ปลุกแฟชั่นลุคในตัวคุณด้วย #Fino Trendy Trio Set กันเถอะ

ปลุกแฟชั่นลุคในตัวคุณด้วย ???
#Fino Trendy Trio Set กันเถอะ
ผู้ชายจะใส่ก็เท่ ผู้หญิงจะใส่ก็เก๋
กับสีสันคัลเลอร์ฟูลสุดสดใสตามสไตล์ฟีโน่
ออกรถยามาฮ่าฟีโน่ วันนี้ รับฟรีทันที! Trendy Trio Set*
ที่มีทั้งหมวกกันน็อก, กระเป๋าเป้ และเสื้อแจ็คเก็ตสุดเฟี้ยว
รีบหน่อย!! ถ้าไม่อยากพลาดไอเท็มสุดเทรนด์แบบนี้
เพราะโปรโมชันดีๆ มีตั้งแต่ 8 มี.ค. – 15 มิ.ย. 64 นี้เท่านั้น !!!!
รายละเอียด http://bit.ly/Promotion_Yamaha_Fino125_2021
#Fino125 #ItsAutomatic
#ผู้นำออโตเมติกต้องยามาฮ่า
—————————————————–
#ยามาฮ่าเร่งชีวิตให้เร้าใจ
#Yamaha #RevsYourHeart
#YamahaSocietyThailand
*เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทกำหนด

 

รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ประกาศรายชื่อผู้โชคดีจากแคมเปญใหญ่ “ช้อป.ใช้.ชิง ซีซั่น 2” มอบทองคำทั่วไทย 5 ภาค รวม 555 รางวัล มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท

รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ประกาศรายชื่อผู้โชคดีจากแคมเปญใหญ่ “ช้อป.ใช้.ชิง ซีซั่น 2” มอบทองคำทั่วไทย 5 ภาค รวม 555 รางวัล มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย จัดพิธีจับรางวัลผู้โชคดีจากแคมเปญ “ช้อป.ใช้.ชิง ซีซั่น 2 รวยเปรี้ยง ไม่เกี่ยง ซีซี.” เพื่อแสดงความขอบคุณลูกค้าชาวไทยต่อเนื่องจากซีซั่นแรก ด้วยการแจกโชคใหญ่ มอบทองคำแท่ง มูลค่ารางวัลละ 1 ล้านบาท 5 รางวัล แจกครบทั้ง 5 ภาค ได้แก่ เหนือ, ใต้, กลาง, อีสาน, และกรุงเทพ-ปริมณฑล พร้อมรางวัลสร้อยคอทองคำอีก 550 รางวัล รวมมูลค่าของรางวัลทั้งสิ้นกว่า 20 ล้านบาท โดยมี คุณวรพจน์ พรประภา ประธานบริษัท และ ดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง เป็นตัวแทนในการจับรางวัล ณ โรงแรมทินิดี แอท บางกอก กอล์ฟ คลับ เมื่อเร็วๆ นี้
สำหรับแคมเปญ “ช้อป.ใช้.ชิง” จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่สองหลังประสบความสำเร็จจากปีแรก เพื่อขอบคุณลูกค้าชาวไทยที่ให้ความเชื่อมั่นในรถจักรยานยนต์ฮอนด้า โดยมอบโชคใหญ่ให้กับผู้ซื้อรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทุกรุ่น ระหว่างวันที่ 15 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ รางวัลทั้งหมดของแคมเปญ “ช้อป.ใช้.ชิง ซีซั่น 2 รวยเปรี้ยง ไม่เกี่ยง ซีซี.” ทั้ง 555 รางวัล ประกอบไปด้วย
รางวัลที่ 1 ทองคำแท่ง จำนวน 5 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 1,000,000 บาท รวมมูลค่า 5,000,000 บาท
รางวัลที่ 2 สร้อยคอทองคำ หนัก 10 บาท มูลค่ารางวัลละ 277,000 บาท จำนวน 20 รางวัล รวมมูลค่า 5,540,000 บาท
รางวัลที่ 3 สร้อยคอทองคำ หนัก 5 บาท มูลค่ารางวัลละ 138,500 บาท จำนวน 30 รางวัล รวมมูลค่า 4,155,000 บาท
รางวัลที่ 4 สร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท มูลค่ารางวัลละ 27,700 บาท จำนวน 50 รางวัล รวมมูลค่า 1,385,000 บาท
รางวัลที่ 5 สร้อยคอทองคำ หนัก 50 สตางค์ มูลค่ารางวัลละ 13,925 บาท จำนวน 150 รางวัล รวมมูลค่า 2,088,750 บาท
รางวัลที่ 6 สร้อยคอทองคำ หนัก 25 สตางค์ มูลค่ารางวัลละ 7,032.50 บาท จำนวน 300 รางวัล รวมมูลค่า 2,109,750 บาท
ผู้ร่วมสนุกสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับรางวัลได้ที่เว็บไซต์รถจักรยานยนต์ฮอนด้า : www.thaihonda.co.th

“ราซกัตลิโอกลู” ฝ่าเรซสุดหิน บิดคว้าโพเดี้ยม ประเดิมเกมเวิลด์ซูเปอร์​ไบค์

“ราซกัตลิโอกลู” ฝ่าเรซสุดหิน บิดคว้าโพเดี้ยม ประเดิมเกมเวิลด์ซูเปอร์​ไบค์
โทปรัค ราซกัตลิโอกลู #54 ดาวบิดเติร์ก สังกัดพาต้า ยามาฮ่า วิท บริกซ์ เวิลด์เอสบีเค ควบยามาฮ่า YZF R1 คว้าโพเดี้ยมเกมนัดเปิดฤดูกาล​ เก็บแต้มรั้งท็อปโฟร์ เกมรุ่นใหญ่ ศึกเวิลด์ซูเปอร์ไบค์
เกมนัดเปิดฤดูกาล​ ศึกซูเปอร์​ไบค์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2021 ยกพลดวลความเร็ว ณ มอเตอร์แลนด์ อรากอน ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 21-23 พฤษภาคม​ ที่ผ่านมา ในรายการพีเรลลี่ อรากอน ราวนด์
โดย โทปรัค ราซกัตลิโอกลู #54 จับคู่ อันเดรีย โลคาเทลลี่ #55 ลงไล่ล่าความสำเร็จให้กับทีมต้นสังกัดอย่าง พาต้า ยามาฮ่า วิท บริกซ์ เวิลด์เอสบีเค ภายใต้รถแข่งยามาฮ่า YZF R1
เปิดฉากด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมของ ราซกัตลิโอกลู #54 ที่ไล่แซงคู่แข่งไต่จากกริดที่ 10 ขึ้นมาจบการแข่งขันในอันดับ 3 ประเดิมโพเดี้ยมแรกให้กับตนเองและต้นสังกัด
ก่อนจะทำได้ดีที่สุดด้วยการซิ่งจบการแข่งขันด้วยอันดับ 6 ในเกมซูเปอร์โพลเรซ รวมถึงการชิงชัยในเรซที่ 2 ที่บิดเข้าเส้นชัยด้วยอันดับเดียวกันนี้ บวกแต้มให้กับตนเองและต้นสังกัด ในเกมที่ อรากอน
ด้าน โลคาเทลลี่ #55 ยังต้องใช้เวลาปรับตัวในบทบาทของรุกกี้ หลังประเดิมเกมรุ่นใหญ่ ด้วยอันดับ 10 ในเกมนัดเปิดซีซั่น ตามด้วยอันดับ 12 ในซูเปอร์โพลเรซ ก่อนจะซิ่งคว้าอันดับ 9 จากการชิงชัยในเรซที่ 2
ผ่านเกมนัดเปิดฤดูกาล​ ราซกัตลิโอกลู #54 เก็บแต้มรั้งอันดับ 4 บนตารางแชมเปี้ยนชิพประเภทนักบิด ขณะที่ โลคาเทลลี่ #55 รั้งอยู่ในอันดับ 9 เกมเวิลด์ซูเปอร์ไบค์
การแข่งขันในสนามที่ 2 ศึกซูเปอร์​ไบค์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2021 มีคิวดวลความเร็ว ระหว่างวันที่ 28-30 พฤษภาคม​ นี้ ณ เซอร์กิโต เอสโตริล ประเทศโปรตุเกส

สัมผัสคันจริง! All New X-ADV750 ล็อตแรกถึงเมืองไทย ฮอนด้าเริ่มทยอยส่งมอบทันที

สัมผัสคันจริง! All New X-ADV750 ล็อตแรกถึงเมืองไทย ฮอนด้าเริ่มทยอยส่งมอบทันที
หลังเปิดตัวแบบเซอร์ไพรส์จนกลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ครั้งที่ผ่านมา ล่าสุด ฮอนด้าได้ส่งมอบ All New Honda X-ADV750 ล็อตแรกให้กับลูกค้าที่จองรถเป็นกลุ่มแรกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเหล่าไบค์เกอร์ที่ได้รับรถต่างพร้อมใจถ่ายรูปและวีดีโอ เพื่อรีวิวผ่านช่องทางต่างๆ บนสื่อออนไลน์กันอย่างคึกคัก โดยส่วนใหญ่เน้นไปที่รูปลักษณ์ที่โดดเด่นของตัวรถ ที่มีดีไซน์โฉบเฉี่ยว ดุดัน ภายใต้คอนเซปต์ “Let Your Instinct Lead The Way” เท่ในทุกมิติไม่ว่าจะถ่ายจากมุมไหนก็ตาม
พร้อมกันนี้ เจ้าของ SUV Bike รุ่นใหม่ล่าสุดของโลก ยังให้ความสนใจและสนุกไปกับเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงฟังก์ชันการใช้งานที่ให้ความอเนกประสงค์รอบคัน อาทิ ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับตัวรถ Honda Smartphone Voice Control System (HSVCs) หรือระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่านแอปพลิเคชันของฮอนด้า, ระบบคันเร่งไฟฟ้า (Throttle by Wire) มาพร้อมการปรับตั้งค่าการขับขี่ได้ถึง 5 โหมด ได้แก่ Sport, Gravel, Standard, Rain และ User และหน้าจอแสดงผล TFT ขนาด 5 นิ้ว ครบทุกฟังก์ชันการใช้งาน สีพื้นหลังปรับอัตโนมัติ เวลากลางวัน สีขาว และกลางคืน สีดำ สามารถเลือกรูปแบบการแสดงข้อมูลต่างๆ ได้ถึง 4 แบบ เป็นต้น
All New Honda X-ADV750 วางจำหน่ายด้วยราคา 425,000 บาท ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการ ฮอนด้า บิ๊กวิง ทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ที่
เว็บไซต์ : www.hondabigbike.com
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์ : fb.com/HondaBigBikeTH
อินสตราแกรม : hondabigbike

“เบาติสต้า-ฮาสลัม” เก็บแต้มสำคัญให้ “ฮอนด้า” เปิดฉากศึกเวิลด์ซูเปอร์ไบค์ สนามแรก

“เบาติสต้า-ฮาสลัม” เก็บแต้มสำคัญให้ “ฮอนด้า” เปิดฉากศึกเวิลด์ซูเปอร์ไบค์ สนามแรก
อัลวาโร่ เบาติสต้า และ ลีออน ฮาสลัม คู่หูนักบิดจากทีม เอชอาร์ซี ช่วยกันสร้างผลงานยอดเยี่ยม พารถแข่ง All New Honda CBR1000RRR-R เก็บแต้มสำคัญจากศึก เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2021 สนามแรก ที่มอเตอร์แลนด์ อรากอน ประเทศสเปน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รายการ เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2021 สนามแรก ดวลความเร็วเรซที่ 2 เมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ที่มอเตอร์แลนด์ อรากอน ประเทศสเปน ระยะทางต่อรอบ 5.077 กม. ชิงชัยทั้งสิ้น 18 รอบสนาม
กริดสตาร์ทเรซนี้ ยึดจากผลการแข่งขันรอบซูเปอร์โพลเรซ ในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ โดย 2 นักบิดจาก ทีม เอชอาร์ซี ยังคงต้องพยายามอย่างหนักในการหาเซ็ตติ้งรถแข่ง All New Honda CBR1000RR-R ซึ่ง อัลวาโร่ เบาติสต้า นักบิดสแปนิชได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 7 ส่วนทีมเมทชาวอังกฤษอย่าง ลีออน ฮาสลัม ได้ออกตัวจากกริดที่ 10
เกมเรซนี้ยังคงเป็นงานยากลำบากของสองนักบิดฮอนด้า โดยหลังออกสตาร์ท ฮาสลัม กลับต้องออกจากการแข่งขันตั้งแต่รอบที่ 4 หลังพลาดล้มไปอย่างน่าเสียดาย ส่วน เบาติสต้า ขยับแซงคู่แข่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และไต่ขึ้นมาสูงสุดที่อันดับ 6
อย่างไรก็ดี เบาติสต้า ก็ต้องเจอปัญหาเรื่องยางเล่นงานในช่วงท้าย ก่อนจะเอาตัวรอดจบการแข่งขันในอันดับ 11 สามารถเก็บคะแนนสะสมสำคัญให้กับทีมได้สำเร็จจากสนามแรก
ผ่านการแข่งขัน 3 เรซ ที่มอเตอร์แลนด์ อรากอน ปรากฏว่า ฮาสลัม รั้งอันดับ 12 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ มีทั้งสิ้น 8 คะแนน ส่วนทีมเมทอย่าง เบาติสต้า รั้งอันดับ 13 มีคะแนนเท่ากัน
สำหรับการแข่งขัน เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2021 จะดวลความเร็วสนามที่ 2 ระหว่างวันที่ 28-30 พฤษภาคมนี้ ที่เซอร์กิโต เดอ เอสโตริล ประเทศโปรตุเกส โดยแฟนความเร็วชาวไทยสามารถติดตามข่าวสารของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : fb.com/aphondaracingth

“เก๋าแต่ไม่เก่า” Café Racer พันธุ์แท้ เท่ตั้งแต่แรกเห็น…

“เก๋าแต่ไม่เก่า”Café Racer พันธุ์แท้ เท่ตั้งแต่แรกเห็น…

ที่สุดของความคลาสสิคของรถจักรยานยนต์แบบ “เก๋าแต่ไม่เก่า” ที่มีความโดดเด่นทางด้านดีไซน์ ด้วยสไตล์ Café Racer แท้ดั้งเดิม พร้อมเครื่องยนต์แบบ V-Twin และระบบเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนา เติมแต่งให้รถจักรยานยนต์คันนี้เก๋าแต่ไม่เคยเก่า เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่อ่านมาถึงตรงนี้คงอยากรู้แล้วว่า รถที่กล่าวถึงนี้คือรุ่นอะไร เฉลย………


.
.Suzuki SV650X หลังจากที่ Suzuki ได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์ SV650 พร้อมได้รับกระแสความนิยมอย่างกว้างขวาง Suzuki SV650 “Rally Concept” จึงได้ถือกำเนิดมาและได้ทำการเปิดเป็นครั้งแรกในปี 2016 ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์การตกแต่งที่มีสไตล์กลิ่นอายในปี 1970 จึงเป็นที่มาของ Suzuki SV650X ที่ผสมผสานความสนุกในการขับขี่ของเครื่องยนต์ แบบ V-Twin 2 สูบ 645 ซีซี พร้อมสปิริตและแฟชั่นสไตล์ Café Racer ด้วยชุดครอบโคมไฟหน้าที่โดดเด่นแบบย้อนยุค. แฮนด์แบบ Clip-on, เบาะนั่งแบบ Tuck-and-Roll ออกแบบให้มีความเพรียวบาง โช้คหน้าแบบ Telescopic สามารถปรับค่าพรีโหลดช่วยให้คุณสามารถตั้งค่าตามลักษณะการใช้งานได้อย่างที่ใจต้องการ การันตีได้เลยว่า Suzuki SV650X คันนี้จะทำให้คุณเท่สะดุดตาทุกครั้งที่ขับขี่

โปรโมชั่นคูล ๆ กับ Suzuki SV650X คลิก https://www.facebook.com/…/pcb…/10159748490946414 สนใจสามารถพบกับ Suzuki SV650X ที่ร้านผู้แทนจำหน่าย Suzuki Big Bike ทั่วประเทศใกล้บ้านหรือติดต่อได้ที่ https://www.facebook.com/Suzukisocietythailand

“เบาติสต้า-ฮาสลัม” ซ้อมหรูควบ CBR1000RR-R รั้งท็อปไฟว์ เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ สนามแรก

“เบาติสต้า-ฮาสลัม” ซ้อมหรูควบ CBR1000RR-R รั้งท็อปไฟว์ เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ สนามแรก
อัลวาโร่ เบาติสต้า ยอดนักบิดสแปนิช จาก ทีม HRC ควงทีมเมทชาวอังกฤษอย่าง ลีออน ฮาสลัม ควบรถแข่ง All New Honda CBR1000RR-R รั้งท็อปไฟว์ รอบ FP2 ในศึก เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยน 2021 สนามแรกที่มอเตอร์แลนด์ อรากอน
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รายการ เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2021 ได้ฤกษ์เปิดฉากดวลความเร็วสนามแรกของปีอย่างเป็นทางการ โดยจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 พฤษภาคมนี้ ที่สนาม มอเตอร์แลนด์ อรากอน ประเทศสเปน
สองนักบิดจากสังกัด ทีม เอชอาร์ซี (Team HRC) อย่าง อัลวาโร่ เบาติสต้า ชาวสแปนิช และทีมเมทชาวอังกฤษอย่าง ลีออน ฮาสลัม เตรียมความพร้อมอย่างหนักตลอดช่วงพรีซีซั่น เพื่อไล่ล่าความสำเร็จให้กับทีมด้วยรถแข่ง All New Honda CBR1000RR-R
ล่าสุด ในช่วงหัวค่ำวันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เป็นการลงซ้อมครั้งที่ 2 ซึ่งทั้ง เบาติสต้า และ ฮาสลัม ขยับทำผลงานที่ดีขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากทดลองเซ็ตติ้งหลายอย่างเพื่อเตรียมเข้าสู่การแข่งขันทั้งในวันเสาร์และอาทิตย์
ผลการซ้อมปรากฏว่า เบาติสต้า ทะยานขึ้นมารั้งอันดับ 4 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 50.814 วินาที ตามหัวแถวเพียง 0.414 วินาที ขณะที่ทีมเมทอย่าง ฮาสลัม รั้งอันดับ 5 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 51.037 ตามผู้นำ 0.600 วินาที
ทั้งนี้ เบาติสต้า และฮาสลัม มีคิวลงแข่งขันรอบ ซูเปอร์โพล เพื่อจัดกริดสตาร์ทในวันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคมนี้ ก่อนจะดวลความเร็วเรซแรกในเวลา 19.00 น. ของวันเดียวกัน ตามเวลาประเทศไทย โดยในวันอาทิตย์จะเป็นการแข่งขันในรอบ ซูเปอร์โพล เรซ และชิงชัยเรซ 2 ในเวลา 19.00 น. เช่นกัน
โดยแฟนความเร็วชาวไทยสามารถติดตามถ่ายทอดสดการแข่งขันผ่านทางช่อง EuroSport 2HD และติดตามข่าวสารของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : fb.com/aphondaracingth

“ไทยยามาฮ่า” แท็กทีมพันธมิตร ดัน “เขมินท์” ร่วมบิด “โมโตทู” สานต่อแนวทางปั้นนักบิดไทยสู่เวทีระดับโลก

“ไทยยามาฮ่า” แท็กทีมพันธมิตร ดัน “เขมินท์” ร่วมบิด “โมโตทู” สานต่อแนวทางปั้นนักบิดไทยสู่เวทีระดับโลก
“เคเค” เขมินท์ คูโบะ คว้าสิทธิ์ไวลด์การ์ด ร่วมบิด ศึกโมโตทู ในเกมสนาม 7 ที่ คาตาลุนญ่า ประเทศสเปน ภายใต้การผลักดันของบริษัทแม่ ยามาฮ่ามอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น หลังดาวบิดสายเลือดไทยทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ในรายการซีอีวี โมโตทู ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ สามารถขับเคี่ยวกับนักบิดชั้นนำของโลก และเดินหน้าเก็บแต้มจบซีซั่นที่ผ่านมาด้วยอันดับ 9 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ
โดย นายวีรพงษ์ ธนากิจจานนท์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายกีฬายานยนต์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “การส่งนักแข่งไทยเข้าร่วมการแข่งขันศึกโมโตจีพี เป็นเป้าหมายของ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม เนื่องจากเป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก รวมสุดยอดรถแข่งและนักแข่งจากทั่วโลกมาประลองความเร็วกัน สอดคล้องนโยบายการผลักดันให้นักแข่งไทย ได้เข้าร่วมการแข่งขันบนเวทีระดับโลกเพื่อสร้างประสบการณ์ และทำผลงานในฐานะตัวแทนนักแข่งไทย”
สำหรับ “เคเค” เขมินท์ คูโบะ เป็นนักแข่งคนที่ 4 ซึ่ง ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ส่งเข้าร่วมแข่งในรายการซีอีวี โมโทู สามารถเติบโตและยกระดับตามโรดแมป ไล่เรียงจากการเข้าร่วมแข่งขันในโครงการของยามาฮ่า ก่อนจะขยับเข้าร่วมการแข่งขันในรายการชิงแชมป์เอเชีย
หลังจากนั้นได้รับการคัดเลือกเข้าสู่โครงการ Yamaha VR46 Mastercamp ร่วมกับบรรดานักแข่งดาวรุ่งจากเอเชีย ก่อนจะเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปภายใต้สังกัด VR46 Mastercamp ติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาสามารถทำผลงานติดท็อปเท็นของรายการดังกล่าว
“สำหรับการเข้าร่วมแข่งขัน ศึกโมโตจีพี ในรุ่นโมโตทู เป็นความร่วมมือระหว่าง ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ร่วมกับ ยามาฮ่ามอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น และ วีอาร์ โฟร์ตี้ซิกซ์ ไรเดอร์ส อะคาเดมี รวมถึงผู้สนับสนุนอย่าง PTT LUBRICANTS ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ดีกับเรามาอย่างต่อเนื่อง และสมาพันธ์แข่งรถจักรยานยนต์ FMSCT ที่ร่วมสนับสนุนให้ตัวแทนนักแข่งไทยได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันศึกโมโตจีพี” นายวีรพงษ์ ธนากิจจานนท์ กล่าวส่งท้าย
สำหรับการแข่งขันในสนามที่ 7 ศึกโมโตจีพี 2021 มีคิวลงดวลความเร็วในวันที่ 6 มิถุนายน ณ เซอร์กิต เดอ บาร์เซโลน่า-คาตาลุนญ่า ประเทศสเปน

GPX เอาใจเหล่าคนคูลสายคลาสสิก จองออนไลน์ Legend 250 Twin รับ Voucher สูงสุด 5,000 บาท!

GPX เอาใจเหล่าคนคูลสายคลาสสิก จองออนไลน์ Legend 250 Twin รับ Voucher สูงสุด 5,000 บาท!
GPX จัดโปรคนคูลลล!!! เอาใจเหล่าคนคูลสายคลาสสิก ที่ชื่นชอบรถรุ่น Legend 250 Twin และ Legend 250 Twin II เพียงแค่ทำการจองรถ ผ่านช่องทางออนไลน์ www.gpxthailand.com ตั้งแต่ วันนี้ – 30 มิ.ย. 64 นี้ รับข้อเสนอพิเศษ! Voucher ส่วนลดแทนเงินสด มูลค่าสูงสุด 5,000 บาท! พร้อม ฟรี! ทะเบียน + พรบ. พร้อมการรับประกันรถนานถึง 3 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร
หากพูดถึงรหัสตำนาน ‘LEGEND’ คือ ตระกูลรถคลาสสิกจากแบรนด์ GPX ที่มีจุดเริ่มต้นความคูลถือกำเนิดครั้งแรกเมื่อปี 2015 และได้มีการขยายสายพันธุ์ตำนานอย่างต่อเนื่องในหลากหลายรุ่น จนถึงรุ่นล่าสุดในปัจจุบัน ซึ่งนับแต่นั้น จนถึงวันนี้ ตระกูล ‘LEGEND’ ก็ได้สร้างตำนานบทใหม่ ด้วยยอดขายทั้งในประเทศและส่งออกต่างประเทศไปแล้วกว่า 10 ประเทศ เรียกได้ว่า เป็นตำนานบทใหม่ของรถมอเตอร์ไซค์แบรนด์ไทย ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา จึงทำให้ GPX LEGEND250 TWIN II
รุ่นล่าสุดในตระกูลรถคลาสสิกจากค่าย GPX เป็นที่น่าจับตามอง!
GPX LEGEND250 TWIN II รถคลาสสิกสุดคูล ที่มาพร้อมขุมกำลังขนาด 234 ซีซี แบบ 2 สูบ 4 จังหวะ 4 วาล์ว จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยเทคโนโลยีหัวฉีด GPX-Fi ( จากแบรนด์ Delphi อเมริกา) ขับเคลื่อนด้วยโซ่คุณภาพ จากแบรนด์โซ่ชั้นนำสัญชาติญี่ปุ่น RK ที่ขนาด 520 แบบมี O-Ring ช่วยให้มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าโซ่แบบธรรมดาถึง 2 เท่า
และไฮไลท์สำคัญของ GPX LEGEND250 TWIN II ในคอลเลคชั่นล่าสุดนี้ก็คือ การมาพร้อมกับแฮนด์บาร์ที่ยึดจับด้วยตุ๊กตาแฮนด์แบบฉบับเฉพาะสายพันธุ์ตำนาน ซึ่งการพัฒนาในส่วนนี้ จะมอบมิติใหม่ในการขับขี่ ให้คุณพร้อมออกเดินทางไกลได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น พร้อมกระจกข้างแบบใหม่ ที่ออกแบบมาให้รับกับองศาการนั่งในขณะขับขี่ อีกทั้งยังเสริมประสิทธิภาพเพื่อการเดินทางให้กับคุณ ด้วยโช้กอัพหลังคู่ คุณภาพระดับสากลจากแบรนด์ YSS ในรุ่น G-Series ซึ่งเป็นโช้กแก๊ส แบบเเยกห้องระหว่างน้ำมันเเละเเก๊ส แฝงดีไซน์ความเท่ระดับตำนาน ด้วย Sub Tank สีทอง เสริมเสน่ห์ความเท่ และความหรูหรา แบบคลาสสิกให้กับตัวรถ ภายใน Sub Tank บรรจุแก๊สไนโตรเจนเอาไว้ ทำให้การเคลื่อนที่ของโช้กเป็นไปอย่างนุ่มนวล นอกจากนี้ ตัวโช้กยังสามารถปรับระยะพรีโหลดได้ โดยการปรับแบบเกลียวหรือที่เรียกว่า ระบบ Threaded spring preload จึงสามารถปรับให้รองรับกับการใช้งานที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ในส่วนของฟังก์ชั่นเด็ดอื่นๆ ก็ยังคงมีมาให้กันเช่นเคย ทั้งไฟหน้าและไฟท้ายแบบ FULL LED ที่ด้านหน้ามีไฟ DRL หรือ Daytime Running Light มาให้ เรือนไมล์แบบ FULL DIGITAL LCD METER ที่ออกแบบมาให้มีสีสัน คมชัด พร้อมมาตรวัดบอกข้อมูลอย่างครบครัน โช้กอัพหน้าแบบหัวกลับ Upside down เพิ่มความนุ่มนวลขณะขับขี่ เสริมความมั่นใจในทุกสถานการณ์ ด้วยระบบเบรกหน้าแบบ Twin disc brake ที่ขนาดจานดิสก์ 276 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับลูกสูบ 4 pot ให้ทุกการหยุดรถของคุณสั่งได้ดั่งใจ
GPX LEGEND250 TWIN II มีมาให้คุณเลือกความเท่ที่ใช่ ใน 3 เฉดสีพิเศษ ได้แก่
• SILVER SPACE เฉดสีเทาเงา
(ล้ำลึกด้วยส่วนผสมของ Mica Pigment ให้ประกายสีรุ้ง)
• BLACK PHOENIX เฉดสีดำเงา
(ล้ำลึกด้วยส่วนผสมของ Glass Flakes ที่ให้ประกายสีแดง)
• MATT BLACK PHOENIX เฉดสีดำด้าน
(ล้ำลึกด้วยส่วนผสมของ Glass Flakes ที่ให้ประกายสีแดง)
บอกเลยว่า ต้องลองมองให้ลึก แล้วจะรู้ว่าล้ำลึกกว่าที่ตาเห็นจริงๆ ! กับราคาแนะนำขายเพียง 81,900 บาท
ย้ำอีกที! เพียงแค่ทำการจองรถ ผ่านช่องทางออนไลน์ www.gpxthailand.com
ก็รับข้อเสนอพิเศษ! Voucher ส่วนลดแทนเงินสด มูลค่าสูงสุด 5,000 บาท! พร้อม ฟรี! ทะเบียน + พรบ. พร้อมการรับประกันรถนานถึง 3 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร ตั้งแต่ วันนี้ – 30 มิ.ย. 64 นี้เท่านั้น!

เปิดตำนาน “ซูเปอร์โฟร์” โมเดลสุดคลาสสิกตลอดกาลของฮอนด้า

เปิดตำนาน “ซูเปอร์โฟร์” โมเดลสุดคลาสสิกตลอดกาลของฮอนด้า
สร้างทอล์คออฟเดอะทาวน์ครั้งใหญ่ หลังการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ระดับตำนานของฮอนด้า ในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2021 ที่ผ่านมา นั่นคือ สองคู่แฝดในตระกูลซูเปอร์โฟร์อย่าง New Honda CB1300 Super Four และ New Honda CB1300 Super Four BOLD’OR ซึ่งเป็นแฟลกชิพโมเดลสุดคลาสสิกที่คนไทยไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าจะมาเปิดตลาดในไทย
โดยที่มาที่ไปของต้นกำเนิดแห่งตำนานซูเปอร์โฟร์ เริ่มต้นขึ้นในปี 1992 ภายใต้โปรเจกต์ BIG-1 (บิ๊กวัน) ในยุคที่กระแสความนิยมรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่น Honda CB1000 Super Four ประสบความสำเร็จได้การยอมรับเป็นอย่างดีจากผู้ขับขี่ทั่วโลก ด้วยความโดดเด่นจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แนวคิด 3 ประการ ประกอบด้วย
1. ขุมพลังเครื่องยนต์ 4 จังหวะ DOHC 4 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ
รูปแบบเครื่องยนต์ที่มีความสมบูรณ์แบบ ทั้งในด้านสมรรถนะการขับขี่ เสียงที่ทรงพลัง รูปลักษณ์การดีไซน์โดดเด่น สง่างาม เหมือนมัดกล้ามที่แข็งแกร่ง แม้ไม่ได้กำหนดเฉพาะเจาะจงว่าจะต้องมีปริมาตรกระบอกสูบเท่าไร แต่สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของซูเปอร์โฟร์ คือ จะมีระบบระบายความร้อนด้วยน้ำเท่านั้น หากใช้การระบายความร้อนด้วยอากาศหรือน้ำมัน จะไม่ถูกจัดอยู่ในรถตระกูลนี้
2. ดีไซน์ในแบบ Sexy & Wild
การออกแบบตัวรถของทั้ง Super Four และ BOL D’OR จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้บรรยากาศย้อนยุคด้วยเส้นสายโค้งมน และการเล่นสีสันที่มีเสน่ห์ แต่แฝงอารมณ์ความสปอร์ตที่ดุดันเร้าใจ รู้สึกได้ถึงความแรงแม้แต่ในเวลาที่รถจอดนิ่งอยู่เฉยๆ เป็นรถที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องเหลียวกลับมามองอีกครั้งเสมอ
3. แรงเกินใคร สั่งได้ดั่งใจ
สิ่งสำคัญที่สุด คือ สมรรถนะการขับขี่ที่ให้การตอบสนองรวดเร็วทันใจ ด้วยบุคลิกเฉพาะตัวของขุมพลังเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ที่ให้กำลังแรงบิดสูงในรอบต่ำ พร้อมปลดปล่อยความแรงได้อย่างสมูทนุ่มนวล อีกทั้งท่านั่งการควบคุมมีความกระชับและให้ความคล่องตัวสูง ปรับตัวง่ายแม้ขับขี่ครั้งแรก และแน่นอนหากได้ลองแล้วต้องรู้สึกประทับใจ
รถจักรยานยนต์ระดับตำนานของฮอนด้า ในตระกูล “ซูเปอร์โฟร์” ทุกรุ่นจะต้องประกอบด้วย 3 แนวคิดการพัฒนาดังกล่าว และจะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปไม่ได้ ขณะเดียวกัน ในด้านเทคโนโลยีที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานกับตัวรถนั้น ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกรุ่นที่เปิดตัววางจำหน่าย
โดยล่าสุด ในรุ่น New Honda CB1300 Super Four และ New Honda CB1300 Super Four BOLD’OR มาพร้อมระบบไฟแบบ LED รอบคัน หน้าปัดเรือนไมล์ TFT แสดงข้อมูลครบถ้วน ช่องชาร์จอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ พอร์ต USB Type-C Charger ระบบควบคุมแรงบิด HSTC-Honda Selectable Torque Control ระบบ Assist Slipper Clutch ระบบคันเร่งไฟฟ้า Ride-by-Wire และ Riding Modes ให้เลือกถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ Standard, Sport และ Rain พร้อมระบบควบคุมความเร็ว Cruise Control ระบบช่วงล่าง หน้า-หลัง จาก SHOWA ปรับตั้งค่าได้อย่างละเอียดครบถ้วน ทั้งค่าความแข็งสปริง ความหนืด และแรงต้านการยุบตัว
สำหรับผู้สนใจ New Honda CB1300 Super Four และ New Honda CB1300 Super Four BOLD’OR รถจักรยานยนต์ฮอนด้าระดับตำนานในตระกูลซูเปอร์โฟร์ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการ ฮอนด้า บิ๊กวิง ทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ที่
เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th/hondabigbike
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์ : fb.com/HondaBigBikeTH
อินสตราแกรม : hondabigbike

“ยามาฮ่า” มั่นใจคุณภาพสินค้า กล้ารับประกัน 5 ปี หรือ 5 หมื่นกิโลเมตรเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียว ตอกย้ำความเป็นผู้นำแบรนด์อย่างโดดเด่นและแตกต่าง

“ยามาฮ่า” มั่นใจคุณภาพสินค้า กล้ารับประกัน 5 ปี หรือ 5 หมื่นกิโลเมตรเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียว ตอกย้ำความเป็นผู้นำแบรนด์อย่างโดดเด่นและแตกต่าง
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ชั้นนำของประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำในแบรนด์รถจักรยานยนต์ของประเทศไทยที่กล้ารับประกันคุณภาพสินค้าทั้งคันตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 5 หมื่นกิโลเมตร สำหรับลูกค้ารถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทุกรุ่นขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 500 ซีซี ที่ได้ลงทะเบียนรับประกันคุณภาพสินค้าหลังจากวันที่ซื้อสินค้า จะได้สิทธิ์รับประกันคุณภาพทุกชิ้นส่วนเป็นเวลา 5 ปี หรือ 50,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน ไม่รวมอะไหล่สึกหรอตามอายุการใช้งาน ทั้งนี้ต้องนำรถเข้าตรวจเช็กตามระยะที่บริษัทฯกำหนด โดยสามารถรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 31 ธันวาคม 2564
นอกจากนี้ยังยกระดับมาตรฐานสู่การบริการระดับโปรแคร์ พร้อมบริการหลังการขายให้รถจักรยานยนต์พร้อมใช้งานตามมาตรฐานที่บริษัทกำหนด และเพิ่มความมั่นใจตลอดการเดินทาง พร้อมเพิ่มบริการ Road Side Service “มากกว่า…ด้วยความอุ่นใจ บริการคุณ ทุกช่วงเวลาฉุกเฉิน” ในกรณีที่รถเกิดปัญหาฉุกเฉินไม่สามารถขับขี่ต่อได้ โดยลูกค้ายามาฮ่าทุกคันจะได้รับสิทธิ์การบริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ภายในระยะเวลา 1 ปี หรือ 12,000 กม. เพียงติดต่อที่ Yamaha Call Center : 0-2263-9999
โดยมีรายละเอียดการรับประกันดังนี้
ระยะที่บริษัทฯ กำหนด จนกว่าจะครบระยะประกัน
– รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าขนาดเครื่องยนต์ 110 – 300 ซีซี เช็กระยะในครั้งแรก 1,000 กม. หรือ ระยะเวลา 2 เดือน ระยะต่อไปทุกๆ 4,000 กม. หรือ ระยะเวลา 4 เดือน
– รถจักรยานยนต์ยามาฮ่ามากกว่า 300 ซีซี เช็กระยะในครั้งแรก 1,000 กม. หรือ ระยะเวลา 1 เดือน ระยะต่อไปทุกๆ 5,000 กม. หรือ ระยะเวลา 5 เดือน
– สำหรับรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าที่มีเครื่องยนต์ 400 ซีซี เช็กระยะในครั้งแรก 1,000 กม. หรือ ระยะเวลา 1 เดือน ระยะต่อไปทุกๆ 6,000 กม. หรือ ระยะเวลา 6 เดือน
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถนำสมุดคู่มือให้ทางร้านบันทึกข้อมูลเพื่อเป็นหลักฐานการตรวจเช็กระยะ โดยการรับประกันจะสิ้นสุดต่อเมื่อ ครบการเช็กระยะ 50,000 กม. หรือ 5 ปี แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน
อะไหล่สึกหรอตามอายุการใช้งาน มีดังนี้
1.ชิ้นส่วนที่สึกหรอตามอายุการใช้งานหรือต้องเปลี่ยนตามปกติหลังการใช้งาน อันได้แก่ นํ้ามันหล่อลื่น, ปะเก็นต่างๆ, สายเบรก, สายไมล์, สายคลัทช์, สายคันเร่ง, ผ้าเบรก, หลอดไฟ, ฟิวส์, หัวเทียน, นัท, โบลท์ และ สกรูต่างๆ
2. ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ที่สึกหรอตามอายุการใช้งานได้แก่ เสื้อสูบ, ลูกสูบ, แหวนลูกสูบ, หัวเทียน, นํ้ามันเครื่อง, ปะเก็น, ซีล, โอริง, ลูกปืนต่างๆ, ผ้าคลัทซ์, ตุ้มแรงเหวี่ยงและสายพาน ยกเว้นแต่เป็นความผิดพลาดทางด้านเทคนิคหรือความผิดพลาดที่เกิดจากขบวนการผลิตของโรงงานเท่านั้น
3. แบตเตอรี่รับประกันตามเงื่อนไขของบริษัทฯ ผู้ผลิต เป็นระยะเวลา 6 เดือน
4. ยางรับประกันตามเงื่อนไขของบริษัทฯ ผู้ผลิต เป็นระยะเวลา 6 เดือน หรือ 5,000 กม.
สิทธิประโยชน์บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Road Side Service) กรณีเกิดปัญหาด้านคุณภาพที่ไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้
• ลูกค้าจะได้รับสิทธิ์บริการช่วยเหลือ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ในระยะเวลา 1 ปี หรือระยะทาง 12,000 กม. โดยรถลูกค้าต้องลงทะเบียนรับประกันคุณภาพสินค้า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป
• ลูกค้าจะได้รับสิทธิ์บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน เคลื่อนย้ายรถไปยังศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุด หรือสถานที่ปลายทางตามความประสงค์ของลูกค้า ภายในระยะทาง 20 กม. ตามที่บริษัทฯ กำหนด (หากระยะทางเกินกว่า 20 กม. ลูกค้าต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนที่เกิน โดยมีค่าบริการ 25 บาท/กม.)
• สำหรับบริการช่วยเหลือระยะทางไกล (เกินกว่า 50 กม.) ทางศูนย์บริการฉุกเฉินจะทำการตกลงราคากับลูกค้า และต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้าก่อนการให้บริการ
• กรณีลูกค้าเรียกใช้บริการฉุกเฉินแล้วบริษัทฯ ตรวจสอบพบว่ารถลูกค้าไม่ได้เกิดจากปัญหาด้านคุณภาพของรถจักรยานยนต์ ลูกค้าจะต้องเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น (การเรียกเก็บค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับระยะทางของการให้บริการ)
• กรณีรถลูกค้าไม่ได้เกิดปัญหาด้านคุณภาพ แต่ลูกค้ามีความประสงค์จะใช้บริการ ลูกค้าสามารถสอบถามค่าใช้จ่ายผ่านทาง Yamaha Call Center ตลอด 24 ชม. (ขึ้นอยู่กับระยะทางของการให้บริการ)
• รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าของท่านต้องได้รับการตรวจเช็กตามระยะอย่างต่อเนื่องจากศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ จาก บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด โดยท่านสามารถตรวจสอบการตรวจเช็กตามระยะได้ที่ เว็บไซต์ YAMAHA หัวข้อศูนย์บริการผู้จำหน่าย และเลือกตารางตรวจเช็กตามระยะ ที่ https://www.yamaha-motor.co.th/dealer…/service-maintenance หรือสแกน QR Code รายละเอียดตรวจเช็กตามระยะ
*รายละเอียดและเงื่อนไข เป็นไปตามที่ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กำหนด

 

“ยามาฮ่า” ร่วมเยียวยาเหยื่อโควิด บริจาค 1.4 ล้านบาท ช่วยชาวไทยร่วมต้านภัย COVID-19

“ยามาฮ่า” ร่วมเยียวยาเหยื่อโควิด บริจาค 1.4 ล้านบาท ช่วยชาวไทยร่วมต้านภัย COVID-19
มร.ทัตสึยะ โนซากิ ประธานกรรมการบริหาร นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด มอบเงิน 1,400,000 บาท ให้กับ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในการรับมอบ
โดยเงินจำนวนนี้ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะนำไปซื้อสิ่งของจำเป็นรวมถึงเครื่องอุปโภค บริโภคช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบาง อาทิ เด็ก คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสในสังคม ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่ประสบปัญหาทางสังคมได้รับความเดือดร้อนและความยากลำบากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19
สำหรับ ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จัดตั้งโครงการ “ยามาฮ่าร่วมใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยโควิด” ขึ้นมาในปี 2563 โดยร่วมบริจาครถจักรยานยนต์มากกว่า 140 คัน ให้กับกระทรวงสาธารณสุข และกรุงเทพมหานคร เพื่อบุคลากรทางการแพทย์ และโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการยับยั้งและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
รวมถึงสร้างห้องตรวจเชื้อให้กับโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด บริจาคเงินและชุดป้องกัน PPE ให้กับหน่วยงานต่างๆ พร้อมลังกระดาษสำหรับการทำเตียงสนามรองรับผู้ป่วยให้กับโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ โดยหวังให้คนในสังคมได้กลับมามีรอยยิ้มและความสุขอีกครั้ง
สำหรับการมอบเงินจำนวน 1,400,000 บาท ในครั้งนี้ มีขึ้น ณ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เมื่อเร็วๆ นี้