ยามาฮ่า สานต่อเกม Moto Challenge 2016 ปีที่ 2 พร้อมยกระดับนักบิดอาชีวะพัฒนาสู่การเป็นนักแข่งมืออาชีพ

นายสมเกียรติ พูลขวัญ (คนที่ 4 จากขวา) รองผู้จัดการใหญ่ ด้านบริหาร และนายธีระพงษ์ โอภาสกรกุล (คนที่ 4 จากซ้าย) ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายสนับสนุนการขาย และการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมถ่ายภาพกับ ดร.กรณ์พงศ์ ดอกบัว (คนกลาง) อุปนายกสมาคมฝ่ายวิชาการ วิทยาลัยเทคโนโลยี และอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย พร้อมนักแข่งซึ่งเป็นนักศึกษาจากสถาบันอาชีวศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ Yamaha Moto Challenge 2016 โดยในครั้งนี้ยามาฮ่าจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อเป็นแนวทางมุ่งสู่วิชาชีพทางด้านกีฬามอเตอร์สปอร์ต และในปีนี้มีทีมจากสถาบันอาชีวศึกษาเอกชนให้การตอบรับเข้าร่วมทำการแข่งขันเกือบ 30 สถาบัน สำหรับการแข่งขัน Yamaha Moto Challenge 2016 สนามที่ 1 นี้ จัดขึ้น ณ สนามไทยแลนด์ เซอร์กิต นครชัยศรี จ.นครปฐม เมื่อเร็วๆ นี้

RidingMagazine#240 : Test on track – YZF R3 K-Sport

เทส ออน แทร็ค จัดตัวแรงของ YZF-R3 เวอร์ชั่นรถแข่งที่แรงด้วยผลงานมาให้สัมผัสกันแบบดิ้นได้ ส่วนรายละเอียดเต็มๆ ไปเน้นกันในนิตยสารไรดิ้ง ฉบับ 240 กันยายน 58

[HD] Riding Magazine#229 : Cover Story – Yamaha SR400

อีกหนึ่งตัวตนของคนเดินทางที่ไม่ยึดติดกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากเกินไป Yamaha SR400 รถรุ่นใหม่สไตล์เก่า กับนักทดสอบจอมเก๋าของเราเข้ากันได้อย่างลงตัว ชมคลิปประกอบคอลัมน์เรื่องจากปก ฉบับเดือนตุลาคม 2557 มาดูกันว่ารถกับคนอะไรจะเก๋ากว่ากัน

[HD] Riding Magazine#232 : Cover Story – Benelli TNT 600 GT

เปลี่ยนบรรยายกาศมาลองเดินทางท่องเที่ยวกับเพื่อนตัวใหญ่ ทัวริ่งไบค์พิกัดกลางจากค่ายเบเนลลี่ ขุมพลังที่คุ้นเคยกับสุดส่วนหน้าตาที่เปลี่ยนมาเพื่อความสะดวกสบาย อยากรู้ว่านักทดสอบของเรารู้สึกอย่างไรกับรถคันนี้ คลิกเข้าไปดูในคลิปได้เลยครับ

SYM MAXSYM 600iABS

บิ๊กสกู๊ตเตอร์เป็นอีกทางเลือกของการใช้งานเดินทางท่องเที่ยวที่นิยมในช่วงปลายปี นอกจากความสบายของการขับขี่ ยังมีอีกสารพัดความสะดวกจาก เอสวายเอ็ม แม็กซิม 600i ABS ที่พร้อม ตอบสนองความต้องการของนักเดินทางที่จะโลดแล่นดุจล่องลอยไปในทุกเส้นทาง แม้การ ใช้งาน ในเมืองก็สะดวกสบาย

สมัยนี้เดินทางไปไหนมาไหนทั้งใกล้ทั้งไกล โอกาสได้พบเห็นรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ที่เรียกกันติดปากว่า “บิ๊กไบค์” พบเห็นได้ง่ายมาก ในบรรดารถจักรยานยนต์หลากหลายประเภท รถจักรยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติที่เรียกรวมว่า “สกู๊ตเตอร์” ก็เป็นหนึ่งในยานพาหนะที่ได้ถูก
นำมาพัฒนาเพื่อการใช้งานที่มีข้อจำกัดน้อยลง ด้วยการใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ระบบรองรับที่แข็งแกร่งแต่นุ่มนวล ระบบเบรกที่มั่นใจว่าสมดุลกับความเร็วสูง บนไฮเวย์ จนกลายมาเป็น “บิ๊กสกู๊ตเตอร์” รถบิ๊กไบค์ที่ขับขี่ได้ง่ายดาย แต่ตอบสนองได้เทียบเท่ากับรถประเภทอื่นไม่ว่าจะเป็นการทำความเร็ว ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และที่ได้เปรียบรถประเภทอื่นก็คือช่องเก็บของที่หลากหลายในเรือนร่างที่ใหญ่แต่ไม่ไร้ประโยชน์

ดิสก์เบรกหน้าคู่พร้อมระบบป้องกันล้อล็อค (ABS)

ดิสก์เบรกหลังขนาดใหญ่ที่เห็นสายสลิงคือเบรกมือ

ไฟหน้าชัดใสพร้อมไฟหรี่ LED มีบังลมทรงสูงลดแรงลมปะทะคนขี่

ปลอกแฮนด์และมือเบรกขนาดใหญ่ปรับได้ 4 ระดับ

ปั้นท้ายใหญ่หนามาพร้อมพนักหลังและไฟท้ายคู่อลังการ

เบรกหลังก็เป็น ABS โรเตอร์วางคนละด้านกับจานดิสก์

ช่องเก็บของขนาดใหญ่มีทั้งไฟและโช้คค้ำสะดวกมาก

เปิดเบาะด้วยกุญแจหรือกดสวิทช์สีเหลืองที่มือซ้ายก็ได้

หมดปัญหาเรื่องเปิดฝาแล้วไม่รู้จะวางไว้ตรงไหน

อลังการงานสร้างกับจอแสดงผลที่ปรับใช้ได้ตามสะดวก

สูบเดียวหัวฉีด 600 ซีซี
นิยามของบิ๊กไบค์ไม่ใช่ขนาดของตัวรถที่ใหญ่โต แต่เป็นปริมาตรของเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง แม็กซิม 600i ABS คือบิ๊กสกู๊ตเตอร์ ด้วยเครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ ปริมาตร 598 ซีซี สูบเดียวขนาดใหญ่ 4 วาล์ว ต่อสูบ พร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดเชื้อเพลิงและระบายความร้อนด้วยของเหลว ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ขนาดนี้มันเหลือเฟือสำหรับการขับขี่ระยะทางไกลด้วยความเร็วที่สามารถทำเวลาได้ไม่ยาก ทั้งยังตอบสนองด้วยอัตราเร่งที่ฉับไวไม่มีเสียจังหวะ
ช่วงล่างระดับบิ๊ก
เพื่อรองรับต่อความเร็วของเครื่องยนต์ แม็กซิม 600i ABS ได้ให้ความมั่นใจในการทรงตัวมาด้วยกันสะเทือนหน้าแบบเทเลสโคปิกขนาดใหญ่ 41 มม. รับหน้าที่ดูดซับแรงกระแทกจากพื้นถนนได้ดีเยี่ยม ส่วนด้านหลังเป็นแบบโช้คคู่ที่สามารถปรับความแข็งของสปริงได้ถึง 5 ระดับ ทำงานร่วมกับระบบยูนิตสวิง แข็งแกร่งด้วยล้อแม็กหน้ากว้างรองรับกับยางขนาด 120/70-15 ที่ด้านหน้า ส่วนด้านหลัง เป็นยางหน้ากว้างในขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางวงล้อที่ย่อมลงมา 160/60-14

ดิสก์เบรก เอบีเอส
ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในอันดับแรกของการขับขี่รถจักรยานยนต์ ด้วยเครื่องยนต์ที่มีอัตราเร่งฉับไว แถมยังส่งความเร็วปลายได้สูงนั้น จำเป็นที่จะต้องมีระบบเบรกที่ดี แม็กซิม 600i ABS ติดตั้งดิสก์เบรกมาให้ทั้งล้อหน้าและหลัง โดยล้อหน้านั้นเป็นแบบดิสก์เบรกจานคู่และด้านหลังเป็นดิสก์จานเดี่ยวขนาดเดียวกันคือ 275 มม. ที่สำคัญคือเบรกของทั้งล้อหน้าและหลังต่างก็ทำงานด้วยระบบ ABS ป้องกันล้อล็อคตาย ระบบเบรกที่ทั่วโลกยอมรับว่าให้ประสิทธิภาพในการหยุดได้นุ่มนวลและปลอดภัยที่สุดในทุกสภาวะไม่ว่าจะเป็นถนนเปียกหรือแห้ง นอกจากการหยุดความเร็วขณะวิ่งแล้ว ยังเพิ่มความมั่นคงในตอนจอดด้วยเบรกมือมาให้ด้วย

ครบครันอุปกรณ์ความสะดวก
ในเรือนร่างที่ใหญ่หนาสง่างามนั้นแฝงเอาไว้ด้วยประโยชน์ใช้สอยมากมาย นอกจากช่องเก็บของขนาดใหญ่ที่ใต้เบาะแล้ว ยังแบ่งออกเป็นช่องเก็บของที่คอนโซลหน้าซ้ายและขวาอีกอย่างละหนึ่ง ด้านล่างยังมีช่องยาวไว้เก็บของพร้อมซุกซ่อนช่องเสียบ USB กับมีปลั๊กแบบเดียวกับที่จุดบุหรี่รถยนต์ให้สามารถเพิ่มพลังไฟให้กับอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ แม้ในระหว่างการเดินทางที่แสนไกลหรือใช้เวลานานก็ไม่พลาดการติดต่อสื่อสาร
นั่งสบายไม่ต้านลม
ท่านั่งขับขี่ที่อำนวยความสะดวก บริการความสบาย ให้กับทั้งผู้ขับขี่และซ้อนท้ายอย่างเต็มที่ ด้วยเบาะนั่งขนาดใหญ่ไล่ระดับไม่บดบังทัศนวิสัยของผู้ซ้อนท้าย ขณะที่ผู้ขับขี่ก็มีแผ่นบังลมขนาดใหญ่ป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่อาจจะลอยมาปะทะ รวมทั้งยังช่วยลดความเมื่อยล้าจากการต้านลมเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วเป็นเวลานานอีกด้วยมั่นใจกับการรับประกันเครื่องยนต์ 3 ปี หรือ 30,000 กม. สอบถาม เพิ่มเติมได้ที่ SYM Call Center 0-2613-9727 (รองเมือง), 0-2951-0722 (แคราย) www.sym-thailand.com

ข้อมูลเทคนิค
เครื่องยนต์ 4 จังหวะ สูบเดียว 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยของเหลว
ปริมาตร 598 ซีซี
กระบอกสูบ เคลือบเซรามิกด้วยกระบวนการทางไฟฟ้า
ระบบเชื้อเพลิง หัวฉีด EFI
โช้คหน้า เทเลสโคปิก 41 มม.
โช้คหลัง โช้คคู่ยูนิตสวิงปรับได้ 5 ระดับ
ยางหน้า 120/70-15
ยางหลัง 160/60-14
เบรกหน้า ABS ดิสก์เบรกจานคู่ 275 มม.
เบรกหลัง ABS ดิสก์เบรกจานเดี่ยว 275 มม.
น้ำหนักไม่รวมเชื้อเพลิง 228 กก.
สูง/ยาว/กว้าง 1,400 มม./ 2,700 มม./ 805 มม.
ระยะฐานล้อ 1,570 มม.
ถังน้ำมันเชื้อเพลิง 15 ลิตร
ระบบสตาร์ท ไฟฟ้า
ราคา 259,000 บาท

ความเห็นนักทดสอบ
เขมรัฐ สุธรรมวาท
“มันใหญ่มาก…เป็นความรู้สึกแรกที่ผมอุทานกับตัวเองขึ้นมาจริงๆ ถึงแม้ในชีวิตประจำวันผมจะใช้รถสกู๊ตเตอร์อยู่แล้ว แต่กับแม็กซิม 600i ABS ไม่มีคำอื่นเหมาะกับมันแล้วจริงๆก้าวขึ้นไปนั่งบนเบาะ อึม…ก็ไม่สูงนะ 165 มาตรฐานชายไทยยันพื้นได้แบบเขย่งปลายนิดๆ จับที่แฮนด์แล้วรู้สึกเลยว่ารถนี่มันเผื่อไว้ไซส์ฝรั่ง ปลอกแฮนด์ มือเบรก ใหญ่โตไปหมดครับ ดีที่มือเบรก ยังปรับระดับได้ทั้งสองด้าน พนักพิงหลังเตี้ยๆ ช่วยประคองลำตัวให้นั่งได้มั่นคงขึ้น สตาร์ทเครื่องยนต์เสียงนุ่มหูดีครับบิดคันเร่งให้รถค่อยๆ เคลื่อนออกไป ก็เนียนดีนะ แต่พอลองกระตุกข้อมือเข้าหน่อย…ได้เรื่องเลยครับ แรงบิดแทบจะมาพร้อมกับรอบเครื่อง ตัวรถกระโจนพรวดไปข้างหน้าโชว์พลังเครื่องยนต์ 600 ซีซี ออกมาอย่างชัดเจน จากนั้นความต่อเนื่องของความเร็วก็ทำหน้าที่อย่างไร้รอยต่อของการส่งกำลัง นุ่มนวล นิ่งสนิท บิดเมื่อไรก็พุ่ง ด้วยการทำงานที่ประมาณ 4,000-7,000 รอบต่อนาที อยากให้เร็วขึ้นก็แค่บิด เจอเข้ากับความเร็วในย่าน 150-170 กม./ชม. เสียงเครื่องอึงขึ้นมาบ้างแต่การทรงตัวก็ยังนิ่ง มั่นคงมาก ได้เวลาลองประสิทธิภาพของเบรกกันดูบ้างครับ ระบบ ABS หลังจากที่ลองทั้งเบรกหน้าและหลังแล้วผมประทับใจมากๆ กับเบรกหลังที่เมื่อใช้งานรถจะชะลอพร้อมกับตัวรถที่ยุบต่ำลง น้ำหนักกดพื้นมากขึ้น รู้สึกถึงเสถียรภาพของตัวรถได้อย่างชัดเจน เบรกหน้าก็ทำหน้าที่ได้ดีนะครับ แต่ผมว่าโช้คหน้ามันนุ่มนิ่มไปหน่อยเวลาบีบเบรกหน้าแล้วมันยุบเร็วไปนิด ถึงจะเป็นรถขนาดใหญ่แต่สมดุลของตัวรถช่วยให้ขับขี่ในเมืองได้ง่ายครับ วงเลี้ยวก็สามารถทำได้แคบมากๆ ได้มีโอกาสลองขับขี่ในเวลาค่ำคืน ไฟส่องสว่างที่เป็นหลอดแบบโปรเจคเตอร์ก็ส่องสว่างชัดไกลใสปิ๊ง ส่วนไฟท้ายแบบ LED ก็มีขนาดใหญ่และอยู่สูง เด่นชัดเจนมากเอสวายเอ็ม แม็กซิม 600i ABS สกู๊ตเตอร์ขนาดใหญ่ที่ให้ความคล่องตัวได้สูง เครื่องยนต์ทรงพลัง เด่นทั้งอัตราเร่งและความเร็วในการเดินทาง นั่งสบาย มั่นใจกับช่วงล่างที่ทำงานผสานกับเบรก ABS ทรงประสิทธิภาพ ไม่บกพร่องเรื่องช่องใส่สัมภาระทั้งเยอะทั้งใหญ่ … ถ้าชอบเดินทางด้วยรถที่ขี่ง่ายนั่งสบาย จัดว่าน่าสนใจมากๆ ครับ”

BELL MOTO 9 HELMET

หมวกกันน็อคตัวรองของ เบลล์ ยี่ห้อที่พัฒนามาพร้อมกับวงการโมโตครอสอเมริกา รายเดียวที่สวมใส่ได้มิดชิดเข้ากับศีรษะได้อย่างดูเป็นธรรมชาติ แนบแน่นสนิทพร้อมกับเทคโนโลยีการป้องกันที่ทันสมัย หลายสิ่งหลายอย่างสร้างความประทับใจเพราะว่าให้ทั้งความสะดวกสบายแต่ว่าเรียบง่ายเหลือเกิน

ตัวเปลือกนอกของหมวกกันน็อคเบลล์ รุ่นโมโตไนน์ ถ้าไม่มีคำว่า Carbon กำกับมันจะเป็นเปลือกแข็งห่อหุ้มที่ทำจากวัสดุคอมโพสิต แข็งแรงแน่นอน น้ำหนักอาจจะมากหน่อย 1,450 กรัม มีการใส่ใจเรื่องระบายอากาศสุดๆ ด้วยช่องลมด้านหน้านอกจากจะเจาะที่ข้างแก้มกับใกล้ขมับแล้ว ขอบยางเหนือสายแว่นยังมีรูดักลมอีกเบ้อเร่อ แน่นอนช่องระบายลมออกก็มีมากด้วยเช่นกันมันทำให้สวมใส่ได้นานโดยไม่ร้อนอึดอัด ขอบยางข้างแก้มมีสันนูนเอาไว้กันสายแว่นอย่างดี แก๊ปหมวกเป็นแบบไม่ดักลมกันอาการหน้าหงายถ้าต้องขี่ด้วยความเร็วสูง ยึดเอาไว้กับตัวหมวกด้วยตัวล็อคแค่ 2 จุดซ้ายและขวาส่วนตรงกลางเว้นว่างไว้ให้ขยับปรับสูงต่ำได้ง่าย ตัวล็อคแก๊ปก็สวยงามดูดีและยังมีวิธีการใช้งานที่ง่ายด้วยมือเปล่า ฟองน้ำด้านในในส่วนของแผ่นรองศีรษะยึดติดกับโฟมกันกระแทกด้านในด้วยหมุดพลาสติกที่ติดและแกะออกง่าย ส่วนชิ้นคางทั้งสองด้านให้มาด้วยเทคโนโลยีแม่เหล็กที่แน่นหนาแต่ถอดออกง่าย ได้ประโยชน์อีกอย่างก็ตอนใช้งานช่วยเหลือฉุกเฉินสามารถถอดชิ้นคางออกได้เพียงใช้นิ้วเกี่ยวทั้งยังสามารถนำกลับเข้าที่ใช้งานต่อไปโดยไม่ต้องเปลี่ยนอะไหล่หรือใช้เครื่องมือใดๆเลย ปลายสายรัดคางก็มีแม่เหล็กที่จะขจัดปัญหาปลายสายแกว่งไปมาได้อยู่หมัด อ้อ…สามารถรองรับระบบช่วยเหลือฉุกเฉินที่จะติดตั้งเข้าไปในหมวกแล้วเติมลมเพื่อดันหมวกออกได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย DOT และ Snell M2015

กันจมูกไม่ยาวเกินไปใช้ฟองน้ำกรองอากาศผ่านช่องขนาดใหญ่

แก๊ปหมวกทรงเรียบง่ายปลายแต่ใช้งานได้จริง กับช่องระบายลมด้านบนหมวกที่เน้นประโยชน์มากกว่า

ช่องระบายอากาศมีอยู่รอบหมวกทำให้ไม่อับทึบถ้าต้องใส่นานๆ

ล็อคแก๊ปหมวกด้วยหมุดเพียง 2 ตัวยที่ใช้งานง่ายมากแค่ง้างออกมาแล้วหมุนได้เลย

ที่คิ้วยางขอบหมวกมีช่องดักอากาศขนาดใหญ่ที่ด้านข้างและด้านบน

รองรับเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลกที่ยังไม่มีใช้ในไทย

ถอดง่ายในยามฉุกเฉินด้วยการใช้แม่เหล็กล็อคชิ้นแก้มต้องการถอดแค่สอดแล้วดึง

ปลายสายรัดคางที่รุ่นคาร์บอนเป็นแม่เหล็กในผ้ามารุ่นนี้เคลือบพลาสติก

ปุ่มแม่เหล็กและเบ้ารับของฟองน้ำชิ้นคางที่ติดตั้งง่ายแม่นยำ

การใช้งาน : ทีมงานไรดิ้งผ่านการใช้งานหมวกเบลล์มาแล้ว 2 ใบ ซึ่งเป็นแบบคาร์บอนทั้งคู่ ประทับใจหลายๆ อย่างทั้งรูปทรงที่สวมใส่แล้วดูดีได้สัดส่วน วัสดุคุณภาพสูง การถอดชิ้นส่วนฟองน้ำออกมาทำความสะอาดได้ง่าย การใช้ประโยชน์จากแม่เหล็ก ล้างทำความสะอาดก็ง่าย แก๊ปหมวกที่กว้างกำลังดีและใช้งานได้จริง น้ำหนักที่หลายคนเกี่ยงว่าต้องเบา แต่ถ้าใส่แล้วไม่อึดอัดแถมยังกระชับกับหัวได้พอดีก็น่าจะดีกว่าเบาแล้วรู้สึกหวิวๆ ทุกอย่างยังมีครบในเบลล์ โมโตไนน์ ถึงจะเป็นรุ่นคอมโพสิตธรรมดาแต่น้ำหนักไม่ได้ต่างจากรุ่นคาร์บอนมากนัก ที่น่าสนใจคือราคาประหยัดกว่ารุ่นคาร์บอนถึง 5,000 บาทในดีไซน์เดียวกัน อ้อ…ต่างกันอีกอย่างคือถ้าเป็นรุ่นคาร์บอนจะแถมกระเป๋าหิ้วอย่างดีมาให้ แต่รุ่นคอมโพสิตจะเป็นถุงผ้า วัสดุและชิ้นงานกับการรับประกันที่กล้าให้มาถึง 5 ปี เป็นหมวกคุณภาพสูงที่คุ้มราคามากรุ่นหนึ่งซึ่งมองข้ามไม่ได้เลย
ราคา : 13,900 บาท ที่ร้านเดิร์ทช็อพ โทร 08-5486-9920, 0-2322-1441, 0-2322-1446 ID LINE : dirtshopthailand

THOR SNIPER GOGGLE

แว่นสำหรับใช้ขับขี่รถจักรยานยนต์วิบาก เรียกบ้านๆ ว่าแว่นโมโตครอส ซึ่งธอร์เคยตีตลาดมาแล้วด้วยดีไซน์สุดโดนของรุ่น Hero และ Enemy จากนั้นเมื่อมีการออกแบบแว่นที่เปิดมุมมองใหม่ด้วยการเว้าเฟรม ก็ถึงเวลาที่ THOR (ธอร์) จะเปิดตัวจำหน่ายแว่นรุ่นสไนเปอร์ (SNIPER)

ในกล่องมีแว่นติดเลนส์ปรอทพร้อมเลนส์ใสสำรองกับถุงแว่นที่เป็นผ้าเช็ดเลนส์ในตัว

เป็นการออกแบบใหม่หมดด้วยรูปแบบที่ดูเผินๆ แล้วเหมือนไม่มีอะไร แต่ความจริงแว่นธอร์รุ่นสไนเปอร์นี้มีดีถึงขนาดหวังผลในการแย่งตลาดจากผู้ครองรายใหญ่ได้เลยทีเดียว ดูจากรูปร่างของเฟรมแล้วเห็นได้ชัดว่าเป็นการออกแบบมาเพื่อลดความอึดอัดของมุมมองอย่างตั้งใจ พื้นที่ของเลนส์นั้นกว้างที่ด้านล่างแล้วสอบขึ้นด้านบนให้มีความกว้างลดลงเล็กน้อย ตัวเฟรมเป็นพลาสติกยางมาตรฐานของแว่นโมโตครอสทั่วไป มีกันจมูกเสริมมาให้ในตัวซึ่งสามารถถอดออกได้หากไม่ต้องการใช้ ฟองน้ำแบบ 3 ชั้นตามมาตรฐานของแว่นชั้นดี ด้านในส่วนที่แนบหน้ามีลายกดรูปทรงกลมบนผิวผ้านิ่มสัมผัสผิวหน้าไม่ระคาย สายรัดไม่กว้างมากนักแต่ก็ไม่เสียราคาด้วยการคาดแถบซิลิโคนกันลื่นมาให้ตลอดเส้น ที่เลนส์มีเดือยรองรับการใช้งานร่วมกับเทียร์ออฟ (แยกจำหน่ายต่างหาก) ทีเด็ดของเฟรมตัวนี้มีที่ขอบด้านบน สังเกตให้ดีจะพบว่าขอบเฟรมด้านนอกจะมีการเฉือนเว้าเอาไว้ประมาณ 25 มม. ซึ่งเป็นจุดโฟกัสสายตาที่หากขับขี่ด้วยท่าก้มศีรษะเล็กน้อยตรงจุดนี้จะช่วยเพิ่มการมองเห็นได้อีกหลายเปอร์เซ็นต์ทีเดียว นอกจากรูปทรงแล้วตัวเลนส์ยังออกแบบวิธีการติดตั้งใหม่ด้วยร่องเสียบล็อกกับตัวเฟรมเพียง 2 จุดบนหน้าฝากและร่องจมูกเท่านั้น
การใช้งาน : เป็นแว่นที่น่าจะให้มุมมองของสายตาได้กว้างขวางที่สุดของธอร์ (THOR) รูปทรงไม่เท่าไรแต่สีสันทันสมัยไม่ตกเทรนด์ วัสดุในการผลิตระดับคุณภาพจริงๆ ทั้งตัวเฟรม เลนส์ที่เป็นปรอทติดตัวเฟรมมาให้ซึ่งผู้ผลิตแนะนำว่าต้านการเกิดฝ้าและทนต่อแรงขีดข่วน สายอาจจะไม่หนานักเหมือนแว่นสมัยใหม่แต่ก็ไม่ได้ด้อยในด้านของการใช้งานเมื่อมีซิลิโคนกันลื่นมาให้ในเกณฑ์มาตรฐาน ตัวเฟรมนิ่มบิดตัวได้แต่กันจมูกเป็นพลาสติกแข็งซึ่งก็สามารถถอดออกได้หากไม่ต้องการ วัสดุและการผลิตถือว่าสมราคา พลิกมาด้านหลังเห็นชั้นของฟองน้ำแล้วต้องยกเทียบชั้นกับรุ่น ALLY ที่เป็นตัวท็อปอยู่ก่อนหน้าด้วยฟองน้ำอย่างดีถึง 3 ชั้นพร้อมผ้าชั้นนอกเนื้อสุดเนียน สวมใส่เข้าไปถึงได้สังเกตว่าเป็นแว่นที่เปิดมุมมองทางด้านล่างอย่างโล่งตา แถมพอก้มหน้ามองตรงออกมายังมองได้ไกลขึ้นด้วยการขยายของเฟรมด้านบนเว้าขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เป็นการออกแบบที่ฉลาดมาก แต่ดูจากความโค้งของเฟรมแล้ว สไนเปอร์ดูจะเป็นแว่นที่เหมาะกับคนที่มีรูปหน้ากว้างแบน หน้าเรียวแคบอาจจะรู้สึกว่าจะสวมให้แนบกระชับหน้ายากสักหน่อย ต่างจากรุ่นก่อนๆ ของธอร์ที่เคยมีมา ถุงผ้าที่ให้มาในกล่องเป็นผ้าเช็ดแว่นเนื้อดีในตัว การแถมเลนส์ใสมาทำให้รู้สึกคุ้มค่ามากมายเมื่อเลือกใช้แว่นธอร์ สไนเปอร์นี้

กันจมูกเป็นพลาสติกแข็งสามารถถอดแยกได้หากไม่ใช้งาน

รองรับการใช้เทียร์ออฟทั้งที่ตัวเลนส์และบนสาย

อีกมุมชัดๆ ของการเว้าร่องที่ขอบบนของเฟรม

ฟองน้ำ 3 ชั้นมันคือความสบายที่พบได้ยามสวมใส่

สายไม่กว้างนักแต่ก็ไม่ลืมซิลิโคนกันลื่นมาให้ด้วย

เฟรมด้านบนขอบนอกมีการเว้าหลบสายตามาให้เล็งทางกระจ่างขึ้นอีกนิด

แหล่งผลิต : ประเทศจีน โดยการควบคุมคุณภาพจากธอร์ประเทศสหรัฐอเมริกา
ราคา : 2,390 บาท จำหน่ายพร้อมถุงผ้า กับเลนส์ใสให้มาในกล่อง ที่ร้านเดิร์ทช็อพ โทร 08-5486-9920, 0-2322-1441, 0-2322-1446 ID LINE : dirtshopthailand

ACERBIS X-MOVE 2.0 BOOTS

รองเท้าสำหรับขับขี่สไตล์ออฟโรดจากเจ้าพ่อพลาสติกที่ไม่น้อยหน้าในเรื่องชุดขับขี่ที่ครบเครื่องเหมือนกัน สำหรับรองเท้าส่วนมากจะเน้นไปทางรองเท้าเอ็นดูโร่ที่ เรียบง่าย สวมใส่สะดวก น้ำหนักเบาเป็นหลัก แต่สำหรับรองเท้ารุ่น เอ็กซ์ มูฟ นับว่าเป็นอีกระดับของการพัฒนาที่เน้นในเรื่องของการป้องกันที่แข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากการเน้นความแข็งแรงบริเวณข้อเท้าเช่นเดียวกับตัวท็อปจากแบรนด์ดังทั้งหลายซึ่งถือเป็นจุดขายในยุคปัจจุบัน ด้วยโครงสร้างที่ดูเรียบง่ายไม่หวือหวาแต่วัสดุที่ใช้ได้ทั้งความสวยงามและป้องกัน พื้นรองเท้าเป็นยางเนื้อนิ่มของ VIBRAM ผู้เชี่ยวชาญด้านรองเท้าเน้นประสิทธิภาพในการยึดเกาะกับพักเท้าให้มั่นคงที่สุดในทุกสภาวะ พื้นแบบเดินด้ายเย็บสไตล์ดั้งเดิมมั่นใจได้ในความทนทานแม้จะต้องลุยน้ำบ่อยๆ กันบิดด้านข้างด้วยจุดหมุนตรงตาตุ่มทั้งซ้ายและขวาแข็งแรงมาก ป้องกันกระดูกขาด้านหลังด้วยการ์ดพลาสติกหุ้มยาวสูงตลอดความยาวน่อง ส่วนด้านหน้าเสริมแข็งและเน้นทรงเป็นเหลี่ยมสันที่แข็งแรงในตอนบน ต่ำลงมาเป็นหนังนุ่มที่ช่วยให้ขยับปลายเท้าขึ้นและลงได้อย่างสะดวก รอบขาด้านในล้อมไว้ด้วยหนังคุณภาพดีที่มีความนุ่มในการสวมใส่ รัดปลายไว้ด้วยแถบเวลโคร ส่วนที่แนบกับตัวรถเป็นพลาสติกยางที่มีความหนึบแนบติดกับด้านข้างรถและกันความร้อนได้ดี สายรัด 4 สายตัวล็อคอลูมินัม เบา แข็งแรง และดูดี

การทำความสะอาดก็สะดวกมากจากการที่สามารถเปิดแผ่นกันหน้าแข้งแล้วดึงการ์ดป้องกันขาทั้งชุดไปด้านหลัง จะเห็นชั้นของหนังด้านในได้อย่างชัดเจน แน่นอนว่าง่ายต่อการทำความสะอาดด้วยเช่นกัน

ใช้เส้นสันเน้นความแข็งแรงพร้อมข้อเท้าแบบจุดหมุน

ถอดเกราะครึ่งท่อนแยกให้เห็นตัวรองเท้ากับเกราะหุ้มอย่างชัดเจน

การใช้งาน : ทีมงานของเราเคยใช้รองเท้าบูทอาเซอร์บิสรุ่นสก็อท ที่เป็นแบบข้ออ่อน ซึ่งมีการออกแบบภายนอกคล้ายๆ กับรุ่นเอ็กซ์มูฟโดยเฉพาะส่วนกันหน้าแข่งที่เป็นสันแข็งยื่นออกมาแทบจะเหมือนกันเลย แต่เอ็กซ์มูฟตั้งใจออกแบบเพื่อนักขี่ในระดับก้าวหน้าถึงจริงจังที่เน้นประสิทธิภาพในการป้องกันสูง โครงสร้างของมันจึงมีความแข็งแรงต่อแรงกระทำในแทบจะทุกด้าน โดยเฉพาะข้อเท้าที่เป็นแบบจุดหมุนซึ่งดีไซน์เรียบง่ายแต่แข็งแรงจริง น็อตหกเหลี่ยมที่เป็นจุดหมุนอยู่ในเบ้าที่เว้าลึกลงไปทำให้ไม่กินเฟรมรถ เหนือขึ้นมาเป็นพลาสติกยางสีดำเน้นหนึบกับข้างรถ พลาสติกที่ป้องกันเท้า น่องและส้นเท้ามีความแข็งแรงมากด้วยการเน้นแนวสันโค้งเป็นระยะ สายรัดปรับระยะยาวสั้นได้พอสมควร ตัวล็อคอลูมินัมทำให้รู้สึกว่าล็อคได้ง่ายแต่ตอนปลดออกมันไม่หลุดซะทีเดียว ยังมีเกี่ยวๆ ให้ต้องแกะ ไซส์ที่ระบุมาค่อนข้างตรงทำให้ง่ายในการสั่งซื้อไม่ต้องเผื่อไม่ต้องลดกับขนาดที่ใส่อยู่เป็นประจำ น้ำหนักไม่มากเกินไป สวมง่าย วัสดุแต่ละจุดตั้งใจเพื่อใช้ในแต่ละหน้าที่ ความแข็งแรงระดับห้าดาวในราคาหมื่นต้นๆ ถ้าไม่ยึดติดแบรนด์ถือเป็นรองเท้าอีกคู่ที่คุ้มราคาสุดๆ
แหล่งผลิต : ประเทศจีน
ราคา : 11,900 บาท ที่ร้านเดิร์ทช็อพ โทร 08-5486-9920, 0-2322-1441, 0-2322-1446 ID LINE : dirtshopthailand

KTM 1190 ADVENTURE พื่อการเดินทางไกลที่เร้าใจไม่ขาดตอน

หนึ่งในตัวเลือกต้นๆ สำหรับรถเดินทางไกลในระยะทางและเส้นทางที่ยาวนานวันละหลายร้อยกิโลเมตร หรือแม้กระทั่งหลายๆ วันต่อเนื่องกัน ฟังก์ชั่นการใช้งานที่รองรับกับความหลากหลายของสภาพเส้นทางที่ต้องพบเจอ ความวุ่นวายของสัมภาระที่ต้องพกพา ในขณะที่ยังคงสัญชาติญาณการตอบสนองของตัวแข่งไว้อย่างเต็มเปี่ยม KTM 1190 ADVENTURE เป็นรถสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวที่ไม่ได้ติดหรูอยู่สบายนัก แต่กลับสร้างมาเพื่อการสัมผัสไอดินกลิ่นธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน

2 สูบวี แรงดีตัวเบา
เครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ 2 สูบกระบอกโต ระบบหัวฉีด วางมุมเป็นรูปตัว V ระบายความร้อนด้วยน้ำ อาศัยใช้เครื่องยนต์เป็นส่วนหนึ่งของเฟรมเพื่อช่วยลดน้ำหนัก ปริมาตรกระบอกสูบจริง 1195 ซีซี เกียร์ 6 ระดับ อำนวยความสะดวกในการตรวจเช็คระดับและความข้นของน้ำมันเครื่องได้อย่างง่ายจากช่องใสเป็นแนวยาว ช่องเติมน้ำมันเครื่องที่ช่างเห็นแล้วต้องยิ้ม ซึ่งสามารถผลิตกำลังได้มากถึง 148 แรงม้าเทียบกับน้ำหนักตัว 230 กิโลกรัมแล้วทางผู้ผลิตแจ้งว่าเป็นรถสไตล์ทัวริ่งแอดเวนเจอร์ที่มีอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักมากที่สุดในพิกัดใกล้เคียงกัน พร้อม EMS Mode เป็นโหมดสำหรับเลือกใช้การถ่ายทอดกำลังOffroad เพื่ออำนวยการขับขี่ให้เกิดความเหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้งานตามโหมดที่กำหนดไว้ เฟรมโครโมลี
เป็นค่ายที่ยังเหนียวแน่นกับการใช้เฟรมเหล็กโครโมลี่ในทุกโมเดลจริงๆ ด้วยขนาดของท่อที่เล็กกับโครงสร้างที่เสริมความแกร่ง ผนวกกับการใช้เครื่องยนต์เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างไปแล้วก็ทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เฟรมที่มีขนาดใหญ่โตนัก แม้ตัวรถโดยรวมจะมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากก็ตาม

ปุ่มควบคุม 4 ทิศทางใช้เลือกและสั่งจอด้านซ้าย

แท็งค์น้ำมันเครื่องตอนหน้ามาพร้อมการ์ดป้องกัน

นอกจากไฟเดย์ไลท์ทรงหน้ายิ้มแล้วไฟหน้ายังต้องเปิดเอง

ดิสก์เบรกพร้อม ABS ที่เลือกจะใช้หรือไม่ใช้ และใช้เฉพาะบางล้อก็ยังได้

กันสะเทือนไฟฟ้าพร้อม ABS
ระบบรองรับยังคงใช้บริการจากค่าย WP เหมือนเช่นทุกโมเดลโดยเฉพาะในสายลุยด้วยโช้คหน้าแบบหัวกลับและโช้คหลังเดี่ยว ซึ่งนอกจากจะคงคุณสมบัตินุ่มหนึบที่โดดเด่นแล้ว ยังมีการนำเอาระบบไฟฟ้ามาช่วยในการควบคุมและสั่งการสำหรับความต้องการในการใช้งานที่แตกต่าง โดยจะยึดเอาภาระในการรับน้ำหนักเป็นหลักในการตัดสินใจเลือก โดยแบ่งเป็นการขี่คนเดียว, ขี่คนเดียวพร้อมสัมภาระ, ขี่สองคน, ขี่สองคนพร้อมสัมภาระ ระบบจะปรับการรองรับของกันสะเทือนเพื่อให้อยู่ในย่านของการทรงตัวที่ดีที่สุดซึ่งระบบเบรก ABS ก็จะถูกควบคุมจากสวิทช์ได้เช่นกันว่าจะเลือกเปิดใช้หรือปิด รวมๆ ก็คือระบบเครื่องยนต์ กันสะเทือน และเบรก สามารถที่จะให้ผู้ขับขี่เลือกใช้ได้จากสวิทช์ 4 ทิศทางที่แยกต่างหากไว้ทางด้านซ้ายมือ รวมทั้งการแสดงผลก็แยกจอเอาไว้ทางด้านซ้ายเช่นกัน ขอขอบคุณวัชร มารีน ที่เอื้อเฟื้อรถทดสอบ ชุดนักทดสอบจากเดิร์ทช็อพ และเครื่องดื่ม GSD สัมผัสตัวจริงและทดลองขับขี่ได้ที่ KTM PATTAYA โดย SPEED REPUBLIC โชว์รูมพัทยาริมถนนสุขุมวิท โทร 038-418-500 ต่อ 110, 118, 284 หรือ www.watcharamarine.co.th และ Facebook Fan Page “KTM Pattaya” และ “Speed Republic”

ข้อมูลเทคนิค
เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 2 สูบ V 75 องศา ระบายความร้อนด้วยน้ำ
ปริมาตรกระบอกสูบ 1195 ซีซี
กระบอกสูบ 105 มม.
ระยะชัก 69 มม.
กำลังงาน 110 กิโลวัตต์ (148 แรงม้า)
ระบบสตาร์ท ไฟฟ้า
เกียร์ 6 ระดับ
ระบบหล่อลื่น แรงดันน้ำมันโรเตอร์ 3 ปั๊ม
ไพรมารีเกียร์ 40:76
เซคันดารีเกียร์ 17:42
ระบบระบายความร้อน น้ำ
คลัทช์ PASC แบบป้องกันการกระโดด สั่งด้วยไฮดรอลิค
ระบบจุดระเบิด อิเล็คทรอนิกส์/ดิจิตอล
เฟรม โครม โมลิบดินั่ม เคลือบผิวด้วยพาวเดอร์โค๊ท
โช้คหน้า หัวกลับ WP ระยะยุบตัว 190 มม.
โช้คหลัง โช้คเดี่ยว WP ระยะยุบตัว 190 มม.
เบรกหน้า เบรมโบ้เรเดียลเมาท์ คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ จานคู่ 320 มม.
เบรกหลัง เบรมโบ้จานเดี่ยว คาลิเปอร์ลูกสูบคู่ 267 มม.
ระบบ ABS BOSCH
โซ่ 5/8 x 5/16” เอ็กซ์ริง
องศาคอ 64 องศา
ระยะฐานล้อ 1,560
สูงจากพื้น 220 มม.
เบาะสูง 860/875 มม.
ถังน้ำมันจุ 23 ลิตร
น้ำหนักไม่รวมเชื้อเพลิง 217 กก.
น้ำหนักบรรทุกสูงสุด 440 กก.
ราคา 1,239,900 บาท

ความเห็นนักทดสอบ / เขมรัฐ สุธรรมวาท
“รถสไตล์นี้น้ำหนักตัว สองร้อยกว่ากิโลกรัมกับคนขี่หนัก 67 กิโลกรัมสูง 166 เซนติเมตร ดูเหมือนผมจะเสียเปรียบอยู่เยอะนะครับ เมื่อต้องประมือเจ้ายักษ์ส้มคันนี้ การจับจูงทำได้คล่องตัวประมาณหนึ่งจากแฮนที่กว้างและเบาะที่ต่ำ การยกรถตั้งด้วยขาตั้งกลางหนักพอควรแต่ก็ทำได้ ถ้าไม่จำเป็นใช้ขาตั้งข้างเป็นทางเลือกที่ดีกว่ามากครับ ก้าวขาขึ้นคร่อมบนตัวรถรู้สึกกังวลน้อยลงจากความสูงเบาะที่ไม่มากนัก แต่ระยะแขนเอื้อมไปถึงแฮนด์แล้วเป็นมุมที่ต้องก้มนิดๆ ขาตั้งข้างมีตุ้มยางให้ใช้ส้นเตะพับขึ้นมาได้ง่าย แต่ตอนกางออกจะหายากหน่อยค่อนข้างหลบครับ เสียงสตาร์ทเครื่องยนต์อืดหน่อย เสียงเครื่องทุ้มนุ่มสไตล์วี รอบเครื่องขึ้นไวในเกียร์ว่าง บีบคลัทช์เข้ามาชอบเลยครับไม่หนักแรง แบบ 2 นิ้วกำลังดีด้วยระบบสั่งงานจากไฮดรอลิค เข้าเกียร์ 1 มีเสียงกระแทกแบบที่ได้ยินจากรถซีซีสูงทั่วไป ออกรถไปชิพเกียร์สูงขึ้นก็ไม่มีแล้ว การเปลี่ยนเกียร์นุ่มและแม่นยำ คลอคันเร่งตามสภาพจราจรด้วยรอบแถว 4-5 พัน เสียงเครื่องทุ้มนุ่มอยู่ครับ พอข้างหน้าโล่งลองบิดข้อมือขวาดูถึงกับตกใจนิดๆ จากการตอบสนองชนิดที่รถพุ่งแบบหน้า (คนขี่) หงาย ว้าว!…ความมันส์บังเกิดสิครับ พอล้อเริ่มหมุนด้วยแรงขับความรู้สึกถึงภาระน้ำหนักเท่าข้าวสารสองกระสอบกว่า (ไม่รวมคนขี่) ก็เหมือนจะหายไปหมด การซิกแซกทรงตัว การโยกรถเปลี่ยนเลน ทำได้แบบไม่ต้องคิดมากโยกไปเลยไม่ต้องเกร็งดึงกลับไม่ต้องกลัวเลย แต่ถ้าเป็นการเลี้ยวโค้งหรืออ้อมวงเวียนนั่นแหละถึงต้องเผื่อไว้หน่อย อ้อ…อย่าลืมโน้มตัวไปข้างหน้าก่อนเร่งล่ะ…รถมันดึง การตอบสนองทันใจและสะใจนี้เท่าที่ลองปรับโหมดเครื่องยนต์ดู ไม่ว่าโหมดไหนผมว่ามันก็ไม่ต่างกันเท่าไรครับ จัดเต็มตลอดๆ การเปลี่ยนโหมดเครื่องยนต์ทำได้เลยขณะขับขี่ มีข้อแม้นิดนึงว่าต้องปิดคันเร่งให้หมดระบบถึงจะเปลี่ยนโหมดให้ สวิทช์ไฟเลี้ยวต่างจากทุกรุ่นในโลกที่ผมเคยขี่มา ออกแรงนิ้วโป้งเลื่อนมันแทบไม่ขยับ…ซ้ำอีกทีก็เหมือนเดิม นึกว่าสวิทช์ไฟเลี้ยวเสีย แต่ไฟเลี้ยวมันทำงานตั้งแต่ดันครั้งแรกแล้ว คือสวิทช์มันทื่อของมันอย่างนั้นเอง ไม่โยกเยอะเหมือนรถทั่วไปครับ การทำงานของช่วงล่างบนถนนทรงตัวได้นิ่งมาก บนทางดินและการปีนผ่านความขรุขระทำได้นุ่มนวลตามวิสัย WP ที่มีในตระกูลเดิร์ทไบค์ ความคล่องตัวของการเคลื่อนผ่านบนทางดินขี่ได้ใกล้เคียงรถเอ็นดูโร่ทั่วไป ด้วยมิติในการขับขี่ที่กระชับถ้าเปลี่ยนใช้ยางดอกหนามน่าจะสนุกเลยครับ สิ่งเดียวที่ทำให้ผมกังวลอยู่บ้างถ้าต้องควงกันนานๆ ก็คือความร้อนที่แผ่จากใต้เบาะออกมาถึงขาค่อนข้างมาก…บู๊ทวิบากน่าจะเหมาะสุดกับการขี่มันเป็นรถที่สร้างความประทับใจในการตอบสนองของเครื่องยนต์และการควบคุมได้อย่างมาก ผิดคาดจริงๆ กับสิ่งที่คิดไว้เมื่อเห็นรูปร่างของมัน เป็นรถเพื่อการเดินทางที่ว่องไว คล่องตัว แต่ยังไม่ทิ้งสัญชาติญาณแข่งที่มีในดีเอ็นเอของเคทีเอ็มทุกรุ่นจริงๆ”

SPIDI CARBO 3 LEATHER

ถุงมือหนังข้อยาวสำหรับขับขี่รถจักรยานยนต์แบบเรซซิ่งยี่ห้อสปีดิ พัฒนาขึ้นมาเพื่อป้องกันการบาดเจ็บโดยเฉพาะในสนามแข่ง และบนท้องถนน
ด้วยการ์ดคาร์บอนป้องกันหลังมือที่มีความแข็งแต่น้ำหนักเบาทนต่อแรงกระแทกและไม่ต้านลม สายรัดข้อมือที่แน่นหนาป้องกันการลื่นหลุดที่มักพบได้บ่อยเมื่อรถล้ม เลยจากข้อมือยังมีแถบรัดด้านนอกปลายแขนของเรซซิ่งสูทอีกจุดเป็นดับเบิลล็อคที่แน่นหนาและกระชับ วัสดุกว่า 50% ทำจากหนังวัวที่มีความหนาเพียง 0.6/0.8 มม. ช่วยให้กระชับเข้ากับรูปมือได้ง่าย เสริมความหนาด้วยวัสดุที่แตกต่างในจุดที่มักจะบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยใช้วัสดุที่แตกต่างกันเพื่อการสวมใส่ที่ไม่อึดอัด ด้านในเป็นผ้าไมโครไฟเบอร์เพื่อความสบายในการสวมใส่และแห้งง่ายไม่อับชื้น แต่ละชิ้นของการประกอบล้วนมีส่วนสำคัญในการป้องกันต่อการลื่นไถลเมื่อรถล้ม น้ำหนักเบามาก

แหล่งผลิต : ประเทศจีน ภายใต้การควบคุมคุณภาพของสปีดิ อิตาลี
ความเห็น : วัสดุและงานผลิตประณีตมาก มีการเลือกใช้หนังและวัสดุที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันในแต่ละจุดแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการผลิตถุงมือที่ผ่านการทดสอบ-ทดลองเพื่อแก้ข้อด้อยและป้องกันมือของเราจากอุบัติเหตุได้อย่างสูงสุดด้วยการใช้หนังธรรมชาติถึง 50% ดูแล้วน่าจะหนักแต่ก็แปลกใจเมื่อหยิบขึ้นมามันให้ความรู้สึกเบามาก

คาร์บอนป้องกันหลังสือและโคนนิ้วความเท่ที่ปกป้องอย่างมีประสิทธิภาพ

สายรัดข้อมือสองชั้น แนะนำให้ลองสวมดูเพราะมันแคบมาก

นิ้วโป้งเสริมความหนาและขยับงอได้ง่าย ฝ่ามือเสริมเพื่อความกระชับและสันมือด้วยวัสดุอีกชนิด

การเลือกขนาดแนะนำให้ใหญ่กว่าปกติ 1 ไซส์ ปกตินักทดสอบของเราใช้ถุงมือขนาด L แต่เมื่อลองสวม SPIDI CARBO 3 ต้องยอมที่จะใช้ขนาด XL ด้วยเหตุผลที่ว่าขนาด L นั้นมันมีความกว้างของสายรัดข้อมือที่แคบจนยากมากในการสอดมือสวมใส่ หลังจากลองใส่ๆ ถอดๆ สลับไปมาระหว่างสองขนาด ก็ตัดสินใจเลือกไซส์ XL ที่สอดมือเข้าไปง่ายกว่า และเมื่อรัดสายเรียบร้อยก็ยังรู้สึกสบายมือมากกว่า ที่ขัดต่อสายตาบ้างคือขนาดที่ดูใหญ่โตไปหน่อยเมื่อได้นำมาใช้ขับขี่จริงจึงรู้ว่าตัดสินใจไม่พลาด แม้ช่วงมือจะไม่รัดจนแนบแต่ความแน่นหนาของสายรัดข้อมือก็ทำให้กระชับตลอดเวลา กำมือจับแฮนด์ได้ไม่หละหลวม วัสดุบนฝ่ามือทำให้ไม่ต้องออกแรงบีบมาก สัมผัสภายในนุ่มมากไม่มีตรงไหนกัดหรือเสียดสีเลย การขยับของนิ้วและข้อมือไม่ติดขัด ประทับใจมากๆ แม้ราคาจะสูงแต่ก็ถือว่าไม่แพงเกินกว่าคุณภาพของวัสดุและความสบายในการสวมใส่ที่คุณจะได้รับ ส่วนการปกป้องจะดีแค่ไหนขออนุญาตไม่รีวิวถึงการทดลองล้มนะครับ แหะๆ
ราคา : 7,890 บาท ที่ร้านเดิร์ทช็อพตัวแทน SPIDI ในประเทศไทย โทร 0-2322-1446, 0-2322-1441,08-5486-9920 Line ID : dirtshopthailand

SUZUKI GSX-S1000F ABS

ความต้องการของแต่ละบุคคลที่แตกต่างกัน นำมาซึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองความพึงพอใจที่แตกต่างกัน จักรยานยนต์ก็เช่นกัน การผสมผสานความต้องการที่หลากหลายทำให้เกิดเป็นสไตล์ของการขับขี่ในรูปแบบใหม่ ดังเช่น ซูซูกิ จีเอสเอ็กซ์-เอส 1000 เอฟ รถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่ถูกจัดตำแหน่งขับขี่ที่สบายยิ่งขึ้นเพื่อการเดินทางนอกสนาม ไอเดียใหม่ของการขับขี่ที่ร้อนแรงบนท้องถนน

แฮนด์บาร์ฟูลแฟริ่ง
ส่วนสำคัญที่ทำให้มันถูกเรียกว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่ก็คือการผสมผสานระหว่างความเป็นสปอร์ตแนวรถสนามกับท่านั่งในการขับขี่ที่สบายสไตล์รถถนน ด้วยการใช้แฟริ่งเต็มตัวปิดคลุมสไตล์สปอร์ต แต่ส่วนของวินด์ชิลด์ (แผ่นบังลม) นั้นยกสูงขึ้นมามากกว่ารถสปอร์ตทั่วไป เพื่อให้รับกับความสูงของแฮนด์บาร์ที่ยกสูงขึ้นมา เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ GSX-S1000F เป็นรถที่ขับขี่ได้สบาย คุมง่ายเบาแรง

เห็นแค่มุมนี้คงไม่มีใครคิดว่าจะัเป็นสตรีทไบค์

ขุมพลัง 999 ซีซี ที่คุ้นเคยกันดีในวงบิ๊กไบค์

ขุมพลังสปอร์ตพันธุ์ดุ
จัดจ้านเรื่องการตอบสนองด้วยเครื่องยนต์จากตัวแรงในตำนานรหัส GSX-R1000 แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC ปริมาตร 999 ซีซี หัวฉีด 10 รูแบบเรือนลิ้นเร่งคู่ขนาด 44 มม. ระบายความร้อนด้วยน้ำ เพลาลูกเบี้ยวคำนวณใหม่ให้ความเหมาะสมในการตอบสนองสำหรับขับขี่บนท้องถนนมากยิ่งขึ้น ลูกสูบและกระบอกสูบผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อลดความฝืด
โครงสร้างแกร่งแต่เบา
เช่นกันกับเครื่องยนต์ โครงสร้างหลักของ GSX-S1000F เป็นเฟรมอลูมินัมขนาดใหญ่บึกบึนที่โชว์ความแข็งแรงอย่างชัดเจน รวมถึงสวิงอาร์มก็เช่นกัน ระบบช่วงล่างเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ GSX-S1000F ด้วยการใช้กันสะเทือนหน้าหัวกลับของ KYB ขนาด 43 มม. จัดเต็มด้วยฟังก์ชั่นการปรับได้ทั้งความแข็งสปริง แรงกดและการคืนตัว ภายใต้การทำงานที่ระยะยุบตัว 120 มม. ส่วนโช้คหลังเลือกใช้ของต่างค่ายเป็นการรองรับด้วยโช้คเดี่ยวของ Showa ที่สามารถปรับการทำงานได้อย่างละเอียดเช่นกัน ในชุดวงล้อแม็ก 6 ก้านของเอ็นไก ยังได้ติดตั้งระบบเบรกหน้าจานดิสก์คู่ขั้นเทพอย่าง Brembo โมโนบล็อคแบบ 4 ลูกสูบ ส่วนเบรกหลังกลับเลือกใช้บริการชุดคาลิเปอร์ของค่าย Nissin พร้อมกับระบบ ABS ป้องกันเบรกล็อคทั้งหน้าและหลังทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ 5 จุด มั่นใจว่าปลอดภัยแน่นอน

แทร็คชั่นคอนโทรล 3 ระดับ
นับเป็นฟังก์ชั่นเด็ดของ GSX-S100F กับการติดตั้งระบบแทร็คชั่นคอนโทรลซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้ได้ถึง 3 ระดับความไวต่อการตอบสนองเมื่อล้อหลังเริ่มปั่นฟรี ส่งผลให้พลังในการขับเคลื่อนไม่สูญเปล่าและยังสามารถสนุกกับการขับขี่ได้ตามความต้องการ และถ้าอยากรับรู้ถึงความดิบของแรงบิดมหาศาล ก็ยังเลือกที่จะปิดการทำงานของระบบได้อีกด้วย
สนใจสามารถทดลองขับขี่กันได้ที่ บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด รายละเอียดเพิ่มเติมค้นหาได้จาก www.thaisuzuki.co.th

ข้อมูลเทคนิค
เครื่องยนต์ 999 ซีซี 4 จังหวะ 4 สูบแถวเรียง DOHC
กระบอกสูบ x ระยะชัก 73.4 x 59.0 มม.
อัตราส่วนการอัด 12.2 : 1
ระบบเชื้อเพลิง หัวฉีด
ระบบจุดระเบิด อิเล็คทรินิกส์
สตาร์ท ไฟฟ้า
หล่อลื่น อ่างเปียก
เกียร์ 6 สปีด
ระบบขับเคลื่อน โซ่ 525 โอริง
โช้คหน้า หัวกลับ
โช้คหลัง โช้คเดี่ยวพร้อมกระเดื่อง
เบรกหน้า ดิสก์เบรกคู่ คาลิเปอร์เบรมโบ้ 4 ลูกสูบ
เบรกหลัง ดิสก์เบรกเดี่ยว คาลิเปอร์นิสชิน
ยางหน้า 120/50 ZR17
ยางหลัง 190/50 ZR17
ถังน้ำมันจุ 17 ลิตร
ยาว 2,115 มม.
กว้าง 795 มม.
สูง 1,180 มม.
ระยะฐานล้อ 1,460 มม.
ห่างจากพื้น 140 มม.
เบาะสูง 810 มม.
น้ำหนัก 214 กก.
ราคา 599,000 บาท

ความเห็นนักทดสอบ / จตุรงค์ หมื่นทิพย์
“เชื่อได้ว่าสมใจแฟนของค่ายซูซูกิที่รอคอยการนำเข้ามาขายรถบิ๊กไบค์ แต่ที่ได้ทดสอบขับขี่ครั้งนี้เป็นรถสไตล์ สตรีทไบค์ GSX-S1000F ที่ใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ของซูเปอร์สปอร์ต GSX-R1000 ที่มีหน้าตาไม่ต่างไปจากซูเปอร์สปอร์ตแต่มีการปรับเปลี่ยนการขับขี่ให้ง่ายต่อการใช้งานที่สะดวกและสบายมากยิ่งขึ้น ด้วยการจับแฮนด์เดิ้ลบาร์ยกสูงขึ้นมาลดความเมื่อยล้า แขนไม่ตึงมาก และความกว้างของแฮนด์ที่ง่ายต่อการควบคุมบังคับเลี้ยว มันรู้สึกเบาแรงและเลี้ยวได้วงแคบไม่ต่างกับแฮนด์จับโช้คสไตล์สปอร์ต ท่านั่งกับตำแหน่งของพักเท้ายังคงความเป็นสปอร์ตช่วยให้การหนีบรถกระชับและมั่นคง เครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ถึงจะเป็นเทคโนโลยีจากสายพันธุ์สปอร์ตที่ได้ชื่อว่า ดิบๆ มาแบบโหดๆ แต่พอได้สัมผัสจริงๆ มันรู้สึกถึงความนิ่มนวลไม่กระโชกโฮกฮาก แต่เมื่อต้องการความเร็ว ก็สามารถที่จะเติมคันเร่งส่งได้อย่างรวดเร็วทันใจ โหมดการทำงานของ Traction Control ที่มีมาให้และปรับได้ถึง 3 ระดับ จะตอบสนองเมื่อการลดเกียร์และเปิดคันเร่งออกจากโค้งด้วยความเร็ว ซึ่งเลือกที่จะใช้หรือปิดสำหรับขับขี่แบบเรซซิ่ง เบรก ABS ก็สั่งการได้รวดเร็วเมื่อการบีบเบรกอย่างรุนแรง มันก็ช่วยเตือนให้เรายกคันเร่งลดความเร็ว เรียกได้ว่าซูซูกิจัดเต็มมารองรับสำหรับไบค์เกอร์ที่ชอบการขับขี่ใช้งานแบบชิวๆ แต่มันก็จี๊ดได้ถ้าต้องการ”

ความเห็นนักทดสอบ / เขมรัฐ สุธรรมวาท
“ผมประทับใจอย่างแรกคือท่านั่งที่เป็นธรรมชาติครับ ทรงสปอร์ตจริงแต่ท่านั่งมันไม่ได้หมอบเยอะ เป็นรถบิ๊กไบค์ยุคใหม่ที่ตัดทอนส่วนใหญ่โตออกไปเกือบหมดแล้ว ความสูงถึงเบาะไม่มากสูง 166 ทรงตัวได้สบายๆ วันนี้ขี่ในสนามที่เป็นทางแคบและสั้น แฮนด์ที่ยกสูงยังทำให้บังคับเลี้ยวได้เบาแรง แทร็คชั่นคอนโทรลผมก็ได้ลองทั้ง 3 ระดับเลย ระดับ 3 จะเป็นโหมดที่ทำงานเร็วสุดครับ ส่วนเบรกที่มี ABS มาให้นั้นการทำงานของเบรกหลังจะตอบสนองได้ไวกว่า เท่าที่ขี่วันนี้ยังไม่เห็น ABS ของเบรกหน้าทำงานเลย เป็นสปอร์ต 1000 ซีซี ที่ผมว่ามันตอบโจทย์คนรักสปอร์ตแต่ไม่อยากหมอบกอดถังไปตลอดทาง บังลมหน้าที่ยกสูงน่าจะช่วยให้สนุกกับมันได้นานขึ้นโดยไม่เมื่อยล้า น่าสนใจมากๆ กับการทำตลาดในประเทศไทย สาวกซูซูกิมองข้ามไม่ได้ครับ”

SUZUKI V STROM 650 ABS ทัวริ่ง-แอดเวนเจอร์ มีสไตล์ วี-ทวิน สองสูบสี่หัว!

วี สตรอม 650 ถือกำเนิดขึ้นในปี 2003 เป็นครั้งแรกในไตล์ทัวริ่ง-แอดเวนเจอร์ เครื่องยนต์ วี-ทวิน ที่เน้นความสะดวกสบายในการขับขี่เดินทาง พร้อมความปลอดภัยของระบบเบรก ABS ที่ติดตั้งมาให้ในอีก 3 ปีถัดมาจนกลายเป็นรถที่ขายดีที่สุดรุ่นหนึ่งของซูซูกิ ในปี 2014 ได้เพิ่มรายละเอียดการใช้สอยสำหรับนักเดินทางมากยิ่งขึ้นและเป็นช่วงเวลาที่นักบิดชาวไทยได้ซื้อหาผ่านการจำหน่ายของซูซูกิในประเทศไทยได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นตัวเลือกของทัวริ่ง-แอดเวนเจอร์ด้วยซีซีระดับกลางมีอย่างหลากหลาย บางรายผลิตและจำหน่ายในประเทศไทยทำให้เป็นต่อเรื่องของการตั้งราคา แต่ผู้ใช้บางรายก็ยังเชื่อในงานผลิตจากต่างแดน ซึ่งซูซูกิ วี สตรอม 650 เอบีเอส คือรถที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่นนำเข้าทั้งคันมาจำหน่ายในโชว์รูมประเทศไทย ราคาขาย 350,000 บาท นอกจากเรื่องราคาแล้วยังมีหลายสิ่งที่แตกต่างในแนวทางของวี สตรอม

2 สูบ วี-ทวิน
เครื่องยนต์สองสูบเหมือนกับค่ายอื่นๆ แตกต่างกันตรงการจัดวางด้วยรูปแบบตัววีทำมุม 90 องศา ปริมาตรจริง 645 ซีซี ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ ใส่ใจกับการเผาไหม้ถึงขนาดติดตั้งหัวเทียนอิริเดียมให้ถึง 2 หัวต่อสูบ (ด้านบนหนึ่งและด้านข้างอีกหนึ่ง) สั่งงานฉับไวด้วย ECU ความเร็วสูง 32-bit พร้อมระบบช่วยให้สตาร์ทได้ง่ายขึ้นแม้ขณะเครื่องยนต์อยู่ในอุณหภูมิต่ำ ฉีดเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดแรงดันสูง 10 รู การระบายความร้อนใช้หม้อน้ำอลูมินัมแผงเดียววางหน้าเครื่องไล่ลมร้อนออกด้านข้างที่มีพื้นที่เปิดโล่งสำหรับการระบายความร้อนได้อย่างสะดวก

หัวเทียนหนึ่งด้านข้างและอีกหนึ่งบนฝาต่อหนึ่งสูบ

หน้าปัดเรียบง่ายในตำแหน่งสูง แฮนด์กว้างแต่อยู่ห่างไปนิด

ปุ่มกดเลือกโหมดระยะทางแบบไม่ต้องละมือจากแฮนด์

ABS ทั้งหน้าหลังมั่นใจด้วยทวินดิสก์ที่ด้านหน้า

อลูมินัมทวินสปาร์เฟรม
อีกหนึ่งความโดดเด่นที่เห็นแล้วมั่นใจ ด้วยการใช้เฟรมอลูมินัมอัลลอยขนาดใหญ่แต่ยังให้น้ำหนักที่เบาด้วยวัสดุอลูมินัมเช่นเดียวกับสปอร์ตแรงสูงทั้งหลายสวิงอาร์มก็เช่นเดียวกัน แถมยังเป็นตำแหน่งที่ตั้งใจติดตั้งแพลทแสดงที่มาจากแดนซามูไร ตั้งใจไว้สร้างความมั่นคงในการขับขี่ขณะความเร็วสูง สมทบด้วยกันสะเทือนหน้าเทเลสโคปิกแกนโต 43 มม. ที่สามารถปรับความแข็งได้ที่หัวโช้ค รองรับความนุ่มนวลด้วยระยะยุบตัว 5.9 นิ้ว ส่วนโช้คหลังเป็นโช้คเดี่ยวช่วงยุบ 6.3 นิ้ว ปรับได้ทั้งความแข็งและความหนืด วงล้อแมกเพื่อความแข็งแกร่งและได้เปรียบในการผ่านทุกเส้นทางด้วยสัดส่วนล้อหน้าหลัง 19 และ 17 นิ้ว แน่นอนระบบเบรก ABS ที่พร้อมทำงานตลอดเวลาในทุกสภาพถนน
รายละเอียดและรูปทรง
แฟริ่งหน้ายกสูงพร้อมไฟหน้าแบบสองดวงคู่ฉายแสงผ่านจอมัลติรีเฟล็กเตอร์ บังลมที่ว่ายกสูงนั้นยังมีตัวตัดลมอีกชั้นที่สามารถปรับได้ด้วยมือเปล่าเพื่อยกกระแสลมผ่านศีรษะผู้ขับขี่ ตำแหน่งท่านั่งเน้นความสบายด้วยแฮนด์เดิลบาร์แบบยกสูงและยื่นเข้าหาผู้ขับขี่ ถังน้ำมันขนาดย่อมแต่จุถึงใจ เบาะนั่งชิ้นเดียวที่เน้นให้ความคล่องตัวของผู้ขับขี่แต่ยังมีความสะดวกให้ผู้ซ้อนท้ายได้อย่างเต็มที่ พักเท้ามียางหุ้มลดแรงสั่น เรือนไมล์ขนาดและดีไซน์ไม่หวือหวาแต่ว่าลูกเล่นครบครัน วัดรอบเน้นอ่านง่ายด้วยระบบเข็ม ส่วนความเร็วเป็นตัวเลขดิจิตอล พร้อมรายงานตำแหน่งเกียร์ มีนาฬิกาบอกเวลา เตือนความร้อนเครื่องยนต์ในแนวตั้ง ระดับน้ำมันในถังเป็นแนวนอน และทีเด็ดคือโหมดบันทึกระยะทางที่มีทั้งระยะทางรวม ทริปย่อย A และ B คำนวณอัตราสิ้นเปลืองของเชื้อเพลิง แม้จะมีแค่บรรทัดเดียวแต่เลือกที่จะให้แสดงผลได้จากการใช้นิ้วชี้ซ้ายกดปุ่มที่ชุดสวิทช์ คำนึงถึงการใช้งานที่ปลอดภัยขณะขับขี่ อ้อ…ที่กลางจอยังมีไฟเตือนสภาพถนนที่มีน้ำแข็งเกาะ…เมืองไทยคงไม่มีโอกาสได้ใช้
สนใจเป็นเจ้าของ ค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaisuzuki.co.th

ล้อหน้า 19 นิ้ว ช่วยให้มั่นใจการลุยได้มากขึ้น

เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 2 สูบ วี-ทวิน 90 องศา
645 ซีซี DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ
กระบอกสูบ x ระยะชัก 81.0 มม. x 62.6 มม.
อัตราส่วนการอัด 11.2 : 1
ระบบเชื้อเพลิง หัวฉีด
ระบบจุดระเบิด อิเล็กทรอนิกส์
ระบบสตาร์ท ไฟฟ้า
ระบบหล่อลื่น อ่างเปียก
ระบบส่งกำลัง เกียร์ 6 สปีด
ระบบขับเคลื่อน โซ่เบอร์ 525 โอริง
โช้คหน้า เทเลสโคปิก 43 มม. ปรับพรีโหลด
โช้คหลัง โช้คเดี่ยวพร้อมกระเดื่อง ปรับพรีโหลด/ความหนืด
เบรกหน้า ดิสก์เบรกคู่ 310 มม. ABS
เบรกหลัง ดิสก์เบรกเดี่ยว 260 มม. ABS
ยางหน้า 110/80-19
ยางหลัง 150/70-17
ความยาว 2,290 มม.
ความกว้าง 835 มม.
ความสูง 1,405 มม.
ฐานล้อ 1,560 มม.
ห่างจากพื้น 175 มม.
เบาะสูง 835 มม.
ความจุถังน้ำมัน 20 ลิตร
น้ำหนัก 214 กก.

เขมมรัฐ สุธรรมวาท
“มิติของเค้าเวลาที่มองเหมือนจะเบาะต่ำ พอขึ้นไปคร่อมจริงๆ ก็สูงพอๆ กับพรรคพวก สองเท้าแตะพื้นแบบเขย่งครับ น้ำหนักรถ 214 กก. ถือว่าไม่หนักเกินไปนะครับ พอเอื้อมมือไปจับแฮนด์ในท่านั่งสำหรับผมค่อนข้างจะไกลตัวนะ ส่วนพักเท้ามันยกขึ้นมาใกล้กับเบาะนั่งและค่อนไปข้างหน้า สิ่งที่เห็นชัดมากเลยคือวินด์ชิลด์กับเรือนไมล์ยกสูงขึ้นมามองเห็นได้แบบไม่ต้องก้มเลย ลงไปขี่ในทางดินด้วยท่ายืนสัมผัสของตัวรถเขาจะมีเอกลักษณ์ สัมผัสของเขาจะแตกต่างจากตอนนั่งขี่แบบไม่น่าเชื่อ เด่นมากคือพอยืนขึ้นมาอกหรือศีรษะเราแทบจะอยู่เหนือแฮนด์เลย ตำแหน่งเป๊ะมาก ช่วงขานอกจากเข่าที่สัมผัสแนบกับถังแล้ว จะมีสัมผัสที่รับรู้ได้คือตรงข้างน่องจะติดข้างรถไว้หนึ่งจุดซึ่งส่วนมากรถรุ่นอื่นจะไม่มีตรงนี้ ท่ายืนเหมือนตัว A ตัวเราจะโน้มมาข้างหน้านิดๆ แปลกดีที่ท่ายืนกับนั่งต่างกันคนละมิติเลยครับ สตาร์ทเครื่องยนต์ต้องบีบคลัทช์นะครับ แม้จะเป็นเกียร์ว่างก็ตามเพราะเซฟตี้เขาอยู่ที่คลัทช์ การชิพเกียร์จะมีน้ำหนักตึกตักนิดนึงน่าจะเป็นจากการส่งกำลังหลายทอดของขาเกียร์ครับ เสียงเครื่องยนต์นุ่มนะ เสียงมันจะเพราะมากรอบกลางๆ 4-5 พันรอบส่งคันเร่งออกไปเสียงมีเสน่ห์มาก กำลังในรอบกลางถึงปลายมาเรื่อยๆ แต่รอบปลายนี่ไหลได้ยาวเลย อัตราเร่งดี ความเร็วขึ้นไวมาก การตอบสนองในทางออฟโรดผมว่าแรงบิดมันไม่ได้โหดมากเหมือนเครื่อง 2 สูบเรียง คุมได้เชื่องมือกว่า เบรก ABS สังเกตว่าเบรกหลังจะทำงานไวไปนิดนะ เบรกหน้ากำลังดี กลับกันกับเรื่องกันสะเทือน โช้คหน้านิ่มไปหน่อยแต่ความหนึบของโช้คหลังเรียกคะแนนได้เยอะเลย เป็นรถที่นั่งขี่ได้สบายมากๆ และถ้าต้องเข้าสู่โหมดแอดเวนเจอร์เราก็ยังสนุกกับมันได้จากท่ายืนขี่ที่ควบคุมได้ถนัด ส่วนตัวผมเอง สูง 166 หนัก 67 กก. สำหรับท่านั่งขี่ผมรู้สึกว่ายังไม่ค่อยพอดีตัวกับผมเท่าไร แขนสั้นไปนิด แต่ท่ายืนขี่ถึงขาจะถ่างไปหน่อย ตำแหน่งตัวมันคุมแฮนด์ได้ง่ายแล้วขาเราก็สัมผัสกับรถได้เต็มที่ครับ”

จตุรงค์ หมื่นทิพย์
“ในส่วนของการใช้บนท้องถนนทั่วไปหรือการใช้งานในเมืองนะครับ ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ในเรื่องของกำลังเครื่องยนต์ เรื่องการเร่งแซงค่อนข้างจะมาทันใจถึงแม้ว่ารอบช่วงปลายจะยาวนิดนึง เกียร์ 4-5-6 จะมาแบบเรื่อยๆ แต่เกียร์ 1-2-3 กับการใช้งานในเมืองนี่เวิร์คเลยครับ ในส่วนของรูปทรงที่มีความใหญ่และสูงอาจจะมีปัญหาในการซอกแซกบ้างในช่วงการจราจรที่ติดขัด การจะไปให้เร็วปรู๊ดปร๊าดค่อนข้างจะยาก แต่ก็มีจุดเด่นในเรื่องของความสูงนั่นคือมุมมองที่ได้เปรียบ ช่วยให้อ่านเส้นทางข้างหน้าได้ง่าย ผมว่าความสูงสัก 170 ซม. น่าจะเหมาะกับวี สตรอม 560 เอบีเอสครับการใช้วินด์ชิลด์ที่ช่วยบังลมด้านหน้ารู้สึกได้ในช่วงการขับขี่ระยะทางไกลๆ มากกว่า ยิ่งถ้าขี่ความเร็วสูงที่ 140 กม./ชม. ขึ้นไปแล้วนี่ ลมจะปะทะตัวเราแรง วินด์ชิลด์มีส่วนช่วยในการดันลมออกข้าง ตัวนี้มีเสริมดันลมให้ตีสูงขึ้นด้านบนด้วย ช่วยให้ขี่ได้นิ่งและมั่นคง ปลอดภัยมากขึ้น ส่วนท่านั่งสำหรับผมสูง 166 ซม. ตอนขี่ไม่มีผลเท่าไร จะมีผลตอนจอดหรือเวลาเลี้ยวในช่วงความเร็วไม่สูงนักนะครับ น้ำหนักของรถกับขนาดตัวผมนี่เวลาเลี้ยววงแคบสุดนี่แขนมันจะตึงก็มีผลทำให้คุมยากนิดนึง ในส่วนโค้งกว้างไม่มีปัญหาครับเพราะใช้การพลิกรถช่วยอยู่แล้ว เบาะกว้างและนิ่ม นั่งได้สบายมากนะครับ พักเท้าจัดว่าสูงทำให้เข่างอไปข้างหน้าเล็กน้อยช่วยให้การพลิกเลี้ยวควบคุมคล่องตัว อยู่ที่รูปร่างและทักษะด้วยครับ ถ้าคุ้นเคยเรื่องของการซิกแซกอาจจะไม่มีผลเลยก็ได้ครับ การขี่ทางไกลยาวๆ เครื่องยนต์ตัวนี้มันไม่ค่อยมีอาการหึ่ง อาการตื้อหรือสะท้านที่จะส่อว่าจะตันได้ง่ายๆ เดินรอบได้ต่อเนื่องขี่สนุกไม่เครียดดีครับแบบนี้ สวิทช์ต่างๆ ข้างแฮนด์ถือว่าออกแบบมาให้ใช้งานได้คล่อง เบรก ABS ได้ลองแล้วก็ถือว่าทำงานได้ฉับไว บางครั้งไม่เร็วเท่าไรแต่สั่งงานไวๆ ก็มีสะท้านขึ้นมือขึ้นเท้ามาแล้วผมว่ามันทำงานเร็วไปนิดนึงโดยส่วนตัวแล้วความประทับใจผมยกให้ในเรื่องของเครื่องยนต์ ใครที่บอกว่าเครื่องยนต์วี-ทวินมาโหดแบบลั่นๆ ลองสัมผัสกับวี สตรอม 650 เอบีเอสคันนี้ดู มานุ่มๆ ขี่สนุก ตอบสนองทันใจ ออกแบบได้ครอบคลุม ใช้งานง่ายครับ”