2022 Suzuki Hayabusa ถูกจัดไว้ในส่วนของ “Ultimate Sportbike” มันเป็นยิ่งกว่าการอัพเกรดธรรมดาของเจ้า “พญาเหยี่ยว” ทุกอย่างถูกปรับแต่งได้อย่างลงตัวครบถ้วน ไฟหน้าแบบโคมเดี่ยว ทรงเรียว ช่อง Air Intake ด้านหน้า แฟร์ริ่งที่มีความบึกบึน ส่วนโค้งท้ายตัวรถที่ไม่เหมือนใคร พร้อมด้วยเบาะนั่งทรงสปอร์ตสำหรับการซุกตัวหมอบใต้อุโมงค์ลมชิลด์หน้า\


เครื่องยนต์จะมาพร้อมกับขุมกำลังขนาด 1,340 ซีซี แบบ 4 ลูกสูบเรียง DOHC 4 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 187.75 แรงม้าที่ 9,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 110.68 นิวตันเมตร ที่ 7,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด ส่งกำลังสุดท้ายด้วยโซ่ ระบบกันสะเทือนแบบหัวกลับ Upside-Down KYB ขนาด 43 มม. สามารถปรับระดับได้ ระบบกันสะเทือนหลังแบบ Monoshock ปรับได้เต็มระบบ Preload rebound และ compression damping ระบบเบรกหน้าแบบดิสก์เบรกคู่ขนาด 320 มม. คาลิเปอร์แบบ 4 พอร์ท ด้านหลังจานดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 260 คาลิเปอร์แบบลูกสูบเดี่ยว พร้อมระบบ ABS พิเศษ Motion Track Anti-Lock Brake System ที่ไวต่อการเอียงรถ และมีระบบ Combined Brake System เพื่อช่วยให้แชสซีรักษาระดับ สำหรับผู้ที่ชอบใช้เบรกหลังเพียงอย่างเดียว และยังมีระบบ Slope Dependent Control System ที่ทำงานเพื่อลดการยกล้อหลังให้น้อยที่สุดเมื่อเบรกบนทางลาดลงเนิน รวมไปถึงระบบ Hill Hold Control System ระบบช่วยเบรกในการสตาร์ทเครื่องยนต์ขณะจอดบนทางที่ลาดเอียง วงล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว แบบ 7 ก้านใหม่ พร้อมด้วยยาง Bridgestone S22ไซส์ 120/70ZR-17 และ 190/50ZR-17



โดยขุมกำลังใหม่นี้ เน้นในเรื่องของประสิทธิภาพในการส่งกำลังในรอบต่ำและกลางมากขึ้น ถึงแม้ว่าขนาดของกระบอกสูบ x ช่วงชักจะยังเท่ากับ 81.0 x 65.0 มม เหมือนเดิม แต่ก็มีการออกแบบลูกสูบใหม่ที่มีน้ำหนักที่เบากว่า ก้านลูกสูบน้ำหนักน้อยลงกว่าเดิม 3 กรัม ห้องเผาไหม้ได้รับการแก้ไขใหม่ โดยลดค่าสัมประสิทธิ์การไหลลง 5% เพื่อให้การเผาไหม้ของอากาศ เชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพมากขึ้นไม่เพียงเท่านี้ ยังปรับปรุงระบบหล่อลื่นไปจนถึงตลับลูกปืนที่ใหญ่กว่าเดิม เพื่อความทนทาน และประสิทธิภาพในทุกๆ ย่านความเร็ว ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ก็พัฒนาใหม่ โดยการอัพเกรดระบบไหลเวียนของอากาศที่ไหลได้สะดวกมากขึ้น 8% ในขณะเคลื่อนที่ และเพิ่มขึ้นอีก 7% ในจังหวะที่พัดลมเริ่มทำงาน และเพื่อช่วยให้เครื่องยนต์ผลิตกำลังได้ตามที่ต้องการรวดเร็ว Suzuki จึงใช้เป็นคันเร่งไฟฟ้า Ride-by-Wire และตัว throttle bores แบบ 2 หัวฉีด ขนาด 43 มม. หัวฉีดหลักจะฉีดพ่นลงไปที่รูโดยตรงในขณะที่ Suzuki Side Feed Injector ใหม่จะฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงกับแผ่นสะท้อนแสงที่อยู่ข้างหน้าวาล์วปีกผีเสื้อ ส่งผลให้แรงม้าและแรงบิดเพิ่มขึ้น 2% ในช่วงต่ำและช่วงกลาง ท่อไอดีทั้งหมดมีความยาวเพิ่มขึ้น 12 มม เพื่อเพิ่มกำลังในช่วงรอบต่อนาที ช่อง AirBox ที่ปรับขนาดความจุใหม่ 11.5 ลิตร ไส้และระบบไอเสียเป็นการออกแบบใหม่ทั้งหมด มีการลดน้ำหนักลงกว่าของเดิม 2.04 กิโลกรัม


โครงสร้างหลักแบบ twin-spar aluminum frame และ swingarm รูปทรงเดิม แต่มีการย้ายจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลงใกล้กับพื้นมากขึ้น และกระจายน้ำหนักด้านหน้าหลังได้ 50/50 ลดน้ำหนักของโครงสร้างแต่เพิ่มความแข็ง ซึ่งนั้นหมายความถึงตัวรถจะถูกปรับปรุงในเรื่องของประสิทธิภาพในการขับขี่ในทางโค้งที่ดี แต่จะยังคงแข็งแกร่งเหมือนเดิมกับการวิ่งทำความเร็วสูงบนเส้นทางตรง แบบ ที่ออกแบบมาเฉพาะจัดเต็มกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ล้ำสมัย Hayabusa รุ่นใหม่มาพร้อมกับคันเร่งไฟฟ้า Ride-by-Wire ใหม่ โดยมีระบบ Suzuki Intelligent Ride System (SIRS) และรระบบ Suzuki Drive Mode Selector Alpha ที่มีโหมดการขับขี่มาตรฐานโรงงานสามโหมด และโหมดที่ผู้ใช้กำหนดเองได้สามโหมด โดยการปรับแต่ค่าต่างๆ นั้น ผู้ขับขี่สามารถเลือกระดับหรือเปิดปิดระบบการทำงานต่างๆ ได้อย่างอิสระไม่เพียงเท่านี้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลายจะทำงานรวมกับแกน IMU จาก Bosch และควบคุมการทำงานด้วยระบบ ECU เพลิดเพลินกับการขับขี่ด้วยตัวช่วยอย่าง ระบบ Quick Shift แบบสองทาง ที่สามารถปรับขึ้นและลดเกียร์ได้อย่างอิสระ และความสามารถใหม่ Active Speed Limiter ระบบจำกัดความเร็วที่สามารถปรับค่าได้ โดยสามารถไล่เรียงขีดจำกัดความเร็วตั้งแต่ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไปถึงขีดสุดของตัวรถที่สามารถทำได้ที่ 299 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

สีสันทีจะผลิตออกสู่ตลาดมีการประกาศออกมาแล้วว่าจะมาพร้อมกัน 3 ชุดสี ประกอบไปด้วย Glass Sparkle Black – Candy Burnt Gold, Metallic Matte Sword Silver – Candy Daring Red และ Pearl Brilliant White – Metallic Matte Stellar Blue สำหรับ Suzuki Thailand จะมีการนำเข้ามาในช่วงเวลาใด และราคาของมันนั้นจะเพิ่มจากราคาปัจจุบันที่จำหน่ายอยู่ที่ 850,000 บาท หรือมากกว่า ต้องตามลุ้นกันอีกที

































































คุณพลอยไพลิน ศักดาเพชรศิริ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาด กล่าวว่า “อย่างที่ทราบกันดีว่า All New Suzuki Hayabusa Generation 3 ได้มีการเปิดตัวพร้อมกันทั่วโลกในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เพื่อแทนคำขอบคุณและสร้างความเชื่อมั่นให้กับครอบครัวซูซูกิ ในวันนี้ บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ได้ทำการเปิดตัว All New Suzuki Hayabusa ในประเทศไทยพร้อมกันกับการเปิดตัวพร้อมกันทั่วโลก ภายในปีเดียวกัน กับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการทั่วโลก”





ทั้งนี้ All New Suzuki Hayabusa ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “The Refined Beast” หมายถึง ความงดงามน่าเกรงขามแต่แฝงไปด้วยความชาญฉลาด เปรียบเสมือนเหยี่ยวเพเรกรินของญี่ปุ่น ด้วยภาพลักษณ์ที่ทันสมัย พร้อม Feature ใหม่ๆ มากมาย กับสไตล์รูปทรงที่ดุดัน หรูหราด้วยเส้นสายที่เฉียบคม และการออกแบบแอโรไดนามิกใหม่ สามารถถ่ายทอดด้วยความรู้สึกพุ่งทะยานไปข้างหน้า พร้อมไฟท้ายแบบใหม่ที่สะดุดตา ท่อไอเสียสไตล์สปอร์ต การดีไซน์ล้อแบบ 7 ก้านใหม่ ที่ดึงดูดใจ และทรงประสิทธิภาพ รูปลักษณ์ด้านหน้าแบบใหม่หมดจด ด้วยการออกแบบไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Positioning Light ที่รวมเอา Day Time Running Light กับชุดไฟเลี้ยวสไตล์สปอร์ตเข้าด้วยกัน โดดเด่น เร้าใจยิ่งขึ้น พร้อมเทคนิคการใช้สีและสร้างความโดดเด่นเฉพาะตัว เพื่อแสดงออกถึงสมรรถนะที่เป็นที่สุดของ Hayabusa แบบ Two Tone ทั้ง 3 แบบ กับเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร













































