“ไทยฮอนด้า” ร่วมนับถอยหลัง “ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์”

“ไทยฮอนด้า”ชวนแฟนมอเตอร์สปอร์ตร่วม “นาทีประวัติศาสตร์” คนไทยคนแรก “ก้อง-สมเกียรติ” ประเดิมโมโตจีพี

“ไทยฮอนด้า” ผู้นำวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยร่วมแถลงข่าวนับถอยหลังเข้าสู่ศึกสองล้อเบอร์หนึ่งของโลก โมโตจีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2025 สนามแรก รายการ พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ ที่จะระเบิดความมันส์ในเมืองไทยระหว่างวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ – วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคมนี้ พร้อมชวนแฟนความเร็วชาวไทยร่วมเป็นสักขีพยานนาทีประวัติศาสตร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกเปิดตัวลุยพรีเมียร์คลาสฤดูกาล 2025 กับทีมระดับโลกอย่าง “อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์” ก่อนไล่ล่าผลงานเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในปีนี้

เมื่อวันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย จัดแถลงข่าวนับถอยหลังเพื่อก้าวเข้าสู่การแข่งขัน “พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ 2025” อย่างเป็นทางการ โดย บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในงานครั้งนี้ด้วย ซึ่งมีไฮไลต์อยู่ที่การลุ้นเชียร์นักบิดไทยใน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ นำโดย “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา เจ้าของรถแข่งหมายเลข 35 ในรุ่นใหญ่อย่าง โมโตจีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ และ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ดาวรุ่งชาวไทยหมายเลข 5 ในรุ่น โมโตทรี และยังมีนักบิดระดับเยาวชนจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” เข้าร่วมแข่งขันในศึก เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2025 ซึ่งเป็นซัพพอร์ตเรซ

ขณะเดียวกัน “ไทยฮอนด้า” ยังคงจัดเต็มส่งมอบประสบการณ์ระดับโลก ด้วยกิจกรรมหลากหลายที่อัดแน่นตลอดทั้งสุดสัปดาห์เพื่อเอาใจแฟนมอเตอร์สปอร์ตร่วมสร้าง “นาทีประวัติศาสตร์” จัดเต็มความสนุกการเชียร์ร่วมกันที่ “สแตนด์เชียร์ ฮอนด้า” ส่งพลังเชียร์ไทยให้เป็นหนึ่งกับ “ก้อง-สมเกียรติ” นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรก เจ้าของหมายเลข 35 “ก๊องส์-ธัชกร” นักบิดโมโตทรี หมายเลข 5 และนักบิดดาวรุ่งไทย เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ทุกที่นั่งมีเสื้อ และอุปกรณ์เชียร์ครบ

พร้อมต้อนรับชาวสองล้ออย่างยิ่งใหญ่ด้วย “Honda Exhibition Hall” ติดแอร์ พาร่วมสัมผัสกองทัพรถจักรยานยนต์ BigBike พร้อมเสริฟโปรโมชั่นสุดพิเศษที่มีให้เลือกจองครบทุกสไตล์ได้ในงาน และร่วมช้อปกันอย่างจุใจกับโปรโมชั่นสินค้าลิขสิทธิ์แท้จากฮอนด้า อาทิ น้ำยาล้างรถ Accessories หมวกกันน็อค พร้อม Honda Collection ใหม่ล่าสุดที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามในทุกครั้ง

ชวนแฟนมอเตอร์สปอร์ตร่วมส่งพลังเชียร์ไทยให้เป็นหนึ่ง ผ่านจอ LED ขนาดยักษ์ พร้อมกับการบรรยายสด สนุกกับ Moto Trainer ทดลองขับขี่สัมผัสประสบการณ์เป็นนักแข่ง และสุดพิเศษในคืนวันเสาร์ที่ 1 มีนาคมนี้ ชวนแฟนๆ กระทบไหล่นักแข่งระดับโลกอย่างใกล้ชิด Meet and Greet แบบเอ็กซ์คลูซีฟ กับนักแข่ง MotoGP อย่าง ลูก้า มารินี , โยฮันน์ ซาร์โก รวมถึงขวัญใจนักบิดไทย “ก้อง-สมเกียรติ” และ “ก๊องส์-ธัชกร”

พร้อมพาแฟนคลับฮอนด้าร่วมเชียร์ติดขอบสนาม ผ่านการรับสมัครจากผู้จำหน่ายทั่วประเทศ ท่ามกลางบรรยากาศแคมป์ปิ้ง และ ชมคอนเสิร์ต ชิมอาหารดัง รวมถึงกิจกรรม Test Riding E-Clutch และ Honda BigBike, CUB House หลากหลายรุ่น โดยในงานนี้ผู้เข้าร่วมงานสามารถนั่งรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Honda Benly e: ที่คอยให้บริการรับ-ส่ง ผู้เข้าชมบริเวณทางข้า “Welcome area EV Station” ได้อีกด้วย

ดร.อารักษ์ พรประภา ประธาน บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “สำหรับสนามแรกของ โมโตจีพี ซึ่งจะมีขึ้นในประเทศไทย ผมอยากให้คนไทยทุกคนร่วมส่งแรงใจเชียร์ “ก้อง-สมเกียรติ” นักแข่งโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งจะเริ่มดวลสปรินต์เรซกันตั้งแต่วันเสาร์ที่ 1 มีนาคมนี้ และเมนเรซในวันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคมนี้ รวมถึงเก่งเล็กอย่าง “ก๊องส์-ธัชกร” ในรุ่นเล็กอย่างโมโตทรีด้วย”

“ร่วมส่งกำลังใจถึงสนามไปด้วยกัน เพราะแรงใจจากชาวไทยถือว่าสำคัญต่อนักกีฬาไทยที่แข่งในโฮมเรซอย่างมาก ทั้งนี้ “สแตนด์เชียร์ ฮอนด้า” และ “จันทรา สแตนด์” ยังสามารถโชว์กุญแจรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเพื่อรับส่วนลดพิเศษด้วย”

นอกจากนี้ ไทยฮอนด้า ยังขอเชิญชวนแฟนๆ ความเร็วชาวไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน “นาทีประวัติศาสตร์” กับงานเปิดตัวทีมแข่งระดับโลก “ฮอนด้า แอลซีอาร์” (LCR Honda) ครั้งแรกที่ประเทศไทย โดยงานนี้แฟนๆ จะได้โอกาสใกล้ชิดแบบเอ็กซ์คลูซีฟ กับนักแข่งระดับโลก “โยฮันน์ ซาร์โก” (Johann Zarco) และ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ ฟรี‼️อาหารเครื่องดื่มอภินันทนาการจากพันธมิตรสปอนเซอร์ทีม ในวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ ที่ศูนย์ฝึกอบรมขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า (รามคำแหง) ลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ตั้งแต่เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป

#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #MotoGP #LCRHondaTeam #LCRHonda #JZ5 #JohannZarco #SC35 #Kong

“ก้อง-สมเกียรติ” ปรับตัวกับรถแข่ง Honda RC213V

“ก้อง-สมเกียรติ” ยกระดับความเร็ว เทสต์โมโตจีพีวันแรก

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดโมโตจีพีชาวไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ตั้งเป้าเรียนรู้รถแข่ง Honda RC213V โมโตจีพี ออฟฟิเชียส เทสต์ วันแรก ยกระดับความเร็วหลังลงบิดถึง 70 รอบสนาม มากที่สุดในเหล่านักบิด เมื่อวันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย

นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ เจ้าของหมายเลข 35 ได้รับโปรแกรมการทดสอบสุดเข้มข้นจากต้นสังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ และ ฮอนด้า เรซซิ่ง คอร์เปอเรชั่น (HRC) ได้รับมอบหมายให้ลงเทสต์รถแข่ง Honda RC213V ซึ่งเจ้าตัวทำงานอย่างหนักกับวิศวกรและทีมงาน โดยเน้นการขับขี่ส่วนใหญ่ไปกับการเรียนรู้รถแข่ง รวมถึงการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ

“ก้อง-สมเกียรติ” ลงเทสต์ไปทั้งสิ้น 70 รอบสนาม เป็นนักบิดที่ลงทดสอบมากที่สุดในวันแรก และปรับปรุงความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง จบวันแรกในอันดับ 21 ด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 0.299 วินาที ดีขึ้นจากการทดสอบในช่วง “เชคดาวน์ เทสต์” 0.251 วินาที

สำหรับ “ก้อง-สมเกียรติ” ยังมีโปรแกรมการทดสอบ โมโตจีพี ครั้งนี้อีก 2 วัน ระหว่างวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์นี้ ก่อนจะเดินทางกลับเมืองไทยเพื่อเข้าร่วมงานเปิดตัวทีมแข่ง ฮอนด้า แอลซีอาร์ ในวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ และร่วมงานเปิดตัว MotoGP Launch Bangkok 2025 ในวันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์นี้

แฟนความเร็วชาวไทยติดตามข่าวสาร พร้อมส่งกำลังใจเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ และนักบิดฮอนด้า ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : Race to The Dream

#ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #MotoGP #IdemitsuHondaLCR #LCRHonda #SC35 #Kong #TheFirstThaiRiderInMotoGP

Kawasaki คัมแบ็คงานทางเรียบ ประเดิมสนามแรกกับงาน Kawasaki Circuit Fun Ride

คาวาซากิ ประเดิมด้วยกิจกรรมแรกของปีกับงาน Kawasaki Circuit Fun Ride 
คาวาซากิ กลับมาสานต่อความสนุก ตื่นเต้น และเร้าใจตามคอนเซปต์ Reconnect ประเดิมด้วยกิจกรรมแรกของปีกับงาน Kawasaki Circuit Fun Ride ที่ขนทัพกันไปบุกสนามแข่งรถแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
โดยในงานนี้ลูกค้าทุกท่านได้รับทั้งความรู้ เคล็ดลับ ประสบการณ์การขับขี่ในสนามแข่ง รวมถึงความสุข สนุกสนานและของรางวัลกลับบ้านกันเต็มกระเป๋า
ซึ่งงานนี้มีทั้งกิจกรรมอบรมขับขี่สำหรับทั้งมือใหม่และมือเก๋า โดยอดีตนักแข่งสังกัดคาวาซากิ และเหล่าครูฝึก KGRS (Kawasaki Good Rider School) ที่นอกจากภาคทฤษฎีแล้วยังพากันไปสอนโค้งต่อโค้ง เพื่อความสนุกสุดมันส์ในการขับขี่สไตล์เรซซิ่ง
สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถจักรยานยนต์คู่ใจคันใหม่แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าคันไหนจะเข้ามือ คาวาซากิก็ขนทัพตระกูล Ninja, Z และ Versys มาให้ทดลองขับกันหมดปลอกในสนามแข่งอีกด้วย และไฮไลท์ของงานกับรอบ Kawasaki Circuit Fun Ride ที่ลูกค้าคาวาซากิได้ลงไปหวดกันเต็มสนาม โดยแบ่งตามขนาดเครื่องยนต์ เพื่อความสนุกและความปลอดภัยสูงสุดของผู้เข้าร่วมกิจกรรม
นอกจากนี้ ต้องขอขอบคุณเหล่าสปอนเซอร์ใจดีที่มาร่วมออกบูธ พร้อมมอบข้อเสนอ ส่วนลดสุดพิเศษเพื่อลูกค้าคาวาซากิทุกๆท่าน ไม่ว่าจะเป็น W Standard, D.I.D., Pirelli, Cordona, Bridgestone, Real helmet, Alpinestar, IRC Tire, Dainese, AGV, Mitas, และ Ohlins อีกทั้งยังขนของที่ระลึกมามอบให้กับลูกค้าที่เข้าร่วมกิจกรรมปาร์ตี้ตอนเย็นกับเราอย่างมากมาย แจกกันจนแทบไม่ได้กลับบ้าน พลางเพลิดเพลินไปกับดนตรีเพราะๆจากวงปฐวี  และในวันอาทิตย์ความสนุกเหล่านี้ก็ยังดำเนินกันต่อไปอีกครึ่งวัน ก่อนที่จะปิดสนาม แยกย้ายกันเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ
เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมที่เปี่ยมไปด้วยความสุข สนุกสนานแบบที่ชาวคาวาซากิคิดถึง หลังจากห่างหายกันไปกว่า 2 ปี  ซึ่งแน่นอนว่ากิจกรรมสนุกสุดมันส์แบบนี้ จะเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน แต่จะเป็นที่ไหน เมื่อไหร่นั้น รอติดตามที่หน้าเพจ Kawasaki Motors Thailand ไว้ได้เลย
ติดตามเราได้ที่
Line OA: @KawasakiTHA หรือ https://lin.ee/ETWncw7

ประเทศไทยชวนแฟนความเร็วทั่วโลก Countdown สู่ “โมโตจีพี”

บิ๊กอีเว้นต์มอเตอร์สปอร์ต ครั้งแรกที่ไทย-ครั้งแรกในโลก

 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย จัดแถลงข่าวนับถอยหลังการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือโมโตจีพี ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ภายใต้ชื่อรายการ “PT Grand Prix of Thailand 2025” (พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์)  ศึกมอเตอร์สปอร์ตพรีเมียมที่มีผู้ชมมากกว่า 800 ล้านคนทั่วโลก ที่ไทยได้รับบทบาทสำคัญ ทั้ง การแถลงเปิดฤดูกาล Season Premier ที่ One Bangkok กรุงเทพ โดยดอร์น่าสปอร์ต วันที่ 9 ก.พ. ต่อด้วย Pre-Season Test  12-13 ก.พ. และ Main Race 28 ก.พ.-2 มี.ค.68 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยประเทศไทยเป็นเจ้าภาพปีที่ 6

5 กุมภาพันธ์ 2568 ที่สโมสรราชพฤกษ์ กรุงเทพ : นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้สนับสนุนภาครัฐและเอกชน นำโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, จังหวัดบุรีรัมย์, กรมการขนส่งทางบก, บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน), บริษัท ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยน้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง, บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด, บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, บริษัท โมโตเร อิตาเลียโน จำกัด (ดูคาติ ไทยแลนด์), แกร็บ ประเทศไทย (Grab) รวมทั้ง, ทัพสื่อมวลชน-อินฟลูเอนเซอร์ และผู้สนับสนุนร่วมงานมากมาย

 

นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย เปิดเผยว่า “นับถอยหลังอีกเพียงไม่กี่วัน ก็จะเข้าสู่สุดสัปดาห์แห่งประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตไทย กับการเป็นสนามเปิดฤดูกาลโมโตจีพีเป็นครั้งแรก โดยจะมีการจัดงาน Season Premier อย่างยิ่งใหญ่ ที่ One Bangkok ซึ่งเป็นกิจกรรมแฟนมีต ที่จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทย และถือเป็นวันที่ยิ่งใหญ่แห่งโลกมอเตอร์สปอร์ต โอกาสสำคัญที่จะได้ประชาสัมพันธ์ความสวยงามของกรุงเทพผ่านการถ่ายทอดสดออนไลน์สู่สายตาแฟนๆ โมโตจีพีที่มีมากกว่า 800 ล้านคนทั่วโลก ขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีความพร้อม 100% ทั้งในส่วนการทดสอบสนามก่อนเปิดฤดูกาล ( Pre-Season Test ) และวันแข่งขัน (Main Race) เราจะใช้โอกาสนี้เป็นเวทีแสดงศักยภาพของประเทศไทยในด้านกีฬามอเตอร์ระดับโลกอีกครั้ง”

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โมโตจีพีไม่ใช่เพียงแค่การแข่งขันกีฬาในระดับโลก แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย Sport Tourism ของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม โดยการเป็นเจ้าภาพ สนามเปิดฤดูกาล ถึง 2 ปีติดต่อกัน (2025 และ 2026) ถือเป็นโอกาสสำคัญอย่างมากของประเทศไทยในการประชาสัมพันธ์ประเทศ รวมถึง ในโอกาสปี “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” นี้ ไทยจีพีจะถือเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ Grand Festivity โดยเป็นหมุดหมายของมอเตอร์สปอร์ตเฟสติวัลระดับโลก เป็นพลังสำคัญในขับเคลื่อนสร้าง การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยอย่างยั่งยืนต่อไป

นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กล่าวว่า กองทุนฯ มีพันธกิจที่สำคัญในการสนับสนุนและผลักดันให้เกิดการจัดการแข่งขันโมโตจีพีในประเทศไทยมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยอีกหนึ่งพันธกิจคือการสนับสนุนนักกีฬาไทยให้ก้าวขึ้นไปสร้างชื่อเสียงบนเวทีระดับโลก ซึ่งในปีนี้มี ‘ก้อง สมเกียรติ จันทรา’ นักแข่งโมโตจีพีคนแรกในประวัติศาสตร์ เริ่มต้นจากสนามโฮมเรซในประเทศไทย ขอเชิญชวนแฟนกีฬาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ ผลักดันกิจกรรมในครั้งนี้ ที่ยังมีประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้กับประเทศมหาศาลให้กระหึ่มโลกด้วยกันอีกครั้ง

นายรังสรรค์ พวงปราง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงินและความยั่งยืน บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ในฐานะ Title Sponsor กล่าวว่า ปีนี้ PTG เตรียมการต้อนรับแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตจากทั่วโลกอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการขยายพาวิลเลียนขนาดยักษ์ให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ติดตั้ง จอ LED ยักษ์ สูงเทียบเท่ากับตึก 2 ชั้น ไว้เป็นแลนด์มาร์คใหม่ โดยใช้เทคนิคการ    แอนนิเมทภาพ 3 มิติที่สวยงาม ภายในยังมีกิจกรรมสนุกเต็ม Max ไปกับ Hero Walk และ Meet and Geet นักแข่งจากทุกคลาสทั้ง MotoGP Moto2 Moto3 แฟนความเร็วจะได้ถ่ายภาพและขอลายเซ็นได้อย่างใกล้ชิด รวมทั้งทัพใหญ่ของแบรนด์ในเครือของ PTG  ไม่ว่าจะเป็น PT Station / PT Maxnitron / Autobacs / กาแฟพันธุ์ไทย / Coffee World / Max Card Plus พิเศษสำหรับสมาชิกบัตร Max Card Plus และบัตร Max Card รับสิทธิพิเศษภายในงานอีกมากมาย

นางเจษฎากร โคชส์ ผู้อำนวยการสำนักการตลาด น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง ในฐานะหัวเรือหลักของผู้เสิร์ฟกิจกรรมบันเทิงในรูปแบบของมอเตอร์สปอร์ตเฟสติวัล กล่าวว่า ปีนี้ช้างฯ จัดเต็มความสนุกครบรส ตลอด 3 วัน ส่งมอบประสบการณ์การชมโมโตจีพีแบบสุด Exclusive ใน Chang House เต้นท์ติดแอร์ขนาดใหญ่ วงดนตรี และดีเจ นอกจากนี้ยังมี คอนเสิร์ต Chang Music Connection ที่ยกทัพศิลปินดัง เริ่มจาก 28 กุมภาพันธ์ UrboyTJ (ยัวร์บอยทีเจ) และ “กอล์ฟ F.Hero” (เอฟ.ฮีโร่), 1 มีนาคม Musketeers และ “โจอี้ ภูวศิษฐ์”, ส่งท้าย 2 มีนาคมด้วยวง “Paradox” (พาราดอกซ์) พร้อมจุดบริการ Chang Shuttle Station รับส่งแฟนๆเข้าสู่สนาม กันแบบฟรีๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย

นายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต กล่าวว่า การที่โมโตจีพีเลือกประเทศไทยจัดกิจกรรมที่สุดพิเศษ ไม่มีประเทศไหนในโลกที่ได้จัดงานแบบนี้มาก่อน ทั้ง Season Premier ความพิเศษของตัวงานนี้มีอยู่ด้วยกันหลายกิจกรรมถ่ายโปรโมตประเทศไทย ณ วัดเบญจมบพิตร,  ขบวนรถแข่งโมโตจีพีบริเวณ One Bangkok, กิจกรรม Hero Walk, การเดินพรมแดงของเหล่านักบิด ฯลฯ นอกจากนี้ยังมี Pre-season Test และ Main Race ทั้งหมดจัดขึ้นที่ประเทศไทย กำไรพิเศษของแฟนความเร็ว ซื้อบัตร Main Race แถมเข้าชม Pre-season Test ฟรี

แฟนความเร็วซื้อบัตรได้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซด์ allticket นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นสุดพิเศษ เรียก Grab เดินทางไป-กลับสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต  ระหว่าง วันที่ 28 ก.พ. – 2 มี.ค.68 ใส่รหัส “THAIGP” รับส่วนลด 15% สูงสุด 100 บาท สามารถใช้ได้กับทุกบริการ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แฟนเพจ Chang Circuit Buriram หรือรับข่าวสารผ่านช่องทางไลน์ โดยเพิ่มเพื่อน Line ID : @changcircuit

“ก้อง-สมเกียรติ” ยกระดับต่อเนื่อง “เชคดาวน์” เทสต์ Honda RC213V โมโตจีพี ที่ มาเลเซีย

“ก้อง-สมเกียรติ” ลงบิดรถแข่ง Honda RC213V เวอร์ชั่นปี 2025

นักบิดขวัญใจชาวไทยเจ้าของหมายเลข 35 เริ่มต้นการทำงานอย่างหนักในการทดสอบ “โมโตจีพี เชคดาวน์ เทสต์” (Shakedown MotoGP Test) ระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ลงบิดรถแข่ง Honda RC213V เวอร์ชั่นปี 2025 อย่างเต็มรูปแบบทั้งสิ้น 2 คัน ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของวิศวกรจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง คอร์เปอเรชั่น (HRC) และ อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ (IDEMITSU Honda LCR) ต้นสังกัด

โดยตลอดการทดสอบทั้ง 2 วัน “ก้อง-สมเกียรติ” ลงเทสต์ไปทั้งสิ้น 123 รอบสนาม ของ เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และทำเวลาต่อรอบได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 0.550 วินาที

“ก้อง-สมเกียรติ” กล่าวว่า “ผมทดสอบเพียง 2 วัน ในวันแรกผมพยายามทำความเข้าใจกับตัวรถ เครื่องมือต่างๆ และระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ให้คล่องที่สุด และเรื่องความเร็วที่ต่างจาก โมโตทู มาก รวมถึงความเร็วในโค้งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยพยายามให้ร่างกายสามารถปรับตัวได้ ซึ่งจะต้องเพิ่มความแข็งแกร่งเข้าไปอีก โดยเฉพาะความแข็งแรงที่ไหล่ เชื่อว่าการทดสอบครั้งต่อไปจะดีขึ้น” นักบิดไทยทิ้งท้าย

ทั้งนี้ “ก้อง-สมเกียรติ” จะมีเวลาพักฟื้นร่างกาย 2 วัน ก่อนเข้าสู่โปรแกรมการทดสอบอย่างเป็นทางการ ออฟฟิเชียล เทสต์ของ โมโตจีพี 2025 (Malaysia MotoGP Test) ในระหว่างวันที่ 5 – 7 กุมภาพันธ์นี้ ที่ สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เช่นเคย

แฟนความเร็วชาวไทยติดตามข่าวสาร พร้อมส่งกำลังใจเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ และนักบิดฮอนด้า ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : Race to The Dream

#ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #MotoGP #IdemitsuHondaLCR #LCRHonda #SC35 #Kong #TheFirstThaiRiderInMotoGP

“ยามาฮ่า” สัญญาณบวก “เชคดาวน์ เทสต์” โมโตจีพี

“กวาร์ตาราโร” ควบ M1 เร็วสุด “มิลเลอร์” รองจ่าฝูง

“เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ยอดนักบิดเฟรนช์จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี กดเวลาเร็วที่สุดในการทดสอบ “โมโตจีพี เชคดาวน์ เทสต์” วันสุดท้ายที่ มาเลเซีย ขณะ แจ็ค มิลเลอร์ นักบิดออสซี่จาก พรีม่า พรามัค ยามาฮ่า โมโตจีพี รั้งรองจ่าฝูง ส่งสัญญาณยอดเยี่ยมในการพัฒนารถแข่ง YZR-M1 หลังจบวันสุดท้ายด้วยข้อมูลจำนวนมาก

การทดสอบ “โมโตจีพี เชคดาวน์เทสต์” จบลงอย่างเป็นทางการหลังจากที่ทุกทีมทำงานอย่างหนัก ระหว่างวันที่ 31 มกราคม-2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย

วันสุดท้ายที่จบลงไปนักบิดยามาฮ่ายกระดับการทำงานอย่างยอดเยี่ยม โดยผลการทดสอบปรากฏว่า ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร นักบิดเฟรนช์หมายเลข 20 จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ทะยานขึ้นมารั้งอันดับ 1 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 57.794 วินาที ตามด้วย แจ็ค มิลเลอร์ นักบิดออสเตรเลียนหมายเลข 43 จาก พรีม่า พรามัค ยามาฮ่า โมโตจีพี ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 58.103 วินาที

ด้าน อเล็กซ์ รินส์ นักบิดสแปนิชหมายเลข 42 จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี จบการเทสต์ครั้งนี้ด้วยอันดับ 7 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 58.487 วินาที ตามด้วย มิเกล โอลิเวียร่า นักบิดโปรตุกีส หมายเลข 88 จาก พรีม่า พรามัค ยามาฮ่า โมโตจีพี ในอันดับ 8 ด้วยเวลาต่อรอบ1 นาที 58.526 วินาที

จากผลการทดสอบดังกล่าวถือเป็นสัญญาณบวก สำหรับ ยามาฮ่า ในการพัฒนารถแข่ง YZR-M1 เพื่อลุยศึก โมโตจีพี 2025 กับเป้าหมายในการคัมแบ็กสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยการทดสอบอย่างเป็นทางการ (ออฟฟิเชียล เทสต์) จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 กุมภาพันธ์นี้ ที่ สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย เช่นเคย

—————————–
#YamahaSocietyThailand #RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #YamahaWorldChampion #YamahaNumber1RacingTeam
#YamahaMotoGP25
#YamahaFactoryRacingTeam
#MonsterEnergyYamahaMotoGP #FQ20 #AR42
#PrimaPramacYamaha
#JM43 #MO88

แนวคิด MOTOR EXPO 2025 “อลังการงานแสดง”

มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” ตอกย้ำ และต่อยอดความอลังการของงาน

ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” เผยว่า แนวคิดของการจัดงานปีนี้ต้องการเน้นความอลังการของงาน โดยที่ผ่านมา “มหกรรมยานยนต์” เป็นงานแสดงที่มีความอลังการหลายด้าน

เริ่มจาก อลังการด้านระยะเวลาดำเนินการจัดงาน ที่ยาวนานต่อเนื่องมากว่า 4 ทศวรรษ ยิ่งกว่านั้น ยังได้รับการรับรองให้เป็นหนึ่งในงานแสดงสินค้าระดับโลก โดย สมาคมอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าโลก (UFI)

อลังการด้านขนาดของงาน เราใช้พื้นที่ภายใน และภายนอกอาคาร IMPACT CHALLENGER 1-3 เมืองทองธานี รวมทั้งหมดถึง 80,000 ตารางเมตร จัดแสดงยานยนต์ทุกประเภท พร้อมอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง โดยมียานยนต์เข้าร่วมงานรวมแล้วกว่า 60 แบรนด์ แบ่งเป็นรถยนต์ กว่า 40 แบรนด์ และจักรยานยนต์ อีกกว่า 20 แบรนด์ มากที่สุดในบรรดางานแสดงยานยนต์ทั่วอาเซียน

อลังการด้านกิจกรรม ทั้งกิจกรรมนันทนาการของหน่วยงาน โครงการ และมูลนิธิต่างๆ รวมถึงกิจกรรมชิงรางวัลใหญ่ รถยนต์ 3 คัน และบิกไบค์ 1 คัน ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

อลังการด้านยอดจองรถในงาน ทุกปีจะมีผู้ชมตัดสินใจจองรถยนต์ และจักรยานยนต์ภายในงานปีละหลายหมื่นคัน สร้างความคึกคักให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย รวมถึงสร้างเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจจำนวนมหาศาล

อลังการด้านจำนวนผู้ชม แต่ละปีจะมีประชาชนให้ความสนใจเข้าชมงานจำนวนไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านคน นอกจากนี้ ยังมีผู้ชมงานผ่าน MOTOR EXPO ONLINE PLATFORM และ PLATFORM อื่นๆ ตลอดจนการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์อีกนับล้านคนทั่วประเทศ

“ทั้งหมดนี้ คือองค์ประกอบของงาน “มหกรรมยานยนต์” ที่ภาคภูมิใจ และมุ่งมั่นจะสร้างสรรค์งานปีนี้ ให้มีความอลังการยิ่งกว่าเดิมในทุกด้าน ดังนั้น เราจึงกำหนดแนวคิดเพื่อตอกย้ำเป้าหมาย พร้อมประกาศความยิ่งใหญ่ของงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” ว่า “อลังการงานแสดง – The Magnificent Motor Expo”

งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” จะจัดขึ้น ณ อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2568 ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ motorexpo.co.th และทุกสื่อในเครือ “IMC สื่อสากล”

“ยามาฮ่า” เปิดตัวทีมลุยศึก โมโตจีพี แท็กทีม “พรามัค” คัมแบ็กสู่ความยิ่งใหญ่

“ยามาฮ่า” เปิดตัวทีมลุยศึก โมโตจีพี 2025

“ยามาฮ่า” ค่ายจักรยานยนต์สัญชาติญี่ปุ่น เปิดตัวทีมแข่งลุยศึก โมโตจีพี 2025 อย่างเป็นทางการ ด้วยนักบิดทั้งสิ้น 4 คน นำโดย ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร และ อเล็กซ์ รินส์ ในสังกัด มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพีทีม รวมถึง มิเกล โอลิเวียร่า และ แจ็ค มิลเลอร์ ภายใต้สังกัด พรีม่า พรามัค ยามาฮ่า โมโตจีพี ซึ่งทั้ง 4 คนจะใช้รถแข่ง YZR-M1 เวอร์ชันปี 2025 ขณะเดียวกันยังขยายความร่วมมือเปิดตัวทีมแข่ง โมโตทู ภายใต้ชื่อ บลู ครู พรามัค ยามาฮ่า โมโตทู เพื่อพัฒนานักบิดดาวรุ่งสู่พรีเมียร์คลาสในอนาคต

การเปิดตัวดังกล่าวมีขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ที่ กัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย ท่ามกลางการติดตามของแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลก ถึงโปรเจ็กต์สำคัญของ “ยามาฮ่า” ในการคัมแบ็กสู่ทีมระดับท็อปของ โมโตจีพี ให้ได้อีกครั้ง โดยในปีนี้จะใช้รถแข่ง YZR-M1 สเปคโรงงานทั้ง 4 คัน ภายใต้การบริหารของ เปาโล พาเวสซิโอ ผู้อำนวยการ ยามาฮ่า มอเตอร์ เรซซิ่ง คนใหม่

โดยทีมโรงงาน มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี จะนำโดยผู้อำนวยการทีมอย่าง มัสสิโม เมเรกัลลี ขณะที่นักบิดจะยังคงใช้บริการแชมป์โลก 1 สมัยชาวฝรั่งเศสอย่าง ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร เจ้าของหมายเลข 20 และทีมเมทชาวสแปนิช อเล็กซ์ รินส์ หมายเลข 42

ส่วนทีมอิสระอย่าง พรีม่า พรามัค ยามาฮ่า โมโตจีพี จะใช้บริการนักบิดมากประสบการณ์ 2 คนอย่าง แจ็ค มิลเลอร์ นักบิดออสเตรเลียนเจ้าของหมายเลข 43 และทีมเมทชาวโปรตุกีส มิเกล โอลิเวียร่า หมายเลข 88 โดยทั้งคู่เซ็นสัญญาตรงกับ ยามาฮ่า และจะได้รับการสนับสนุนชิ้นส่วนรถแข่งอย่างเท่าเทียมกันกับ 2 นักบิดทีมโรงงาน

นอกจากนี้ ยามาฮ่า ยังขยายความร่วมมือกับ พรามัค เรซซิ่ง ด้วยการเปิดตัวทีมแข่ง บลู ครู พรามัค ยามาฮ่า โมโตทู เพื่อปูทางนักบิดดาวรุ่งป้อนสู่ โมโตจีพี ในอนาคต นำโดย โทนี อาร์โบลิโน นักบิดอิตาเลียนหมายเลข 14 และทีมเมทชาวสแปนิชอย่าง อิซาน เกวาร่า หมายเลข 28 ภายใต้การคุมทีมของ อเล็กซ์ ดิ อังเจลิส อดีตนักบิดเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ขณะเดียวกันยังยืนยันใช้เฟรมบอสกอสคูโร ซึ่งคว้าแชมป์โลกโมโตทู ในปีที่ผ่านมาด้วย

ทั้งนี้ นักบิดโมโตจีพีของ ยามาฮ่า ทั้ง 4 คน มีคิวลงเทสต์รถแข่ง YZR-M1 ต้นแบบตัวใหม่ร่วมกับทีมทดสอบใน เชคดาวน์ เทสต์ ในวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์นี้ ที่ เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ก่อนจะเข้าสู่โปรแกรม “ออฟฟิเชียล เทสต์” ระหว่างวันที่ 5-7 กุมภาพันธ์นี้ จากนั้นจะเดินทางมาทดสอบที่เมืองไทย ระหว่างวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์นี้ และดวลสนามแรกของฤดูกาลระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์-2 มีนาคม ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
—————————–
#YamahaSocietyThailand #RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #YamahaWorldChampion #YamahaNumber1RacingTeam
#YamahaMotoGP25
#YamahaFactoryRacingTeam
#MonsterEnergyYamahaMotoGP #FQ20 #AR42
#PrimaPramacYamaha
#JM43 #MO88

🚩ห้ามพลาด! ครั้งแรกของประสบการณ์มันส์…เปลี่ยนโลก

ครั้งแรกของการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ จัดเต็มความเร้าใจ

📌6 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ @ลานริเวอร์ ปาร์ค ไอคอนสยาม 12:00 น.เป็นต้นไป
ครั้งแรกของการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ จัดเต็มความเร้าใจให้คุณได้สัมผัสในวันเดียว!!!

เร้าใจเกินพิกัด บูสต์ความมันส์ถึง 3 ต่อ
– ครั้งแรก! ของการทดสอบขับขี่รถจักรยานยนต์ ออโตเมติกรุ่นใหม่ล่าสุด
จากยามาฮ่า @โกดังเสริมสุข https://maps.app.goo.gl/znqrFYMhM53xrHH68

– บูสต์อัปไอเดีย! โชว์รถแต่งรุ่นใหม่ครั้งแรกแบบจัดเต็ม MAX @ลานริเวอร์ ปาร์ค ไอคอนสยาม https://maps.app.goo.gl/f5Cf8pJVCyMKejpk8

– มันส์เต็ม MAX กับคอนเสิร์ต จากศิลปินสุดยูนีค วง “FREEHAND” ที่จะพาคุณมันส์…เปลี่ยนโลกไปด้วยกัน! @ลานริเวอร์ ปาร์ค ไอคอนสยาม https://maps.app.goo.gl/f5Cf8pJVCyMKejpk8

📌วันที่ 6 กุภาพันธ์นี้ วันเดียวเท่านั้น!!! บูสต์อัปความมันส์ 12.00 เป็นต้นไป
@ลานริเวอร์ ปาร์ค ไอคอนสยาม
!!!!แล้วเจอกัน!!!!

#มันส์เปลี่ยนโลก
#RideMovement
#ยามาฮ่าเร่งชีวิตให้เร้าใจ
#Yamaha #RevsYourHeart
#YamahaSocietyThailand

โมโตจีพีวิถีไทย ชู“มอเตอร์สปอร์ต เฟสติวัล”

 ไลน์อัพศิลปินดัง-กิจกรรมคุณภาพ 3 วัน กระหึ่มโลก

ฝ่ายจัดฯโมโตจีพี สนามประเทศไทย เผยเตรียมสร้างปรากฎการณ์ความสนุก-ความประทับใจเต็มรูปแบบ กับ “มอเตอร์สปอร์ต เฟสติวัล” วิถีไทย สุดอลังการ ล่าสุด “น้ำแร่ธรรมชาติ ตรา ช้าง” ประกาศรายชื่อศิลปินที่จะไปร่วมส่งมอบความสุขความมันส์ ด้วยคอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่ Chang Music Connection จัดเต็มความบันเทิงจากศิลปินดัง พร้อมโปรดักชั่น เวที แสงสีเสียงเต็มพิกัด โดยคณะกรรมการจัดงานยืนยันปีนี้ กิจกรรมครบเครื่องอัดแน่น ทั้งมวยดังแห่งยุคในศึกมวยไทย วิถีถิ่นไทย รวมทั้งชม ช้อป ชิม ของดีของดังบุรีรัมย์และทั่วประเทศ เลือกซื้อสินค้าสำหรับชาวสองล้อ แบรนด์ดังมากมาย

โมโตจีพี สนามประเทศไทย รายการ “PT Grand Prix of Thailand 2025” (พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์) สุดยอดอีเว้นต์มอเตอร์สปอร์ตระดับพรีเมียมที่เตรียมระเบิดศึกในประเทศไทย เป็นสนามที่ 1 เปิดฤดูกาล ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์-2 มีนาคม 2568 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

ฝ่ายจัดเผย นอกจากแฟนความเร็วจะสนุกกับการแข่งขันในสนามที่เข้มข้น กิจกรรมภายในงานยังครบเครื่องไปด้วย เทศกาลดนตรี-มวย-เอ็กซ์โป ล่าสุด “น้ำแร่ธรรมชาติ ตรา ช้าง” ยังได้ยกทัพศิลปินดัง ไปร่วมส่งมอบความสุขความประทับใจ ด้วยคอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่ Chang Music Connection กับเพลงดังหลากหลายแนว ได้แก่

ศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 พบกับ ศิลปินแร็ปเปอร์มากความสามารถ UrboyTJ (ยัวร์บอยทีเจ) และ “กอล์ฟ F.Hero” (เอฟ.ฮีโร่)

เสาร์ที่ 1 มีนาคม 2568 วงร็อคระดับตำนาน Musketeers และ นักร้องหนุ่มลูกอีสานมาดเท่ห์ “โจอี้ ภูวศิษฐ์”

อาทิตย์ที่ 2 มีนาคม 2568 ปิดท้ายความสนุกกับ “Paradox” (พาราดอกซ์)

ความบันเทิงเต็มรูปแบบนี้ จะเกิดขึ้นที่ “PT Grand Prix Expo” บริเวณลานกิจกรรม(Commercial Area) สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ รวมทั้งยังมีงานเอ็กซ์โปสำหรับคนรักมอเตอร์ไซค์ ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น. จัดเต็มกิจกรรมจากร้านค้าจากผู้สนับสนุนให้ร่วมสนุกมากมาย เลือกช็อปสินค้าราคาพิเศษ ของที่ระลึกโมโตจีพี สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับมอเตอร์ไซค์, สินค้ามอเตอร์สปอร์ต , กิจกรรมที่น่าสนใจจากภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะที่พาวิลเลียนของไตเติ้ล สปอนเซอร์ PTG สุดพิเศษไปกับกิจกรรม Hero Walk ที่เปิดโอกาสให้ได้ใกล้ชิดกับนักบิดคนโปรดในทุกคลาสทั้ง MotoGP Moto2และ Moto3, Meet & Greet นักบิดระดับโลกจากค่ายรถจักรยานยนต์ต่างๆ เร้าใจทุกจุด จัดเต็ม เพื่อแฟนโมโตจีพีโดยเฉพาะ

โดยพื้นที่กิจกรรม (Commercial Area) ของไทยจีพี จัดได้อย่างยิ่งใหญ่ อลังการ ครบรส ถูกใจแฟนความเร็วจากทั่วโลก ต่างยกให้เป็นหนึ่งในไฮไลท์และเสน่ห์ของการจัดแข่งขันสนามประเทศไทย

ฟรี! สำหรับผู้ถือบัตรเข้าชมการแข่งขันทุกประเภท หรือซื้อบัตรแอดมิชชั่น(ADMISSION) ราคา 100 บาทต่อวัน หรือเหมา 3 วัน 200 บาท

ทั้งนี้ บัตรเข้าชมการแข่งขันยังสามารถหาซื้อบัตรได้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ ส่วนบัตรแอดมิชชั่น(ADMISSION) ซื้อบัตรได้ที่บูธ Allticket หน้างาน วันที่ 28 ก.พ.-2 มี.ค. เท่านั้น! ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แฟนเพจ Chang Circuit Buriram

#ThaiGP🇹🇭
#PTGrandPrixofThailand2025
#SportsAuthorityofThailand

“บุรีรัมย์ มาราธอน” ฉลองปีที่ 9 กับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ งานวิ่ง vibe ดี

“บุรีรัมย์ มาราธอน” คว้าหัวใจนักวิ่งจนกลายเป็นไวรัลไม่หยุด

ภาพความอลังการของการปล่อยตัว “บุรีรัมย์มาราธอน2025” เรียกเสียงฮือฮาและความตื่นตาตื่นใจอย่างมาก นักวิ่งนับหมื่นคน หลั่งไหลออกจากจุดสตาร์ต ด้วยแถวยาวสุดลูกหูลูกตาในแต่ละรุ่นการแข่งขัน ความสุข ความประทับใจ ความยิ่งใหญ่ของกองเชียร์ อาสาสมัครและผู้ร่วมงาน กิจกรรมนี้มีผู้เข้าร่วมนับแสนคน รวมทั้งความสนุกสนานของถนนดนตรีและกองเชียร์ ยาว 42.195 กม. ได้ถูกเผยแพร่ไปในจนเกิดปรากฏการณ์ไวรัล หลังจบการแข่งขันอย่างต่อเนื่องในทุกปี แต่ในปีนี้พีคที่สุดกับเป้าหมายใหม่ที่นักวิ่งที่ลงแข่งขัน ต่างเทใจให้คะแนนเต็มสิบ ยอมรับว่าเป็น “มากกว่าสวรรค์ของนักวิ่ง” ครองหัวใจนักวิ่งอย่างแท้จริง ก้าวขึ้นมาเป็นรายการแข่งขันอันดับหนึ่งที่นักวิ่งต้องการเข้าร่วมมากที่สุด

“บุรีรัมย์ มาราธอน 2025 พรีเซนเต็ด บาย น้ำแร่ธรรมชาติ ตราช้าง” สุดยอดไนท์รัน อันดับหนึ่งขวัญใจคนไทย ฉลองปีที่ 9 อย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2568 แข่งขันทั้งหมด 4 ระยะ ได้แก่ ระยะมาราธอน (42.195 กม.), ระยะฮาล์ฟมาราธอน (21.1 กม.),ระยะมินิมาราธอน (10.0 กม.), ระยะฟันรัน (4.554 กม.) โดยได้ประกาศวันวิ่งของศักราชหน้า “บุรีรัมย์ มาราธอน 2026” วันที่ 24 มกราคม 2569

นายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการแข่งขัน หรือ Race Director บุรีรัมย์ มาราธอน 2025 เปิดเผยว่า ปีนี้มีการเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ ไม่นำเงินมหาศาลไปทุ่มให้กับการเชิญนักวิ่งอีลีทต่างชาติ แต่นำเงินเหล่านั้นกลับมาทำให้เป็นการวิ่งที่เป็น “สวรรค์ของนักวิ่ง” อย่างแท้จริง มีรางวัลพิเศษให้กับนักวิ่งมากมาย

“ บุรีรัมย์ มาราธอน 2025 มีนักวิ่งกว่า 32,000 คน อาสาสมัคร 7,000 คน ผู้ติดตามและกองเชียร์มากกว่า 65,000 คน รวมผู้ร่วมกิจกรรมทั้งสิ้นนับแสนคน สร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว 850 ล้านบาทในพื้นที่โดยรอบและตลอดเส้นทางที่นักวิ่งหลั่งไหลมาร่วมกิจกรรม”

หัวใจของความสำเร็จในการจัดการแข่งขัน “บุรีรัมย์ มาราธอน”

ข้อ 1 “เส้นทางวิ่งสวยงามไม่เหมือนใคร” โอกาสเดียวที่จะได้สัมผัสพื้นแทร็คสนามแข่งรถระดับโลก เป็นจุดปล่อยตัววิ่งบนทางเรียบ มาตรฐานโลกที่ใช้แข่งขันโมโตจีพี และเข้าเส้นชัยที่ สนามฟุตบอล ช้าง อารีนา ที่ทั้ง 2 สนาม ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของบุรีรัมย์ เมืองแห่งกีฬาของไทย มีเส้นทางวิ่งที่สวยงามเต็มไปด้วย ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม รวมทั้ง ธรรมชาติ บริเวณห้วยจระเข้มากที่อยู่อาศัยและจุดชมนกกระเรียนพื้นถิ่นที่ใกล้สูญพันธุ์

ข้อ 2 รายการนี้ยังมอบโอกาส “ต่อยอดไปสู่งานวิ่งระดับเมเจอร์มาราธอน” ให้กับนักวิ่งไทย ชาย 10 คน หญิง 10 คน ที่ทำเวลาดีที่สุดในระยะฟูลมาราธอน ได้ไปวิ่งในงานโตเกียวมาราธอน ทางฝ่ายจัด สนับสนุน ค่าสมัคร ค่าที่พักและค่าเดินทาง

ข้อ3 “รางวัลพิเศษมากมาย” เพื่อสร้างความสุข และเป็นสวรรค์ของนักวิ่งอย่างแท้จริง ได้แก่ รางวัล “Lucky Draw” แจกเงินรางวัลทุกระยะๆ ละ 50 คน รวมมูลค่ากว่า 1.3 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีรางวัลจากผู้สนับสนุนอีกกว่า 100 รางวัล อาทิ บัตร VIP โค้ง 12 งานโมโตจีพี 2025, บัตรน้ำมัน PT, บัตรพันธุ์ไทย, มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า New Scoopy i club, รถมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่า Fazzio ฯลฯ

ข้อ 4 “วิ่งเพื่อหมูกระทะ” รางวัลที่ถูกใจนักวิ่งมากที่สุดที่แรกและที่เดียวของโลก คือ New PB สำหรับผู้พิชิตสถิติใหม่ของตัวเอง Beat your Buriram Marathon Personal Best รับฟรีหมูกระทะ

ข้อ 5 นักวิ่งจะได้รับ “ภาพฟรี” โดยไม่ต้องไปซื้อภาพ วิ่งเสร็จปุ๊บ ดาวน์โหลดภาพได้ทันที

ข้อ 6 “อาหารหลังเส้นชัย” เป็นของอร่อยประจำเมืองบุรีรัมย์ หนึ่งในนั้น มีลูกชิ้นยืนกิน, ตูดเป็ดย่าง, ข้าวผัดปลาจ่อม, เต้าส่วน ฯลฯ บูธอาหารมีมากกว่า 280 บูธ

ข้อ 7 “กำลังใจจากกองเชียร์เจ้าบ้าน” ที่แสนอบอุ่นน่ารัก ทุกเพศทุกวัย ออกมาต้อนรับอย่างจริงใจ พร้อมส่งเสียงเชียร์ อยู่รอบข้าง ทุกเส้นทาง ทำให้ฮึกเหิม และมีแรงใจให้ไปสู่เส้นชัย ไม่มีท้อถอย

ข้อ 8 “ความสุขของกองเชียร์ ฅนบุรีรัมย์” เกิดปรากฏการณ์ที่ชาวบุรีรัมย์รวมตัวเหมือนเทศกาลสงกรานต์ คนที่อยู่ต่างถิ่นก็กลับบ้าน ส่วนคนในพื้นที่ ต่างวางแผนออกมาเชียร์และมาร่วมกิจกรรม เกิดเป็นความภาคภูมิใจ เรียกว่างานนี้สร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับเจ้าบ้านเช่นกัน

ข้อ 9 “ม่วนจอย” กองเชียร์ตลอดเส้นทาง ร้องรำทำเพลง จุดเชียร์ของงาน รวมถึงเสียงเพลงที่แต่ละบ้านยกเครื่องเสียงมาประชัน ทำให้บุรีรัมย์ มาราธอน กลายเป็นเทศกาลดนตรีและกองเชียร์ ยาว 42.195 กม.

ข้อ 10 “ความสุขของคนไม่ชอบตื่นเช้า” จัดวิ่งในเวลากลางคืน และเป็นไนท์รัน ที่มีแสงสีสว่างไสว ราวกับวิ่งตอนกลางวัน

ข้อ 11 ความยิ่งใหญ่ของการปิดเมือง แต่เปิดประตูต้อนรับนักวิ่ง ด้วยการ “ปิดถนน 100 เปอร์เซ็นต์อย่างแท้จริง เพื่อเป็นเส้นทางวิ่งที่ปลอดภัยสูงสุด” เป็นเรื่องปราบเซียนของผู้จัดแข่งขันวิ่งในหลายๆรายการ ที่จะทำให้เกิดความรู้สึกร่วมและการยอมรับของชุมชนโดยรอบการจัดงาน

ข้อ 12 การจัดงาน “พัฒนาต่อเนื่อง ความใส่ใจทุกรายละเอียด” ของฝ่ายจัด และความใส่ใจต่อนักวิ่งอย่างสูงสุด

ข้อ 13 ด้วยการแข่งขันจัดในระดับมาตรฐานสูงสุดของ World Athletics Road Race Label ทำให้นักวิ่งสามารถนำสถิติไปควอลิฟายในงานวิ่งต่างๆ ทั่วโลกได้

ข้อ 14 สิ่งสำคัญที่ทำให้บุรีรัมย์มาราธอน ไม่เหมือนใครก็คือ นักวิ่งทุกคนอยากมาวิ่งรายการนี้ ในจำนวนนักวิ่งจำนวนมหาศาลหลายหมื่นคน มีนักวิ่งจำนวนมากที่วิ่งครบ 9 ครั้ง

ข้อ 15 ก่อให้เกิดความสุข ประทับใจ ให้หลายคนไปเต้นด้วยวิ่งด้วย เรียกร้องให้เพิ่มเวลาคัตออฟ เพื่อจะได้เต้นมากขึ้น หรือแม้แต่เสียงเรียกร้องจากนักวิ่ง ให้จัดงานทุกไตรมาส 3 เดือน หรือทุก 6 เดือน

ทั้งนี้ ความสำเร็จของ นักกีฬาไทย มาราธอนชาย ยกให้ “สัญชัย นามเขต” ที่คว้าแชมป์คนไทย 6 สมัย ซึ่งมีอาการตะคริว กัดฟันสู้ จนเป็นแชมป์รายการได้สำเร็จ เจ้าตัวเผยว่า ขณะวิ่งผ่านอนุสาวรีย์ รัชกาลที่ 1 ถึงกับต้องอธิษฐานขอพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ขอให้วิ่งจนถึงเส้นชัย เป็นครั้งแรก ที่ยอมรับว่า เกือบท้อจนไปไม่ถึงเส้นชัย

ส่วนมาราธอนหญิง “ปลา” ลินดา อินทะชิต ได้แชมป์คนไทยอีกสมัยเป็นสมัยที่ 6 และ เป็นแชมป์ 4 สมัยติดต่อกัน

นี่คือเสน่ห์ของ บุรีรัมย์ มาราธอน ที่ปอดเหล็กยกให้เป็นงานวิ่งที่สุดประทับใจ และอยากร่วมวิ่งมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของปี สร้างไวรัลไปสู่นักวิ่งทั่วโลก กับเป้าหมายของฝ่ายจัด ที่เกิดผลสัมฤทธิ์ได้รับการยอมรับ สร้างมาตรฐานใหม่ เป็น“มากกว่าสวรรค์ของนักวิ่ง” อย่างแท้จริง

IRC เป็นผู้สนับสนุนหลักในรายการ “Honda Eco Mileage Challenge ปีที่ 27”

IRC มอบยางสนับสนุนให้แก่ทีมแข่งกว่า 320 ทีม
บริษัท อีโนเวรับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตยางรถจักรยานยนต์คุณภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่น ไออาร์ซี(IRC) เป็นผู้ผลิตยางรถจักรยานยนต์ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 55 ปีในประเทศไทย ซึ่ง IRC ไม่ได้เพียงแค่ผลิตยางคุณภาพสูงสำหรับรถจักรยานยนต์เท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมที่ส่งเสริมการประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืน มาโดยตลอดอีกทั้งยังได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในรายการ “Honda Eco Mileage Challenge ปีที่ 27” ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขัน พร้อมทั้งมอบยางรถจักรยานยนต์ IRC และหมวกกันน๊อคให้แก่ทีมแข่งกว่า 320 ทีมทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การแข่งขันรายการ “Honda Eco Mileage Challenge” เป็นการแข่งขันที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้นักศึกษาและประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสออกแบบและพัฒนายานยนต์ที่สามารถประหยัดพลังงานได้มากที่สุด ยาง IRC ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตยางที่มีคุณภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่น ทั้งในด้านการประหยัดน้ำมันและความปลอดภัย ได้เข้าร่วมการสนับสนุนในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัท ในการส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ที่ช่วยลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่ไม่เพียงแต่พัฒนาทักษะและความรู้ของนักศึกษาและเยาวชน แต่ยังสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและการดูแลสิ่งแวดล้อม
ในปีนี้การแข่งขัน Honda Eco Mileage Challenge ยางรถจักรยานยนต์ IRC นำโดยคุณคณิน เหล่าจินดา กรรมการผู้จัดการ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนทีมแข่งขันรถประดิษฐ์ทุกทีม โดยทาง IRC ได้นำนวัตกรรมยางรุ่น Eco Run จากประเทศญี่ปุ่น มาจำหน่ายให้กับผู้เข้าแข่งขันในราคาพิเศษ เพื่อช่วยให้ทุกทีมสามารถบรรลุเป้าหมายในการแข่งขัน ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งเสริมการประหยัดน้ำมัน แต่ยังคำนึงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการขับขี่ในระยะทางไกล
ส่วนในการแข่งขันในรุ่นรถตลาด ทาง IRC ยังได้สนับสนุนยางเพื่อใช้ในการแข่งขันทุกทีมในรุ่นนี้ เป็นยางขนาด 70/90-17NF63BZ และ 80/90-17NR78YD Low Rolling Resistant พร้อมยางในและริมเทป เป็นชุดยางที่ถูกออกแบบเพื่อช่วยลดแรงเสียดทาน (Rolling Resistance) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยให้ยานยนต์สามารถประหยัดพลังงานได้มากขึ้น ในขณะที่เนื้อยางยังคงไว้ซึ่งการเกาะถนนที่ดีเยี่ยม ถือเป็นการส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การประหยัดพลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันเพื่อให้มีความยั่งยืนและเป็นมิตรกับธรรมชาติในอนาคต
นอกจากนี้ เนื่องในโอกาสที่ยาง IRC เข้าสู่ปีที่ 55 ในประเทศไทย ทาง IRC ยังได้มีการมอบหมวกกันน๊อคให้กับทีมที่เข้าแข่งขันทุกทีมทุกรุ่นการแข่งขัน เพื่อสนับสนุนการขับขี่ปลอดภัย ซึ่งเป็นสิ่งที่ IRC ให้ความสำคัญมาโดยตลอด และยังได้มีการเปิดบูธแสดงสินค้า และจัดกิจกรรมส่งเสริมการประหยัดพลังงาน รวมถึงนำ ผลิตภัณฑ์ยางรถจักรยานยนต์ IRC ที่มีหลากหลายรุ่น สามารถตอบสนองได้ทุกกิจกรรมของลูกค้ามาจัดแสดงภายในบริเวณงานอีกด้วย สำหรับผู้สนใจรายละเอีนดยางรถจักรยานยนต์ IRC เพิ่มเติม ติดตามได้ที่ www.ircthailand.com หรือแฟนเพจ IRC TIRE Thailand มาดูกันว่าทาง IRC จะมีกิจกรรมใหม่ๆที่น่าสนใจที่ไหนบ้างเร็วๆนี้