2019 AMA Motocross R.6-8

เอเอ็มเอโมโตครอส ได้ผ่านมาถึงครึ่งทางแล้ว สภาพสนามที่ 6 เป็นทราย ออกจะขี่ยากซะหน่อย ส่วนสนามที่ 7 จะเป็นดินดำนุ่ม ขรุขระ ถ้ามาเร็ว อาจสะดุดแง่งหินหัวทิ่มได้ ส่วนสนามที่ 8 เป็นดินแดง และมีฝนตกก่อนแข่ง เรียกได้ว่าครบทุกรสชาติครับ

สตาร์ทสนามที่ 7 รุ่น 450cc ยังมองไม่ออกว่าใครจะได้โฮลชอต

สนาม 6 (29 ก.ค.62) เซาท์วิค รัฐแมสซาชูเซตส์
250cc
โมโตหนึ่ง อดัม เชนเชียรูโล (คาวาซากิ) ได้โฮลชอตตามด้วย จัสติน คูเปอร์ (ยามาฮ่า) ดิเรก เดรก (เคทีเอ็ม) เชน แมคเอลราธ (เคทีเอ็ม) แบรนดอน ฮาร์ทแรน (ยามาฮ่า) และดีแลน เฟอร์แรนดิส (ยามาฮ่า) ขึ้นรอบที่ 2 เฟอร์แรนดิสแซงแบรนดอนขึ้นที่ 5 ขณะที่แมคเอลราธแซงดิเรกขึ้นที่ 3 ได้ในรอบที่ 4 เฟอร์แรนดิสเอาบ้าง แซงดิเรกขึ้นที่ 4 ได้ในรอบที่ 5 เขาไล่กดดันแมคเอลราธอยู่ 2 รอบ ก็แซงขึ้นที่ 3 เข้าสู่ช่วงกลางเกม แมคเอลราธโดน โคล์ท นิโคลส์ (ยามาฮ่า) ไล่กดดัน มาแซงขึ้นที่ 4 ได้ในรอบที่ 9 และในรอบต่อมา แมคเอลราธยังมาโดน อาร์เจ แฮมพ์ชายร์ (ฮอนด้า) แซงขึ้นที่ 5 ไปได้อีก จากนั้น แฮมพ์ชายร์ก็เร่งสปีดขึ้นไปหานิโคลส์ และแซงขึ้นที่ 4 ได้ในช่วง 3 รอบสุดท้าย โดยเกมจบที่อดัมชนะ คูเปอร์ที่ 2 เฟอร์แรนดิสที่ 3 แฮมพ์ชายร์ที่ 4 และนิโคลส์ที่ 5
โมโตสอง อดัมได้โฮลชอตอีกครั้ง ตามด้วย ฮาร์ทแรน, เฟอร์แรนดิส, คาเมรอน
แมคอาดู (เคทีเอ็ม) คูเปอร์ และแฮมพ์ชายร์ ขึ้นรอบที่ 2 เฟอร์แรนดิสแซงฮาร์ทเรน
ขึ้นที่ 2 ผ่านไปอีก 2 รอบ คูเปอร์แซงทั้งฮาร์ทเรนและแมคอาดูขึ้นที่ 3 ขณะที่แฮมพ์ชายร์แซงแมคอาดูขึ้นที่ 5 จากนั้นในรอบต่อมาก็แซงฮาร์ทเรนขึ้นที่ 4 มาที่คู่ชิงจ่าฝูง เฟอร์แรนดิสไล่กดดันเชนเชียรูโลอยู่นาน มาแซงขึ้นนำได้ในรอบที่ 7 โดยเกมจบที่เฟอร์แรนดิสชนะ เชนเชียรูโลที่ 2 คูเปอร์ที่ 3 แฮมพ์ชายร์ที่ 4 และที่ 5 เป็นของอเล็กซ์ มาร์ติน ที่ออกสตาร์ทไม่ติดท๊อปเทน ไล่แซงขึ้นมาอยู่ที่ 5 ได้ในช่วง 4 รอบสุดท้าย
ผลโอเวอร์ออล

  1. อดัม เชนเชียรูโล (1-2)
  2. ดีแลน เฟอร์แรนดิส (3-1)
  3. จัสติน คูเปอร์ (2-3)
  4. อาร์เจ แฮมพ์ชายร์ (4-4)
  5. เชน แม็คเอลราธ (6-7)
เคน ร็อคเซน
ท่าสวย อารอน เพลสซิงเกอร์
คูเปอร์ เวบบ์#2 กับอีไล โทแมค#1
มาร์วิน มูสแกน

450cc
โมโตหนึ่ง มาร์วิน มูสแกน (เคทีเอ็ม) ได้โฮลชอตพร้อมขี่นำแบบม้วนเดียวจบ อีไล โทแมค (คาวาซากิ) ตามอยู่ที่ 2 ก่อนโดน เคน ร็อคเซน (ฮอนด้า) แซงขึ้นที่ 2 ในรอบที่ 2 ผ่านไปอีก 2-3 รอบ แซค ออสบอร์น (ฮัสวาน่า) ไล่แซงโทแมคขึ้นที่ 3 ได้ในรอบที่ 4 และในรอบต่อมา ออสบอร์นก็แซงร็อคเซน ชิงที่ 2 มาได้ ร็อคเซนกำลังเสียศูนย์ เลนโดนโทแมคแซงขึ้นที่ 3 ในรอบที่ 5 และโดนเวบบ์ชิงที่ 4 ไปในรอบที่ 6 แต่ในรอบต่อมา ร็อคเซนทวงที่ 4 คืนมาได้ แถมเวบบ์ยังมาเสียตำแหน่งที่ 5 ให้กับ เฟรดดริก โนเรน (ซูซูกิ) ไปซะอีก เมื่อเกมผ่านไปได้ครึ่งทาง โทแมคก็ชิงที่ 2 จากออสบอร์นคืนมาได้ ขณะที่กลุ่มหลัง เวบบ์แซงเฟรดดริกขึ้นที่ 4 ได้ในรอบที่ 10 โดยเกมจบที่มูสแกนชนะ โทแมคที่ 2 ออสบอร์นที่ 3 เวบบ์ที่ 4 และเฟรดดริกที่ 5
โมโตสอง โฮลชอตเป็นของเวบบ์ ก่อนโดนออสบอร์นแซงขึ้นไปนำได้ก่อนจบรอบแรก ขณะที่ด้านหลัง ร็อคเซนไล่กดดันมูสแกน มาแซงขึ้นที่ 3 ได้ในรอบที่ 2 และในรอบต่อมา จ่าฝูงเวบบ์เข้าโค้งไลน์นอก เลยโดนทั้งร็อคเซนและมูสแกนแซงขึ้นที่ 2-3 พอขึ้นรอบที่ 4 มูสแกนก็ชิงที่ 2 มาจากร็อคเซน และในรอบที่ 5 เวบบ์แซงร็อคเซนขึ้นที่ 3 มาแล้วครับ โทแมค จากสตาร์ทไม่ติดท๊อปเทน ไล่ขึ้นมาชิงที่ 4 จากร็อคเซนได้ในรอบที่ 6 และแซงเวบบ์ขึ้นที่ 3 ได้ในรอบที่ 7 โดยเกมจบที่ออสบอร์นชนะ มูสแกนที่ 2 โทแมคที่ 3 เวบบ์ที่ 4 และบาร์เชียที่ 5
ผลโอเวอร์ออล

  1. มาร์วิน มูสแกน (1-2)
  2. แซค ออสบอร์น (3-1)
  3. อีไล โทแมค (2-3)
  4. คูเปอร์ เวบบ์ (4-4)
  5. เจสัน แอนเดอร์สัน (7-5)

สนาม 7 (6 มิ.ย.62) เรดบัด, บุชชานัน รัฐมิชิแกน
250cc
โมโตหนึ่ง อเล็กซ์ มาร์ติน ได้โฮลชอต ขี่นำได้ไม่ถึงรอบก็โดนเฟอร์แรนดิสที่ตามมาแซงขึ้นไปนำแทน ขี่ตามทั้งคู่มาคือ เชนเชียรูโล, โจเซฟ คราวน์ (ยามาฮ่า) และนิโคลส์ ขึ้นรอบที่ 3 นิโคลส์แซงโจเซฟขึ้นที่ 3 ขณะที่ คูเปอร์กับแฮมพ์ชายร์ไล่ขึ้นมาอยู่ที่ 5-6 และแฮมพ์ชายร์แซงคูเปอร์ขึ้นที่ 5 ได้ในรอบที่ 6 ช่วงท้ายเกม นิโคลส์ล้ม แฮมพ์ชายร์เข้าแทนที่ก่อนแซงเชนเชียรูโลขึ้นที่ 3 เพราะสนามเป็นดินดำ ขรุขระ มีทั้งร่องมีทั้งแง่งหิน นักแข่งส่วนใหญ่ขี่เสียจังหวะกันสนุก อย่างเชนเชียรูโลโดนแซงจนหล่นไปที่ 5 โดยเกมจบที่ เฟอร์แรนดิสชนะ แฮมพ์ชายร์ที่ 2 คูเปอร์ที่ 3 ไท มาสเตอร์พูล ที่ 4 และเชนเชียรูโลที่ 5
โมโตสอง อีกครั้งที่อเล็กซ์ได้โฮลชอตตามด้วย นิโคลส์, เฟอร์แรนดิส, แมคเอลราธ และเชนเชียรูโล ขึ้นรอบที่ 2 เชนเชียรูโลแซงแมคเอลราธขึ้นที่ 4 ขณะที่เฟอร์แรนดิสไล่กดดันนิโคลส์ มาแซงขึ้นที่ 2 ได้ในรอบที่ 4 และแซงอเล็กซ์ขึ้นไปนำแทนได้ในรอบที่ 5 ขณะที่ด้านหลัง เชนเชีนรูโลเร่งสปีดขึ้นมาหานิโคลส์ มาแซงขึ้นที่ 3 ได้ในรอบที่ 7 ยังไม่พอขึ้นไปกดดันอเล็กซ์ ชิงที่ 2 มาได้ในรอบที่ 12 ลอว์เรนซ์แซงแมคเอลราธขึ้นที่ 5 และชิงที่ 4 จากนิโคลส์ได้ในรอบสุดท้าย โดยเกมจบที่เฟอร์แรนดิสชนะ เชนเชียรูโลที่ 2 อเล็กซ์ที่ 3 ลอว์เรนซ์ที่ 4 และนิโคลส์ที่ 5
ผลโอเวอร์ออล

  1. ดีแลน เฟอร์แรนดิส (1-1)
  2. อดัม เชนเชียรูโล (5-2)
  3. จัสติน คูเปอร์ (3-6)
  4. อาร์เจ แฮมพ์ชายร์ (2-8)
  5. ฮันเตอร์ ลอว์เรนซ์ (8-4)
เชส เซกซ์ตัน
อาร์เจ แฮมพ์ชายร์
แซค ออสบอร์น
ฮันเตอร์ ลอว์เรนซ์
ดีแลน เฟอร์แรนดิส

450cc
โมโตหนึ่ง เวบบ์ได้โฮลชอตก่อนโดน จัสติน โบเกิล (เคทีเอ็ม) สวนขึ้นนำ เวบบ์ลงมาอยู่ที่ 2 ตามด้วย โทแมค, แอนเดอร์สัน, บาร์เชีย, แบคเก็ต และร็อคเซน โทแมคไล่บี้เวบบ์จนมาแซงขึ้นที่ 2 ได้ในรอบที่ 4 และแซงโบเกิลขึ้นไปนำได้ในรอบที่ 5 และในรอบนี้ บาร์เชียพลาดล้ม แบคเก็ตเข้าแทนที่ในตำแหน่งที่ 5 จากนั้น แอนเดอร์สันแซงเวบบ์ขึ้นที่ 3 ได้ในรอบที่ 6 ต่อมา ทั้งแอนเดอร์สันและเวบบ์ก็พากันแซงโบเกิลขึ้นที่ 2-3 ได้ในรอบที่ 7 ช่วงท้ายเกม ร็อคเซนชิงที่ 5 มาจากแบคเก็ตแต่โดนแบคเก็ตแซงคืนได้ในช่วง 3 รอบสุดท้าย โดยเกมจบที่โทแมคชนะ แอนเดอร์สันที่ 2 เวบบ์ที่ 3 โบเกิลที่ 4 และแบคเก็ตที่ 5
โมโตสอง แบคเก็ตได้โฮลชอต เขาขี่นำได้แค่รอบเดียว มาโดนร็อคเซนแซงขึ้นไปนำแทน แถมยังโดนมูสแกนชิงที่ 2 ไปได้อีกในรอบเดียวกัน ขึ้นรอบที่ 4 แอนเดอร์สันชิงที่ 3 มาจากแบคเก็ต และในรอบที่ 5 แบคเก็ตโดนโทแมคกับเวบบ์แซงขึ้นที่ 4-5 ผ่านไปอีก 2-3 แบคเก็ตพลาดล้มหล่นไปหลายตำแหน่งเข้าสู่ช่วงท้ายเกม โทแมคได้โอกาสแซงแอนเดอร์สันขึ้นที่ 3 จากนั้นก็ขึ้นไปหาร็อคเซน มาแซงขึ้นที่ 2 ได้ในช่วง 2 รอบสุดท้าย โดยเกมจบที่มูสแกนชนะ โทแมคที่ 2 ร็อคเซนที่ 3 แอนเดอร์สันที่ 4 และเวบบ์ที่ 5
ผลโอเวอร์ออล

  1. อีไล โทแมค (1-2)
  2. เจสัน แอนเดอร์สัน (2-4)
  3. มาร์วิน มูสแกน (7-1)
  4. คูเปอร์ เวบบ์ (3-5)
  5. เคน ร็อคเซน (6-3)
อดัม เชนเชียรูโล
เบลค แบคเก็ต
จัสติน บาร์เชีย

สนาม 8 (20 มิ.ย.62) สปริงครีก มิลวิว รัฐมินนิโซตา
มีฝนตกก่อนทำการแข่งขัน สภาพสนามเละซิครับ
250cc
โมโตหนึ่ง เชนเชียรูโลได้โฮลชอต ไปได้ไม่กี่โค้ง โดนลอว์เรนซ์แซงขึ้นไปนำแทน ขี่ตามทั้งคู่มาก็มี อเล็กซ์, เฟอร์แรนดิส, แฮมพ์ชายร์ และเชส เซกซ์ตัน (ฮอนด้า) เกมส่วนใหญ่จะดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดมากกว่าจะแข่งกัน โดยในช่วงท้ายเกม เชนเชียรูโลลื่นล้ม จากที่ 2 ลงไปอยู่ที่ 3 อเล็กซ์เลื่อนขึ้นที่ 2 ยังมีอีกหลายคันที่ล้มไปขี่ไป โดยเกมจบที่ลอว์เรนซ์ชนะ อเล็กซ์ที่ 2 เชนชียรูโลที่ 3 แมคเอลราธที่ 4 และเฟอร์แรนดิสที่ 5
โมโตสอง สนามเริ่มแห้งบางส่วน คูเปอร์ได้โฮลชอตก่อนโดนเชนเชียรูโลแซงขึ้นนำตามด้วย คูเปอร์, อเล็กซ์, กาย ปีเตอร์ (ซูซูกิ) นิโคลส์ และแมคเอลราธ ขึ้นรอบที่ 2 นิโคลส์แซงปีเตอร์ขึ้นที่ 4 และรอบต่อมา เฟอร์แรนดิสแซงแมคเอลราธกับปีเตอร์ขึ้นที่ 5เข้าสู่ช่วงกลางเกม นิโคลส์แซงอเล็กซ์ขึ้นที่ 3 พอดี คูเปอร์ขี่อยู่ที่ 2 ลื่นล้ม ตำแหน่งต่างๆ เลื่อนขึ้นอัตโนมัติ โดยเกมจบที่เชนเชียรูโลชนะ นิโคลส์ที่ 2 อเล็กซ์ที่ 3 เฟอร์แรนดิสที่ 4 และแมคเอลราธที่ 5
ผลโอเวอร์ออล

  1. อดัม เชนเชียรูโล (3-1)
  2. อเล็กซ์ มาร์ติน (2-3)
  3. ฮันเตอร์ ลอว์เรนซ์ (1-6)
  4. ดีแลน เฟอร์แรนดิส (5-4)
  5. เชน แม็คเอลราธ (4-5)
    คะแนนสะสม
  6. อดัม เชนเชียรูโล 352 คะแนน
  7. ดีแลน เฟอร์แรนดิส 316 คะแนน
  8. จัสติน คูเปอร์ 306 คะแนน
  9. ฮันเตอร์ ลอว์เรนซ์ 233 คะแนน
  10. โคล์ท นิโคลส์ 233 คะแนน
เจสัน แอนเดอร์สัน
อเล็กซ์ มาร์ติน

450cc
โมโตหนึ่ง ไอแซก ทีส์เดล (ซูซูกิ) ได้โฮลชอตก่อนโดนแซงเป็นพรวน โดยเวบบ์ขึ้นนำตามด้วย เฮนรี่ มิลเลอร์ (เคทีเอ็ม) จอห์น ชอต (ฮอนด้า) ทีส์เดล กาย คันนิ่งแฮม (ฮอนด้า) และโทแมค ขึ้นรอบที่ 2 โทแมคแซงรวดเดียวขึ้นมาอยู่ที่ 3 และในรอบที่ 4 ก็ขึ้นที่ 2 เรียบร้อย ส่วนมูสแกน จากสตาร์ทที่ 8 ในรอบแรก ไล่แซงขึ้นที่ 5 ได้ในรอบที่ 4 และขึ้นที่ 3 ได้ในรอบที่ 6 ขณะที่ออสบอร์น สตาร์ทไม่ติดท๊อปเทน เขาไล่แซงรอบละคันสองคันจนขึ้นมาอยู่ที่ 5 ได้ในรอบที่ 7 แต่กว่าจะขึ้นที่ 4 ได้ก็เข้าสู่ช่วงท้ายเกมแล้ว โดยเกมจบที่เวบบ์ชนะ โทแมคที่ 2 มูสแกนที่ 3 ออสบอร์นที่ 4 และมิลเลอร์ที่ 5
โมโตสอง เวบบ์ได้โฮลชอตตามด้วย ร็อคเซน, ออสบอร์น ชอต และโบเกิลร็อคเซนไล่กดดันเวบบ์ไม่นานก็แซงขึ้นนำได้ในรอบที่ 4 ถึงตอนนี้ บาร์เชียก็ไล่ขึ้นมาอยู่ที่ 4 ช่วงนี้เริ่มมีเด็กน็อครอบ การไล่แซงจึงยากขึ้นมาอีกนิด มาถึงช่วงท้ายเกม เวบบ์เริ่มเข้าใกล้ร็อคเซนมาแซงเอาจ่าฝูงคืนได้ในช่วง 2 รอบสุดท้าย โดยเกมจบที่เวบบ์ชนะ ร็อคเซนที่ 2 ออสบอร์นที่ 3 บาร์เชียที่ 4 และที่ 5 เป็นของโทแมค ที่สตาร์ทอยู่ที่สิบกว่าๆ แต่แซงขึ้นมาอยู่ที่ 5 ได้ในช่วง 4 รอบสุดท้าย
ผลโอเวอร์ออล

  1. คูเปอร์ เวบบ์ (1-1)
  2. แซค ออสบอร์น (4-3)
  3. อีไล โทแมค (2-5)
  4. มาร์วิน มูสแกน (3-7)
  5. เคน ร็อคเซน (14-2)
    คะแนนสะสม
  6. อีไล โทแมค 342 คะแนน
  7. มาร์วิน มูสแกน 304 คะแนน
  8. เคน ร็อคเซน 293 คะแนน
  9. คูเปอร์ เวบบ์ 288 คะแนน
  10. เจสัน แอนเดอร์สัน 272 คะแนน

2020 KTM 300XC

ค่ายรถจากออสเตรียอย่าง KTM ยังคงเดินหน้าพัฒนาเครื่องยนต์สองจังหวะต่อไป พร้อมกับส่งรุ่นล่าสุดของรถเอ็นดูโร่ในกลุ่มเครื่องยนต์สองจังหวะ ที่ว่ากันว่า “ไร้คู่แข่ง”

ด้วยความที่เป็นรถที่มีอัตราส่วนระหว่างกำลังต่อน้ำหนัก power-to-weight ratio ที่ดีที่สุด จากพื้นฐานความดุดันของรถซูเปอร์โครอส/โมโตครอส ที่ได้รับการเพิ่มกำลังและแรงบิดขึ้นไปอีกระดับ ปรับให้มีระยะการทำการที่ไกลมากขึ้นด้วยการเพิ่มปริมาตรความจุของถังเชื้อเพลิง เปลี่ยนล้อหลังเป็นขนาด 18 นิ้ว ที่กล่าวมานี้ก็จะเป็นส่วนประกอบที่ช่วยให้ได้รถ dirt bike ที่มีความดุดัน แข็งแกร่งมากที่สุดรุ่นหนึ่งในกลุ่มรถ cross country racer ที่ทาง KTM ยังเพิ่มความทันสมัยให้กับเครื่องยนต์สองจังหวะนี้ด้วย TPI หรือ Transfer Port Injection ซึ่งเป็นระบบจ่ายเชื้อเพลิงที่ทันสมัยที่สุดสำหรับเครื่องยนต์สองจังหวะ ที่มีมาใน KTM 300 XC TPI จากเครื่องยนต์สองจังหวะขนาด 293.2 ซีซี พร้อมความก้าวหน้าของเทคโนโลยี TPI ที่ช่วยให้ไม่ต้องใช้การผสมถังและเซ็ทนมหนูเช่นเครื่องยนต์สองจังหวะแบบเดิม ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีการจ่ายเชื้อเพลิง TPI fuel injection technology นี้เอง รวมทั้งโครงสร้างของส่วนประกอบใหม่อย่าง CNC exhaust port กับ port timing ที่ช่วยให้เครื่องยนต์ของ 300XC TPI นี้ มีกำลังสูงสุดในกลุ่มรถคลาสเดียวกัน มาที่ส่วนของโครงสร้างแชสซีส์ของ KTM 300XC TPI นั้นมีโครงสร้างที่เบาด้วยเฟรม high tech steel frame ที่รู้กันดีว่าเป็นเฟรมที่มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนไหวทุกจังหวะ อีกทั้งยังสามารถให้ความรู้สึกในการตอบสนองที่ดีต่อผู้ขับขี่ที่จะสัมผัสได้ถึงปฏิกิยาตอบสนองที่ดี รวมทั้งมีคุณสมบัติในการให้ตัวหรือมีความยืดหยุ่นที่ดี ช่วยให้โครงสร้างของรถมีประสิทธิภาพที่ดีในการรองรับแรงกระแทกหรือแรงกระทำที่เกิดจากการขับขี่อย่างดุดันรุนแรงในแต่ละจังหวะ ในขณะที่ใช้ความเร็วสูง และในโมเดลล่าสุดนี้ได้มีการเปลี่ยนชิ้นส่วนของพักเท้ามาเป็นแบบ no dirt footpegs อีกด้วย เช่นเดียวกับในส่วนของระบบกันสะเทือนที่มีการพัฒนาสมรรถนะในการรับแรงกระแทก รวมทั้งมีการปรับค่าการเวทติ้งให้มีความนุ่มนวลขึ้นจากเดิม เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รับความรู้สึกที่สบายมากขึ้น โดยในส่วนของกันสะเทือนหน้านั้น ได้ติดตั้ง New WP XACT fork ที่นอกจากปรับค่าการเซ็ทติ้งในส่วนของ damping ใหม่แล้ว ยังได้ปรับสมรรถนะด้วยการเปลี่ยนชิ้นส่วนภายในอย่าง New fork piston ที่จะทำงานได้ลงตัวกับ air spring ที่ออกแบบให้สามารถใช้ค่าต่างๆในการปรับเซทได้หลากหลายมากขึ้น เช่นเดียวกันกับในส่วนของกันสะเทือนหลัง ที่ติดตั้ง New WP XACT rear shock ที่ปรับเซ็ทมาใหม่ ด้วยความลงตัวของระบบกันสะเทือนที่พัฒนามาใช้กับ High tech chrome moly steel frame จนช่วยให้รถมีความสบายและมั่นคงมากยิ่งขึ้นในแต่ละจังหวะของการขับขี่ รวมทั้งการขับขี่ในช่วงทางตรงได้อย่างมีเสถียรภาพยิ่งขึ้นด้วยการปรับสวิงอาร์มเป็นแบบชิ้นเดียว single piece cast aluminium swingarm ในส่วนของบอดี้เวิร์ค ที่ยังคงการออกแบบให้มีความเพรียวบางเพื่อผลทางด้านความสะดวกสบาย ที่มีผลต่อการควบคุมรถและความมีอิสระในการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้ขับขี่ที่สามารถเปลี่ยนท่าทางตำแหน่งได้อย่างสะดวก เช่นเดียวกับส่วนของแอร์บ๊อกซ์ที่ออกแบบให้สามารถปกป้องชิ้นส่วนกรองอากาศและภายในได้ดียิ่งขึ้นแต่ก็สามารถไหลเวียนอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเช่นกัน และในการเซอร์วิสกรองอากาศนั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ

จากบอดี้เวิร์คก็มาที่ชุดคลัทซ์ซึ่งเป็น Hydraulic Brembo clutch system ที่เบาแรง ควบคุมได้ง่ายดาย อีกทั้งทำงานได้อย่างแม่นยำเที่ยงตรง ขณะที่ในส่วนของระบบเบรกนั้นใน KTM ได้เลือกใช้ชุดเบรกมาตรฐานสูงเพื่อความปลอดภัย ด้วย High tech Brembo brakes ที่ได้กลายเป็นมาตรฐานของ KTM ไปแล้วว่ารถหลายรุ่นจะใช้ระบบเบรกจาก Brembo เป็นอุปกรณ์ติดรถจากโรงงาน สมกับคอนเซ็พท์ Ready to race ของค่ายผู้ผลิตจากออสเตรีย

รายละเอียดของตัวรถเพิมเติมมีสเปคดังนี้

Engine Type: Single Cylinder, 2-Stroke
Displacement: 293.2 cc
Bore / Stroke: 72 / 72 mm
Starter: Electric Starter / 12.8V, 2Ah
Transmission: 6 Gears
Fuel System: TPI, Dell’Orto Throttle Body Ø 39 mm
Lubrication: Electronically Regulated Oil Pump
Primary Ratio: 26:73
Final Drive: 13:51
Cooling: Liquid Cooling
Clutch: Wet Multi-Disc DDS-Clutch, Brembo
Hydraulics
Ignition: Continental EMS
Frame: Central Double-Cradle
Type 25CrMo4 Steel
Sub Frame: Aluminum
Handle bar: Neken, Aluminum Ø 28/22 mm
Front Suspension: WP XACT USD fork,
Ø 48 mm
Rear Suspension: WP XACT Monoshock
with Linkage
Suspension Travel Front/Rear: 310 mm / 12.2 in; 300 mm / 11.81 in
Front/Rear Brakes: Disc Brake 260 mm
/ 10.24 in; 220 mm / 8.66 in
Front/Rear Rims: 1.60 x 21” / 2.15 x 18” Giant
Front/Rear Tires: 90/90-21” / 110/100-18” Dunlop AT81
Chain: 5/8 x 1/4 in
Silencer: Aluminum
Steering Head Angle: 26.1º
Triple Clamp Offset: 22 mm
Wheelbase: 1,485 mm ± 10 mm / 58.5 ± 0.4 in
Ground Clearance: 370 mm / 14.6 in
Seat Height: 950 mm / 37.4 in
Tank Capacity, Approx: 8.5 L / 2.25 gal
Weight (without fuel), Approx: 101.3 kg / 223.3 lbs

2020 Ninja ZX-25R

Ninja ZX-25R เผยโฮมแล้ว เครื่องยนต์ 4 สูบ เรียง 249 ซีซี 4 จังหวะ 16 วาล์ว DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมฟิคเจอร์ และฟังก์ชั่นสุดล้ำ ควิกชิฟเตอร์ แทร็คชั่นคอนโทรล พาวเวอร์โหมด เสริมอารมณ์ความเร้าใจ โช้คอัพหัวกลับ USD ดิสก์เบรกหน้าคาลิเปอร์แบบเรเดียลเม้าท์ โมโนบล็อค รายละเอียดปลีกย่อยรอก่อนเด้อไม่อยากผิดพลาด สว่นราคาก็รอเช่นกัน

GRAND FILANO PREMIUM SCOOTTER

กับความลงตัวในแบบของคุณเองด้วยการเสริมเติมแต่งรถจักรยานยนต์ให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสีสัน หรืออุปกรณ์ของแต่งที่ลงตัว สร้างความแตกต่าง ซึ่งเป็นการโชว์ไอเดีย และความชอบในสไตล์ต่างๆ

กี่ยุคสมัยรถจักรยานยนต์ก็ยังคงเป็นยานพาหนะที่ได้รับความนิยม ด้วยความคล่องตัว ใช้งานง่าย ทำให้เห็นกันมากมายบนท้องถนน และการแต่งรถเพิ่มความสวยงามก็มีควบคู่กันมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นรถรูปลักษณ์แบบไหนก็ตาม แต่สำหรับรถแต่งคันนี้ก็คือ ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ รถออโตเมติกไฮคลาส มาด้วยความลงตัวแบบคลาสสิค ถูกปรับเพิ่มเติมด้วยไอเดียของยุคใหม่กับความโมเดิร์นของอุปกรณ์ของแต่งต่างๆ ที่กำลังได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ใช้วัยรุ่น และวัยทำงาน ความโดดเด่นที่สะดุดตาอันดับแรกน่าจะเป็นที่สีสัน และการคาดลวดลาย เพราะมันแตกต่างไปจากสีสันเดิมๆ ที่ผลิตออกมา ไม่มีสีนี้แน่นอน สีสไตล์พาสเทลดูแล้วไม่จี๊ดจ๊าดแต่มันดูมีระดับ การตัดเส้นที่ไม่เน้นความหวือหวายังคงให้ความคลาสสิค วงล้อที่เป็นแม็กจากของเดิมลดขนาดลงมาใช้ 12 นิ้ว และสาดสีใหม่ให้เป็นโทนเดียวกับตัวรถ ดิสก์เบรกหน้าเสริมใหม่ด้วยจานดิสก์เดี่ยวขนาด 200 มม. แบบให้ตัวได้ด้วยโฟลท์ติ้งสีทอง 8 ตัว คาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว สร้างขายึดอลูมินัมขึ้นมาใหม่ด้วยงาน CNC

ทางด้านของออพชั่นเสริมที่ช่วยลดความเสียหายของแฟริ่งด้วยเคสกันกระแทกรอบรคันดัดเข้ารูปไม่เกะกะ เบาะนั่งดีไซน์แบบย้อนยุคแบ่งเป็นสองตอน เสริมแรคหลังสำหรับติดตั้งกล่องอเนกประสงค์เพื่อใส่ของพร้อมการเดินทางที่สะดวกสบายเพิ่มขึ้น ช่วงล่างด้านหลังเสริมความเท่และโดดเด่นด้วยโช้คอัพ Gazi แกนขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมกับออพชั่นปรับสองระบบ พรีโหลด และ รีบาวด์ เพิ่มเสถียรภาพในการซับแรง และการควบคุม เครื่องยนต์ปรับอัตราการเร่งที่ติดมือและลากรอบได้ยาวขึ้นมาอีกนิดด้วยท่อไอเสียสแตนเลสปลายทรงกระบอก และเก็บรายละเอียดตามจุดต่างๆ ด้วยน็อตสีทอง และอลูมินั่ม

Kawasaki Enduro 3 Hrs. สนามที่ 4 จังหวัดสุพรรณบุรี

จบลงด้วยความมัน เละเทะ เลอะเทอะ ท่ามกลางความร้อนระอุ และ เฮฮา สนุกสนาน รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ได้มิตรภาพใหม่ๆ ของทีมแข่งที่เดินทางมาจากหลายๆ จังหวัด
เกมเร้าใจตั้งแต่เริ่มสตาร์ทในรุ่นนับรอบ Lap Time ของ KLX Series 140 150 ต่อด้วย Versys x300 และ ความอึดของ Adventure Open ปิดท้ายด้วยไฮไลท์ Enduro 3 Hrs. ที่เปิดคันเร่งไล่กันแบบไม่ยั้ง ฝุ่นตลบ น้ำกระจาย ดินกระจุย ลัมลุกคลุกคลาน กว่าจะผ่านกันมาได้ ด้วยพละกำลังนักแข่ง แรงเชียร์ และสมรรถนะของรถจักรยานยนต์ คาวาซากิ KLX Series รับรางวัลบนโพเดี้ยม

สนามหน้าห้ามพลาดทุกประการ วันที่ 21-22 ธ.ค. ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ รับประกับความมัน โหด มัน เร้าใจ ของสภาพพื้นที่แข่งขัน อากาศเย็นสบายๆ และจะมีพิธีมอบรางวัลแชมป์ประจำปี และปาร์ตี้แคมปิ้ง หลังจบการแข่งขัน

รู้แล้วบอกต่อ…เชื่อสิ เดือนกว่าๆ แป๊บเดียวก็ถึง