“คาวาซากิ” จัดใหญ่!! พาแชมป์โลกหญิงคนแรกพบแฟนชาวไทยที่สนามช้างฯ บุรีรัมย์

บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าคาวาซากิ สื่อมวลชน และผู้แทนจำหน่าย ผู้เข้าร่วมกิจกรรม Kawasaki Road Racing Championship 2018 ภายใต้ชื่องาน Kawasaki Raid Party ในช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 19 มกราคม 2562 ณ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ทีผ่านมา ภายในงานทางคาวาซากิได้เชิญแชมป์โลกหญิงคนแรก “อนา คาร์ราสโก” ผู้คว้าแชมป์จากรายการ WorldSBK 2018 รุ่น SSP300 พบปะแฟนคาวาซากิชาวไทย และร่วมกิจกรรมอย่างเป็นกันเองในแบบฉบับของคาวาซากิ ทั้งนี้ “อนา” ยังได้ร่วมถ่ายภาพ และแจกโปสเตอร์พร้อมลายเซ็นต์ให้กับผู้ร่วมงานอย่างใกล้ชิด อีกทั้งทางคาวาซากิได้จัดเตรียมรถ Ninja400 ซึ่งเป็นลายเดียวกันกับรถแข่งของอนา เพื่อให้ “อนา” ได้เซ็นต์ชื่อไว้เป็นที่ระลึก ตามที่ทราบกันดีว่า Ninja400 ที่เธอได้ใช้ลงแข่งขันในฤดูกาลที่ผ่านมา จนทำให้สามารถคว้าแชมป์โลกมาครองได้เป็นผลสำเร็จนั้น เป็นรถที่ผลิตขึ้นจากฐานการผลิตในประเทศไทย ซึ่งเธอเองได้ทำให้ทั่วโลกได้เห็นถึงสมรรถนะ และประสิทธิภาพของรถจักรยานยนต์คาวาซากิ ที่ผ่านกระบวนการผลิตภายใต้การควบคุมของ บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัดอนา คาร์ราสโก ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยมีกำหนดการเดินทางเข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิต บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด จังหวัดระยอง ในวันที่ 18 มกราคม 2562 ที่ผ่านมาพร้อมกันนี้ทางคาวาซากิยังได้เชิญคณะนักแข่งหญิงจากรายการ R2M Power Girls ร่วมเยี่ยมชมโรงงาน และพบปะพูดคุยอย่างใกล้ชิดแบบเป็นกันเองกับ อนา คาร์ราสโก เพื่อพูดคุย และแลกเปลี่ยนความคิด พร้อมแนะนำเทคนิคการขับขี่ให้กับนักบิดสาวไทย โดยได้รับการสนับสนุนจากคุณไกรทส วงษ์สวรรค์ CEO สมาพันธ์กีฬาแข่งรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย สำหรับการพบปะของสาวนักบิด R2M Power Girls กับแชมป์โลกหญิงคนแรก “อนา คาร์ราสโก” ในครั้งนี้

ท่านสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมผ่านทางแฟนเพจ Kawasaki Motors Thailand และเว็บไซด์ www.kawasaki.co.th หรือ Facebook : Kawasaki Motors Thailand

2019 Husvarna FR450 Rally

Husqvarna Motorcycles ยังคงเดินหน้าเข้าร่วมการแข่งขัน Dakar Rally โดยในปี 2019 นี้ ทีมแฟคทอรี่อย่าง Rockstar Energy Husqvarna Factory Racing Dakar Rally Team จะยังคง ส่งสองนักแข่ง คือ Pablo Quintanilla กับ Andrew Shot เช่นปีที่แล้วเข้าร่วมการชิงชัยในครั้งนี้ ซึ่ง Pela Renet : Husqvarna Factory Rally Team Manager ได้กล่าวว่า

ต้องบอกว่าเป็นปีที่ทีมเรามีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยตลอดปี 2018 ที่ผ่านมา Pablo สามารถร่วมแข่งขันในหลายรายการด้วยการลุ้นคว้าชัยในเกือบทุกสนามและผมมั่นใจว่าหากเขายังคงความพร้อมในระดับนั้นไว้ได้ นั่นหมายความว่าเรามีโอกาสที่จะทำผลงานที่ดีในเปรู ด้วยประสบการณ์และความเร็วในการขับขี่ของ Pablo จะสามารถทำให้ FR450 Rally สามารถทำผลงานได้ดี เช่นเดียวกับ Andrew ที่ประเดิมผลงานครั้งแรกได้ดีในปีที่แล้ว ก่อนที่จะสามารถเรียกความมั่นใจกับรถแข่งของทีมได้เพิ่มมากขึ้นกับแรลลี่ชิงแชมป์โลกที่เปรูที่เขาสามารถขึ้นโพเดี้ยมได้ครั้งแรกนั้น จะมีส่วนช่วยให้เขาสามารถทำผลงานที่เปรูในรายการ Dakar ครั้งนี้ได้ดียิ่งขึ้นกับรถแข่ง FR450 Rally ของทีมเรา ที่มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว

แม้แทบจะไม่มีข้อมูลรายละเอียดของรถแข่ง Husvarna FR450 Rally ออกมาเลย แต่ก็พอจะคาดเดาได้ว่าพื้นฐานแล้วนั้นก็คือ ตัวโคลนนิ่งจาก KTM ก็ว่าได้ เพียงแต่รายละเอียดบางอย่าง โดยเฉพาะ ชิ้นส่วนพาร์ทคิทที่เสริมเข้ามานั้น จะแตกต่างไปบ้าง เนื่องจากข้อตกลงที่อนุญาตให้ทาง Husvarna สามารถแต่งเติมต่อยอดไปตามแนวทางการพัฒนาของตนเองได้นั่นเอง ซึ่งก็สามารถดูได้จากภาพที่ไรดิ้งเราได้ไฟล์ของตัวแข่งรหัส FR450 Rally เวอร์ชั่นล่าสุด ที่จะลงสู้ศึก 2019 Dakar Rally ในครั้งนี้มาฝากให้ได้ชมกันแบบเต็มๆ คัน และรายละเอียดบางส่วน เท่าที่ทางแฟคทอรี่จะให้ไฟล์พีอาร์ออกมานั่นเอง ซึ่งพาร์ทคิด อย่าง Scott , Xtrig , Rekluss , Motomaster , สเตอร์ ,โซ่ , แบตเตอรี่ ล้วนเป็นชิ้นส่วนที่ Husqvarna พิจารณาเลือกพันธมิตรเข้ามาเอง ขณะที่ระบบกันสะเทือนอย่าง WP ระบบไอเสีย Akrapovic นั้นจะยังคงเป็นพันธมิตรร่วมเช่นเดียวกับบริษัทแม่อย่าง KTM ที่ตกลงทำสัญญากันไว้ก่อนแล้วนั่นเอง

“ฮอนด้า” ผนึกกำลัง “กรุงเทพมหานคร” จัดอบรมหลักสูตร “หนูน้อยปลอดภัยทางถนน” เสริมสร้างวินัยจราจรและปลูกจิตสำนึกความปลอดภัยแก่เยาวชนไทย

วันที่ 14 มกราคม 2562 นายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ร่วมเปิดการจัดอบรมหลักสูตร “หนูน้อยปลอดภัยทางถนน” (Road Safety for Kids) สร้างเสริมจิตสำนึกความปลอดภัยและวินัยจราจรแก่เด็กและเยาวชนไทย ภายใต้โครงการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง สำนักงานเขตบางกะปิ กับ ศูนย์ขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ณ โรงเรียนบ้านบางกะปิ เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร

นายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากข้อมูลการจัดเวทีสาธารณะ เรื่อง “ความปลอดภัยในการโดยสารรถจักรยานยนต์ : สิทธิลูกหลานไทยที่ต้องคุ้มครอง” ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ร่วมกับมูลนิธิเมาไม่ขับ รายงานว่า ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุดในโลก สำนักงานเขตบางกะปิจึงได้ดำเนินโครงการเสริมสร้างจิตสำนึกความปลอดภัยและวินัยจราจรแก่เด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างสำนักงานเขตบางกะปิ กับ ศูนย์ขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด จัดอบรมหลักสูตรหนูน้อยปลอดภัยทางถนน Road Safety for Kids ให้กับนักเรียนในสังกัดสำนักงานเขตบางกะปิ จำนวน 11 โรงเรียน มีนักเรียนเข้าร่วมโครงการั้งสิ้น 2,506 คนดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า เอ.พี. ฮอนด้า ตระหนักถึงปัญหาการเกิดอุบัติเหตุทางถนนของไทยที่มีมาโดยตลอด จึงได้เดินหน้ายกระดับมาตรฐานการทำกิจกรรมขับขี่ปลอดภัยเพื่อสังคมไทยอย่าง ภายใต้โครงการ “ฮอนด้า เมืองไทย ขับขี่ปลอดภัย” อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจัดอบรมหลักสูตรหนูน้อยปลอดภัยทางถน นับเป็นโครงการสำคัญที่จะช่วยปลูกฝังจิตสำนึกด้านความปลอดภัยบนท้องถนนให้แก่เยาวชนไทยตั้งแต่เด็ก โดยในภาคปฏิบัติ จะให้เด็กนักเรียนได้ขับขี่รถจักรยานในเส้นทางที่จำลองรูปแบบถนนหลวงทั่วไป พร้อมนำป้ายสัญญาณจราจรแบบต่างๆ มาประกอบให้เด็กนักเรียนได้ฝึกปฏิบัติ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง เสริมสร้างวินัยจราจรและจิตสำนึกความปลอดภัยที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยมีวิทยากรครูฝึกศูนย์ขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า เป็นผู้ถ่ายทอดให้ความรู้และดูแลอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีภาคเอกชนต่างๆ ที่ดำเนินธุรกิจในเขตบางกะปิ ร่วมให้การสนับสนุนโครงการด้วยการมอบหมวกกันน็อกให้แก่เด็กนักเรียนที่เดินทางมาโรงเรียนด้วยรถจักรยานยนต์จำนวนกว่า 400 ใบ และร่วมขบวนเดินรณรงค์สร้างจิตสำนึกความปลอดภัยและวินัยจราจรในครั้งนี้ด้วย

Honda Forza Carbon BY KD Project

บิ๊กสกู๊ตเตอร์ระดับพรีเมี่ยม FORZA300 กับความลงตัวของการตกแต่งโดยร้าน KD Project ระเบิดไอเดียพร้อมกับโชว์ของที่มีจำหน่ายในร้านเพื่อให้เข้ามาเลือกไปเสริมความหล่อ ความเท่ กันอย่างเต็มที่

สไตล์การแต่งระดับร้านชื่อดังแล้วต้องไม่ธรรมดา สีสันใหม่ สาดสีแดงที่ชิ้นงานหลักๆ ส่วนอื่นๆ ก็เสริมความคมเข้มด้วยชิ้นส่วนที่เป็นเคฟล่าร์แท้ เก็บรายละเอียดด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง เบาะนั่งแต่งทรงใหม่ ฟุตบอร์ดใช้แผ่นอลูมินัม CNC แต่งลายกันลื่น ครอบแฮนด์โดดแด่น ดิสก์เบรกซ้ายขวา เปลี่ยนปั๊มแรงดัน GALESPEED 16CX17 ก้านพับ กระปุกน้ำมัน rizoma การ์ดเบรกกันล้มแบบรถสปอร์ตระบบสั่งการหยุด จานดิสก์เบรกหน้าใหม่เป็นจานแต่งขนาด 300 มม. ขอบหยัก ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์ Brembo 4 พอร์ท เรเดียลเม้าท์ และสายถักสแตนเลส บูธแกนล้อหน้า Revolution วินชิลด์หน้าแต่งแผ่นแคฟล่าร์ใหญ่ คอนโซลกลางและการ์ดครอบเครื่อง Revolution กรองอากาศด้านข้างถูกหุ้มด้วยเคฟล่าร์

เครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่อัพเกรดความปี๊ดป๊าดด้วยท่อไอเสีย Termignoni ปลายหุ้มคาร์บอน โช้คหลังใช้ Ohlins มาแบบตรงรุ่นสามารถปรับระดับการทำงานได้เต็มระบบ มีซับแทงค์แบบบิ้วท์อิน

2019 Yamaha YZ125

ก่อนหน้านี้ไรดิ้งเคยลงตัว YZ85 ไปแล้วซึ่งเป็นหนึ่งในไลน์ผลิตรถสูตรเครื่องยนต์สองจังหวะที่ Yamaha ยังคงไลน์การผลิตไว้ ล่าสุด YZ125 ได้ถูกเปิดตัวเวอร์ชั่นออกมาซึ่งในอดีตรุ่นนี้ก็คือรถพิมพ์นิยมที่ใช้ในการแข่งขันก่อนจะถูกทดแทนด้วยรุ่น MX2 ที่เป็นเครื่องยนต์สี่จังหวะขนาดสองแรงครึ่งนั่นเอง

ปัจจุบันแม้ว่า YZ125 จะกลายเป็นรถแข่งสำหรับนักแข่งวัยรุ่นดาวรุ่งได้เทิร์นโปรสำหรับ Yamaha แต่ก็ยังคงพิษสงรอบตัวสำหรับผู้ขับขี่ทั่วไปที่จะได้สนุกกับฟิลลิ่งการขับขี่รถวิบาก ที่มีน้ำหนักเบา คล่องตัว และบำรุงรักษาง่าย โดย YZ1225 โมเดลล่าสุดนี้ ยังคง พื้นฐานเครื่องยนต์สองจังหวะ ขนาด 124 ซีซี crankcase-reed valve ที่ให้อัตราการเร่งที่เปี่ยมกำลังติดมือในทุกรอบการทำงานเครื่องยนต์ด้วยบล็อกเสื้อสูบอลูมินัมที่ภายในกระบอกสูบนั้นเป็นวัสดุเคลือบด้วยเซรามิคที่ช่วยลดแรงเสียดทาน อีกทั้งระบายความร้อนได้ดี มีส่วนช่วยให้ได้รับกำลังเครื่องยนต์ที่สม่ำเสมอ ไม่สูญเสียกำลังจากเรื่องของความร้อน ขณะ
ที่เครื่องยนต์ออกแบบให้มีแคร้งค์เคสที่กะทัดรัด compact crankcase เพื่อง่ายต่อการออกแบบเรื่องสมดุลละจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถ ที่มีส่วนยิ่งในประสิทธิภาพของการควบคุมการขับขี่ ขณะที่การออกแบบโฉมของ YZ125 โมเดลล่าสุดนี้ พัฒนาแบบ modern styling ให้ดูทันสมัยมีรูปแบบที่ดุดัน คล่องแคล่ว รวมทั้งส่วนของ ชุดบังโคลน ป้ายเบอร์ ครอบหม้อน้ำ แอร์บ็อกซ์ และการ์ดต่าง ถูกปรับแบบให้ดูทันสมัยโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับโครงสร้างแชสซีส์ที่ปรับใหม่มาให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์ที่มีขนาดกะทัดรัด ด้วยเฟรมอลูมินัมที่ยังคงเป็นแบบ semi double cradle frame ที่มีน้ำหนักเบา เช่นเดียวกับส่วนของซัพเฟรมที่เป็นอลูมิเนียมน้ำหนักเบา

อีกทั้งออกแบบให้สะดวกต่อการเซอร์วิสส่วนของกันสะเทือนหลัง ซึ่งทาง Yamaha ระบุว่าโครงสร้างแชสซีส์ของรถรุ่นนี้ได้รับการออกแบบพัฒนาให้เป็น Rider Friendly Chassis ที่ให้การขับขี่ที่นุ่มนวลควบคุมง่าย ด้วยน้ำหนักที่เบาเป็นพิเศษ Ultra light weight กล่าวได้ว่า YZ125 นี้ ได้รับการออกแบบมาให้พร้อมแข่งได้อย่างเต็มที่ทันทีที่ลงสู่สนาม ด้วยนิยามของการออกแบบ Race-Ready

อมูลตัวรถมีสเปคพื้นฐานดังนี้

Engine : 125cc liquid-cooled 2-stroke; reed-valve inducted
Bore x Stroke : 54.0mm x 54.5mm
Compression Ratio : 8.6~10.7:1
Fuel Delivery : Mikuni TMX 38
Ignition : CDI
Transmission : Constant-mesh 6-speed; multiplate wet clutch
Final Drive : Chain
Suspension / Front : KYB Speed-Sensitive System inverted fork; fully adjustable, 11.8-in travel
Suspension / Rear : KYB single shock; fully adjustable, 12.4-in travel
Brakes / Front : Hydraulic disc, 270mm
Brakes / Rear : Hydraulic disc, 245mm
Tires / Front : 80/100-21 Dunlop MX52
Tires / Rear : 100/90-19 Dunlop MX52
L x W x H : 84.1 in x 32.6 in x 51.0 in
Seat Height : 38.4 in
Wheelbase : 56.8 in
Rake (Caster Angle) : 26.0°
Trail : 4.3 in
Ground Clearance : 14.4 in
Fuel Capacity : 8L
Wet Weight : 94kg

Honda concept CB125X – CB125M

ทีมงานวิจัย และพัฒนาของฮอนด้าอิตาลี ได้นำมาแสดงในระหว่างงาน 2018 EICMA ที่เมืองมิลาน จากข้อมูลทางการตลาดในยุโรป พบว่าตลาดรถขนาด 125 ซีซี ในยุโรปโตขึ้นเกือบ 25%

ดังนั้น ทาง R&D ของ Honda ใน Rome ประเทศอิตาลี จึงได้ออกแบบรถจากพื้นฐานของ 2018 CB125R ออกมาเป็นสองเวอร์ชั่น คือ CB125X กับ CB125M เพื่อนำมาแสดงในงาน 2018 EICMA เป็นการเก็บข้อมูลด้วยการจะผลิตรถต้นแบบหรือโปร โตไทพ์ออกมาโชว์ก่อนที่จะตัดสินใจใช้แนวทางหรือรูปแบบนี้ไปต่อยอดพัฒนารถรุ่นถัดไป และพื้นฐานเดิมของ CB125R นั้น ได้รับการติดตั้งพาร์ทต่างๆ เพิ่มเติมจนเป็นรถในสไตล์ที่ต้องการ โดยรถทั้งสองคันที่ Honda R&D ใน Rome จัดมานี้ มาในเวอร์ชั่น CB125M นั้นก็จะเน้นไปทาง naked-street โดยเติมกลิ่นอายของความเป็น Super-motard ผสมผสานกันเข้าไป

ส่วน เวอร์ชั่น CB125X ที่มากับโทนสีขาวล้วนนั้นชัดเจนว่าทิศทางในการออกแบบของ โมเดล X หรือเวอร์ชั่น X นี้ก็คือ ความเป็น adventure ที่มาพร้อมกับชุดไฟหน้าแบบสามดวงที่เป็นเอกลักษณ์นั่นเอง นอกจากรูปโฉมที่แปลกตาไปแล้ว ในส่วนของเสปคพื้นฐานนั้น ยังคงความเป็น CB125R เช่นเดิมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเรามีภาพของ CB125X และ CB125M มาฝากกัน

Kawasaki Z400 Test Ride

คาวาซากิเปิดโอกาสให้ผู้สนใจร่วมทดสอบ
พร้อมสัมผัสซูเปอร์เน็คเก็ตน้ำหนักเบา ทรงพลัง ภายในงาน Kawasaki Z400 Test Ride

บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมทดสอบขับขี่ Kawasaki Z Test Ride เพื่อตอบรับกระแสความแรงของรถจักรยานยนต์คาวาซากิรุ่นใหม่ Kawasaki Z400 ณ สนามมอเตอร์สปอร์ต ปาร์ค สุวรรณภูมิ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม 2562 ที่ผ่านมาการทดสอบได้เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 08.30 น. โดยเปิดรับผู้ลงทะเบียนและเริ่มการบรรยายแนะนำการขับขี่จากครูฝึก KGRS (Kawasaki Good Riders School) ซึ่งมีผู้สนใจมารอเข้าคิวลงทะเบียนเพื่อเป็นผู้ทดสอบกลุ่มแรกของเมืองไทย อีกทั้งยังรวมไปถึงสื่อมวลชนสายรถจักรยานยนต์ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมทดสอบ Kawasaki Z400 ด้วยเช่นกัน ในระหว่างวันผู้เข้าร่วมกิจกรรมนอกจากได้ร่วมสนุกจากเกมส์ที่ทาง คาวาซากิจัดให้แล้ว ยังได้รับชมการโชว์สมรรถนะของรถจักรยานยนต์คาวาซากิ Versys1000 SE จากครูฝึกมาตรฐาน KGRS (Kawasaki Good Riders School) ที่แสดงให้เห็นถึงความทรงพลังของเครื่องยนต์สี่สูญเรียงที่ตอบรับได้ฉับไวและคล่องตัวสูงพร้อมระบบกันสะเทือนประสิทธิภาพเยี่ยม สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับผู้ร่วมงานได้เป็นอย่างมาก อีกทั้งทางคาวาซากิได้ขนกองทัพรถจักรยานยนต์รุ่นต่างๆ อาทิ Ninja ZX-6R, Versys-X 300, KLX 250, KLX 150 มาให้ผู้ที่สนใจร่วมทดสอบภายในงานได้อีกด้วยนับได้ว่าในขณะนี้กระแสรถซูเปอร์เน็คเก็ตน้ำหนักเบา และทรงพลังคงหนีไม่พ้น Kawasaki Z400 อย่างแน่นอน ทางคาวาซากิขอขอบคุณผู้ทดสอบขับขี่และท่านสื่อมวลชนทุกท่านมา ณ โอกาสนี้

ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดโปรโมชั่นอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ตัวแทนจำหน่ายคาวาซากิบิ๊กไบค์ใกล้บ้าน หรือ รับชมข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ www.kawasaki.co.th หรือ Facebook : Kawasaki Motor Thailand

New Honda PCX 150

สีสันใหม่ ภายใต้แนวคิด New Energetic Pride สำหรับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่ชอบความพรีเมี่ยมอารมณ์สปอร์ต ทันสมัย ราคาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 83,300 บาท

All New Honda WAVE110i

All new WAVE110i รถครอบครัวยอดนิยม
อาจจะไม่ถูกใจสาวกปีกอินทรีหลายๆ คน ที่คาดว่าจะเป็นสไตล์สปอร์ต แต่เซ็กเม้นท์คืออีกหนึ่งความภาคภูมิใจกับยอดขายถล่มทลายตลอดกาล โฉมใหม่ ที่มีกาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดีไซน์สวยทันสมัย ประหยัดน้ำมัน ทนทาน เป็นที่รู้กันดีของคนไทย ยาวนานถึง 21 ปี ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในนิตยสารไรริ้งฉบับ 280 มกราคม นะคะ

Bangkok Motorbike Festival 2019 ประกาศความพร้อมเตรียมจัดงานระหว่างวันที่ 13-17 กุมภาพันธ์ 2562

ค่ายมอเตอร์ไซค์ชั้นนำกว่า 10 แบรนด์ขานรับ ร้านผู้จำหน่ายอะไหล่, อุปกรณ์ตกแต่ง, เครื่องแต่งกาย และบริการต่างๆ แห่ร่วมสร้างสีสัน จัดเต็มกิจกรรมหลากหลายเพื่อตอบโจทย์คนรักมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะ ทั้ง Workshop อบรมเทคนิคการขับขี่กับ “ติ๊งโน๊ต-ฐิติพงศ์ วโรกร”, ประกวดแต่งรถ Bangkok Custom Bike Competition และพิเศษสุดๆ พบกูรู Custom bike ชื่อดังชาวญี่ปุ่น ที่จะมาเผยประสบการณ์การแต่งรถแบบล้ำๆ ณ บริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ (ราชประสงค์) ชมฟรี!! ตลอดงาน

Forza 300 Design By KD Project

ทยอยกันมาโชว์ความสวยงาม เป็นอีกหนึ่งคันที่นำมาเสนอ สำหรับคันนี้เป็นรถของผู้ใช้งานจริง จัดชุดออพชั่นมาเสริมความหล่อจาก ร้าน KD Project โดยบอกสิ่งที่ต้องการ และก็ไม่ผิดหวัง ทางร้านจัดเต็มให้เลยกับออพชั่นระดับท็อปๆ เพียบ

เพิ่มความแตกต่างที่สะดุดตากับ การใช้สีรถใหม่เป็นสีเทาเหลือบม่วง เมื่อโดนแดดจัดๆ สีสวยมาก ซึ่งเป็นสีผสมพิเศษจากช่างที่มีประสบการณ์ เท่านั้นยังไม่พอจัดการสีล้อเสียใหม่เป็นสีชานมไทยแบบเข้มๆ บังโคลนหน้าคาร์บอนเคฟล่าร์ จานดิสก์เบรกหน้า Arashi ขนาด 300 มม. พร้อมคาลิเปอร์จัดเต็มจาก Brembo 4 พอร์ท เรเดียลเม้าท์ สายถักสแตนเลสหัวไล่น้ำมัน 45 องศา บูธแกนล้อหน้า Revolution ชิลด์หน้าแต่ง ฝาครอบสวิตซ์กุญแจ Revolution ก้านเบรกและกระปุกน้ำมัน ซ้าย-ขวา Brembo เฟรมครอบแฮนด์เคฟล่าร์ เสริมตัวจับโทรศัพท์งาน CNC มั่นคงแข็งแรง คิ้วบังลมหน้าคาร์บอน เฟรมชุดฝาปิดน้ำมันทำสีดำให้ตัดกับสีรถ เบาะแต่งทรง VIP Sport เย็นแล่นสีสันด้วยด้าย ฟ้า-แดง

เสริมความมั่นใจรับแรงกระแทกด้วยโช้คอัพหลัง Bazooka ดิสก์เบรกหลังเดี่ยว คาลิเปอร์ Brembo 2 สูบ ทรงด้วง พร้อมสร้างขาจับใหม่ ครอบกรองอากาศเคฟล่าร์ พักเท้าหลังและการ์ดครอบเครื่อง Revolution เท่านี้ก็หล่อเฟี้ยวแล้วคร้าบ

2019 KTM 250SX-F

ได้กลายมาเป็นหนึ่งในรถพิกัด 250F ที่ประสบความสำเร็จในระดับโลกมากที่สุด ด้วยนวัตกรรมที่ถูกนำมาใช้อย่างมากมาย จึงทำให้ KTM 250SX-F ไม่เพียงแค่เป็นรถที่เบาที่สุดแต่ยังยากที่คู่แข่งจะเอาชนะได้อีกด้วย เนื่องจากความลงตัวด้านเพอร์ฟอร์ม้านซ์ของเครื่องยนต์จึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยนักแข่งในระดับโปรสามารถกดเวลาต่อรอบได้เร็วที่สุดอยู่เสมอ

โดยเฉพาะในการแข่งขันเก็บคะแนนสะสมชิงแชมป์โลกอย่าง MX2 World Championship นั้นในช่วงสิบปีหลังสุดนี้ KTM 250SX-F สามารถคว้าตำแหน่งสูงสุดไปได้ถึงเก้าสมัย เพื่อรักษาความยอดเยี่ยมในด้านเพอร์ฟอร์ม้านซ์ จึงได้มีการเริ่มทำการปรับเติมเสริมสมรรถนะในส่วนของแชสซีส์ให้กับ 250SX-F ในแบบ re-worked ด้วยการเสริมความแข็งแกร่งให้กับเฟรมเพิ่มเติมประสิทธิภาพในการควบคุมและความนิ่งในการขับขี่ โดยเฉพาะสมรรถนะในช่วงทางตรง มีการปรับความยาวเพิ่มให้กับส่วนของซับเฟรม เปลี่ยนชิ้นส่วนแกนล้อหลังใหม่ รวมทั้งทำการปรับ bodywork ใหม่แบบ all new โดยเฉพาะการออกแบบรูปทรงมิติ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวกสบายคล่องตัวยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนหม้อน้ำใหม่ที่นอกจากเสริมประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้ดียิ่งขึ้นแล้วยังทำการออกแบบเพื่อคำนึงถึงเรื่องของ mass centralization หรือศูนย์รวมน้ำหนักของตัวรถให้มีสมดุลยิ่งขึ้นอีกด้วย เช่นเดียวกับในส่วนของเครื่องยนต์ ที่ 250SX-F และ 350SX-F ที่ใช้พื้นฐานเดียวกันนั้น


ได้มีการออกแบบในส่วนของระคลัทช์ใหม่ พร้อมกันนั้นก็ได้ปรับระบบส่งกำลัง ให้มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้นด้วยการปรับ Keihin engine management system ให้สามารถประสานการทำงานร่วมกับการเซ็ทติ้งในส่วนของชุดเรือนลิ้นเร่ง หรือ Throttle body อีกทั้งยังได้พัฒนาในส่วนของระบบอิเล็คทรอนิกส์เพิ่มเติมจากเดิม แม้จะยังไม่ใช่การปรับเปลี่ยนทั้งหมดแบบ All New แต่ก็ถือได้ว่า KTM ได้จัดการพัฒนาพอสมควรกับ 250SX-F เพื่อจะรักษาเพอร์ฟอร์ม้านซ์อันยอดเยี่ยมไว้ให้ได้หากลิสต์คร่าวๆก็จะพอไล่ลิสต์ได้อาทิ New reworked frames , New Bodywork , New shaped seat , New air box+intake snorkels ,New fuel tank ,New header pipe , New Lithium-Ion battery รวมทั้งองค์ประกอบอื่นๆ ที่ต่างก็ได้รับการเสริมเติมแต่งเพิ่มขึ้นจากโมเดลก่อนนี้

รายละเอียดสเปคพื้นฐานของ 250SX-F มีดังนี้

Engine Type : Single Cylinder, 4-Stroke
Displacement : 249.9 cc
Bore / Stroke : 78.0 / 52.3 mm
Compression Ratio : 14.4:1
Starter/Battery : Electric Starter /
12.8V, 2.2 Ah
Transmission : 5 Gears
Fuel System : Keihin EFI, 44 mm Throttle Body
Lubrication : Pressure lubrication with
2 oil pumps
Primary Ratio : 24:73
Final Drive : 14:51
Cooling : Liquid Cooling
Clutch : Wet Multi-Disc DS-Clutch,
Brembo Hydraulics
Ignition : Keihin EMS
Frame : Central Double-Cradle-
Type 25CrMo4 Steel
Sub Frame : Aluminum
Handle bar : Neken, Aluminum Ø 28/22 mm
Front Suspension : WP Suspension AER 48
USD Ø 48 mm
Rear Suspension : WP Monoshock 5018 BAVP
DCC with Linkage
Suspension Travel Front/Rear : 310 mm ;
300 mm
Front/Rear Brakes : Disc Brake 260 mm ;
220 mm
Front/Rear Rims : 1.60x 21” / 2.15 x 19” Excel
Front/Rear Tires : 80/100-21” /
100110/90-19” Dunlop MX3S
Chain : 5/8 x 1/4 in
Silencer : Aluminum
Steering Head Angle : 26.1º
Triple Clamp Offset : 22 mm
Wheelbase : 1,485 mm ± 10 mm
Ground Clearance : 370 mm
Seat Height : 950 mm