“ยามาฮ่า” หนุนโครงการ “ก้าวคนละก้าว” จัดทัพรถจักรยานยนต์ออโตเมติก รับบทออฟฟิเชียลไบค์

นายพิษณุศักดิ์ ทรงสัตย์ ผู้จัดการอาวุโส แผนกกิจกรรมภาพลักษณ์​ตราสินค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด​ ส่งมอบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าออโตเมติก ให้กับ นายอาทิวราห์ คงมาลัย (ตูน บอดี้สแลม) และผู้บริหารทีมก้าวคนละก้าว เพื่อใช้เป็นรถออฟฟิเชียลเซอร์วิส อำนวยความสะดวกในโครงการ “ก้าวคนละก้าว” ใน 5 ภูมิภาคทั่วไทย

สำหรับโครงการ “ก้าวคนละก้าว” ในครั้งนี้จะเป็นการวิ่งระยะสั้น เพื่อสร้างความตระหนักรู้และเชิญชวนพี่น้องชาวไทยมาร่วมออกกำลังกายซึ่งเป็นพื้นฐานของการมีสุขภาพที่ดี
ทั้งยังสามารถร่วมบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลสำหรับชุมชนที่มีความใกล้ชิดกับประชาชน ให้มีศักยภาพในการรักษาผู้ป่วย

โดยโครงการก้าวคนละก้าว จะออกสตาร์ทที่ ภาคอีสานในวันที่ 14-16 มิถุนายน ต่อด้วยภาคใต้ในวันที่ 4-6 ตุลาคม หลังจากนั้นเป็นคิวของภาคเหนือ ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 ธันวาคม ส่วนภาคตะวันออกและภาคกลาง จะมีขึ้นในปีหน้าช่วงเดือนมีนาคมและพฤษภาคม ตามลำดับ

โดยการส่งมอบกองทัพรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าออโตเมติกเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งและร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมดังกล่าวมีขึ้น ณ ศาลากลาง จ.ขอนแก่น เมื่อเร็วๆ นี้

สามารถติดตามความเคลื่อนไหวโครงการ “ก้าวคนละก้าว” ได้ที่ www.yamaha-motor.co.th
Facebook : Yamaha Society Thailand

เพราะเราเชื่อในพลังเล็กๆ

Fino 125 CC 2019

ยามาฮ่า ฟีโน่125 ใหม่…สีสันสุดคลาสสิก ต้นฉบับออโตเมติกแฟชั่นเมืองไทย ขับขี่สบายด้วยเครื่องยนต์ BLUE CORE ระบบหัวฉีด กำลังแรง 125 ซีซี พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ Stop & Start System* ช่วยให้ประหยัดยิ่งขึ้น และเติมน้ำมันได้หลายประเภทจนถึง E85** *เฉพาะในยามาฮ่า ฟีโน่125 รุ่น PREMIUM(BS93) เท่านั้น **เฉพาะในยามาฮ่า ฟีโน่125 รุ่น STANDARD(BB99) เท่านั้น

เครื่องยนต์
 แบบระบบจ่ายน้ำมันหัวฉีด  4 จังหวะ/ 1 สูบ
 ปริมาตรกระบอกสูบ 125 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด  9.5 : 1
 กระบอกสูบ x ระยะ
ชัก
52.4 x 57.9 มม.
 ระบบหล่อลื่น แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน หัวฉีด
 ระบบจุดระเบิด จุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์
 ระบบคลัทช์ คลัทช์แห้ง
 ระบบเกียร์ ออโต้
ระบบสตาร์ท สตาร์ทมือ/สตาร์ทเท้า
น้ำมันเชื้อเพลิง E20,91,95
ความจุน้ำมันเชื้อ
เพลิง
 4.2 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง 0.8 ลิตร
กว้าง*ยาว*สูง 740 * 1870 * 1066 มิลลิเมตร
น้ำหนักรวม98 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือน หน้า : โช้คหน้าแบบเทเลสโคปิค หลัง : โช้คอัพคู่พร้อมสวิงอาร์ม

ยามาฮ่า ฟีโน่125 ใหม่… The ORIGINAL” เติมสีสันใหม่…ให้กับความออริจินัล

ยามาฮ่าผู้นำรถจักรยานยนต์ออโตเมติกตัวจริง ส่งรถออโตเมติกระดับพรีเมี่ยมที่ครองใจคนไทย ทั้งประเทศอย่าง “ยามาฮ่า ฟีโน่125 ใหม่… The ORIGINAL” เติมสีสันใหม่…ให้กับความออริจินัล สีสันสุดคลาสสิก ต้นฉบับออโตเมติกของเมืองไทย มาพร้อมเทคโนโลยีความประหยัดที่เหนือชั้นกับเครื่องยนต์บลูคอร์ ขับขี่สบายคล่องตัวด้วยระบบหัวฉีด กำลังแรง 125 ซีซี พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ Stop & Start System* ช่วยให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น และเติมน้ำมันได้หลากหลายประเภทจนถึง E85**

“ยามาฮ่า ฟีโน่125 ใหม่… The ORIGINAL” ยนตรกรรมสุดคลาสสิก ที่ถูกแต่งเติมสีสัน ด้วยเทคโนโลยีความแรง และความประหยัด ขับขี่สนุก เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ระบายความร้อนได้ดีกว่า ลดการสูญเสียกำลัง ทำให้ประหยัดน้ำมัน และช่วยลดมลพิษ

“ยามาฮ่า ฟีโน่125 ใหม่… The ORIGINAL” ออโตเมติกแฟชั่นกับการออกแบบ และดีไซน์ ที่สวยงามครั้งใหม่ สีสันสวยบาดใจ โฉบเฉี่ยวทุกการเคลื่อนไหว ไฟหน้า FULL LED สไตล์โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟหรี่แบบ Diamond Cut Len ส่องสว่างชัดเจนทั้งกลางวัน และกลางคืน เรือนไมล์ DUO METER ดีไซน์แยกส่วนมองเห็นชัดทุกรายละเอียด พร้อมไฟหรี่แสดงการขับเคลื่อนแบบประหยัด

“ยามาฮ่า ฟีโน่125 ใหม่… The ORIGINAL” เหนือชั้นไปอีกขั้นกับความลงตัวด้วยระบบ ANSWER BACK SYSTEM กุญแจรีโมทอัจฉริยะเปิดช่องกุญแจอัตโนมัติพร้อมไฟเรืองแสง และส่งสัญญาณบอกตำแหน่งรถ MEGA BOX ที่เก็บของขนาดใหญ่จุใจถึง 8.2 ลิตร และล้อแม็กขนาด 14”* เทรนด์สปอร์ตสุดฮิต เฉพาะในยามาฮ่า ฟีโน่125 ใหม่ รุ่น Premium

“ยามาฮ่า ฟีโน่125 ใหม่… The ORIGINAL” มาพร้อมกับเทคโนโลยีอัจฉริยะใหม่ ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันด้วยระบบ Stop & Start System (เฉพาะในยามาฮ่า ฟีโน่125 ใหม่ รุ่น Premium เท่านั้น) อีกทั้งยังมีระบบ FLEX FUEL เติมน้ำมันได้หลากหลายประเภทตั้งแต่น้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ทุกประเภท ไปจนถึง E85 (เฉพาะในยามาฮ่า ฟีโน่125 ใหม่ รุ่น Standard เท่านั้น)

“ยามาฮ่า ฟีโน่125 ใหม่… The ORIGINAL” มีให้เลือก 2 รุ่น 4 สีสันใหม่ดังนี้ 
– รุ่น PREMIUM สีขาว ราคาแนะนำ 51,900 บาท
– รุ่น STANDARD สีเขียว-ขาว, สีแดง-ขาว และสีดำ-ขาว ราคาแนะนำ 46,400 บาท

พบกับ “ยามาฮ่า ฟีโน่125 ใหม่… The ORIGINAL” ได้แล้วที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่าทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha Call Center โทร. 02-263-9999 พร้อมติดตามข้อมูลข่าวสารออนไลน์ได้ที่ www.yamaha-motor.co.th และร่วมอัพเดทความเคลื่อนไหวของยามาฮ่าผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่

Facebook : www.facebook.com/yamahasocietythailand
Instagram : @yamahasocietythailand 
Youtube : Yamaha society thailand

Kawasaki Versys 1000 SE

ที่จริงในยุโรปนั้นได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วตั้งแต่ต้นปีสำหรับไลน์ผลิต 2019 Kawasaki Versys ทั้ง 650 และ 1000 ที่มีหลากหลายเวอร์ชั่น

ล่าสุดที่ประเทศสเปน เพิ่งจะจัดใหญ่เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับ 2019 Versys 1000 โดยเฉพาะ เวอร์ชั่น SE ที่มาพร้อมกับองค์ประกอบใหม่ๆที่ได้รับการเสริมเข้าไป อาทิ Kawasaki Electronic Control Suspension หรือ KECS เป็นระบบที่พัฒนามาจากพื้นฐานการปรับระบบกันสะเทือนไฟฟ้าแบบ semi-active system ของ 2018 ZX10R-SE ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับค่าของระบบกันสะเทือนที่เหมาะสมกับการบรรทุกเช่น ขับขี่คนเดียว ขับขี่พร้อมสัมภาระ ขับขี่พร้อมสัมภาระและมีผู้โดยสาร Smooth Engine with Electronic Throttle Valves เครื่องยนต์มีความนุ่มนวลด้วยการควบคุมจังหวะเรือนลิ้นเร่งด้วยระบบไฟฟ้า ที่มาคู่กับ KQS หรือ ควิกชิพท์ซึ่งได้รับการติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานให้กับรถในเวอร์ชั่น SE นี้ TFT Color Instrumentation ชุดแผงเรือนไลม์เป็นจอสีแบบ TFT ที่ได้ทำการลิ้งค์กับค่าโหมดต่างๆ โดยเฉพาะ Integrated Riding Modes ที่ผู้ขับขี่สามารถปรับเซ็ทโหมดการขับขี่ได้ตามความเหมาะสม และในขณะเดียวกันก็สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ด้วย Smartphone Connectivity via Rideology the APP โดยมีการติดตั้งบลูทูธมากับเรือนไมล์ TFT ของรถซึ่งการสั่งงานบางอย่างสามารถจัดการผ่านแอพลิเคชั่น Rideology The APP ขณะที่ชิ้นส่วนบอดี้พาร์ทนั้นก็เป็น Bodywork with LED Headlights
และ Cornering Lights นี่ก็เป็นความพิเศษบางส่วนที่ทาง Kawasaki ติดตั้งมาใน Versys 1000 SE โมเดลล่าสุด โดยพื้นฐานเครื่องยนต์นั้นยังคงเป็นเครื่องยนต์สี่จังหวะแบบสี่สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1,043 ซีซี ที่มีมิติของกระบอกสูบxช่วงชัก อยู่ที่ 77×56 มม. มีอัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 10.3:1 มีกำลังเครื่องยนต์ 120 แรงม้าที่ 9000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดขนาด 102 นิวตันเมตร ที่ 7500 รอบต่อนาที ขณะที่โครงสร้างแชสซีส์มาด้วยเฟรมอลูมินัมแบบ twin tube พร้อมกันสะเทือนหน้าเป็นฟอร์คแบบหัวกลับ inverted fork ขนาด 43 มม. ที่กล่าวไปแล้วว่ามาพร้อมกับ KECS ที่ควบคุม rebound และ compression damping และสามารถปรับค่าสปริงแบบแมนนวลได้ในส่วนของ spring preload และ top-out springs ขณะที่กันสะเทือนหลังนั้นมาเป็น BFRC lite shoc ซึ่ง KECS สามารถใช้ควบคุมการปรับ compression damping , rebound damping ซึ่งตัวรถนี้มีระยะยุบตัวที่ 150 มม. สำหรับล้อหน้าและ 150 มม. สำหรับล้อหลัง โดยที่ใช้ยางหน้าขนาด 120/70ZR17M/C กับยางหลังขนาด 180/55ZR17M/C โดยที่ระบบเบรกนั้นจะเป็นจานดิสก์คู่ Dual semi-floating ขนาด 310 มม. พร้อมคาลิเปอร์สี่สูบ monoblocแบบ Dual radial mount สำหรับชุดเบรกหน้าส่วนเบรกหลังนั้นเป็นจานดิสก์เดี่ยวขนาด 250 มม. คาลิเปอร์ลูกสูบเดียวโดยได้ติดตั้ง ABS หรือ Anti lock Brake System มาให้อีกด้วยและความจุถังเชื้อเพลิงขนาด 21 ลิตร ทำให้ตัวรถมีน้ำหนักอยู่ที่ 257 กก.
สำหรับ Versys1000SE ตัวนี้ต้องบอกว่าเป็นตัวท๊อปของไลน์การผลิตก็ว่าได้ นอกจากไฮไลท์ที่กล่าวถึงไปแล้วนั้น เราจะมาดูเทคโนโลยีอื่นๆเพิ่มเติมที่มีติดตั้งมาใน Versys 1000 กันว่า Kawasaki ให้อะไรมากันบ้างกับไลน์ผลิตรถแอดเวนเจอร์ในซีรี่ส์ Versys 1000 นี้ KQS-Kawasaki Quick Shifter แน่นอนว่าเป็นควิกชิพท์ตามที่กล่าวไปแล้ว แต่สำหรับตัวที่ติดตั้งมานี้ของ Kawasaki จัดให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ทั้ง up&down โดยไม่ต้องใช้คลัทช์ Assist&Slipper Clutch เป็นพื้นฐานจากเทคโนโลยีรถแข่ง ที่ช่วยลดแรงในการบีบมือคลัทช์ให้เบาแรง KTRC หรือ Kawasaki Traction Control ถือว่าที่นำมาติดตั้งนี้เป็นเทคโนโลยีในส่วนของระบบ traction control ที่ทันสมัยสุดของ Kawasaki โดยจะมีการติดตั้งมาให้ สามโหมดการขับขี่ เช่นเดียวกับ Power Modes หรือโหมดควบคุมกำลังเครื่องยนต์ที่สามารถเลือกปรับใช้ค่าการส่งกำลังเครื่องยนต์ออกมาใช้ได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ขับขี่ที่หลากหลาย Electronic Cruise Control เป็นเทคโนโลยีช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่ทางไกลเพื่อมีส่วนลดความตึงเครียดระหว่างเดินทางไกล ซึ่งระบบจะช่วยล็อคความเร็วระหว่างขับขี่ทางไกลให้กับผู้ขับขี่นั่นเอง

ก็ถือได้ว่านี่คือรถในระดับ Super Adventure ในระดับท๊อปจาก Kawasaki ที่บรรจุเทคโนโลยี่ชั้นนำมาเพื่อช่วยตอบสนองการขับขี่และให้ความสบายตลอดการเดินทาง เพื่อให้ผู้ขับขี่รู้สึกสนุกสนานสะดวกสบายในทุกๆสภาพเส้นทางขับขี่ กับเจ้า inlinefour คันนี้ ซึ่งฉบับนี้ไรดิ้งเราก็ได้ไฟล์ภาพจากสเปนมาฝากกัน

FORZA300 Adventure Style#3

มาถึงสเต็ปที่สามของการคัสตอม FORZA300 Adventure Style ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก XADV รถจักรยานยนต์ออโตเมติกแอดเวนเจอร์ในค่ายเดียวกัน ซึ่งจากรูปทรงและสรีระที่ละม่ายคล้ายคลึงกัน ถึงแม้ FORZA300 จะดูหรูหราไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้ในทางออฟโรด แต่ก็พอที่จะใช้ไอเดียดีไซน์ออกมาได้

พูดถึงตัวรถกันก่อน FORZA300 รถจักรยานยนต์ออโตเมติก เครื่องยนต์ความจุ 300 ซีซี สูบเดี่ยว 4 จังหวะ ที่ออกมาเพื่อตอบโจทย์การขับขี่ใช้งานที่สะดวกสบาย รูปทรงดูหรูหรา และมีฟิคเจอร์ทันสมัยรองรับ เรื่องของสมรรถนะที่มีความนุ่มนวลด้วยระบบการขับเคลื่อนแบบสายพาน ให้อัตราเร่งที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว และเน้นเรื่องความประหยัดด้วยระบบหัวฉีด PGM-FI ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่หนึ่ง และตอน ที่สอง กับตัวรถเดิมๆ ที่เพิ่มเติมอุปกรณ์อะไหล่แต่งต่างๆ จากผู้สนับสนุน GTR และ Gazi ก็พอที่จะสร้างกระแสให้น่าติดตาม
ได้ไม่น้อยสำหรับชาวสองล้อออโตเมติก เริ่มเห็นความแตกต่างในจุดที่ดีไซน์และออกแบบดัดแปลงใหม่ ชุดแฮนด์เดิ้ลบาร์ที่ใช้แผงคอตัวบนของ PCX150 เชื่อมตัดดัดแปลงประกบเข้ากับแฮนด์ Fatbar ทรงต่ำ ซับเพนชั่นหลังโช้คอัพหลังระบบคอยล์สปริงน้ำมัน ปรับพรีโหลดและรีบาวด์ได้ และเพิ่มเติมของแต่งเล็กๆ น้อยๆ แผ่นรองฟุตบอร์ดกันลื่น การ์ดคาลิเปอร์ ก้านเบรกแบบขาพับ พักเท้าคนซ้อน เพิ่มความโดดเด่น และเป็นอีกหนึ่งแนวทางให้กับผู้ที่ชื่นชอบในการแต่งรถจะได้มีแรงบันดาลใจกล้าที่จะออกมาแต่งรถของตัวเองบ้าง
ส่วนการปรับแต่งในสเต็ปที่สาม ครั้งนี้ อัพเลเวลขึ้นอีกขั้น และก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาซะด้วย ต้องใช้ความคิดวิเคราะห์อย่างถ้วนถี่ในเรื่องของการดัดแปลงช่วงล่างที่ต้องคำนึงถึงความแข็งแรง และความปลอดภัยในการใช้งานได้จริง จากวงล้อแม็กสแตนดาร์ดติดรถจับขึ้นแท่นเครื่องกลึงตัดเอาก้านแยกออกเหลือไว้เพียงดุมและขอบวงล้อ เก็บเนื้องานพื้นผิวให้เรียบ จากนั้นก็เข้าสู่ขบวนการคำนวณจุดยึดซี่ลวด ที่ต้องมีความแม่นยำ และต้องหลบจุดยึดจานดิสก์เพื่อขึงซี่ลวดจากดุมไปยังขอบวงล้อที่ไม่ได้อยู่ตรงกลางของหน้ากระทะ
และวงล้อหลังดุมล้อเยื้องศูนย์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะร้อยซี่ลวดให้สมบูรณ์ต้องคำนวณให้ตรงทั้งหมด 36 ซี่ มาตรฐานทั่วไป ส่วนยางที่รัดขอบก็ใช้ดอกยางแบบกึ่งออฟโรด แต่ด้วยขนาดที่หาได้ยากและราคาค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นไอเดียของคนไทยก็ใช้ยางเดิมๆ ติดรถ และใช้ช่างผู้ชำนาญงานเรื่องของการแกะดอกยาง ออกแบบลายดอกยางใหม่ให้เหมาะสำหรับการขับขี่ทั้งออนโรด และออฟโรด เครื่องยนต์ออโตเมติกที่ให้ความสะดวกสบาย ขับขี่ง่าย เพิ่มความเร้าใจด้วยเสียงเครื่องยนต์ความทุ้มนุ่มลึก เพียงเปลี่ยนปลายท่อสลิปออนสแตนเลสคอยล์สปริง ไม่ต้องไปอัพเกรดแรงม้าเพื่อรักษาสมรรถนะของเครื่องยนต์ให้ใช้งานได้นาน แต่งหล่อและเสียงเพราะก็พอแล้ว

ยังเหลืออีกหนึ่งสเต็ปในการคัสตอม เป็นการเก็บรายละเอียดชิ้นงานอลูมินัม และการเปลี่ยนโช้คอัพหน้า รวมไปถึงลวดลายสีสันที่จะต้องแรพทั้งคัน เพราะฉะนั้นติดตามกันในฉบับหน้าว่า FORZA300 Custom Adventure Style จะออกมาหน้าตาสวยขนาดไหน

2019 NEW YZF-R3


321ซีซี 42 แรงม้า… แรงทิ้งขาด
เครื่องยนต์หัวฉีด 321 ซีซี สูบคู่ 4 จังหวะ DOHC 4 วาล์ว เกียร์สปอร์ต 6 สปีด 42 แรงม้า เหนือชั้นด้วยเทคโนโลยี ที่วิเคราะห์การเผาไหม้อย่างแม่นยำ พร้อมกระบอกสูบไดอะซิลที่ได้รับการติดตั้งเป็นครั้งแรกในเครื่องยนต์ 2 สูบ

ระบบเบรก ABS (ANTI-LOCK BRAKE SYSTEM)
ขับขี่ได้สนุกเต็มอารมณ์สปอร์ตสไตลิ่ง ด้วยระบบเบรก ABS ช่วยหยุดรถได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น ป้องกันการลื่นไถลในทุกสถานการณ์คับขัน
เครื่องยนต์
 แบบ 4 จังหวะ สองสูบ DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ
 ปริมาตรกระบอกสูบ 321 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด 11.2:1
 กระบอกสูบ x ระยะชัก 68.0 * 44.1 mm
 ระบบหล่อลื่น แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน หัวฉีด
 ระบบจุดระเบิดT.C.I.
 ระบบคลัทช์แบบเปียก ชนิดหลายแผ่น
 ระบบเกียร์แบบสปอร์ต 6 ระดับ
ระบบสตาร์ทสตาร์ทมือด้วยระบบไฟฟ้า
น้ำมันเชื้อเพลิงน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว หรือ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ (E10)
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง 14 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง1.8 ลิตร (กรณีเปลี่ยนถ่ายตามระยะ)
กว้าง*ยาว*สูง730 x 2,090 x 1,140 มม.
น้ำหนักรวมน้ำมันเครื่อง170 กก.
ระบบกันสะเทือน หน้า : เทเลสโคปิก แบบ หัวกลับ หลัง : สวิงอาร์ม

Yamaha QBIX 2019

เครื่องยนต์
 แบบระบบจ่ายน้ำมันหัวฉีด  4 จังหวะ/ 1 สูบ
 ปริมาตรกระบอกสูบ 125 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด 9.5:1
 กระบอกสูบ x ระยะชัก 52.4 * 57.9 mm
 ระบบหล่อลื่น แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน หัวฉีด
 ระบบจุดระเบิด จุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์
 ระบบคลัทช์
 ระบบเกียร์ ออโต้
ระบบสตาร์ท สตาร์ทมือ
น้ำมันเชื้อเพลิง 91,95
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง 4.2 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง 0.9 ลิตร
กว้าง*ยาว*สูง 1860 * 715 * 1115 มิลลิเมตร
น้ำหนักรวม127 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือน หน้า : เทเลสโคปิค หลัง : ยูนิตสวิง

ยามาฮ่า คิวบิกซ์ ใหม่ ต่อโปรฯ ฉลองยอดทะลุเป้า

ยามาฮ่า คิวบิกซ์ ใหม่ สีสันใหม่สไตล์แฟชั่น #ของมันต้องมี! ฉลองยอดขายทะลุเป้า จัดเต็มตามคำเรียกร้องอีกครั้ง สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าคิวบิกซ์สีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึง 31 สิงหาคม 62 รับฟรี หมวกกันน๊อก QBIX Limited Edition สุดชิค 1 ใบ มูลค่า 1,000 บาท พร้อมรับโปรโมชั่นสุดพิเศษมากมาย สาวกคิวบิกซ์ให้ไว!

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ยามาฮ่าสแควร์ และร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ หรือที่ Yamaha Call Center : 02-2639999 / facebook: yamahasocietythailand *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด และทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ยามาฮ่าเปิดตัวหนังโฆษณาใหม่!! พร้อมเผยโฉม MT-15 Endorser “โต้ง” TWOPEE SouthSide ถ่ายทอดเรื่องราวแห่งชาวไบค์เกอร์

นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมผู้ด้วยบริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ถ่ายภาพร่วมกับ นายพิทวัส พฤกษกิจ หรือ “โต้ง” TWOPEE SouthSide ในงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังโฆษณาชุดใหม่ พร้อมมิวสิควีดีโอ Yamaha MT-15 ซึ่งได้ดึง “โต้ง” TWOPEE SouthSide มาเป็น Yamaha MT-15 Endorser ผู้ที่จะมาถ่ายทอดเรื่องราวของชาวไบค์เกอร์ ผ่านบทเพลง “We come alive…สำหรับบางคน แสงสว่างไม่ได้มาจากพระอาทิตย์” ที่สะท้อนถึงมุมมองชีวิตของไนท์ไบค์เกอร์ที่เชื่อว่า บนโลกทุกอย่างต้องคู่กัน เพื่อผลักดันกันและกัน หากมีขาวก็ต้องมีดำ มีกลางวันก็ต้องมีกลางคืน…พร้อมส่งโปรโมชั่นส่งเสริมการขายสุดพิเศษ เมื่อซื้อรถจักรยานยนต์ Yamaha MT-15 ตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2562 รับทันทีบัตรกำนัลมูลค่า 3,000 บาท

สำหรับงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังโฆษณา MT-15 ใหม่ พร้อมเฉยโฉม MT-15 Endorser “โต้ง” TWOPEE SouthSide มีขึ้น ณ ร้าน HOBS The Play House ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซนทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้

ฟาน เดอร์ มาร์ค ระเบิดฟอร์มร้อนแรงสุดระห่ำ ควบ YZF-R1 คว้าแชมป์แรกในฤดูกาล

ไมเคิล ฟาน เดอร์ มาร์ค #60 ดาวบิดดัตช์ สังกัดพาต้า ยามาฮ่า เวิลด์เอสบีเค ทีม รีดฟอร์มเก่ง ควบ YZF-R1 คว้าแชมป์แรกในฤดูกาลให้กับตนเอง จากการชิงชัยในสนามที่ 6 ศึกซูเปอร์ไบค์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ

ศึกซูเปอร์ไบค์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนามที่ 6 ของฤดูกาล มีคิวดวลความเร็วระหว่างวันที่ 7-9 มิถุนายน ณ เซอร์กิโต เดอ เฆเรซ-อังเคล นีอัตโต ประเทศสเปน

สำหรับการชิงชัยในเรซแรกดวลความเร็วทั้งสิ้น 20 รอบสนาม โดย อเล็กซ์ โลวส์ #22 และ ไมเคิล ฟาน เดอร์ มาร์ค #60 คู่หูนักบิดสังกัดพาต้า ยามาฮ่า เวิลด์เอสบีเค ทีม ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 4 และ 7 ตามลำดับ

คู่หูนักบิดยามาฮ่า สามารถทะยานขึ้นมารั้งอันดับ 3 และ 4 ในรอบแรกของการแข่งขัน ก่อนจะไต่ขึ้นไปรั้งอันดับ 2 และ 3 หลังผ่านครึ่งทางของการชิงชัย และไล่บดคู่แข่งสร้างโอกาสคว้าแชมป์ในเรซสุดเข้มข้น

และท้ายที่สุดเป็นทางด้าน ไมเคิล ฟาน เดอร์ มาร์ค #60 ที่ไต่จากกริดที่ 7 ขึ้นมาจบการแข่งขันด้วยอันดับ 2 คว้าโพเดี้ยมที่ 3 ในฤดูกาลให้กับตนเอง ด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยม ภายใต้รถแข่งยามาฮ่า YZF-R1

ขณะที่เพื่อนร่วมสังกัดอย่าง อเล็กซ์ โลวส์ #22 ทำได้ดีที่สุดด้วยการซิ่งเข้าเส้นชัยในอันดับ 16 หลังพลาดขณะไล่ล่าโพเดี้ยมในช่วงท้ายเกม ชวดโพเดี้ยมไปอย่างน่าเสียดาย

ก่อนที่ ไมเคิล ฟาน เดอร์ มาร์ค #60 จะระเบิดฟอร์มเก่งในเรซที่ 2 ของการแข่งขัน ทะยานขึ้นไปรั้งหัวขบวนในรอบที่ 7 ของการแข่งขัน และสามารถรักษาตำแหน่งไว้ได้จนครบ 18 รอบสนาม คว้าแชมป์แรกในฤดูกาลให้กับตนเอง ขณะที่ อเล็กซ์ โลวส์ #22 ตามเข้าเส้นชัยในอันดับ 14

จากผลการแข่งขันดังกล่าวส่งผลให้ ฟาน เดอร์ มาร์ค ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 3 บนตารางแชมเปี้ยนชิพประเภทนักขับ หลังเก็บไปได้ทั้งสิ้น 188 คะแนน ขณะที่ โลว์ส รั้งอยู่ในอันดับ 4 มี 142 คะแนน

สำหรับ ศึกซูเปอร์ไบค์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนามถัดไป มีคิวดวลความเร็วในวันที่ 21-23 มิถุนายน ณ มิซาโน่ เวิลด์ เซอร์กิต มาร์โก ซิมอนเซลลี ประเทศอิตาลี โดยแฟนมอเตอร์สปอร์ตสามารถร่วมติดตามและให้กำลังใจทัพนักบิด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ได้ที่ Facebook : Yamaha Thailand Racing Team และ Yamaha Society Thailand

อนุภาพ ระเบิดฟอร์ม คาตาลัน บิดประเดิมท็อปไฟว์ ซีอีวี โมโททู ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ

ตี-อนุภาพ ซามูล #50 ดาวบิดไทยสังกัดวีอาร์โฟร์ตี้ซิกซ์ มาสเตอร์แคมป์ ทีม รีดฟอร์มเก่ง ที่ คาตาลุนญ่า บิดคว้าท็อปไฟว์ ด้าน เค-เขมินท์ คูโบะ #9 บวกแต้มเพิ่ม จากการชิงชัยสนาม 3 ศึกซีอีวี โมโททู ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ

ศึกซีอีวี โมโตทู ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนามที่ 3 ของฤดูกาล ยกพลดวลความเร็วที่ เซอร์กิต เดอ บาร์เซโลน่า-คาตาลุนญ่า ประเทศสเปน ระยะทางต่อรอบ 4.627 กิโลเมตร

สำหรับการชิงชัยในเรซแรกออกสตาร์ในช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา (ตามเวลาประเทศไทย) โดย ตี-อนุภาพ ซามูล #50 และ เค-เขมินท์ คูโบะ #9 ทีมเมทนักบิดไทย สังกัดวีอาร์โฟร์ตี้ซิกซ์ มาสเตอร์แคมป์ ทีม ประจำการณ์ในกริดที่ 11 และ 19 ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี ตี-อนุภาพ ซามูล #50 สามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ไต่ทะยานจากกริดที่ 11 ขึ้นไปเกาะกลุ่มหัวขบวน หลังการรีสตาร์ทจากจังหวะเคลียร์คราบน้ำมันในช่วงต้นเกม

ก่อนจะบิดเข้าเส้นชัยในอันดับ 5 หลังผ่าน 11 รอบสนามที่ คาตาลุนญ่า ซึ่งเป็นผลงานที่ดีทีสุดบนสังเวียนความเร็วระดับโลก ด้าน เค-เขมินท์ คูโบะ #9 ที่กัดฟันบิดทั้งที่มีอาการบาดเจ็บ ทว่าสามารถซิ่งจบการแข่งขันในอันดับ 17

ส่วนการชิงชัยในเรซที่ 2 เป็นทางด้าน เค-เขมินท์ คูโบะ #9 ที่เรียกฟอร์มเก่งของตนเอง ก่อนจะบิดเข้าเส้นชัยในอันดับ 13 บวกแต้มเพิ่มให้กับตนเอง ด้าน ตี-อนุภาพ ซามูล #50 ไต่ขึ้นมารั้งท็อปไฟว์ได้หลังผ่านครึ่งทาง ก่อนจะพลาดท่าบิดไม่จบการแข่งขัน ชวดโอกาสคว้าแต้มเพิ่มไปอย่างน่าเสียดาย

ศึกซีอีวี โมโตทู ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนามถัดไป จะยกพลไปดวลความเร็ว ที่ มอเตอร์แลนด์ อรากอน ประเทศสเปน ในวันที่ 14 กรกฎาคม นี้ โดยแฟนมอเตอร์สปอร์ตสามารถร่วมติดตามและให้กำลังใจทัพนักบิด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ได้ที่ Facebook : Yamaha Thailand Racing Team และ Yamaha Society Thailand

นักบิดดาวรุ่ง เอ.พี.ฮอนด้า พาทีมแข่งไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ บิดฝ่าสายฝน พลาดล้ม! แต่ใจเกินร้อย กลับมาสู้ต่อ ผ่านบททดสอบสุดโหด 4 ชั่วโมง ในศึก JP250 4Hrs Endurance Race 2019 ที่ญี่ปุ่น

“บิว” วริทธิ์ ทองนพคุณ และ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ ยอดดาวรุ่งจากโครงการ เรซ ทู เดอะ ดรีม ช่วยกันพา “เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ยอดทีมแข่งไทย ฝ่าการแข่งขันเอ็นดูรานซ์สุดโหด 4 ชั่วโมง รายการ JP250 4Hrs Endurance Race 2019 หลังเจออุปสรรคสุดหิน บิดฝ่าสายฝน พลาดล้ม! ก่อนลุกขึ้นกลับมาแข่งต่อ พาทีมแข่งไทยร้อยเปอร์เซ็นต์เข้าป้ายอันดับที่ 32 สอบผ่านด่านทดสอบ สู่ยอดทีมชั้นนำของเอเชีย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ซูซูกะ เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น

การแข่งขันในรายการบิดทรหด JP250 4Hrs Endurance Race 2019 (เจพี250 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019) และศึกดวลความเร็ว 10 รอบสนาม รายการ Suzuka Sunday Road Race (ซูซูกะ ซันเดย์ โร้ด เรซ 2019) มีคิวดวลความเร็วระหว่างวันที่ 8-9 มิถุนายนนี้ ที่ซูซูกะ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดในช่วงสายของวันเสาร์ที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันรอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ท

ในปีนี้ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้นำวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย ได้ประกาศเดินหน้ายกระดับแผนโร้ดแม็ป Race To The Dream โปรเจกต์ปั้นนักบิดไทยสู่การแข่งขันในสนามระดับโลก โมโตจีพี ภายในปี 2025 ด้วยการส่งนักบิดดาวรุ่งในสังกัด เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ อย่าง “บิว” วริทธิ์ ทองนพคุณ, และ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ ลงป้องกันแชมป์ในศึก เจพี250 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019 ภายใต้รถแข่ง ฮอนด้า CBR250RR หมายเลข 149 โดยมี “การ์ฟิว” วัชรินทร์ ทับทิมอ่อน จ่าฝูงในศึก ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ 2019 รับหน้าที่เป็นนักบิดสำรอง

เกมในรอบชิงชนะเลิศมีขึ้นในช่วงเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา แข่งขันกันทั้งสิ้น 4 ชั่วโมงเต็ม โดย 2 นักบิดไทยอย่าง “บิว” วริทธิ์ และ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ต้องช่วยกันพารถแข่ง ฮอนด้า CBR250RR ออกสตาร์ทในกริดที่ 19 เพื่อลุ้นคว้าแชมป์ในสนามนี้ให้ได้

ทีมนักบิดดาวรุ่งจากประเทศไทยออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการลงทำหน้าที่ของ “บิว” วริทธิ์ เป็นนักบิดไม้แรก โดยสามารถไต่ขึ้นมาได้ถึงอันดับ 3 ก่อนจะส่งไม้ต่อให้ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์​ ลงบิดต่อในช่วงที่ 2 ของเรซ

จุดเปลี่ยนสำคัญของการแข่งขันคือหลังผ่านครึ่งทาง มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้มีนักบิดหลายคนพลาดล้ม โดย ปิยวัฒน์ นั้นรักษาผลงานการแข่งขันได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยอันดับ 3 หลังเข้าพิตเปลี่ยนเปลี่ยนยางฝน ทว่ากลับต้องพลาดล้มและเสียไปหลายอันดับ

อย่างไรก็ดี แม้ทีมแข่งไทยจะพลาดล้มแต่ยังสวมหัวใจนักสู้ของนักบิดและทีมช่างไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ กลับเข้าสู่เรซได้อีกครั้ง ก่อนที่จบการแข่งขัน 4 ชั่วโมง “บิว” วริทธิ์ และ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ จะช่วยกันพาทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ นำรถแข่งเข้าป้ายในอันดับ 32 ตามหลังแชมป์อย่าง ทีม เทคทู+โกชิ เรซซิ่ง เจ้าถิ่นอยู่ 8 รอบสนาม

สำหรับ การแข่งขันรายการเอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง ในปี 2019 แม้ผลงานของ เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ จะไม่เป็นไปตามเป้าจากจุดเปลี่ยนด้านสภาพอากาศ แต่จากเวลาต่อรอบที่ทำได้ รวมถึงการทำงานภายใต้สภาพความกดดันของทีมงานของ เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ที่มีคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ ถือว่าสอบผ่านและก้าวสู่การเป็นทีมแข่งระดับนานาชาติอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยสามารถติดตามผลงานของ นักบิดไทยจาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ได้ทาง แฟนเพจเฟซบุ๊ก รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า (Honda Motorcycle Thailand) หรือที่www.facebook.com/hondamotorcyclethailand