เปิดโลก Custom ในแบบที่ไม่เหมือนใคร!! เข้าสู่ฤดูแห่ง Adventure แบบนี้ ต้องคันนี้เลย

V-Strom 650XT Custom หล่อและดุดันสุดๆ โดย Version นี้เป็นการ Custom ให้ลุยได้มากขึ้นไปอีกขั้นด้วยการเปลี่ยนชิลด์ด้านหน้า แฮนด์บาร์และกระจกให้สั้นลง มีการเปลี่ยนล้อและยางใหม่ การ์ดเครื่องแบบ Custom ที่ดูดุดันและแข็งแกร่ง ลงตัวสุดๆไปเลย?และทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของ V-Strom 650XT ทั้งเรื่องความโดดเด่น และความเป็นเอกลักษณ์เพื่อการผจญภัยของคุณ อยากสัมผัสคันจริง สามารถเจอกันได้ที่ Suzuki Big Bike ทั่วประเทศ
สนใจติดต่อได้ที่ผู้แทนจำหน่าย ซูซูกิ ทั่วประเทศ หรือ บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผ่านทาง
Line : @suzukisocietyth หรือคลิก https://lin.ee/QO2Z8jw

“ยามาฮ่า” ฟื้นความมั่นใจก่อนลุย โมโตจีพี ออสเตรีย “กวาร์ตาราโร” หวังคัมแบ็กสู้กลุ่มหน้า

“มอนสเตอร์ ยามาฮ่า” ยอดทีมใน โมโตจีพี เผยทีมฟื้นฟูความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมก่อนลุยศึก ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ ขณะ “เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลก 1 สมัยชาวฝรั่งเศสตั้งเป้ากอบกู้สถานการณ์คัมแบ็กต่อสู้ในกลุ่มหน้าให้ได้อีกครั้งที่ เรดบูล ริง สุดสัปดาห์นี้ ศึก โมโตจีพี 2023 เตรียมดวลความเร็วสนาม 10 รายการ ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ ระหว่างวันที่ 18-20 สิงหาคมนี้ ที่ สนาม เรดบูล ริง กรุงสปีลเบิร์ก ประเทศออสเตรีย มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ต้องเจอสถานการณ์สุดหินกับสนามที่ผ่านมาที่ ซิลเวอร์สโตน ทว่าการติดตั้งชิ้นส่วนแอโรไดนามิกใหม่ในรถแข่งหมายเลข 20 ของ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร นักบิดเฟรนช์ก็ส่งสัญญาณบวกเพราะเขาสามารถแซงคู่แข่งในเรซได้ถึง 15 คัน
ขณะเดียวกันทีมเมทชาวอิตาเลียนอย่าง ฟรานโก มอร์บิเดลลี เจ้าของหมายเลข 21 ก็ค่อนข้างพอใจกับศักยภาพรถแข่งในช่วงต้นเรซที่ ซิลเวอร์สโตน โดยทีมเดินทางเข้าสู่การแข่งขันที่ เรดบูล ริง ด้วยการฟื้นฟูความมั่นใจกลับมาอีกครั้งมัสซิโม เมเรกัลลี ผู้อำนวยการทีม กล่าวว่า “เราต้องสร้างความมั่นใจขึ้นมาใหม่อีกครั้ง หลังเจอสุดสัปดาห์ที่ยากลำบากในสนามที่่ผ่านมา ทีมของเราชื่นชอบที่จะเดินทางไปที่ สปีลเบิร์ก ด้วยปัจจัยของสนาม, ภูมิประเทศ และบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมเสมอ เราเคยขึ้นโพเดียมหลายครั้งที่นี่ และตั้งใจจะทำผลงานให้ดีที่สุดอีกครั้ง”
กวาร์ตาราโร กล่าวว่า “ตอนนี้ผมพร้อมสำหรับสุดสัปดาห์นี้แล้ว ปีที่แล้วผมคว้าอันดับ 2 ที่ สปีลเบิร์ก เรามีความทรงจำดีๆ ที่นี่ แม้ความสำเร็จในอดีตจะไม่ได้การันตีทุกอย่างใน โมโตจีพี แต่เราจะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้สามารถต่อสู้กับแถวหน้าในสนามอีกครั้ง”มอร์บิเดลลี่ เผยว่า “ความเร็วของผมช่วงครึ่งทางแรกของเรซดีมาก เราต้องรักษาแนวทางนี้ไว้ให้ได้ ซิลเวอร์สโตน และ สปีลเบิร์ก มีคาแร็กเตอร์แตกต่างกัน ดังนั้นสุดสัปดาห์นี้เราจะต้องทำงานเพื่อหาความเร็วในการออกจากโค้งให้ได้ หลังจากนั้นค่อยมาดูกันว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง”
การแข่งขัน ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ จะเข้าสู่โปรแกรมการซ้อม 2 ครั้งแรกในวันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม ก่อนจับเวลารอบควอลิฟายในวันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม และดวลความเร็วรอบ “สปรินต์” ในคืนวันเดียวกัน ขณะที่เกมในรอบชิงชนะเลิศจะดวลความเร็วในวันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคมนี้ 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง SPOTV และ PPTVHD36

“อินทรีแซงค์ – กฤษฎา” บิด CFR250R คว้าโพเดียม สนามส่งท้าย FMSCT Thailand Motocross 2023

“อินทรีแซงค์” กฤษฎา จำรูญจารีต ยอดนักบิดขวัญใจกองเชียร์ทางฝุ่นจากโครงการ “เรซ ทู เดอะ แชมเปี้ยน” เจ้าของแชมป์ประเทศไทย 4 สมัยติดต่อกัน พร้อมด้วยยอดรถแข่งทางฝุ่น Honda CRF250R หมายเลข 17 สังกัดทีม Honda Racing Thailand S Motor สู้สุดใจสมศักดิ์ศรีแชมป์ประเทศไทยในศึก FMSCT Thailand Motocross 2023 สนามสุดท้าย ด้วยการมีอาการบาดเจ็บแต่ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองออกมาได้ดีที่สุด ถึงแม้พลาดโอกาสคว้าแชมป์สมัยที่ 5 ติดต่อกันจากโอกาสที่เป็นรอง พร้อมกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์อีกครั้งในฤดูกาลหน้า

การแข่งขัน FMSCT Thailand Motocross 2023 สนามสุดท้าย ดวลกัน ณ สนามเสี่ยน้องสิงห์สองฝั่ง จ.มุกดาหาร เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา “อินทรีแซงค์-กฤษฎา” มีคะแนนสะสมอยู่ 128 แต้ม รั้งอันดับที่ 2 ตามคู่แข่งอยู่ 6 คะแนน “อินทรีแซงค์-กฤษฎา” ได้ต่อสู้สุดใจจนสามารถคว้าโพเดียม สนามส่งท้าย FMSCT Thailand Motocross 2023 สำเร็จ แม้ในท้ายที่สุดจะพลาดแชมป์ประเทศไทยสมัยที่ 5 ด้วยคะแนนห่างเพียง 4 คะแนน แต่เจ้าตัวได้ฝืนอาการบาดเจ็บ สู้เต็มที่ในสนามนี้แล้ว และพร้อมกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์อีกครั้งฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอน
โดย “อินทรีแซงค์-กฤษฎา” เริ่มออกสตาร์ตจากตำแหน่งที่ 3 พร้อมรถแข่งคู่ใจ Honda CRF250R หมายเลข 17 เปิดการ์ดสู้ทันที ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็สามารถขึ้นเป็นผู้นำ ในสถานการณ์ของการแข่งขัน “อินทรีแซงค์-กฤษฎา” ถึงจะคว้าผลงานดีที่สุดมาก็ยังต้องลุ้นผลงานของคู่แข่ง ซึ่งเป็นความท้าทายที่ต้องต่อสู้กับทุกข้อจำกัดทั้งอาการบาดเจ็บและโอกาสที่เป็นรอง
ซึ่งยอดนักบิดจาก “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” นับได้ว่าสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม แบกอาการบาดเจ็บเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับที่ 2 ขณะที่คู่แข่งตามมาเป็นอันดับ 3 แม้จะพลาดการป้องกันแชมป์ในฤดูกาลนี้ ซึ่งหลังจากจบการแข่งขันเจ้าของแชมป์ประเทศไทย 4 สมัยติดต่อกันต้องเข้ารับการผ่าตัดจากอาการที่บาดเจ็บ พร้อมพบกับความท้าทายครั้งใหม่เพื่อกลับมาทวงบัลลังค์แชมป์อีกครั้งใน FMSCT Thailand Motocross ฤดูกาลหน้า
แฟนมอเตอร์สปอร์ตสามารถติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของนักบิดไทยในโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” และ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ แชมเปี้ยน” รวมถึงส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าทุกคนได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

“โฟลท-รัฐพงษ์” โชคร้ายส่งท้าย “เอเชีย โร้ดฯ” อินโดนีเซีย

“โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ยอดนักบิดไทยจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม โชคร้ายสุดๆ หลังโดนคู่แข่งชนล้มในศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2023 รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต เรซที่ 2 ที่ มันดาลิกา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่ดีรั้งอันดับ 8 บนตารางแชมเปียนชิพ

การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2023 สนาม 4 ดวลความเร็วเรซ 2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ สนาม เปอร์ตามินา มันดาลิกา เซอร์กิต ประเทศอินโดนีเซีย“โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ นักบิดไทยเจ้าของรถแข่ง Yamaha YZF-R6 คู่ใจหมายเลข 56 จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ยังคงได้ออกตัวจากกริดที่ 8 เช่นเคย โดยเจ้าตัวต้องเจอปัญหาระบบช่วงล่างกับการแข่งขันที่ มันดาลิกา ในเรซแรกอย่างมาก ก่อนจะแก้ไขได้อย่างลงตัวในวันอาทิตย์
เกมเรซนี้ดำเนินไปอย่างเข้มข้น รัฐพงษ์ ต่อสู้กับกลุ่มหน้าได้อย่างสนุกในช่วงต้นของเรซ โดยสามารถขยับขึ้นมาได้ถึงอันดับ 6 ในรอบแรก ทว่าจุดเปลี่ยนสำคัญกลับเกิดขึ้นในรอบที่ 2 เมื่อ นักบิดยามาฮ่าถูกคู่แข่งล้มไถลมาชนอย่างรุนแรง จนต้องออกจากการแข่งขันอย่างน่าเสียดาย
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ รัฐพงษ์ พลาดการลุ้นท็อปไฟว์ในเรซนี้อย่างน่าเสียดาย โดยรั้งอันดับ 8 บนตารางคะแนนสะสม มีทั้งสิ้น 53 คะแนน
โดยศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2023 สนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 3-5 พฤศจิกายนนี้ ที่ สนาม ซูไห่ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สาธารณรัฐประชาชนจีน แฟนชาวไทยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ได้ที่ เฟซบุ๊ก : Yamaha Thailand Racing Team

“โฟลท-รัฐพงษ์” ฝ่างานหินบิดคว้าแต้ม “เอเชีย โร้ดฯ” อินโดนีเซีย เรซแรก

“โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ยอดนักบิดไทยดีกรีแชมป์เอเชียจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ ทำงานอย่างหนักร่วมกับทีมไทยก่อนบิดฝ่าเรซสุดหินในศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2023 สนาม 4 รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต เรซแรกด้วยอันดับ 12 คว้าแต้มมาครองได้อย่างสุดมันที่ มันดาลิกา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา

การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2023 สนาม 4 ดวลความเร็วเรซแรกเมื่อวันเสาร์ที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ สนาม เปอร์ตามินา มันดาลิกา เซอร์กิต ประเทศอินโดนีเซีย

สนามนี้เป็นอีกหนึ่งสุดสัปดาห์ที่ท้าทายอย่างมากสำหรับอดีตแชมป์เอเชียอย่าง “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ นักบิดไทยเจ้าของรถแข่ง Yamaha YZF-R6 คู่ใจหมายเลข 56 โดยตลอดการซ้อม ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ทำงานอย่างหนักในการหาเซ็ตติ้ง ก่อนจะคว้ากริดสตาร์ตที่ 8 มาครอง

เกมเรซนี้ดวลกันทั้งสิ้น 10 รอบสนาม รัฐพงษ์ เสียจังหวะในการออกตัวก่อนจะตกลงไปสู้ในกลุ่มกลางอย่างสุดมัน ก่อนกอบกู้สถานการณ์บิดคว้าอันดับ 12 มาครอง ด้วยเวลาตามหลังผู้ชนะอย่าง เฮลมี อัซมาน นักบิดมาเลเซีย 17.322 วินาที เก็บแต้มจากเรซสุดหินมาครองได้สำเร็จ
ผ่านเรซแรกในวันเสาร์ “โฟลท” รัฐพงษ์ เดินหน้าเก็บแต้มได้อย่างต่อเนื่อง รั้งอันดับ 6 บนตารางคะแนนสะสม มีทั้งสิ้น 53 คะแนน ก่อนจะดวลความเร็วเรซ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคมนี้ 14.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง

Honda CBR1000RR-R ประกาศความยิ่งใหญ่ครองแชมป์ 2 ปีซ้อน พร้อมเหมาโพเดียม “ชิพ-นครินทร์” ร่วม Honda Asia-Dream Racing with SHOWA ทีม คว้า Top 8 Suzuka 8 Hours ครั้งที่ 44

Honda CBR1000RR-R ประกาศความยิ่งใหญ่ ครองแชมป์เหมาโพเดียมทั้งสามอันดับในศึกทรหดในตำนานอย่าง Suzuka 8 Hours ครั้งที่ 44 ด้าน “ชิพ” นครินทร์ ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “เรซ ทู เดอะ แชมเปี้ยน” ที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนไทยเข้าร่วม ลงแข่งขันในภายใต้ทีม Honda Asia-Dream Racing with SHOWA ด้วยตัวแข่ง CBR1000RR-R สร้างผลงานทะลุเป้า ร่วมกับทีมเมทเอเชียอย่าง โมฮัมหมัด ซัควาน ไซดี้ นักบิดมาเลเซีย และ แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาร์ นักบิดอินโดนีเซีย โดย CBR1000RR-R หมายเลข 88 ก่อนที่จะคว้าอันดับที่ 8 มาครองได้สำเร็จ หลังจากที่ต่อสู้กันอย่างยาวนานถึง 8 ชั่วโมงเต็มในการแข่งขันศึกสองล้อในตำนานอย่าง Suzuka 8 Hours ครั้งที่ 44 ที่สนามซูซูกะ ประเทศญี่ปุ่น
“ชิพ-นครินทร์” ลงสนามด้วยการทำหน้าที่เป็นนักแข่งปลอกแขนสีแดง ซึ่งรับช่วงต่อจาก โมฮัมหมัด ซัควาน ไซดี้ ปลอกแขนสีน้ำเงิน และ แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาร์ ปลอกแขนสีเหลือง โดยมีบทบาทสำคัญอย่างมากกับผลงานของทีม ซึ่งการลงครั้งแรกขณะเข้าชั่วโมงที่ 3 “ชิพ-นครินทร์” และรถแข่ง Honda CBR1000RR-R หมายเลข 88 ได้ขยับจากอันดับที่ 13 มาถึงอันดับที่ 8 จากการต่อสู้กับนักแข่งระดับท็อปของโลกที่มาจากรายการ เอ็นดูรานซ์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ, ซูเปอร์ไบค์เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ และโมโตจีพี หลายคน นับเป็นการข้ามขีดจำกัด ยกระดับผลงานการทำงานของทีมอย่างยอดเยี่ยม จากฤดูกาลที่แล้วที่คว้าอันดับที่ 11 และสูงกว่าตั้งเป้าหมายในการแข่งขันฤดูกาลนี้ที่วางไว้ที่ท็อป 10 ได้สำเร็จ
นอกจากนั้น ฮอนด้า CBR1000RR-R ยังตอกย้ำศักยภาพที่เหนือกว่าคู่แข่ง ด้วยการครองแชมป์ 2 ปีซ้อน และ เหมาโพเดียม เมื่อทีม Team HRC with Japan Post หมายเลข 33 คว้าชัยชนะในการแข่งขัน Suzuka 8 Hours ครั้งนี้ไปครอง ทำระยะทางตลอดการแข่งขัน 8 ชั่วโมงได้ถึง 216 รอบ ตามมาด้วยทีม TOHO Racing หมายเลข 104 ในอันดับที่ 2 และทีม SDG Honda Racing หมายเลข 73 ในอันดับ 3 ตามลำดับ
นอกจากผลงานล่าสุดใน Suzuka 8 Hours แล้ว “ชิพ-นครินทร์” ยังสร้างผลงานอันสุดแข่งแกร่งในรายการระดับท็อปของประเทศไทยและเอเชียกับยอดรถแข่ง Honda CBR Series หมายเลข 41 ด้วยการนำเป็นจ่าฝูงในตารางคะแนนสะสมรุ่นซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี เอสบี1โปร รายการ OR BRIC Superbike 2023 ด้วยตัวแข่ง Honda CBR1000RR-R และทำผลงานรั้งกลุ่มนำลุ้นโพเดียมอย่างต่อเนื่องในการแข่งขัน Asia Road Racing Championship 2023 รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS600) ด้วยตัวแข่ง Honda CBR600RR
แฟนมอเตอร์สปอร์ตสามารถติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของนักบิดไทยในโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” และ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ แชมเปี้ยน” รวมถึงส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าทุกคนได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

“ยามาฮ่า” รับงานหิน “ซิลเวอร์สโตน” ลั่นทำงานหนักลุ้นเมนเรซ

“มอนสเตอร์ ยามาฮ่า” ยอดทีมในศึก โมโตจีพี ต้องเจองานสุดหินในศึก บริติช กรังด์ปรีซ์ หลังผ่าน “สปรินต์” ที่ยากลำบาก ขณะ มัสซิโม เมเรกัลลี ผู้อำนวยการทีมยืนยันพร้อมทำงานหนักเพื่อยกระดับความเร็วสำหรับเมนเรซ ลุ้นคัมแบ็กสู่กลุ่มหน้าวันอาทิตย์นี้ที่ ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต

ศึก โมโตจีพี 2023 สนาม 9 รายการ บริติช กรังด์ปรีซ์ ผ่านการแข่งขันรอบ “สปรินต์” เมื่อวันเสาร์ที่ 5 สิงหาคมนี้ ที่ ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต สหราชอาณาจักร ภายใต้สภาพอากาศแปรปรวนหลังจากที่มีฝนตกลงมาตลอดทั้งวันเกมในรอบ “โมโตจีพี สปรินต์” สนามนี้ดวลกันทั้งสิ้น 10 รอบสนาม โดย ฟรานโก มอร์บิเดลลี นักบิดอิตาเลียนหมายเลข 21 จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 11 ขณะที่ทีมเมทชาวฝรั่งเศสอย่าง ฟาบิโอ กวาร์ตาราโรเจอปัญหากับรถแข่งคู่ใจหมายเลข 20 ต้องออกตัวจากกริดสุดท้าย
จากจังหวะออกตัวที่ไม่ดีนัก ส่งผลให้ มอร์บิเดลลี เสียตำแหน่งในช่วงต้นเรซ ก่อนตีตื้นขึ้นมาคว้าอันดับ 15 ตามหลังผู้ชนะ 27.191 วินาที ส่วน กวาร์ตาราโร ยังเจอปัญหาอย่างต่อเนื่อง ทำได้ดีที่สุดเพียงพารถแข่งเข้าป้ายในอันดับ 21 ตามหลังผู้ชนะ 30.326 วินาที มัสซิโม เมเรกัลลี ผู้อำนวยการ มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี เปิดเผยว่า “นับตั้งแต่ช่วงเช้าเรารู้ทันทีว่ากำลังต้องเจองานที่ยากสุดๆ แฟรงกี้ มีฟีลลิ่งที่ดีบนแทร็กเปียก ศักยภาพของเขาใน Q1 น่าประทับใจมาก นั่นทำให้เราผ่านเข้าไปคว้ากริดที่ 11 แต่น่าเสียดายที่เขาเสียการควบคุมในช่วงออกตัว มันเป็น สปรินต์ ที่ไม่เป็นไปในแบบที่เราหวัง”
“สำหรับ ฟาบิโอ มันคือวันที่เขาต้องลืม เขาไม่สามารถค้นหาฟีลลิ่งที่ดีได้เลย มาพลาดล้มในรอบ Q1 ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่ก็ทำให้เขาต้องออกตัวจากกริดสุดท้าย โดยในรอบสปรินต์เขารู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย แต่มันยังไม่พอ ดังนั้นเราจึงมีงานหนักที่ต้องทำเพื่อเมนเรซในวันอาทิตย์”ทั้งนี้ ศึก บริติช กรังด์ปรีซ์ จะดวลความเร็วรอบไฟนอลในวันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคมนี้ 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง SPOTV และ PPTVHD36

“ก้อง-สมเกียรติ” ฝ่าฝนซิวกริดแถว 5 ลุ้นล่าแต้ม โมโตทู สนาม 9 วันอาทิตย์นี้

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” เจองานสุดท้าทายหลังฝ่าฝนคว้ากริดแถวที่ 5 ในศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ สนาม 9 ที่ สหราชอาณาจักร เจ้าตัวหวังเก็บแต้มให้มากที่สุดกับงานหินในสุดสัปดาห์นี้ ที่ ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต

โดยก่อนเริ่มต้นโปรแกรมในวันเสาร์ ปรากฏว่ามีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ส่งผลให้เป็นงานยากสำหรับนักบิดทุกคน โดย “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยหมายเลข 35 จากสังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ที่ผ่านเข้าสู่รอบ Q2 แบบอัตโนมัติ พยายามอย่างหนักในการล่ากริดกลุ่มหน้า ก่อนจะคว้าอันดับ 15 มาครองด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 19.316 วินาที และจะได้เริ่มเกมจากแถวที่ 5 ในการไล่ล่าแต้มในสุดสัปดาห์นี้

ส่วนผลการแข่งในรอบ “โมโตจีพี สปรินต์” ปรากฏว่า โจอัน เมียร์ นักบิดสแปนิชหมายเลข 36 จาก เรปโซล ฮอนด้า คัมแบ็กกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ก่อนจะคว้าอันดับ 17 ไปครอง ตามด้วยทีมเมทอย่าง มาร์ค มาร์เกซ เจ้าของหมายเลข 93 ในอันดับ 18 ขณะที่ ทาคาอากิ นาคากามิ นักบิดญี่ปุ่นหมายเลข 30 จาก แอลซีอาร์ ฮอนด้า จบเรซในอันดับ 20 ตามด้วยทีมเมทชาวสแปนิชอย่าง อิเคร์ เลกัวน่า หมายเลข 27 ในอันดับ 22

ทั้งนี้ “ก้อง” สมเกียรติ มีคิวดวลความเร็ว โมโตทู รอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคมนี้ 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านั้นในเวลา 19.00 น. จะเป็นการแข่งขันในรุ่น โมโตจีพี ถ่ายทอดสดทาง PPTVHD36 และ True Visions SPOTV
แฟนความเร็วชาวไทยสามารถติดตามข่าวสารของ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา พร้อมส่งกำลังใจเชียร์ยอดนักบิดไทยในศึก โมโตจีพี รุ่นโมโตทู ตลอดทั้งฤดูกาล 2023 และติดตามความเคลื่อนไหวของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

“ยามาฮ่า” คอนเฟิร์ม “กวาร์ตาราโร” ฟิตเต็มถังมั่นใจฟอร์แม็ตช์ใหม่ปัจจัยช่วยรถแข่งลงตัว

“มอนสเตอร์ ยามาฮ่า” ยอดทีมในศึก โมโตจีพี เผยความพร้อมก่อนลุยศึก บริติช กรังด์ปรีซ์ ชี้ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร นักบิดเฟรนช์คัมแบ็กสู่ความฟิตสมบูรณ์จากอาการบาดเจ็บที่เท้า เชื่อรูปแบบใหม่ของสุดสัปดาห์การแข่งขัน จะช่วยให้หาความลงตัวของรถแข่งได้ดีขึ้นในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังศึก โมโตจีพี 2023 ได้ฤกษ์กลับมาดวลความเร็วครึ่งฤดูกาลหลังแล้ว โดยจะเดินทางไปที่ ซิลเวอร์สโตน สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 4-6 สิงหาคมนี้ ในรายการ บริติช กรังด์ปรีซ์ก่อนเข้าสู่ บริติช กรังด์ปรีซ์ ยอดทีมอย่าง มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ทีม ได้มีการยืนยันแยกทางกับ ฟรานโก มอร์บิเดลลี นักบิดอิตาเลียนหลังสิ้นฤดูกาลนี้ พร้อมกับเซ็นสัญญาดึงตัว อเล็กซ์ รินส์ นักบิดสแปนิชเข้าสู่ทีม เพื่อร่วมงานกับ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ในฤดูกาล 2024
มัสซิโม เมเรกัลลี ผู้อำนวยการ มอนสเตอร์ ยามาฮ่า โมโตจีพี ทีม กล่าวว่า “ในที่สุดเราก็กลับมาจากซัมเมอร์เบรกที่ยาวนานแล้ว ฟาบิโอ หายจากอาการบาดเจ็บ ขณะที่ แฟรงกี้ จะใช้เวลาที่เหลือใน โมโตจีพี อย่างเต็มที่ ดังนั้นเราจะเริ่มต้นครึ่งฤดูกาลหลังด้วยแรงจูงใจ และความมุ่งมั่นมากกว่าเดิม เรายังเหลือ 12 เรซของปีนี้ในช่วง 4 เดือนที่เหลืออยู่ การปรับตัวเข้ากับรูปแบบใหม่ในวันศุกร์สำคัญมาก เราจะต้องทำงานให้ราบรื่นที่สุดและรักษามาตรฐานที่ดีเอาไว้จนถึงช่วงเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน”
กวาร์ตาราโร กล่าวว่า “ผมรู้สึกดีมาก เพราะ 5 สัปดาห์ที่เบรกไปช่วยให้ผมฟื้นฟูสภาพร่างกายอย่างมากจากอาการบาดเจ็บที่เท้า ผมสามารถลุกขึ้นมาฝึกซ้อมได้หลังผ่านการพักไป 1 สัปดาห์ แน่นอนว่าการใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนช่วยเพิ่มพลัง ทำให้ผมเดินทางมาที่ สหราชอาณาจักรด้วยทิศทางที่ยอดเยี่ยม”
“ผมเฝ้ารอการแข่งขันที่ ซิลเวอร์สโตน โดยเฉพาะกับการที่จะได้เจอแฟนๆ อีกครั้งหลังซัมเมอร์เบรกที่ยาวนาน ซึ่งนอกเหนือจากนั้นคือรูปแบบของสุดสัปดาห์การแข่งขันที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย ในการผ่านเข้าสู่ Q2 แต่สำหรับผมโดยรวมมันค่อนข้างโอเค ผมคิดว่ามันน่าจะง่ายกว่าที่ผ่านมา” กวาร์ตาราโร เผย
ด้าน มอร์บิเดลลี กล่าวว่า “ช่วงพักเบรกช่วยเพิ่มพลังให้ผมอย่างมาก เราเหลือ 12 สนามที่เหลือในปีนี้ และด้วยรูปแบบใหม่ของวันศุกร์จะทำให้เรามีโอกาสทดลองหลายอย่างมากขึ้น ผมคิดว่านั่นคือการเปลี่ยนแปลงที่สมบูรณ์แบบ แน่นอนว่าเราต้องการการเริ่มต้นที่สดใสในครึ่งฤดูกาลหลัง”
ศึก บริติช กรังด์ปรีซ์ จะเข้าโปรแกรมการซ้อมในวันศุกร์ที่ 4 สิงหาคมนี้ ก่อนควอลิฟายและดวลความเร็วรอบ “สปรินต์” ในวันเสาร์ที่ 5 สิงหาคมนี้ และแข่งขันรอบไฟนอลในวันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคมนี้ 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง SPOTV และ PPTVHD36

“ชิพ-นครินทร์” คว้าที่นั่งร่วมทีม Honda Asia-Dream Racing with SHOWA บิด CBR1000RR-R ลงแข่งขัน Suzuka 8 Hours ครั้งที่ 44 ท้าทายลิมิตด้วยเรซในตำนาน

“ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ยอดนักบิดไทย สังกัดฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ที่เติบโตมากับโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” โดยก้าวขึ้นไปท้าทายจากระดับเอเชียไปสู่ระดับโลก ในการแข่งขัน รายการเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ในรุ่น โมโตทรี มาแล้ว ได้เตรียมพบกับความท้าทายใหม่ เมื่อได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมทีม Honda Asia-Dream Racing with SHOWA ลงทำการแข่งขันศึกสองล้อในตำนานอย่าง Suzuka 8 Hours ครั้งที่ 44 ที่สนามซูซูกะ ประเทศญี่ปุ่น

Honda Asia-Dream Racing with SHOWA จะลงสนามด้วยยอดตัวแข่งที่เป็นตัวท็อปของ CBR Series อย่าง CBR1000RR-R FIREBLADE SP ซึ่งมีดีกรีเป็นแชมป์โลกของการแข่งขัน FIM Endurance World Championship โดยที่ “ชิพ-นครินทร์” จะลงทำหน้าที่ร่วมกับทีมเมทคือ โมฮัมหมัด ซัควาน ไซดี้ นักบิดมาเลเซีย และ แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาร์ นักบิดอินโดนีเซีย เป็นการรวมพลังยอดนักบิดเอเชียของฮอนด้าในการแข่งขันรายการสุดโหดครั้งนี้ ซึ่งจะใช้เบอร์ประจำทีมคือหมายเลข 88
การแข่งขันรายการ Suzuka 8 Hours ถูกบรรจุอยู่ในตารางการแข่งขันของรายการ FIM Endurance World Championship 2023 สนามที่ 3 ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยแข่งกัน 8 ชั่วโมงเต็มด้วยรถแข่ง 1 คันและนักแข่ง 3 คนในทีม ชัยชนะจึงไม่ได้เป็นการขับขี่ในสนามที่เร็วที่สุดเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับการทำงานของทุกคนในทีม การทำงานร่วมกันของนักแข่ง เพราะตลอด 8 ชั่วโมงนี้จะมีการเปลี่ยนตัวนักแข่ง เติมน้ำมัน เปลี่ยนยาง ทุกขั้นตอนของการเข้าพิทนั้นต้องใช้เวลาน้อยที่สุด เมื่อครบ 8 ชั่วโมงผู้ชนะคือผู้ที่ทำระยะทางได้มากที่สุด
การแข่งขัน Suzuka 8 Hours ยังมีความพิเศษที่นักบิดในรายการระดับโลกอย่างโมโตจีพี หรือ รายการ เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ รวมถึงทีมโรงงานต่างๆ ฟอร์มทีมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งการที่ “ชิพ-นครินทร์” นักบิดของไทยได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของนักบิดไทยและผลงานจากการลงสนามแข่งขันภายใต้สังกัด “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ เป้าหมายของ Honda Asia-Dream Racing with SHOWA ในการแข่งขัน Suzuka 8 Hours ปีนี้ตั้งเอาไว้ที่ ท็อป 10 หลังจากที่เมื่อฤดูกาลที่แล้วจบอันดับที่ 11 โดยเป็นการตั้งเป้าหมายที่ท้าทายขีดจำกัดของนักแข่งและทีมขึ้นไปอีกระดับ ซึ่ง “ชิพ-นครินทร์” นักบิดไทยจะร่วมเป็นคีย์แมนสำคัญหนึ่งในทีม
สำหรับ “ชิพ-นครินทร์” ปัจจุบันสร้างผลงานอันสุดแข่งแกร่งในรายการระดับท็อปของประเทศไทยและเอเชียกับยอดตัวแข่ง Honda CBR Series ด้วยการคว้าชัยชนะและนำจ่าฝูงในตารางคะแนนสะสมรุ่น ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี รายการ OR BRIC Superbike 2023 กับตัวแข่ง Honda CBR1000RR-R หมายเลข 41 พร้อมลงแข่งขันและทำผลงานรั้งกลุ่มนำลุ้นโพเดียมอย่างต่อเนื่องในการแข่งขัน Asia Road Racing Championship 2023 รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS600) กับตัวแข่ง Honda CBR600RR
ทั้งนี้ ศึกทรหดในตำนาน การแข่งขันรายการระดับนานาชาติอย่าง Suzuka 8 Hours ครั้งที่ 44 จะลงทำการแข่งขันในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ ที่สนามซูซูกะ ประเทศญี่ปุ่น

CL Reflection Trip “ทริปสะท้อนตัวตน

Honda CL500 รถสไตล์ Scrambler ที่มาพร้อมคอนเซปต์ A Reflection of You ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนแอคทีฟ ที่รักการท่องเที่ยว ชื่นชอบการผจญภัยดีไซน์ลงตัวกับความคลาสสิค ไฟหน้าทรงกลม ควบคุมรถดั่งใจด้วยแฮนเดิลบาร์ยกสูง ออกแบบองศาให้รับกับท่านั่ง พร้อมเบาะสไตล์ Scrambler นั่งสบายไปได้ทุกสภาพเส้นทาง ถังน้ำมัน ขนาด 12 ลิตร พร้อม Rubber Pad ด้านข้างให้ความกระชับ รับกับเบาะที่หนานุ่ม และมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง 500 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ อัดแน่นด้วยระบบการช่วยให้การขับขี่มั่นใจ และปลอดภัย
โช้คอัพหน้าเทเลสโคปิก ขนาดแกน 41 มม. ระยะยุบ 150 มม. พร้อมยางหุ้มแกนโช้คป้องกันสิ่งสกปรกในการลุยทางใน ด้านระบบเบรก ใช้ดิสก์เบรกเดี่ยว พร้อมปั้มเบรก 2 พอร์ต ของ Nissin และระบบ ABS ตัวล้อหน้า ใช้ล้อแม็กอัลลอยขนาด 19 นิ้ว ล้อหลัง 17 นิ้ว ท่อไอเสียเดินแบบยกสูงขนาบด้านข้าง ตามสไตล์ของ Scrambler
เข้าสู่การเดินทาง CL Reflection Trip ทริปสะท้อนตัวตน การขับขี่กับเส้นทางธรรมชาติบริเวณเขาใหญ่ (วังน้ำเขียว) เส้นทางมีโค้งให้เล่นลองพลิกเลี้ยวคอนโทรลดชว์ความคล่องตัว สัมผัสได้ถึงสมรรถนะของช่วงล่างมันตอบสนองได้ดี ด้วยตัวเบาะนั่งแบบตอนเดียววางยาวที่ให้สัมผัสความนุ่มได้ดีมาก ซึ่งรับกับตัวแฮนด์บาร์ทรงกว้างแบบยกสูงได้อย่างพอดี ไม่ว่าคุณจะมุดลัดเลาะไปกับการขับขี่ภายในเมืองใหญ่ หรือการเดินทางออกท่องเที่ยวต่างจังหวัดคุณจะสามารถบังคับเลี้ยว และควบคุมรถคันนี้ได้อย่างมั่นใจ
พละกำลังเครื่องยนต์แบบ 2 สูบเรียง 500 ซีซี. จัดได้ว่าเพียงพอทั้งต่อการใช้ ตัวเครื่องยนต์มีกำลัง และรอบคันเร่งให้ใช้ในทุกจังหวะ จะออกตัว หรือเร่งแซง มีทอร์คให้ได้เล่นพร้อมทะยานไปข้างหน้า บิดกระชากด้วยรอบ 6000 รอบ/นาที มีหน้าลอยเหมือนกัน หรืออยากขับขี่แบบชิวๆ ก็ให้ความสมูทลื่นไหล
ดิสก์เบรกที่ให้มาพร้อมระบบ ABS ทั้งหน้าและหลัง ตอบสนองสั่งการได้รวดเร็วตามสไตล์ของ Honda ชลอหยุดด้วยระยะที่ไม่ไกล จังหวะฉุกเฉินกดเต็มๆ ก็เอาอยู่ล้อไม่มีล็อก ด้วยระบบ ABS โช้คอัพหน้าแบบเทเลสโคปิค พร้อม และด้านหลังเป็นแบบสปริงคู่ที่สามารถปรับได้ถึง 5 ระดับ เป็นการรองรับการขับขี่ บางเส้นทางมีหลุมมีบ่อ ช่วงล่างที่มีความนุ่มและหนึบรูดผ่านได้สบาย มันตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม
ล้อแม็กที่ถูกรัดมาด้วยตัวยางแบบกึ่ง มีร่องดอกยาง ทำให้พามันลงไปลุยในเส้นทางออฟโรดได้ แต่ไม่ถึงกับวิบากจนเกินไป นั่นจุดเด่นที่ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวสนุกขึ้น เพราะในบางครั้งในการเดินทางอาจจะเจอกันเสนทางที่คาดมาถึง หรืออยากจะลงไปขี่ลุยเพื่อแอคชั่นถ่ายรูปเล่นกับเพื่อนๆ ก็ได้

“ราซกัตลิโอกลู” ไล่บดกลุ่มหัวแถว คว้าดับเบิลโพเดียม “เช็ก ราวนด์”

โทปรัค ราซกัตลิโอกลู ดาวบิดสังกัดพาต้า ยามาฮ่า โพรมิทิออน เวิลด์เอสบีเค ยังคงขับเคี่ยวในกลุ่มหัวขบวนได้อย่างเข้มข้น ก่อนจะบิดคว้าดับเบิลโพเดียม จากการชิงชัยในสนาม 8 ศึกเวิลด์ซูเปอร์ไบค์ 2023 ที่ ออโตโดรม โมสต์ บวกแต้มรั้งรองจ่าฝูงบนตารางแชมเปียนชิพศึกซูเปอร์ไบค์ เวิลด์ แชมเปียนชิพ 2023 สนามที่ 8 ของฤดูกาล ดวลความเร็วระหว่างวันที่ 28-30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ณ ออโตโดรม โมสต์ สาธารณรัฐเช็ก ระยะทางต่อรอบ 4.219 กิโลเมตร ชิงชัยทั้งสิ้น 3 เรซ ในรายการอาเซอร์บิส เช็ก ราวนด์ โดย โทปรัค ราซกัตลิโอกลู ดาวบิดสังกัดพาต้า ยามาฮ่า โพรมิทิออน เวิลด์เอสบีเค คว้าโพลเป็นสนามที่ 2 ติดต่อกัน
และยังคงเป็นผลงานอันยอดเยี่ยมของ ดาวบิดเติร์กดีกรีแชมป์โลก ที่ไล่บดกับนักบิดในกลุ่มหัวแถวเพื่อชิงตำแหน่งสูงสุดบนโพเดียม และบิดเข้าเส้นชัยอันดับ 2 จากการชิงชัยในเรซแรก ทั้งยังรักษาฟอร์มอันยอดเยี่ยมของตนเองไว้ได้ในเกมซูเปอร์โพลเรซ สามารถยกระดับผลงานซิ่งคว้าแชมป์มาครอง ก่อนจะพลาดท่าล้มในเรซที่ 2
ด้าน อันเดรีย โลคาเทลลี่ เพื่อนร่วมสังกัด พาต้า ยามาฮ่า โพรมิทิออน เวิลด์เอสบีเค ทำได้ดีที่สุดด้วยการซิ่งคว้าอันดับ 6 จากการชิงชัยในเรซแรก ทว่าพลาดท่าล้มในรอบซูเปอร์โพลเรซ ก่อนจะส่งท้ายเกมที่ สาธารณรัฐเช็ก ด้วยการซิ่งจบการแข่งขันในอันดับ 7
จากผลการแข่งขันดังกล่าวส่งผลให้ โทปรัค ราซกัตลิโอกลู ยังรั้งรองจ่าฝูงบนตารางแชมเปียนชิพ หลังเก็บไปได้ทั้งสิ้น 353 คะแนน ตามด้วย อันเดรีย โลคาเทลลี่ ในอันดับ 3 มีทั้งสิ้น 251 คะแนน ก่อนลงทำการแข่งขันสนามถัดไปในวันที่ 8-10 กันยายน ณ เซอร์กิต เดอ เนแวร์ส แมกนีย์-คูร์ส ประเทศฝรั่งเศส