ไทยฮอนด้า ส่งเสริมการศึกษาเยาวชนไทยสร้
สมาคมรถโบราณ จัดขบวนพาเหรด ร่วมงานพระนครคีรี-เมืองเพชร ครั้งที่ 38
ขบวนพาเหรดรถโบราณ และ รถคลาสสิค
สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย จัดขบวนพาเหรดรถโบราณ และรถคลาสสิค ทรงคุณค่า 12 คัน ร่วมพิธีเปิด งานพระนครคีรี-เมืองเพชร ครั้งที่ 38 ประจำปี 2568 ภายใต้ชื่องาน “วิมานฟ้าพระนครคีรี อัญมณีแห่งสยาม” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง) จังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568
เชิญชมภาพรถโบราณในงาน พระนครคีรี-เมืองเพชร ครั้งที่ 38 เพิ่มเติมได้ที่ vintagecarclub.or.th และ facebook.com/VintageCarClub
ROYAL ENFIELD GUERRILLA 450 “กองโจร” ชนเผ่าจากแอฟริกา
ROYAL ENFIELD GUERRILLA 450
ROADSTER STYLE ออกแบบในแนวคิด กับกลุ่ม เกอร์ริล่า “กองโจร” ชนเผ่าจากแอฟริกา Royal Enfield Guerrilla 450 (รอยัล เอ็นฟิลด์ เกอร์ริล่า 450) รถมอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิกที่ถูกสร้างสรรค์มาให้สามารถขับขี่ได้อย่างสนุกสนานในทุกๆ วัน ตามแนวคิด Pure Motorcycling อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Royal Enfield
SHERRRPA
เครื่องยนต์ของ Royal Enfield Guerrilla 450 ใช้เครื่องยนต์ Sherpa 450 แบบ 1 สูบ DOHC 4 จังหวะ 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุ 452cc มอบพละกำลังสูงสุด 40.02 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 40 นิวตันเมตร ที่ 5,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์แมนนวล คลัตช์มือ 6 สปีด ขับเคลื่อนด้วยโซ่ โดยเครื่องยนต์มีพื้นฐานเดียวกับ Himalayan 450 แต่มีการปรับจูนรายละเอียดใหม่ ให้มีแรงบิดช่วงต้นที่มากขึ้น บิดติดมือมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม มาพร้อมกับระบบสลิปเปอร์คลัทช์
Guerrilla 450 ได้ถูกปรับให้เข้ากับผู้ขับขี่ ถูกสร้างมาเพื่อนักขับขี่ทุกคนในทุกระดับของประสบการณ์การขี่ โดยให้ความคล่องตัวสูงสุด ไม่ว่าคุณจะอยู่ในรอบความเร็วใดก็ตาม ท่าทางการขี่ที่ตั้งตรง ความสูงของเบาะนั่งที่ไสตล์เอเชีย และแชสซีที่ตอบสนองเป็นพิเศษ ทำให้รถคันนี้เป็นรถที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกวัน กับการใช้งานในเมือง หรือเดินทางไกล ถังน้ำมันดีไซน์เรียวกระชับ ความจุอยู่ที่ 11 ลิตร
Guerrilla 450 เน้นการออกแบบให้เรียบง่ายแต่โดดเด่น มีกลิ่นอายความเป็นเน็กเก็ดไบค์ ร่างเปลือยโชว์สัดส่วนโครงสร้างที่แข็งแรงพร้อมเหลี่ยมและมุมที่สมบูรณ์แบบ ให้ภาพลักษณ์ความเป็นรถจักรยานยนต์ที่แข็งแกร่ง ไฟหน้าทรงกลม ไฟท้ายดีไซน์เป็นชิ้นเดียวกับไฟเลี้ยว ใช้เป็น LED รอบคัน หน้าจอเรือนไมล์แบบจอสี TFT ทรงกลมขนาด 4 นิ้ว บอกข้อมูลการขับขี่ครบครัน รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 2 แบบ พร้อมให้โหมดการขับขี่ ECO / PERFORMANCE แอนด์เดิ้ลบาร์ปีกนก สวิตช์สตาร์ท และ เปิดไฟหน้า สูง/ต่ำ ดีไซน์ย้อนยุคแบบโลเลอร์
ช่วงล่างโช้คอัพหน้าแบบเทเลสโกปิกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 43 มม. มาพร้อมกับยางหุ้มโช้ค ระยะยุบ 140 มม. ล้อหน้าใช้ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ชนิดไม่มียางใน รัดด้วยยางบล็อคแพทเทิ้ลขนาด 120/70 R17 มาพร้อมกับระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกเดี่ยว ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 310 มม. คาลิเปอร์เบรก 2 พอร์ท พร้อมระบบ ABS ป้องกันล้อล็อก ล้อหลังอัลลอย 17 นิ้ว ยางขนาด 160/60-17 ดิสก์เดี่ยว 270 มม. คาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว
ฟิลลิ่ง การขับขี่
มาถึงการขับขี่ลองของจริงกันหน่อยสิว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง กันรถกองโจร ว่าจะปราดเปรียวเฟี้ยวขนาดไหน ก่อนอื่นมาเรื่องของไรดิ้งโพลสิชั่นกันก่อน ท่านั่ง ให้ความสบายดีนะ นั่งได้หลังตรงไม่ก้ม ระยะแฮนด์ปรับเข้าหาตัวแขนไม่ตึง เบาะกว้าง พักเท้าใหญ่ว่างได้มั่นคงดี ขาเกียร์ ขาเบรก วางตำแหน่งให้ใช้งานได้สะดวก ทั้งหมดนั้นทำให้การควบคุมง่าย ถึงแม้ว่าความกว้างของแฮนด์จะยาวไปสักนิด และวงเลี้ยวก็กว้างไปหน่อย หักแฮนด์ได้น้อย การซิกแซกในช่องทางแคบต้องคำนวณ และตั้งลำดีๆ ผ่านได้ไม่ยาก
เครื่องยนต์ Sherpa 450 แบบสูบเดี่ยว 4 วาล์ว 40 แรงม้า สำหรับเครื่องตัวนี้ให้ แรงบิด แรงทอร์ค ที่ดีในช่วงต้น และกลาง ออกตัวได้เร็ว กระแทกคันเร่งแรงๆ มีหน้าลอย อัตราทดเกียร์ ไม่สั้น ไม่ยาว จนเกินไปถือว่ากำลังดีเลยนะ แต่ละเกียร์รับกันต่อเนื่องไม่มีติดขัด มีระบบสลิปเปอร์คลัทช์ช่วยให้การลดเกียร์แบบรวบได้ง่าย ช่วงความเร็วปลายๆ อาจจะต้องลากกันยาวหน่อย ไหลไปเรื่อยๆ 160+ กม./ชม. การสั่นสะท้านมันเรื่องปกติสำหรับรถสูบเดี่ยวในความเร็วที่เกิน 120 กม/.ชม. แต่ต้องบอกว่าการพัฒนาเฟรม และเครื่องยนต์แบบแขวน ของโรยัล เอนฟิลด์ ทำได้ดี การให้บูทยางรองที่จุดยึดต่าง ลดการสั่นสะเทือนไม่เยอะ
ช่วงล่าง เกทับ ในคลาสเดียวกันมาพร้อมกับแบนรด์ SHOWA แกนโช้คหน้าใหญ่ ให้ความนุ่มหนึบ อันนี้ถือว่าดีอย่างเห็นได้ชัดลดการสะเทือนขึ้นถึงมือน้อยลง ระยะยุบให้มาถึง 140 มม. แต่โช้คอัพหลังถึงจะเป็นการซับแรงสองชั้นแบบกระเดื่อง มันยังรู้สึกกระด้างอยู่บ้าง ยางหน้า 120/70-17 ยางหลังใหญ่ 160/60-17 หน้าว้างให้การสัมผัสถนนได้เยอะ ถึงหน้ายางจะเป็นแบบ บล็อกแพทเทิ้ล ถึงออฟโรด ก็ถือว่ายังเกาะถนนได้ดี
ดิสก์เบรก นี่ก็จัดหนักแบบ คู่แข่งอายไปเลยในคลาส 400-500 ซีซี ดิสก์หน้า 310 มม. สายเป็นถักสแตนเลสด้วยมันช่วยลดการบวมของยางแบบยาง กดสั่งได้หนึบจริง มี ABS ให้ด้วย ใช้งานหนักๆ หรือกะทันหัน มีการตอดขึ้นที่นิ้วเหมือนกัน ดิสก์เบรกหลัง 270 มม. นี่ก็ให้มาใหญ่กว่าชาวบ้าน ไม่ต้องเหยียบลงหนักมาก คาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยวขนาดใหญ่เอาอยู่
สนใจก็ไปดูตัวจริง หรือ บางดีลเลอร์อาจมีรถให้ลองขับขี่ ลองเปิดใจสักครั้ง…เดี๋ยวนี้เทคโนโลยี มันก้าวทันกันแล้ว
ราคาเริ่มต้น 179,900 บาท สำหรับสี Mirage Silver
183,900 บาท สำหรับสี Playa Back และ 185,900 บาท สำหรับสี Brava Blue / Yellow Ribbon
ไทยฮอนด้า สานต่อกิจกรรม “สพฐ.–ไทยฮอนด้า วิ่ง 31 ขา สามัคคี” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 20
เพื่อเฟ้นหาสุดยอดทีมเยาวชนที่สามารถรวมพลังแห่งความสามัคคี
ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สานต่อกิจกรรม “สพฐ.–ไทยฮอนด้า วิ่ง 31 ขา สามัคคี” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 20 เพื่อเฟ้นหาสุดยอดทีมเยาวชนที่สามารถรวมพลังแห่งความสามัคคีและฝึกฝนจนสามารถวิ่งเข้าเส้นชัยได้ด้วยความเร็วสูงสุด โดยรอบชิงแชมป์ประเทศไทยประจำปีการศึกษา 2567 จัดขึ้นในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 ณ สนามกีฬากองทัพอากาศ (ธูปะเตมีย์)
ดร.อารักษ์ พรประภา ประธานบริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวถึงการแข่งขันในครั้งนี้ว่า “กีฬาวิ่ง 31 ขา ไม่เพียงแต่ส่งเสริมเยาวชนให้มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงเท่านั้น แต่ยังปลูกฝังทักษะการทำงานเป็นทีม ความเสียสละ ความมุ่งมั่น และการมีน้ำใจนักกีฬา ซึ่งล้วนเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยให้เด็ก ๆ เติบโตขึ้นเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของประเทศ ไทยฮอนด้าภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ และขอแสดงความยินดีกับทุกทีมที่แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมในด้านพลังกาย พลังใจ และความสามัคคี”
“การแข่งขันครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการไทยฮอนด้าเพื่อสังคมไทย ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาเยาวชนผ่านกิจกรรมกีฬา โดยเสริมสร้างทั้งร่างกาย จิตใจ ความคิด และทักษะการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการก้าวไปเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ทรงคุณค่าของประเทศ ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการจนถึงปัจจุบัน ไทยฮอนด้าได้จัดกิจกรรม สพฐ.–ไทยฮอนด้า วิ่ง 31 ขา สามัคคี ต่อเนื่องมาจนถึงปีที่ 20 มีเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันแล้วกว่า 490,000 คน และยังคงได้รับความสนใจจากโรงเรียนทั่วประเทศเพิ่มขึ้นทุกปี โดยรอบชิงแชมป์ประเทศไทยในวันนี้ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อันจะเป็นเกียรติประวัติและความภาคภูมิใจของเยาวชนสืบไป”
สำหรับการแข่งขันวิ่ง 31 ขา สามัคคี ในปีนี้ มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันกว่า 200 ทีม โดยคณะกรรมการได้คัดเลือกนักกีฬาเป็นรายจังหวัด ที่ทำเวลาดีที่สุดจำนวน 20 ทีม จาก 4 ภาค ทั่วประเทศ
โดยกติกาการแข่งขันเบื้องต้น ดังนี้ แต่ละทีมต้องประกอบด้วยนักกีฬาตัวจริง 30 คน โดยมีหัวหน้าทีม 1 คน พร้อมนักกีฬาสำรอง 4 คน และครูผู้ฝึกซ้อม 1-3 คน นักกีฬาทั้ง 30 คนต้องผูกขาติดกันและร่วมกันวิ่งเข้าเส้นชัยในระยะทาง 50 เมตร โดยอาศัยพลังของความสามัคคี การสื่อสาร การทำงานเป็นทีม ที่มีผลมาจากการฝึกฝนที่เข้มข้นอย่างต่อเนื่อง
สรุปผลการแข่งขันรอบชิงแชมป์ประเทศไทยในปีนี้
อันดับ 1: โรงเรียนบ้านริมใต้ จังหวัดเชียงใหม่ สนับสนุนโดย บริษัท นัติมอเตอร์ จำกัด ทำเวลา 8.64 วินาที
อันดับ 2: โรงเรียนบ้านละหานทราย (คุรุราษฎร์บำรุงวิทยา) จังหวัดบุรีรัมย์ สนับสนุนโดย บริษัท บุรีรัมย์ยนตรการ จำกัด ทำเวลา 8.83 วินาที
อันดับ 3: โรงเรียนอามานะศักดิ์ (A) จังหวัดปัตตานี สนับสนุนโดย บริษัท อริยะมอเตอร์ จำกัด ทำเวลา 8.91 วินาที
ทั้งนี้ กีฬาวิ่ง 31 ขา สามัคคี ถือกำเนิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2538 โดยมีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีและฝึกฝนทักษะการทำงานเป็นทีมให้กับนักเรียนระดับประถมศึกษา จนกลายเป็นหนึ่งในกีฬายอดนิยมที่ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลาย ซึ่งกีฬานี้ได้ถูกนำเข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี 2548 โดยกลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขัน และต่อมา บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขยายการแข่งขันสู่โรงเรียนทั่วประเทศ โดยมุ่งหวังให้เยาวชนไทยได้พัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม ฝึกฝนความอดทน ความมุ่งมั่น การมีน้ำใจนักกีฬา ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของการเติบโตเป็นบุคคาลกรและผู้นำที่มีคุณภาพในอนาคต
ติดตามความเคลื่อนไหว และผลการแข่งขัน “สพฐ.-ไทยฮอนด้า วิ่ง 31 ขา สามัคคี” ได้ที่ www.facebook.com/honda31legs
#ไทยฮอนด้าเพื่อสังคมไทย #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #Thaihonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou
ไทยฮอนด้า รับโล่ประกาศเกียรติคุณจาก สอศ.
ไทยฮอนด้า ตอกย้ำความมุ่งมั่นพัฒนาทักษะเยาวชนไทย
ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย นำโดย ดร.อารักษ์ พรประภา ประธานบริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด เข้ารับโล่รางวัลประกาศเกียรติคุณภาคีเครือข่ายภาคเอกชน จาก นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในพิธีเปิดงานประชุมวิชาการองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย (อวท.) ระดับชาติ ครั้งที่ 33 ซึ่งจัดขึ้น ณ เวทีโดมอเนกประสงค์ วิทยาลัยเทคนิคตรัง จังหวัดตรัง เมื่อเร็วๆ นี้
รางวัลดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของไทยฮอนด้าในการพัฒนาเยาวชนไทยให้มีทักษะที่พร้อมต่อยอดสู่อนาคต โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมทักษะด้านเครื่องยนต์เล็กแก๊สโซลีน ทักษะด้านเครื่องยนต์อเนกประสงค์ และทักษะการขับขี่ปลอดภัย ซึ่งเป็นองค์ความรู้สำคัญที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้กับนักเรียนอาชีวศึกษา และเตรียมความพร้อมสู่โลกการทำงานต่อไป นอกจากนี้ ไทยฮอนด้ายังคงเดินหน้าสนับสนุนองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง อันเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ภายในงานยังได้มีพิธีมอบรางวัลรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ แก่นักเรียนอาชีวศึกษา และคุณครูผู้ชนะจากการแข่งขันทักษะขับขี่ปลอดภัยฮอนด้าระดับชาติ ครั้งที่ 5 ที่ไทยฮอนด้าได้ร่วมกับ สอศ. เพื่อสานต่อภารกิจลดอุบัติเหตุบนท้องถนนอีกด้วย
ติดตามความเคลื่อนไหวของฮอนด้าเมืองไทยขับขี่ปลอดภัย ได้ที่
เว็บไซต์ : hondasafety.thaihonda.co.th
แฟนเพจเฟซบุ๊ก : facebook.com/HondaSafetyThailand
และฝึกคาดการณ์อุบัติเหตุ ช่วยการตัดสินใจอย่างแม่นยำขณะใช้รถใช้ถนนได้ที่ : HondasafetyAPT.com
#HondaSafetyThailand #HaveAGoodRide #ฮอนด้าเมืองไทยขับขี่ปลอดภัย
#ไทยฮอนด้าเพื่อสังคมไทย #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #Thaihonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou
IRC ยางรถจักรยานยนต์ระดับนานาชาติ โชว์เทคโนโลยียางรถจักรยานยนต์ และผลิตภัณฑ์ ยางอุตสาหกรรม ในงาน FTI EXPO 2025
ร่วมขับเคลื่อนการเติบโตอุ
บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ IRC บริษัทร่วมทุน ไทย-ญี่ปุ่น กว่า 55 ปีในการนำความปลอดภัยสู่ผู้ขั
นายคณิน เหล่าจินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “IRC มุ่งมั่นเป็นส่วนหนึ่งในการขั


Kawasaki เซอร์ไพรส์เปิดตัวรถรุ่นใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย






โรยัล เอ็นฟีลด์ ย้ำความเชื่อมั่น แก่ผู้ขับขี่ด้วยบริการหลังการขาย
โรยัล เอ็นฟีลด์ เผยโครงการส่งมอบประสบการณ์ไร้
โรยัล เอ็นฟีลด์ ผู้นำระดับโลกด้านรถจักรยานยนต์
ล่าสุด Royal Enfield ได้เปิดตัวศูนย์ฝึ
นอกจากการฝึกอบรมเชิงเทคนิคแล้ว ศูนย์ฝึกอบรม POWERTRAIN ยังมี
ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ
โครงการ Supersquad ได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคั
การแข่งขัน Supersquad 2025 เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงวิสัยทั
โรยัล เอ็นฟีลด์ ขอแสดงความยินดีแก่ผู้
Supersquad 2025 เป็นเวทีกำหนดมาตรฐานการบริ
โดยล่าสุด ช่างเทคนิคจากเกาหลีใต้ได้รั
ปิดฉากประทับใจ! “โมโตจีพี” เทสต์สนั่นโลก
“มาร์เกซ” เร็วที่สุด ThaiGP Pre-Season Test
“ซูเปอร์สตาร์นักบิดโมโตจีพี” ดวลความเร็ว “ThaiGP Pre-Season Test” เข้มข้น ผลปรากฏว่า มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกจาก ดูคาติ ผงาดรั้งจ่าฝูงเหนือน้องชายอย่าง อเล็กซ์ มาร์เกซ ขณะที่ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดชาวไทยจาก ฮอนด้า ทำงานอย่างหนักหลังบิดทั้งสิ้น 131 รอบสนาม ยกระดับได้ยอดเยี่ยม ก่อนเปิดฤดูกาล โมโตจีพี 2025 ที่ประเทศไทย ในศึก “พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์” 28 กุมภาพันธ์-2 มีนาคมนี้
การทดสอบพรีซีซั่นอย่างเป็นทางการของศึก โมโตจีพี 2025 “ThaiGP Pre-Season Test” จบลงอย่างเป็นทางการ หลังผ่านการทำงานอย่างหนักของทีมแข่ง วิศวกร และนักบิดทุกคน ระหว่างวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
ผลการทดสอบปรากฏว่า “มาร์ค มาร์เกซ” แชมป์โลกชาวสแปนิชจาก ดูคาติ เลอโนโว ทีม ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 28.855 วินาที หลังวิ่งไปทั้งสิ้น 156 รอบสนาม ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดยยังไม่สามารถทำลายสถิติเดิม 1 นาที 28.700 วินาที ของทีมเมทอย่าง ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า ลงได้ ส่วนอันดับ 2 เป็นของ “อเล็กซ์ มาร์เกซ” นักบิดสแปนิชจาก เกรซินี เรซซิ่ง ตามหลัง 0.179 วินาที ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ “มาร์โก เบซเซ็คคี” นักบิดอิตาเลียนจาก อพริเลีย เรซซิ่ง ตามหลัง 0.205 วินาที
ส่วน “เปโดร อคอสต้า” นักบิดดาวโรจน์ชาวสแปนิชจาก เรดบูล เคทีเอ็ม แฟ็คตอรี เรซซิ่ง จบการทดสอบครั้งนี้ในอันดับ 4 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 29.133 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 0.278 วินาที ด้าน “ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า” แชมป์โลก 2 สมัย ยังไม่ลงตัวมากนัก รั้งอันดับ 5 ด้วยเวลาสต่อรอบ 1 นาที 29.378 วินาที ตามหลังทีมเมทอย่าง มาร์ค มาร์เกซ 0.523 วินาที
ขณะที่ “โจอัน เมียร์” ชาวสแปนิชจาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี คาสตรอล ส่งสัญญาณยอดเยี่ยม ขยับขึ้นมารั้งท็อป 6 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 29.399 วินาที บีบระยะเข้าไปหาหัวแถวเหลือ 0.544 วินาที ตามด้วย “ฟรานโก้ มอร์บิเดลลี” นักบิดอิตาเลียนจาก เปอร์ตามิน่า เอ็นดูโร วีอาร์46 เรซซิ่ง ในอันดับ 7 ตามหลัง 0.599 วินาที
ส่วน “ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร” แชมป์โลก 1 สมัยชาวฝรั่งเศสจาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี จบการทดสอบครั้งนี้ในอันดับ 8 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 29.586 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 0.731 วินาที ตามด้วย “มาเวริค บีญาเลส” นักบิดสแปนิชจาก เรดบูล เคทีเอ็ม เทคทรี ตามหลัง 0.751 วินาที และอันดับ 10 เป็นของ “แจ็ค มิลเลอร์” นักบิดออสเตรเลียนจาก พรีม่า พรามัค ยามาฮ่า โมโตจีพี ตามหลังหัวแถว 0.762 วินาที
สำหรับนักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์อย่าง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ ทำงานกับทีมและวิศวกรของ ฮอนด้า อย่างหนัก จบการทดสอบครั้งนี้ด้วยอันดับ 20 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 30.465 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 1.610 วินาที หลังจากที่ลงบิดไปทั้งสิ้น 131 รอบสนาม
ด้านรุกกี้ที่ผลงานดีที่สุดในการทดสอบครั้งนี้ได้แก่ “ไอ โอกูระ” นักบิดชาวญี่ปุ่นจาก แทร็คเฮาส์ เรซซิ่ง ภายใต้รถแข่งอพริเลีย รั้งอันดับ 11 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 29.636 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 0.781 วินาที ตามด้วย “เฟร์มิน อัลเดเกร์” นักบิดดาวรุ่งชาวสแปนิชจาก เกรซินี เรซซิ่ง ในอันดับ 18 ตามหลัง 1.230 วินาที
ทั้งนี้ หลังจบภารกิจการทดสอบ “ThaiGP Pre-Season Test”อย่างเป็นทางการของ โมโตจีพี 2025 บรรดานักบิดพรีเมียร์คลาสทุกคน จะมีเวลาพักราว 2 สัปดาห์ ก่อนเข้าสู่การแข่งขันสนามแรกของฤดูกาล ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์-2 มีนาคมนี้ ในศึก “พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์” ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่ประเทศไทยรองรับการแข่งขันสนามแรกของศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก
ยามาฮ่าเชิญสาวกชาวยามาฮ่าไรเดอร์สคลับ และชาวยามาฮ่าคลับกระทบไหล่ 4 นักบิดระดับโลกอย่างใกล้ชิด
ยามาฮ่า Exclusive Meet & Greet
นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ประธานกรรมการบริหาร มร.ฮิเดฮิโกะ ทาคากิ รองประธานกรรมการบริหาร นายภาณุพล กิตติคำรณ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ให้การต้อนรับ และถ่ายรูปร่วม ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร #FQ20 อเล็กซ์ รินส์ #AR42 นักแข่งจากสังกัด มอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพีทีม และ แจ็ค มิลเลอร์ #JM43 มิเกล โอลิเวียรา #MO88 นักแข่งจาก พรีมาพรามัค ยามาฮ่า ในงานเอ็กซ์คลูซีฟ มีทแอนด์กรี๊ด 4 นักแข่งระดับโลก
โดยในกิจกรรมนี้ยามาฮ่าเปิดให้ลูกค้ายามาฮ่าไรเดอร์สคลับ และลูกค้ายามาฮ่าคลับ ได้ลงทะเบียนลุ้นเข้าร่วมกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟ มีทแอนด์กรี๊ด จำกัดสิทธิ์ 200 ท่าน เข้ากระทบไหล่อย่างใกล้ชิด พร้อมลุ้นรางวัล Lucky draw และล่าลายเซ็น กับ 4 นักแข่งระดับโลกที่เดินทางมาร่วมการทดสอบครั้งสุดท้ายก่อนเปิดฤดูกาลแข่งขันประจำปี 2025 ณ สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์
สำหรับกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟ มีทแอนด์กรี๊ด กระทบไหล่ 4 นักแข่งชั้นนำระดับโลกในครั้งนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และอบอุ่นที่ โชว์รูมจำหน่ายรถบิ๊กไบค์ YAMAHA RIDERS’ CLUB ถ.ประเสริฐมนูกิจ เมื่อเร็วๆ นี้
—————————–
#YamahaSocietyThailand #RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #YamahaWorldChampion #YamahaNumber1RacingTeam
#YamahaMotoGP25
#YamahaFactoryRacingTeam
#MonsterEnergyYamahaMotoGP #FQ20 #AR42
#PrimaPramacYamaha
#JM43 #MO88
พีที สเตชั่น จัดแคมเปญมอบของพรีเมียมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “พวงกุญแจ ThaiGP 2025” เอาใจสมาชิกบัตร PT Max Card
“พวงกุญแจ ThaiGP 2025” ให้กับสมาชิกบัตร PT Max Card ได้เก็บสะสมเป็นที่ระลึก
นายสุทธิพงษ์ วรรณวานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปิโตรเลียมไทยคอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันพีที ในกลุ่ม บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) พร้อมผู้บริหาร ขอเชิญชวนลูกค้าทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก หรือ โมโตจีพี 2025 ซึ่งประเทศไทยได้รับโอกาสครั้งสำคัญในการเป็นเจ้าภาพ สนามที่ 1 ในการเปิดฤดูกาลการแข่งขันประจำปีนี้ ภายใต้ชื่อรายการ “PT Grand Prix of Thailand 2025” การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกที่ได้รับความนิยมจากแฟนๆชาวไทยและทั่วโลก
ทั้งนี้ พีที สเตชั่น ได้จัดแคมเปญมอบของพรีเมียมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “พวงกุญแจ ThaiGP 2025” ให้กับสมาชิกบัตร PT Max Card ได้เก็บสะสมเป็นที่ระลึก เพียงเติมน้ำมันกลุ่มเบนซินทุกชนิด ครบ 1,000 บาท หรือ เมื่อเติมน้ำมันดีเซล ครบ 1,200 บาท รับทันทีพวงกุญแจ ThaiGP 2025 จำนวน 1 ชิ้น (มูลค่า 159 บาท) ที่สถานีบริการน้ำมันพีทีที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 – วันที่ 9 มีนาคม 2568 หรือจนกว่าของจะหมด
เฮต่อเนื่อง! ทัพใหญ่ นักแข่ง-รถแข่ง “โมโตจีพี” ถึงบุรีรัมย์แล้ว
พร้อมประเดิมศึก “ Pre-Season Test” 12-13 ก.พ.นี้
หลังจากจบกิจกรรม Season Premiere ที่กรุงเทพแบบสุดตระการตา ประทับใจแฟนความเร็วทั่วโลกไปแล้ว ทัพนักบิด MotoGP ระดับบิ๊กเนมของโลกนำโดย ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า จากอิตาลี เจ้าของแชมป์โลก 3 สมัย , มาร์ค มาร์เกซ ดีกรีแชมป์โลก 8 สมัย และขบวนตู้คอนเทนเนอร์ทีมแข่งชุดสำคัญเดินทางถึงจังหวัดบุรีรัมย์เรียบร้อยแล้ว ด้านจังหวัดบุรีรัมย์ ซักช้อมความเข้าใจโค้งสุดท้ายกับหน่วยราชการ-เอกชน-ภาคประชาชนในพื้นที่ เปิดประตูเมืองต้อนรับ การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบ ชิงแชมป์โลก หรือโมโตจีพี ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ สนามแรก ภายใต้ชื่อรายการ “PT Grand Prix of Thailand 2025” โดยในช่วงวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์นี้ จะเป็นการประเดิมทดสอบสนามก่อนเปิดฤดูกาลหรือ Pre-Season Test ซึ่งเป็นอีกกิจกรรมสำคัญที่แฟนความเร็วทั่วโลกต่างให้ความสนใจ
ความเคลื่อนไหวการจัดการแข่งขัน “โมโตจีพี” ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพสนามแรกของฤดูกาล ภายใต้ชื่อรายการ “PT Grand Prix of Thailand 2025” ตามกำหนดการในสัปดาห์นี้ จะเข้าสู่โปรแกรมทดสอบสนามก่อนเปิดฤดูกาลหรือ “พรี-ซีซั่น เทสต์” ระหว่างวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ และ สนามที่ 1 ของฤดูกาล ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์-2 มีนาคม 2568 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
ล่าสุด ทัพใหญ่นักบิด MotoGP ระดับบิ๊กเนมของโลกเดินทางถึงจังหวัดบุรีรัมย์ เรียบร้อยแล้ว โดยลงเครื่องในช่วงบ่ายวันนี้ ที่ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ อำเภอสตึก นำโดย ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า ชาวอิตาลี เจ้าของแชมป์โลก 3 สมัย , มาร์ค มาร์เกซ ดีกรีแชมป์โลก 8 สมัย จากดูคาติ, โจอัน เมียร์ และลูก้า มารินี จากฮอนด้า , ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร และ อเล็กซ์ รินส์ คู่หูจาก ยามาฮ่า, แจ็ค มิลเลอร์ และ มิเกล โอลิเวียร่า คู่หูจาก พรามัค ยามาฮ่า, มาร์โก เบซเซคคี จาก อพริเลีย, มาเวริค บีญาเลส จาก เคทีเอ็ม ฯลฯ รวมทั้งคณะนักแข่ง-ทีมแข่งและทีมงานดอร์น่าสปอร์ต ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นของแฟนคลับ และชาวจังหวัดบุรีรัมย์ที่จัดชุดการแสดงที่งดงาม เพื่อสร้างความประทับใจตั้งแต่ก้าวแรก
พร้อมกันนี้ยังมีการนำตู้คอนเทนเนอร์ชุดสำคัญ ประกอบด้วย รถแข่งโมโตจีพี ของนักบิดดาวดัง รวมทั้งรถของ “ก้อง สมเกียรติ จันทรา” หมายเลข 35 จากฮอนด้า พร้อมอุปกรณ์จัดการแข่งขัน ได้เดินทางออกจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มาถึงสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยทุกฝ่ายเร่งระดมกำลังจัดการอย่างเต็มที่ เพื่อก้าวสู่สัปดาห์แห่งประวัติศาสตร์ มอเตอร์สปอร์ตโลกที่จะระเบิดศึกบนผืนแผ่นดินไทยอย่างดีที่สุด
ด้านจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ประชุมซักช้อมความเข้าใจโค้งสุดท้าย ที่ห้องประชุม สนามช้างอารีนา จ.บุรีรัมย์ โดยมีหน่วยราชการ-เอกชน-ภาคประชาชนในพื้นที่ นำโดย นายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ตลอดจนคณะกรรมการสนับสนุนการจัดการแข่งขัน เพื่อเปิดประตูเมืองต้อนรับอีเว้นต์ใหญ่ของโลกอีกครั้ง
สำหรับปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเป็นปีที่ 6 คณะทำงานในจังหวัดบุรีรัมย์ได้มีการประสานความร่วมมือและเตรียมการอย่างเข้มข้นในด้านต่างๆ อาทิ การตรวจสอบราคาโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว จุดให้บริการสถานพยาบาล , การแพทย์ฉุกเฉิน, คมนาคมขนส่ง จุดรับส่ง นักท่องเที่ยว,แสดงต้อนรับและจัดแสดงสินค้า OTOP, การรักษาความสงบเรียบร้อย, จัดระเบียบจราจร
การเตรียมพร้อมด้านอาสาสมัคร Ask me , รถประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยว , รถสุขาเคลื่อนที่, การจัดพาวิลเลียนด้านการท่องเที่ยว, ระบบสาธารณูปโภค สื่อสารและโทรคมนาคม สัญญาณโทรศัพท์ -อินเตอร์เน็ต ที่รองรับผู้มาเยือนหลายแสนคน ด้วยการต้อนรับที่อบอุ่น ปลอดภัย และอำนวยความสะดวกอย่างเต็มกำลัง ทุกฝ่ายมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างความประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่มาถึงจนถึงวินาทีสุดท้ายที่เดินทางกลับ
สำหรับแฟนความเร็วในปีนี้สุดพิเศษ ซื้อบัตร Main Race แถมเข้าชม Pre-season Test ฟรี โดยบัตรทุกสแตนด์เปิดให้นั่งชมได้ในที่นั่งแกรนด์สแตนด์ ส่วนใครที่ไม่สะดวกมาชมการแข่งขัน Main Race สามารถแยกซื้อบัตรชม Pre-Season Test ได้โดยราคาบัตรที่นั่ง Grand Stand ราคา 500 บาทต่อวัน หรือเหมา 2 วัน 900 บาท ส่วนใครอยากชมแบบ Exclusive สามารถซื้อบัตร VIP ราคา 5,000 บาท ต่อวัน
แฟนความเร็วที่ยังไม่มีบัตรชมการแข่งขัน ยังสามารถหาซื้อบัตรได้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซด์ allticket นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นสุดพิเศษ เรียก Grab เดินทางไป-กลับสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ระหว่าง วันที่ 28 ก.พ. – 2 มี.ค.68 ใส่รหัส “THAIGP” รับส่วนลด 15% สูงสุด 100 บาท สามารถใช้ได้กับทุกบริการ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจ Chang Circuit Buriram หรือรับข่าวสารผ่านช่องทางไลน์ โดยเพิ่มเพื่อน Line ID : @changcircuit