ปลดล็อก! ประสบการณ์การขับขี่ในเมืองไปอีกขั้น กับ New Honda CB750 Hornet

ปลดล็อก! ประสบการณ์การขับขี่ในเมืองไปอีกขั้น กับ New Honda CB750 Hornet บิ๊กไบค์ดีไซน์เท่ เร้าใจ สมรรถนะดุดัน แรงเต็มอารมณ์สปอร์ต ในงาน Motor Show 2023
ไทยฮอนด้า จัดชุดใหญ่ต่อเนื่อง เปิดตัว New Honda CB750 Hornet บิ๊กไบค์สไตล์สปอร์ตเน็กเก็ตที่มาพร้อมดีไซน์อันโฉบเฉี่ยว สมรรถนะเต็มขั้นกับเครื่องยนต์ใหม่ พร้อมเทคโนโลยีที่ครบครัน เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ พร้อมให้เป็นเจ้าของแล้วที่งาน Motor Show 2023 บูธรถจักรยานยนต์ฮอนด้า M4
New Honda CB750 Hornet เท่ เร้าใจ สปอร์ตเน็กเก็ตตัวจริงที่เพิ่มดีกรีความดุดันด้วยเครื่องยนต์ใหม่ Parallel Twin 755 ซีซี 8 วาล์ว แรงเต็มอารมณ์สปอร์ต สมรรถนะดีเยี่ยม มาพร้อมแอสซิส สลิปเปอร์คลัตช์ ช่วยลดแรงกระชาก และป้องกันล้อล็อกขณะเปลี่ยนเกียร์ให้การขับขี่นุ่มนวลยิ่งขึ้น มีน้ำหนักเบาด้วยเฟรมรุ่นใหม่ที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ เพียง 16 กก. ทำให้ตัวรถมีน้ำหนักรวม 190 กก. ให้การขับขี่โฉบเฉี่ยวและคล่องตัวอย่างเต็มขั้น
เหนือระดับยิ่งกว่า ด้วยสุดยอดการควบคุมและการเชื่อมต่อ กับระบบ Throttle by Wire (TBW) เทคโนโลยีคันเร่งไฟฟ้า ขับขี่และเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ ควบคุมง่ายด้วยโหมดการขับขี่ปรับได้ 4 ระดับ Sport Standard Rain และ User มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยี Honda Selectable Torque Control (HSTC) ป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ นอกจากนี้ จอแสดงผลสี TFT ขนาด 5 นิ้ว อินเทอร์เฟซสวยงามและใช้งานง่าย พร้อมเชื่อมต่อระบบสั่งการด้วยเสียง Honda Smartphone Voice Control System (HSVCs) ผ่านแอปพลิเคชัน HondaSync สะดวกสบาย ไร้กังวลทุกการขับขี่ ที่มาพร้อมความเท่ ผ่านการตกแต่งไฟหน้าระดับพรีเมียมสไตล์ Sports Naked ระบบไฟ LED แบบปิดเองอัตโนมัติ เทคโนโลยีจากฮอนด้า และสัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน ให้ทุกการขับขี่มั่นใจยิ่งขึ้น
CB750 Hornet ได้รับการออกแบบโดยใช้ Steel Diamond Frame ถังน้ำมันได้รับแรงบันดาลใจจากโครงร่างของปีก Hornet เบาะนั่งแบ่ง 2 ตอน แยกส่วนขับกับคนซ้อนออกจากกันอย่างอิสระ โดยเบาะผู้ขับขี่มีความสูง 795 มม. ด้วยตำแหน่งการขี่ที่ตั้งตรงอย่างเป็นธรรมชาติ และน้ำหนักรถ 190 กก. ทำให้บังคับเลี้ยวได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการควบคุมที่แม่นยำ กับโช้กอัพหน้า Upside Down จาก Showa ขนาด 41 มม. ระยะยุบ 133 มม. ที่มาพร้อมโช้กอัพหลังแบบเดี่ยว ช่วงยุบ 150 มม. ช่วยลดแรงกระแทกและแรงสั่นสะเทือน ให้การทรงตัวดีเยี่ยม มั่นใจได้ไม่ว่าเส้นทางใด
CB750 Hornet มี 2 สีให้เลือก ได้แก่ สีขาว และ สีดำ เปิดตัววางจำหน่ายด้วยราคาแนะนำที่ 319,000 บาท
พบกับ CB750 Hornet ได้ในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ ที่บูธ M4 ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 2 เมษายน 66 ที่อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี
พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั่วประเทศ ที่ BigWing ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : fb.com/hondamotorcyclethailand
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์ : fb.com/HondaBigBikeTH

“กวาร์ตาราโร” กู้สถานการณ์คว้าท็อป 8 โมโตจีพี สนามแรก

“เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลกโมโตจีพี 1 สมัยจาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ โมโตจีพี ฝ่างานหินในเรซแรกของปี กอบกู้สถานการณ์กลับมาคว้าท็อป 8 ได้สำเร็จในศึก โมโตจีพี รายการ โปรตุกีส กรังด์ปรีซ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะ มัสซิโม เมเรกัลลี ผู้อำนวยการทีมชี้มุ่งหน้าสู่ อาร์เจนติน่า ด้วยแนวทางการทำงานใหม่เพื่อผลงานที่ดีขึ้น มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ โมโตจีพี ต้องเจอภารกิจการคัมแบ็กสู่แชมป์โลกที่ท้าทายอย่างมาก หลังเดินทางออกจากสนามแรกของปีที่ อัลการ์ฟ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เมืองปอร์ติเมา ประเทศโปรตุเกส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ด้วยการคว้าแต้มมาครองได้จากนักบิดทั้งคู่
ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร นักบิดเฟรนช์ หมายเลข 20 ออกตัวจากกริดที่ 11 ก่อนจะรูดลงไปถึงอันดับ 15 ทว่าแชมป์โลกหนึ่งสมัยสามารถไล่แซงคู่แข่งขึ้นมาจบเรซในอันดับ 8 นับเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ยอดเยี่ยม ส่วนทีมเมทอย่าง ฟรานโก้ มอร์บิเดลลี นักบิดอิตาเลียนหมายเลข 21 จบการแข่งขันในอันดับ 14 มัสซิโม เมเรกัลลี ผู้อำนวยการทีมกล่าวว่า “เรามีเรซแรกที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวัง ฟาบิโอ ต้องเจอการเริ่มต้นเรซที่ยากลำบากอีกครั้ง นี่คือสิ่งที่เราต้องแก้ไข การรูดลงไปไกลในช่วงเริ่มเกมเป็นอุปสรรคอย่างมากต่อเรซในวันนี้ เพราะความเร็วของเขาค่อนข้างดีในรอบสปรินต์ การไล่จากอันดับ 15 ขึ้นมาจบเรซในอันดับ 8 แสดงถึงศักยภาพของเรา”
“ส่วน มอร์บิเดลลี ยังไม่สามารถค้นพบการยกระดับที่เรามองหา เราจำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูล เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะสามารถใช้ประโยชน์จากแพ็คเกจรถแข่งของเราให้ได้มากขึ้น ตอนนี้เรากำลังมุ่งหน้าสู่ อาร์เจนติน่า และจะคลี่คลายปัญหาต่างๆ เพื่อค้นหาประสิทธิภาพที่ขาดหายไป” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร กล่าวว่า “แน่นอนครับ มันเป็นเรชที่ยากสำหรับเรา โดยเฉพาะกับผลควอลิฟายที่ออกมาไม่ดีนัก และเมื่อวาน (สปรินต์) ผมมีปัญหากับระบบควบคุมการออกตัว แต่ในวันอาทิตย์ (เรซเดย์) ผมเลือกไลน์ไม่ถูกต้องในช่วงออกสตาร์ททำให้ร่วงลงมาไกลมาก”
“แต่ความเร็วของเราก็ไม่ได้เลวร้ายนัก หากคุณดูรอบสุดท้ายของผมในเรซนี้ มันใกล้เคียงกับฟาสเทสต์แล็ปที่้ทำได้ในปีที่ผ่านมา ผมคิดว่าความเร็วที่เราทำได้ตลอดทั้งสุดสัปดาห์นี้มันยอดเยี่ยมมาก หวังว่าเราจะกลับมาแข็งแกร่งมากขึ้นในสนามหน้าที่ อาร์เจนติน่า” ด้าน ฟรานโก้ มอร์บิเดลลี เปิดเผยว่า “มันเป็นการแข่งขันที่ยากมาก ในการทดสอบผมช้ากว่ากลุ่มหน้า 0.6 วินาที แต่ในเรซผมเร็วขึ้นมารอบละ 0.1 วินาที เราต้องเน้นไปในแนวทางที่เป็นบวก เรายกระดับขึ้นเล็กน้อยที่ ปอร์ติเมา และผมก็คงเส้นคงวามากขึ้น สามารถนำรถแข่งเข้าเส้นชัยได้ เก็บมา 2 คะแนน หวังว่าผลงานจะดีขึ้นที่ อาร์เจนติน่า”
ศึก โมโตจีพี 2023 สนามถัดไปจะโยกไปดวลความเร็วกันที่ เทอร์มาส เดอ ริโอ ฮอนโด้ เซอร์กิต ในประเทศอาร์เจนติน่า ภายใต้รายการ กรังด์ปรีซ์ ออฟ อาร์เจนติน่า ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม-2 เมษายน ติดตามข่าวสารของนักบิดยามาฮ่าได้ที่ https://web.facebook.com/YamahaThailandRacingTeam

โฟลท – รัฐพงษ์ หวดคันเร่ง R6 ขับเคี่ยวคู่แข่งสุดมันส์ จบเรซ 2 รุ่น SS600 อันดับที่ 7 ศึกชิงแชมป์เอเชียสนามโฮมเรซ

“โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ #56 นักบิดดีกรีแชมป์เอเชียรุ่น Super Sports 600 ซีซี สังกัด “ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม” ควบ YAMAHA YZF-R6 เปิดเกมรุกสุดมันส์ไล่ขับเคี่ยวกับคู่แข่งแบบหมดปลอกตลอดเกมทั้ง 12 รอบสนาม ก่อนทะยานเข้าเส้นชัยคว้าอันดับที่ 7 ในสนามโฮมเรซได้จากการแข่งขันรุ่น Super Sports 600 ซีซี เรซที่ 2 ของศึกชิงแชมป์เอเชียรายการ FIM Asia Road Racing Championship 2023 สนาม 1 ซึ่งจัดการแข่งขันขึ้น ณ สนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

สำหรับการแข่งขัน FIM Asia Road Racing Championship 2023 สนาม 2 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 พฤษภาคม 2566 ที่สนามเซปัง ประเทศมาเลเซีย โดยแฟนมอเตอร์สปอร์ตสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารทีม “ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม” เพิ่มเติมได้ที่ FB: Yamaha Thailand Racing Team

“ก้อง-สมเกียรติ” ประเดิมสวย คว้าท็อป 9 โมโตทู สนามแรก

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ประเดิมฤดูกาลใหม่ศึกจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก 2023 รุ่น โมโตทู ได้อย่างร้อนแรง ทะยานจากกริดที่ 13 ขึ้นมาคว้าอันดับท็อป 9 ในสนามแรกได้อย่างสุดมันส์ เก็บ 7 แต้มแรกมาครองได้สำเร็จ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ อัลการ์ฟ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เมืองปอร์ติเมา ประเทศโปรตุเกสโดยสนามต่อไปของ ศึก โมโตจีพี 2023 จะโยกไปดวลความเร็วกันที่ เทอร์มาส เดอ ริโอ ฮอนโด้ ประเทศอาร์เจนติน่า ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม-2 เมษายนนี้ ซึ่งในปีที่ผ่านมา “ก้อง” สมเกียรติ ได้ฝากผลงานด้วยการคว้าโพเดียมในอันดับที่ 2 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่

ร่วมลุ้นและให้กำลังใจ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา และทัพนักบิดฮอนด้า พร้อมติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

คาวาซากิ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2023

คาวาซากิเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ที่ทุกคนรอคอย Ninja ZX4R เป็นครั้งแรกของภูมิภาคอาเซียน ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2023 คาวาซากิเผยโฉมโมเดลใหม่ล่าสุด Ninja ZX-4R รถจักรยานยนต์ซูเปอร์สปอร์ตทรงพลัง เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง โดดเด่นในคลาส 400cc เป็นครั้งแรกของภูมิภาคอาเซียน พร้อมจัดแสดงสุดยอดยนตรกรรมอีกมากมาย ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ – 2 เมษายน 2566

บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด นำทัพรถจักรยานยนต์หลากหลายรุ่น เข้าร่วมประชันโฉมภายในงานมอเตอร์โชว์ 2023 ซึ่งมีดาวเด่นเป็นสุดยอดรถจักรยานยนต์ซุปเปอร์สปอร์ต โมเดลใหม่ล่าสุด Ninja ZX-4R  จอดท้าทายสายตาผู้เข้าร่วมงาน และอีกหนึ่งไฮไลท์กับรถจักรยานยนต์สปอร์ตครุยเชอร์ใหม่ Eliminator ขนาด 400cc. รวมถึง Versys 650  ปรับโฉมใหม่เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้นเมื่อยามขับขี่ นอกจากนี้คาวาซากิยังยกทัพยนตรกรรมอีกหลากหลายรุ่น ที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน และสะท้อนภาพลักษณ์แห่งจิตวิญญาณของนวัตกรรม ตลอดจนการพัฒนาอย่างไร้ที่สิ้นสุด ในฐานะแบรนด์รถจักรยานยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย คาวาซากิได้ผลักดันให้เกิดการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์ ไปยังผู้คนที่มีเป้าหมายในการค้นหารถจักรยานยนต์ในฝันตามแนวทางของตนเอง ผ่านกิจกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ต่างๆ อาทิ Kawasaki Riding Clinic ที่เปิดโอกาสให้ทดสอบขับขี่รถจักรยานยนต์ในฝันของคุณก่อนตัดสินใจซื้อ อีกทั้งยังได้รับคำแนะนำในการขับขี่จักรยานยนต์เบื้องต้นเพื่อความปลอดภัย หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการขับขี่แบบมีคลัทช์ก็จะมีเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลเป็นอย่างดีเช่นกัน ต่อด้วยกิจกรรม Kawasaki Circuit Ride กิจกรรมที่สร้างความประทับใจกับลูกค้าเป็นจำนวนมากมีทั้งการเรียนการสอนทักษะการขับขี่ในสนามแข่งขัน และการทดสอบรถจักรยานยนต์บนสนามแข่ง เป็นต้น

ระบบกันสะเทือน High-Grade Suspension SFF-BP (Separate Function Fork – Big Piston) Horizontal Back-link Rear Suspension ระบบรองรับน้ำหนักด้านหน้าถูกติดตั้งมาเป็นระบบ SFF-BP ของ SHOWA ทำให้ Ninja ZX-4R สามารถขับขี่ได้ทั้งในสนามแข่งและรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ในส่วนของโช้คอัพหลัง เป็นแบบ Horizontal Back-Link ที่ออกแบบมาจาก Ninja ZX-10R (ในรุ่น SE สามารถปรับ Preload ที่โช้คอัพหน้าได้) เรือนไมล์ TFT Colour Instrumentation with Circuit Mode หน้าจอ TFT ขนาด 4.3 นิ้ว ที่สามารถเลือกโหมดได้ (Normal, Circuit) ตัวหน้าจอจะแสดงผล ความเร็ว รอบเครื่อง ไฟบอกตำแหน่งเกียร์ ไฟเตือนเปลี่ยนเกียร์ เกจวัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง เกจบอกระยะทาง อุณภูมิน้ำหล่อเย็น นาฬิกา แบตเตอรี เวลาต่อรอบ เตือนการเข้ารับบริการ โหลดการขับขี่ ควิกชิพเตอร์ และอื่นๆ สร้างประสบการณ์ใหม่ในการควบคุมฟังชั่นค์ต่างๆ ผ่านระบบ Smartphone Connectivity โดยหน้าจอ TFT มี Built in Bluetooth เพื่อเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ของผู้ใช้รถโดยเชื่อมต่อผ่านแอพพลิเคชั่น “RIDEOLOGY” ซึ่งมีฟังก์ชั่นแสดงข้อมูลรถ และตั้งค่าการขับขี่ต่างๆ ผ่านโทรศัพท์ได้เลย ทำให้ Ninja ZX-4R สามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น รองรับสมรรถนะสไตล์สปอร์ตที่มีพิษสงรอบตัวยิ่งกว่ารุ่นใดๆ ในคลาส 400cc ทุกรุ่น ราคา   Ninja ZX-4R           320,000 บาท   Ninja ZX-4R SE       360,000 บาท

Eliminator

Eliminator คือรถฟรีสไตล์ครุยเซอร์ใหม่ขนาด 400 ซีซี คือเหตุผลที่คุณจะขับขี่มอเตอร์ไซค์ เพิ่มความตื่นเต้นใหม่ๆ ให้กับการเดินทางของคุณ กระโดดขึ้น แล้วสัมผัสถึงการปลดปล่อยความเครียดจากชีวิตประจำวันของคุณให้มลายหายไป โอบรับอิสรภาพที่อยู่บนท้องถนน ให้ Eliminator ทำให้จิตวิญญาณของคุณสดชื่นขึ้น ขับเคลื่อนด้วยกำลังเครื่องยนต์พื้นฐานเดียวกันกับ Ninja 400 และเฟรมโครงตาข่ายที่มีน้ำหนักเบา ตำแหน่งการขับขี่เป็นธรรมชาติซึ่งรองรับผู้ขับขี่ได้หลากหลาย ช่วยให้มั่นใจตั้งแต่วินาทีที่คุณนั่ง มีน้ำหนักที่เบา จุดศูนย์ถ่วงรวมที่ดี จะช่วยให้สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างคล่องแคล่วด้วยความเร็วต่ำได้ มาพร้อมกับหน้าจอ LCD หน้าจอดิติตอล ที่ออกแบบใหม่ที่ให้ความโมเดิร์นและคอมแพ็ค ซึ่งจอ LCD นี้เป็นองค์ประกอบทื่ทำให้ Eliminator คันนี้สมบูรณ์ ด้วยลักษณะและคาเรคเตอร์ที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้ Eliminator เป็นคู่หูในการขับขี่ในทุกๆ วัน

ราคา   Eliminator             224,900 บาท

Versys 650

Versys 650 โฉมใหม่เป็นหนึ่งในรุ่นที่ผู้ขับขี่เข้าใจมันได้เป็นอย่างดี คู่หูการเดินทางท่องเทียวและผจญภัยขนาดกลางกับสไตล์ใหม่และเพิ่มความสะดวกสบายที่มากขึ้น มีระบบ KTRC เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ไม่ว่าจะออกสำรวจนอกเมืองหรือฝ่าฟันการจราจรในเมืองก็ตาม รวมถึง Windshield ปรับระดับได้ถึง 4 ระดับ โครงสร้างตัวถังที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ช่วยเพิ่มการป้องกันลมได้อย่างดีเยี่ยม เรือนไมล์ TFT แบบ full-colour ขนาด 4.3 นิ้วใหม่ ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่น “RIDEOLOGY” ช่วยสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

Versys 650 ได้ถูกดีไซน์ใหม่โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก Versys 1000 ปรับรูปลักษณ์ให้เข้ากับตระกูลที่แข็งแกร่งอย่าง Versys โดดเด่นด้วยไฟ LED ใหม่ที่ทันสมัย Cowling ทั้งหมดถูกออกแบบใหม่ให้ความปราดเปรียวและน่าดึงดูด อีกทั้งยังช่วยให้ระบายอากาศรอบตัวผู้ขับขี่ได้โดยตรงเพื่อเพิ่มความสบายให้กับผู้ขับขี่ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยว หรือการขับขี่เพื่อความสนุกสนาน

ราคา   Versys 650             329,500 บาท

พร้อมกันนี้ คาวาซากิยังยกทัพรถอีกหลากหลายรุ่นมาให้ชมไม่ว่าจะเป็น KLX230, KLX230S, KLX230SM, KLX230SE, KLX140F, KLX110, KX252, Ninja ZX-10RR, Ninja ZX-6R, Ninja 650, Ninja 400, Z1000, Z900, Z650, Versys 1000, KLR 650, Vulcan S, Z650RS, Z900RS มาร่วมจัดแสดง โดยผู้จองรถจักรยานยนต์คาวาซากิภายในงานจะได้รับข้อเสนอและสิทธิประโยชน์มากมาย สนใจเข้าชมรถจักรยานยนต์คาวาซากิได้ที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 (44rd Bangkok International Motor Show 2023) ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม-2 เมษายน 2566 ณ บูธรถจักรยานยนต์ Kawasaki บูธหมายเลข C02  อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี

 

“ไทยยามาฮ่า” จัดทัพใหญ่เขย่าเวที “มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 44”

ครบครันด้วยยนตกรรมอันทันสมัยภายใต้แนวคิด YAMAHA Community of PRIDE จัดเต็มโปรโมชัน พร้อมอวดโฉมรถต้นแบบ ตอกย้ำแนวทางสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด จัดทัพยนตกรรมอันทันสมัยตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ครบครันในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ภายใต้แนวคิด YAMAHA Community of PRIDE – คอมมิวนิตี้ที่สะท้อนความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์แห่งตัวตนของลูกค้า ยามาฮ่า พร้อมโชว์ยานยนต์ต้นแบบสุดล้ำรวมถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตอกย้ำทิศทางสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน มาพร้อมแคมเปญพิเศษระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน นี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 3 อิมแพค เมืองทองธานี
มร.ทัตสึยะ โนซากิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวถึงแนวความคิดของบูธยามาฮ่าในปีนี้ว่า “สำหรับการออกแบบบูธและการนำเสนอของยามาฮ่าในปีนี้มีชื่อคอนเซ็ปต์ว่า “YAMAHA Community of PRIDE” ซึ่งเป็นคอมมิวนิตี้ที่สะท้อนความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์แห่งตัวตนของลูกค้ายามาฮ่า ผสมผสานนวัตกรรมที่พร้อมก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืน เสริมสร้างแบรนด์ตามปรัชญา “คันโด” และ “5 Unique Styles” วิถีอันเป็นเอกลักษณ์ของยามาฮ่า และต่อยอดทิศทางของแบรนด์คอนเซ็ปต์ในปีนี้ คือ “Restart & Revs Up” เพื่อให้ลูกค้าได้เริ่มต้นใช้ชีวิต และสร้างประสบการณ์ใหม่ที่เร้าใจให้เกิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากสถานการณ์โควิดได้คลี่คลายลง ซึ่งยามาฮ่ายังคงมุ่งเน้นที่จะพัฒนานวัตกรรมอันทันสมัยและส่งต่อคุณค่าแห่งสินค้ามาให้กับลูกค้าทุกท่าน โดยเราได้นำยนตกรรมต้นแบบที่ถูกพัฒนาและพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อผลิตเป็นสินค้าในอนาคตมาโชว์ที่โซน Zero Carbon Community ตามวิสัยทัศน์ของ บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้ให้ความสำคัญ และดำเนินการเกี่ยวกับ Carbon Neutrality การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ ก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ และโซนอื่นๆ ที่ยามาฮ่านำเสนอสินค้าและบริการ ที่ส่งมอบทั้งความมั่นใจ และสร้างประสบการณ์ความตื่นเต้นเร้าใจ และตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าอย่างแน่นอนครับ”
มร.เคนจิ โคมัสซึ Chief General Manager of Technical Research & Development Center บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวถึง Zero Carbon Community Zone ว่า“ยามาฮ่ามอเตอร์ กำลังดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งการซึ่งความเป็นกลางทางก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภายในปี 2050 ซึ่งเราเชื่อว่ามีหลากหลายวิธีการที่จะทำให้เกิดขึ้นได้ ที่สำนักงานใหญ่ ยามาฮ่ามอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น เราได้ทำการติดตั้งอุปกรณ์แบบใหม่เพิ่มขึ้นหลายอย่าง ซึ่งรวมไปถึงอุปกรณ์ตรวจวัดและทดสอบมอเตอร์ไฟฟ้า, อุปกรณ์จ่ายก๊าซไฮโดเจน และถังเก็บเชื้อเพลิง Carbon-Neutral โดยทั้งหมดได้ทำการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยไปเมื่อปีที่แล้วและเมื่อทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว โรงงานแห่งนี้จะมีบทบาทที่สำคัญในการดำเนินกิจการตามมาตรฐานทางด้านเทคโนโลยีสีเขียวสำหรับผลิตภัณฑ์ของยามาฮ่าที่ส่งออกไปทั่วโลก โดยในขณะนี้เราได้ทำการวิจัยเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและทำการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเกี่ยวกับในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อาทิ การพัฒนามอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ไฮโดรเจน ในวันนี้ เมื่อความร่วมมือกันระหว่างสายการผลิตในปัจจุบัน และเทคโนโลยี Blue Core ที่มีอยู่ในรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กของยามาฮ่า ทำให้วันนี้เราจะได้เห็น Product Concept อย่างเช่น เครื่องยนต์พลังงานไฮโดรเจน และแบตเตอรี่ EV ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านจะได้รับความสนุกสนานจากผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่จาก บูธรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าภายในงานวันนี้ ขอบคุณครับ”
นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า“สำหรับบูธรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าในปีนี้ เราออกแบบและดีไซน์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “YAMAHA Community of PRIDE” คอมมิวนิตี้ที่สะท้อนความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์แห่งตัวตนของลูกค้ายามาฮ่า ที่ผสมผสานนวัตกรรมที่พร้อมก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืน เพื่อลูกค้ายามาฮ่า ซึ่งเราก็ได้แบ่งโซนต่างๆ ถึง 7 โซนดังนี้
1.Zero Carbon Community Zone ตามที่ มร.โคมัสซึ ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ โดยในปีนี้ทางยามาฮ่ามอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่นได้ให้ความสำคัญกับ “Carbon neutrality” หรือ ความเป็นกลางทางคาร์บอน ที่ยามาฮ่ามีเจตนารมย์ในการบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050 โดยในปีที่ผ่านมายามาฮ่าได้คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อย่างเป็นรูปธรรม เช่น ผลิตภัณฑ์ที่นำมาจัดแสดงในวันนี้ เราได้นำรถคอนเซ็ปต์ ROV หรือเรียกว่า (Recreational Off-Highway Vehicles) รถต้นแบบที่ใช้พลังไฮโดรเจนขับเคลื่อน ซึ่งเป็นความร่วมมือในการสร้างนวัตกรรมร่วมกันระหว่าง LEXUS International ถือเป็นครั้งแรกของโลก ในการนำมาจัดแสดงนอกประเทศญี่ปุ่น พร้อมทั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานไฮโดรเจน 100% ซึ่งเริ่มต้นพัฒนามาตั้งแต่ปี 2015 นอกจากนี้ ยังมีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอย่าง E01 และ NEO’s ที่จำหน่ายและได้รับความนิยมในยุโรป รวมถึงรถจักรยานเสือภูเขาแบบใช้แบตเตอรี่อย่าง YPJ-MT Pro และ Tri town scooter ไฟฟ้าส่วนบุคคลที่ใช้เทคโนโลยี LMW มาจัดแสดงในโซนนวัตกรรมด้วย จะเห็นได้ว่า ทางยามาฮ่ามอเตอร์มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการบรรลุเป้าหมาย carbon neutrality ให้สำเร็จและยั่งยืน
2.Commuter Community Zone สังคมของผู้ที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันที่เป็นรุ่นยอดนิยม อย่าง Grand Filano Hybrid Connected, AEROX, FAZZIO และ FINN ซึ่งเป็นรถครอบครัวรุ่นเดียวที่กล้ารับประกัน 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง พร้อมด้วยยามาฮ่า EXCITER สีใหม่ Ride the Next Level ตอกย้ำบทบาทผู้นำรถออโตเมติกและรถครอบครัว
3.MAX SERIES Community Zone เป็นโซนของรถออโตเมติกยอดนิยมในตระกูล MAX-SERIES อย่าง TMAX Sport Scooter ที่ประสบความสำเร็จและขายดีที่สุดในยุโรป รวมถึง XMAX Connected ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งในหลากหลายประเทศและโมเดลที่ประสบความสำเร็จ อย่างยิ่งในประเทศไทย โดยมียอดจำหน่ายเป็นอันดับ 1 ของโลก พร้อมด้วยรถในตระกูล MAX SERIES อย่าง NMAX Connected ขนาด 155 ซีซี ที่มาพร้อมสีใหม่ Dull Blue
4.R-SERIES Community Zone ครบครันด้วยรถในตระกูล R-SERIES นำโดยรุ่นใหญ่อย่าง YZF-R1M รถจักรยานยนต์สไตล์สปอร์ตที่ครองใจชาวสปอร์ตมาอย่างยาวนาน รวมถึง YZF-R7 ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ของ R-Series ออกแบบสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์ทรงสปอร์ตที่เน้นขับขี่ในชีวิตประจำวัน รวมถึง New R15 Connected และ R15M Connected-ABS ท๊อปคลาสรถสปอร์ต พิกัด 155 ซีซี
5.Adventure Touring & Sprot Heritage Community Zone นำโดย Tenere700 ที่พัฒนา ต่อยอดเทคโนโลยีจากสังเวียนหฤโหดดาการ์ แรลลี่ พร้อมด้วย Tracer9 GT บิ๊กไบค์สาย Adventure และ กลุ่มรถ Sport Heritage นำโดย XSR900, XSR700, XSR155 ผสมผสานดีไซน์คลาสสิกกับสมรรถนะและเทคโนโลยีของ Sport Naked ซึ่ง XSR155 มาพร้อมกับสีใหม่ล่าสุด และรุ่นพิเศษแต่งในสไตล์ Yard Built by K-Speed จำนวนจำกัดเพียง 200 คันในประเทศไทย
6.MT-SERIES Community Zone รถจักรยานยนต์ในตระกูล MT-SERIES Master of Torque ที่สร้างชื่อเสียงให้ยามาฮ่าไปทั่วโลก ในคอนเซ็ปต์ torque & agile ภายใต้แคมเปญ The Darkside of Japan นำโดย MT-09 และ MT-15 พร้อมด้วย MT-07 สีใหม่ สไตล์ Hyper Naked ที่มาพร้อมกับเรือนไมล์ TFT สีเต็มรูปแบบ ขนาด 5 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ตอกย้ำความนิยมในทวีปยุโรปด้วยยอดจำหน่ายมากกว่า 160,000 คัน
7.Leisure Community Zone นำโดย YAMAHA WaveRunner รุ่น SuperJet ยานยนต์ที่จะสร้างความเร้าใจให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบกีฬาทางน้ำ รวมถึงเครื่องยนต์ติดท้ายเรือและรถกอล์ฟมาให้แฟนๆ ยามาฮ่าได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด เติมเต็มบรรยากาศให้กับบูธยามาฮ่า ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์
และที่ขาดไม่ได้ในครั้งนี้ ยามาฮ่าได้จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษ สำหรับรถจักรยานยนต์ขนาด 115 – 155 ซีซี รับ Gift Voucher สูงสุด 15,000 บาท และรถจักรยานยนต์ขนาด 400 – 1,000 ซีซี รับ Gift Voucher สูงสุด 40,500 พร้อมประกันภัยชั้น 1
โปรโมชันพิเศษสำหรับรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าภายในงานเท่านั้น!
รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าขนาด 115 – 155 ซีซี
YAMAHA XSR155 รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 8,000 บาท
New R15 Connected รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 8,000 บาท
R15M Connected-ABS รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 8,000 บาท
YAMAHA MT-15 รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 15,000 บาท
YAMAHA WR155R รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 10,000 บาท
YAMAHA FINO รับฟรี Fino Duo Set (Jacket + หมวกกันน๊อก)
พร้อม Gift Voucher รวมมูลค่า 2,000 บาท
YAMAHA FAZZIO HYBRID CONNECTED รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 2,000 บาท
YAMAHA FINN รับฟรี! ตะกร้าหน้า กันลาย ตะแกรงหลัง และ บัตรน้ำมัน
รวมมูลค่ากว่า 1,500 บาท
โปรโมชั่นพิเศษสำหรับรถยามาฮ่าขนาด 400 – 1,000 ซีซี
Super Sport
YZF-R1M รับฟรี! ประกันภัยชั้น 1
YZF-R7 รับฟรี! Gift Voucher 26,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1
MT-09SP รับฟรี! Gift Voucher 20,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1
MT-09 รับฟรี! Gift Voucher 40,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1
New MT-07 รับฟรี! Gift Voucher 40,500 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1
Tracer9 GT รับฟรี! Gift Voucher 30,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1
Tenere700 รับฟรี! Gift Voucher 28,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1
XSR900 รับฟรี! Gift Voucher 20,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1
XSR700 รับฟรี! Gift Voucher 20,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1
SR400 รับฟรี! Gift Voucher 10,000 บาท
TMAX 560 และ TMAX 560 Techmax รับฟรี! ประกันภัยชั้น 1
โปรโมชันพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์ YAMALUBE และ เครื่องแต่งกาย และอะไหล่ตกแต่ง
YAMAHA APPAREL รับส่วนลดสูงสุด 20%
YAMAHA ACCESSORIES รับส่วนลดสูงสุด 20%
ผลิตภัณฑ์ YAMALUBE รับส่วนลดสูงสุด 10%
พิเศษสุดเมื่อซื้ออุปกรณ์ตกแต่งและยามาลู้ปครบ 1,000 บาท รับฟรี! ทันที กระเป๋าเป้ มูลค่า 200 บาท
พิเศษสุดเมื่อซื้ออุปกรณ์ตกแต่งและยามาลู้ปครบ 2,000 บาท รับฟรี! ทันที กระเป๋ากันน้ำ มูลค่า 500 บาท จำกัด 1 ใบ / 1 ออเดอร์ / 1 ใบเสร็จ โปรโมชั่นนี้เฉพาะในงานมอเตอร์โชว์ ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม ถึง 2 เมษายน 2566 เท่านั้น
พบกับบูธ YAMAHA Community of PRIDE – คอมมิวนิตี้ที่สะท้อนความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์แห่งตัวตนของลูกค้ายามาฮ่า พร้อมชมยนตกรรมเหนือชั้นจากยามาฮ่า ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม ถึง 2 เมษายน 2566 ณ อาคาร ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี สามารถติดตามความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษจากยามาฮ่า ผ่านช่องทางต่างๆ ของยามาฮ่าได้ดังนี้ www.yamaha-motor.co.th / FB: Yamaha Society Thailand / IG: @YamahaSocietyThailand และทาง YouTube: Yamaha Society Thailand

ไทยฮอนด้าจัดเต็มสนั่นมอเตอร์โชว์! เปิดตัวโมเดลใหม่ 4 รุ่นรวด

ไทยฮอนด้าจัดเต็มสนั่นมอเตอร์โชว์! เปิดตัวโมเดลใหม่ 4 รุ่นรวด นำทัพโดย New Honda XL750 Transalp และ New Honda CB750 Hornet พร้อมนำเสนอไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่ท้าทายผ่านบูธฮอนด้าด้วยคอนเซปต์ Challenge The Horizon ไทยฮอนด้า เปิดตัวรถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นใหม่พร้อมกันถึง 4 รุ่น ในงาน Bangkok International Motor Show 2023 ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง นำโดย New Honda XL750 Transalp รถบิ๊กไบค์แอดเวนเจอร์ ที่พร้อมเผชิญหน้าทุกเส้นทางด้วยความแข็งแกร่ง และความแรงของเครื่องยนต์ขนาด 750cc New Honda CB750 Hornet รถบิ๊กไบค์สไตล์สตรีทไฟต์เตอร์ที่มาพร้อมดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว และสมรรถนะขั้นสูง ตามด้วยรถที่สร้างสรรค์จากการคอลแลปแบรนด์ดังระดับโลก New Honda C125 Disney Limited Edition และ New Honda Dax Tamiya Limited Edition สองรุ่นพิเศษจาก CUB House by Honda ที่ผสานความเป็น Iconic Bike กับเรื่องราวและตำนานที่ครองใจคนทั้งโลก พร้อมจัดแสดงนวัตกรรม EV Ecosystem และเทคโนโลยีเครื่องยนต์เรืออันทรงพลังของฮอนด้า
มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “ด้วยแรงขับเคลื่อนจากพลังแห่งความฝัน ฮอนด้าพร้อมเผชิญกับทุกความท้าทายเพื่อแบ่งปันความสุขและความน่าตื่นตาตื่นใจสู่ผู้คน เรานำเสนอความมุ่งมั่นนี้ ด้วยบูธที่มาพร้อมคอนเซปต์ Challenge the Horizon เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและนวัตกรรมเฉพาะตัวของการขับขี่ ไม่ว่าความฝันของลูกค้าคืออะไร เรานำสิ่งนั้นมารวมกันที่นี่ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมค้นหาไปกับเรา” “ในปีนี้ ฮอนด้าพร้อมส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่าง เริ่มจาก New Honda XL750 Transalp รถที่พัฒนาสำหรับชีวิตที่เต็มไปด้วยการผจญภัย ควบคุมง่ายด้วยเฟรมที่มีน้ำหนักเบา และเครื่องยนต์ขนาด 750cc ที่ให้แรงบิดแบบไม่จำกัด ตามด้วย New Honda CB750 Hornet รถสตรีทไฟต์เตอร์ที่ออกแบบให้ตอบโจทย์การขับขี่ในเมืองด้วยรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว ขับขี่คล่องตัว มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 750cc สมรรถนะสูง สร้างมาเพื่อไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่แตกต่างอย่างโดดเด่น ฮอนด้าบิ๊กไบค์ทั้งสองรุ่นมาพร้อมเทคโนโลยีที่ครบครันสำหรับประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ”
“นอกจากนี้ เพื่อส่งมอบความสุขและความภาคภูมิใจให้กับผู้คนในแต่ละซับคัลเจอร์อย่างต่อเนื่อง เราได้คอลแลปกับแบรนด์ระดับโลกเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีความพิเศษ เริ่มจากการร่วมฉลอง 100 ปีดิสนีย์ ด้วย New Honda C125 Disney Limited Edition รถที่ผสานความคราฟท์และความคลาสสิคตลอดกาลของตระกูลคับ กับไอคอนที่อยู่ในหัวใจของผู้คนทั่วโลกมานับศตวรรษ พร้อมกันนี้ เรายังได้ร่วมกับ Tamiya ตำนานของเล่นญี่ปุ่น เพื่อนำเอาความทรงจำที่ยิ่งใหญ่จากยุค 90 มาสู่ไลฟ์สไตล์ของยุคนี้ เกิดเป็น New Honda Dax Tamiya Limited Edition เปิดจองให้เป็นเจ้าของเฉพาะในงานมอเตอร์โชว์นี้เท่านั้น สิ่งเหล่านี้คือหนึ่งในความมุ่งมั่นของเราที่ไม่เคยหยุดที่จะเปลี่ยนความฝันให้เป็นความจริงเพื่อให้ลูกค้าของเราได้พบกับสิ่งที่ดีที่สุด”
New Honda XL750 Transalp รถบิ๊กไบค์สไตล์แอดเวนเจอร์ ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการขับขี่ทั้งบนทางเรียบและทางวิบาก ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 750 ซีซี 2 สูบเรียง ให้ผู้ขับขี่เพลิดเพลินไปกับการผจญภัยด้วย 5 โหมดการขับขี่ ได้แก่ Travel, Sport, Standard, Rain และ User ที่สามารถปรับค่าต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ผ่านหน้าจอสี TFT ขนาด 5 นิ้ว พ่วงด้วยระบบควบคุมการทำงานฟังก์ชันต่างๆ ของสมาร์ทโฟนด้วยเสียงขณะขับขี่ของฮอนด้า พร้อมเบาะนั่งที่ให้ความสบายสำหรับการขับขี่ในเมืองและการผจญภัยในทุกพื้นที่ได้อย่างไร้กังวล New Honda XL750 Transalp มีท้ังหมด 2 สี ได้แก่ สีขาว และ สีดำ เปิดรับจองตั้งแต่ในงานนี้เป็นต้นไป
New Honda CB750 Hornet รถบิ๊กไบค์ Street Fighter ดีไซน์เท่ เร้าใจ มาพร้อมสมรรถนะอันดุดัน ขับขี่สนุกคล่องตัว ปลดล็อกประสบการณ์การขับขี่ในเมืองไปอีกขั้น ด้วยเครื่องยนต์ 750 ซีซี 2 สูบเรียง แรงเต็มอารมณ์สปอร์ต ตัวรถมาพร้อมเฟรมรุ่นใหม่ที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ควบคุมง่าย กับ 4 โหมดการขับขี่ ได้แก่ Sport, Standard, Rain และ User ที่สามารถปรับค่าต่างๆ ได้ด้วยตนเองผ่านหน้าจอสี TFT ขนาด 5 นิ้ว พร้อม Honda Roadsync (HSVCs) ให้ทะยานไปในทุกเส้นทาง มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว และ สีดำ เปิดตัววางจำหน่ายด้วยราคาแนะนำที่ 319,000 บาท
New Honda C125 Disney Limited Edition ร่วมฉลอง 100 ปีดิสนีย์ไปกับรถจักรยานยนต์รุ่นพิเศษ ดีไซน์สะดุดตา โดดเด่นด้วยชุดบังลมและครอบข้างโครเมียมระดับพรีเมียม ผลิตจำกัดเพียง 100 คันเท่านั้น โดยจะมีจำนวน 18 คัน ที่มาพร้อมกับความพิเศษด้วย Micky Mouse Figure Limited Edition ที่ผลิตเพื่อรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ พร้อมวางจำหน่ายด้วยราคาแนะนำที่ 116,400 บาท (แบบไม่มีฟิกเกอร์) และ 197,900 (แบบมีฟิกเกอร์)
New Honda Dax Tamiya Limited Edition รถ Iconic รุ่นล่าสุดจาก CUB House by Honda ถ่ายทอดความเป็นตำนานโมเดลของทามิย่าในยุค 90 เข้ากับความสนุกท้าทายของ DAX ได้อย่างลงตัว ด้วยดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร โดดเด่นด้วยสีน้ำเงินกับลวดลายสุดซิ่ง บนเฟรม T-Bone เสริมความเท่ด้วยเอมเบลมสุดซิ่ง Dax Tamiya ผลิตและจำหน่ายตามพรีออเดอร์เพียง 13 วันเท่านั้น ด้วยราคาแนะนำที่ 99,900 บาท โดยสามารถจองได้ที่งานบางกอกมอเตอร์โชว์ ที่ CUB House Flagship Store ทุกสาขา และที่ช่องทางออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม จนถึง 2 เมษายน 2023
นอกจากนี้ ฮอนด้ายังได้นำเสนอความก้าวหน้าแห่งการขับเคลื่อนที่อยู่เหนือความคาดหมายของคนไทยด้วย Honda Marine Engines เครื่องยนต์ติดท้ายเรือที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยจะนำมาจัดแสดงให้คนไทยได้ชมอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรกภายในบูธ Honda Marine
พบกับรถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นใหม่ พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษมากมาย ได้ที่บูธรถจักรยานยนต์ M4 ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม ถึงวันที่ 2 เมษายนนี้ ที่อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี
ติดตามรายละเอียดและโปรโมชั่นสุดพิเศษของรถรุ่นต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : fb.com/hondamotorcyclethailand
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์ : fb.com/HondaBigBikeTH
เฟซบุ๊กคับเฮ้าส์ : fb.com/cubhousebyhonda

ไทยฮอนด้าวาง 3 นโยบายหลักปี 2023 ชู Digitalization สร้าง Lifetime Experience ให้ลูกค้าอย่างยั่งยืน

พร้อมรุกเซกเมนท์ใหม่! เปิดตัว New CL Series จุดเทรนด์ Scrambler ในเมืองไทย ไทยฮอนด้า ผู้นำวงการรถจักรยานยนต์ไทย แถลงนโยบายประจำปี 2023 ประกาศ 3 กลยุทธ์มุ่งสร้าง Lifetime Experience ให้ลูกค้าอย่างยั่งยืนด้วยการเปิดเกมรุกสร้างเซกเมนท์ใหม่ จุดกระแส Scrambler ในเมืองไทย ด้วยการเปิดตัว New Honda CL500 และ New Honda CL300 รถ Honda Scrambler ที่จะมาสร้างเทรนด์ใหม่ของการขับขี่ พร้อมกับเตรียมส่งมอบประสบการณ์ความสนุกจากการคอลแลปกับค่ายภาพยนตร์ระดับโลก ประเดิมไตรมาสแรกด้วย New Honda Scoopy Minion Limited Edition และ All New Honda ADV160 Limited Edition Inspired by Marvel Collection ลายกัปตันอเมริกา และไอรอนแมน
มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “ด้วยแรงสนับสนุนของคนไทย รถจักรยานยนต์ฮอนด้าสามารถรักษาความเป็นผู้นำตลาดฯ ได้เป็นปีที่ 35 ติดต่อกัน ฮอนด้าขอขอบคุณทุกความไว้วางใจและพร้อมจะรักษาความมุ่งมั่นในการส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนไทยตลอดไป สำหรับปี 2023 ถือเป็นปีแห่งความท้าทาย ไทยฮอนด้าได้คาดการณ์ตัวเลขของตลาดรถจักรยานยนต์ไทยปีนี้ไว้ที่ 1.75 ล้านคัน ในขณะที่ไทยฮอนด้าตั้งเป้าไว้ที่ 1.38 ล้านคัน โดยวาง 3 กลยุทธ์หลักเพื่อไปสู่เป้าหมาย”“กลยุทธ์แรก คือ การสร้างความพึงพอใจด้วยผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง ในปีนี้เราเริ่มต้นด้วยการเปิดเซกเมนท์ใหม่ ด้วยโมเดลใหม่ล่าสุด The Honda Scrambler New Honda CL500 และ New Honda CL300 สำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์ในแบบแอคทีฟ ชอบสิ่งที่สามารถสะท้อนตัวตนได้อย่างชัดเจน โดยรถในกลุ่ม CL Series มาพร้อมคอนเซปต์ The Reflection of You ตัวรถตอบโจทย์ทั้งรูปลักษณ์ ลักษณะการขับขี่ และสมรรถนะ โดยฮอนด้าพร้อมสร้าง Riding Community เพื่อรองรับผู้ขับขี่ที่มีไลฟ์สไตล์ในแบบ Scrambler นอกจากนี้ เรายังพร้อมสร้างความคึกคักให้กับตลาดรถจักรยานยนต์ไทยด้วยการทำ Brand Collaboration กับแบรนด์ระดับโลก โดยในปีนี้เราจับมือกับ Walt Disney และ Universal Studios สองค่ายภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ของโลก ในการสร้างสรรค์โมเดลรุ่นพิเศษ เริ่มตั้งแต่ต้นปีนี้ด้วย Scoopy Minion Limited Edition และ All New ADV160 Limited Edition Inspired by Marvel Collection ลายกัปตันอเมริกาและไอรอนแมน และหลังจากนี้เราจะส่งมอบอีกหลายประสบการณ์ให้กับคนไทยอย่างต่อเนื่อง”
“กลยุทธ์ที่สอง คือ การสร้างความพึงพอใจสูงสุดผ่านนโยบาย 6S เพื่อยกระดับการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย โดย 6S ที่ประกอบด้วย Sales, Service, Spare Parts, Safety Riding, Second Hand และ Society ของไทยฮอนด้าในปัจจุบันนั้นครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ใช้แล้ว และเราจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งผ่านการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม โดยได้เตรียมแผนสนับสนุนเครือข่ายร้าน Honda Wing Center ที่มีอยู่ทั่วประเทศด้วยทรัพยากรที่แข็งแกร่งทั้งด้านซอฟท์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และบุคลากร”
“กลยุทธ์ที่สาม คือ การสร้างความยั่งยืนของแบรนด์ เรามุ่งไปที่การส่งมอบประสบการณ์ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์คนไทย โดยโฟกัสไปที่ระบบการจัดการฐานข้อมูล เช่นเดียวกับการทำ Digital Experience Marketing ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสร้าง Marketing Experience และ Brand Engagement ตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ แต่ละกลยุทธ์จะเป็นเบื้องหลังสำคัญในการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งของแบรนด์รถจักรยานยนต์ฮอนด้าในปีนี้ และจะสร้างคุณค่าให้กับวงการรถจักรยานยนต์ไทย รวมถึงผู้ใช้ชาวไทยทุกคนด้วย”
สำหรับรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวล่าสุด New Honda CL500 และ New Honda CL300 เป็นรถ Scrambler ที่มาพร้อมคอนเซปต์ A Reflection of You ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนแอคทีฟ ที่รักการท่องเที่ยว ชื่นชอบการผจญภัย สะท้อนตัวตนความเป็น Scrambler โดย New CL Series แบ่งออกเป็น 2 รุ่น ประกอบด้วย New Honda CL500 มาพร้อมเครื่องยนต์ 500cc และ New Honda CL300 มาพร้อมเครื่องยนต์ 300cc ทั้งสองแบบมาพร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ และแอสซิส สลิปเปอร์คลัตช์ ตอบสนองทุกการขับขี่อย่างนุ่มนวล ท่อไอเสียยกสูง โช้กอัพหน้าขนาดใหญ่ 41 มม. และยางหุ้มโช้กอัพสไตล์คลาสสิก มาพร้อมระยะยุบ 150 มม. ช่วยซับแรงกระแทก มั่นใจทุกเส้นทางด้วยล้อหน้าขนาดใหญ่ 19 นิ้ว ล้อหลัง 17 นิ้ว และยางแบบ Dual Purpose ที่เหมาะกับการเดินทางทั้งบนทางดำ และทางฝุ่น ควบคุมรถดั่งใจด้วยแฮนเดิลบาร์ยกสูง ออกแบบองศาให้รับกับท่านั่ง พร้อมเบาะสไตล์ Scrambler นั่งสบายไปได้ทุกสภาพเส้นทาง ถังน้ำมันดีไซน์เป็นเอกลักษณ์สไตล์ CL ขนาด 12 ลิตร พร้อม Rubber Pad ให้ความกระชับขณะขับขี่
New Honda CL300 มีทั้งหมด 3 สี คือ สีส้ม (Candy Energy Orange) สีเทา (Pearl Grey) และสีขาว (Pearl White) ราคาแนะนำที่ 149,900 บาท เตรียมเปิดรับจองเป็นครั้งแรกในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ที่กำลังจะมาถึงนี้
New Honda CL500 มีทั้งหมด 3 สี คือ สีเขียว (Mat Laurel Green) สีดำ (Mat Gunpowder Black Metallic) และสีส้ม (Candy Energy Orange) ราคาแนะนำที่ 226,800 บาท เตรียมเปิดรับจองเป็นครั้งแรกในงานบางกอกมอเตอร์โชว์เช่นกัน
All New ADV160 Limited Edition Inspired by Marvel Collection นำ Inspiration จากภาพยนตร์ Captain America : Civil War ภายใต้การคอลแลประหว่าง Honda และ Marvel ในเครือค่ายหนังยักษ์ใหญ่ Universal Studios แบ่งออกเป็น 2 ลาย เริ่มจากลาย “กัปตันอเมริกา” ที่โดดเด่นด้วยลวดลายของโล่ไวเบรเนียม ลงตัวกับสีน้ำเงิน Pearl Bosporus Blue สะกดทุกสายตา สะท้อนความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งดุจกัปตันอเมริกา และลาย “ไอรอนแมน” ที่โดดเด่นด้วยลวดลายชุดเกราะสุดไฮเทคสีแดงทอง มาพร้อมโลโก้ Arc Reactor สัญลักษณ์ประจำตัวไอรอนแมน สะท้อนความแกร่งสไตล์ยอดมนุษย์ในชุดเกราะของไอรอนแมนได้อย่างลงตัว ทั้งสองแบบมาพร้อมเสื้อแจ็กเกตพรีเมียมลิขสิทธิ์แท้จาก Marvel เตรียมเปิดรับจองด้วยราคาแนะนำที่ 104,400 บาท ในงานบางกอกมอเตอร์โชว์
New Scoopy Minion Limited Edition ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทรนด์รถแฟชั่น เอ.ที. ในการคอลแลปกับ Universal Studio ค่ายหนังใหญ่จากสหรัฐอเมริกา โดยดึงคาแรกเตอร์ลูกสมุนวายร้ายจอมป่วนอย่าง มินเนี่ยน (Minion) มาสร้างสีสันใหม่บน New Scoopy ตัวรถออกแบบลวดลายให้ผสานความเป็นผู้นำแฟชั่น และความน่ารักของตัวการ์ตูนมินเนี่ยน โดดเด่นด้วยลายกราฟิกสีเหลืองสด ตัดกับสีดำของตัวรถ ให้ความรู้สึกสดใส แฝงสไตล์ความเป็นลูกสมุนตัวจี๊ดแบบฉบับมินเนี่ยน วางจำหน่ายพร้อมหมวกกันน็อกดีไซน์พิเศษในธีมมินเนี่ยนแบบเดียวกับตัวรถ พร้อมวางจำหน่ายเร็วๆ นี้
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.thaihonda.co.th
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า fb.com/hondamotorcyclethailand

Madison125 , XSM125 & XTM125

ค่ายรถอิตาลีที่มีประวัติการถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1930 ในเมืองโบโลญญ่า อย่าง Malaguti แต่ปัจจุบันพวกเขาถูกเทคโอเวอร์เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจด้านอุตสาหกรรมยานยนต์จากประเทศออสเตรีย ที่ชื่อ KSR Group ที่เน้นไปในการลงทุนกับการผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดความจุเล็กๆเป็นหลัก และใน EICMA 2022 ที่ผ่านมาพวกเขาได้เริ่มเคลื่อนไหวเพื่อนำ Malaguti ขยับขยายส่งสายพานการผลิตรุ่นต่างๆออกสู่ตลาดอย่างเป็นทางการหลังจากที่เปลี่ยนไปอยู่ในการจัดการของ KSR Group ได้เป็นระยะเวลาสี่ปี ก่อนที่จะเริ่มเดินหน้าทำตลาดในปี 2023 นี้

ด้วยนับตั้งแต่ปี 2019 พวกเขาเดินหน้าพัฒนารถเพื่อที่จะทำตลาดภายใต้นิยามที่ว่า Spirit of Bologna ซึ่งก็เข้าใจง่ายๆ คือยังคงแนวทางความเป็นแบรนด์ Malaguti ไว้คงเดิมแม้ว่าจะถูกเทคโอเวอร์จากกลุ่มธุรกิจในออสเตรียแล้วก็ตาม สำหรับตัวขายที่พวกเขานำเสนอนั้นในเบื้องต้น ก็จะทำการอัพเกรดรุ่นรถอย่าง Madison125 XSM125 , XTM125 ที่จะยกระดับให้ทั้งสามรุ่นมีความพร้อมสมบูรณ์ยิ่งขึ้นสำหรับการส่งเข้าสู่ตลาดในฐานะรถโมเดลปี 2023

สำหรับโมเดลแรกอย่าง Madison125 นั้น ได้ถูกนำมาปัดฝุ่นแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ ให้มีความเป็น Dynamic Scooter ที่โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่สกู๊ตเตอร์รุ่นนี้ได้ริเริ่มพัฒนาร่วมกับ GPX Thailand ก่อนที่ Malaguti จะนำมาอัพเกรดอีกครั้ง

ถัดมาเป็นรถที่ใช้พื้นฐานเครื่องยนต์เดียวกัน เพียงแต่แตกแขนงแยกออกไปเป็นสองสไตล์ คือ XTM125 ที่พัฒนาให้อยู่ในสายรถ off road ที่ใช้วงล้อหน้าขนาด 21นิ้ว กับวงล้อหลังขนาด 18 นิ้ว เพื่อให้สามารถบุกตะลุยเส้นทางการขับขี่ที่ทุรกันดารได้ตามแบบฉบับรถวิบาก ขณะที่ในรุ่น XSM125 ที่ใช้วงล้อขนาด 17 นิ้ว นั้น จะถูกจัดวางให้อยู่ในสาย Supermoto โดยทั้ง
สองเวอร์ชั่นถูกวางให้ทำตลาดในพิกัดรถlightweight

 

“โทนี่ โบ” ควบฮอนด้า คืนฟอร์มแชมป์ คว้าโพเดียม X-TRIAL

“โทนี่ โบ” แชมป์โลกจาก Repsol Honda Trial Team โชว์ฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่องคว้าโพเดียมอันดับ 2 X-TRIAL 2023 สนาม 2 ที่ประเทศออสเตรีย รั้งตำแหน่งผู้นำในตารางคะแนนสะสมอย่างเหนียวแน่น มี 38 คะแนน ขณะที่ทีมเมท “กาเบรียล มาร์เซลลี” คว้าอันดับ 4 มีคะแนนสะสมในอันดับที่ 3 รวม 24 คะแนน ก่อนเดินหน้าไล่ล่าแชมป์โลกต่อเนื่อง ในสนามที่ 3 วันที่ 25 มีนาคม 2566 นี้ในบาเซโลน่า ประเทศสเปน

แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยสามารถติดตามข่าวสารของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

FORZA350 The Ultimate Outing EP2.

ปิดทริปด้วยความสนุกสนาน หรอยแรง… สไตล์แดนสะตอ ภูเก็ต – ขนอม
เส้นทางสวย หลบเลี่ยงทางหลัก ท้าทายกับทางรอง บรรยากาศ สุดยอดดดด…ขี่รถสนุก ได้ใช้คันเร่งกันเต็มสมรรถนะ เอ.ที. พรีเมี่ยม ของ FORZA350
งานนี้ กินหรู อยู่สบาย กินอิ่ม นอนอุ่น พร้อมของรางวัลแจกอีกมาย การดูแลสุดเอ็กคูลซีฟ อาหารอร่อย ที่พักสุดหรู ปาร์ตี้กลางทะเล มีแบบนี้ ลูกค้ารักตายยยยย..
กระแสฟิตแบ็ก จากกลุ่มลูกค้า ชาวภูเก็ต กระบี่ พังงา และ สุราษฎร์ฯ ช๊อบชอบ จัดได้ประทับใจ งานหน้ามาอีกนะ

“ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า” เปิดรับสอนบิ๊กไบค์ทุกแบรนด์

“ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า” เปิดรับสอนบิ๊กไบค์ทุกแบรนด์ มุ่งยกระดับทักษะขับขี่ที่ถูกต้อง ลดอุบัติเหตุให้เป็นศูนย์ พร้อมสานต่อแคมเปญซื้อมอเตอร์ไซค์-รับคอร์สอบรมใบขับขี่ตลอดปี 2566

ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า โดย บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ผู้นำวงการขับขี่ปลอดภัยของเมืองไทย จัดงานแถลงข่าวแผนงานส่งเสริมการขับขี่ปลอดภัย ประจำปี 2566 ก้าวสู่ปีที่ 35 ภายใต้โครงการ Honda Safety Thailand ตอกย้ำความเป็นผู้นำขยายการถ่ายทอดทักษะขับขี่ที่ถูกต้อง ประกาศเปิดรับอบรมผู้ขับขี่บิ๊กไบค์ทุกแบรนด์ เพื่อยกระดับความปลอดภัยให้กับกลุ่มชาวมอเตอร์ไซค์ที่หลากหลาย เดินหน้าผนึกกำลังร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เสริมทัพบุคลากร Safety Advisor ร่วมทีมครูฝึกขับขี่ปลอดภัย มุ่งสู่การให้ความรู้เชิงรุก เพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ พร้อมฝึกการคาดการณ์และลดความเสี่ยง ต่อยอดความสำเร็จจากต้นแบบความปลอดภัย Zero Accident Society ภายในไทยฮอนด้า ขยายให้กับพันธมิตรผู้ผลิตชิ้นส่วน ด้วยรูปแบบ Safety Riding Award โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมไร้อุบัติเหตุ พร้อมส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการขยายระยะเวลาแคมเปญซื้อมอเตอร์ไซค์-รับคอร์สเรียนเพื่อขอรับใบอนุญาตขับขี่ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 นี้

มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย กล่าวว่า “กว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ฮอนด้าให้ความสำคัญและดำเนินการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการ Honda safety Thailand ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 35 เราให้การอบรมผู้ใช้รถใช้ถนนในเมืองไทยไปแล้วกว่า 35 ล้านคน และยังคงมุ่งมั่นในเจตนารมณ์ที่จะสร้างจิตสำนึกขับขี่ปลอดภัย เพื่อเป้าหมายลดอุบัติเหตุและสร้างสังคมไทยสู่ Zero Accident Society ได้อย่างยั่งยืนต่อไป”
ดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “หลังสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย เราสามารถดำเนินกิจกรรมได้ตามปกติและมีผู้ใช้รถกลับมาเรียนที่ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้าเพิ่มขึ้น รวมถึงที่หน้าร้านผู้จำหน่ายฯ ก็มีการทำกิจกรรมขยายความรู้ในระดับชุมชนเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ขณะที่ภายในองค์กรไทยฮอนด้าเองที่เราต้องการให้เป็นต้นแบบของสังคมอุบัติเหตุเป็นศูนย์ก็มีแนวโน้มสถิติผู้เสียชีวิตลดลง และในปีที่ผ่านมา เราได้ขยายแนวคิดดังกล่าวไปสู่พันธมิตรผู้ผลิตชิ้นส่วนของไทยฮอนด้า ผ่านรูปแบบของการมอบรางวัล Safety Riding Award ให้กับบริษัทฯ ที่มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมตามแนวทางที่กำหนดไว้ด้วย”
“สำหรับปี 2566 นี้ ฮอนด้าได้ยกระดับแผนงานส่งเสริมการขับขี่ปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในทุกด้าน เราพร้อมยินดีเปิดรับฝึกสอนผู้ขับขี่บิ๊กไบค์ทุกแบรนด์ เพื่อส่งมอบความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่มีความหลากหลาย และที่สำคัญควรได้รับความรู้และฝึกทักษะการขับขี่ที่ถูกต้อง ประกอบด้วยคอร์สบิ๊กไบค์ 3 ระดับ เริ่มจาก B1-Basic BigBike B2-Skilled Riding และ B3-Advanced Riding โดยสามารถสมัครเรียนได้ที่ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้าทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ สมุทรปราการ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 นี้ เป็นต้นไป”
“ด้านกิจกรรมการอบรมผ่านทางร้านผู้จำหน่ายฯ เราได้เพิ่มเจ้าหน้าที่ Safety Advisor ประสานการทำงานร่วมกับทีมครูฝึกขับขี่ปลอดภัยประจำร้าน เพิ่มศักยภาพการให้ความรู้เชิงรุก นำเทคโนโลยีสมัยใหม่ทั้งเครื่องจำลองการขับขี่ Riding Trainer และการฝึกทักษะคาดการณ์อุบัติเหตุทางออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ HondaSafetyAPT.com เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติได้อย่างครบถ้วน”
“นอกจากนี้ ในส่วนของแคมเปญ ‘ฮอนด้าจัดให้ ชาวมอเตอร์ไซค์ต้องมีใบขับขี่’ มอบแพคเกจเรียนขับขี่ปลอดภัย พร้อมเข้ารับการทดสอบเพื่อรับใบอนุญาตขับขี่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับผู้ซื้อรถจักรยานยนต์ฮอนด้าใน 16 จังหวัดทั่วทุกภูมิภาค ประกอบด้วย กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา นครปฐม อยุธยา ชลบุรี สมุทรสาคร ภูเก็ต กระบี่ พังงา เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน เพื่อเป้าหมายขยายการมอบทักษะขับขี่และส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเราได้ขยายแคมเปญนี้อย่างต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 นี้ โดยสามารถโอนสิทธิได้ภายในระยะเวลา 1 ปี เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีใบขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย”
“ฮอนด้าพร้อมทุ่มเทและสนับสนุนการให้ความรู้ขับขี่ปลอดภัยในรูปแบบต่างๆ อย่างเต็มที่ และขอเชิญชวนสื่อมวลชนทุกท่านมาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกันปลูกฝังวัฒนธรรมการขับขี่ปลอดภัย เพื่อลดสถิติอุบัติเหตุบนท้องถนน และร่วมกันเพิ่มโอกาสให้เมืองไทยเป็นเมืองแห่งการขับขี่ปลอดภัยในอนาคต” ดร.อารักษ์ กล่าวสรุป
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้าได้ที่
เฟซบุ๊ก : facebook.com/HondaSafetyThailand
เว็บไซต์ : hondasafety.thaihonda.co.th