดับ
รีบาวด์ 20 ระดับ ช่วงยุบ 12.4 นิ้ว
โช้คหลัง กระเดื่องยูนิแทรคพร้อมโช้คเดี่ยว SHOWA
โลว์สปีด 19 ระดับ และ ไฮสปีด 4 รอบ
รีบาวด์ 22 ระดับ ปรับสปริงพรีโหลด
ช่วงยุบ12.2 นิ้ว
ยางหน้า 80/100-21
ยางหลัง 100/90-19
เบรกหน้า ดิสก์เบรกเดี่ยว 270 มม. กึ่งโฟล์ทติ้ง
คาลิเปอร์ลูกสูบคู่
เบรกหลัง ดิสก์เบรกเดี่ยว 240 มม. คาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว
ยาว 85.4 นิ้ว
กว้าง 32.3 นิ้ว
สูง 50.0 นิ้ว
ฐานล้อ 58.1 นิ้ว
สูงจากพื้น 13.0 นิ้ว
สูงถึงเบาะ 37.2 นิ้ว
น้ำหนัก 104.2 กก.
ถังน้ำมันจุ 7.3 ลิตร
ความเห็นนักทดสอบ : “เขมรัฐ สุธรรมวาท”
“รูปร่างหน้าตาอาจไม่ดูหวือหวาเหมือน CRF หรือ YZF ที่เพิ่งปรับโฉม แต่มองรายละเอียดดีๆ KX250F น่าจะเป็นรถที่ให้เทคโนโลยีใหม่ๆ ติดตัวมามากที่สุดในบรรดาซามูไรทั้งหมด แถมยังปรับตำแหน่งได้ตามความชอบด้วยนี่สิเด็ด เป็นลูกเล่นง่ายๆ แต่ใช้ได้จริงเดิมทุกกระเบียดเลยครับคันนี้ การสตาร์ทเครื่องยนต์จัดว่าง่ายมาก มีเพียงความรู้สึกแน่นของกำลังอัดที่ต้องออกแรง ผ่านไป พอเลยจุดนั้นมันไม่มีความหนืดมารั้งเท้าเอาไว้เลย กดเน้นแบบแน่นๆ บรึ๊ม! ติดเครื่องได้ง่ายเลยครับ คันนี้ตั้งรอบเดินเบาไว้ค่อนข้างสูง แต่จากการขับขี่คาแรคเตอร์ของกำลังเครื่องยนต์จะมีให้ในย่านกลางถึงปลายอย่างชัดเจน รอบต้นๆ ไม่มีให้กระทุ้งออกเลยครับ (ใช้คัปเลอร์สีเขียวสแตนดาร์ด) แต่พออยู่ในย่านกำลังของมันก็อาละวาดเต็มที่เหมือนกัน กำลังแบบทันใจเดินรอบได้สูงไม่ตันง่ายเป็นผลจากการใช้ 2 หัวฉีดชัดเจน การชิพเกียร์ทำได้ง่ายมากจริงๆ ครับ ชอบมากไม่ต้องออกแรงมาก ไม่มีวืด ระบบช่วยสตาร์ท ลันช์คอนโทรล ช่วยได้จริงๆ กับการปั่นฟรีเมื่อรอบเกิน แต่ถ้าเดินรอบไม่ถึงการที่ล้อหน้ากระตุกขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับโช้คหน้าให้ความรู้สึกของตัวแข่งโรงงาน การทำงานช่วงแรกนั้นซับได้ในระดับปานกลางครับ ยังสะท้านขึ้นมือให้รู้สึกอยู่ และเมื่อต้องกดเบรกเพื่อเตรียมตัวเลี้ยวในช่วงบั๊มของพื้นสนาม การยุบตัว ของโช้คเหมือนจะใช้พื้นที่ไปซะหมด ความแข็งกระด้างสวนทางมาให้รู้สึกทันที ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะจานเบรกขนาดใหญ่ที่ทำให้การตอบสนองของเบรกหน้าฉับไวอย่างชัดเจน แต่กับการชนหน้าเนินหนักๆ หรือโดดลงพื้นแน่นๆ รู้สึกถึงการซับให้ปลอดภัย มันรองรับได้สมบูรณ์ครับ
มิติของตัวรถแคบหนีบง่าย แฮนด์สูงเบาะต่ำ ทำให้คุ้นเคยได้ไว การทำงานของโช้คหน้าเดิมๆ ชุดนี้ทำให้การเลี้ยวต้องใช้การเอียงรถเข้าช่วยเยอะๆ เป็นรถที่เลี้ยวได้แน่น ในการโดดเนินรถให้สมดุลได้ดี ลุยระนาดยังมีความรู้สึกของน้ำหนักท้ายสะท้อนมาหน่วงๆ อยู่นิดหน่อย และปลอกแฮนด์ที่มีขนาดใหญ่และหนาทำให้การจับถือของผู้ขับขี่รู้สึกใหญ่ แม้ว่าสัมผัสในส่วนอื่นจะเล็กและบางก็ตามราคาค่าตัว 310,000 บาท จัดว่าดีดสูงกว่าคู่แข่ง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับแฟนคาวาฯ และเมื่อพิจารณาสเปค
ของเทคโนโลยีที่ให้มาแล้วถือว่าเป็นส่วนต่างที่สมเหตุสมผลครับ”