


ติ๊งโน๊ต #100 TingNote Thitipong Warokorn โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมตอกย้ำความแรงอย่างต่อเนื่อง บิดรถคู่ใจ Ninja ZX-10RR คว้าชัยชนะเลิศอันดับ 1 สองสนามซ้อน ?? ?? ในรุ่นท็อปสุด SB1 (1000cc) รายการ OR BRIC Superbike 2021 สนาม 2 ที่สนามช้างฯบุรีรัมย์ เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา
ส่งผลทำให้มีคะแนนสะสมขึ้นนำแถวบนสุดของตาราง สร้างความยินดีให้กับทั้งผู้สนับสนุน สปอนเซอร์ ผู้ชมแฟนคาวาซากิ และทีมงานที่คอยส่งกำลังใจให้อย่างล้นหลาม..
“โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ #56 จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม สร้างผลงานระดับมาสเตอร์ เชือดคู่แข่งคัมแบ็กคว้าชัยชนะ ทวงหัวแถวในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ในศึก โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ สนาม 2 ขณะคู่หูรุ่นใหญ่ “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #24 และ “ตี” อนุภาพ ซามูล #500 ควงคู่ขึ้นโพเดี้ยมรุ่น ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี หลังจบเรซสุดเข้มข้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
ทัพนักบิด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม เดินหน้าสร้างผลงานอย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2021 สนาม 2 โดยมีลุ้นทั้งสองรุ่นไฮไลต์ของรายการอย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี และ ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี
โดย “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ #56 อดีตแชมป์เอเชีย กลับมาทวงชัยชนะให้ตนเองได้อีกครั้ง หลังออกสตาร์ทจากโพลและไล่บดกับคู่แข่งอย่างสุดมันส์ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี บิดรถแข่ง R6 เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 20 นาที 05.328 วินาที พร้อมกับทะยานขึ้นเป็นผู้นำบนตารางแชมเปี้ยนชิพหลังผ่านสนาม 2 ส่วนทีมเมทอย่าง “ซุป” อนุชา นาคเจริญศรี #10 คว้าอันดับ 6 ตามหลัง 18.187 วินาที ส่วน “ฟอง” คณาฑัต ใจมั่น #90 จากสังกัด ยามาฮ่า ไฮ-สปีด เรซซิ่งทีม จบการแข่งขันในอันดับที่ 5
ขณะที่การแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี สองนักบิดยามาฮ่ายังคงสร้างโอกาสลุ้นชัยชนะได้อีกครั้ง โดย “ตี” อนุภาพ ซามูล #500 ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 2 ส่วน “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #24 ได้ออกตัวจากกริดที่ 3 ซึ่งทั้งคู่สามารถขยับขึ้นครองความได้เปรียบบนหัวขบวนได้ในช่วงต้นเรซ จบการแข่งขัน 12 รอบสนาม อภิวัฒน์ จบเรซในอันดับ 2 ตามหลังผู้ชนะเพียง 2.339 วินาที ส่วน อนุภาพ เข้าป้ายอันดับ 3 ตามหลัง 2.549 วินาที
สำหรับการแข่งขันสนามถัดไปของศึก โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2021 สนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 ตุลาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เช่นเคย
“มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ยอดนักบิดสาวแกร่งจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ และทีมเมทอย่าง “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ ควงคู่คว้าอันดับ 2-3 เบิ้ลโพเดี้ยมในศึก โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ สนาม 2 ในรุ่ ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี พร้อมพาต้นสังกัดผงาดจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพประเภททีม หลังผ่าน 2 สนามแรก ที่สนามช้างฯ เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
All New Suzuki Gixxer SF ได้รับการดีไซน์ให้เป็นสปอร์ตไบค์ที่มีรูปโฉมที่เพรียวบาง โดยได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบสไตล์ยุโรป การันตีด้วยการถ่ายทอด DNA จาก Super Bike ของ Suzuki โดยตรงที่จะทำให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์ความสปอร์ตเสมือนได้อยู่ในสนามแข่ง
ด้วยโครงสร้างที่ถูกออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน พร้อมแฟริ่งทรงสปอร์ตที่ถูกพัฒนา และออกแบบอย่างพิถีพิถันตามหลัก Aerodynamic โดยลมจะวิ่งผ่านเส้นสายของแฟริ่งของตัวรถ ช่วยลดแรงปะทะของลมในขณะขับขี่ ผสานกับน้ำหนักของตัวรถเพียง 160 กิโลกรัม และพละกำลังสูงสุดถึง 26.5 แรงม้า จึงไม่แปลกใจเลยที่ All New Suzuki Gixxer SF จะเป็นรถจักรยานยนต์ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานจริงในเรื่องของการขับขี่ที่สนุก เร้าใจ ตามแบบฉบับ Japanese DNA จาก Suzuki
ปรับปรุงโมเดลในพิกัด 800 ซีซี กันไปจนครบ คราวนี้ก็เป็นทีของรถตัวพันกันบ้าง สำหรับ MV Agusta Brutale 1000RR 2021 ไฮเปอร์เน็กเก็ดจากเมือง Varese โดยการอัพเกรดชุดใหญ่คราวนี้ ยังคงมีเรื่องของกฎข้อบังคับมาตรฐานไอเสีย Euro5 ทำให้มีการปรับแต่งชิ้นส่วนต่างๆ ภายในเครื่องยนต์เพื่อช่วยลดแรงเสียดทานในระบบด้วยการใช้วาล์วไทเทเนียม วาล์วไกด์ใหม่ และลูกกระทุ้งลิ้นเคลือบ DLC ทั้งยังออกแบบระบบไอเสียใหม่เพิ่มเติมเพื่อให้ค่าไอเสียที่สะอาดมากยิ่งขึ้น แต่ที่สำคัญคือกำลังเครื่องยนต์ขุมพลัง 4 สูบเรียง 998 ซีซี ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 208 แรงม้า (153 กิโลวัตต์) ที่ 13,000 รอบ และแรงบิดที่ 116.5 นิวตันเมตรที่ 11,000 รอบ มีควิกชิฟเตอร์แบบ 2 ทาง และระบบสลิปเปอร์คลัทช์ มีระบบควบคุมแรงบิด 4 ระดับ
ตัวรถโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีมากมาย อาทิ หน้าจอเรือนไมล์สี TFT ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านระบบบลูทูธ ไฟหน้าที่น่าสนใจเพราะมันได้ไอเดียมาจาก Porsche 911 ในขณะที่ขับรถแล้วมองผ่านกระจกหลัง ระบบป้องกันล้อลอย ระบบแทร็คชั่นคอนโทรล 8 ระดับ ระบบเบรก ABS แบบใช้งานในโค้งได้ และระบบประมวลผลแรงเฉื่อยที่ช่วยให้ระบบอื่นๆ ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ช่วงล่างเด่นที่ระบบกันสะเทือนไฟฟ้าจาก Ohlins Nix EC ที่ด้านหน้า Ohlins TTX EC ที่ด้านหลัง พร้อมกันสะบัดปรับไฟฟ้า ระบบเบรกจาก Brembo โดยด้านหน้าเป็นคาลิเปอร์เบรก Stylema 4 พอร์ทกับจานเบรกคู่ขนาด 320 มม. แบบโฟลท์ติ้ง ขณะที่ด้านหลังเป็นคาลิเปอร์เบรก Brembo 2 พอร์ท พร้อมจานเบรกขนาด 260 มม. ใช้ยาง Pirelli Diablo Rosso Corsa ขนาด 120/70-17 ที่ด้านหน้า และ 200/55-17 ที่ด้านหลัง
สำหรับ MV Agusta Brutale 1000RR จะมีสีสันใหม่ให้เลือก 2 เฉดสี ได้แก่สีแดงเพลิงตัดด้วยสีดำเมทัลลิกแบบด้าน และสีเทาเมทัลลิกแบบด้านตัดด้วยสีเทาเข้มเมทัลลิกแบบด้าน ส่วนสนนราคานั้นจะเริ่มต้นที่ 32,300 ยูโร ลองเอา 40 ไปคูณดูแล้วกันว่าจะสักกี่ตังค์
การมาของ FORZA350 ไม่ได้ทำให้ FORZA 300 นั้นลดกระแสความนิยมลงแม้แต่นิดเดียว ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ ความโฉบเฉี่ยว หรูหราพรีเมี่ยม ไม่ใหญ่เกินไป และที่สำคัญขับขี่ได้สะดวกบูลสกาย คัลเลอร์ สีฟ้าสดใส บนเรือนร่างแบบเพียวๆ ไม่ต้องคาดลวดลายสีสันสติ๊กเกอร์ให้ดูเลอะเทอะ เน้นเรียบหรูดูสบายๆ มีการใช้ชิ้นงานที่เป็นเคฟล่าร์เข้ามาเสริมเพิ่มความคมเข้มที่ด้านหน้า ฝาปิดครอบถังน้ำมัน แต่ถ้ามองรวมๆ แล้ว ซึ่งดูแล้วไม่ได้มีของแต่งอะไรเยอะแยะมากมาย เน้นแบบเรียบๆ ง่ายๆ ใช้งานทั่วไป แต่มันก็สะดุดตาเหมือนกัน
ตัวเครื่องยนต์เป็นเวอร์ชั่นสองที่พัฒนาขึ้นมาจากตัวเก่ามีความทันสมัยมากขึ้น ขับขี่ตอบสนองความต้องการได้รวดเร็ว การเพิ่มท่อไอเสียใหม่เข้าไปทำให้การรีดแรงม้าออกได้ดี ถึงแม้มันไม่ได้ช่วยให้ความเร็วปลายเพิ่มขึ้น แต่มันทำให้การปล่อยพละกำลังได้เร็วขึ้น มีเสียงที่แผดดังขึ้น และก็มีความสวยสปอร์ตขึ้นด้วย วงล้อแม็กสีทองมาเชสซินี่ ขนาด 14 นิ้ว หน้า/หลัง ดิสก์เบรก หน้า/หลัง พร้อมระบบ ABS ปั๊มบนแท้งค์เหลี่ยมก้านเบรกเหรียญปรับระดับ ช่วงหลังเซ็ทความลงตัวด้วยโช้คอัพคู่ แบรนด์ดังยอดนิยมของนักแต่ง Gazi รุ่นเฉพาะได้แป๊ะแบบไม่ต้องไปแปลงจัดมาให้ตรงรุ่นมีซับแท้งค์แบบบิ้วท์อิน สามารถปรับพรีโหลด และรีบาวด์ได้ ทั้งสวยงามและมีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม
ดูรวมๆ แล้ว ยังขาดออพชั่นอีกหลายชิ้น หลายตำแหน่ง แต่เชื่อได้ว่า FORZA คันนี้ไม่ได้จบเพียงแค่นี้ต้องไปต่ออย่างแน่นอน ทั้งสวยทั้งแรงแบบนี้ใครก็อยากเป็นเจ้าของ ลองแล้วจะติดใจ
ล่าสุด Kawasaki USA หรือ คาวาซากิ อเมริกา ก็ได้ทำการเผยโฉม Ninja 650 2022 แล้ว ซึ่งซูเปอร์สปอร์ตทัวเรอร์คันนี้ยังคงไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติม นอกจากลวดลายกราฟิกใหม่ เพื่อความโดดเด่นสะดุดตามากยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีลูกเล่นที่สำคัญๆ ก็ยังอยู่ครบ อาทิ ขุมพลังยังคงเป็นเครื่อง 2 สูบเรียงขนาด 649 ซีซี ระบายความร้อน ที่ให้อัตราเร่งช่วงต้นและกลางนั้นเร้าใจที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัว ไฟหน้าคู่แบบ LED เรือนไมล์ ที่มาพร้อมระบบเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ และใช่งานร่วมกับแอพลิเคชัน Ride ology ให้คุณไม่พลาดการติดต่อ และการเดินทางที่ไม่สะดุด
ตัวแชสซีเหล็กกลม ที่มีน้ำหนักเบาและให้ความคล่องตัว ทวินดิสก์แบรกหน้า คาลิเปอร์ลูกสูบคู่ จานเบรกกิ้งโฟลท์ติ้ง 5 ตัว วงล้อแม็ก 5 ก้าน ดิสก์หลังจานเดี่ยว คาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว เบาะที่ดีไซน์ใหม่ให้ดูเป็นท้ายเรซซิ่งมากยิ่งชึ้นมาดูในส่วนที่เปลี่ยนกันบ้าง ซึ่งก็มีเฉพาะลวดลายกราฟิกภายนอกที่ออกแบบให้มีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น เส้นสายและการใช้สีทูโทน โดยทางอเมริกาจะจำหน่ายทั้งหมดด้วยกัน 3 โมเดล ได้แก่
โมเดลสแตนดาร์ด ไม่มี ABS ซึ่งจะมีให้เลือกด้วยกัน 2 เฉดสีคือ สีเทาด้านตัดด้วยสีดำเมทัลลิก และสีขาวมุกตัดด้วยสีเทาคาร์บอนเมทัลลิก ในราคา 7,699 เหรียญหรือราวๆ 241,000 บาท
โมเดล ABS ก็จะมีสองเฉดสีเหมือนกับโมเดลไม่มี ABS คือ สีเทาด้านตัดด้วยสีดำเมทัลลิก และสีขาวมุกตัดด้วยสีเทาคาร์บอนเมทัลลิก ในราคา 8,099 เหรียญหรือราวๆ 253,000 บาท
และโมเดล KRT Edition ซึ่งจะมาในเฉดสีเดียวกับทีมแข่ง WorldSBK คือสีเขียวตัดด้วยสีดำและสีขาวมุก ในราคา 8,299 เหรียญหรือราวๆ 259,000 บาท
*(ซึ่งราคาทั้งหมดยังไม่รวมภาษีและค่าใช้จ่ายอื่นๆ
อัตราเร่งดี บอดี้ ดีไซน์ใหม่เพิ่มความสปอร์ตดูพรีเมี่ยมมากขึ้น เพิ่มช่องการไหลของอากาศเพื่อการทรงตัวได้ดีเยี่ยมในความเร็ว และยังคำนึงถึงการคอนโทรลและความคล่องตัว ด้วยตำแหน่งท่านั่งที่ทำหู้ขับขี่นั่งได้สบาย วางเท้าได้สะดวก All New Forza350 มาพร้อมฟังก์ชันใหม่ที่เหนือชั้น ระบบไฟฉุกเฉิน ESS เพิ่มความปลอดภัย เมื่อใช้เบรกกระทันหัน สะดวกสบายด้วย In-Console USB Charger & Bottle Holder ช่องชาร์จไฟผ่าน USB Port ขนาดใหญ่ที่สามารถวางขวดน้ำได้ในตัว พร้อมด้วยฟังก์ชั่นล้ำสมัยมากมาย อาทิ แผงหน้าปัดแบบดิจิตอลสไตล์ Cockpit Area แสดงข้อมูลการขับขี่ครบครัน รีโมทอัจฉริยะฮอนด้าสมาร์ทคีย์ระบุตำแหน่งพร้อมกันขโมย
รถบิ๊กสกู๊ตเตอร์รุ่นยอดนิยมในบ้านเรา รุ่นใหม่นี้นอกจากรูปลักษณ์จะถูกเหลาให้มีเส้นสายที่คมชัดเจนมากขึ้นกว่าเก่า การออกแบบช่องอากาศด้านข้างแฟริ่งให้ไหลผ่านและช่วยในการทรงตัวที่ดีขึ้น รวมไปถึงมุมเทลที่ปรับใหม่ให้การเข้าโค้งง่าย แน่นอน New Honda Forza 350 รุ่นใหม่ จะมีความกระฉับกระเฉงและคล่องตัวเพิ่มมากขึ้นในส่วนชิลด์หน้ายังคงเป็นการปรับด้วยระบบไฟฟ้าเพิ่มความสูงจากเดิม 110 มม. เป็น 150 มม. ปรับได้ที่สวิตช์แฮนด์ด้านซ้าย และตัวรถมาพร้อม Smart key ที่ใช้งานได้สะดวกสามารถบิดเพื่อเปิดระบบและสตาร์ทเครื่องยนต์ได้เลยโดยไม่ต้องเสียบกุญแจ ในส่วนช่องสัมภาระใต้เบาะขนาดใหญ่ รุ่นนี้สามารถเก็บหมวกกันน็อคได้พร้อมกันถึง 2 ใบ
ลื่นขึ้น แรงขึ้น ด้านขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์ eSP+ ขนาด 330 ซีซี 4 จังหวะ 4 วาล์ว ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI แบบซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ ให้การเผาไหม้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แรงเสียดทานต่ำลง ให้สมรรถนะสูงและแรงส่งที่ต่อเนื่อง พร้อมกระเดื่องวาล์วแบบโรลเลอร์ยูนิแคม ให้อัตราเร่งติดมือ เพิ่มเพลาบาลานเซอร์เพื่อสร้างสมดุลให้เพลาข้อเหวี่ยง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่ย้ายตำแหน่งมาอยู่ที่ด้านหน้ารถ ส่งผลให้การระบายความร้อนเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น และยังช่วยในการกระจายน้ำหนักมาทางด้านหน้าทำให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น พร้อมระบบ Honda Selectable Tourque Control ป้องกันล้อหนมุนฟรีท้ายสไลด์ ไม่ให้เสียการทรงตัว ให้แรงม้าสูงสุดที่ 41 แรงม้า
New Honda Forza 350 มาพร้อมกับวงล้อหน้าขนาด 15 นิ้ว และล้อหลังขนาด 14 นิ้ว โช้คอัพด้านหน้าแบบเทเลสโคปิกจะมีขนาด 33 มม. เท่านั้น บางลงกว่าโมเดลเดิมที่มีขนาด 35 มม. ส่วนด้านหลังจะเป็นแบบทวินโช้คที่สามารถปรับระยะพรีโหลดได้ถึง 7 ระดับ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานระบบดิสก์เบรกหน้า/หลัง ที่มาพร้อมกับ ABS แบบ 2 channel เช่นเดียวกับรถบิ๊กไบค์ ในขณะที่หน้าจอแสดงผลนั้นเป็นแบบดิจิตอลผสมกับอนาล็อค ซึ่งให้ความสดใหม่และโฉบเฉี่ยวกว่าเดิม สะดวกสบายกับ In-console USB Charger & Bottle Holder ที่เก็บของคอนโซลหน้าขนาดใหญ่ พร้อมที่วางขวดน้ำในตัว รองรับไลฟ์สไตล์ดิจิตอลฃด้วยที่ชาร์ทไฟสำรองอเนกประสงค์แบบ USB Charger Type C สีที่เปิดตัวกันในปีนี้นั้นจะมี สีน้ำเงิน-ดำ สีดำ, สีแดง-ดำ และ สีขาว-น้ำเงิน ในราคาเปิดตัวที่ 173,500 บาท
ความรู้สึกหลังการขับขี่
จตุรงค์ หมื่นทิพย์ กอล์ฟ ไรดิ้ง
มีความหรู พรีเมี่ยม แต่ซ่อนเขี้ยวเล็บที่แหลมคม อัตราเร่งม้าดีดเร้าใจตั้งแต่ออกตัว เพราะใส่ม้าเพิ่มมาให้อีก 4 ตัว อัพไซส์ลูกสูบจาก 72 มม. เป็น 77 มม. ความจุเป็น 330 ซีซี หัวเว้า 4 วาล์ว พร้อมค่าสปริงใหม่ ก้านข้อเหวียงใหญ่ รู้ได้ถึงเครื่องยนต์ที่นิ่งเสียงเงียบ ลดอาการสั่นด้วยการเสริมเพลาบาล้านซ์เซอร์ที่ข้อเหวี่ยง ทำให้รอบเดินเบาพลาสติกไม่มีกระพรือให้รำคาญ
ท่านั่งไม่ต่างจากตัวเดิม นั่งได้สบายๆ มีความคล่องตัวในระดับหนึ่งแต่ไม่ถึงกับพลิกพริ้ว ช่องเล็กๆ ก็ไปไม่รอดเหมือนกัน วิ่งปะทะลมสบายด้วยวินชิลด์ปรับระดับได้สูงถึง 150 มม. กรองอากาศขนาดใหญ่เปิดคันเร่งรอบสูงไม่ต้องกังวลเรื่องการดูดอากาศเข้าไปเผาไหม้ เรือนลิ้นเร่งแบบยิงตรง รู้สึกได้ถึงแรงบิดที่มาเร็วกว่าเดิม เห็นว่าหม้อน้ำย้ายไปข้างหน้าเพื่อให้ลมผ่านได้ดี และเสริมพัดลมไฟฟ้าระบายความอีกตัว แหม…แบบนี้ม้าไม่มีตกแน่นอน ช่วงล่างโช้คอัพหลังยังมีจังหวะเหวี่ยงๆ อยู่บ้างในโค้ง ขณะที่รถมีความเร็ว 80 กม./ชม แต่ถ้าใช้งานทั่วไปก็ปกติ ยางติดรถถือว่าเกาะพื้นถนนได้ดี ชุดหลังทดอัตรากำลังส่งเฟืองท้ายปรับใหม่ เม็ดแรงเหวี่ยงเพิ่มน้ำหนักเป็น 21 กรัม ออกตัวเร็วมีกำลังที่ต่อเนื่อง เร่งแซงได้ทันใจ ทำความเร็วได้แบบสะเทือนวงการรถเดิมๆ 160 กม./ชม. จาก 0-100 ในเวลาเพียง 8.42 วินาที ดิสก์เบรกแบบ ABS 2 Channels แยกการทำงานหน้า/หลัง สั่งหยุดหนึบๆ มั่นใจ ระบบแทร็คชั่นสั่งทำงานเร็วเมื่อล้อหลังสัมผัสกับ ฝุ่นทราย หินกรวด หรือน้ำ แต่ถ้าปิดระบบ ก็จะได้สัมผัสกับความมันอีกสไตล์ แต่สำหรับใครทียังไม่พอใจสำหรับความเร็วเต็มเกย์ เครื่องยนต์สามารถรองรับการปรับแต่งโมดิฟายไปต่อให้เร้าใจได้อีกเยอะ
เพื่อนบ้านที่อินโดนีเซีย ที่คลั่งใคล้กับความเร็วแรง และความสปอร์ตเป็นอย่ามาก เปิดตัว All New CBR150R ที่มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ ผสมผสานเทคโนโลยีจากสนามแข่ง ให้อารมณ์ที่เร้าใจ กับเส้นสายลวดลาย และมิติของตัวรถที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
คอฟเวอร์ฟูลแฟริ่งใหม่รอบคัน แฟริ่งด้านข้างแบบใหม่พร้อมช่อง AIR DUCT ที่ด้านข้าง เพื่อให้อากาศใหลผ่านได้ดีและทำให้การทรงตัวของรถมีความนิ่ง ไฟหน้า LED ใหม่ 2 ชั้น กับไฟ Day time Running Light ที่ถอดแบบมาจาก CBR250RR ทำให้มีความสปอร์ตมากขึ้น ไฟท้าย LED แบบใหม่ และมาพร้อมกับระบบ ESS ไฟฉุกเฉินเมื่อทำการเบรกรถอย่างกะทันหัน เตือนรถข้างหลัง ซึ่งจะเป็นระบบมาตรฐานกับรถรุ่นอื่นๆ ด้วย
ปรับท่านั่งให้สมาร์ท คล่องตัว ด้วยองศาแฮนด์ใหม่ให้อารมณ์ความเป็นรถสปอร์ตมากขึ้น เบานั่ง 2 ชั้น ยกระดับด้านท้ายสำหรับผู้ซ้อน ด้วย เรือนไมล์ LCD ฟูลดิจิตอล ดีไซน์ใหม่สปอร์ตหรู และบอกรายละเอียดได้อย่างครบครัน และตอบสนองความต้องการตามคำเรียกร้องของวัยรุ่น กับระบบกันสะเทือนแบบใหม่ ด้วยโช้คอัพหน้าแบบ Upside-Down กระบอกสีทอง ที่ทำให้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น และซับแรงกระแทกได้อย่างยอดเยี่ยมอีก โช้คอัพหลัง แบบ Mono Shock ระบบเบรก ABS ดิสก์เบรกหน้าขอบหยักแบบลดความร้อน คาลิเปอร์ลูกสูบคู่ และดิสก์เบรกหลังขอบหยักและคาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว วงล้อแม็กก้านตัว Y ขนาด 17 นิ้ว