“วิเออร์เฮ” บิด CBR1000RR-R รั้งท็อปเท็น เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ หลังผ่าน 9 สนามแรก

“ชาวี วิเออร์เฮ” ยอดนักบิดสแปนิชจาก ทีม เอชอาร์ซี ควบรถแข่ง Honda CBR1000RR-R คัมแบ็กสู่ฟอร์มยอดเยี่ยมขยับรั้งอันดับ 10 บนตารางคะแนนสะสม หลังผ่านเรซสุดหินที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สุดสัปดาห์นี้ “อิเคร์ เลกัวน่า” นักบิดสแปนิชหมายเลข 7 กลับมาจับคู่กับทีมเมทอย่าง “ชาวี วิเออร์เฮ” หมายเลข 97 อีกครั้งในศึก เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ ด้วยรถแข่ง Honda CBR1000RR-R ภายใต้โปรเจกต์ของ ทีม เอชอาร์ซี
ผลการแข่งขันเรซแรกปรากฏว่า “วิเออร์เฮ” ผลงานร้อนแรงทะยานจากกริดที่ 19 บิดเข้าเส้นชัยในอันดับ 12 ตามหลังผู้ชนะเพียง 21.932 วินาที ด้านทีมเมทอย่าง “เลกัวน่า” จบเรซในอันดับ 14 ตามหลัง 24.004 วินาที ส่วนเรซที่ 2 “วิเออร์เฮ” ยกระดับความเร็วขึ้นได้อย่างยอดเยี่ยม ไล่แซงคู่แข่งขึ้นมาคว้าอันดับ 10 ตามหลังผู้ชนะเพียง 7.025 วินาทีเท่านั้น ขณะที่ “เลกัวน่า” ตามเข้าเส้นชัยในอันดับ 15 ตามหลัง 1 รอบสนาม
ผ่านการแข่งขัน 9 สนามแรกของปีนี้ “วิเออร์เฮ” รั้งท็อปเท็นบนตารางแชมเปี้ยนชิพ มีทั้งสิ้น 117 คะแนน ส่วน “เลกัวน่า” โดนอาการบาดเจ็บรบกวนทำให้แต้มหายไปรั้งอันดับ 13 มีทั้งสิ้น 94 คะแนน
ทั้งนี้ ศึก เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2023 สนามถัดไปจะดวลความเร็วต่อเนื่องในวันที่ 22-24 กันยายนนี้ ที่ มอเตอร์แลนด์ อรากอน ประเทศสเปน

Suzuki Hayabusa 25 Anniversary

ยี่สิบห้าปี หนึ่งในสี่ของศตวรรษ คำเหล่านี้แสดงถึงเวลาอันมีค่าในโลกของรถจักรยานยนต์ มีความสำคัญมากขึ้นเมื่อตระหนักว่า Ultimate Sportbike, Hayabusa ที่ไม่ธรรมดาของ Suzuki เปิดตัวเมื่อยี่สิบห้าปีที่แล้ว เพื่อเป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์ในช่วงเวลาของการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นที่สร้างชื่อลือกระฉ่อนอีกรุ่นหนึ่งของตนเองนั้น ที่ส่งให้Suzuki มีความภูมิใจที่จะประกาศรุ่นครบรอบ 25 ปีของ Hayabusa ปี 2024ออกมาสู่ตลาด

แม้ว่าในโลกของรถจักรยานยนต์มีวิวัฒนาการที่เปลี่ยนไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในขณะที่ Hayabusa กลับยังคงยึดมั่นในฐานะที่เป็น Ultimate Sportbike ของวงการรถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะล่าสุดกับรุ่นครบรอบ 25 ปีของสปอร์ตไบค์ในระดับเรือธงของซูซูกิยังคงใช้ขุมพลังในการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สี่สูบแถวเรียงที่มีเปี่ยมสมรรถนะและได้รับการขัดเกลาปรับปรุงในส่วนของแชสซีที่ได้รับการพิสูจน์แล้วถึงความทันสมัยมาพร้อมประสิทธิภาพด้วยคุณลักษณะลักษณะที่ไม่มีใครเทียบได้ รวมถึงระบบการจัดการโดยชุดอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ขับที่มีบทบาทสำคัญในปัจจุบันสำรถจักรยานยนต์สมัยใหม่ก็คือระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ทางซูซูกิได้พัฒนาต่อเนื่องจนไม่มีใครเทียบได้แล้วนำมาติดตั้งให้กับ Hayabusa   Hayabusa ฉลองครบรอบ 25 ปี มาถึงในสี Glass Blaze OrangeและGlass Sparkle Blackหรือส้มดำ ที่โดดเด่นและยังเสริมความโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยการมีสัญลักษณ์ Hayabusa ที่เป็นตัวอักษรKanjiในภาษาญี่ปุ่น และโลโก้อันเป็นเอกลักษณ์ ขณะเดียวกันในส่วนขององค์ประกอบคุณลักษณะเฉพาะของ Hayabusa เวอร์ชั่นฉลองครบรอบ 25 ปีประกอบด้วย

จากการออกแบบและพัฒนาต่อเนื่องที่ใช้เทคนิคและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นสำหรับใช้ในรถจักรยานยนต์รหัส GSX-R1000 ด้วยข้อเหวี่ยงมีช่องหล่อลื่นที่ช่วยให้น้ำมันไหลไปยังเพลาข้อเหวี่ยงมากกว่าเครื่องยนต์รุ่นก่อนถึง 54% อันมีส่วนช่วยเพิ่มความทนทานให้กับชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดีมีการเซาะร่อง U-shaped ในกระบอกสูบช่วยให้เกิดการลดแรงดันภายในห้องแคร้งค์ซึ่งเป็นผลช่วยให้ลูกสูบมีความเคลื่อนที่โดยเกิดแรงเสียดทานที่น้อยลงทำให้กระบวนการทำงานของกลไกภายในสามารถลดความสูญเสียกำลังเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ยังมีกระบวนการเคลือบกระบอกสูบ Suzuki Composite Electrochemical Material (SCEM)ที่ช่วยเพิ่มการกระจายความร้อน ความทนทาน และในยังรวมถึงในส่วนของ ring seal,the three ring aluminum-alloy slipper piston ที่ได้รับการปรับรูปร่างและลดน้ำหนัก (น้ำหนักของลูกสูบแต่ละอันลดลง 26 กรัม) นอกจากนี้มีการเคลือบแหวนลูกสูบแบบ Physical Vapor Deposition (PVD) ของโครเมียมไนไตรด์นั้นที่ให้ประสิทธิภาพดีกว่าการชุบโครเมียมทั่วไป ช่วยลดแรงเสียดทาน และในขณะเดียวกันที่มีการปรับปรุงชิ้นส่วนซีลให้ลงตัวกับส่วนของกระบอกสูบที่ทำการเคลือบ SCEM นั่นเองด้วยน้ำหนักที่น้อยกว่าเมื่อเทียบชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์จากรุ่นก่อน ไม่ว่า  เพลาข้อเหวี่ยง ก้านสูบ และลูกสูบ มันจึงช่วยลดการสั่นสะเทือนภายใน ซึ่งส่งผลให้เครื่องยนต์มีความทนทานมากขึ้นกว่าเดิม

นอกจากนั้นยังมีการออกแบบในส่วนของ Twin Swirl Combustion Chamber (TSCC) ที่ฝาสูบซึ่งได้รับการปรับปรุงให้กับเครื่องยนต์รุ่นนี้เพื่อช่วยส่งเสริมคประสิทธิภาพการเผาไหม้ส่วนผสมของเชื้อเพลิงและอากาศที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จากการอัปเดตตรงจุดนี้ได้ช่วยขยายกรอบการอัปเดตในส่วนของวาล์วและอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายคือเพิ่มค่าสัมประสิทธิ์การไหลเวียนเพิ่มขึ้น 5% เพื่อเป็นการช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการเผาไหม้ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ด้วยหัวเทียนอิริเดียมที่ทำงานโดยอิสระจากฝาคอยล์จุดระเบิดในแต่ละกระบอกสูบ ทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นและมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าหัวเทียนทั่วไป

ในส่วนของ การออกแบบแฟริ่งช่วยให้อากาศไหลผ่านหม้อน้ำได้สูง เพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนโดยเมื่อเทียบกับ Hayabusa รุ่นก่อนหน้า จะพบว่ามีการไหลของอากาศเพิ่มขึ้น 8% ในขณะที่ Hayabusa กำลังเคลื่อนตัวเคลื่อนที่ Hayabusa ติดตั้งระบบคันเร่งอิเล็กทรอนิกส์ Ride-by-Wire ของ Suzuki ซึ่งให้การตอบสนองที่เบาและเป็นธรรมชาติช่วยให้การควบคุมคันเร่งสามารถทพได้อย่างแม่นยำ หากไล่ดูรายละเอียดของHayabusa เวอร์ชั่นฉลอง25ปีนี้จะพบว่ามีการเก็บรายละเอียดเสริมเติมแต่งกันอย่างเต็มที่เพื่อให้มันพิเศษจริงๆ ก็คาดว่าหลายคนคงจะต้องผิดหวังหากลังเลที่จะครอบครองรถเวอร์ชั่นพิเศษคันนี้

ยามาฮ่าจับรางวัลแจก “ยามาฮ่า ฟินน์” พร้อมสร้อยคอทองคำ และของรางวัลรวมกว่า 1.5 ล้านบาท ส่งเสริมร้านช่างซ่อมอิสระในแคมเปญ “อะไหล่แท้ แจกจริง ปี 11” เลือกใช้อะไหล่แท้จากยามาฮ่า

นายภาณุพล กิตติคำรณ รองผู้จัดการใหญ่ด้านการขาย บริการและอะไหล่ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และคณะสักขีพยาน ถ่ายรูปร่วมกันในการจับรางวัลภายใต้แคมเปญ อะไหล่แท้ แจกจริง ปี 11 ครั้งที่ 2 โดยในครั้งนี้แจกแบบจัดหนัก รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟินน์ จำนวน 1 คัน สร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง ผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องยามาลู้ป บัตรของขวัญจากห้างสรรพสินค้าโลตัส และของรางวัลอื่นๆ ตลอดรายการรวม 843 รางวัล มูลค่ารวมทั้งสิ้น 1.5 ล้านบาท สำหรับแคมเปญ “อะไหล่แท้ แจกจริง ปี 11” จัดเพื่อเป็นการส่งเสริมร้านช่างซ่อมอิสระให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ และอะไหล่แท้จากยามาฮ่าอาทิเช่น อะไหล่แท้ YTEQ น้ำมันเครื่อง YAMAHALUBE, อุปกรณ์ตกแต่งแท้จากยามาฮ่า ในการซ่อมบำรุงหรือให้บริการแก่ผู้มาใช้บริการ ซึ่งในครั้งนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการส่งคูปองร่วมลุ้นรางวัลมากกว่า 2 หมื่นใบ

โดยการจับรางวัลหาผู้โชคดีใน “อะไหล่แท้ แจกจริง ปี 11 ครั้งที่ 2” มีการจับรางวัลขึ้น ณ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เมื่อเร็วๆ นี้ และสามารถร่วมลุ้นรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟินน์ และรางวัลอื่นๆ ได้อีกครั้งในการจับรางวัล อะไหล่แท้แจกจริงปี 11 ครั้งที่ 3 ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 นี้ โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้โชคดีที่ได้ https://shorturl.asia/hmfD0

ไทยฮอนด้า ร่วมกับ HYPEPRO เปิดตัว “NEW FORZA350 HYPERPRO SPECIAL EDITION” มาพร้อมคอนเซปต์ “DARK GRAVITY แรงดึงดูด ไม่ว่าใครต้องสยบ”

NEW FORZA350 HYPERPRO SPECIAL EDITION ดีไซน์เข้มขั้นสุดด้วยลายเส้นสีม่วงที่เป็นสีเอกลักษณ์ของ HYPERPRO รวมถึงชุดกราฟฟิกที่ออกแบบมาให้ลงตัวตัดกับตัวรถสีดำ เข้าชุดกับแผ่นวางเท้าสีม่วง และวงล้อสีม่วง NEW FORZA350 HYPERPRO SPECIAL EDITION เหนือชั้นด้วยโช้คคู่จาก HYPERPRO ที่พัฒนาขึ้นเพื่อ NEW FORZA350 โดยเฉพาะ ถ่ายทอดดีเอ็นเอของ HYPERPRO เพิ่มความเร้าใจให้ทุกการขับขี่
ทั้งนี้ HYPERPRO SHOCK-UP ที่ติดตั้งในรถรุ่นนี้ ถือเป็นหนึ่งในรุ่นที่ดีที่สุดของระบบกันสะเทือนแบบคู่ โดยผลิตจากอลูมิเนียมขนาดเบา กระบอกขนาด 36 mm. ประกอบกับแกน 16 mm. ที่มีความแข็งแรงและยึดหยุ่น กระบอกเก็บแก๊สแยกช่วยในการระบายแรงอัดภายในระบบกันสะเทือน รวมถึง Progressive Springs สามารถปรับและตั้งค่าได้หลายระดับ ตั้งแต่แบบ High-Low Speed Compression และ Preload รองรับผู้ใช้งานตามสไตล์การขับขี่

ฮอนด้า พร้อมวางจำหน่าย NEW FORZA350 HYPERPRO SPECIAL EDITION ราคาแนะนำ 231,900 บาท ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ศูนย์ Honda Wing Center ทั่วประเทศติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรมจากรถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้ที่
เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : fb.com/hondamotorcyclethailand

“เด็กไทย” เฉิดฉาย! ประเดิมคว้าท็อป 7 ศึกดาวรุ่งชิงแชมป์ยุโรปที่ ฝรั่งเศส

“เติ้ล” วรพรต ทองดอนเหมือน ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม สร้างผลงานกระหึ่มเวทีดาวรุ่งยุโรป เปิดตัวครั้งแรกบิดคว้าท็อป 7 ในศึก Yamaha R3 bLU cRU European Championship 2023 ขณะ “ไอเดีย” กฤตภัทร เขื่อนคำ โชคร้ายพลาดล้มในการแข่งขันสนามสุดท้ายเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่ประเทศฝรั่งเศส
การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบดาวรุ่งชิงแชมป์ยุโรป รายการ Yamaha R3 bLU cRU European Championship 2023 สนามสุดท้าย ดวลความเร็ว 2 เรซเมื่อวันเสาร์ที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา ที่ เซอร์กิต แม็กนีย์-คูร์ส ประเทศฝรั่งเศส
เกม 2 เรซสุดท้ายมีความหมายอย่างมากต่อการไล่ล่าอันดับบนตารางแชมเปียนชิพของดาวรุ่งชาวไทยอย่าง “ไอเดีย” กฤตภัทร เขื่อนคำ เจ้าของหมายเลข 32 นอกจากนี้ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ยังมอบโอกาสทองเพื่อสัมผัสการแข่งขันระดับโลกให้กับ 2 ดาวรุ่งอย่าง “แฟรงค์” ภาสกร แสนหลวง หมายเลข 53 และ “เติ้ล” วรพรต ทองดอนเหมือน หมายเลข 54
เรซแรกของสุดสัปดาห์นี้ เกิดจุดเปลี่ยนตั้งแต่รอบแรกของการแข่งขัน เมื่อ “ไอเดีย” กฤตภัทร ซึ่งออกตัวจากกริดที่ 4 พลาดล้มไปอย่างน่าเสียดาย ส่งผลให้ไม่สามารถเก็บแต้มสำคัญและพลาดลงแข่งในเรซที่ 2 ด้วยขณะที่ “เติ้ล” วรพรต สตาร์ตจากกริดที่ 14 ไล่บดกับยอดดาวรุ่งจากทั่วโลกอย่างไม่เกรงกลัว บิดเข้าป้ายในอันดับ 11 ตามหลังผู้ชนะเพียง 2.559 วินาทีเท่านั้น ประเดิมเก็บแต้มได้สำเร็จ ส่วนทีมเมทอย่าง “แฟรงค์” ภาสกร เข้าเส้นชัยในอันดับ 19 ตามหลัง 18.048 วินาที
ส่วนเกมเรซที่ 2 นับเป็นเรซที่ดาวรุ่งชาวไทยอย่าง “เติ้ล” วรพรต เฉิดฉายอย่างมาก ไล่บี้กับกลุ่มหน้าอย่างสุดมัน ก่อนคว้าอันดับ 7 มาครองด้วยเวลาตามหลัง อัลดี้ มาเฮนดร้า นักบิดอินโดนีเซียเพียง 1.185 วินาทีเท่านั้น ขณะที่ “แฟรงค์” ภาสกร ขยับขึ้นมาคว้าแต้มได้สำเร็จ หลังบิดเข้าป้ายในอันดับ 15 ตามหลังผู้ชนะ 22.691 วินาที
โดยหลังจบฤดูกาล 2023 “ไอเดีย” กฤตภัทร สร้างผลงานยอดเยี่ยมบิดคว้าโพเดียมมา 3 ครั้งในปีนี้ รั้งอันดับ 6 บนตารางแชมเปียนชิพมีทั้งสิ้น 119 คะแนน ส่วนทีมเมทอย่าง “เอิร์ธ” ธุรกิจ บัวผา ที่ไม่ได้ลงแข่งสนามสุดท้ายจากอาการบาดเจ็บ รั้งอันดับ 19 มีทั้งสิ้น 57 คะแนน ในปีแรกที่เข้าร่วมแข่งขันรายการนี้
การแจ้งเกิดครั้งนี้ของ “เติ้ล” วรพรต ทองดอนเหมือน และ “แฟรงค์” ภาสกร แสนหลวง นับเป็นสัญญาณที่ยอดเยี่ยมของ “ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม” ที่สามารถผลักดันนักแข่งดาวรุ่งชาวไทยขึ้นสู่เวทีระดับโลกอย่างแข็งแกร่ง

“ไทยยามาฮ่า” ประเดิมสวย “เวอร์ดัว” รั้งท็อป 4 ซ้อมแรก “อนุภาพ” ปรับตัวเยี่ยม

“ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม” เปิดตัวได้อย่างยอดเยี่ยมในศึก เวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต แชมเปียนชิพ 2023 สนาม 9 โดย แอนดี้ เวอร์ดัว นักบิดเฟรนช์ของทีมกดเวลารั้งท็อป 4 จากการซ้อมครั้งแรกที่ เซอร์กิต-แม็กนีย์ คูร์ส ประเทศฝรั่งเศส ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 41.626 วินาที

ขณะ “ตี” อนุภาพ ซามูล ยอดนักบิดไทยประเดิมลงบิดครั้งแรก ปรับตัวยอดเยี่ยมรั้งอันดับ 27 ด้วยเวลา 1 นาที 44.046 วินาที ก่อนลุ้นหนักสุดสัปดาห์นี้ ที่ ประเทศฝรั่งเศส
ทั้งนี้ การซ้อมครั้งที่ 2 ของสองนักบิด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม จะมีขึ้นในคืนวันศุกร์นี้ 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ก่อนดวลความเร็วเรซแรกในวันเสาร์ที่ 9 กันยายนนี้ 20.15 น. และเรซที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายนนี้ 17.30 น.

“ก้อง-สมเกียรติ” รั้งท็อปเท็นซ้อม โมโตทู หวังเซ็ตติ้งลงตัวก่อนบู๊ มิซาโน

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ต้องเจองานสุดท้าทายในศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ สนาม 12 รายการ ซาน มาริโน กรังด์ปรีซ์ แต่สามารถรั้งท็อปเท็นจากการซ้อมวันแรก เจ้าตัวหวังเซ็ตติ้งรถแข่งลงตัว เพื่อเดินหน้าล่าคะแนนสะสมให้มากที่สุดที่ มิซาโน เวิลด์ เซอร์กิต มาร์โก ซิมอนเชลลี ประเทศอิตาลี สุดสัปดาห์นี้
โดยผลการซ้อมรวมในวันแรกปรากฏว่า สมเกียรติ รั้งอันดับ 10 หลังผ่านการซ้อม 2 ครั้งแรกด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 36.903 วินาที โดยถือเป็นงานหนักสำหรับนักบิดไทยหลังพลาดล้มถึง 2 ครั้งในช่วงบ่าย จากการพยายามหาเซ็ตติ้งที่ลงตัวที่สุดสำหรับรถแข่งสมเกียรติ กล่าวว่า “นี่คือหนึ่งในการซ้อมที่ยากมากในปีนี้ ซ้อมครั้งแรกเราพยายามหาเซ็ตอัพรถแข่ง และตัวเลือกยางสำหรับการแข่งขัน ส่วนซ้อมครั้งที่ 2 เราลงซ้อมด้วยยางใช้แล้ว เพื่อยืนยันความทนทานของมัน”
“ทีมช่างของเราซ่อมรถแข่งออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ จนผมกลับมาขี่ได้อีกครั้งในช่วง 15 นาทีที่เหลือของ P2 พร้อมกับตรวจสอบว่ารถแข่งไม่มีอะไรผิดปกติ “
ทั้งนี้ ศึก ซาน มาริโน กรังด์ปรีซ์ จะควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ตในวันเสาร์ที่ 9 กันยายน และดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน เริ่มต้นด้วย โมโตทู 17.15 น. และติดด้วยรุ่นใหญ่อย่าง โมโตจีพี 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ร่วมติดตามเชียร์และให้กำลังใจยอดดาวรุ่งนักบิดไทยให้คว้าชัยแห่งความภูมิใจมาฝากกองเชียร์ชาวไทย พร้อมติดตามข่าวสารของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

“ยามาฮ่า ฟินน์” ส่งหนังรักออนไลน์ Long Time No See “5 ปี…เรื่องดีดี ที่เราได้พบกัน” ส่งเสริมการขาย เอาใจวัยรุ่นตอกย้ำ “ความฟินน์”

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดตัวหนังสั้นออนไลน์ครั้งแรกของรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟินน์ รถครอบครัวสุดประหยัด เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ตราสินค้าผ่านเรื่องราวของเด็กหนุ่ม ที่หลงรักสาววัยใส กับระยะเวลา 5 ปี การันตีความในใจ จนเกิดเป็นเรื่องดีๆ ของคนสองคนผ่านฝีมือการกำกับการแสดงของ “ช้ง ชาติชาย วรเพียรกุล”

ยามาฮ่ามีแนวความคิดในการสร้างหนังสั้น เรื่อง Long Time No See “5 ปี….เรื่องดีดี ที่เราได้พบกัน” นี้ขึ้นเพื่อให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างชีวิตวัยรุ่นกับรถจักรยานยนต์ รวมถึงสร้างการรับรู้แคมเปญที่ยามาฮ่าการันตี คือการรับประกันสินค้า 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของหนังสั้นที่มีความน่าสนใจ มีเนื้อหาที่น่าติดตาม และเป็นการขยายฐานลูกค้ามายังกลุ่มวัยรุ่นเพิ่มมากขึ้น” โดยหนังสั้น Long Time No See “5 ปี….เรื่องดีดี ที่เราได้พบกัน” นั้น ยามาฮ่าได้ร่วมมือกับ BRANDTHINK CINEMA ในการสร้างหนังสั้นเรื่องนี้ขึ้นมาผ่านการกำกับการแสดงจากผู้กำกับชื่อดังของเมืองไทย ช้ง ชาติชาย วรเพียรกุล โดยมี 3 นักแสดงรุ่นใหม่มาร่วมถ่ายทอดความฟินน์ นำโดย เซน จตุรวิชญ์ เชี่ยวประสิทธิ์, เจเจ นาราชา รัชวิชโรธร และ ยูโร วรัชต์ธิปต์ กิตติสิริไพศาล มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวของ วิน เด็กหนุ่ม ม.ปลาย หน้ามึน อึนๆ ไปจีบ จ๋า สาวเนิร์ท ร่วมชั้นเรียน กับระยะเวลา 5 ปี ที่ต้องจากกันไป แต่จะมีอะไรบางอย่างที่ไม่เคยเปลี่ยนจริงหรือเปล่า ยามาฮ่า ฟินน์ จะทำให้คุณได้รู้ว่าเวลา 5 ปี .. แม้ระยะทางจะไกลแค่ไหน แต่มีบางสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง”

สำหรับรถจักรยานยนต์ “ยามาฮ่า ฟินน์” กำลังเป็นรถที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มวันรุ่นยุคใหม่ หลังจากที่ได้เปิดตัวสินค้ารถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟินน์ สีใหม่ล่าสุด ปี 2023 ที่ผ่านมา ด้วยความเป็นรถครอบครัวระดับพรีเมี่ยม โดดเด่นกว่าด้วยสีสันใหม่ กราฟฟิกสวยล้ำโดนใจไม่ซ้ำใคร มาพร้อมกับล้อแม็กสีทอง และระบบเบรก UBS ที่กระจายแรงเบรก ไปทั้งล้อหน้าและล้อหลัง ช่วยให้หยุดรถได้อย่างมั่นใจ เครื่องยนต์แรงเร้าใจ ขี่ง่าย ทนทาน ประหยัดน้ำมัน และการออกแบบฟีเจอร์ที่ล้ำกว่าใครด้วยการเป็นเจ้าแรกที่ดีไซน์ ช่องใส่ของอเนกประสงค์ ด้านหน้ารถ สะดวกสบายในการใช้งาน และที่เก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่
พร้อมจัดเต็มกับโปรโมชันสุดคุ้ม “ฟินน์ทุกที่…ฟรีทุกคน” เมื่อซื้อรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟินน์ ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม -31 ตุลาคม 2566 รับของแถมฟรีทันที 3 รายการ รวมมูลค่า 1,200 บาท ได้แก่ 1.หมวกกันน็อก Finn 1 ใบ 2.ตะกร้าหน้า 1 ชิ้น 3.กันลาย 1 ชิ้น พร้อมเพิ่มความมั่นใจในคุณภาพสินค้ากับการรับประกันทั้งคัน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ให้ทุกคนได้ ฟินน์แบบไร้ขีดจำกัด สำหรับหนังสั้นออนไลน์เรื่องแรกของยามาฮ่า ฟินน์ เรื่อง Long Time No See “5 ปี…เรื่องดีดี ที่เราได้พบกัน” สามารถรับชมได้แล้วผ่านทางช่องทาง Online ที่ YouTube Chanel : Yamaha Society Thailand ได้ตั้งแต่ 8 กันยายน นี้ เป็นต้นไป

“กวาร์ตาราโร” เชื่อมั่น “ยามาฮ่า” ทุ่มสุดตัวยกระดับผลงานที่ มิซาโน

“เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ยอดนักบิดเฟรนช์จาก “มอนสเตอร์ ยามาฮ่า” ออกโรงแสดงความเชื่อมั่นว่า “ยามาฮ่า” กำลังทุ่มสุดความสามารถเพื่อยกระดับรถแข่ง M1 สำหรับการแข่งขัน โมโตจีพี สุดสัปดาห์นี้ที่ มิซาโน

ศึก โมโตจีพี 2023 เดินทางเข้าสู่การแข่งขันสนามที่ 12 รายการ ซาน มาริโน กรังด์ปรีซ์ ระหว่างวันที่ 8-10 กันยายนนี้ ที่ มิซาโน เวิลด์ เซอร์กิต มาร์โก ซิมอนเซลลี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสนามที่ ยามาฮ่า สร้างผลงานยอดเยี่ยมในทุกปีที่ผ่านมา
โดยล่าสุด ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร อดีตแชมป์โลก 1 สมัยจาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี กอบกู้สถานการณ์ร่วมกับทีมได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขัน คาตาลัน กรังด์ปรีซ์ ด้วยการคว้าอันดับ 7 แม้จะออกตัวจากกริดที่ 17 ก็ตาม
กวาร์ตาราโร เปิดเผยว่า “การแข่งขันที่ บาร์เซโลนา มีทิศทางเป็นบวก เราต้องพยายามหาเซ็ตอัปสำหรับวันอาทิตย์ให้ดีที่สุด ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราได้ข้อมูลมากขึ้น และนั่นจะทำให้เรายืนยันแนวทางการทำงานได้”
“มิซาโน คือแทร็กที่ยอดเยี่ยม เราต้องลงบิดที่นี่ 4 วัน เพราะมีการทดสอบอีก 1 วัน ผมรู้ดีว่าทีมของเรากำลังทำงานอย่างสุดความสามารถ ดังนั้น เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อยกระดับให้ได้ในสุดสัปดาห์นี้” เจ้าของรถแข่งหมายเลข 20 เผย
ทั้งนี้ ศึก ซาน มาริโน กรังด์ปรีซ์ จะเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมในวันศุกร์ที่ 8 กันยายนนี้ ก่อนจะควอลิฟายและแข่งขันรอบ “สปรินต์” ในวันเสาร์ที่ 9 กันยายน และดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายนนี้ 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง SPOTV และ PPTVHD36

“ก้อง-สมเกียรติ” ตั้งเป้าคืนฟอร์มล่าอันดับกลุ่มหน้า โมโตทู มิซาโน

ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2023 เดินทางมาถึงสนามที่ 12 ของฤดูกาลแล้ว “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากสังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ยังคงอยู่ในเส้นทางไล่ล่าท็อป 5 บนตารางแชมเปี้ยนชิพของ โมโตทู 2023 ปัจจุบันรั้งอันดับ 9 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ มีทั้งสิ้น 79 คะแนน ซึ่งซาน มาริโน กรังด์ปรีซ์ นับเป็นอีกหนึ่งสนามของปฏิทิน โมโตทู ที่นักบิดไทยเจ้าของรถแข่งหมายเลข 35 สร้างผลงานยอดเยี่ยม โดยคว้าอันดับ 8 ในปีที่ผ่านมา

“ก้อง-สมเกียรติ” เปิดเผยว่า “สุดสัปดาห์นี้ เราจะแข่งกันที่ มิซาโน ครับ เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด จากสิ่งที่เราทำได้เสมอ เป้าหมายคือการเดินหน้าคว้าแต้ม ปีที่แล้วผมทำงานในทิศทางบวก หากเทียบกับฤดูกาลก่อนหน้า ที่นี่ไม่ใช่สนามโปรดของผม แต่ผมสนุกกับมันมากในปี 2022 และผมหวังว่าจะทำมันให้ได้อีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้”

ทั้งนี้ ศึก ซาน มาริโน กรังด์ปรีซ์ จะเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมในวันศุกร์ที่ 8 กันยายนนี้ ก่อนจะควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ตในวันเสาร์ที่ 9 กันยายน และดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน เริ่มต้นด้วย โมโตทู 17.15 น. และตามด้วยรุ่นใหญ่อย่าง โมโตจีพี 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง PPTVHD36 และ True Visions SPOTV
แฟนความเร็วชาวไทยสามารถติดตามข่าวสารพร้อมส่งกำลังใจเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา และติดตามความเคลื่อนไหวของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : Race to The Dream

“ก๊องส์-ธัชกร” บินกลับไทยช่วงพักเบรกฤดูกาล ตั้งเป้าคว้าชัย หลังคว้าโพเดียม “จูเนียร์ จีพี” สนาม 4 โปรตุเกส พร้อมเตรียมเดินหน้าประเดิมคว้าแต้ม “โมโตทรี” โฮมเรซ

“ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ยอดนักบิดดาวรุ่งของไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” บินกลับประเทศไทย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เจ้าตัวลั่น ตั้งเป้าคว้าแชมป์เพิ่มในการแข่งขันที่เหลืออีก 2 สนามในรายการ “เอฟไอเอ็ม จูเนียร์ จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ” หลังฝากผลงานคว้าโพเดียมอันดับ 2 ในการแข่งขันที่ อัลการ์ฟ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศโปรตุเกส พร้อมประกาศเดินหน้าสู่เป้าหมายที่ท้าทายในระดับสูงขึ้น ด้วยการตั้งเป้าคว้าแต้มในการแข่งขันโมโตจีพี รายการ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023” รุ่น โมโตทรี ด้วยตัวแข่ง Honda NSF250RW ซึ่งคาดว่าจะเป็นสนามที่ 4 ที่จะได้สิทธิ์ไวลด์การ์ด ตามแผนที่ได้ประกาศไว้ตั้งแต่ต้นฤดูกาลอย่างแน่นอน

“ก๊องส์-ธัชกร” เผยโปรแกรมในช่วงพักเบรกฤดูกาล “ผมกลับมาประเทศไทยในช่วงพักเบรกที่ไม่มีการแข่งขัน เพื่อพักผ่อนกับครอบครัว อย่างไรก็ตามผมยังต้องฝึกซ้อมในระหว่างนี้ และจะเดินทางกลับไปแข่งขันรายการ จูเนียร์ จีพี ในสนามที่เหลืออีก 2 สนาม ซึ่งผมตั้งใจจะคว้าชัยชนะกลับมาให้แฟนๆ ชาวไทยให้ได้อีกครั้ง รวมถึงอีกหนึ่งความท้าทายที่ฮอนด้าได้มอบโอกาสและประสบการณ์ในรายการใหญ่อย่าง โมโตทรี จากการได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ด 3 สนามที่ผ่านมา ผมต้องปรับตัวและเรียนรู้ให้มากขึ้น ส่วนตัวพอใจกับผลงานที่ทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ และหวังว่าจะดีขึ้นไปอีก ด้วยการคว้าคะแนนจากสนามโฮมเรซใน ไทยจีพี ที่ผมจะได้ลงแข่งขันต่อหน้าแฟนๆ ชาวไทยด้วยความภาคภูมิใจ เพื่อขอบคุณทุกๆ คนที่ส่งกำลังใจเชียร์ผมครับ”

การแข่งขันรายการ “เอฟไอเอ็ม จูเนียร์จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2023” 2 สนามสุดท้ายจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 8 ตุลาคมนี้ ที่ มอเตอร์แลนด์ อารากอน ประเทศสเปน และวันที่ 4-5 พฤศจิกายนนี้ ที่ เซอร์กิต ริคาร์โด ตอร์โม เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน ซึ่งการแข่งขันรายการ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023” ในรุ่น โมโตทรี จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 29 ตุลาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เป็นที่คาดหมายว่าจะเป็นสนามที่ 4 ที่ “ก๊องส์-ธัชกร” จะได้สิทธิ์ไวลด์การ์ดเพื่อลงทำการแข่งขันในโฮมเรซ จากที่ได้ประเดิมผลงานใน 3 สนามแรก ที่ ซัคเซนริง เซอร์กิต ประเทศเยอรมนี, เรดบูล ริง ประเทศออสเตรีย และ คาตาลุนญา ประเทศสเปน ด้วยผลงานที่พัฒนาอย่างยอดเยี่ยมขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นประสบการณ์สำคัญที่ท้าทายเจ้าตัวอย่างมากในการก้าวสู่การแข่งขันในระดับสูงต่อไป

ทั้งนี้ กองเชียร์ชาวไทยจะได้ส่งเสียงเชียร์นักแข่งไทยในโฮมเรซ รายการ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023” ได้แก่ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ในรุ่นโมโตทรี และ “คิงคองก้อง” สมเกียรติ จันทรา ในรุ่นโมโตทู โดยทั้งคู่ถือเป็นผลผลิตจากการพัฒนาและสนับสนุนนักแข่งจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” สู่เป้าหมายผลักดันนักแข่งไทยสู่เวิลด์กรังด์ปรีซ์ รุ่นโมโตจีพี ในปี 2025
ร่วมติดตามเชียร์และให้กำลังใจยอดดาวรุ่งนักบิดไทยให้คว้าชัยแห่งความภูมิใจมาฝากกองเชียร์ชาวไทย พร้อมติดตามข่าวสารของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

ฮอนด้าผงาดคว้าแชมป์โลก TrialGP 2023 หลัง โทนี่ โบ ระเบิดฟอร์มเหมาชัยชนะที่ฝรั่งเศส

“โทนี่ โบ” ยอดนักขี่ไทรอัลชาวสแปนิชจาก Repsol Honda Trial Team ผงาดคว้าแชมป์โลกรายการ การแข่งขัน TrialGP World Championship 2023 ได้เป็นที่เรียบร้อย หลังคว้าชัยชนะเรซที่ 1 ในการแข่งขันที่ Vertolaye ในประเทศฝรั่งเศส ด้วยการทำคะแนนสะสมขาดลอยจากคู่แข่ง แม้ว่าจะยังมีการแข่งขันอีก 1 เรซ และอีก 1 สนามสุดท้ายก็ตาม โดยเป็นการคว้าแชมป์โลกไทรอัลครั้งที่ 17 ในประเภทเอาท์ดอร์ ซึ่งรวมทั้งหมดแล้วนับเป็นแชมป์โลกครั้งที่ 33 ของยอดนักบิดฮอนด้า

การแข่งขัน TrialGP World Championship 2023 สนามที่ 7 ดวลกันที่ Vertolaye ในประเทศฝรั่งเศส วันแรก “โทนี่ โบ” เริ่มต้นการแข่งขันอย่างยอดเยี่ยม ขึ้นนำทันทีในช่วงต้นของโซนด้วยแต้มที่โดนลบเป็น 0 ขณะที่เข้าโซนที่สองยังแข็งแกร่งต่อเนื่องก่อนที่จะทำผลงานเหนือคู่แข่งและคว้าชัยชนะในวันแรกไปครอง ซึ่งส่งผลให้เป็นแชมป์โลก TrialGP ในฤดูกาล 2023 นี้ทันที แม้ว่าจะเหลือการแข่งขันวันที่ 2 และอีก 1 สนามสุดท้ายก็ตามทางด้านของทีมเมทอย่าง “กาเบียล มาเซลลี่” มีศักยภาพในการแข่งขันที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าจะโชคร้ายมีความผิดพลาดตั้งแต่เริ่มต้น แต่สามารถทำผลงานขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และคว้าอันดับที่ 3 ก่อนที่จะขึ้นไปฉลองบนโพเดียมกับเพื่อนร่วมทีม
การแข่งขันวันที่ 2 “โทนี่ โบ” ที่คว้าแชมป์โลกไปแล้วยังคงมุ่งมั่นที่จะทำผลงานให้ดีที่สุดอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นทำคะแนนทิ้งห่างคู่แข่ง ก่อนจะจบการแข่งขันด้วยชัยชนะอีกครั้ง ทางด้าน “กาเบียล มาเซลลี่” ขึ้นโพเดียมอีกเรซในอันดับที่ 3 หลังจากที่เกาะอยู่ในกลุ่มท็อป 5 ช่วงแรกและขยับอันดับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยในตารางคะแนนแชมเปี้ยนชิพ “กาเบียล มาเซลลี่” มีโอกาสอย่างมากในการรักษาตำแหน่งเพื่อจบท็อป 3 ของโลกในฤดูกาล 2023
การแข่งขัน TrialGP World Championship 2023 ยังเหลืออีก 1 สนาม โปรแกรมสนามที่ 8 ในวันที่ 8 – 10 กันยายน นี้ ที่ Auron ประเทศฝรั่งเศส