ยามาฮ่าเวฟรันเนอร์ ครองบัลลังก์แชมป์เจ้าความเร็วทางน้ำสุดยิ่งใหญ่ กวาด 3 รุ่น ศึกชิงแชมป์ประเทศไทยประจำปี 2019

นายประวัติ ประเสริฐพร ผู้จัดการทั่วไปอาวุโสฝ่ายวางแผนการขายและการตลาด พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ถ่ายภาพร่วมกับนักแข่งในสังกัด ยามาฮ่า เวฟรันเนอร์ ไทยแลนด์ทีม นำโดย ภาสวัชญ์ ศักดิ์ศรี #145, สุภัค เสร็จธุระ #52, ธีระ เสร็จธุระ #51 และ มร.จุน อิโคมะ #1

โดยในการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 4 ภาสวัชญ์ ศักดิ์ศรี #145 สามารถคว้าบัลลังก์ “แชมป์ประจำปี” มาครองได้แบบเหนือชั้นถึง 2 รุ่น คือ Pro-Am Runabout Stock และ Novice Runabout Stock ด้วยการขับขี่เรือ Yamaha WaveRunner GP1800R

ณัฐกร ภูภัคดี #7 นักแข่งในสังกัด เจตรินทีม บาย ยามาฮ่า ที่สามารถคว้า “แชมป์ประจำปี” รุ่น Pro-Am Ski 2 Stocke Stock มาครองได้สำเร็จด้วยเรือ Super Jet

สำหรับการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 4 มีขึ้น ณ อ่างเก็บน้ำห้วยซับประดู่ จ.นครราชสีมา เมื่อเร็วๆ นี้

“ยามาฮ่าอาสาทำดีพี่ช่วยน้อง” ฉลองครบรอบ 64 ปี

มร. ชิเงโอะ ฮายาคาวะ ประธานกรรมการบริหาร และนายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมในพิธีเปิดโครงการ ”ยามาฮ่าอาสาทำดีพี่ช่วยน้อง” เพื่อตอบแทนสังคมในวาระครบรอบ 64 ปี การก่อตั้งแบรนด์ “ยามาฮ่า” ด้วยการร่วมแรงร่วมใจกันของอาสาสมัครจากไทยยามาฮ่ามอเตอร์ กลุ่มบริษัทในเครือ และสื่อมวลชน เพื่อบูรณะโรงเรียนคลองกันยาซึ่งเป็นโรงเรียนในชุมชนซึ่งมีพื้นที่ใกล้เคียงกับบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด โดยทำการซ่อมแซมและทาสีใหม่ให้กับเครื่องเล่นต่างๆ บริเวณสนามเด็กเล่น และทาสีอาคารเรียนเพื่อให้ครูและนักเรียนมีสิ่งแวดล้อมและบรรยากาศในการเรียนที่ดี พร้อมมอบเงินสนับสนุนจำนวน 100,000 บาท เพื่อให้โรงเรียนได้นำไปใช้ประโยชน์ทางการศึกษา โดยยามาฮ่าพร้อมที่จะดำเนินโครงการ “ยามาฮ่าอาสาทำดีพี่ช่วยน้อง” นี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ความช่วยเหลือสนับสนุนโรงเรียนที่ยังขาดแคลนและต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเพื่อสังคมซึ่งเป็นพันธกิจสำคัญในการเสริมสร้างแบรนด์ยามาฮ่าที่พร้อมสร้างประโยชน์และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยกิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้น ณ โรงเรียนคลองกันยา เมื่อเร็วๆ นี้

ยามาฮ่าเฉลิมฉลองครบรอบ 64 ปี

“ยามาฮ่า” หนึ่งในตราสินค้าที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก

โดยพันธกิจของการเป็นองค์กรที่ยึดมั่นใน ปรัชญาคันโด เพื่อความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหม่แบบที่ไม่มีใครเคยสัมผัสมาก่อน ความมุ่งมั่นที่จะคิดค้นนวัตกรรมอันทันสมัย ความแปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร และความท้าทายใหม่ๆ ของยามาฮ่าที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

พวกเราชาวยามาฮ่าล้วนทุ่มเทเต็มที่ในการดึงศักยภาพและพลังความมุ่งมั่นทั้งหมดที่มี เพื่อสร้างฝันของลูกค้าให้กลายเป็นความจริง เพราะเราคือทีมงานคุณภาพที่ลูกค้าต่างมองหาในฐานะองค์กรที่ยึดมั่นในปรัชญาคันโดอย่างแท้จริง และด้วยการวางกลยุทธ์ด้านการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ควบคู่ไปกับกลยุทธ์ทางด้านธุรกิจ เพื่อก้าวขึ้นไปสู่เป้าหมายที่วางไว้

แบรนด์สโลแกน Revs Your Heart “เปรียบเหมือนกับเครื่องยนต์ที่พุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็ว เมื่อเราเพิ่มแรงบิดเฉกเช่นเดียวกันกับหัวใจที่เต้นแรงขึ้นไปตามจังหวะ ยิ่งเข็มไมล์พุ่งขึ้นไปไกลเท่าไหร่ พลังของความเร้าใจแห่ง คันโด ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

นี่คือช่วงเวลาที่คุณจะเต็มอิ่มไปกับความตื่นเต้นเราใจ และประสบการณ์ที่ประทับใจที่ยากจะลืมเลือน เราพร้อมเสมอที่จะส่งต่อความรู้สึกนี้ ให้กับทุกคนที่ได้เข้ามารู้จักกับยามาฮ่า

ด้วยความไว้วางใจของลูกค้าที่มีต่อเทคโนโลยีอันทันสมัยที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ด้วยความมุ่งมั่นของยามาฮ่าที่ก้าวไปพร้อมกับพลังแห่งนวัตกรรมสุดล้ำ ผลงานจากการสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ของเราได้ส่งต่อประสบการณ์อันทรงคุณค่าที่จะเติมเต็มชีวิตแก่ลูกค้าทุกคน”

ปีที่ผ่านมา ยามาฮ่า มอเตอร์ ได้เผยวิถีอันเป็นเอกลักษณ์ของยามาฮ่า 5 ประการ พร้อมกันทั่วโลก ได้แก่ Innovation (ความริเริ่ม) Excitement (ความสนุกสนาน) Confidence (ความมั่นใจ) Emotion (ความดึงดูด) และ Ties (ความผูกพัน) เพื่อแสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ ยามาฮ่า ที่ไม่มีใครเหมือน เอกลักษณ์ที่ชัดเจนนี้ เป็นแนวทางปฏิบัติตาม “วิถียามาฮ่า” ซึ่งพนักงานทุกคนได้ยึดถือปฏิบัติ และถ่ายทอดสู่การสร้างสรรค์สินค้า รวมถึงจุดบริการลูกค้าในทุกๆด้าน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ยามาฮ่าในระยะยาว

มร. ชิเงโอะ ฮายาคาวะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ประกาศว่า ยามาฮ่ามอเตอร์สร้างความแข็งแกร่งผ่านการสร้างแบรนด์ที่เป็นเอกลักษณ์จากภายในสู่ภายนอก
พร้อมกับจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ 64 ปี ของการก่อตั้ง บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ขึ้นในวันจันทร์ที่ 1 กรกฏาคม 2562 ด้วยการสร้างแบรนด์ผ่านสินค้า และบริการที่สร้างความแตกต่าง
ในปี 2018 เราประสบความสำเร็จด้านการสร้างแบรนด์ผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า อาทิเช่น การเปิดตัว Grand Filano Hybrid และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยี Hybrid ที่เหมาะสมกับการใช้งานของคนไทย ด้วยความโดดเด่นเรื่องความประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการเปิดตัว MT-15 ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มรถสปอร์ต Naked ด้วยส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 41%

นอกจากนี้ยังได้ส่งนักแข่งชาวไทยร่วมชิงชัยในระดับ Moto3 ในโอกาสที่เกมความเร็วระดับโลกอย่าง MotoGP จัดขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรกอีกด้วย
สำหรับในปีนี้และในอนาคต เราวางกลยุทธ์ที่จะเดินหน้าสร้างแบรนด์ให้เป็นรูปธรรมและมีความโดดเด่นยิ่งขึ้น ผ่านกิจกรรมรอบด้านเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดกับลูกค้า อีกทั้งยามาฮ่ายังประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ในสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในเมืองไทย

ทั้งนี้ ยามาฮ่า มอเตอร์ เชื่อว่าอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยจะยังคงเดินไปในทิศทางที่ดีและเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ยามาฮ่าจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าภายใต้แนวคิด The last one mile ซึ่งยามาฮ่าจะนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์รูปแบบของการสัญจรที่นับวันจะต้องการความเชื่อมโยงกัน ไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย และสะดวกสบายมากขึ้นเรื่อยๆ

ด้านผู้จำหน่ายเรามีโครงการพัฒนาความรู้ความสามารถของผู้จำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่อง เทคนิคการขาย การตลาด การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า รวมถึงการสร้างแบรนด์ดิ้ง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์
เราหวังว่าการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของ “ยามาฮ่า” จะเป็นประโยชน์ต่อโลก และสร้างความพึงพอใจให้กับทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในภาคส่วนใดก็ตาม

เราจะเดินหน้าสื่อสารการสร้างแบรนด์ดิ้งให้กับผู้จำหน่ายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสร้างเครือข่ายลูกค้าให้มีความแข็งแรงยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน

ซูซูกิชวนลูกค้าร่วม “ชม เชียร์ ชิล” Team Suzuki Ecstar ในศึก MotoGP 2019

ซูซูกิ จัดกิจกรรมดีๆ ขึ้นอีกครั้ง กับการเชิญชวนลูกค้ากว่า 200 คน ร่วมชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก MotoGP 2019 สนามที่ 8 TT Circuit Assen ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในวันที่ 30 มิถุนายน 2562 ณ ร้าน The Public Restaurant & Bar (เกษตร-นวมินทร์)
งานนี้จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Let’s Cheer Together Suzuki Ecstar MotoGP 2019 ร่วมเชียร์ 2 นักแข่ง Alex Rins หมายเลข 42 และ Joan Mir หมายเลข 36 จาก Team Suzuki Ecstar ให้คว้าชัยในสนามนี้ โดยงานนี้ได้รับเกียรติจากคุณเลิศศักดิ์ นววิมาน กรรมการบริหาร บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด กล่าวต้อนรับสมาชิกชาวซูซูกิทุกท่านอย่างเป็นกันเอง จากนั้นร่วมถ่ายรูปกับ มร.ชิจิน ฮะสึอิ President บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด พร้อมทั้งสมาชิกชาวซูซูกิที่เขาร่วมงานทุกท่านเพื่อเป็นที่ระลึก ต่อด้วยการเล่นเกมแจกของรางวัลให้สมาชิกชาวซูซูกิทุกท่านได้ร่วมสนุก พร้อมรับของรางวัลมากมายอย่างสนุกสนาน บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก เฮฮา และอบอุ่นสไตล์ครอบครัวซูซูกิ
ต่อจากนั้นทางพิธีกรได้เรียนเชิญแขกรับเชิญพิเศษร่วมพูดคุยก่อนที่จะร่วมชมและเชียร์การแข่งขัน กับการพูดคุยกับ 2 นักแข่งจากทีมซูซูกิ “ปาร์ค” พาทิศ ชูประเทศ หมายเลข 98 และ “เค้ก” พันธุ์ชนะ กุลโรจน์ชลาลัย หมายเลข 78 กับผลงานที่โดดเด่นที่คว้าแชมป์ สนามที่ 3 รุ่น Production 150 โดยใช้เจ้า Suzuki GSX-R150 ในการแข่งขันในรายการ FMSCT Thailand Road Racing อีกทั้งคะแนนรวมของนักแข่งทั้ง 2 ยังติดอันดับที่ 1 และที่ 2 อีกด้วย จากนั้นเรามาพูดคุยกับกูรูทางด้านมอเตอร์ไซค์ คุณหน่อง สุรชัย พันธ์เพิ่มพูน จากรายการมอเตอรไซเคิล ทีวี ไทยแลนด์ ถึงความเป็นไปได้ในสนามนี้ว่านักแข่ง Team Suzuki Ecstar จะสามารถขับเคี่ยวกับคู่แข่งได้ดีเพียงใด
เมื่อเวลาที่สมาชิกชาวซูซูกิรอคอยมาถึงทุกคนต่างตื่นเต้น และลุ้นกับการร่วมชมและเชียร์ 2 ดาวรุ่งจาก Team Suzuki Ecstar ในการแข่งขันในสนามนี้ พร้อมกับร่วมรับประทานอาหารที่ทางซูซูกิจัดไว้รองรับสมาชิกชาวซูซูกิทุกท่านอย่างครบครัน การแข่งขันดำเนินไปอย่างลุ้นตลอดเวลา บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน และความมันส์ ตื่นเต้นทุกรอบการแข่งขัน ซึ่ง 2 นักแข่งจาก Team Suzuki Ecstar ทั้ง Alex Rins และ Joan Mir เปิดเกมชิงชัยนำ Suzuki GSX-RR ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงได้ในช่วงแรก และสู้กับคู่แข่งอย่างสนุก โดยเมื่อจบการแข่งขัน Joan Mir ทะยานเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 8 ส่วน Alex Rins ไปพลาดล้มจนต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย แต่แฟนๆ ซูซูกิที่มาร่วมเชียร์ในวันนี้ต่างก็ตื่นเต้นกับเกมการแข่งขัน และสนุกสนานไปกับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้

สามารถติดตามข่าวสาร และกิจกรรมจากทางซูซูกิครั้งต่อไปได้ที่ www.thaisuzuki.co.th และ www.faceboob.com/SuzukiSociety มาสัมผัสประสบการณ์สุดพรีเมี่ยม และมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวซูซูกิ

“ก้อง” สมเกียรติ โชคร้ายประสบอุบัติเหตุล้มในช่วงวอร์ม อัพ แขนซ้ายหัก ต้องเข้าผ่าตัดทันที! พลาดลงศึก “ดัตช์ กรังด์ปรีซ์” ที่เนเธอร์แลนด์

“คิงคองก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดดาวรุ่งชาวไทยในศึกโมโต ทู จากโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม” ของ “เอ.พี.ฮอนด้า” โชคร้ายประสบอุบัติเหตุล้มในช่วงวอร์ม อัพ ก่อนลุยศึก “ดัตช์ กรังด์ปรีซ์” ที่ ทีที เซอร์กิต แอสเซน ประเทศเนเธอร์แลนด์ จนทำให้แขนซ้ายหัก เจ้าตัวเผยเตรียมเข้ารับการผ่าตัดทันที ยังไม่แน่ใจว่าจะพักนานแค่ไหนต้องรอลุ้นหลังการผ่าตัดอีกครั้ง

การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก 2019 สนามที่ 8 รายการ “ดัตช์ กรังด์ปรีซ์” ที่ ทีที เซอร์กิต แอสเซน ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมาเป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ โดยในรุ่น โมโตทู เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ “คิงคองก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดดาวรุ่งหนึ่งเดียวของไทยในสนามระดับโลกเจ้าของหมายเลข 35 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ลงแข่งขันแบบเต็มฤดูกาลเป็นปีแรกในศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2019 ภายใต้โครงการ เรซ ทู เดอะ ดรีม ของ เอ.พี.ฮอนด้า ในการผลักดันนักบิดไทยไปสู่สนามระดับโลกโมโตจีพีภายในปี 2025 ลงทำการแข่งขัน

โดย สมเกียรติ จันทรา ที่ได้กริดสตาร์ทอันดับที่ 20 แต่โชคร้ายในช่วงวอร์ม อัพ ก่อนแข่งขันจริง “คิงคองก้อง” ได้ลงซ้อมไป 3 รอบ ก่อนประสบอุบัติเหตุรถล้ม ทำให้ได้รับบาดเจ็บหนักแขนซ้ายหัก ทำให้ไม่สามารถลงทำการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศได้

“วันนี้น่าเสียดายที่ผมไม่ได้ลงทำการแข่งขัน เนื่องจากได้ประสบอุบัติเหตุในรอบวอร์ม อัพ ก่อนแข่ง จนทำให้แขนซ้าย ตรงเกือบถึงตรงข้อมือหัก จึงไม่สามารถลงทำการแข่งขันในสนามนี้ได้ โดยในวันพรุ่งนี้ (1 ก.ค.) ผมจะเดินทางเข้าไปรับการผ่าตัดทันที ส่วนจะต้องพักนานขนาดไหนต้องรอทราบรายละเอียดหลังจากผ่าตัดเสร็จสิ้นอีกครั้ง” สมเกียรติ เผย

สำหรับแฟนๆ ความเร็วชาวไทยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและให้กำลังใจ สมเกียรติ จันทรา นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกโมโตทูเวิลด์แชมเปี้ยนชิพได้ทางเฟซบุ๊ก แฟนเพจรถจักรยานยนต์ฮอนด้า (Honda Motorcycle Thailand) www.facebook.com/hondamotorcyclethailandครับ

โฟลท ฟอร์มสุดเดือดเกม Wet Race กด R1 ไล่บู๊คว้าอันดับ 4 รุ่นใหญ่ศึกชิงแชมป์เอเชีย

โฟลท – รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ #56 และ แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศธนานนท์ #24 คู่หูนักบิดดีกรีแชมป์เอเชียของทีม ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ที่ลงสนามชิงชัยรุ่น ASIA SUPERBIKE 1000cc ด้วยรถแข่ง YZF-R1 โชว์ฟอร์มสุดเดือดในเกม Wet Race หลังฝนตกหนัก พร้อมเปิดเกมบู๊กับยอดฝีมือจากทั่วเอเชียตลอดทั้งเกมที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นและกดดัน ก่อนที่ โฟลท – รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ #56 จะทะยานเข้าเส้นชัยคว้าอันดับที่ 4 พร้อมเก็บคะแนนสะสมเพิ่มเป็น 74 คะแนน รั้งอันดับ 7 ส่วนทีมเมท แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศธนานนท์ #24 ก็สามารถตามเข้าเส้นชัยมาในอันดับที่ 8 เก็บคะแนนสะสมเพิ่มเป็น 97 คะแนน รั้งอันดับ 4 บนตารางคะแนนสะสมในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียรุ่น ASIA SUPERBIKE 1000cc เรซที่ 2 รายการ ASIA ROAD RACING CHAMPIONSHIP 2019 สนามที่ 4 ณ สนามซูซูก้า ประเทศญี่ปุ่น

เทพต๋ง – พีรพงศ์ ฟอร์มโหดบิด YZF-R6 ลุยฝนเบียดเจ้าถิ่นชิงแชมป์เอเชียสุดมันส์ ครองบัลลังก์แชมป์ SS600

เทพต๋ง – พีรพงศ์ บุญเลิศ #26 ตัวเต็งแชมป์เอเชียรุ่น SUPERSPORTS 600cc ระเบิดพลังเค้นฟอร์มเก่ง กระชากคันเร่งรถแข่ง YZF-R6 ฝ่าสายฝนที่ตกลงมาตลอดเกม ขับเคี่ยวไล่บู๊กับนักบิดเจ้าถิ่นได้อย่างระทึกสุดมันส์ ก่อนทะยานเข้าเส้นชัยคว้าอันดับที่ 1 นำธงชาติไทยสะบัดบนยอดโพเดี้ยมได้สำเร็จ ในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียรุ่น SUPERSPORTS 600cc เรซที่ 2 รายการ ASIA ROAD RACING CHAMPIONSHIP 2019 สนามที่ 4 ซึ่งจัดการแข่งขันขึ้น ณ สนามซูซูก้า ประเทศญี่ปุ่น

โดยนักบิดหัวหอกของทีม ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ขยับเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์ประจำปีไปอีกก้าว ด้วยการรั้งตำแหน่งผู้นำคะแนนสะสมที่มี 191 คะแนน กับสุดยอดผลงานการยืนโพเดี้ยมทุกเรซการชิงชัย ทิ้งห่างอันดับ 2 ที่มีเพียง 93 คะแนน ในขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 6 เรซ และมีแต้มให้เก็บอีก 150 คะแนน เท่านั้น

“ปิยวัฒน์” สวมบทบู๊ฝ่าสายฝนไล่บิดแซงคู่แข่ง คว้าอันดับ 4 เอเชีย โร้ด ที่ ญี่ปุ่น

“ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ ยอดนักบิดดาวรุ่งไทย หมายเลข 188 จาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม ในโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม”​ ฉายแววโดดเด่นในศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ หลังสวมใจนักสู้ไล่บิดแซงคู่แข่งเข้าป้ายอันดับ 4 ในคลาส เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. เรซที่ 2 เก็บแต้มให้ตนเองและทีมได้สำเร็จที่ ซูซูกะ เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2019 เดินทางเข้าสู่สนามที่ 4 ของฤดูกาล มีคิวดวลความเร็วระหว่างวันที่ 28-30 มิถุนายนนี้ ที่ สนามซูซูกะ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น โดยการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเรซที่ 2 มีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา

ก่อนเข้าสู่การแข่งขัน มีฝนตกลงมาอย่างหนักส่งผลให้มีการประกาศเป็นการแข่งขันใน “สนามเปียก” โดยทัพนักบิดไทยจาก เอ.พี.ฮอนด้า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม นำโดย “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช นักบิดสาวแกร่งเจ้าของหมายเลข 44 รองจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 6 ส่วนทีมเมทดาวรุ่งจากโครงการ “เรซ ทู​ เดอะ ดรีม” อย่าง “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ หมายเลข 188 ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 18 ด้าน “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี หมาย 149 ที่มีอาการบาดเจ็บที่หลังจากการล้มในรอบซ้อมต้องออกตัวจากกริดที่ 15

เกมในเรซนี้ต้องแข่งขันท่ามกลางสายฝนที่เทลงมาอย่างหนัก และเพียงรอบแรกนักบิดสาวไทยอย่าง มุกข์ลดา ต้องออกจากการแข่งขันอย่างน่าเสียดาย หลังพลาดล้มลงไป โดย ธัชกร เป็นอีกหนึ่งคนที่มาพลาดล้มในช่วง 2 รอบสุดท้าย

อย่างไรก็ดี ปิยวัฒน์ ที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในเรซนี้ รักษาผลงานที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง ก่อนควบรถแข่งฝ่าสายฝนเข้าป้ายในอันดับ 4 ด้วยเวลา 21 นาที 57.199 วินาที คว้าแต้มส่งท้ายการข่งขันที่ญี่ปุ่นมาครองได้สำเร็จ

ส่วนแชมป์ในเรซนี้เป็นของ อาห์วิน ซานจาย่านักบิดอินโดนีเซียนจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม ด้วยเวลา 21 นาที 52.015 วินาที โดยมีทีมเมทอย่าง เออร์ฟาน อาร์เดียนซยาห์ ตามเข้าป้ายเป็นอันดับ 2

ภายหลังจบการแข่งขัน 4 สนาม (8 เรซ) จ่าฝูงเป็นของ แอนดี้ มูฮัมหมัด ฟาดลี นักบิดอินโดนีเซียน ด้วยคะแนนทั้งสิ้น 127 คะแนน ขณะที่ มุกข์ลดา รั้งอันดับ 4 มี 97 คะแนน ด้าน ธัชกร รั้งอันดับ 6 มี 76 คะแนน ตามด้วย ปิยวัฒน์ ในอันดับ 10 มี 58 คะแนน

สำหรับการแข่งขันสนามถัดไปของ ศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2019 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 9-11สิงหาคมนี้ ที่ สนาทมซูไห่ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศจีน

แฟนๆ ความเร็วสามารถติดตามและให้กำลังใจนักแข่งได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า (Honda Motorcycle Thailand) www.facebook.com/hondamotorcyclethailand/

ขุนพลนักบิด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ท๊อปฟอร์ม!!!

ขุนพลนักบิด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ท๊อปฟอร์ม!!!
คู่หูแชมป์เอเชีย แสตมป์ – โฟลท นำทัพซ้อมรั้งกลุ่มหัวแถว พร้อมชิงชัยศึกชิงแชมป์เอเชียสนาม 4 ที่ซูซูก้า ประเทศญี่ปุ่น

ศึกชิงแชมป์เอเชียชิงความเป็นเจ้าความเร็วสองล้อทางเรียบ รายการ ASIA ROAD RACING CHAMPIONSHIP 2019 สนามที่ 4 ซึ่งจัดการแข่งขันขึ้นระหว่างวันที่ 28 – 30 มิถุนายน 2562 ณ สนามซูซูก้า ประเทศญี่ปุ่น โดยยอดทีมแข่งจากประเทศไทยอย่าง “ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม” ยังคงเดินหน้าลงสนามชิงชัยแบบเต็มพิกัด นำทัพด้วยตัวเต็งแชมป์ เทพต๋ง – พีรพงศ์ บุญเลิศ # 26 ที่เป็นผู้นำคะแนนสะสมรุ่น SUPERSPORTS 600cc ด้วยผลงานการคว้าชัยชนะแบบ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม จาก 6 เรซการแข่งขันในสนาม 3 ที่ผ่านมา พร้อมด้วย แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศธนานนท์ #24 กับ โฟลท – รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ #56 คู่หูดีกรีแชมป์เอเชียที่ลงชิงชัยในรุ่น ASIA SUPERBIKE 1000cc และสองนักบิดดาวรุ่งสายเลือดใหม่ของทีมอย่าง โฟลค – สวพล นิลพงษ์ #56 กับ มอส – สุทธิภัทร พัชรธร #86 ที่ลงสนามในรุ่น ASIA PRODUCTION 250cc เพื่อเก็บเกี่ยวสะสมประสบการณ์การแข่งขันในเกมระดับนานาชาติ
สำหรับวันแรกของโปรแกรมการแข่งขันสนามที่ 4 นั้น เป็นรอบการซ้อม Free Practice ที่มีด้วยการทั้งหมด 3 ครั้ง โดยในรุ่น ASIA PRODUCTION 250cc คู่หูดาวรุ่งของทีม ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม มอส – สุทธิภัทร พัชรธร #86 และ โฟลค – สวพล นิลพงษ์ # 56 ที่ขับขี่ในสนามซูซูก้าเป็นครั้งแรก ลงทำการซ้อมด้วยรถแข่ง YZF-R25 ต่างพยายามศึกษาไลน์การขับขี่และทำความคุ้นเคยกับสนามอย่างเต็มที่ทุกช่วงของการซ้อม โดย มอส – สุทธิภัทร พัชรธร #86 สามารถทำเวลาต่อรอบดีสุดอยู่ที่ 2’32.629 นาที ส่วน โฟลค – สวพล นิลพงษ์ # 56 ทำเวลาดีที่สุดในการซ้อมอยู่ที่ 2’35.672 นาที รั้งอยู่ในอันดับที่ 19 และ 26 ของตารางเวลารวมตามลำดับ

ส่วนในรุ่น SUPERSPORTS 600cc ตัวเต็งแชมป์อย่าง ต๋ง – พีรพงศ์ บุญเลิศ #26 หัวหอกของทีม ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ก็ลงสนามพร้อมด้วยรถแข่ง YZF-R6 ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ ด้วยสภาพร่างกายที่สมบูรณ์และจิตใจที่แข็งแกร่ง ก็ยังคงสามารถโชว์ลีลาการขับขี่ได้อย่างดุดัน พร้อมกับกดเวลาในการซ้อมต่ำลงได้ทุกครั้งที่ลงสนาม ก่อนที่จะทำเวลาต่อรอบดีที่สุดอยู่ที่ 2’14.107 นาที ขึ้นรั้งอันดับที่ 2 ของตารางเวลาในช่วงการซ้อม

และในรุ่น ASIA SUPERBIKE 1000cc ซึ่งคู่หูดีกรีแชมป์เอเชียของทีม ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม อย่าง แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศธนานนท์ #24 กับ โฟลท – รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ #56 ที่ลงสนามด้วยรถแข่ง YZF-R1 และมีฟอร์มการขับขี่ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากสนามโฮมเรซในเมืองไทย ก็สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงก่อนกดเวลาขับเคี่ยวกับคู่แข่งในกลุ่มหัวแถวได้แบบสนุก ก่อนที่ แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศธนานนท์ #24 จะสามารถทำเวลาต่อรอบดีที่สุดอยู่ที่ 2’09.893 นาที ส่วนทีมเมทอย่าง โฟลท – รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ #56 ก็กดเวลาต่อรอบดีที่สุดอยู่ที่ 2’10.129 นาที รั้งกลุ่มหัวแถวในอันดับที่ 2 และ 4 ของตารางเวลารวมตามลำดับ

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันของทัพนักบิด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ในวันพรุ่งนี้ (29 มิ.ย.) ช่วงเช้า (ตามเวลาประเทศไทย) จะเป็นรอบการควอลิฟาย เริ่มด้วยรุ่น ASIA PRODUCTION 250cc ในเวลา 06.55 – 07.25 น. ต่อด้วยรุ่น SUPERSPORTS 600cc ในเวลา 07.40 – 08.10 น. และรุ่น ASIA SUPERBIKE 1000cc ในเวลา 09.10 – 09.50 น. จากนั้นช่วงบ่ายจะเป็นการแข่งขันในเรซที่ 1 โดยเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 12.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) เป็นต้นไป โดยแฟนมอเตอร์สปอร์ตสามารถร่วมติดตามและให้กำลังใจทัพนักบิด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย รายการ ASIA ROAD RACING CHAMPIONSHIP 2019 สนามที่ 4 ได้ที่ Facebook : Yamaha Thailand Racing Team และ Yamaha Society Thailand และสามารถติดตามชมการแข่งขันแบบสดๆ ได้ผ่านทาง Facebook Live และ YouTube Live : Asia Road Racing Championship

ทัพ Suzuki GSX-R150 โชว์ฟอร์มเต็มสูบ เหมาโพเดี้ยมศึกชิงแชมป์ประเทศไทย สนาม 3

ทัพ Suzuki ท็อปฟอร์มก้าวขึ้นสู่โพเดี้ยมในศึก FMSCT Thailand Road Racing สนาม 3 จากผลงาน 3 นักแข่งในสังกัดทีม Suzuki Ecstar Yoshimura Motul IRC D.I.D NGK Racing Boy KYT YSS Aracer J.S. Racing Team โดยในรุ่น Production 150 “เจ้าเค้ก” พันธุ์ชนะ กุลโรจน์ชลาลัย #78 ควงแขน “เดอะปาร์ค” พาทิศ ชูประเทศ #98 ควบ GSX-R150 ขึ้นโพเดี้ยมแบบแพ็คคู่ บวกกับความสำเร็จของ Gun Mie #43 ระเบิดฟอร์มคุมบังเหียน GSX-R150 คว้าแชมป์แรกสำเร็จในรุ่น Production 150 อายุไม่เกิน 18 ตอกย้ำเจ้าความเร็วอย่างยิ่งใหญ่กลับมาสร้างความยิ่งใหญ่อีกครั้งในศึกชิงเจ้าความเร็วในรายการ FMSCT Thailand Road Racing ของทัพ Suzuki จากเหล่าขุนพลบนอาน GSX-R150 ในรุ่นเดือดที่สุดของการแข่งขันกับ Production 150 ที่มีการขับเคี่ยวกันตั้งแต่ออกสตาร์ท และกับ 2 ขุนพลอย่าง “เจ้าเค้ก” พันธุ์ชนะ กุลโรจน์ชลาลัย #78 และ “เดอะปาร์ค” พาทิศ ชูประเทศ #98 2 ทีมเมทเปิดเกมการแข่งขันสู้ได้อย่างดุเดือดตั้งแต่ต้นเกม กับการแข่งขันทั้งหมด 12 รอบสนาม และ 2 คู่หูทีมเมทสามารถเก็บชัยชนะได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยที่แชมป์ตกอยู่ในมือของ “เจ้าเค้ก” พันธุ์ชนะ กุลโรจน์ชลาลัย #78 พร้อมกับทำเวลา Best Lap ไว้ 1:31.316 นาที ในรอบที่ 9 เช่นเดียวกับทาง “เดอะปาร์ค” พาทิศ ชูประเทศ #98 ที่ทำเวลา Best Lap เอาไว้ 1:31.225 นาที ในรอบที่ 6 เก็บแต้มรองแชมป์อันดับ 1 ได้สำเร็จ และผลจากการเก็บชัยชนะได้ในสนามนี้ส่งผลให้ “เดอะปาร์ค” พาทิศ ชูประเทศ #98 มีคะแนนสะสมขึ้นเป็นจ่าฝูงด้วยคะแนน 51 แต้ม ส่วนรองจ่าฝูงก็เป็นของคู่หูอย่าง “เจ้าเค้ก” พันธุ์ชนะ กุลโรจน์ชลาลัย #78 ที่เก็บแต้มไล่คันเร่งมาแบบหายใจรดต้นคอด้วยคะแนน 50 แต้ม 

สำหรับในรุ่น Production 150 อายุไม่เกิน 18 เป็นอีกรุ่นหนึ่งของทัพ Suzuki ที่ประสบความสำเร็จในสนามนี้เช่นเดียวกัน โดยการคุมบังเหียนของ Gun Mie #43 นักแข่งสายเลือดแดนอาทิตย์อุทัย ที่พร้อมลุยศึกชิงแชมป์ไทยแลนด์ในปี้นี้แบบเต็มฤดูกาล สนามนี้มาพร้อมกับความตั้งใจเกินร้อย กับการแข่งขันทั้งหมด 10 รอบสนามที่ต้องแหวกกลุ่มตู่แข่งขึ้นมาอยู่หัวแถว ก่อนที่จะเก็บชัยชนะไปได้อย่างสวยงามเช่นเดียวกัน กับเวลา Best Lap 1:33.575 ในรอบที่ 4 และนั่นก็เร็วพอที่จะคว้าโพเดี้ยมในสนามที่ 3 ไปได้อย่างสวยงาม ส่งผลให้มีคะแนนเก็บอยู่ 28 แต้ม จากผลงานทำให้เห็นถึงความพร้อมของทีม Suzuki ที่จะสร้างผลงานให้ได้เห็นกันอีกครั้งในศึกชิงเจ้าความเร็วในปี 2019 กับรถรหัสสปอร์ต Suzuki GSX-R150

Yamaha QBIX 125 Candy Color

เจาะเข้ากับทุกกลุ่มของวัยรุ่นด้วยการออกแบบดีไซน์ฉีกแนวของรถออโตเมติกทั่วไปและมาพร้อมกับสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ล้ำ และนำสมัย เน้นการขับขี่ที่สะดวกง่ายดายประหยัดน้ำมัน

หลังจากเปิดตัวสร้างความฮือฮาที่งานมอเตอร์โชว์ฯ ที่ผ่านมากับแนวรถสไตล์ใหม่ทรงสี่เหลี่ยม และการสานต่อยอดในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ได้รับความนิยมของกลุ่มวัยรุ่นและสำนักแต่งอย่างต่อเนื่องสำหรับความสวยงาม และความโดดเด่นของรถออโตเมติก QBIX125 คันนี้ มีการปรับแต่งสีสันใหม่ด้วยลายกราฟฟิคและเส้นสายแบบ Abstract แอ๊บสแตก ด้วยเฉดสีที่สะดุดตาด้วยลวดลายสลับสีสะท้อนแสงบนพื้นสีชมพู และในส่วนอื่นก็เสริมด้วยอุปกรณ์ของแต่งที่หาซื้อได้เอง แล้วแต่ความชอบและไอเดียของแต่ละคน อย่างข้างหน้าไฟเปลี่ยนแปลงใส่เป็นไฟสองชั้น วงล้อแม็กสีสันใหม่สวยงามตัวยางกึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งทางเรียบและทางฝุ่น ดิสก์เบรกหน้าคาลิเปอร์แบบ 4 ลูกสูบ ทรงเรเดียลเม้าท์ โช้คอัพหน้าแบบเทเลสโคปิค แฮนด์เดิ้ลบาร์ทรงต่ำปลายแฮนด์ตุ่มถ่วงใหม่ ปั๊มแรงดันดิสก์เบรกตู้ปลา ก้านเบรกขาพับได้เรือนไมล์แบบฟูลดิจิตอล กระจกมองหลังขาอลูมินัม บานกระจกทรงเหลี่ยมตัดแสง ส่วนอินเนอร์ด้านในมีช่องสำหรับเสียบสายชาร์ท ท่านั่งสบายๆ ด้วยเบาะขนาดใหญ่กว้าง ปาดแต่งทรงใหม่หุ้มด้วยหนังแก้ว ฟุตบอร์ดเสริมยางวางเท้ากันลื่น

ด้านหลังโช้คอัพเดี่ยวระบบแก๊สของ Gazi ที่มีซับแท้งค์บิ้วท์อินสามารถปรับพรีโหลดของสปริงได้ ในส่วนของเครื่องยนต์เพิ่มสมรรถนะความจี๊ดจ๊าดด้วยท่อสูตรเสียงเพราะเดินคอท่อด้วยสแตนเลสลอดออก ด้านข้างสวมด้วยปลายท่ออลูมินัมเคฟล่าร์ กรองอากาศ MUSASHI กระบอกใหญ่ เพิ่มให้ระบบเผาไหม้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ฝาครอบสายพานทำสีให้เข้าชุดกับสีสันของตัวรถ การปรับเปลี่ยนเพิ่มสีสันความโดดเด่นแต่ก็ยังคงเน้นในเรื่องของความปลอดภัยด้วยอุปกรณ์การขับขี่ครบไม่ต้องกลัวเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ และเป็นที่น่าสนใจบนท้องถนนอีกด้วย

ยามาฮ่า ชวนสื่อมวลชนขี่รถเที่ยวหัวหิน ทดสอบสมรรถนะรถออโตเมติก

นางสรวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล ผู้จัดการทั่วไปอาวุโสฝ่ายสื่อสารการตลาดกลุ่มรถออโตเมติก และตราสินค้า บริหารลูกค้าสัมพันธ์ ประชาสัมพันธ์ และสื่อดิจิทัล พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด พร้อมด้วย เดชา ไกรศาสตร์ อดีตแชมป์เอเชีย 2 สมัยมและแชมป์ออลเจแปน 1 สมัย พีรพงศ์ บุญเลิศ นักบิดดาวรุ่งที่สร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาล 2019 นี้ ในสังกัด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ถ่ายภาพร่วมกับคณะสื่อมวลชนสายกีฬา ที่ร่วมขับขี่ในรูปแบบทัวร์ริ่งท่องเที่ยวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ อ.หัวหิน ภายใต้รถจักรยานยนต์ออโตเมติกรุ่นต่างๆ ของยามาฮ่า นำโดย Yamaha QBIX, Yamaha AEROX 155, Yamaha FreeGo, Yamaha LEXi และ Yamaha XMAX 300 ณ อ.หัวหิน จ.ประจวงคีรีขันธ์ เมื่อเร็วๆ นี้