สนามที่ 3 ของเกมความอึดบนทางวิบากกับเกมการแข่งขันที่บอกได้ว่าสมรรถนะของรถจักรยานยนต์คาวาซากิบนทางออฟโรดนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน กับการแข่งขัน คาวาซากิ เอ็นดูโร่ 3 ชั่วโมงปี 2559 ครั้งที่ 3 แก้มือกันใหม่ในสนามอ่างเก็บน้ำมาบประชัน จังหวัดชลบุรี ผ่านไป 2 เดือนกับการแข่งขันที่เข้มข้นในสนามที่ 2 การแข่งขันสนามที่ 3 ก็ได้มาถึงอีกครั้งในวันที่ 11 กันยายน 2559 โดยยังคงใช้สภานที่ของสนาม 2 คือริมอ่างเก็บน้ำมาบประชัน จังหวัดชลบุรี โดยการจัดของบริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์คาวาซากิได้มีกิจกรรมความสนุกร่วมกันอย่างตื่นเต้นและได้ความรู้ ประสบการณ์กับรถวิบากที่ตัวเองครอบครอง โดยเปิดให้มีการสอนเทคนิคการขับขี่ในวันเสาร์ ก่อนจะมาเข้าสู่โปรแกรมการแข่งขันในวันอาทิตย์กับ 9 รุ่นที่มีทั้งสำหรับกลุ่มลูกค้าคาวาซากิเอง และรุ่นที่เปิดกว้างให้รถจักรยานยนต์ทุกค่ายมาร่วมประลองกันได้ โดยช่วงเช้าเป็นการแข่งขัน 1 ชั่วโมงในระยะทางต่อรอบที่สั้นกว่า และช่วงบ่ายเป็นการแข่งขัน 3 ชั่วโมงในเส้นทางเต็มความยาวของสนาม ที่ถือว่าเป็นเกมทรหดที่สุดของจักรยานยนต์วิบากในประเทศไทยตอนนี้ ส่วนผู้ที่สนใจอยากลองก็มีการจัดรถจักรยานยนต์คาวาซากิตระกูล KLX เอาไว้ให้ทดลองขับขี่กันฟรีอีกด้วย รายละเอียดเพิ่มเติมผลการแข่งขันติดตามได้ในนิตสารไรดิ้งฉบับ 252 เดือนกันยายน 2559 ได้เลยครับ
ยามาฮ่าจัดหนัก…จับรางวัลแจกสปาร์ค 115i แก่ร้านซ่อมอิสระ ผ่านแคมเปญ “อะไหล่แท้ แจกจริง ปี 4”
นางสาวจินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ให้เกียรติจับรางวัลแจกรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า สปาร์ค 115i ครั้งที่ 1 ให้แก่ร้านซ่อมอิสระผ่านแคมเปญ “อะไหล่แท้ แจกจริง ปี 4” พร้อมผู้บริหารระดับสูงร่วมกันจับรางวัลอื่นๆ อีกกว่า 300 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 5 แสนบาท โดยมี ร.ต.ท.จักรกฤษ พุชพงษ์ รองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านโป่ง จ.ราชบุรี และสื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยานในการจับรางวัลครั้งนี้ โดยจัดขึ้น ณ สถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า (YRA) เมื่อเร็วๆ นี้
ข้อมูลเพิ่มเติม
สำหรับแคมเปญ”อะไหล่แท้ แจกจริง ปี 4” นี้เปิดโอกาสให้ร้านซ่อมอิสระทั่วประเทศที่ใช้ผลิตภัณฑ์ และอะไหล่แท้จากยามาฮ่า ส่งชิ้นส่วนเข้ามารับลุ้นรางวัล เพื่อตระหนักถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ และอะไหล่แท้จากยามาฮ่าในการให้บริการแก่ลูกค้า โดยการจับรางวัลจะมีขึ้น 2 ครั้งและสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้โชคดีได้ทาง www.yamaha-motor.co.th ในวันที่ 20 กันยายน 2559 เป็นต้นไป
แก๊สซี่ ตอกย้ำประสิทธิภาพ ระบบลองรับแรงสั่นสะเทือน
หลังจากที่ประกาศประสิทธิภาพในการลองรับแรงสั่นสะเทือนให้ได้เห็นในสนามไทยแลนด์เซอร์กิตนครชัยศรี กับการแข่งขันรายการ Yamaha R3 Challenge D1และD2 ด้วยการคว้าอันดับ 1 ในรุ่น D1 อันดับ 2,3 ในรุ่น D2 ล่าสุดแก๊สซี่ตอกย้ำประสิทธิภาพระบบลองรับแรงสั่นสะเทือนให้ทุกคนได้เห็นอีก ที่สนามพีระเซอร์กิต พัทยา ในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ รายการ IRC-ELFสนาม 2 โดยน้องดาม Phitakpong Srithep สังกัดทีมตรังมอเตอร์ไซด์ เรซซิ่งทีม เบอร์ 50 ในรุ่น Thailand Cup CBR300 Division 2
KTM Presents Bangkok Downtown Fest. with Rok Bagoros
“ KTM PRESENTS BANGKOK DOWNTOWN FEST. with Rok Bagoros “ เป็นกิจกรรมโชว์มอเตอร์ไซค์สตั๊นท์ โชว์โดย Rok Bagoros สตั๊นท์ระดับโลกชาวสโลเวเนีย โดยกิจกรรมจะจัดขึ้นที่ The Walk ถนน เกษตร – นวมินทร์ ในวัน เสาร์ ที่ 17 กันยายน 2559 เวลา 13.00 น. เป็นต้นไปครับ
ซูซูกิ และบิญาเลส คว้าแชมป์ MotoGP ที่ประเทศอังกฤษ
มาเวอริค บิญาเลส โชว์ฟอร์มร้อนควบ Suzuki GSX-RR คว้าแชมป์ MotoGP สนามที่ 12 ในรายการ British Prix ณ สนาม Silverstone ประเทศอังกฤษ อย่างน่าประทับใจนำแบบม้วนเดียวจบ นักแข่งจากทีมซูซูกิ ชาวสเปน ชนะเลิศอันดับที่ 1 ในรายการนี้ครั้งแรก และยังทำให้ทีมซูซูกิ กลับมาคว้าแชมป์ใน รายการ MotoGP นี้อีกครั้ง นับตั้งแต่ Chris Vermuelen คว้าแชมป์การแข่งขัน Le Mans ในประเทศฝรั่งเศสในปี 2007 โดยในสนามนี้ มาเวอริค บิญาเลส ได้ตำแหน่งออกสตาร์ทที่ 3 และทันทีที่ออกสตาร์ท มาเวอริค บิญาเลส ก็ควบมอเตอร์ไซค์คู่ใจ ทะยานนำเป็นอันดับที่ 1 ตั้งแต่โค้งแรก ก่อนกรรมการในสนามจะชูธงแดงเพิ่มให้เริ่มสตาร์ทการแข่งขันใหม่ เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุขึ้นในสนาม แต่นั่นก็ยังหยุดฟอร์มอันร้อนแรงของบิญาเลสในวันนี้ไม่ได้ ตั้งแต่ออกสตาร์ทอีกครั้ง “บิญาเลส” ยังคงทะยานขึ้นนำเป็นที่หนึ่งแบบรวดเดียวจบ ซึ่งสนาม Silverstone ในประเทศอังกฤษ นับได้ว่ามีความยาวมากกว่าสนามที่ใช้ในการแข่งขันทั่วไป และแข่งขันกันถึง 19 รอบ แต่นั่นก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับ บิญาเลส แต่อย่างใด บิดคันเร่งผ่านธงตราหมากรุกเป็นอันดับที่ 1 โดยทำเวลาทั้งสิ้น 39’03.559 ห่างจากอันดับที่ 2 ถึง 3.480 วินาที ทั้งนี้คู่หูอย่าง อเล็กซิส เอสปากาโร่ ก็ขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยม เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 7 เช่นกัน “นี่เป็นชัยชนะที่แท้จริงของผม และเป็นแชมป์เปี้ยน ครั้งแรกในรายการ MotoGP และยังเป็นครั้งแรกของทีมซูซูกิ นับตั้งแต่ปี 2007 ผมรู้สึกว่าผมมีศักยภาพที่ทำได้และผมพร้อมมาก แต่จนกว่าจะจบการแข่งขันนั้นผมไม่สามารถรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทีมของเราทำงานกันอย่างหนัก และยอดเยี่ยม เพื่อให้เจ้า GSX-RR นั้นพร้อมสำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ และหลังจากที่ออกสตาร์ทในครั้งแรกยิ่งทำให้ผมมั่นใจมากยิ่งขึ้น และในการปล่อยตัวรอบที่ 2 ผมก็สามารถทำได้ ผมขึ้นนำเป็นที่ 1 รักษาระยะห่าง วันนี้เครื่องยนต์สมบูรณ์แบบเป็นอย่างมาก และเราพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าเราสามารถทำได้และเรามาถูกทาง” มาเวอริค บิญาเลส กล่าวอย่างมั่นใจร่วมกันเชียร์ทีม ซูซูกิ ในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบ MotoGP ได้ในสนามต่อไปที่สนาม Misano Marco Simoncelli ประเทศอิตาลี ในวันอาทิตย์ที่ 11 กันยายนนี้ เวลา 18.45 – 20.15
Riding Magazine #251 : Riding Review / RacingBoy KLX150BF Rear shock
ทดสอบโช้คหลังจาก Racing Boy สำหรับ KLX150BF ในเส้นทางเอนดูโร่ด้วยระยะทางร่วม 100 กม. ใน 1 วัน วันดีกว่าโช้คติดรถตรงไหน เราเอามาแบไต๋ให้รู้กันในคลิปนี้
Benelli BN302 สัมผัสแรกกับการขับขี่เร้าใจสไตล์เน็คเก็ด
เกาะติดกระแสความเร้าใจด้วยรถเปลือยสไตล์ เน็คเก็ด แฝงความเป็นสปอร์ตของ Benelli bn302 รถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก ที่มาพร้อมกับดีไซน์ สุดเท่ห์ และเป็นรถสไตล์เน็คเก็ดรุ่นแรกกับเครื่องยนต์ขนาด 300 ซีซีเปิดตัวท่ามกลางความฮอตด้วยยอด สั่งจองถล่มทลายกว่า 200 คัน การันตีคุณภาพด้วยมาตรฐานการผลิตส่งจำหน่ายถึงยุโรป และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีกับรุ่นพี่ TNT899 บิ๊กเน็คเก็ด และถูกถ่ายทอดเทคโนโลยีลงมาสู่ขุมกำลังขนาดเล็ก เพิ่มอรรถรสการขับขี่ที่เร้าใจมากยิ่งขึ้นเน้นความคล่องตัวเป็นเยี่ยม และมาพร้อมกับการดีไซน์ที่โดดเด่น แฝงไปด้วยวัสดุที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพ ซึ่งจากการที่ได้สัมผัสเป็นครั้งแรก เรียกได้ว่าเปิดซิงกับเน็คเก็ดสปอร์ตขนาด 300 ซีซี จากค่าย Benelli ทำให้สามารถเข้าถึงตัวตนที่แท้จริงของ bn302 ที่ฉีกแนวไปจากรถของคู่แข่งในพิกัดเดียวกันอย่างสิ้นเชิง
BN302 หนึ่งเดียวของพิกัด 300 ซีซี สไตล์เน็คเก็ด
รูปทรงดีไซน์สไตล์เน็คเก็ด สีสันโดดเด่น เท่ เร้าใจ เป็นรถจักรยานยนต์สไตล์ เน็คเก็ดขนาด 300 ซีซี รุ่นแรกของเมืองไทย ที่ผู้ผลิตนำเสนอเพื่อการตอบสนองการขับขี่ที่เร้าใจ และสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ตัวรถถูกออกแบบให้มีความเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น สีสันโดดเด่นด้วยสีส้ม ร้อนแรง ถังน้ำมันขนาดใหญ่สามารถจุเชื้อเพลิงได้ถึง 16 ลิตร ตัวเฟรม เป็นเหล็กกล้าเชื่อมถักทรงเลขาคณิต เพื่อช่วยการกระจายแรงบิด ไฟหน้ามัลติรีแฟล็กเตอร์ เบาะนั่งเข้ารูปกระชับกับตัวรถและรับกับที่พักเท้า
ครบครันฟังก์ชั่นการทำงานที่ง่ายและสะดวปลอดภัย
มาพร้อมกับเรือนไมล์แบบดิจิตอลง่ายต่อการอ่านพร้อมโหมด การตั้งค่าระดับเดียวกับรถซูเปอร์ไบค์ และสัญญาณบอกระดับน้ำมัน สัญญาณไฟเลี้ยวเด่นชัด หมดห่วงเรื่องการเดินทางไกล สวิตช์ขาตั้งข้าง Side Switch Stan ระบบเซฟตี้ป้องกันความปลอดภัยเมื่อรถจอด ช่วงล่างจัดเต็มออพชั่นระดับท็อป เพื่อการควบคุมที่นิ่มนวลและปลอดภัยเสริมด้วยวงล้อแม็กอลูมินัม ขนาด 17 นิ้ว หน้ากว้าง 3.5 หลัง 4.5 ใส่กับยางหน้า 120/70-17 ยางหลัง 160/60-17 ดิสก์เบรกหน้าคู่พร้อมคาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ จานดิสก์ขนาด 260 มม. กระบอกโช้คอัพหน้าออพชั่นระดับชั้นนำ Up Side Down 41 มม. กระบอกสีทอง โช้คอัพหลังเดี่ยวยึดอยู่ด้านข้างของตัวรถ ที่สามารถปรับสปริงพรีโหลดได้ ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มแบบสปอร์ตที่มีความแข็งแรง ดิสก์เบรกหลังคาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยวทำงานร่วมกับจานดิสก์ขนาด 240 มม. แฮนด์แบบตุ๊กตา อัดแน่นด้วยคุณภาพและเทคโนโลยี ขุมพลัง 300 ซีซี 37 แรงม้า เครื่องยนต์แบบ 2 สูบเรียง 4 วาล์ว DOHC 4 จังหวะ บิดสนุกติดมือตอบสนองเต็มอารมณ์ จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดทำให้การเผาไหม้และการจุดระเบิดสมบูรณ์แบบ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 38 มม. ส่งผ่านการถ่ายทอดกำลังได้อย่างเร้าใจถึง 37 แรงม้า ที่ 11,500 รอบ/นาที และ 27 นิวตัน/เมตร ของแรงบิด ที่ 9,000 รอบ/นาที คลัทช์ไฮโดรลิครั้งด้วยสายเคเบิ้ล พร้อมกับชุดเกียร์บล็อก 6 สปีด ด้วยอัตราการทดที่ตอบสนองได้อย่างทันใจ
ขี่สนุก เรียกรอบได้อย่างต่อเนื่อง ให้ความคล่องตัว และนิ่มนวลควบคุมง่าย หลังจากที่ได้สัมผัสกับ bn302 บนเส้นทางที่เป็นเนินเขา ทางโค้ง และทางตรงยาวๆ ทำให้เข้าถึงสมรรถนะของตัวรถ ในการรีดรอบ ออกมาทำอย่างต่อเนื่องและรับกับชุดเกียร์ที่ทดระยะมาเพื่อการขับขี่ทั้งช่วงต้นและช่วงปลาย การทำงานของช่วงล่างโช้คหน้ามีความนิ่มนวลสามารถช่วยให้คอนโทรลรถเมื่อสัมผัสกับเส้นทางขรุขระได้ง่ายไม่สะท้านจนเสียอาการ ส่วนโช้คอัพหลังซับแรงและเกาะเข้าโค้งได้มั่นใจ ในความเร็วที่เกิน 100 กม./ชม. ระบบดิสก์เบรกสั่งการได้อย่างแม่นยำ ยิ่งการทำงานของเบรกหน้าหนึบเอาเรื่อง เพิ่มความมั่นเมื่อสั่งหยุดกะทันหันในความเร็วสูง ตำแหน่งท่านั่งต่างๆ กระชับกับตัวรถ แฮนด์บาร์กว้างสามารถบังคับเลี้ยวได้ง่าย แต่เมื่อต้องการก้มหมอบและเข้าโค้งก็ได้อารมณ์ในแบบสปอร์ต
เรียกได้ว่าเป็นรถจักรยานยนต์สไตล์เน็ดเก็ดขนาด 300 ซีซี คันแรกของเมืองไทย ที่ขับขี่ได้สนุกเร้าใจ คล่องตัวใช้งานง่าย
ทั้งในเมืองและเดินทางไกล…ครอบคลุม คุ้มค่า
เปิดฉาก เอ.พี. ฮอนด้าจุดพลังฝันเด็กไทย “สพฐ.-เอ.พี. ฮอนด้า เรด แชมป์เปี้ยน แข่งขันทักษะฟุตบอลชิงแชมป์ไปอังกฤษปี 6″ แบทเทิลสนามแรก
เอ.พี. ฮอนด้า จุดพลังฝันเด็กไทย เขตภาคกลางกว่า 500 คน ร่วมดวล “แบทเทิลทักษะลูกหนัง” เฟ้นผู้ชนะลัดฟ้าอบรมฝีเท้าถึงถิ่น “ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”
การแข่งขัน “สพฐ.-เอ.พี.ฮอนด้า เรด แชมป์เปี้ยน แข่งขันทักษะฟุตบอลชิงแชมป์ไปอังกฤษปี 6″ เปิดฉากชิงชัยสนามแรกอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยมีเยาวชนภาคกลางกว่า 500 คน ลับฝีเท้ามาเต็มที่เพื่อดวลทักษะฟุตบอล ลุ้นสิทธิ์ไปล้วงลึกอบรมศาสตร์ลูกหนัง กับ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงประเทศอังกฤษ
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย จัดกิจกรรม “สพฐ.-เอ.พี.ฮอนด้า เรด แชมเปี้ยน แข่งขันทักษะฟุตบอลชิงแชมป์ไปอังกฤษปี 6″ ประจำปี 2559 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี พร้อมเฟ้นนักเตะเยาวชนไทยอายุ 13-18 ปี ที่กำลังศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-5 ที่มีทักษะฟุตบอลขั้นพื้นฐานดีที่สุด แน่นที่สุด จาก 5 ภาครวม 25 คน จากสถานศึกษาทั่วประเทศ ไปอบรมฝีเท้ากับสโมสรระดับโลกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด Official Motorcycle Partner ถึงประเทศอังกฤษ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ส.ค.59 สพฐ.-เอ.พี.ฮอนด้า เรด แชมเปี้ยน ปีที่ 6 ได้เปิดฉากแบทเทิลสนามแรกอย่างเป็นทางการแล้ว เริ่มต้นที่เขตภาคกลาง ณ สนามฟุตบอล 1 การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก โดยมีนายอารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร, นายณัฐชัย ศรีโสวรรณา ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายฯ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด, นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และ นายทรงวุฒิ มลิวัลย์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนากิจกรรมนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิด ท่ามกลางเยาวชนไทยกว่า 500 คน ที่เตรียมการฝึกซ้อมทักษะฟุตบอลมาอย่างเต็มที่เพื่อลงแข่งขัน
นายทรงวุฒิ มลิวัลย์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนากิจกรรมนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวเปิดงานว่า “ต้องขอขอบคุณความมุ่งมั่นของ เอ.พี.ฮอนด้า ที่ให้ความสำคัญกับเยาวชนไทยด้านทักษะฟุตบอลอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 แล้วโดยเน้นกติกาไปที่การวัดทักษะด้านฟุตบอลเพียงอย่างเดียว ถือเป็นรูปแบบที่น่าสนใจ และจะทำให้เยาวชนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจการพัฒนาทักษะ เดาะ เลี้ยง ส่ง โหม่ง ยิง ให้แน่นที่สุด เติบโตสู่การเป็นนักฟุตบอลที่มีคุณภาพต่อไป จึงเชื่อว่าจะยิ่งทำให้เราได้ผู้ชนะที่มีความสามารถด้านทักษะฟุตบอลที่มากขึ้นกว่าเดิม และ สพฐ. จึงยินดีที่จะให้การสนับสนุนพร้อมผลักดันให้เกิดการแข่งขันทั่วประเทศอย่างเต็มที่ เชื่อว่าเยาวชนไทยที่เข้าร่วมโครงการนี้ไม่ว่าจะได้แชมป์หรือพลาดหวัง จะมีกำลังใจมุ่งมั่นที่จะฝึกฝนพัฒนาตัวเองต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง”
ด้านนายอารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด กล่าวถึงจุดประสงค์ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ว่า “ ภายใต้โครงการ เอ.พี. ฮอนด้า จุดพลังฝัน เรามีความตั้งใจที่จะจุดพลังฝันให้กับเยาวชนไทย เพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคม และในฐานะที่ฮอนด้าเป็น Official Motorcycle Partner ของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ซึ่งเรามีความตั้งใจที่จะส่งเสริมศักยภาพด้านกีฬาฟุตบอลให้เด็กไทยมีพื้นฐานที่ดี มีการเรียนรู้ทักษะฟุตบอลจากสโมสรระดับโลก เพื่อเติบโตสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพในอนาคต ซึ่งปีนี้ได้ยกระดับความเข้มข้นของการแข่งขันให้มากยิ่งขึ้นไปอีกด้วยการเพิ่มการแบทเทิลหรือการดวลทักษะเดาะ เลี้ยง ส่ง โหม่ง ยิง ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา มีเยาวชนเข้าร่วมแข่งขันในรายการนี้ไปแล้วมากกว่า 39,000 คน และมีแนวโน้มผู้สมัครเพิ่มขึ้นทุกปี ได้รับความร่วมมือโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ที่ส่งเสริมให้โรงเรียนมัธยมศึกษาในสังกัดได้เข้าร่วมอย่างทั่วถึง เช่นเดียวกับการกีฬาแห่งประเทศไทยที่ให้การสนับสนุนทั้งเรื่องสถานที่และผู้ตัดสิน รวมถึงเครือข่ายร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วประเทศก็จะร่วมเป็นตัวแทนในการรับสมัครเยาวชนเข้าร่วมแข่งขันอีกด้วย ถือเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญเพื่อช่วยกันผลักดันวงการฟุตบอลระดับเยาวชนของไทยให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีก”
ขณะที่ นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “สพฐ.-เอ.พี. ฮอนด้า เรดแชมเปี้ยน นับเป็นกิจกรรมที่มีคุณประโยชน์ต่อวงการกีฬาเมืองไทยอย่างแท้จริง นอกจากจะทำให้เยาวชนระดับชั้นมัธยมศึกษาเน้นการฝึกซ้อมในเรื่องทักษะพื้นฐาน อันเป็นรากฐานสำคัญสู่การเป็นนักกีฬาที่มีความสามารถในอนาคตแล้ว ยังมีการพาไปเรียนรู้และเก็บประสบการณ์จริงจากมืออาชีพถึงประเทศอังกฤษ เชื่อว่าเด็กทุกคนที่ได้รับโอกาสนี้ จะนำประสบการณ์ต่างๆ มาพัฒนาฝีมือของตนได้แน่นอน ซึ่งทางการกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่”
สำหรับ “สพฐ.-เอ.พี. ฮอนด้า เรดแชมเปี้ยน แข่งขันทักษะฟุตบอลชิงแชมป์ไปอังกฤษปี 6” ตัดสินผลแพ้ชนะทักษะฟุตบอลผ่านการเก็บคะแนนรวมของทีม โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 รอบ ได้แก่รอบตัวแทนร้านผู้จำหน่ายฯ ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม 2559 และรอบชิงแชมป์ระดับภาคตามกำหนดการดังต่อไปนี้ 27 ส.ค. ชิงแชมป์ภาคกลาง ณ สนามกกท.หัวหมาก, 28 ส.ค. ชิงแชมป์กรุงเทพฯและปริมณฑล ณ สนามกกท.หัวหมาก, 3 ก.ย. ชิงแชมป์ภาคอีสาน ณ สนามกีฬาสุรพลากรีฑาสถาน ม.เทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา, 10 ก.ย. ชิงแชมป์ภาคเหนือ ณ สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่, และ 15 ต.ค. ชิงแชมป์ภาคใต้ ณ สนามกีฬาสถาบันพลศึกษา จ.กระบี่
ผู้ชนะเลิศทั้ง 5 ทีมรวม 25 คนจะได้ไปฝึกทักษะฟุตบอลแบบมืออาชีพในรูปแบบ Short Training Course ที่ Soccer School ของสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดซึ่งเป็น Official Partner ของรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ที่ประเทศอังกฤษในช่วงต้นปี 2560 และทีมที่มีคะแนนสูงสุดเพียงทีมเดียวจะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี
เยาวชนที่สนใจจะเติมเต็มความฝันสู่นักฟุตบอลอาชีพ สามารถสมัครร่วมการแข่งขันได้ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศโดยติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.hondaredchampion.com
ซูซูกิ อัดโปรโมชั่นแรง!!! พร้อมข้อเสนอพิเศษสุดแห่งปี ในงาน Big Motor Sale 2016
เปิดงานอย่างเป็นทางการสำหรับงาน Bangkok International Grand Motor Sale 2016 หรือ Big Motor Sale 2016 มหกรรมยานยนต์เพื่อขายแห่งชาติ แนะนำรถยนต์และบิ๊กไบค์รุ่นใหม่เพื่อขายประจำปี ใหญ่ที่สุด ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา และในงานนี้ ซูซูกิ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ระดับโลก ได้ร่วมเปิดบูธแสดงรถจักรยานยนต์ซูซูกิ บิ๊กไบค์ระดับเวิลด์คลาส พร้อมอัดโปรโมชั่นและข้อเสนอพิเศษสุดแห่งปี
โดยวันแรกของงานได้มีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ ซึ่งได้รับเกียรติจาก ดร.อรรชการ ศรีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีกล่าวเปิดงาน พร้อมด้วย มร.นาโอคิ โอคะดะ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด ได้ให้เกียรติมอบกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดี กับคุณจรวย ขันมณี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยานยนต์ สแควร์ กรุ๊ป จำกัด ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการจัดงาน Bangkok International Grand Motor Sale 2016 และเข้าร่วมพิธีเปิดงานในครั้งนี้
ในงานนี้ซูซูกิ ได้เปิดบูธแสดงรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ระดับเวิลด์คลาส ภายใต้คอนเซ็ปต์ ซูซูกิ บิ๊กไบค์ พรีเมี่ยม โชว์รูม พร้อมนำรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ทุกรุ่นมาจัดแสดงอย่างคับคั่ง ให้ทุกท่านได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์จ้าวแห่งความเร็วระดับตำนานอย่าง Suzuki GSX1300R Hayabusa , จ้าวแห่งสนามแข่งสายสปอร์ตอย่าง Suzuki GSX-R1000, รถจักรยานยนต์สตรีทสปอร์ต Suzuki GSX-S1000 และ GSX-S1000F อีกทั้งรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด Suzuki SV650 พร้อมรถจักรยานยนต์สายพันธุ์ทัวร์ริ่งที่ได้รับความนิยมSuzuki V-Strom Series ที่มาครบรุ่น ไม่ว่าจะเป็นพี่ใหญ่อย่าง V-Strom 1000, V-Strom 650XT และ V-Strom 650 อีกทั้งรถสกู๊ตเตอร์ระดับพรีเมี่ยม Suzuki Burgman 200 ก็มาโชว์ตัวในงานพร้อมทั้ง อุปกรณ์ตกแต่ง และเครื่องแต่งกาย Collection ใหม่ล่าสุดจากซูซูกิ
และพลาดไม่ได้กับโปรโมชั่นแรงสุดเร้าใจ พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษแห่งปี ที่ทางซูซูกิเตรียมไว้มอบให้กับลูกค้าคนพิเศษ เมื่อซื้อรถจักรยานยนต์ซูซูกิบิ๊กไบค์ และในวันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม เปิดมิติใหม่กับ “มิดไนท์เซล” (Midnight Sale) “ชั่วโมงดีนาทีทอง” เวลา 22.00-24.00 น. พบกับข้อเสนอสุดพิเศษแบบลดกระหน่ำในช่วงเวลาสุดพิเศษเพียง 2 ชั่วโมง ท่านที่สนใจสามารถเข้าชมรถจักรยานยนต์ซูซูกิบิ๊กไบค์ ได้ที่งาน Bangkok International Grand Motor Sale 2016 ตั้งแต่วันนี้ – 28 สิงหาคม 2559
ยามาฮ่ามอบรถไฟฟ้าอเนกประสงค์เพื่อใช้ประโยชน์ในโรงเรียนจิตรลดา
คุณประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ (คนที่ 3 จากขวา) รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์จำกัด มอบรถไฟฟ้าอเนกประสงค์ 2+2 ที่นั่ง มูลค่า 265,000บาท เพื่อใช้ประโยชน์ในกิจกรรมโรงเรียนจิตรลดา โดยมีท่านผู้หญิงอังกาบ บุณยัษฐิติ (คนที่ 3 จากซ้าย)ผู้จัดการและผู้อำนวยการ พร้อมด้วยผู้บริหารโรงเรียนจิตรลดาเป็นตัวแทนรับมอบ พร้อมกันนี้ทางโรงเรียนจิตรลดาได้ทำการสั่งซื้อรถไฟฟ้าอเนกประสงค์ 6 ที่นั่ง อีก 1 คัน โดยพิธีส่งมอบนี้ได้จัดขึ้น ณ โรงเรียนจิตรลดา กรุงเทพมหานคร เมื่อเร็วๆนี้
Yamaha FZ-09 The dark side of japan เน็คเก็ดไบค์รุ่นใหญ่ เร็ว.. แรง.. สะใจ
Yamaha FZ-09 เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของนักบิดชาวไทยที่ใฝ่หาบิ๊กไบค์สไตล์เน็คเก็ด โดดเด่นด้วยรูปทรงเท่บึกบึนแต่น้ำหนักเบา เครื่องยนต์ 3 สูบเรียงพร้อมโหมดปรับย่านกำลัง พลังความแรง ที่พร้อมให้คุณโลดแล่นอย่างเร้าใจกว่า กับราคาที่ง่ายในการครอบครองตลาดบิ๊กไบค์ไร้แฟริ่ง หรือเน็คเก็ดไบค์กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงจากไบค์เกอร์ทุกวัย ทุกค่ายต่างก็วางตัวเลือกให้ได้ตัดสินใจ กัน เช่นเดียวกับยามาฮ่า ที่ได้นำเข้ารถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ประกอบนอกทั้งคันมาให้เป็นตัวเลือกเช่นกัน และถ้าถามถึงสไตล์เน็คเก็ดไบค์คงไม่มีตัวไหนน่าสนใจไปกว่า Yamaha FZ-09 เน็คเก็ดไบค์ที่ให้ได้ตั้งแต่ความเร้าใจไปจนถึงการขับขี่ที่นุ่มนวลได้ในคันเดียวกัน
เครื่องยนต์ 3 สูบเรียง
เครื่องยนต์บล็อคใหม่ล่าสุดแบบ 3 สูบเรียง 12 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ 847 ซีซี เพลาลูกเบี้ยวคู่วางเหนือฝาสูบ เกียร์ 6 สปีด จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด ออกแบบให้มีความกะทัดรัดแต่ทรงพลังด้วยแรงม้าถึง 105.6 hp ที่ 10,200 rpm ส่วนแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 61.3 lb-ft ที่ 8,200 rpm พัฒนา จากเทคโนโลยีช่วยการตอบสนองที่ดีในรอบต่ำถึงกลางอย่างโดดเด่น และราบรื่น สอดคล้องด้วยอัตราทดเกียร์ที่ส่งแรงบิดให้โดดเด่น สั่งเปิดปิดปีกผีเสื้อด้วยระบบ YCC-T ที่แม่นยำและฉับไว ซึ่งเครื่องยนต์ 3 สูบเรียงของ FZ-09 นี้ได้รับการวิจารณ์ในเชิงบวกจากนักทดสอบทั่วโลก
D-MODE การขับขี่ที่เลือกได้
Yamaha Drive Mode ง่ายเพียงปลายนิ้วกดปุ่มที่ด้านขวาของแฮนเดิลบาร์ ด้วย 3 โหมดให้เลือก STD เป็นโหมดมาตรฐาน A เน้นความดุดันของการตอบสนองด้วยแรงบิดที่ฉับไวสไตล์สปอร์ต
B ลดความห้าวสำหรับวันเบาๆ ที่อยากให้ชีวิตเดินทางแบบสบายๆ ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนโหมดขณะขับขี่ได้โดยไม่ต้องดับเครื่องยนต์ แต่มีข้อแม้ว่าต้องทำในขณะที่คืนคันเร่งจนสุดเท่านั้น การดับเครื่องยนต์ ด้วยสวิทช์ดับเครื่องจะไม่ทำให้โหมดที่ใช้อยู่เปลี่ยนแปลง แต่หากปิดสวิทช์กุญแจเมื่อเปิดมาอีกครั้งเครื่องยนต์จะเซ็ทกลับไปที่โหมด STD โดยอัตโนมัติ
มิติเพื่อความมันของการขับขี่
ตัวรถถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกับการขับขี่ที่เป็นธรรมชาติและสามารถควบคุมได้ง่ายเพื่อตอบสนองการขับขี่ที่สนุกสนานเหนือธรรมดา อลูมินัมเฟรมทรงไดมอนขนาดใหญ่แข็งแกร่งด้วยเส้นสายที่ต่อเนื่องตั้งแต่หน้ารถจนถึงสวิงอาร์มที่มีขนาดใหญ่ ออกแบบถังน้ำมัน เบาะ แฮนด์ ในตำแหน่งที่กระชับ โช้คอัพหน้าหัวกลับขนาด 41 มม. กระบอกทองสวยสง่า ช่วงยุบมากถึง 5.4 นิ้ว สามารถปรับการทำงานได้ทั้งการปรับความแข็งของสปริงและการปรับรีบาวด์ (การคืนตัว) เพิ่มความหนึบ โช้คหลังในตำแหน่งวางนอนใต้เบาะคนขี่ เพิ่มความรู้สึกเพรียวบางให้กับตัวรถ สามารถปรับความแข็งอ่อนของสปริง และเซ็ทรีบาวด์ได้เช่นกัน เพิ่มสีสันด้วยวงล้ออัลลอย 10 ก้านดีไซน์พิเศษ ดิสก์เบรกหน้ามาเต็มแบบทวินดิสก์ขนาด 289 มม. คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ แตะเบาๆ …เอาอยู่
เรือนไมล์ลอยตัว
โดดเด่นเดียวดายวางเยื้องขวาอยู่เหนือแฮนด์เดิลบาร์อลูมินัมทรงกว้างก็คือเรือนไมล์ดิจิตอลทรงเท่เพรียวบางที่ตอบสนองการใช้งานได้อย่างครอบคลุมภายใต้การสั่งงานของสองปุ่มง่ายๆ แสดงทั้งตำแหน่งเกียร์ รอบเครื่องยนต์ ความเร็วแบบตัวเลขขนาดใหญ่เห็นได้ชัดเจน ปริมาณน้ำมันในถัง อัตราสิ้นเปลืองและแจ้งอีโคโหมดเมื่อใช้ความเร็วสัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์ในย่านประหยัด บันทึกระยะทางรวม ระยะทางย่อยด้วย Trip A และ Trip B พร้อมไฟเตือนที่แฝงตัวอยู่เงียบๆ ในเงาด้านบน
คุณภาพเกินราคา
Yamaha FZ-09 ประกอบนอกนำเข้าทั้งคัน เครื่องยนต์บล็อคใหม่ที่ได้รับคำชื่นชมอย่างมากมายจากนักทดสอบทั่วโลก โหมดการขับขี่ที่เลือกได้ โช้คอัพหน้าหลังปรับได้ ดิสก์เบรกหน้าคู่
คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ สอบถามได้ที่โชว์รูมยามาฮ่าบิ๊กไบค์ โทร 0-2276-0222
ข้อมูลเทคนิค
เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 3 สูบ 847 ซีซี 12 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ
กระบอกสูบ x ช่วงชัก 78.0 x 59.1 มม.
อัตราส่วนการอัด 11.5 : 1
ระบบเชื้อเพลิง / ระบบจุดระเบิด หัวฉีด / TCI
เกียร์ 6 สปีด
ขับเคลื่อน โซ่โอริง
โช้คหน้า 41 มม.ปรับพรีโหลดและรีบาวด์ ช่วงยุบ 5.4 นิ้ว
โช้คหลัง โช้คเดี่ยว ปรับพรีโหลดและรีบาวด์ ช่วงยุบ 5.1 นิ้ว
เบรกหน้า / เบรกหลัง ดิสก์เบรกจานคู่ 298 มม. / ดิสก์เบรกจานเดี่ยว 245 มม.
ยางหน้า / ยางหน้า 120/70-ZR17 / 180/55-ZR17
กว้าง x ยาว x สูง 815.3 x 2075.2 x 1135.4 มม.
ความสูงเบาะ / ระยะห่างฐานล้อ / สูงจากพื้น 815.3 มม. / 1440.2 มม. / 134.6 มม.
แรค (มุมคาสเตอร์) 25 องศา
ถังน้ำมันจุ / น้ำหนัก 14.02 ลิตร / 187.8 กก.
สี ดำ, แดง
ความเห็นนักทดสอบ “เขมรัฐ สุธรรมวาท”
“รูปทรงกำยำทำท่าจะหนัก แต่จริงๆ แล้วถือว่าเป็นรถที่เบามากในขนาดเครื่องยนต์พิกัดนี้ แฮนด์ทรงกว้างแต่ช่วงเบาะนั่งกับช่องขาที่หนีบข้างถังแคบมาก ท่านั่งสบายๆ สำหรับความสูง 165 ซม. ไม่ถึง กับเขย่งขาเดียว แฮนด์กว้าง แต่แขนไม่ตึง วงเลี้ยวไม่กว้าง มาก ถือว่าเป็นรถที่นั่งได้สบาย หนีบถังแล้วไม่มีความรู้สึกใหญ่โตของรถให้รู้สึกปิดสวิทช์กุญแจเพื่อเริ่มการทำงาน สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยสวิทช์แบบเลื่อนที่ทำหน้าที่เป็นสวิทช์ดับเครื่องในตัวเดียวกันแค่สั่งงานคนละทิศทาง เสียงเครื่องยนต์ไม่ดุดันเหมือนหน้าตานะครับ การเข้าเกียร์ขณะรถจอดติดเครื่องไม่กระตุกแรง ขณะขับขี่ชิพท์เกียร์ได้แม่นยำง่ายดายดี แต่จอดติดเครื่องแล้วหาเกียร์ว่างต้องตั้งใจหน่อย น้ำหนักคลัทช์กลางๆ ครับ เป็นคลัทช์แบบสาย กันสะเทือนเน้นความนุ่มนวลสำหรับขับขี่ทั่วไป โช้คหลังแนวนอนนี่ต้องทำความคุ้นเคยในการเลี้ยวสักหน่อยครับ เบรกหน้าหยุดได้ไวมากตามสั่งกันเลย มือเบรกปรับระดับได้ ชอบเป็นพิเศษคือเบรกหลังทำงานอย่างนุ่มนวลไม่ล็อคปุบปับ ง่ายและปลอดภัยต่อการใช้งาน จุดเด่นมากๆ เลยสำหรับ FZ-09 เห็นจะเป็นเครื่องยนต์ครับ แรงบิดเขาดีจริงตัวนี้ เดิมๆ ที่โหมดมาตรฐาน STD ก็ถือว่าการตอบสนองคันเร่งในช่วงต้นถึงกลางไม่ธรรมดา กระตุกข้อมือทีไรไม่ใช่แค่พุ่งนะครับ มันจะกระโจนเลยล่ะ อดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงโหมด A ที่แอคทีฟมากกว่าว่าจะดุเดือดขนาดไหน ลองแล้วขอบอกว่ากำลังที่ออกมาคล้ายกันครับแต่รอบจะทะยานขึ้นไวกว่า ทำให้ไล่รอบส่งความเร็วทันใจกว่า ทางตรงสนามโบนันซ่าผมกดไปราวๆ 200 กม./ชม. (ไมล์ติดรถ) โหมด B สำหรับขับขี่แบบสบายๆ คือโหมดสุดท้ายที่ผมลอง ให้รอบมายาวๆ ขึ้นเนิบๆ ต่างจากโหมด STD และ A อย่างชัดเจน เหมาะกับวันสบายๆ ครับ ระบบกันสะเทือนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับโหมดเครื่องยนต์ แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันเกี่ยวข้องกัน โดยมันจะเลี้ยวได้อย่างมั่งคง คือมีการโยนของตัวรถน้อย เมื่อเปิดคันเร่งที่โหมด A และ B ส่วนการเปิดคันเร่งในโหมด STD กลับรู้สึกว่ามีการแกว่งตัวของรถให้รู้สึกได้ชัดกว่า (ไม่ต้องตกใจมันเป็นธรรมชาติของรถสไตล์นี้) น้ำหนักที่เบาทำให้การบังคับเลี้ยวทำได้คล่องมาก โดยเฉพาะแฮนด์ที่กว้างช่วยได้เยอะในลักษณะลีนเอาท์ หน้ารถเบาจากความสูงที่มีมาก พอมาเจอเครื่องยนต์ที่ให้แรงบิดดีๆ อย่างนี้ สิงห์วีลลี่จอมยกล้อขอบอกว่าเข้าทางเลย
หลังจากสัมผัสอยู่ครึ่งวัน ผมว่ามันเป็นรถที่ขับขี่ได้ง่าย ความแรงเหลือเฟือ จุดควบคุมให้ความรู้สึกกะทัดรัด เบรกดีมากโดยเฉพาะด้านหน้า เด็ดสุดก็ตรงโหมดขับขี่ที่จะทำให้เหมือนมี 3 in 1 ในรถคันเดียว จะเอามันหรือเอาสบาย อยู่ที่ปลายนิ้วคุณแล้วครับ”
จตุรงค์ หมื่นทิพย์
“กับรถบิ๊กไบค์ในสไตล์เน็คเก็ดไม่ใช่ครั้งแรกของผม แต่สำหรับ Yamaha FZ-09 มันมีอะไรที่น่าประทับใจหลายๆ อย่าง อารมณ์แรกเมื่อได้คร่อม ด้วยการออกแบบตัวรถก็ถือว่าตอบสนองการใช้งานในเมืองได้อย่างคล่องตัวด้วยความเพรียวไม่กว้างมาก เบาะนั่งกับระยะแฮนด์บาร์ที่ช่วยให้การควบคุมที่ง่าย ช่วงแขนไม่ตึงมากมีระยะให้ขยับเลี้ยวคล่อง ติดเพียงนิดเดียวที่วงเลี้ยวกว้างไปหน่อยการกลับรถในที่แคบต้องมีถึง 2 จังหวะ สัมผัสกับสมรรถนะเครื่องยนต์ที่มีให้ได้เล่นถึง 3 โหมด มันเอาเรื่องดีแฮะ เปิดสวิทช์เครื่องยนต์ โหมดสแตนดาร์ดจะเป็นมาตรฐานทุกครั้ง และสามารถปรับเปลี่ยนขณะขับขี่ได้ด้วยสวิทช์ด้านขวามือ เพียงกดไล่ไปตามโหมด (ต้องยกคันเร่งทุกครั้ง) โหมดสแตนดาร์ด ลองเล่นดูกับเส้นทางตรงๆ มันดุเอาเรื่อง คันเร่งต้องค่อยๆ เปิด จะรุนแรงไม่ได้ ด้วยรอบกำลังที่ออกมากับช่วงหน้ารถที่สูงทำให้หน้ารถจะลอย และรู้สึกถึงเครื่องยนต์ที่พร้อมจะพุ่งไปข้างหน้าตลอดเวลา โหมด B เป็นโหมดที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นขี่เลย เพราะรอบเครื่องยนต์จะนิ่มนวลไม่จี๊ดจ๊าดมาก แต่เมื่อลากรอบและต่อเกียร์ตามรอบก็สามารถสั่งได้ทันใจเพียงกระแทกคันเร่งส่งแม้อยู่ในเกียร์สูง โหมด A จัดเต็ม มาแบบเปิดทุกอณู ทั้งรอบเครื่องยนต์ ความจัดจ้าน ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ช่วงต้นๆ เกียร์ 1-3 ไม่ค่อยยาวมากนัก แต่จะไหลลื่นในช่วงปลายๆ ช่วงล่าง โช้คอัพหน้าที่ยาว การเข้าโค้งด้วยความเร็วมากกว่า 100 กม./ชม. อาจจะมีอาการเหวี่ยงๆ อยู่บ้าง แต่โช้คอัพหลังแทบไม่เจออาการส่ายหรือย้วย ทำให้การเดินคันเร่งออกจากโค้งได้มั่นใจ และด้วยหน้ายางที่กว้างการพลิกรถเลี้ยวทำได้ไม่ต่างกับยางเล็ก ให้ความรู้สึกเบาเมื่อออกตัว เรื่องของระบบเบรก ก็ตอบสนองการใช้งานได้รวดเร็ว ต้องบอกเลยว่า FZ-09 เป็นรถที่ให้กำลังตอบสนองได้ทุกย่าน ขี่สนุก ควบคุมง่าย และสามารถปรับโหมดเพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ขับขี่ได้ เป็นเน็คเก็ดไบค์อีกหนึ่งรุ่นที่น่าจะมาตอบโจทย์สำหรับนักบิดที่ชอบสไตล์เท่ๆ”
เอ.พี.ฮอนด้า เปิดตัว “โครงการสังคมหัวแข็ง” ปฏิวัติความคิดใหม่ คนไทยใส่หมวก
นายอารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “ปัจจุบันประเทศไทยเอ.พี.ฮอนด้า มีอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากเป็นอันดับ 2 ของโลก แต่คนไทยกลับไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการปกป้องตนเองจากความเสี่ยงดังกล่าว ดั่งเช่นข้อมูลล่าสุดในปีที่ผ่านมาจากไทยโรดส์จะเห็นได้ชัดเจนว่ามีผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในเมืองไทยที่ใส่หมวกกันน็อคเพียงแค่ 43% เท่านั้น โดยคนไทยมักจะมีข้ออ่างที่จะไม่ใส่หมวกกันน็อคมากมายจนกลายเป็นความเคยชินตลอดมา ในฐานะผู้นำวงการรถจักรยานยนต์ไทย เอ.พี.ฮอนด้า มีความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนเมืองไทยสู่เส้นทางของความปลอดภัยอย่างไม่หยุดยั้ง ภายใต้โครงการฮอนด้าเมืองไทยขับขี่ปลอดภัย โดยหนึ่งในการดำเนินงานหลักคือการรณรงค์ให้เกิดการปฏิบัติจริง ในปีนี้จึงได้สร้างสรรค์โครงการใหม่ที่มีชื่อว่าสังคมหัวแข็ง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อปลูกจิตสำนึกเปลี่ยนพฤติกรรมให้คนไทยใส่หมวกกันน็อคจนเป็นนิสัย ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุทางถนนให้แหลือน้อยที่สุด ทั้งมุ่งประสานความร่วมมือกับภาคีต่างๆสร้างความเป็นต้นแบบจากแต่ละเครือข่าย ต่อยอดขยายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมต่อสังคมไทยในวงกว้างต่อไป โครงการนี้จะเน้นไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใช้มอเตอร์ไซค์ในชีวิตประจำวัน โดยมีเพลงสังคมหัวแข็งซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากจังหวะที่จริงจังของเพลงปลุกใจ มาใส่ความสนุกสนานร่วมสมัยในสไตล์ฮิพฮอพ โดยในเนื้อเพลงจะกล่าวถึง 3 กฎเหล็กของการใส่หมวกกันน็อคที่จะนำมาซึ่งความปลอดภัย คนขี่ใส่คนซ้อนก็ใส่ ใกล้ไกลเราใส่ ใครไม่ใส่เราไม่ยอม บอกเล่าผ่านสื่อต่างๆไม่ว่าจะเป็น มิวสิควีดีโอ ออนไลน์คลิป ภาพยนตร์โฆษณา สื่อกลางแจ้ง และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ โดยมีจอห์น วิญญู, แป้งโกะ จินตนัดดา และกอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ ซึ่งต่างก็เป็นที่รู้จักของคนรุ่นใหม่มาร่วมรณรงค์ในฐานะผู้นำสังคมหัวแข็งในการสร้างจิตสำนึกและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ในขณะเดียวกัน เอ.พี.ฮอนด้า ก็จะเป็นต้นแบบที่ทำให้เกิดการปฏิบัติจริง โดยในช่วงแรกของโครงการ เราจะร่วมกับกลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทยรวม 12 บริษัท และร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้ากว่า 1,200 สาขาทั่วประเทศ สร้างสรรค์สังคมหัวแข็งต้นแบบ โดยมีพนักงานรวมกว่า 35,000 คน มาเป็นตัวอย่างที่ดีของคนไทยที่ใส่หมวกกันน็อคทุกครั้งเมื่อใช้รถจักรยานยนต์ ก่อนจะขยายแนวคิดนี้ไปยังสถานศึกษา สถานที่ราชการ และชุมชนต่างๆทุกจังหวัด ก่อเกิดเป็นสถานศึกษาและชุมชนหัวแข็งต้นแบบ แล้วยกระดับไปสู่การรณรงค์ในระดับประเทศ โดยมีการกำหนดมาตรฐานในการดำเนินงานของแต่ละแห่งอย่างเป็นรูปธรรมและในอนาคตอันใกล้นี้ ทาง เอ.พี.ฮอนด้า จะร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจหรือ MOU กับหน่วยงานต่างๆต่อไป โดยจะมีการร่วมตกลงถึงรายละเอียดในการประสานความร่วมมือ การกำหนดกฏเกณฑ์ต่างๆ และปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ สำหรับโครงการ “สังคมหัวแข็ง” ภายใต้คอนเซ็ปต์ ปฏิวัติความคิดใหม่ คนไทยใส่หมวก ถือเป็นการประสานความร่วมมือครั้งใหญ่ระหว่าง บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด กับหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรอิสระ เพื่อสร้างจิตสำนึกให้คนไทยหันมาใส่หมวกกันน็อคจนเป็นนิสัยเมื่อใช้รถจักรยานยนต์เริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป