REBEL 500

 

เครื่องยนต์
 แบบ 2 สูบ 4 จังหวะ DOHC 4 วาล์ว
 ปริมาตรกระบอกสูบ  471 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด  10.7:1
 กระบอกสูบ x ระยะชัก 67.0 × 66.8 mm
 ระบบหล่อลื่น  แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน  หัวฉีด PGM-FI
 ระบบจุดระเบิด  จุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์
 ระบบคลัทช์  คลัทช์เปียก
 ระบบเกียร์  6 เกียร์
ระบบสตาร์ท  สตาร์ทมือ
น้ำมันเชื้อเพลิง  E20,91,95
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง  11.2 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง  –
กว้าง*ยาว*สูง 820 x 2,190 x 1,093 มิลลิเมตร
น้ำหนักรวม  191 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือน

หน้า : เทเลโคสปิก ขนาด 41 มม.

หลัง : สวิงอาร์ม

ระบบเบรก

หน้า : ดิสเบรกคู่ไฮดรอลิค ABS

หลัง : ดิสเบรกไฮดรอลิค ABS

ยาง/ล้อ

หน้า : 130/90-16M/C 67H

หลัง : 150/80-16M/C 71H

 

CB 1100 RS 2017

 

 เครื่องยนต์
 แบบ  ระบบจ่ายน้ำมันหัวฉีด  4 จังหวะ/ 4 สูบ
 ปริมาตรกระบอกสูบ  1,140 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด  9.5:1
 กระบอกสูบ x ระยะชัก  73.5 * 67.2 mm
 ระบบหล่อลื่น  แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน  หัวฉีด
 ระบบจุดระเบิด  จุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์
 ระบบคลัทช์  คลัทช์เปียก
 ระบบเกียร์  6 เกียร์
 ระบบสตาร์ท  สตาร์ทมือ
 น้ำมันเชื้อเพลิง  E20,91,95
 ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง  17.5 ลิตร
 ความจุน้ำมันเครื่อง   –
 กว้าง*ยาว*สูง  835 * 2195 * 1130 มิลลิเมตร
 น้ำหนักรวม  261 กิโลกรัม
 ระบบกันสะเทือน

 หน้า : เป็นช็อคอับเทเลสโคปิคของ SHOWA ขนาด 43 แบบ SDBV (Showa Dual Bending Valve)

หลัง : เป็นช็อคอับเดี่ยวแบบคอยล์สปริงพร้อมกระปุกซับแท้งค์

 ระบบเบรก

 หน้า : แบบกึ่งตัวให้ ขนาด 310 มม. คาลิเปอร์ TOKICO 4 ลูกสูบ

หลัง : ขนาด 296 มม. คาลิเปอร์ NISSIN 2 ลูกสูบ พร้อมระบบ ABS

 ยาง/ล้อ

 หน้า : 110/80R18 M/C 58V

หลัง : 140/70R18 M/C 67W

 

Yamaha x a day ชวนวัยรุ่นยุคใหม่มาประชันความเจ๋ง ประลองไอเดียในแคมเปญ “Yamaha T-SHIRT Design Contest” โอกาสเป็นดีไซเนอร์มืออาชีพชิงเงินรางวัล มูลค่ากว่า 100,000 บาท

รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าคิวบิกซ์ ผู้นำเทรนด์ไลฟ์สไตล์จับมือกับนิตยสาร a day จุดประกายนักศึกษารุ่นใหม่ ที่มีใจรักในการออกแบบ เข้าประชันความเจ๋ง ประลองไอเดีย ในโครงการ “Yamaha T-SHIRT Design Contest” การประกวดออกแบบเสื้อ T-Shirt ภายใต้แนวความคิด Digital Life : Digitalmatic เจเนอเรชั่นใหม่ สไตล์ดิจิตอล ชิงเงินรางวัล มูลค่ากว่า 100,000 บาท พร้อมถ่ายแฟชั่นในนิตยสาร a day

นางสรวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายสื่อสารการตลาด และประชาสัมพันธ์  บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวถึงที่มาของแคมเปญนี้ว่า “ด้วยกระแสความแรง และยอดขายที่ดีอย่างต่อเนื่องของ Yamaha QBIX ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ที่มีดีไซน์ทันสมัยตอบโจทย์ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในยุคปัจจุบันโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ทางยามาฮ่าจึงมีไอเดียจัดโครงการนี้ขึ้นมา เพื่อเปิดโอกาสให้น้องๆ   ในระดับอุดมศึกษาได้ประชันความสามารถ และไอเดียในการออกแบบเสื้อ T-Shirt ภายใต้คอนเซ็ปต์ของ QBIX นั่นก็คือ Digital Life : Digitalmatic โดยให้น้องๆ รวมกลุ่มกันในมหาวิทยาลัยสร้างสรรค์ผลงานดีไซน์ มีการวางแผนด้านการตลาด และขายจริง เพื่อให้ผู้เข้าประกวดได้รับประสบการณ์ตรง สร้างแรงบันดาลใจ และสามารถต่อยอดไปใช้ในการทำงานในอนาคต ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆ ที่เปิดพื้นที่ในการสร้างสรรค์ผลงานให้กับน้องๆ เพื่อมาพิสูจน์ความสามารถ และชิงรางวัลกันได้อย่างเต็มที่ค่ะ” 

 

 

ซึ่งการประกวดครั้งนี้ จะมีดีไซเนอร์ และกูรูทางด้านแฟชั่น อาทิ คุณธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์  นักวาดภาพประกอบ และ คุณธนันต์ บุญญธนาภิวัฒน์ (บู้ วง SLUR) เจ้าของแบรนด์ Rompboy ไปให้คำแนะนำ ให้ความรู้ และร่วมทำกิจกรรมกับนักศึกษา โดยมีสถาบันศึกษาเข้าร่วมทั้งหมด 5 สถาบัน ประกอบด้วยมหาวิทยาลัยศิลปากร, มหาวิทยาลัยรังสิต, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยผู้เข้าประกวดที่ผ่านการเข้ารอบ 5 ทีมสุดท้าย จะได้มีโอกาสผลิตเสื้อขายจริง มีการวางแผนการตลาด และต่อยอดไปจัดแสดง และประกาศผลภายในงาน Bangkok International Motor Show   ครั้งที่ 39 ในวันที่ 7 เมษายน 2561 และยังได้นำผลงานไปร่วมถ่ายแฟชั่นในนิตยสาร a day อีกด้วย

รางวัลสำหรับการประกวด

 

  • รางวัลชนะเลิศ เงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท
  • รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัลมูลค่า 40,000 บาท
  • รางวัลรางชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท
  • รางวัลชมเชย เงินรางวัลมูลค่า   5,000 บาท
  • รางวัล Most Popular  เงินรางวัลมูลค่า   5,000 บาท

โดยผู้ที่สนใจสามารถสมัคร และส่งผลงานได้ทางเว็บไซต์ และทางไปรษณีย์ ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2560 ถึง 19 กุมภาพันธ์ 2561 และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการประกวดได้ที่ www.qbixsociety.com หรือทาง www.facebook.com/a day x Yamaha T-Shirt Design Contest หรือสอบถามได้ที่เบอร์ 02-716-6900 ต่อ 406 หรือ 086-3044805

ผลการแข่งขันฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง

“ทีมปัญจวิทยา” สุดเจ๋งประดิษฐ์รถประหยัดน้ำมันได้สูงที่สุดถึง 2,912.041 กม./ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 30.002 กิโลเมตรต่อลิตร ผงาดคว้าแชมป์ “ฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง ครั้งที่ 20” พร้อมจุดพลังฝันคว้าตั๋วไปแสดงศักยภาพอวดสายตานานาชาติถึงประเทศญี่ปุ่น

บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด  ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย จุดพลังฝันให้เด็กไทยเติบโตสู่การเป็นวิศวกรที่มีคุณภาพ สานต่อกิจกรรมที่มีมากว่า 2 ทศวรรษกับการแข่งขัน “ฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง” Honda Eco Mileage challenge ครั้งที่ 20 ประจำปี 2560 เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนที่กำลังศึกษาอยู่ในสายอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา ได้แสดงความสามารถในการออกแบบและประดิษฐ์ยานพาหนะที่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากที่สุด ซึ่งในปีนี้มีทีมเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 470 ทีมจากทั่วประเทศ ที่สนามช้างอินเตอร์เนชันแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยผู้ชนะจะได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และได้สิทธิเข้าร่วมแข่งขันรถประหยัดเชื้อเพลิงระดับนานาชาติรายการ Honda Soichiro Cup ครั้งที่ 38 ในปี 2018 ที่ประเทศญี่ปุ่นผลปรากฎว่าทีมชนะเลิศที่สามารถประดิษฐ์รถที่สามารถประหยัดน้ำมันได้สูงที่สุดตกเป็นของ ทีม Panjavidhya จากสังกัดวิทยาลัยเทคโนโลยี ช่างฝีมือปัญจวิทยา ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยสามารถทำสถิติประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 2,912.041 กม./ลิตร และมีความเร็วเฉลี่ยที่ 30.002 กม./ชม. คว้าแชมป์ประจำปี 2560 ได้สำเร็จ พร้อมครองถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และได้ตั๋วเข้าร่วมแข่งขันรถประหยัดเชื้อเพลิงระดับนานาชาติ รายการ Honda Soichiro Cup ครั้งที่ 38 ในปี 2018 ที่ประเทศญี่ปุ่น ด้วยเช่นกัน โดยเฉือนชนะอันดับ 2 คือ ทีม No name จากสังกัดวิทยาลัยเทคนิค ดอนเมือง จ.กรุงเทพฯ ที่ทำสถิติได้ 2,768.532 กม./ลิตร และมีความเร็วเฉลี่ย 34.324 กม./ชม.

ขณะที่ผู้ชนะที่สามารถทำสถิติประหยัดน้ำมันได้สูงที่สุดในทุกประเภทที่แข่งขัน มีดังนี้ ประเภทรถประดิษฐ์ ระดับอาชีวศึกษา ผู้ชนะคือ ทีม Panjavidhya จากสังกัดวิทยาลัยเทคโนโลยี ช่างฝีมือปัญจวิทยา ลำลูกกา จ.ปทุมธานี สถิติ 2,912.041 กม./ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 30.002 กม./ชม. , ประเภทรถประดิษฐ์ ระดับอุดมศึกษา ผู้ชนะคือ  ทีม No name สังกัดวิทยาลัยเทคนิค ดอนเมือง จ.กรุงเทพฯ สถิติ 2,768.532 กม./ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 34.324 กม./ชม. , ประเภทรถประดิษฐ์ ระดับประชาชนทั่วไป ผู้ชนะคือ ทีม Infernal deva สังกัดร้านซ้งบริการ จ.นครปฐม สถิติ 1,097.050 กม./ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 30.453 กม./ชม. ประเภทรถตลาด ผู้ชนะคือ ทีม THOEN 2 สังกัด วิทยาลัยการอาชีพ เถิน จ.ลำปาง สถิติ 204.760 กม./ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 32.535 กม./ชม. และประเภทสวยงาม ไม่แบ่งระดับผู้เข้าแข่งขัน ผู้ชนะคือ ทีม PN-TECH 2 สังกัด วิทยาลัยเทคโนโลยี เอ็น-เทคบริหารธุรกิจ ปากคาด จ.บึงกาฬ นอกจากนี้ยังมีรางวัลพัฒนาการทีมยอดเยี่ยม โดยในประเภทรถประดิษฐ์ ระดับอาชีวศึกษา ตกเป็นของ ทีมนายฮ้อยทมิฬ สังกัดวิทยาลัยการอาชีพ สว่างแดนดิน จ.สกลนคร สถิติ 1,475.137 กม./ลิตร ซึ่งพัฒนาจากปีก่อนที่ทำได้ 355.395 กม./ลิตร ถึง 415 % และในประเภทรถประดิษฐ์ ระดับอุดมศึกษา คือ ทีม Thai-Nichi ECONO สังกัดสถาบันเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น กรุงเทพฯ สถิติ 379.368 กม./ลิตร พัฒนาจากปีก่อนที่ทำได้ 249.711 ถึง 152 % สำหรับการแข่งขันรถประหยัดเชื้อเพลิง Honda Eco Mileage Challenge จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประกอบด้วยประเภทรถประดิษฐ์ และประเภทรถตลาด โดยในประเภทรถประดิษฐ์จะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ระดับอาชีวศึกษา ระดับอุดมศึกษา และระดับประชาชนทั่วไป ทำให้ นักเรียน นิสิต นักศึกษา ให้ความสนใจเข้าร่วมแข่งขันเป็นจำนวนมาก        ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเยาวชนได้ให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์พลังงาน และการรักษา สภาพแวดล้อม โดยการระดมสมองร่วมกันสร้างยานยนต์ประหยัดพลังงาน ได้มีการ ช่วยเหลือร่วมมือกันเพื่อก้าวไปสู่จุดหมายเดียวกัน ได้พบกับสถานการณ์จริงในการทำงาน ในสนามแข่งขันที่มีทั้งเพื่อนๆ ต่างสถานศึกษา ได้แลกเปลี่ยนความรู้ เทคนิคร่วมกัน ซึ่งสามารถนำประสบการณ์ไปใช้ในชีวิตปัจจุบันและในอนาคตได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ในประเภทรถตลาด จะเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าแข่งขันได้โดยใช้เครื่องยนต์ระบบ หัวฉีด PGM FI ที่อยู่ในรถยอดนิยมรุ่นฮอนด้าเวฟ110i  โดยสามารถปรับแต่งเครื่องยนต์ได้ตามกติกาที่กำหนดไว้ และลงแข่งขันโดยในปีนี้กำหนดให้ใช้น้ำมันแก๊ซโซฮอลล์ E20 จากเดิมที่ใช้น้ำมันแก๊ซโซฮอลล์ 91 ซึ่งเป็นการประหยัดพลังงานอีกทางหนึ่ง และเปลี่ยนแปลงอัตราความเร็วเฉลี่ยให้เป็นไม่น้อยกว่า 30 กิโลเมตร /ชั่วโมงขึ้นไป จากเดิมกำหนดไว้ความเร็วเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 25 กิโลเมตร/ชั่วโมงขึ้นไป ทำให้การแข่งขันดูมีความสนุกเร้าใจมากขึ้น

 

สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.hondaeconothai.com

ยามาฮ่ารุกตลาดบิ๊กไบค์ภาคกลาง ทุ่มงบเปิดโชว์รูมบิ๊กไบค์ครบวงจร “ยามาฮ่า ไรเดอร์ส คลับ นครสวรรค์”

นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และนายสมเกียรติ อรุณวรากรณ์ (กรรมการผู้จัดการ บริษัท ส.อรุณ เซลส์เซอร์วิสเซ็นเตอร์ จำกัด ร่วมทำพิธีเปิดโชว์รูม Yamaha Riders’ club Nakhonsawan โดย ส.อรุณ เซลส์เซอร์วิสเซ็นเตอร์ อย่างเป็นทางการ โดยมีลูกค้า และประชาชนในจังหวัดนครสวรรค์ให้ความสนใจเข้าร่วมพิธีเปิดนี้อย่างมากมาย Yamaha riders’ club Nakornsawan โดย ส.อรุณ เซลส์เซอร์วิสเซ็นเตอร์ แห่งนี้ ใช้งบกว่า 50 ล้านบาท เพื่อให้เป็นโชว์รูมศูนย์จำหน่ายรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ยามาฮ่าที่สมบูรณ์เต็มรูปแบบที่พร้อมให้บริการแบบครบวงจร โดยมีช่างผู้ชำนาญพร้อมให้บริการ และพื้นที่ทดสอบการขับขี่ เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าบิ๊กไบค์ในพื้นที่ภาคกลางที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเร็วๆ นี้สำหรับ Yamaha Riders’ club Nakhonsawan โดย ส.อรุณ เซลส์เซอร์วิสเซ็นเตอร์ ตั้งอยู่ที่บนถนนพหลโยธิน เลยสี่แยกสะพานเดชา เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08:00 – 17:30 น. วันจันทร์ – วันอาทิตย์ โดยสามารถติดต่อได้ทาง โทร 056-221-199 และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ www.yamaha-motor.co.th/ridersclub
Facebook : Yamaha Riders’ club Thailand

 

centaur siam 150

เครื่องยนต์
 แบบ  4 จังหวะ/ 1 สูบ SOHC
 ปริมาตรกระบอกสูบ  145 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด 10:01
 กระบอกสูบ x ระยะชัก  –
 ระบบหล่อลื่น  แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน  คาบูเรเตอร์
 ระบบจุดระเบิด  CDI
 ระบบคลัทช์  คลัทช์เปียก
 ระบบเกียร์  เกียร์ธรรมดา 4ระดับ
ระบบสตาร์ท  สตาร์ทมือ/สตาร์ทเท้า
น้ำมันเชื้อเพลิง  91,95
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง  15 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง  –
กว้าง*ยาว*สูง  –
น้ำหนักรวม 103
ระบบกันสะเทือน

หน้า : โช้คหน้าเทเลสโคปิก

หลัง : โช้คอัพคู่พร้อมสวิงอาร์ม

ระบบเบรก

หน้า : ดิสก์

หลัง : ดิสก์

ยาง/ล้อ

หน้า : 110/70-17/250

หลัง : 130/70-17/350

 

Centaur 250 Max

เครื่องยนต์
 แบบ  4 จังหวะ/ 1 สูบ SOHC
 ปริมาตรกระบอกสูบ  249 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด
 กระบอกสูบ x ระยะชัก
 ระบบหล่อลื่น  แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน  คาบูเรเตอร์
 ระบบจุดระเบิด  CDI
 ระบบคลัทช์  คลัทช์เปียก
 ระบบเกียร์  เกียร์ธรรมดา 5 ระดับ
ระบบสตาร์ท  สตาร์ทมือ/สตาร์ทเท้า
น้ำมันเชื้อเพลิง  91,95
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง  13 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง   –
กว้าง*ยาว*สูง 2140 x 710 x 1050มิลลิเมตร
น้ำหนักรวม 137
ระบบกันสะเทือน

หน้า : โช้คหน้าเทเลสโคปิก Upside down

หลัง : โช้คอัพคู่พร้อมสวิงอาร์ม

ระบบเบรก

หน้า : ดิสก์

หลัง : ดิสก์

ยาง/ล้อ

หน้า : 4.00-17

หลัง : 4.00-17

 

centaur siam 70’s

เครื่องยนต์
 แบบ  4 จังหวะ/ 1 สูบ SOHC
 ปริมาตรกระบอกสูบ  145 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด 10:01
 กระบอกสูบ x ระยะชัก 57 x 54 mm
 ระบบหล่อลื่น  แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน  คาบูเรเตอร์
 ระบบจุดระเบิด  CDI
 ระบบคลัทช์  คลัทช์เปียก
 ระบบเกียร์  เกียร์ธรรมดา 5 ระดับ
ระบบสตาร์ท  สตาร์ทมือ/สตาร์ทเท้า
น้ำมันเชื้อเพลิง  91,95
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง  18 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง   –
กว้าง*ยาว*สูง 1385 มม. x – x –มิลลิเมตร
น้ำหนักรวม  132
ระบบกันสะเทือน

หน้า : โช้คหน้าเทเลสโคปิก

หลัง : โช้คอัพคู่พร้อมสวิงอาร์ม

ระบบเบรก

หน้า : ดิสก์

หลัง : ดิสก์

ยาง/ล้อ

หน้า : 17/4.00

หลัง : 17/4.50

 

ยิ่งใหญ่ในรอบ 2 ทศวรรษ แข่งขันฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง ปีที่ 20/2560

ยิ่งใหญ่ในรอบ 2 ทศวรรษ แข่งรถฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง ครั้งที่ 20 สุดคึกคัก 470 ทีมจากทั่วประเทศร่วมลงสนามดวลความเก่ง ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ พร้อมคว้าสิทธิ์ร่วมชิงชัยระดับนานาชาติ  เอ.พี. ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย จุดพลังฝันให้เด็กไทยเติบโตสู่การเป็นวิศวกรที่มีคุณภาพ ด้วยการสานต่อกิจกรรมที่มีมากว่า 2 ทศวรรษกับการแข่งขัน “ฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง” Honda Eco Mileage challenge ครั้งที่ 20 ประจำปี 2560 เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนที่กำลังศึกษาอยู่ในสายอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา ได้แสดงความสามารถในการออกแบบและประดิษฐ์ยานพาหนะที่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากที่สุด ซึ่งในปีนี้มีทีมเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 470 ทีมจากทั่วประเทศ ที่สนามช้างอินเตอร์เนชันแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์  นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล   ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ขอแสดงความชื่นชมในความตั้งใจจริงของ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ที่ได้ให้ความสำคัญต่อการศึกษาของเยาวชน ให้เรียนรู้จากภาคปฏิบัตินอกหลักสูตรพร้อมทั้งเป็นการสร้างจิตสำนึกที่ดีด้านการอนุรักษ์พลังงาน และการรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่ดีในการตอบสนองนโยบายของภาครัฐกิจกรรมการแข่งขันฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง นอกจากจะเป็นการสนับสนุน  ให้เยาวชนของชาติ ได้พัฒนาความรู้และทักษะในการคิดค้นและประดิษฐ์ยานยนต์ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงแล้ว ยังเป็นการแสดงออกซึ่งความคิดในเชิงสร้างสรรค์  อันเป็นการฝึกฝนเพื่อให้เกิดพัฒนาการทางด้านความคิด ซึ่งผมรู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทราบว่า มีนักศึกษาเข้าร่วมการแข่งขันเป็นจำนวนมาก ถือเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าการแข่งขันครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ในการที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทย

“สำหรับในปี 2560 ซึ่งเป็นปีที่จัดการแข่งขันฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิงมาเป็นปีที่ 20 ในระยะเวลา 2 ทศวรรษของการแข่งขันฯ เรายังคงยกระดับกิจกรรมให้เกิดประโยชน์ต่อเยาวชนสูงสุด ด้วยการส่งเสริมให้ผู้เข้าแข่งขันทำการออกแบบและประดิษฐ์ตัวรถแข่งด้วยตนเอง ซึ่งกติกานี้จะทำให้ทุกทีมได้เรียนรู้ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ทั้งเรื่องการดีไซน์รถตามหลักอากาศพลศาสตร์ การเลือกใช้วัสดุต่างๆ รวมถึงการศึกษาการทำงานเชิงลึกของเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด PGM-FI  ไปจนถึงการวางแผนการวิ่งในสนาม ทั้งหมดนี้จะส่งผลดีในแง่ของการวิจัยและพัฒนา เกิดเป็นโนว์ฮาวใหม่ๆ ของแต่ละสถาบัน และจะทำให้เยาวชนได้พัฒนาความสามารถ และ เปิดโอกาสให้ได้รู้จักการทำงานเป็นทีม ซึ่งส่งผลดีต่อวงการอาชีวะและวิศวกรรมยานยนต์ของไทยในอนาคต  ในปีนี้มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด  470 ทีมซึ่งถือว่าได้รับความสนใจจากเยาวชนและสถานศึกษาเป็นอย่างมาก” สำหรับการแข่งขันรถประหยัดเชื้อเพลิง Honda Eco Mileage Challenge จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประกอบด้วยประเภทรถประดิษฐ์ และประเภทรถตลาด โดยในประเภทรถประดิษฐ์จะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ระดับอาชีวศึกษา ระดับอุดมศึกษา และระดับประชาชนทั่วไป กำหนดกติกาให้รถทุกคันใช้ตัวถังที่มาจากการประดิษฐ์ขึ้นเองเท่านั้น และติดตั้งเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด PGM-Fi ที่ฮอนด้าให้การสนับสนุน ส่วนในประเภทรถตลาด จะเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าแข่งขันได้โดยใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ110i ฮอนด้าซีแซดไอ และ ฮอนด้าดรีม110i โดยสามารถปรับแต่งเครื่องยนต์ได้ตามกติกาที่กำหนดไว้ และลงแข่งขันโดยในปีนี้กำหนดให้ใช้น้ำมันแก๊ซโซฮอลล์ E20 จากเดิมที่ใช้น้ำมันแก๊ซโซฮอลล์ 91 ซึ่งเป็นการประหยัดพลังงานอีกทางหนึ่ง และเปลี่ยนแปลงอัตราความเร็วเฉลี่ยให้เป็นไม่น้อยกว่า 30 กิโลเมตร /ชั่วโมงขึ้นไป จากเดิมกำหนดไว้ความเร็วเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 25 กิโลเมตร/ชั่วโมงขึ้นไป ทำให้การแข่งขันดูมีความสนุกเร้าใจมากขึ้นซึ่งทีมชนะเลิศสถิติสูงสุด จะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และได้สิทธิเข้าร่วมแข่งขันรถประหยัดเชื้อเพลิงระดับนานาชาติรายการ Honda Soichiro Cup ครั้งที่ 38 ในปี 2018 ที่ประเทศญี่ปุ่น

 

New Yamaha XMAX300 Scooter in The City

เพิ่งจะเปิดตัวได้ไม่นานก็ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีสำหรับรถบิ๊กสกู๊ตเตอร์ที่ได้รับการกล่าวขานอย่างมาก รถจักรยานยนต์ออโตเมติกรุ่นใหม่ล่าสุด XMAX300 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีดีไซน์ ความสปอร์ตและสมรรถนะเครื่องยนต์ที่จี๊ดจ๊าดบิดสนุกติดมือ สำหรับ ยามาฮ่า XMAX300 สปอร์ตออโตเมติก ระดับพรีเมี่ยมคลาส ที่ได้รับการถ่ายทอด DNA ยนตกรรมชั้นนำของตระกูล MAX Series ออกมาได้อย่างลงตัว มาพร้อมกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์แบบ BLUE CORE ซึ่งเป็นบล็อคเครื่องยนต์ยุคใหม่ที่มีการออกแบบและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ที่ให้ความแรงขึ้นอีกขั้น ในพิกัดเครื่องยนต์ 300 ซีซี ออพชั่นมากมายอาทิเช่น ระบบ Traction Control System (TCS) ที่จะช่วยปรับสมดุลกำลังเครื่องยนต์ เมื่อล้อหน้า และล้อหลังหมุนไม่สัมพันธ์กัน เป็นการเพิ่มความปลอดภัยขึ้นอีกระดับให้กับสปอร์ตออโตเมติกระดับพรีเมี่ยมคันแรกของเมืองไทย

รูปทรงสปอร์ตล้ำสมัย นั่งสบาย ควบคุมง่าย
มีการออกแบบโดยรวมๆ ของตัวรถ ไม่ใหญ่มากจนเกินไป มุมมองให้อารมณ์ความสปอร์ต ไฟหน้าโฉบเฉี่ยว ส่องสว่างด้วยหลอด และมีไฟสูงแยกอยู่ตรงกลาง ไฟท้ายโฉบเฉี่ยวดีไซน์สไตล์ X วินชิลด์ ทรงสูงช่วยลดการปะทะกับแรงลมและสามารถปรับระดับได้ บั้นท้าย แฮนด์ยกทรงปีกนกครอบปิดดูหรูหรา สวิตช์ซ้ายขวาอยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานได้สะดวก เบาะนั่ง ยกระดับด้านหลังมีความกว้างนุ่มให้ความสบายทั้งผู้ขับขี่ และผู้ซ้อนท้าย ช่องเก็บของใต้เบาะได้อย่างจุใจ หมวกกันน็อค 2 ใบ สบายๆ มีไฟ LED ส่องสว่างหาของได้งายในที่มืด พร้อมที่จับกันตกกลมกลืนกับบั้นท้าย

 

สมรรถนะเครื่องยนต์ ให้ความประหยัด แต่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับเครื่องยนต์ของ XMAX300 ใช้เทคโนโลยี Blue Core ปริมาตรความจุกระบอกสูบ 292 ซีซี แบบ 4 จังหวะ 1 สูบ SOHC 4 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 27.62 แรงม้า ที่ 7,250 รอบ/นาที กระบอกสูบยังคงเป็นเทคโนโลยี ไดอะซิล ลูกสูบอลูมินัมอัดขึ้นรูป ระบายความร้อนได้ดีเช่นเดิม สั่งจ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีดส่งผลให้มีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ กำลังแรงบิดที่ต่อเนื่องมาไวออกตัวได้ปี๊ดป๊าดเร้าใจ เสริมระบบ VVA วาลว์แปรผัน เพื่อให้การตอบสนองในรอบกลางบิดได้อย่างต่อเนื่อง ขับเคลื่อนด้วยระบบสายพาน ที่ออกแบบหน้าตาใหม่แบบหยักทั้งบนและล่าง (ลองนึกภาพสายพานรุ่นเก่าด้านบนเรียบ ด้านล่างเป็นหยัก) และ ชุดคลัทช์หลัง 5 ก้อน เพิ่มสมรรถนะในการจับที่รวดเร็วขึ้น

ออพชั่นเสริมที่เกินตัวสำหรับสกู๊ตเตอร์ขนาดกลาง
อุปกรณ์ที่ติดตั้งมาให้เกินตัวในรถจักรยานยนต์สไตล์สกู๊ตเตอร์ออโตเมติกขนาด 300 ซีซี เช่น เทคโนโลยีขั้นเทพ TCS หรือ เรียกกันง่ายๆ ว่า แทร็คชั่นคอนโทรล ถูกจัดใส่เข้าไปเพื่อเพิ่มความมั่นใจและปลอดภัยกันล้อหลังแซงล้อหน้า สามารถที่จะปิดและเปิดได้ตามทักษะและความต้องการแต่ละคน ระบบเบรก ABS ทั้งหน้าและหลังสั่งงานได้มั่นใจ สวิตช์กุญแจแบบคีย์เลส พกพาสะดวกใช้งานง่าย ป้องกันการโจรกรรมได้เป็นอย่างดี ช่องเก็บของอินเนอร์มีสองข้างโดยที่ข้างในมีช่องเสียบชาร์ทไฟสำหรับโทรศัพท์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก

ความเห็นนักทดสอบ
จตุรงค์ หมื่นทิพย์
รูปทรงมองทีแรกอาจดูว่าใหญ่ แต่ลองเข้าไปนั่งคร่อม เดินดูรอบๆ ไม่ได้ใหญ่จนเกินไป มีความเป็นสปอร์ต ดูเข้มๆ เรียบๆ ท่านั่งเน้นถึงการขับขี่ใช้งานนั่งได้สบาย ให้ความสบายเท้าสามารถขยับสเต็ปได้ตามความต้องการ แต่ก็ไม่ได้เหยียดจนตรงเกินไป ระดับแฮนด์ยกขึ้นมาให้จับได้ถนัดและไม่ทำให้แขนตึงรั้งในการควบคุมเลี้ยว กำลังเครื่องยนต์ในรอบต้นๆ ต้องบอกมาเร็วปี๊ดป๊าดมาก เปิดคันเร่งแค่เพียง 5,500 รอบ/นาที รถจะพุ่งไปอย่างรวดเร็ว ลากกันยาวๆ ปลายเริ่มจะตึงๆ ที่ความเร็วประมาณ 145-150 กม./ชม. ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับรถสกู๊ตเตอร์ขนาด 300 ซีซี คันเร่งมีความหน่วงนิดหน่อยไม่ถึงกับเบามาก รอบเครื่องยนต์ถ่ายทอดออกมาอย่างต่อเนื่อง
ฐานล้อที่ออกแบบให้ช่วงรถสั้นส่งผลถึงความคล่องตัวในการพลิกเลี้ยวในทางแคบได้ดี วงล้อหน้าขนาด 15 นิ้ว ให้การควบคุมที่เบาแรง วงล้อหลัง 14 นิ้ว พร้อมยางหน้ากว้างให้ความนิ่มนวลเกาะพื้นถนนได้เยอะ มั่นใจในการขับขี่เข้าโค้ง รู้สึกได้เมื่อพลิกเข้าโค้งที่มีความเร็วมากกว่า 80 กม./ชม. ควบคู่ไปกับระบบรับแรงกระแทกโช้คอัพหลัง ถูกวางตำแหน่งไว้ท้ายสุดเพื่อการรับน้ำหนักและรับแรงกดที่ต้องเปิดคันเร่งออกจากโค้งอย่างรวดเร็วฟังก์ชั่นสามารถสั่งได้จากสวิตช์และอ่านค่าด้วยจอแสดงผลแบบดิจิตอลมีหลายฟังก์ชั่น การเปิด/ปิด Traction Control เวลา อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน/ค่าเฉลี่ย, ระยะทางการเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน, ทริปการเดินทาง, อุณหภูมิความร้อน ส่วนที่เป็นอะนาล็อคจะบอกความเร็ว และ รอบเครื่องยนต์XMAX300 เป็นรถจักรยานยนต์ที่ให้ความสะดวกสบาย เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้ที่ขับขี่ในเมืองและที่ชอบขับขี่เดินทางท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง กับราคา ประมาณ 168,000 บาท

 

“มาร์เกวซ” ผงาดแชมป์โลกสมัยที่ 6

มาร์ก มาร์เกวซ ยอดนักบิดแห่งยุคของ เรปโซล ฮอนด้า ปิดฉากศึกดวลความเร็วโมโตจีพี ฤดูกาล 2017 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลังคว้าตำแหน่งแชมป์โลก สมัยที่ 6 (รวมทุกรุ่น) ได้สำเร็จ จากการเข้าป้ายอันดับที่ 3 ในเกมส่งท้ายที่บาเลนเซีย ศึกการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี สนามที่ 18 หรือเกมส่งท้ายประจำปีนี้ รายการสแปนิช กรังด์ ปรีซ์ ที่ริคาร์โด ตอร์โม เซอร์กิต เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน ระยะทางต่อรอบ 4.005 กิโลเมตร วันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน 2560 เป็นรอบชิงชนะเลิศของทุกรุ่นการแข่งขัน

สำหรับไฮไลต์อยู่ที่การชิงดำลุ้นตำแหน่งแชมป์โลกของรุ่นโมโตจีพี ระหว่าง มาร์ก มาร์เกวซ จ่าฝูงจาก เรปโซล ฮอนด้า กับ อันเดรีย โดวิซิโอโซ่ ผู้ท้าชิงชาวอิตาเลียน สิ้นสัญญาณไฟ มาร์เกวซ ออกตัวจาก โพล โพซิชั่น อย่างร้อนแรง ตามด้วยทีมเมท ดานี เปโดรซ่า นักบิดชาวสแปนิชสังกัดเดียวกัน ทว่าไม่นานกลับเป็น โยฮัน ซาร์โก นักบิดเลือดน้ำหอม ที่สอดแทรกชิงจังหวะขึ้นมายึดตำแหน่งหัวแถวไปครอง อย่างไรก็ตาม ความเข้มข้นของเกมอยู่ในช่วงท้าย เมื่อเจ้าของหมายเลข 93 เกือบพลาดล้ม แต่ยังดีที่สามารถใช้ประสบการณ์ดันตัวแข่งคู่ใจ ฮอนด้า RC213V กลับสู่กลุ่มผู้นำท็อปทรีได้อีกครั้ง เมื่อเสร็จสิ้นการดวลความเร็วครบ 30 รอบ ผู้ชนะเรซส่งท้ายของปีนี้ ได้แก่ เปโดรซ่า ที่ฮึดแซง ซาร์โก แบบหวุดหวิดในรอบสุดท้าย พร้อมฉลองชัยชนะบนโพเดียม เคียงข้าง มาร์เกวซ ที่ตามเข้ามาในอันดับที่ 3 ได้สำเร็จ ขณะที่คู่แข่งคนสำคัญ โดวิซิโอโซ่ พลาดล้มไม่จบการแข่งขัน
สรุปผลงานตลอดปี 2017 มาร์ก มาร์เกวซ ครองแชมป์โลกประจำปีนี้อย่างเต็มภาคภูมิ ด้วยคะแนนสะสม 298 แต้ม พร้อมเพิ่มสถิติความสำเร็จให้กับตัวเอง ด้วยดีกรีแชมป์เวิล์ดกรังด์ปรีซ์สมัยที่ 6 (รวมทุกรุ่น) ส่วนคู่หู ดานี เปโดรซ่า รั้งอันดับที่ 4 มี 210 แต้ม โดยแฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ตชาวไทย สามารถติดตามข่าวสารส่งกำลังใจเชียร์นักบิดสายเลือดไทยของทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยได้ทางเว็บไซต์ www.aphondaracingthailand.com

ยามาฮ่า เปิดโลกแห่งความฟินน์ “FINN World” ครั้งแรกในโลก!!!

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดโลกแห่งความฟินน์ครั้งแรกในโลก “FINN World” กิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อให้ลูกค้า และผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทั่วไปได้สัมผัสกับ ยามาฮ่า ฟินน์ “ฟินน์กว่า…ก็โดนกว่า” รถจักรยานยนต์ครอบครัวยุคใหม่ในบรรยายกาศสุดฟินน์ ทั้งในเรื่องของการทดสอบขับขี่ และกิจกรรมในรูปแบบใหม่อีกมากมาย ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวมุกดาหารที่เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก และต่างรู้สึกประทับใจฟินน์แบบสุดๆ กันทุกคน โดยกิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้น ณ ลานหน้าห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จ.มุกดาหาร

สำหรับกิจกรรม “FINN World” ที่จะจัดขึ้นรวมทั้งหมด 8 ครั้ง ดั้งนี้
ครั้งที่ 1 จ.มุกดาหาร สถานที่ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ในวันที่ 11-12 พ.ย. 2560
ครั้งที่ 2 จ.มหาสารคาม สถานที่ ที่ว่าการอำเภอหลังเก่า ในวันที่ 16-17 พ.ย. 2560
ครั้งที่ 3 จ.ฉะเชิงเทรา สถานที่ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ในวันที่ 25-26 พ.ย. 2560
ครั้งที่ 4 จ.เพชรบุรี สถานที่ ลานหน้าโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ ในวันที่ 2-3 ธ.ค. 2560
ครั้งที่ 5 จ.ราชบุรี สถานที่ ลานริมเขื่อนโพธาราม ในวันที่ 9-10 ธ.ค. 2560
ครั้งที่ 6 จ.นครสวรรค์ สถานที่ ตลาดศรีนคร ในวันที่ 12-13 ธ.ค. 2560
ครั้งที่ 7 จ.นครศรีธรรมราช สถานที่ (รอการยืนยันสถานที่) ในวันที่ 20-21 ม.ค. 2561
ครั้งที่ 8 จ.ลพบุรี สถานที่ ลานตลาดนัดบานาน่า ในวันที่ 27-28 ม.ค. 61