QTCGP ร่วมมือ MOVE EV X ลงทุนเปิดสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

QTCGP ผู้ประกอบธุรกิจด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานทดแทน

นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน (กลางซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นายเรืองชัย กฤษณเกรียงไกร (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC และนางสาวศศิกาญจน์ ตันธนสิน (ซ้าย) กรรมการ บริษัท คิวทีซี โกลบอล เพาเวอร์ จำกัด (QTCGP) (บริษัทย่อย) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงกับ นายวันชัย ลี้นะวัฒนา (กลางขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะมูฟ ธันเดอร์ จำกัด (MOVE EV X) เพื่อลงทุนเปิดสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า จำนวน 7 สถานี ได้แก่ สาขาเฉลิมพระเกียรติ 67 สาขาสุขสวัสดิ์14 สาขาลาดพร้าววังหิน สาขาพัฒนาการ20 สาขาวิภาวดีรังสิต1 สาขาหลานหลวง และสาขาสุขุมวิท101/1 เป็นที่เรียบร้อย

โดยการลงทุนครั้งนี้ บริษัท คิวทีซี โกลบอล เพาเวอร์ จำกัด (QTCGP) ผู้ประกอบธุรกิจด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานทดแทนหรือพลังงานสะอาดในหลากหลายรูปแบบ ได้ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องมลพิษทางอากาศ อาทิ PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเขตประชากรหนาแน่น จึงร่วมมือกับ MOVE EV X ในครั้งนี้เพื่อมีส่วนช่วยในการลดค่าครองชีพให้กับกลุ่มไรเดอร์ที่เข้ามาเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เข้าถึงพลังงานในราคาประหยัด

ผู้สนใจทำธุรกิจและเป็นผู้มีส่วนร่วมสร้างระบบ Ecosystem อย่างยั่งยืน กับ “MOVE EV X by H Sem” สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เว็บไซต์ www.moveevx.com, FB: MOVE EV X หรือสอบถามได้ที่ Line ID: @moveevx และ Call Center 1513 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 8.30น. – 17.30น.)

ปีใหม่นี้…ออกไปใช้ชีวิตให้เต็มที่กับการเดินทางสุดเท่บนมอเตอร์ไซค์ Royal Enfield

New Year’s Resolution สุดท้าทายและน่าตื่นเต้น

ปีใหม่นี้ นอกจากเป้าหมาย เช่น การดูแลตัวเอง จัดการการเงิน หรือ ความมุ่งมั่นในการงาน ใครที่กำลังมองหา New Year’s Resolution สุดท้าทายและน่าตื่นเต้น เราขอแนะนำให้ลิสต์ “การออกทริปท่องเที่ยวด้วยมอเตอร์ไซค์” ไว้ในลิสต์ลำดับต้นๆ เลย! และจะมีรถคู่ใจคันไหนดีไปกว่า Royal Enfield ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยานพาหนะ แต่มันคือสัญลักษณ์ของอิสระ เสรีภาพ และจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย พร้อมพาคุณออกไปสัมผัสประสบการณ์การเดินทางรูปแบบใหม่ สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด และดื่มด่ำไปกับทัศนียภาพอันงดงามสองข้างทางแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน

ทำไมต้อง Royal Enfield?

  • ดีไซน์คลาสสิกเหนือกาลเวลา: ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 124 ปี พร้อมทั้งรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานความคลาสสิกและความทันสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

  • สมรรถนะที่ไว้ใจได้: เครื่องยนต์เรียบง่าย ทนทาน เหมาะสำหรับการเดินทางทุกรูปแบบ

  • หลากหลายรุ่น หลากหลายสไตล์: ไม่ว่าจะเป็นสายลุย สายชิล สายคลาสสิก หรือสายโมเดิร์น Royal Enfield มีรุ่นที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

  • ชุมชนนักขับขี่ที่แข็งแกร่ง: กลุ่ม club community ต่างๆ ที่มีมากกว่า 50 กลุ่มทั่วประเทศ สามารถเข้าร่วมกลุ่มเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ แลกเปลี่ยนความรู้ และออกทริปสุดมันส์ไปด้วยกัน

ไอเดียทริปสุดเจ๋งกับ Royal Enfield

  • ตะลุยเส้นทางธรรมชาติ: ออกเดินทางสู่ยอดดอย สัมผัสอากาศหนาว ชมทะเลหมอก และธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ เช่น เส้นทางเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน เส้นทางเขาใหญ่-วังน้ำเขียว หรือเส้นทางภูทับเบิก-เชียงคาน เส้นทางที่ท้าทาย ต้องเผชิญกับทางขึ้นเขา ทางลูกรัง และสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ขอแนะนำ Royal Enfield Himalayan 450 ที่ออกแบบมาเพื่อการผจญภัยโดยเฉพาะ แข็งแกร่ง ระบบกันสะเทือนที่ยอดเยี่ยม ทำให้พร้อมลุยไปได้ทุกที่

  • ท่องเที่ยวเมืองรอง: ออกสำรวจเมืองเล็กๆ หลีกหนีความวุ่นวาย สัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรม ชิมอาหารท้องถิ่น แวะถ่ายภาพกับชุมชน เช่น น่าน ลำพูน เพชรบูรณ์ หรือราชบุรี สำหรับการเดินทางแบบสบายๆ หนึ่งในตัวเลือกในการเพิ่มสไตล์สุดคลาสสิคให้ทริปคือ Royal Enfield Classic 350 ด้วยดีไซน์เหนือกาลเวลา ขับขี่ง่าย คล่องตัว และประหยัดน้ำมัน เหมาะกับการเดินทางท่องเที่ยวแบบชิลๆ
  • Road Trip ริมทะเล: ขับรถกินลมชมวิว สัมผัสธรรมชาติสีเขียวขจีพร้อมบรรยากาศริมทะเล แวะพักผ่อนตามชายหาดสวยๆ เช่น เส้นทางหัวหิน-ปราณบุรี เส้นทางพัทยา-จันทบุรี หรือเส้นทางภูเก็ต-กระบี่ Royal Enfield Meteor 350 เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่โดนใจ รถครุยเซอร์ที่เน้นความสะดวกสบายในการขับขี่ ท่านั่งผ่อนคลาย นุ่มนวล พร้อมระบบนำทาง Tripper ที่จะช่วยให้การเดินทางของคุณง่ายยิ่งขึ้น

  • ขี่รถเที่ยวรอบเมือง: สัมผัสเสน่ห์ของเมืองใหญ่ในมุมมองใหม่ ซอกแซกไปตามตรอกซอกซอย ค้นพบร้านอาหาร คาเฟ่ และสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิป เช่น กรุงเทพฯ อยุธยา เชียงใหม่ หรือภูเก็ต สำหรับการขับขี่ในเมือง ที่ต้องการความคล่องตัว Royal Enfield Hunter 350 รถโรดสเตอร์ ที่คล่องตัว น้ำหนักเบา ควบคุมง่าย ดีไซน์ทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง

  • นอกจากนี้ Royal Enfield ยังมีรถรุ่นต่างๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Interceptor 650, Super Meteor 650, Shotgun 450 และ Guerrilla 450 ที่พร้อมพาทุกคนไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ เลือกคันที่ชอบ ขี่คันที่ใช่ แล้วไปใช้ชีวิตอย่างมีสไตล์ในปีนี้ด้วยกัน

    เตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทาง

    • เลือกมอเตอร์ไซค์คู่ใจ: ศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบรุ่นต่างๆ และเลือกรุ่นที่เหมาะกับสไตล์การขับขี่ และเส้นทางที่ต้องการเดินทาง

    • วางแผนเส้นทาง: กำหนดจุดหมายปลายทาง ศึกษาเส้นทาง และจองที่พักล่วงหน้า

    • ตรวจเช็ครถ: ตรวจสอบสภาพรถ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินให้พร้อม

    • เตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์: เลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ และเตรียมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น หมวกกันน็อค ถุงมือ และเสื้อแจ็คเก็ต

    • เตรียมร่างกายให้พร้อม: พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ

  • เคล็ดลับขับขี่ปลอดภัย

    • สวมหมวกกันน็อคทุกครั้ง: ไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล

    • ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง: ปฏิบัติตามกฎจราจร และเคารพเพื่อนร่วมทาง

    • ไม่ขับรถเร็วเกินกำหนด: ควบคุมความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพถนน

    • ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ก่อนขับรถ: เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและผู้อื่น

    • พักผ่อนเป็นระยะ: หากรู้สึกเหนื่อยล้า ควรจอดพักรถในที่ปลอดภัย

    อย่ารอช้า! ปีใหม่นี้ ออกไปสร้างประสบการณ์สุดประทับใจ กับการเดินทางสุดเท่บนมอเตอร์ไซค์ Royal Enfield แล้วคุณจะค้นพบว่า โลกใบนี้มีอะไรอีกมากมายรอให้คุณออกไปสัมผัส

MOTOR EXPO จับรางวัลคืนกำไรให้ผู้ชม

 “ซื้อรถ…ชิงรถ” “ซื้อบัตร…ชิงรถ” “ซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิกไบค์”

“IMC สื่อสากล” จับรางวัลหาผู้โชคดีจากงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” ลุ้นรถยนต์ 3 คัน และรถจักรยานยนต์ 1 คัน จากกิจกรรมคืนกำไรให้ผู้ชมที่ “ซื้อรถ…ชิงรถ” “ซื้อบัตร…ชิงรถ” “ซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิกไบค์” และ “ชมงานผ่าน MOTOR EXPO APP ชิงรางวัล” ณ ห้องรอยัลจูบิลี อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี ในวันพุธที่ 22 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา

สำหรับรายชื่อผู้โชคดีที่ผ่านการตรวจสอบว่าปฏิบัติตามกฎกติกาของการชิงรางวัลแล้ว จะประกาศ ทางเวบไซท์ motorexpo.co.thautoinfo.co.th, ทาง LINE @motorexpo ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 และทางนิตยสาร “ฟอร์มูลา”, 4 WHEELS  ฉบับประจำเดือนเมษายน 2568

ไทยฮอนด้าสนับสนุนการยกระดับฝีมือช่างไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

ไทยฮอนด้าด้วยการมอบรางวัลพิเศษ ให้ช่างไทยที่คว้าชัยในการแข่งขันทักษะฝีมือช่างระดับเอเชีย & โอเชียเนียได้สำเร็จ

ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย มอบรางวัลพิเศษ All New Honda Scoopy ให้กับ นาย มนตรี เนียมนิ่ม จาก บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด (แผนกบิ๊กไบค์) ช่างไทยที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการรถจักรยานยนต์ไทย ด้วยการคว้ารางวัลชนะเลิศในการแข่งขัน “Honda Asia & Oceania Motorcycle Technician Skill Contest” เมื่อปลายปี 2024 ณ ประเทศฟิลิปปินส์ ในหมวดรถบิ๊กไบค์ (Fun Bike) ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของคนไทยที่สามารถคว้าชัยในรุ่นนี้ได้ โดยครั้งนี้ ทีมไทยสามารถคว้าชัยได้ทั้งประเภทกลุ่มและบุคคล ซึ่งการแข่งขันทักษะฝีมือช่างระดับภูมิภาคอันทรงเกียรตินี้เป็นการรวบรวมสุดยอดนายช่างจากหลากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียมาประชันฝีมือกัน

ความสำเร็จในครั้งนี้สะท้อนถึงมาตรฐานความเป็นมืออาชีพของทีมช่างไทยที่สามารถแข่งขันกับผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียได้ และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งผู้ชนะในรุ่นนี้จะได้ไปแข่งการแข่งขันทักษะฝีมือช่างระดับโลก รายการ Honda Global Motorcycle Technician Contest ต่อไป โดยทางไทยฮอนด้ายังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทักษะของบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ให้พร้อมเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ และสนับสนุนการยกระดับมาตรฐานฝีมือช่างไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลต่อไป

ติดตามข้อมูลและรายละเอียดการแข่งขันในครั้งต่อไปได้ที่
เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : www.facebook.com/hondamotorcyclethailand

#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #ThaiHonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou

รวมพลคนคัลเจอร์มากกว่าพันคน ปลดปล่อยความสนุกครบทุกสไตล์ในงาน CUB House Cult Hub ณ เพลนธี ฟาร์ม

‘CUB House Cult Hub Promoted By Fungjai’ เทศกาลดนตรีและแคมป์รับลมหนาว

ปิดจบสุดสัปดาห์ด้วยความสนุกของงาน ‘CUB House Cult Hub Promoted By Fungjai’ เทศกาลดนตรีและแคมป์รับลมหนาว รวมพลคาราวานคับเฮ้าส์จากทุกคัลเจอร์กว่า 1,000 คน มาปลดปล่อยความสนุกกันตลอดงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ณ เพลนธี ฟาร์ม จังหวัดนครปฐม

งานนี้มีไฮไลต์สำคัญโดยมอบความสนุกให้ผู้เข้าร่วมงานอย่างเต็มที่ ประกอบด้วยกิจกรรม CULT HUB 4 ฐานคัลเจอร์คับเฮ้าส์ ที่ถอดคาแรกเตอร์จากรถจักรยานยนต์ CUB House ในแต่ละรุ่นมาให้ผู้เข้าร่วมได้ร่วมกิจกรรมเก็บคะแนนในแต่ละฐาน ไม่ว่าจะเป็น

ฐานลิง (ซนคัลท์เจอร์) กิจกรรมซนๆ ให้โยนห่วงเข้าล้อ ปาโป่งชิงรางวัล เล่นได้ทั้งครอบครัว
ฐานหมี (ลุยคัลท์เจอร์) กิจกรรมสำหรับสายลุย ขี่รถจักรยานยนต์ CUB House ลุยผ่านสิ่งกีดขวางทั้งเนินดิน และแอ่งน้ำ
ฐานดัชชุน (คูลคัลท์เจอร์) กิจกรรมสำหรับคนคูลๆ เล่น SUB Board กลางภูเขาด้านอุณหภูมิ
ฐานสิงห์ (คลาสสิกคัลท์เจอร์) กิจกรรมสำหรับคนซนสุดคลาสสิก กับ AIR Blush Tattoo คัสตอมเปลี่ยนสีได้เอง เลือกลายที่ใช่ โชว์ตัวตนออกมาให้สุด และ Barber Booth ปรับลุคให้เท่ได้เลยภายในงาน

สำหรับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมเก็บสแตมป์ในการ์ดสะสมได้ทั้งหมด 3 จาก 4 ฐาน ได้สิทธิ์ลุ้นรับรางวัลสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากคับเฮ้าส์ไปทันที อีกทั้งในงานนี้จัดเต็มด้วยบูธอาหารรวมร้านดังมามอบความอร่อยอย่างหลากหลาย

ความสนุกไม่ขาดตอนด้วยโชว์บนเวทีสุดฮาและมันส์ ไม่ว่าจะเป็น การแสดงยืนเดี่ยวจากนักเล่าเรื่องสายซิ่งอย่าง ‘เฮง โอเวอร์’ และ ‘DAVID WAR’ ก่อนต่อเนื่องด้วย CULT CONCERT ที่ขนทัพศิลปินชั้นนำอย่าง D Gerrard, T-Bone, Television Off และ Only Monday มามอบความสุขแบบมิดไมล์ งานนี้ยังมี DJ สายชิล มาเปิดเพลงให้โยกเบาๆ เคล้ากับบรรยากาศสุดผ่อนคลาย และพื้นที่ลานกางเต็นท์ที่รองรับได้ถึง 300 หลัง ให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์แคมป์ปิ้งในบรรยากาศอันอบอุ่น

‘CUB House Cult Hub Promoted By Fungjai’ ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากแฟนคับเฮ้าส์ทั่วประเทศ สร้างความประทับใจและความทรงจำที่น่าจดจำตลอดทั้งงาน ใครไม่อยากพลาดงานหน้าสามารถติดตามกิจกรรมจาก Cub House ได้ที่

เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th/cubhouse
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : fb.com/hondamotorcyclethailand
เฟซบุ๊ก CUBhouse : fb.com/cubhousebyhonda

#Fungjai #CULTHUB #CUBHOUSE #HONDACUBHOUSE
#CT125 #MONKEY125 #DAX125 #C125
#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #ThaiHonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou

ศึกใหญ่แห่งปี!  บอสใหญ่ชาตรี นำทัพนักกีฬาแถลงข่าว ONE 170

 “ตะวันฉาย VS ซุปเปอร์บอน” จากสังเวียนสู่ภาพยนตร์ฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์

วัน แชมเปียนชิพ แถลงข่าวศึก ONE 170 ศึกใหญ่ศึกแรกของปี ประเดิมจัดที่ไทย อัดแน่นซูเปอร์สตาร์และนักกีฬาระดับแม่เหล็กรวม 12 คู่ ครบทุกกติกา มีการชิงเข็มขัดแชมป์โลก 3 เส้น หนึ่งในนั้นคือการรีแมตช์ครั้งสำคัญ ชิงบัลลังก์มวยไทยระหว่าง “ตะวันฉาย VS ซุปเปอร์บอน” ที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี ในวันศุกร์ที่ 24 ม.ค.นี้ เริ่มคู่แรกเวลา 18.30 น. โดยจะมีนักแสดง-ทีมงานภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ “The Beast In Me” ซึ่งนำแสดงโดยนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ “รัสเซล โครว์”และ“แดเนียล แม็คเฟอร์สัน” มาถ่ายทำฉากสำคัญ และบันทึกภาพการเก็บตัวตลอดทั้งสัปดาห์ จนถึงฉากแอ็กชันบนเวทีแข่งขันด้วย

21 มกราคม 2568 โรงแรม แมริออท สุขุมวิท กรุงเทพ: วัน แชมเปียนชิพ (ONE) องค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แถลงข่าวจัดการแข่งขันศึก ONE 170 โดยมีทัพนักนักกีฬาและสื่อมวลชนหลายร้อยสำนัก รวมถึงแฟน ๆ เข้าร่วมงานมากมาย ภายในงานได้มีการเปิดเผยถึงโปรแกรมการจัดการแข่งขันของ วัน แชมเปียนชิพตลอดปี 2025 ว่าจะมีการจัดการแข่งขันไฟต์ใหญ่ในทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศกาตาร์, ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกาและประเทศไทย

 

นายชาตรี ศิษย์ยอดธง ผู้ก่อตั้ง ประธาน และซีอีโอ ONE Championship เปิดเผยว่า ONE เตรียมจัดการแข่งขัน ONE170 ศึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญที่มีแฟนกีฬาศิลปะการต่อสู้จากทั่วโลกเฝ้ารอชม เพราะมีการต่อสู้ชิงเข็มขัดแชมป์โลกมากถึง 3 เส้น ทุกคู่จะดุเดือดที่สุด ยกทัพซูเปอร์สตาร์และนักกีฬาระดับแม่เหล็กรวม 12 คู่ ซึ่งบัตรเข้าชมการแข่งขันที่อิมแพ็ค อารีนา จำหน่ายหมดทุกที่นั่ง หลายสัปดาห์ก่อนจัดการแข่งขัน ผู้ชมจากทั่วโลกต่างตื่นตาตื่นใจและเฝ้ารอช

“คู่เอก ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์ แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต เป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย พบกับ ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต หนึ่งในนักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทยเช่นกัน ซึ่งจริงๆแล้วทั้งสองคนนี้ ถ้าวัดกันแบบปอนด์ต่อปอนด์ ก็ถือเป็นนักชกที่เก่งที่สุดในโลก ซึ่งการพบกันครั้งนี้มีความหมายมาก ใครที่เอาชนะในไฟต์นี้ จะได้รับการขนานนามว่า ราชาเหนือราชา หรือ king of the kings ”

อีกทั้ง“รัสเซล โครว์” นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ จะมาพร้อมกับทีมถ่ายหนังระดับฮอลลีวู้ด เพื่อถ่ายทำฉากสำคัญของภาพยนตร์เรื่อง The Beast In Me” นำแสดงโดย “แดเนียล แม็คเฟอร์สัน” ซึ่งเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) แนวแอ็กชัน-ดรามา โดยทีมงานจะบันทึกภาพการเก็บตัวตลอดทั้งสัปดาห์ และจะนำแอ็กชันจากการแข่งขันบนเวที รวมทั้งมีนักแสดงชื่อดัง ร่วมถ่ายทำบนเวทีในวันแข่งขัน ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็น Soft Power ผลักดันอุตสาหกรรมกีฬาการต่อสู้ การท่องเที่ยว ช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไทยอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต รวมถึงขยายฐานแฟนคลับกลุ่มใหม่ ๆ ให้กับ ONE

สำหรับศึก ONE 170 จะจัดการแข่งขันในวันศุกร์ที่ 24 มกราคม 2568 ที่ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี เริ่มคู่แรก 18.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 7HD กด 35 เวลา 20.30 น. เป็นต้นไป และยังถ่ายทอดสดผู้ชมมากกว่า 195 ประเทศทั่วโลกผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของ ONE และช่องพันธมิตร

โปรแกรมการแข่งขันศึก ONE 170

คู่เอก ไฟต์หยุดโลกแชมป์ชนแชมป์ เป็นการรีแมตช์ ชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์ เวต (145-155 ป.) ระหว่าง “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” วัย 25  เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกคนปัจจุบัน หวนพบผู้ท้าชิงดีกรีแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต “ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์” วัย 34 ปี

คู่รอง “ฟาบริซิโอ อานดราเด” แชมป์โลก ONE MMA รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) จากบราซิล ป้องกันเข็มขัดครั้งแรก โดยพบคู่ปรับเก่า “ควอน วอน อิล” จากเกาหลีใต้

อีกคู่ที่แฟนทั่วโลกต่างจับตามอง ศึกชิงบัลลังก์ ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) เฉพาะกาล ระหว่างผู้ท้าชิงอันดับ 2 “นิโค คาร์ริลโล” จากสกอตแลนด์  พบกับ “นาบิล อานาน” ผู้ท้าชิงอันดับ 5 เชื้อสายแอลจีเรีย/ไทย โดยผู้ชนะจะได้ไปเจอกับ  “ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9” (ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพักรักษาอาการบาดเจ็บ) โดยมีแผนว่าจะจัดการแข่งขันรวบเข็มขัดในศึก ONE172 วันอาทิตย์ที่ 23 มี.ค.68 ที่สนามไซตามะ ซูเปอร์ อารีนา ประเทศญี่ปุ่น

นอกจากนั้นยังมีอีก 4 นักชกสายเลือดไทยร่วมโชว์ฝีมือ ได้แก่ เสกสรร อ.ขวัญเมือง, โจ ณัฐวุฒิ, สุริยันต์เล็ก พ.เย็นยิ่ง และ สินสมุทร กลิ่นมี

 

“เสกสรร อ.ขวัญเมือง” ยอดกำปั้นจาก จ.นครศรีธรรมราช พบกับบุรุษเหล็ก “ซอ ลิน อู” จากเมียนมา ในกติกามวยไทย พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 142 ป.

ศึกชิงแรงกิง ระหว่าง “โจ ณัฐวุฒิ” ผู้ท้าชิงอันดับ 2 จอมบู๊จากเมืองย่าโมโคราช พบกับ “บัมปารา คูยาเต” จากฝรั่งเศส ผู้ท้าชิงอันดับ 4 ในกติกามวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต

“สินสมุทร กลิ่นมี” นักชกพ่อลูกอ่อนจากชลบุรี กลับมากู้ศรัทธามหาชน พบกับกำปั้นกระทิงดุ  “นาวเซต ทรูจิลโล” จากสเปน ในกติกามวยไทย รุ่นไลต์เวต (155-175 ป.)

ขณะที่ “สุริยันต์เล็ก พ.เย็นยิ่ง” จอมบู๊หมัดโหดจากมหาสารคาม พบกับ “ธานท์ ซิน” จากเมียนมา ในกติกามวยไทย พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 134 ป.

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคู่ร่วมเสิร์ฟความมันในศึกนี้  ได้แก่

■  โจฮัน กาซาลี (มาเลเซีย/สหรัฐอเมริกา) vs โยฮัน เอสตูปินาน (โคลอมเบีย) กติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.)

■  มาวริส อาเบวี (สวิตเซอร์แลนด์) vs ซามัต มาเมดอฟ (คาซัคสถาน) กติกา MMA รุ่นไลต์เวต (155-175 ป.)

■  มาร์เซโล การ์เซีย (บราซิล) vs มาซากาซึ อิมารานิ (ญี่ปุ่น) กติกาปล้ำจับล็อก ไม่จำกัดน้ำหนัก

■  ชากีร์ แอล เตครีติ (อิรัก) vs มาซาอากิ โนอิริ (ญี่ปุ่น) กติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.)

■  เฟรดดี แฮ็กเกอร์ตี (สหราชอาณาจักร) vs จอร์แดน เอสตูปินาน (โคลอมเบีย) กติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.)

ติดตามรับชมการถ่ายทอดสดศึก ONE 170 ผ่านทาง  Watch.ONEFC.com (บางประเทศ), Facebook & YouTube ONE (บางประเทศ) เริ่มคู่แรกเวลา 18.30 น. และทางช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) รับสัญญาณถ่ายทอดสดเวลา 20.30 น.

   PTG มอบน้ำใจช่วยฟื้นฟูผู้ประสบภัย จ.นครศรีธรรมราช

 PTG สนับสนุนโครงการสร้างสุข ฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย

บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG สนับสนุนโครงการสร้างสุข ฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลดที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมอบผลิตภัณฑ์ PT Maxnitron Moto Semi-Synthetic 4T AT น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi-Synthetic) สำหรับเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถจักรยานยนต์ จำนวน 720 ขวด เพื่อใช้ในการออกหน่วยให้บริการซ่อมให้กับผู้ประสบอุทกภัยที่ได้รับความเสียหายใน 23 อำเภอต่อไป ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้

ครบทุกมิติ! ถอดรหัสแนวคิดใหม่ “บุรีรัมย์ มาราธอน 2025” เตรียมเปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ 25 ม.ค.นี้

ไนท์รัน ฝีมือคนไทย เตรียมเปิดฉากปีที่ 9 วันที่ 25 ม.ค. 2568

 โชติชนก ชิดชอบ เรซ ไดเรคเตอร์ “บุรีรัมย์ มาราธอน 2025 พรีเซนเต็ด บาย น้ำแร่ธรรมชาติ ตรา ช้าง” ไขความกระจ่างแนวคิดใหม่ สู่ปีที่ 9 กับ 3 บิ๊กเซอร์ไพรส์ มุ่งพัฒนา สนามบุรีรัมย์ มาราธอนและวงการวิ่งไทย ด้วยแนวคิด “มากกว่าสวรรค์ของนักวิ่ง” เพิ่มรางวัล สร้างความสุข-โอกาสใหม่ๆ ให้นักวิ่งไทยได้ต่อยอดไปสู่งานวิ่งระดับโลกมากขึ้น หมุดหมายใหม่ที่ครองหัวใจของนักวิ่งทั่วโลก

“บุรีรัมย์ มาราธอน 2025 พรีเซนเต็ด บาย น้ำแร่ธรรมชาติ ตรา ช้าง” งานวิ่งกลางคืน หรือไนท์รัน ฝีมือคนไทย เตรียมเปิดฉากปีที่ 9 วันที่ 25 ม.ค. 2568  แข่งขันทั้งหมด 4 ระยะ ได้แก่ ระยะมาราธอน (42.195 กม.),  ระยะฮาล์ฟมาราธอน (21.1 กม.),ระยะมินิมาราธอน (10.0 กม.), ระยะฟันรัน (4.554 กม.)

โอกาสเดียวที่จะได้ลงแข่งขันวิ่งในสนามมาตรฐานโลกถึง 2 สนาม ออกสตาร์ทที่ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สนามแข่งรถระดับโลก มาตรฐานการจัดโมโตจีพี ดีกรีสูงสุดของโลกและเข้าเส้นชัยที่ ช้าง อารีนา สนามฟุตบอลรังเหย้าของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาตรฐาน FIFA World Standard

นายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการแข่งขัน หรือ Race Director  บุรีรัมย์ มาราธอน 2025 เปิดเผยว่า จากจุดเริ่มต้นในปี 2017 ที่มีนักวิ่งเพียง 7,000 คน จนมาถึงปีนี้ มีนั่งวิ่งกว่า 32,000 คน อาสาสมัคร 7,000 คน ผู้ติดตามและกองเชียร์ 64,578 คน รวมผู้ร่วมกิจกรรมทั้งสิ้นนับแสนคน ถือเป็นอีกมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ กลายเป็นเทศกาลประจำปีหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ที่ดึงดูดผู้คนและผลักดันเศษฐกิจ การท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม สร้างเงินหมุนเวียนมากกว่า 836 ล้านบาท

“ยืนยันว่า เราจัดวิ่ง “บุรีรัมย์ มาราธอน 2025”  บนมาตรฐานสูงสุดเช่นเดิม โดยปรับมาเป็น World Athletics 2025 Road Race Label ซึ่งนักวิ่งสามารถนำสถิติไปควอลิฟายในงานวิ่งต่างๆทั่วโลกได้ โดยในปีนี้ ประธานการจัดงานและผู้ก่อตั้งบุรีรัมย์มาราธอน “เนวิน ชิดชอบ” เปลี่ยนเป้าหมายใหม่ไม่ไป Platinum ไม่นำเงินมหาศาลไปทุ่ม เพื่อการเชิญอีลีทมาวิ่ง แต่ต้องการนำเงิน มาสนับสนุนนักวิ่งไทย ให้บุรีรัมย์ มาราธอนเป็น สวรรค์ของนักวิ่งอย่างแท้จริง ตามปณิธานที่ตั้งไว้ เขียนประวัติศาสตร์บทใหม่ กับการมุ่งพัฒนา สนามบุรีรัมย์มาราธอนและวงการวิ่งไทย ด้วยแนวคิดใหม่ที่ “มากกว่าสวรรค์ของนักวิ่ง” สร้างโอกาสใหม่ๆ ให้นักวิ่งไทยได้ต่อยอดไปสู่งานวิ่งระดับโลกมากขึ้น

ในการนี้ได้จัดบิ๊กเซอร์ไพรส์พิเศษ 3 ต่อ  พิเศษที่ 1 นักวิ่งจะได้รับภาพนักวิ่งแบบเรียลไทม์ แบบฟรีๆ ทุกระยะ บุรีรัมย์ มาราธอน 2025 ยังเป็นรายการแรกที่ใช้วิธีแจกภาพนักวิ่งแบบเรียลไทม์  ฟรี !!  โดยใช้ระบบที่ทันสมัยที่สุดที่ถูกออกแบบมา เพื่องานนี้โดยเฉพาะ  พิเศษที่ 2 สิทธิ์ลุ้นรางวัล Lucky draw ระยะละ 50 คน มูลค่ารวมกว่า 1.3 ล้านบาท  พิเศษที่ 3 นักวิ่งที่ทำสถิติดีที่สุด 10 อันดับแรก ทั้งชายและหญิง (ที่ไม่ใช่ทีมชาติ) จะสนับสนุนค่าสมัคร ค่าเดินทาง และค่าที่พัก สำหรับนักวิ่งที่ล็อตโต้ งานโตเกียว มาราธอนได้

รวมถึงรางวัลพิเศษมากมาย เพื่อสร้างความสุข และเป็นสวรรค์ของนักวิ่งอย่างแท้จริง ได้แก่ รางวัล “Lucky Draw” แจกเงินรางวัลทุกระยะๆ ละ 50 คน รวมมูลค่ากว่า 1.3 ล้านบาท , รางวัลที่ถูกใจนักวิ่งมากที่สุดคือ New PB สำหรับผู้พิชิตสถิติใหม่ของตัวเอง Beat your Buriram Marathon Personal Best  รับฟรีหมูกระทะ  นอกจากนี้ยังมีรางวัลจากผู้สนับสนุนอีกกว่า 100 รางวัล อาทิ บัตร VIP โค้ง 12 งานโมโตจีพี 2025, บัตรน้ำมัน PT, บัตรพันธุ์ไทย, มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า New Scoopy i club, รถมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่า Fazzio ฯลฯ

ไฮไลต์ที่ครองใจนักวิ่งมากที่สุดคือ การปิดถนน 100% กองทัพกองเชียร์นับหมื่นคน แสงสีเสียงและดนตรีสนุกสุดมันส์ตลอดเส้นทาง กลายเป็นเทศกาลแห่งการเต้นและวิ่ง ที่มีความยาวมากกว่า 42.195 กม. ผ่านแลนด์มาร์คสำคัญ เส้นทางวิ่งที่สวยงาม อาหารหลังเส้นชัยเป็นการรวม ของดี-ของอร่อย ร้านสตรีทฟู้ดจากทั่วเมืองบุรีรัมย์ ยกทัพเข้ามาบริการนักวิ่งมากกว่า 280 บูธ นอกจากนี้ยังมีงานเอ็กซ์โป 2 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 24-25 ม.ค. เวลา 10.00-20.00 น. ขนทัพสินค้ากีฬาและสุขภาพแบบจัดเต็มมากกว่า 100 บูธ

งานวิ่งระดับโลก ฝีมือคนไทย มหกรรมกีฬาที่รองรับผู้ร่วมงาน รวมทั้งทีมงานที่มากกว่า 100,000 คน เกิดจากการประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน  ทั้ง ภาครัฐ-ภาคเอกชนและภาคประชาชน โดยมีคนเล็กหัวใจใหญ่ ชาวบุรีรัมย์ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการจัดเตรียมงาน รับฟังทุกเสียงของนักวิ่ง เพื่อแก้ไขจุดบกพร่องให้มากที่สุด  เพื่อเป็นไนท์รันที่ดีที่สุด สร้างความประทับใจและตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้นในทุกปี เป็นหมุดหมายใหม่ที่อยู่ในหัวใจของนักวิ่งทั่วโลก โดยได้ประกาศวันวิ่งของศักราชหน้า บุรีรัมย์ มาราธอน 2026 วันที่ 24 มกราคม 2569 ปักหมุดสู่การเป็นสวรรค์ของนักวิ่งทั่วโลกอย่างแท้จริง

ทีมกรุงเก่า1 จากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศูนย์ศิลปาชีพบางไทร คว้าแชมป์ถ้วยพระราชทานฯ ในการแข่งขันฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิงครั้งที่ 27

วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศูนย์ศิลปาชีพบางไทร สร้างสถิติค่าประหยัดด้วย 897.656 กิโลเมตร/ลิตร

การแข่งขัน “ฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง” ครั้งที่ 27 ประจำปี 2025 จบลงด้วยความสำเร็จอย่างงดงาม รางวัลชนะเลิศเป็นของทีมกรุงเก่า1 จากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ที่สร้างสถิติค่าประหยัดด้วย 897.656 กิโลเมตร/ลิตร ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี พร้อมคว้ารถจักรยานยนต์รุ่น Honda Supercub ไปครอบครอง และเงินพัฒนาทีมมูลค่าสูงถึง 60,000 บาท และตามด้วยอันดับรองชนะเลิศเป็นของทีมปราบไตรจักร วิทยาลัยสารพัดช่างพิษณุโลก ด้วยสถิติ 877.242 กิโลเมตร/ลิตร คว้ารถจักรยานยนต์รุ่น Honda Wave 110i พร้อมเงินพัฒนาทีมมูลค่า 40,000 บาท

โดยการแข่งขันฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง Honda Eco Mileage Challenge ปีนี้จัดขึ้นที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต โดยมีบริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมเป็นเจ้าภาพ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะวิศวกรรมยานยนต์ให้แก่เยาวชนไทย สำหรับการแข่งขันนี้นับเป็นการส่งเสริมและผลักดันเยาวชนไทยให้ก้าวไปสู่การพัฒนาทักษะด้านวิศวกรรมยานยนต์และสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

โดยในปีนี้ได้รับการสนับสนุนจากตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 320 ทีมจากทั่วทุกจังหวัด แข่งขันภายใต้โจทย์น้ำมัน 1 ลิตร สามารถวิ่งได้ระยะทางเท่าไหร่ ซึ่งการแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 รุ่นหลัก ได้แก่
รุ่นประดิษฐ์ – ผู้เข้าแข่งขันจะต้องสร้างตัวถังรถขึ้นเองและติดตั้งเครื่องยนต์ Wave110i ของฮอนด้า
รุ่นรถตลาด – ผู้เข้าแข่งขันต้องดัดแปลงรถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นต่างๆ เช่น Honda Wave110i, Honda Wave125i และ Honda Supercub
ผลการแข่งขัน:
รุ่นประดิษฐ์ ระดับอาชีวศึกษา: ทีมกรุงเก่า1 วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศูนย์ศิลปาชีพบางไทร คว้ารางวัลชนะเลิศด้วยสถิติ 897.656 กม./ลิตร
รุ่นประดิษฐ์ ระดับอุดมศึกษา: ทีมตะโกราย 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน คว้ารางวัลรองชนะเลิศด้วยสถิติ 764.915 กม./ลิตร
รุ่นประดิษฐ์ ระดับประชาชน: ทีม infernal deva สังกัดร้านซ้งบริการ ด้วยสถิติ 911.597 กม./ลิตร
รุ่นรถตลาด: ทีม Trangairport Econo Team 1 วิทยาลัยเทคนิคตรัง คว้ารางวัลชนะเลิศด้วยสถิติ 205.097 กม./ลิตร

และปีนี้เป็นปีแรกที่มีรางวัลพิเศษสำหรับทีมที่มีพัฒนาการยอดเยี่ยม ซึ่งได้แก่ ทีม NSTRU Eco-Racing จากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช มีพัฒนาการที่ดีขึ้นจากปีที่แล้วถึง 307% เพื่อเป็นกำลังใจในการพัฒนาต่อไป

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เฟซบุ๊ก : www.fb.com/HondaEcoMileageChallenge/
เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th

#HondaEcoMileageChallenge #ฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง #ไทยฮอนด้าเพื่อสังคมไทย
#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #Thaihonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou

IRC เดินหน้าสนับสนุนความปลอดภัยบนท้องถนน

IRC มอบหมวกนิรภัย ให้กระทรวงศึกษาธิการ
บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตยางรถจักรยานยนต์แบรนด์ IRC จากญี่ปุ่น ฉลองครบรอบ 55 ปี ด้วยการมอบหมวกนิรภัยให้กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อส่งเสริมความปลอดภัยในกลุ่มนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา โดยสะท้อนบทบาทของ IRC ที่ร่วมกิจกรรมขับขี่ปลอดภัยกับสถานศึกษาในระดับต่าง ๆ มากว่า 25 ปี พร้อมสร้างจิตสำนึกเรื่องการใช้หมวกนิรภัยอย่างถูกต้อง
พิธีมอบจัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ณ กระทรวงศึกษาธิการ โดยมี พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานรับมอบ พร้อมด้วย นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นายธนู ขวัญเดช รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ นายชัยพัฒน์ พันธุ์วัฒนสกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ฝ่าย IRC นำโดย นางพิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกูล ประธานกรรมการบริหาร นายคณิน เหล่าจินดา กรรมการผู้จัดการ มร.อาคิระ โทโคโระ กรรมการผู้จัดการ และ นายพงศ์พรรณ รัตนวิโรจน์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขายและการตลาด โดยหมวกนิรภัยที่มอบมีทั้งขนาดมาตรฐานและขนาดเล็ก รองรับการใช้งานที่หลากหลาย
IRC คาดหวังกิจกรรมนี้จะช่วยลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุทางถนน พร้อมปลูกฝังวัฒนธรรมขับขี่ปลอดภัยในเยาวชน ครู และบุคลากรในสถานศึกษา รวมถึงยืนยันความมุ่งมั่นในการสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมระยะยาว เพื่อสร้างสังคมขับขี่ปลอดภัยในประเทศไทยอย่างแท้จริง

ไทยฮอนด้า จัดกิจกรรมฉลองวันเด็กแห่งชาติ 2568

ปลูกจิตสำนึกขับขี่ปลอดภัย พร้อมส่งมอบความสุขให้เยาวชนไทย

ไทยฮอนด้า ร่วมฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 จัดบูธกิจกรรมปลูกจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนน ณ กระทรวงศึกษาธิการ นำโดย ดร.อารักษ์ พรประภา ประธาน บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด พร้อมคณะครูฝึกขับขี่ปลอดภัย โดยมีกิจกรรมปลูกฝังการเรียนรู้ป้ายจราจรและการขับขี่อย่างปลอดภัยผ่านเครื่อง Riding Trainer และสวนการจราจรจำลอง ซึ่งได้รับความสนใจจากเยาวชนที่มาร่วมงาน รวมถึงได้รับเกียรติจาก พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าเยี่ยมชมกิจกรรมอย่างใกล้ชิด

พร้อมกันนี้ ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้าทั้ง 4 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้ากรุงเทพฯ , ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้าสมุทรปราการ, ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้าเชียงใหม่ และศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้าภูเก็ต ยังได้จัดกิจกรรมฉลองวันเด็กแห่งชาติ เพื่อสร้างความสนุกสนานและส่งเสริมความรู้ด้านความปลอดภัยบนท้องถนนให้เด็ก ๆ ภายในงานมีทั้งกิจกรรมสันทนาการ การเล่นเกมตอบคำถาม และเวิร์กชอปเรียนรู้เรื่องการใช้ถนนอย่างปลอดภัย โดยได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากผู้ปกครองและเยาวชนในพื้นที่

ทั้งนี้ จากผลการสำรวจพบว่ามีเด็กไทยเพียง 16% เท่านั้นที่สวมใส่หมวกกันน็อกขณะขับขี่ ไทยฮอนด้า จึงจัดกิจกรรมร่วมกันผู้ปกครองในแคมเปญ “ไม่มีฝันไหนไปไม่ถึง…ถ้าเราปกป้องพวกเขาให้ดีพอ” เพื่อรณรงค์ให้พ่อแม่และผู้ปกครองทุกท่านช่วยกันสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน โดยเฉพาะการใส่หมวกกันน็อกให้บุตรหลานก่อนออกเดินทาง เพื่อช่วยลดลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ พร้อมป้องกันอันตรายทางถนนที่อาจทำร้ายความฝันเด็ก ๆ ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ

ติดตามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์: www.thaihonda.co.th
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า: www.facebook.com/hondamotorcyclethailand
IG: www.instagram.com/hondamotorcyclethailand
TikTok: www.tiktok.com/@hondamotorcycletha
YouTube: www.youtube.com/HondaMotorcycleTHA

#HondaSafetyThailand #ฮอนด้าเมืองไทยขับขี่ปลอดภัย #HaveAGoodRide
#ProtectThePowerOfDreams

#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #ThaiHonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou

SKILL DRIVING EXPERIENCE JUNIOR สนับสนุนกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ

โตไป…ขับเป็น” (SKILL DRIVING EXPERIENCE JUNIOR) 

แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 โดย โครงการ ขับเป็น…ขับปลอดภัย กับ สื่อสากล จัดกิจกรรม โตไป…ขับเป็น” (SKILL DRIVING EXPERIENCE JUNIOR) อบรมวินัยจราจรให้เด็ก และเยาวชน ได้ขับขี่ในถนนจำลอง ทั้งนี้ได้รับเกียรติจาก พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เยี่ยมชมบูธ ณ กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา