New Honda MSX125SF ABS ครั้งแรกบน Mini Bike

เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของรถจักรยานยนต์เทรนด์เอ็กซ์ตรีมจากค่ายฮอนด้า กับรุ่นที่กำลังฮอตฮิต MSX125SF ที่มาพร้อมกับดีไซน์สุดล้ำนำเทรนด์ คล่องแคล่วว่องไว ขนาดกะทัดรัดและสมรรถนะเครื่องยนต์เต็มเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีทันสมัยในยุคดิจิตอลที่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อความโดดเด่น และการขับขี่ที่เร้าใจ ปรับรูปลักษณ์และเสริมฟิกเจอร์ใหม่เพื่อความสวยงามและความสะดวกในการใช้งาน ไฟหน้าดีไซน์ล้ำ ไฟสูงแยกดวงเส้นสายสุดเท่จาก Blueline LED ไฟบอกตำแหน่งสีฟ้า ฉายความฟินส์ได้โดดเด่นเกินตัว เจิดจ้าเหนือใคร ส่องสว่างมองได้กว้างไกล เรือนไมล์แบบดิจิตอลสีฟ้า บอกรอบเครื่องยนต์ ความเร็วรถ ระดับน้ำมันสัญญาณระบบ ABS และอื่นๆ อีกเพียบ อ่านค่าได้ง่ายชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน

จัดหนักกับเทคโนโลยี ABS ครั้งแรกของรถจักรยานยนต์ Minibike ต้องบอกว่า MSX125SF ฉีกกระแสของรถขนาดเล็กด้วยระบบเบรกกันล้อล็อค ABS ที่ให้ความปลอดภัยเหมือนกับรถซูเปอร์ไบค์ขนาด 1000 ซีซี และยังมีระบบ G Sensor ที่มีความโดดเด่นและเหนือกว่าระบบ ABS ทั่วไป ที่ทำงานด้วยการตรวจจับเซ็นเซอร์จากล้อหน้าและล้อหลังสำหรับประมวลผล ที่ช่วยเสริมสมรรถนะการขับขี่ในความเร็วสูงและใช้เบรกอย่างรุนแรงหรือกะทันหันอย่างฉับพลัน ซึ่งอาจทำให้รถเสียอาการท้ายสไลด์ปัดจนเสียการทรงตัว…แต่สำหรับเทคโนโลยีระบบเบรก ABS ที่ติดตั้งอยู่ใน New Honda MAX125SF เป็นระบบเดียวกับรถซูเปอร์ไบค์ CBR1000RR 2017 ตัวใหม่ล่าสุด ด้วยตัวเซ็นเซอร์ IMU (Inertia Monitoring Unit) ที่มีหน้าที่ตรวจวัดสภาพของตัวรถในแนวระนาบหรือขนานอยู่กับพื้น แต่ถ้าเมื่อไหร่รถมีอาการส่ายสะบัดท้ายปัด วงล้อหมุนสไลด์ ระบบ G Sensor จะส่งสัญญาณไปที่ชุดคอนโทรล ABS เพื่อปรับแรงดันของน้ำมันเบรกให้มีความเหมาะสม คาลิเปอร์จะค่อยๆ จับ จานดิสก์เป็นจังหวะ ลดอาการท้ายสไลด์ทำให้สามารถควบคุมรถได้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีอยู่ในรถขนาดเล็กครั้งแรกของโลกโช้คอัพสุดเท่ Upside Down ออพชั่นชั้นนำระดับซูเปอร์ไบค์อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้ว MSX คือหนึ่งเดียวของรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กที่มีเทคโนโลยีระดับซูเปอร์ไบค์ด้วยระบบโช้คอัพหน้าแบบ Upside Down หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่าโช้คหัวกลับ ที่มีความโดดเด่น และมีสมรรถนะการทรงตัวที่นุ่มหนึบ รองรับแรงกระแทกได้ทุกเส้นทางทรงตัวดีเยี่ยม และโช้คอัพหลังเดี่ยวจับยึดทำงานร่วมกับสวิงอาร์มทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่ วงล้อแม็กแบบสปอร์ตขนาด 12 นิ้ว 10 ก้าน ยางหน้ากว้างแบบจุ๊บเลสไม่มียางในง่ายต่อการเซอร์วิสและมีความทนทาน

หน้าขนาด 120/70-12 ยางหลัง 130/70-12 และระงับความเร็วหยุดแบบมั่นใจด้วยระบบดิสก์เบรกหน้าคาลิเปอร์ลูกสูบคู่จานดิสก์ 220 มม. ดิสก์เบรกหลังคาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว จานขนาด 190 มม. เครื่องยนต์จี๊ดจ๊าด แรง ควบคู่กับความประหยัดเชื้อเพลิง ขุมพลังขนาด 125 ซีซี สูบเดี่ยว 4 จังหวะ 2 วาล์ว ระบบหัวฉีด PGM-FI ฉีดพ่นด้วยละอองน้ำมันที่เผาไหม้ได้สมบูรณ์แบบให้กำลังเครื่องยนต์ที่ราบรื่นและสนุกสนานทุก รอบเครื่องยนต์ ระบายความร้อนด้วยอากาศ เร้าใจด้วยระบบคลัทช์แบบแมนนวลที่ตอบสนองได้ทุกจังหวะฟินส์ไม่มีสะดุด ขับเคลื่อนกำลังสุดท้ายด้วย โซ่และ สเตอร์ ผ่านอัตราการทดเกียร์ 4 ระดับ เกียร์ 1 ตบลง เกียร์ 2-4 งัดขึ้น ได้อามรณ์แบบสปอร์ต

ความคิดเห็นผู้ขับขี่ จตุรงค์ หมื่นทิพย์
จากที่ได้สัมผัสกับ MSX125SF มันเพียบพร้อมไปทุกอณูกับเทคโนโลยีที่ช่วยให้การขับขี่ให้ความรู้สึกสนุกสนาน รูปทรงกะทัดรัด มีความคล่องแคล่ว กับรถจักรยานยนต์มินิไบค์ขนาด 125 ซีซี บิดได้ดั่งใจ ตอบสนองทุกย่านความเร็วรอบเครื่องยนต์ ทั้งต้นและกลาง และลากรอบกันได้ยาวๆ ด้วยความเร็วปลายท็อปสปีดประมาณ 100-110 กม./ชม. สามารถรีดเร่งกำลังด้วยระบบคลัทช์แมนนวลและการเปลี่ยนเกียร์เช่นเดียวกับรถสปอร์ต และสิ่งที่โดดเด่นกว่ามินิไบค์ทั่วไปคือการทำงานของดิสก์เบรกที่มาพร้อมกับระบบ ABS ที่ติดตั้งในรถขนาดเล็กครั้งแรก ระบบการทำงานของ ABS ช่วยชลอความเร็วโดยที่ไม่ทำให้ล้อล็อคสไลด์ และยังสามารถที่จะควบคุมรถไปในทิศทางที่ต้องการได้มั่นใจปลอดภัย การสั่งงานที่ฉับไวเมื่อกำเบรกหน้าอย่างกระทันหันในจังหวะที่มีรถตัดหน้าหรือเสียการทรงตัวในความเร็วสูง ช่วยลดอุบัติเหตุในการสูญเสียและบาดเจ็บ เรียกได้ว่าคุ้มค่าเกินราคาและขับขี่ได้อย่างเร้าใจ

2018 KTM 450SXF

สำหรับ 450SXF โมเดลล่าสุดจาก KTM ได้รับการออกแบบใหม่ ที่ระบุมาว่า “มากกว่าการเปลี่ยนโฉม” กล่าวคือ มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นจากโมเดลเดิมมากกว่าแค่การเปลี่ยนสีสันหรือเพิ่มของแต่งในแบบปรับโฉมทั่วไปนั่นเอง โดยจะใช้เฟรมสีส้มตามความต้องการของกลุ่มผู้ใช้ KTM ส่วนใหญ่ที่ต้องการสีส้ม เช่นเดียวกับกราฟฟิคใหม่ที่ยังคงเน้นโทนสีส้มเป็นหลักแต่จะออกแบบลวดลายให้มีความสะอาดตามากยิ่งขึ้น ซึ่งนี่คือสองส่วนเบสิคของการปรับโฉมสำหรับ 450SXF โมเดลล่าสุด ในขณะที่การปรับปรุงพัฒนาส่วนอื่นๆ ที่น่าสนใจของเรือธงในสังเวียนโมโตครอส ที่ KTM บอกว่า ทำมากกว่าไมเนอร์เช็นจ์ ไม่ว่าในส่วนของแผ่นคลัทช์ ที่มีการปรับวัสดุที่ใช้ในการผลิตเป็น nitrated steel เพื่อลดการสึกหรอจากการที่ต้องทำงานร่วมกับชามคลัทช์ที่ซึ่งมีความแข็งแกร่งจากการผลิตจากเหล็กชั้นดี ดังนั้นจึงต้องปรับวัสดุที่ใช้ในการผลิตแผ่นคลัทช์ให้มีความทนทานยิ่งขึ้น โดยคลัทช์ใน 450SXF นี้จะยังคงเป็นคลัทช์แบบ diaphragm clutch

ในส่วนของระบบกันสะเทือนหน้านั้นมีการอัพเดทชุดฟอร์คหน้า เป็น 2018 WP AER air front fork ที่มีการปรับปรุงชิ้นส่วนภายในใหม่อย่าง air seal , air piston , rebound spring กล่าวคือมีการปรับชิ้นส่วนภายในของกระบอกฟอร์คหน้าที่เป็นฝั่งโช้คลม ใหม่ รวมทั้งยังมีการเปลี่ยน piston ฝั่ง damping ใหม่อีกด้วย เพื่อปรับสมรรถนะให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ในชุด ฟอร์ค AER นี้ยังได้มีการ re-valve ใหม่ ด้วยการเพิ่มแรงดันในส่วนของ low-speed compression ขึ้นอีก 5% เมื่อเทียบกับโมเดลก่อนนี้ และลดแรงดันในช่วง high-speed compression ลงอีกประมาณ 10% ซึ่งในการปรับนี้ก็มาจากการเปลี่ยนชิ้นส่วนของ shims สองตัวแรกในส่วนของ compression เป็น 26 มม. เป็น 30 มม. พร้อมทั้งทำการเปลี่ยนวัสดุในส่วนของ mid-valve piston จากเดิมที่ผลิตจากวัสดุ ceramic มาเป็น วัสดุ sintered steel พร้อมกันนี้ในส่วนของแหล่งพลังงานจ่ายไฟใน 450SXF ใหม่นี้จะมีประจุไฟที่มากขึ้นกว่าเดิม แต่น้ำหนักของแบตเตอรี่ไม่เพิ่มขึ้นด้วยการเปลี่ยนแบตเตอรี่จากเดิมที่ใช้ Samsung C22S มาเป็น Sky Rich HJTZ58-FB ที่ให้พลังมากกว่า มิติของตัวรถ ไม่ว่า ความสูงเบาะนั่ง, ความกว้างของถัง, ความโค้งของแฮนเดิลบาร์ รวมทั้งสเปคอื่นๆ ทั้งหมดยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่นเดียวกับมอเตอร์สตาร์ทที่ยังคงประสิทธิภาพที่ดีตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา ด้วยขนาดเล็กกะทัดรัด เปี่ยมคุณภาพไร้ปัญหารบกวนนับตั้งแต่เริ่มนำมาใช้เป็นรายแรกตั้งแต่ปี2007 ในส่วนของระบบส่งกำลังด้วยชุดเกียร์แบบ 5 สปีด ได้รับการยืนยันถึงความทนทานของชุด shaft bearing ที่สามารถรองรับการทำงานที่หนักหน่วงด้วยกรรมวิธีการผลิตแบบ MIM หรือ Metal Inject Mold system ที่มีส่วนทำให้สามารถทนทานต่อเนื่องในสภาพการทำงานภายใต้อุณหภูมิความร้อนที่สูงมาก

ปุ่มควบคุมหรือ multi-switch ได้รับการออกแบบเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถทำการควบคุมสั่งการได้อย่างสะดวกง่ายดาย ทั้งการเลือก ค่าแมปปิ้งสองค่าที่กำหนดไว้, ควบคุม traction control, ควบคุม launch control ในขณะที่ระบบเบรกของ KTM 450SXF นี้ก็ยังคงเป็นเบรกที่ดีที่สุดในกลุ่มรถพิกัดเดียวกันด้วยการเลือกใช้ระบบเบรกจาก Brembo ที่มีความแข้งแกร่งและเปี่ยมประสิทธิภาพที่สุด ในขณะที่ยางติดรถกำหนดสเปคมาเป็น Dunlop MX3S intermediate ที่ใส่มาพร้อมกับวงล้อ Takasago Excels สีดำ

สำหรับสเปคพื้นฐานของ 2018 KTM 450SXF มีดังนี้

Engine: Single-cylinder four-stroke
Bore x stroke: 95 x 63.4mm
Displacement: 450cc
Compression ratio: 12.75: 1
Valve train: 4-valve DOHC w/ finger followers
Fueling: Keihin EFI w/ 44mm throttle body
Ignition: Keihin EMS
Cooling: Liquid
Lubrication: Pressure w/ two oil pumps
Transmission: Five-speed
Clutch: Wet multi-disc DDS-Clutch w/ Brembo hydraulics
Final drive: 5/8- x 1/4-inch chain
Frame: Chromoly double-cradle
Subframe: Aluminum
Handlebar: Neken tapered aluminum
Front suspension: Fully adjustable 48mm WP AER air fork; 12.2 inches of travel
Rear suspension: Fully adjustable linkage-assisted WP 5018 BAVP DCC shock; 11.8 inches of travel
Front wheel: 1.6 x 21” Excel
Rear wheel: 2.15 x 19” Excel
Front tire: 80/100-21; Dunlop MX3S
Rear tire: 120/90-19; Dunlop MX3S
Front brake: 310mm disc
Rear brake: 260mm disc
Wheelbase: 58.5 inches
Rake: 26.1 degrees
Triple clamp offset: 22mm
Seat height: 37.8 inches
Fuel tank capacity: 1.85 gallons
Wet weight (approximate, with no fuel): 222 pounds

ทีม ซูซูกิ ชนะเลิศสนาม 5 รายการ MX2 GP ที่สวีเดน

เจเรมี ซีเวอร์ ทีม Suzuki World MX2 ต่อสู้ได้อย่างสมศักดิ์ศรี ในการแข่งขันรายการโมโตครอสชิงแชมป์โลก ในรุ่น MX2 GP ทั้ง 2 เรซ ที่สวีเดน ซึ่งในวันที่มีการแข่งขันสภาพอากาศปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่ ซีเวอร์ กับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และทำคะแนนรวมในสนามนี้เป็นที่ 1 ด้วยคะแนนรวมทั้ง 2 เรซ 44 คะแนน ในขณะที่ฮันเตอร์ ลอว์เรนซ์ เพื่อนร่วมทีม ได้แสดงให้เห็นถึงวิธีการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม โดยขึ้นไปในตำแหน่งที่2 ตามหลัง ซีเวอร์ โดยทั้ง 2 คน ขับขี่ Suzuki RM-Z250S ซึ่งนักแข่งทีม ซูซูกิ อยู่ในตำแหน่งที่ 1 และที่ 2 ก่อนที่ลอว์เรนซ์ ดาวรุ่งจากออสเตเรีย จะจบด้วยตำแหน่งที่ 6 แต่มันก็เป็นการยืนยันว่าดาวรุ่งจากออสเตรเลียคนนี้ มีความสามารถมากแค่ไหน และดาวรุ่งอีกหนึ่งคนที่น่าจับตามองอย่าง ซัค พิชอน ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาสามารถขับขี่และแข่งขันร่วมกับพวก MX2 ได้เป็นอย่างดี และสามารถทำความเร็วน่าทึ่ง และต่อสู้อย่างหนักกับการเปิดตัวในรุ่น MX2 ครั้งแรกของเขา ซีเวอร์ กล่าวว่า “ในการแข่งขันในเรซแรก ผมออกสตาร์ทได้ดี และสามารถขึ้นเป็นลำดับที่ 3 และผมได้พลาดเล็กน้อย ทำให้เสียเวลาไปนิดหน่อย แต่มันก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากในช่วงท้าย โดยมีลอว์เรนซ์ เพื่อนร่วมทีมของผมตามมาด้านหลัง และผมสามารถขับขี่ได้ดีในการแข่งขันในครั้งนี้ ก่อนสิ้นสุดการแข่งขันผมผิดพลาดเล็กน้อย ก่อนที่จะโดนคู่แข่งแซงในช่วงสุดท้าย แต่เค้าก็ไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งที่ดีในเรซต่อไป ซึ่งมันทำให้ผมอารมณ์เสียเล็กน้อย ยังไงก็ตาม ผมมีความสุขมากที่สามารถคว้าแชมป์สนามที่ 5 ของปีนี้ได้ ซึ่งมันทำให้ทุกคนในทีมเราตื่นเต้นมาก และตอนนี้ผมมีความสุขมาก และสนุกกับการแข่งขัน ตำแหน่งแชมป์สำคัญมาก แต่มันไม่ง่ายเลยกับที่ผ่านมา แต่เราจะก้าวไปให้ได้” ซีเวอร์ ยังคงมุ่งมั่นที่จะคว้าตำแหน่งแชมป์ของ MX2 Championship และหวังว่าจะได้รับชัยชนะอีกครั้งสำหรับทีม Suzuki World ร่วมติดตามเชียร์ทีม ซูซูกิ ได้สนามต่อไปที่อเมริกา อีกครั้งในวันที่ 2 กันยายนที่จะถึงนี้

Yamaha QBIX 125 Candy Color

เจาะเข้าทุกกลุ่มของวัยรุ่นด้วยการออกแบบดีไซน์ฉีกแนวของรถออโตเมติกทั่วไปและมาพร้อมกับสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ล้ำนำสมัย เน้นการขับขี่ที่สะดวกง่ายดายและประหยัดน้ำมัน หลังจากเปิดตัวสร้างความฮือฮาที่งานมอเตอร์โชว์ฯ ที่ผ่านมากับแนวรถสไตล์ใหม่ทรงสี่เหลี่ยม และการสานต่อยอดในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ได้รับความนิยมของกลุ่มวัยรุ่นและสำนักแต่งอย่างต่อเนื่องด้วยกิจกรรมการประกวดรถแต่งสวยงาม เป็นการโชว์ไอเดียและเป็นแนวทางให้กับกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใช้ทั่วไป

สำหรับความสวยงามและความโดดเด่นของรถออโตเมติก QBIX คันนี้ มีการปรับแต่งสีสันใหม่ด้วยลายกราฟฟิคและเส้นสายแบบ Abstract แอ๊บสแตก ด้วยเฉดสีที่สะดุดตาคาดด้วยลวดลายสลับสีสะท้อนแสงบนพื้นสีชมพู และในส่วนอื่นก็เสริมด้วยอุปกรณ์ของแต่งที่หาซื้อได้แล้วแต่ความชอบและไอเดียของแต่ละคน อย่างข้างหน้าไฟเปลี่ยนแปลงใส่เป็นไฟสองชั้น วงล้อแม็กสีสันใหม่สวยงามตัวยางกึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งทางเรียบและทางฝุ่น ดิสก์เบรกหน้าคาลิเปอร์แบบ 4 ลูกสูบ ทรงเรเดียลเม้าท์ โช้คอัพหน้าแบบเทเลสโคปิค แฮนด์เดิ้ลบ้าร์ทรงต่ำปลายแฮนด์ตุ่มถ่วงใหม่ ปั๊มแรงดันดิสก์เบรกตู้ปลา ก้านเบรกขาพับได้เรือนไมล์แบบฟูลดิจิตอล กระจกมองหลังขาอลูมินัมบานกระจกทรงเหลี่ยม ส่วนอินเนอร์ด้านในมีช่องสำหรับเสียบสายชาร์ท ท่านั่งสบายๆ ด้วยเบาะขนาดใหญ่กว้าง ปาดแต่งทรงใหม่หุ้มด้วยหนังแก้ว ฟุตบอร์ดเสริมยางวางเท้ากันลื่น ด้านหลังโช้คอัพเดี่ยวระบบแก๊สของ Gazi ที่มีซับแท้งค์บิ้วท์อินที่สามารถปรับพรีโหลดของสปริงได้ ในส่วนของเครื่องยนต์เพิ่มสมรรถนะความจี๊ดจ๊าดด้วยท่อสูตรเสียงเพราะเดินคอท่อด้วยสแตนเลสออกด้านข้างสวมด้วยปลายท่ออลูมินัมเคฟล่าร์ กรองอากาศ MUSASHI เพิ่มให้ระบบเผาไหม้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ฝาครอบสายพาทำสีให้เข้าชุดกับสีสันของตัวรถ

การปรับเปลี่ยนเพิ่มสีสันเพิ่มความโดดเด่นแต่ก็ยังคงเน้นในเรื่องของความปลอดภัยด้วยอุปกรณ์การขับขี่ครบไม่ต้องกลัวเจ้าหน้าที่เรียกตรวจและเป็นที่น่าสนใจบนท้องถนนอีกด้วย

ยามาฮ่า คว้า 3 รางวัลการันตีคุณภาพบิ๊กไบค์ดีเด่นแห่งปี

ยามาฮ่า คว้า 3 รางวัลการันตีคุณภาพบิ๊กไบค์ดีเด่นแห่งปี Big Best BigBike of the Year 2016-2017 ยามาฮ่าคว้ารางวัล Big Best BigBike of the Year 2016-2017 รางวัลการันตีคุณภาพรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ดีเด่นแห่งปี ประจำงาน Bangkok International Grand Motor Sale 2017 (Big Motor Sale 2017) ซึ่งในปีนี้ยามาฮ่าคว้าถึง 3 รางวัลคุณภาพ ได้แก่ 1. รางวัลดีเด่น ยอดเยี่ยม R-Series สายพันธุ์แชมป์ คลาส 600 ซีซี จาก Yamaha YZF-R6 2. รางวัลดีเด่น ยอดเยี่ยม บิ๊กสกู๊ตเตอร์ ยอดนิยมระดับตำนาน จาก Yamaha TMAX 3. รางวัลดีเด่น ยอดเยี่ยม เนคเก็ตไบค์นีโอเรโทร แรงจริง ดีไซน์โดนใจ จาก Yamaha XSR900 โดยมีนายสุตโชค จันทราภรณ์ ผู้จัดการส่วนโชว์รูมยามาฮ่าไรเดอร์สคลับ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ขึ้นรับมอบรางวัล จากนายจรวย ขันมณีย) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยานยนต์แสควร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัด Big Motor Sale 2017 โดยพิธีมอบรางวัลในครั้งนี้จัดขึ้น ณ Grand Hall ศูนย์นิทรรศการ และการประชุม ไบเทค บางนา เมื่อเร็วๆ นี้

2018 Kawasaki KX250F

Kawasaki เผยโฉมรถในพิกัด MX2 โมเดล2018 ก่อนใคร โดยยังคงความล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามากสุดในคลาสนี้ ในส่วนแรกของการพัฒนา 2018KX250F นี้ก็คือการปรับชิ้นส่วนภายในฟอร์คหน้า พร้อมทั้งทำการเซทติ้งกันสะเทือนหลัง เพื่อการตอบสนองของระบบกันสะเทือนและมีประสิทธิภาพการซับแรงสะเทือนที่ดียิ่งขึ้น ในขณะที่เป้าหมายหลักในการพัฒนา 2018KX250F นั้นก็คือ “อัพเกรดเครื่องยนต์” ที่มีเป้าหมายสูงสุดคือ การทำเวลาต่อรอบหรือเบสต์แล็บให้ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมุ่งเน้นไปที่อัตราเร่งในการออกตัว จุดมุ่งหมายอยู่ที่การทำโฮลช็อต รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงฟังก์ชั่นในส่วนของระบบจ่ายเชื้อเพลิง การปรับเปลี่ยนการไหลเข้าของไอดีและการส่งออกไอเสียที่ไหลเวียนอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ควบคู่กับการปรับตั้งค่า Fi ใหม่นั้น ก็ได้มีการปรับเพิ่มแรงดันของปั๊มหัวฉีดและปรับองศามุมของหัวฉีดใหม่ ให้มีระยะทางการของช่องทางจ่ายที่สั้นลงเพื่อให้การฉีดเชื้อเพลิงออกมาใช้เวลาที่น้อยกว่าโมเดลเดิม จากการพัฒนานี้เองมีส่วนให้มีอัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 13.4:1 ซึ่งเป็นผลให้เครื่องยนต์ตัวใหม่นี้มีกำลังและแรงบิดที่สูงกว่าโมเดลเดิม

การจัดการจนได้รับกำลังที่เพิ่มขึ้นรวมทั้งแรงบิดที่ดีขึ้นนี้นั้นส่วนหนึ่งนั้นมีผลโดยตรงจากการปรับปรุงรูปทรงไอเสีย ทั้งด้านความยาวและความกว้างที่ทำให้การไหลจากฝาสูบไปสู่ปลายท่อได้อย่างดี จนช่วยให้ได้สมรรถนะที่ดีในรอบการทำงานเครื่องยนต์รอบต่ำถึงรอบการทำงานเครื่องยนต์รอบกลาง, รวมทั้งได้อัตราเร่งที่รวดเร็ว และมีการส่งกำลังได้ราบเรียบนุ่มนวลง่ายต่อการขับขี่ อีกทั้งยังสามารถควบคุมการทำงานในช่วงการทำงานรอบเครื่องยนต์สูงได้ง่ายยิ่งขึ้น หากมีความต้องการความได้เปรียบในการทำโฮลช็อต , ควบคุมการขับขี่ที่นุ่มนวล การเรียกกำลังและแรงบิดที่มาได้ง่าย รวมทั้งการอัพเกรดเทคโนโลยีสมัยใหม่ สำหรับรถในพิกัด 250F นี่คือตัวเลือกที่น่าสนใจอันดับต้นๆ ในสังเวียนวิบากด้วย 2018 KX250F

ซึ่งมีสเปคพื้นฐานดังนี้

Engine 4-stroke, 1-cylinder, DOHC, water-cooled
Displacement 249cc
Bore x Stroke 77.0 x 53.6mm
Compression ratio 13.4:1
Fuel System DFI®  w/43mm Keihin throttle body and dual injectors
Ignition Digital DC-CDI
Transmission 5-speed, return shift
Final Drive Chain
Front Suspension / Wheel Travel 48mm inverted Showa SFF telescopic fork with 40-way spring preload adjustability and 22-position compression and 20-position rebound damping adjustability/12.2 in
Rear Suspension / Wheel Travel Uni-Trak® linkage system and Showa shock with 19-position low-speed and 4-turns high-speed compression damping, 22-position rebound damping,
fully adjustable spring preload/12.2 in
Front Tire 80/100-21
Rear Tire 100/90-19
Front Brakes Single semi-floating 270mm Braking® petal disc with dual-piston caliper
Rear Brakes Single 240mm Braking® petal disc with single-piston caliper
Frame Type Aluminum perimeter
Rake/Trail 28.4°/4.8 in
Overall Length 85.5 in
Overall Width 32.5 in
Overall Height 50.0 in
Ground Clearance 12.8 in
Seat Height 37.2 in
Curb Weight 230.3 lb**
Fuel Capacity 1.69 gal
Wheelbase 58.2 in
Color Choices Lime Green

NEW Suzuki GSX-S150

“A GSX-S To Revolutionize The Lightweight Class”

ซูซูกิ GSX-S150 ถูกออกแบบให้เป็นรถจักรยานยนต์สมรรถนะในการขับขี่ที่โดดเด่นที่ถูกถ่ายทอดเทคโนโลยีมาจาก Big Bike ซูซูกิ GSX ซีรีย์โครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด ทำให้รูปโฉมโดยรวมมีความปราดเปรียวและเพรียวบาง ให้ความคล่องตัวและขับขี่ง่ายแม้ในการจราจรที่คับคั่งที่สุดของเครื่องยนต์ในขนาด 150 ซีซี ให้แรงบิดอย่างต่อเนื่องพร้อมอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยม ตอบสนองความเร้าใจผู้ขับขี่ ให้ความรู้สึกสนุกและตื่นเต้นในทุกจังหวะในการขับขี่ ไม่ว่าขับขี่ทั้งทางใกล้และทางไกล มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่ำในบรรดาคลาสเดียวกัน พร้อมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสูงสุด An Exciting And Aggressive Style”เร้าใจในการขับขี่พร้อมรูปโฉมที่ปราดเปรียวและดุดัน แนวคิดในการออกแบบของวิศวกรซูซูกิคือการออกแบบ GSX-S150 ให้มีเส้นสายของตัวรถเฉียบคม ให้ความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจแต่แฝงไปด้วยรูปลักษณ์ที่มีความดุดันตั้งแต่หัวจรดท้ายเพื่อให้สมกับเป็นหนึ่งในรถจักรยานยนต์ซูซูกิ GSX ซีรีย์ ชุดโคมไฟหน้าและเรือนไมล์ได้รับการออกแบบให้ดูล้ำสมัย เส้นสายให้ความเร้าใจตั้งแต่ด้านหน้าต่อเนื่องไปจนถึงถังน้ำมันเชื้อเพลิง และฝาครอบตัวถังด้านข้างและฝาครอบเครื่องยนต์ด้านล่างอีกด้วย

รูปลักษณ์ด้านข้างและด้านท้ายได้รับการออกแบบให้มีเส้นสายไปในแนวเดียวกับชุดโคมไฟหน้า ทำให้ซูซูกิ GSX-S150 มีรูปโฉมที่ดูปราดเปรียว เพรียวบาง และเป็นเอกลักษณ์สำคัญของรถจักรยานยนต์ซูซูกิ GSX ซีรีย์ประสบการณ์ที่ยาวนานและเทคโนโลยีที่ได้รับการถ่ายทอดมาจาก GSX-R1000 เพื่อออกแบบและพัฒนาเครื่องยนต์       GSX-S150 ให้เป็นสุดยอดเครื่องยนต์ที่สมบูรณ์แบบและมีสมรรถนะที่ดีเยี่ยม  ด้วยเครื่องยนต์ DOHC Twincam 4 วาล์ว ขนาด 147.3 ซีซี 4 จังหวะ       สั่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดที่มีประสิทธิภาพ พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ สามารถให้อัตราเร่งและแรงบิดอันทรงพลังตั้งแต่รอบความเร็วต่ำและกลางเป็นเยี่ยม และมีกำลังของเครื่องยนต์ดีที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับน้ำหนักของตัวรถในคลาสรถจักรยานยนต์ 150 ซีซี สไตล์สตรีทสปอร์ต คุณลักษณะหนึ่งที่โดดเด่นของเครื่องยนต์ GSX-S150 ให้แรงบิดที่ดีตั้งแต่ช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์ตั้งแต่รอบต่ำถึงรอบสูงถึง 10,500 รอบต่อนาที ทำให้ผู้ขับขี่มีความสนุกและเร้าใจทุกครั้งที่ได้ขับขี่และทำให้ผู้ขับขี่สามารถขับขี่อย่างมีสไตล์ ได้ทั้งในเมืองและนอกเมืองอย่างสนุกสนาน

 

ซูซูกิ GSX-S150 ได้ติดตั้งระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด ที่ควบคุมการสั่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยกล่องสมองกล โดยทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ทั้ง 6 จุด* เพื่อประมวลผลในขณะเครื่องยนต์ทำงานในสภาวะอากาศที่แตกต่างกันไป และสั่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดแบบ 10 รู ซึ่ง จ่ายน้ำมันตรงเข้าสู่พอร์ตไอดีโดยตรง ทำให้การเผาไหม้ ในเครื่องยนต์เป็นไปอย่างสมบูรณ์และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดีเยี่ยมซูซูกิ GSX-S150 ได้เลือกใช้เรือนลิ้นเร่งที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางด้านในขนาดใหญ่ถึง 32 มม. ซึ่งใหญ่ที่สุดในคลาส 150 ซีซี ทำให้อากาศไหลผ่านได้อย่างเต็มที่ส่งผลให้มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในการขับขี่ในรอบความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยีจากการพัฒนารถจักรยานยนต์ซูซูกิบิ๊กไบค์ หม้อกรองอากาศที่มีขนาดใหญ่ 4.3 ลิตร สามารถติดตั้งในโครงสร้าง GSX-S150 ที่มีความเพรียวบางได้อย่างลงตัว และหม้อกรองขนาดใหญ่นี้สามารถคัดกรองสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มกำลังสูงสุดและให้อัตราเร่งได้ทันใจเพื่อให้ ซูซูกิ GSX-S150 มีสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีเยี่ยมจึงได้ออกแบบระบบท่อไอเสียที่มีท่อไอเสีย 2 ขนาด 28.6 มม. และ 31.8 มม. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์เต็มพิกัดตั้งแต่รอบต่ำถึงรอบสูง และยังทำให้เสียงของเครื่องยนต์มีความเร้าใจตามสโลแกน  “Beat the Street” อีกด้วย  นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งแคททาไลเซอร์ เพื่อลดมลพิษทางอากาศและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสูงสุดด้วยการผ่านค่ามาตรฐานไอเสียระดับ 6 หรือ Euro 3กระบอกสูบเคลือบสารพิเศษ นิเกิล-ฟอสฟอรัส-ซิลิคอน-คาร์ไบด์ เทคโนโลยีจากสนามแข่ง หรือเป็นที่รู้จัก ขบวนการเคลือบสารเซรามิค SCEM (Suzuki Composite Electrochemical Material) น้ำหนักเบา อีกทั้งยังให้ประสิทธิภาพในการลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ ทำให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง และมีความทนทานสูงสุด    ระบบเกียร์แบบ Manual 6 สปีด ได้รับการออกแบบโดยใช้ประสบการณ์ที่ได้สั่งสมมาปรับเซ็ทอัตราทดเกียร์เช่นเดียวกับ Suzuki GSX-R Series ที่สามารถทำให้เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังทำงานได้อย่างราบรื่นและสามารถส่งกำลังไปยังล้อหลังได้อย่างรวดเร็ว ตอบสนองอัตราเร่งได้อย่างฉับไว เพิ่มความเร้าใจในทุกการขับขี่ ซูซูกิ GSX-S150 ได้รับการออกแบบโครงสร้างตัวถังให้มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา จึงทำให้รถดูสปอร์ต เพรียวบางและสามารถรองรับเครื่องยนต์ที่มีกำลังสูงควบคู่กันตลอดจน ตอบสนองการควบคุมรถได้อย่างแม่นยำแม้ขับขี่ในย่านความเร็วสูง Suzuki GSX-S150 เป็นรถจักรยานยนต์สไตล์สตรีทสปอร์ตที่เบาที่สุดในคลาสเดียวกัน โดยมีน้ำหนักเพียง 130 กก. ส่งผลให้การควบคุมตัวรถเป็นไปได้อย่างง่ายดาย สามารถขับขี่ และใช้งานในเมืองได้อย่างคล่องตัวโครงสร้างตัวถังที่กะทัดรัด ด้วยระยะฐานล้อที่สั้น และรูปทรงเพรียวบาง ทำให้สามารถควบคุมรถได้อย่างคล่องตัว แม้ในการจราจรที่แน่นขนัด

ซูซูกิ GSX-S150 ได้ถูกออกแบบความสูงของเบาะนั่งเพียง 785 มม. และออกแบบเบาะนั่งให้มีความเพรียวบางส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถวางเท้าลงพื้นได้อย่างสบาย ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยโครงสร้างตัวถังที่มีขนาดกะทัดรัดทำให้ผู้ขับขี่มีอิสระในปรับท่านั่งการขับขี่ตามสรีระในตำแหน่งการนั่งที่เหมาะสมและสบายที่สุด ทำให้ไม่เมื่อยล้า และทำให้สนุกในการขับขี่ แม้ในการใช้งานในย่านความเร็วสูงสมรรถนะของเบรกมีความสำคัญอย่างยิ่ง เบรกที่มีประสิทธิภาพ              ต้องดูสปอร์ต เร้าใจ ตั้งแต่แรกเห็น ด้วยการออกแบบดิสก์เบรกหน้า       ขนาด 290 มม. และดิสก์เบรกหลังขนาด 187 มม. ทำให้สามารถสั่งหยุดรถได้อย่างมั่นใจ ยางที่ใช้กับ ซูซูกิ GSX-S150 ถูกพัฒนาร่วมกันผู้ผลิตยางในประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะ  ด้วยยางหน้าและหลังขนาด 17 นิ้ว สมรรถนะที่ดีเยี่ยมในทางตรงและในการเข้าโค้ง โดยเฉพาะยางหลังที่มีขนาดใหญ่ 130/70-17 ที่ให้สมรรถนะที่เหนือกว่า  พร้อมเลือกใช้วงล้ออะลูมิเนียมอัลลอยด์แบบ 10 ก้าน น้ำหนักเบาที่ได้รับการออกแบบมาจากเทคโนโลยีขั้นสูงโดยเฉพาะ ดูสปอร์ตเร้าใจ อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง เบาะนั่งแยกอิสระหน้า-หลัง ให้ความรู้สึกสปอร์ต เร้าใจตั้งแต่แรกเห็น เช่นเดียวกันกับ GSX-R1000  ซูซูกิ GSX-S150 เพิ่มลุคสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยเบาะนั่งแบบทรงสปอร์ต 2 ชั้น เหมาะกับสรีระของผู้ขับขี่ ประกอบกับการดีไซน์ความสูงของเบาะนั่งให้ต่ำ ลดความเมื่อยล้าในการขับขี่ และเติมเต็มความเป็นรถสปอร์ตได้เต็มที่ด้วยขายึดที่พักเท้าหลังที่อิสระแบบแยกชิ้น  เมื่อรถเกิดความเสียหาย สามารถเปลี่ยนได้ในทันที ไม่ต้องเปลี่ยนทั้งเฟรมตัวถังรถองศาการเลี้ยวของ ซูซูกิ GSX-S150 ได้ถูกตั้งค่าไว้ที่มุมทั้งด้านซ้ายและด้านขวาไว้ที่ 40 องศา เพื่อความคล่องตัวในการขับขี่ในเมืองและในการจราจรที่หนาแน่นระบบกุญแจนิรภัยแบบ Shutter-Key 2 ชั้น เพิ่มความมั่นใจในทุกครั้งที่จอด เพิ่มความปลอดภัยแน่นหนาถึง 2 ชั้นด้วยระบบล็อคแบบแม่เหล็ก สบายใจ ไร้กังวลไฟหน้าของซูซูกิ GSX-S150 แบบ LED ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก GSX-R Series เติมเต็มความเป็นสตรีทสปอร์ตได้อย่างลงตัว ด้วยความสว่างของหลอดไฟแบบ LED ทำให้เห็นชัดเจน แม้ในเวลากลางวัน

ซูซูกิ GSX-S150 ได้ติดตั้งชุดแผงหน้าปัดแสดงผลแบบ Full LCD ซึ่งถอดแบบมาจาก Big Bike ได้อย่างลงตัว ที่มาพร้อมมาตรวัดความเร็ว, มาตรวัดรอบเครื่องยนต์, มาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง, มาตรแสดงระยะการเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่น, มาตรแสดงตำแหน่งเกียร์, มาตรวัดระยะทาง 2 ระยะ พร้อมนาฬิกา นอกจากนั้นยังมีไฟสัญญาณเตือนรอบความเร็วอีกด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายด้วยระบบ Suzuki Easy Start สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส เช่นเดียวกับระบบ Push Start ในรถยนต์รูปลักษณ์ของ GSX-S150 มีขนาดกะทัดรัด แต่ดุดัน ด้วยการทำให้โครงสร้างที่เพรียวบางให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ถังน้ำมันและแท่นวางถังน้ำมันเชื้อเพลิงเชื่อมต่อกัน และติดตั้งครอบด้านล่างไว้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้น  GSX-S150 ยังมีรูปลักษณ์ที่ดูนุ่มนวล ด้วยการออกแบบให้โค้งมน พร้อมที่ครอบถังน้ำมัน และครอบด้านล่าง สร้างความมีมิติให้กับตัวรถทำให้ GSX-S150 เท่และงดงามมากยิ่งขึ้น Suzuki GSX-S150 มีสีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน (YSF), สีเทา (YNJ) และสีดำ (291) พร้อมราคาสุดเร้าใจ  เพียง 81,000 บาท และพิเศษในงาน Bangkok International Motor Sale 2017 พบกับซูซูกิ GSX-S150 ติดตั้ง        พร้อมชุด Accessories ได้แก่ Cover Headlamp Set และ Cowling Set มูลค่า 3,500 บาท ฟรีทันที ตั้งแต่                       19 สิงหาคม – 30 กันยายน 2560 ท่านที่สนใจสามารถสัมผัสและทดลองขับขี่ Suzuki GSX-S150 ได้ที่ผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ซูซูกิ ทั่วประเทศ หรือสอบถามได้ที่ Suzuki Call Center 0-2533-1170 ทั้งนี้สามารถสั่งจองผ่านทาง online ได้ที่ www.thaisuzukigsx150.com

ยามาฮ่าเขย่าวงการรถจักรยานยนต์เมืองไทยครั้งใหม่สุดยิ่งใหญ่!!! ส่ง XMAX 300

ยามาฮ่าเขย่าวงการรถจักรยานยนต์เมืองไทยครั้งใหม่สุดยิ่งใหญ่!!! ส่ง XMAX 300 สปอร์ตออโตเมติกระดับพรีเมี่ยมคลาส 300 ซีซี ลุยงาน Big Motor Sale 2017!!!

นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์  รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และ เจ เจตริน วรรธนะสิน Yamaha Brand Ambassador ร่วมทำพิธีเปิดบูธ “Yamaha Revs to the MAX” ภายในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล แกรนด์มอเตอร์เซลล์ 2017” โดยได้รับเกียรติจาก นายจรวย ขันมณี  ประธานกรรมการบริหาร และ นายจตุพร ขันมณี  รองประธานบริหาร บริษัท ยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดงาน Big Motor Sale 2017 พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติระดับวีไอพีเข้าร่วมเปิดบูธยามาฮ่าอย่างเป็นทางการ

โดยในปีนี้ยามาฮ่าเนรมิตบูธจัดแสดงภายใต้คอนเซ็ปต์ “Yamaha Revs to the MAX” พร้อมเปิดตัวรถจักรยานยนต์ออโตเมติกสุดล้ำอย่างเป็นทางการ Yamaha XMAX 300 รถสปอร์ตออโตเมติก ระดับพรีเมี่ยมคลาส ที่ถ่ายทอด DNA ยนตกรรมชั้นนำของตระกูล MAX Series มาแบบเต็มพิกัด ที่ทุกคนต่างรอคอยด้วยราคาสุดเร้าใจที่ 168,000 บาท โดยในงานนี้ยามาฮ่าได้จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษอย่างมากมาย ณ บูธยามาฮ่า Hall EH106 ศูนย์นิทรรศการ และการประชุมไบเทค บางนา

ยามาฮ่ามอบหมวกนิรภัยให้แก่หน่วยงานจราจรพื้นที่ จังหวัดขอนแก่น

นายสมเกียรติ พูลขวัญ รองผู้จัดการใหญ่ด้านบริหาร พร้อมผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด พร้อมด้วยผู้จำหน่ายในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ได้แก่ ร้านซี.เค.เจริญยนต์ ร้านเมืองพลฉั่วเต็กไถ่ ร้านรื่นรมย์ขอนแก่นมอเตอร์ ร้านแก่นนครยานยนต์ และร้านขอนแก่นพี.อาร์.มอเตอร์ ร่วมทำการมอบหมวกนิรภัย จำนวน 50 ใบ ให้แก่หน่วยงานจราจรในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยมี พล...นภูริช เดชธนดุล  รองผู้กำกับจราจร สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เป็นผู้รับมอบ สำหรับการมอบหมวกนิรภัยในครั้งนี้ ยามาฮ่าได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในทุกพื่นที่ ที่จัดกิจกรรม พร้อมร่วมรณรงค์การขับขี่อย่างปลอดภัย และสวมหมวกนิรภัยใส่ใจกฏจราจรมาโดยตลอด

โดยการมอบหมวกนิรภัยในครั้งนี้มีขึ้นในกิจกรรม Yamaha Cup Race สนามที่ 3 ณ ลานกิจกรรมตลาดอู้ฟู่ จ.ขอนแก่น เมื่อเร็วๆ นี้

2018 Yamaha YZ450F

สำหรับในโมเดลล่าสุดของรถโมโตครอส รุ่นเรือธงของยามาฮ่าในระดับพรีเมียร์คลาสพิกัด 450F มาด้วยคำว่า All New 2018 YZ450F ที่ล้ำสมัยกับปรากฏการณ์ครั้งแรกของโลก ด้วย Power Tuner Smartphone app ที่พร้อมทำงานกับโทรศัพท์ที่มีระบบปฏิบัติการณ์แบบ iOS และ Android ผ่านการเชื่อมต่อแบบไร้สาย

นับว่านี่เป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกของโลกกับการปรับเซ็ทรถแข่งและแชร์ข้อมูลต่างๆ ของรถโมโตครอสผ่านด้วยโทรศัพท์สมาร์ทโฟน กับ smartphone-base wireless engine tuner ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ Yamaha Power Tuner app ในการปรับเปลี่ยนค่าแมปปิ้งเลือกค่าการจุดระเบิดที่เหมาะสมกับการขับขี่ นอกจากการปรับเซ็ทข้อมูลของเครื่องยนต์ด้วย Power Tuner app แล้วยังจะสามารถที่จะบันทึกข้อมูลสภาพสนามแข่ง สถานที่แข่ง รวมทั้งสามารถแชร์ข้อมูลภายในทีมหรือกับเพื่อนๆ ได้อีกด้วย

แหล่งขุมพลังของ 2018 YZ450F มาจากการพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ ที่มีการปรับตำแหน่งรูปทรงการจัดวางตัวเครื่องยนต์ใหม่ อีกทั้งเปลี่ยนชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ใหม่เพื่อให้ได้กำลังที่ดีขึ้นรวมถึงการตอบสนองที่ดี ในขณะที่การส่งกำลังเครื่องยนต์นั้นก็พัฒนาเกียร์ใหม่ เช่นเดียวกับการออกแบบชุดคลัทช์ใหม่ อีกทั้งยังมีการปรับระบบ LCS หรือ Launch Control System ให้กับ YZ450F ใหม่ ซึ่งในเบื้องต้นของการพัฒนาส่วนของเครื่องยนต์และระบบอิเล็คทรอนิคส์ของ 2018 YZ450F ที่มีการเปลี่ยนใหม่ที่สรุปเบื้องต้น คือ ปรับทิศทางตำแหน่งวางของเครื่องยนต์ใหม่, ฝาสูบใหม่มีน้ำหนักเบาขึ้น, องศาแคมและแคมชาพท์ใหม่, Power Tuner ใหม่ที่ทำงานแบบไร้สายร่วมกับแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน, ระบบสตาร์ทไฟฟ้าใหม่ที่มีประสิทธิภาพพร้อมด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ใหม่, ปรับตำแหน่งยึดกับเครื่องยนต์กับเฟรมใหม่, ลูกสูบออกแบบใหม่ให้สามารถทนทานรองรับกับแรงกดดันที่สูงยิ่งขึ้น พร้อมสลักลูกสูบแข็งแกร่งมากขึ้นด้วยการเคลือบแบบ DLC, เรือนลิ้นเร่งใหม่เป็น Mikuni ขนาด 44 มม. หม้อน้ำขนาดใหญ่ขึ้น, ตำแหน่งท่อใหม่ที่มีผลต่อศูนย์รวมน้ำหนักของตัวรถที่ดียิ่งขึ้น จากเครื่องยนต์ก็มาที่โครงสร้างตัวรถที่มีการปรับเฟรมใหม่แบบให้มีความกะทัดรัดยิ่งขึ้นด้วยเฟรมแบบ bilateral beam frame ที่มีส่วนผลักดันให้ตัวรถสามารถควบคุมได้ง่ายขึ้น มีความแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมทั้งปรับปรุงในส่วนของระบบกันสะเทือนใหม่ โดยในส่วนของฟอร์คหน้าเป็นแบบ fully adjustable หรือปรับได้เต็มรูปแบบจาก KYB ที่เป็นฟอร์คแบบ AOS (air-oil-separate) ที่เป็นหนึ่งในระบบกันสะเทือนที่ให้ประสิทธิภาพการขับขี่ ดีทั้งในขณะความเร็วต่ำและความเร็วสูง พร้อมทั้งง่ายต่อการเซ็ทติ้ง นอกจากนี้ระบบกันสะเทือนหลัง KYB rear shock ได้มีการปรับให้ทำงานร่วมกับแชสซีส์ใหม่ที่สามารถซับแรงต่างๆที่ดีขึ้น

รวมทั้งปรับสปริงให้มีน้ำหนักเบาขึ้นจากเดิม โดยสรุปเบื้องต้นในส่วนของแชสซีส์มีการปรับทางด้านเทคนิคที่เป็นไฮไลท์น่าสนใจก็คือ การออกแบบโครงสร้างเฟรมใหม่ให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วย bilateral beam frame , ปรับจุดยึดเครื่องยนต์ใหม่เพื่อให้มีค่าศูนย์รวมน้ำหนักที่ดีขึ้นอันจะมีผลให้ตัวรถมีสมดุลที่ดีขึ้น, ด้วยโครงสร้างเฟรมใหม่มีส่วนทำให้สามารถออกแบบปรับเบาะนั่งให้มีความเพรียว แคบจากเดิมซึ่งมีผลให้ผู้ขับขี่สามารถขยับท่าทางควบคุมรถได้ดียิ่งขึ้น, ตัวถังของรถมีความผอมเพรียวกะทัดรัดมากขึ้น, ระบบกันสะเทือนออกแบบให้มีความเหมาะสมกับการทำงานร่วมกับโครงสร้างเฟรมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ, รวมทั้งออกแบบถังเชื้อเพลิงที่มีขนาดกะทัดรัดด้วยความจุขนาด 6.2 ลิตร, ลายกราฟฟิคใหม่พร้อมวงล้อสีน้ำเงิน สำหรับข้อมูลพื้นฐานของ YZ450F

สเปคพื้นฐานดังนี้

Type Liquid-cooled, DOHC, 4-stroke, 4-valves, rearward slanting single cylinder
Displacement 449cc
Bore x stroke 97.0 mm x 60.8 mm
Compression ratio 12.8 : 1
Maximum horse power –
Maximum torque –
Starting system type Electric
Lubrication system Wet sump
Clutch type Dual side grinded clutch plate
Fuel system Fuel Injection
Ignition system TCI
Transmission system Constant mesh, 5-speed
Final transmission system Chain
CHASSIS Frame
Bilateral beam frame Front suspension
Upside-down telescopic fork Front wheel travel 310 mm Rear suspension
Swingarm, (link suspension)
Rear wheel travel 317 mm
Caster angle 27⁰ 15’
Trail 121 mm
Front brake Hydraulic single disc, Ø 270 mm
Rear brake Hydraulic single disc, Ø 245 mm
Front tyre 80/100-21 51M
Rear tyre 110/90-19 62M
DIMENSIONS
Overall length 2,185 mm
Overall width 825 mm
Overall height 1,285 mm
Seat height 965 mm
Wheelbase 1,485 mm

Min. ground clearance 335 mm
Wet weight (including full oil and fuel tank) 112 kg
Fuel tank capacity 6.2 L
Oil capacity 0.95 L

2018 Kawasaki KX450F

ในไลน์การผลิตรถโมโตครอสตระกูล KX นั้นเรือธงของไลน์การผลิตนี้ก็คือ KX450F โดยในโมเดลล่าสุดที่ผลิตออกมาคือ 2018 KX450F ได้รับการพัฒนาโดยมีกุญแจสำคัญในการพัฒนา คือ boasts a powerful , nimble , technologically advanced heritage ที่หมายถึง เพิ่มกำลัง , คล่องแคล่วว่องไว , เทคโนโลยีล้ำสมัย ซึ่งแน่นอนว่า ทั้งสามหัวข้อการพัฒนานี้นั้นก็คือการเชื่อมต่อแนวทางมาจากทีมแข่งแฟคทอรี่ที่สามารถปรับเซท KX450F ให้มีสมรรถนะที่พร้อมสำหรับการแข่งขัน

ด้วยพื้นฐานเครื่องยนต์สี่จังหวะสูบเดียว DOHC ขนาด 449 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ได้รับการพัฒนาเพื่อให้ได้สมรรถนะที่สูงขึ้น มีการปรับระยะออฟเซ็ทของเสื้อสูบเพื่อลดแรงเสียดทานของการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์โดยเฉพาะการเคลื่อนที่ของลูกสูบ พร้อมทั้งยังมีการเคลือบพื้นผิวพอร์ทไอดีใหม่ อันมีผลให้แต่ละรอบการทำงานของเครื่องยนต์นั้นได้รับกำลังที่เพิ่มขึ้นจากเดิม นอกจากนี้ในส่วนของวาล์วไอดีไททาเนียมขนาด 36 มม.แบบเดียวกับที่ใช้ในรถสปอร์ตตระกูลนินจาที่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ช่วงรอบการทำงานเครื่องยนต์ที่สูง จากการพัฒนาชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ที่ให้มีความแข็งแกร่งควบคู่กับลดน้ำหนักชิ้นส่วนต่างๆแล้วนั้นยังได้มีการปรับในส่วนของระบบส่งกำลังที่มีการพัฒนาชิ้นส่วนต่างๆให้มีน้ำหนักที่เบาลงด้วยเช่นกันแต่ยังคงประสิทธิภาพในด้านความแข็งแกร่งทนทาน ของสมรรถนะเครื่องยนต์ที่สูงขึ้น ขณะที่ในส่วนของระบบหัวฉีด digital fuel injection system ของ KX450F ได้ติดตั้งแมปปิ้งสำหรับควบคุมการจุดระเบิดของเครื่องยนต์มาสามแบบมาตรฐาน เพื่อให้สามารถปรับเลือกใช้ได้เหมาะสมกับสภาพแทร็ค คือ standard , hard , soft แต่ก็มีอุปกรณ์เสริม คือ KX FI Calibration Kit สำหรับใช้ในการปรับเซ็ทหรือจูน ECU เพิ่มเติม ที่ชุดคิทตัวนี้จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเซ็ท ECU ได้อย่างเต็มรูปแบบ

 

และมาที่ส่วนของโครงสร้างเฟรมแบบ aluminum perimeter frame ที่ได้รับการออกแบบให้มีความบางเพรียวเพื่อให้ได้ความแม่นยำในการขับขี่ในโค้งได้อย่างเฉียบคมด้วยความเร็วในการขับขี่อีกทั้งให้การยึดเกาะที่ดี มีความนิ่งในช่วงท้ายของตัวรถ ด้วยการออกแบบของเฟรมที่มีความเบาแข็งแกร่งนี้เองจะเป็นส่วนช่วยให้นักแข่งสามารถรับรู้ได้ถึงความรู้สึกในจังหวะของการขับขี่ได้เป็นหนึ่งเดียวกับรถ จนสามารถที่จะควบคุมรถได้เป็นอย่างดี สำหรับ 2018KX450F ยังคงใช้ฟอร์คหน้า Showa SFF-AIR TAC หรือ Separate Function Fork , TripleAir Chamber ที่จะแยกระหว่าง Damping (แกนฝั่งซ้าย) กับ Shock absorption (แกนฝั่งขวา) โดยฟอร์คสำหรับ KX450F โมเดลล่าสุดนี้ได้รับการพัฒนาให้มีความเที่ยงตรงในการปรับเซ็ทเพิ่มมาก และขึ้นด้วยความสามารถในการปรับค่า compression ได้ 22 ตำแหน่ง และ ปรับค่า rebound damping ได้ 20 ตำแหน่ง ขณะที่ในส่วนของระบบกันสะเทือนหลังนั้น เป็นระบบกันสะเทือนแบบ Uni-Trak linkage system ที่ออกแบบให้สามารถทำงานร่วมกับเฟรมและสวิงอาร์ม โดยในส่วนของโช้คอัพหลังเดี่ยวนั้น ได้มีการพัฒนาชิ้นส่วนภายในใหม่เพื่อลดการเสียดสีภายในด้วยการเคลือบชิ้นส่วนแบบ Kashima coating เพื่อช่วยให้ระบบกันสะเทือนสามารถมีปฏิกิริยาต่อการเคลื่อนไหวที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งรายละเอียดพื้นฐานของ KX450F

สเปคเบื้องต้นดังนี้

Engine 4-stroke, 1-cylinder, DOHC, water-cooled
Displacement 449cc
Bore x Stroke 96.0 x 62.1mm
Compression ratio 12.8:1
Fuel System DFI® w/43mm Keihin throttle body
Ignition Digital DC-CDI
Transmission 5-speed, return shift
Final Drive Chain
Front Suspension / Wheel Travel Inverted Showa SFF-Air TAC fork with Triple Air Chamber, DLC coated sliders, 22-position compression and 20-position rebound damping adjustment/12.0 in
Rear Suspension / Wheel Travel Uni-Trak® linkage system and Showa shock, 19-position low-speed and 4-turns high-speed compression damping, 22-position rebound damping and fully adjustable spring preload/12.0 in
Front Tire 80/100-21
Rear Tire 120/80-19
Front Brakes Single semi-floating 270mm Braking® petal disc with dual-piston caliper
Rear Brakes Single 240mm Braking® petal disc with single-piston caliper
Frame Type Aluminum perimeter
Rake/Trail 28.2°/5.0 in
Overall Length 86.4 in
Overall Width 32.3 in
Overall Height 50.4 in
Ground Clearance 13.2 in
Seat Height 37.4 in
Curb Weight 239.8 lbs**
Fuel Capacity 1.66 gal
Wheelbase 58.9 in

นักบิด YAMAHA FACTORY RACING TEAM ควบ YZF-R1 คว้าชัยเกมพันธุ์อึด Suzuka 8 Hours ผงาดครองแชมป์ 3 สมัยซ้อน

พร้อมทีม GMT94 YAMAHA คว้าแชมป์โลก ตอกย้ำความสำเร็จสุดยิ่งใหญ่

ยอดทีมแข่งดีกรีระดับแชมป์โลก YAMAHA FACTORY RACING TEAM ที่เคยได้แชมป์ในรายการนี้ ติดต่อกันมา 2 ปีแล้ว ในปีนี้ โชว์ฟอร์มสุดแกร่ง จากผลงานระดับมาสเตอร์พีซของ 3 นักบิดยอดฝีมือระดับโลกอย่าง Katsuyuki Nakasuga, Alex Lowes และ Michael Van Der Mark ที่ผนึกกำลังรับหน้าที่กระชากคันเร่งรถแข่ง YAMAHA YZF-R1 หมายเลข 21 ผ่านธงตราหมากรุกเป็นคันแรก ด้วยจำนวน 216 รอบ คว้าชัยชนะเกมการแข่งขันศึกเอ็นดูร้านซ์ชิงแชมป์โลก รายการ The 40th “Coca-Cola” Suzuka 8hours Endurance Race 2017 ณ สนาม ซูซูก้า ประเทศญี่ปุ่น ได้สำเร็จ พร้อมผงาดครองบัลลังก์แชมป์พันธุ์อึดรายการนี้เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน นอกจากนี้ทีม GMT94 YAMAHA ที่ใช้รถแข่ง YZF-R1 เช่นกัน ยังสามารถคว้าตำแหน่งแชมป์โลกการแข่งขัน FIM EWC Endurance World Championship 2017 มาครองได้สำเร็จ ส่งผลให้คะแนนสะสมประเภทผู้ผลิตอย่าง YAMAHA คว้าตำแหน่งแชมป์โลกผู้ผลิตมาครอบครองได้อีกด้วย นับเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของทีมมอเตอร์สปอร์ตยามาฮ่าได้อย่างยิ่งใหญ่ในเกมการแข่งขันระดับโลก ซึ่งการแข่งขันรายการ The 40th “Coca-Cola” Suzuka 8hours Endurance Race 2017 เป็นหนึ่งในรายการแข่งขันเก็บคะแนน FIM EWC Endurance World Championship 2017 และจากชัยชนะครั้งนี้ ทำให้ทีม GMT94 YAMAHA มีแต้มสะสมสูงสุด คว้าแชมป์ Endurance World Championship ประจำปีนี้ด้วย