“ก้อง-สมเกียรติ” ส่งต่อแรงบันดาลใจสู่นักบิดรุ่นเยาว์ “ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์” ต่อยอดฝันนักบิดไทย สู่ “เวิลด์ กรังด์ปรีซ์”

การมี “ไอดอล” ที่ประสบความสำเร็จนับเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับเยาวชนที่ต้องการต้นแบบในการก้าวไปสู่ความสำเร็จ และการได้พบกับ “ไอดอล” ที่มาสร้างแรงบันดาลใจถึงสนามแข่ง ยิ่งเติมเต็มแรงจูงใจและไฟฝันให้กับเด็กๆ เหล่านี้มากขึ้นไปอีก

ล่าสุดในการแข่งขัน “ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์” สนามที่ 4 ของฤดูปี 2023 “ก้อง” สมเกียรติ ได้เดินทางเข้าร่วมงาน ให้กำลังใจและคำแนะนำเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักบิดเยาวชนทั้ง 16 คน ในรุ่นที่ 5 ซึ่งมีขึ้นที่สนามโกคาร์ท ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดขวัญใจชาวไทยโลดแล่นอยู่ในศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลที่ 5 ของตนเอง ภายใต้ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมและแข็งแกร่งอย่างมาก นั่นคือผลจากการ “พัฒนาตัวเอง” อย่างไม่หยุดยั้ง ยอดนักบิดไทยวัย 24 ปี ยืนอยู่บนยอดพีระมิดของโมเดล “เรซ ทู เดอะ ดรีม” โครงการปั้นนักบิดสู่ “เวิลด์ กรังด์ปรีซ์” ของ ฮอนด้า ซึ่งเป้าหมายคือผลักดันให้มีนักบิดไทยก้าวขึ้นไปแข่งขัน “โมโตจีพี” ภายในปี 2025 ฮอนด้า สานต่อโครงการพัฒนานักกีฬาสายมอเตอร์สปอร์ตของพวกเขามากกว่า 30 ปี และโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม” ถือเป็นการพลิกโฉม “เรซซิ่ง อะคาเดมี่” ในระดับอาเซียนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยฮอนด้าวางรากฐานให้แก่เยาวชนอย่างมีแบบแผน ซึ่งเริ่มต้นจาก “ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์” ซึ่งปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 เพื่อผลิตนักบิดเยาวชนไทย “รุ่นต่อรุ่น” ด้วยรูปแบบสถาบันฝึกสอนสำหรับการแข่งขันที่มุ่งไปสู่ “เวิลด์ กรังด์ปรีซ์” อย่างแท้จริง”ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์” ถูกก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 2017 นับตั้งแต่ปีนั้นเป็นต้นมา พวกเขาปั้นนักบิดดาวรุ่งหลายรายของประเทศให้ก้าวขึ้นมาเป็นนักบิดในสังกัด “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ลงแข่งขันทั้งในระดับประเทศ และนานาชาติ
โดยเป็น “เรซซิ่ง อะคาเดมี่” รายแรกในประเทศไทยที่ริเริ่มโครงการคัดเลือกเยาวชนอายุ 9-14 ปี ด้วยการใช้ “เรซแมชชีน” อย่าง NSF100 ซึ่งมีต้นแบบมาจากรถแข่งโมโตทรี พร้อมกับชุดแข่งที่มีแอร์แบคเพื่อความปลอดภัยตามกฎข้อบังคับสำหรับรายการแข่งภายใต้การรับรองของ FIM (สำหรับนักบิดอายุต่ำกว่า 18 ปี) และมอบประสบการณ์ในสนามจริงที่ปรับเปลี่ยนหมุนเวียนฝึกสอนให้เยาวชนในรูปแบบต่างๆ
การฝึกสอนโดยเฮดโค้ชมืออาชีพระดับตำนาน “เวิลด์ กรังด์ปรีซ์” อย่าง “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ อดีตนักบิดโมโตทูชาวไทย ที่มาถ่ายทอดประสบการณ์กว่า 30 ปีที่โลดแล่นในสังเวียนความเร็วสู่รุ่นน้อง รวมถึงโค้ชสุดแกร่งอย่าง “ดรีม” สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง คอยเสริมทักษะด้านต่างๆ พร้อมทัพนักบิดสังกัด ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ชุดปัจจุบันในทุกรายการมาฝึกสอนถ่ายทอดความรู้อย่างใกล้ชิด อาทิ “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช, “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์, “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์, “นิว” ปัณณสรณ์ แก้วสนธิ ฯ
ขณะที่ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ที่ได้เดินทางไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์” เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจและมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับเด็กๆ ตอกย้ำแนวทางการพัฒนาตัวเองของเขาส่งต่อไปยังนักบิดรุ่นน้อง
“ผมเริ่มสนใจมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เคยขี่เล่นบนตามท้องถนน ซึ่งรู้สึกว่าค่อนข้างอันตรายมาก เมื่อได้ผันตัวเข้ามาอยู่ในสนาม เราสัมผัสถึงความปลอดภัย เพราะทุกอย่างมีมาตรฐาน ทุกคนคอยสนับสนุน มันเริ่มตั้งแต่ตรงนั้นจนถึงทุกวันนี้
ผมอยากเชิญชวนน้องๆ ทุกคนที่มีความฝัน พยายามเดินตามความฝันของเรา ว่าเราชอบอะไร ก็ให้มีวินัยกับมัน ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การฝึกซ้อม และพัฒนาทักษะการขับขี่ในสนาม สำหรับนักแข่งรถอาชีพนั้น ร่างกายสำคัญมากๆ รวมถึงสมองและจิตใจของเรา ต้องสัมพันธ์กันหมด เราต้องคิดตลอดว่ายังขาดตรงไหน เราต้องมีเพิ่มตรงไหน เพื่อลบทุกจุดบกพร่องของตัวเองในสนามแข่ง อย่าจำกัดความท้าทาย และท้าทายขีดจำกัดของตัวเองอยู่เสมอ เราต้องพัฒนาตนเอง อย่าหยุดในขณะที่คนอื่นไม่หยุด นั่นคือสิ่งที่ผมยึดถือมาตลอด” สมเกียรติ ฝากข้อความถึงน้องๆ
ปัจจุบัน “ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์” สร้างนักแข่งหลายคนขึ้นสู่สังเวียนการแข่งขันระดับนานาชาติ อาทิ “จิมมี่” บูรพา วันมูล ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่การแข่งขันดาวรุ่งชิงแชมป์เอเชียอย่าง เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2023 และสร้างเสริมประสบการณ์ในศึก ออล เจแปน โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2023
ยังมีเพชรเม็ดงามอย่าง “ข้าวกล้อง” จักรีภัทร พฤฒิสาร ซึ่งเป็นอีกคนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2023 และลงแข่งขันในศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2023 ร่วมกับทีมเมทดาวรุ่งของทีมอย่าง “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว
กลไกการพัฒนาถือว่ามีความสำคัญ แต่ “แรงบันดาลใจ” ก็สำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือสิ่งที่ “ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์” ใช้ส่งต่อจาก “รุ่นสู่รุ่น” และเป็นสิ่งที่ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา พร้อมเสมอที่จะมอบให้กับน้องๆ นักแข่งเยาวชนเหล่านี้ เพื่อล่าความฝันในโลกของมอเตอร์สปอร์ต เช่นเดียวกับที่เขากำลังไล่ล่าความสำเร็จอยู่ขณะนี้
ร่วมลุ้นและให้กำลังใจ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ตลอดฤดูกาล 2023 พร้อมติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” และ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ แชมเปี้ยน” รวมถึงส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าทุกคนได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม: www.facebook.com/HondaRacingTeamTH
สำหรับน้องๆ ที่ต้องการจะคว้าฝัน สนใจจะก้าวเข้ามาสู่วงการ Motorsport เพื่อจะเป็นนักแข่งระดับโลก สามารถดูข้อมูลโครงการ ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์ ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ: https://www.facebook.com/HondaAcademyThailand

ยามาฮ่าระเบิดศึกฟุตบอลกระชับมิตรสานสัมพันธ์กลุ่มบริษัทเช่าซื้อครั้งที่ 2

นายภาณุพล กิตติคำรณ รองผู้จัดการใหญ่ด้านการขายและการตลาด พร้อมด้วย นายจารุวัฒน์ มาลาพงษ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายเช่าซื้อและขายโครงการ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ให้เกียรติร่วมกิจกรรมฟุตบอลสานสัมพันธ์ระหว่างไทยยามาฮ่าและกลุ่มบริษัทเช่าซื้อ 7 บริษัท ณ สนามฟุตบอลระดับท็อปของไทยลีก ครั้งที่ 2 ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อสานความสัมพันธ์ เพิ่มความสามัคคี ระหว่าง ไทยยามาฮ่าและบริษัทเช่าซื้อ โดยกิจกรรมครั้งนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากบริษัทเช่าซื้อทั้ง 7 บริษัท ได้แก่ บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด, บริษัท เอส ลีสซิ่ง จำกัด, บริษัท ฐิติกร จำกัด, บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด, บริษัท ไฮเวย์ จำกัด, บริษัท คาเธ่ย์ จำกัด และบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ลีส จำกัด

สำหรับกิจกรรมฟุตบอลกระชับมิตรสานสัมพันธ์กลุ่มบริษัทเช่าซื้อ ครั้งที่ 2 นี้ บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด สามารถคว้าแชมป์ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่ โดยในกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความสนใจและมีผู้เข้าร่วมในกิจกรรมมากกว่า 700 คน ณ สนามฟุตบอลสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อเร็วๆ

XMAX Connected ตอกย้ำบทบาทพรีเมียมสปอร์ตออโตเมติก 300 ซีซี

XMAX Connected ตอกย้ำบทบาทพรีเมียมสปอร์ตออโตเมติก 300 ซีซี. ยกระดับการใช้งานด้วยเทคโนโลยี Y-Connect และ Garmin Navigation System​ การันตีคุณภาพยอดขายอันดับ 1 ของโลก

ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ สานต่อความสำเร็จของพรีเมียมสปอร์ตออโตเมติกยอดขายอันดับ 1 ของโลก กับ YAMAHA XMAX Connected ภายใต้ขุมพลัง 300 ซีซี. โด่ดเด่นเร้าใจด้วยดีไซน์ MAX DNA X Motif Full LED มาพร้อมไฟหน้า ไฟท้ายดีไซน์โฉบเฉี่ยวสไตล์ X พร้อมหลอด LED เต็มออปชั่นรอบคัน
Frame Motif แฟริ่งรูปบูมเมอแรง แข็งแรงตามแบบฉบับ MAX Series แฟริ่งสปอร์ตดุดัน ควบคุมคล่องตัว ชิลด์หน้าดีไซน์ใหม่เสริมความพรีเมียม สามารถปรับได้ 2 ระดับลดแรงลมปะทะได้ดี
เติมเต็มความมั่นใจและปลอดภัยด้วย TCS ปรับสมดุลความเร็วของล้อหน้า และล้อหลังให้ทำงานสัมพันธ์กัน ด้วยเซนเซอร์ควบคุมป้องกันล้อหลังหมนุฟรี ไม่สูญเสียการควบคุมรถ พร้อมระบบเบรก ABS ทั้งล้อหน้า และล้อหลังป้องกันล้อล็อก เพิ่มความปลอดภัยเมื่อเบรกกะทันหัน
Extra MAX Function ตอบโจทย์การใช้งานเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ ด้วย Smart Key System จุดสวิตช์กุญแจควบคุมสั่งการทุกจุดรอบคัน เหนือชั้นด้วยเทคโนโลยี​ Y-Connected Application เพื่อความสะดวก เชื่อมข้อมูลรถส่งตรงยังสมาร์ทโฟน กับ 11 ฟังก์ชั่นสุดล้ำ
ล้ำหน้าเหนือใครกับหน้าจอแสดงผลแบบ 2 หน้าจอ บนจอสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว และ Digital LCD 3.2 นิ้ว แสดงครบทุกข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลรถ และการขับขี่ การแสดงสายเรียกเข้า และข้อความ SMS เชื่อมต่อแสดงผลการเล่นเพลงจากสมาร์ทโฟน แสดงสภาพอากาศ และเวลา
พิเศษล้ำเหนือใครกับ Garmin StreetCross แสดงระบบนำทางที่แม่นยำ พร้อมการค้นหาสถานที่ที่กำหนด โดยไม่เสียค่าบริการ พร้อมข้อมูลแบบเรียลไทม์ แสดงเส้นทาง และเส้นทางเลี่ยงที่เป็นไปได้ รวมถึงเวลาในการเดินทางโดยประมาณ แจ้งสภาพอากาศจุดหมายปลายทาง และแจ้งเตือนเส้นทางที่อาจจะไม่ปลอดภัย เช่น โค้งหักศอก ทางจำกัดความเร็ว และทางวิ่งผ่านสถานศึกษา

“ก๊องส์-ธัชกร” ไล่แซงโหด คว้าท็อปเท็น จูเนียร์จีพี สนาม 5 บาร์เซโลน่า

“ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ระเบิดฟอร์มสุดโหด! แม้ต้องเจองานสุดหินในศึกดาวรุ่งชิงแชมป์โลก “จูเนียร์ จีพี” สนาม 5 ออกสตาร์ตกริด 27 ไล่แซงดุเดือด 17 คัน ผงาดคว้าท็อปเท็นอย่างสุดมันส์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่บาร์เซโลน่า ประเทศสเปน

การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบดาวรุ่งชิงแชมป์โลก รายการ เอฟไอเอ็ม จูเนียร์จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2023 สนาม 5 มีคิวดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ณ เซอร์กิต เดอ บาร์เซโลน่า-คาตาลุนญ่า ประเทศสเปนเกมในเรซแรกนับเป็นงานสุดหินของ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ต้องเริ่มเกมจากกริดที่ 27 โดยเจ้าของรถแข่งหมายเลข 5 ออกตัวอย่างยอดเยี่ยม ก่อนขยับเกาะกลุ่มกลางได้อย่างรวดเร็ว และบิดเข้าป้ายในอันดับ 10 ด้วยเวลา 27 นาที 41.087 วินาที ตามหลังผู้ชนะอย่าง 3.724 วินาที
ส่วนเรซที่ 2 นักบิดไทยขยับขึ้นมาออกตัวในกริดที่ 18 และไต่ขึ้นมาอยู่ในท็อป 15 สร้างโอกาสลุ้นเก็บแต้มอย่างมาก ทว่า ธัชกร พลาดล้มอย่างน่าเสียดายในช่วงกลางเรซ
ผ่านการแข่งขัน 5 สนามแรก ธัชกร ยังคงรั้งอันดับ 10 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ เก็บไปทั้งสิ้น 51 คะแนน ก่อนจะเดินทางไปแข่งขันสนามถัดไปที่ มอเตอร์แลนด์ อราก้อน ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 7-8 ตุลาคมนี้
แฟนความเร็วชาวไทยสามารถติดตามข่าวสาร ส่งกำลังใจเชียร์ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี และติดตามความเคลื่อนไหวของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม https://www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

“ทีมไทย” ขยับผลงานคว้าแต้ม เวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต สนาม 7 พิสูจน์มาตรฐานในเรซระดับโลก

ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ยอดทีมแข่งไทยในระดับโลก ยกระดับการทำงานขึ้นอีกครั้งในศึก เวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต แชมเปียนชิพ 2023 สนาม 7 ที่ อิโมลา เซอร์กิต ประเทศอิตาลี
การแข่งขันเรซที่ 2 ของศึก เวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต แชมเปียนชิพ 2023 สนาม 7 มีขึ้นเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ ออโตโดรโม อินเตอร์นาซินาเล ดิ อิโมลา ประเทศอิตาลี ภายใต้อากาศร้อนระอุของทวีปยุโรป ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อการควบคุมรถแข่งที่มีการยึดเกาะของแทร็กน้อยกว่าปกติ
เกมเรซนี้ถือเป็นงานท้าทายนักบิดไทยอย่าง “ตี” อนุภาพ ซามูล เจ้าของรถแข่งหมายเลข 51 จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม อย่างมาก โดยเจ้าตัวได้เริ่มเกมจากกริดที่ 23 ขณะที่ทีมเมทอย่าง แอนดี้ เวอร์ดัว นักบิดเฟรนช์ออกตัวจากกริดที่ 21 โดยผลการแข่งขันปรากฏว่า เวอร์ดัว ขยับขึ้นมาจบเรซในอันดับ 11 คว้า 5 คะแนนให้กับทีมได้สำเร็จตามเป้า ขณะที่ อนุภาพ พลาดล้มอย่างน่าเสียดาย
นายวีรพงษ์ ธนากิจจานนท์ ผู้อำนวยการ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม กล่าวว่า “เราทำงานกันได้ตามเป้าที่วางไว้ โดยเฉพาะในส่วนของทีมช่างที่ยกระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนได้รับคำชมจากชาวต่างชาติในแพ็ดด็อกของ เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ การคว้าแต้มได้ในสนามนี้คือการเติมกำลังใจให้กับทีมของไทยเรา ส่วน อนุภาพ นักแข่งไทยก็ทำงานอย่างหนัก และมีกำลังใจดีเยี่ยมในการปรับตัวและพัฒนาตัวเองในการแข่งขันระดับโลกอย่างมาก”ทั้งนี้ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม มีคิวดวลความเร็วสนามถัดไปในศึก เวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต แชมเปียนชิพ 2023 ระหว่างวันที่ 28-30 กรกฎาคมนี้ ที่ ออโตโดรม โมสต์ สาธารณรัฐเช็ก

โพเดี้ยม!!! ??????

“ไอเดีย” กฤตภัทร เขื่อนคำ #32 ดาวรุ่งจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม เชือดรอบสุดท้ายคว้าอันดับ 2 ผงาดโพเดี้ยมศึกดาวรุ่งชิงแชมป์ยุโรปเรซแรกที่ อิโมล่า ประเทศอิตาลี ส่วนทีมเมท “เอิร์ธ” ธุรกิจ บัวผา คว้าอันดับ 8 ???

“แสตมป์-อภิวัฒน์” คัมแบ็ก! “ไทยยามาฮ่า” ฟูลทีมลุย “เวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต” สนาม 7 ที่ อิตาลี

“ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม” ยืนยันอย่างเป็นทางการ “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ยอดนักบิดไทยคัมแบ็กสู่ทีมอีกครั้งหลังฟื้นตัวจากการผ่าตัดรักษาอาการ “อาร์มปั๊ม” เป็นที่เรียบร้อย เพื่อลุยศึก เวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต แชมเปียนชิพ สนาม 7 ที่ อิตาลีสุดสัปดาห์นี้”แสตมป์” อภิวัฒน์ มีอาการ “อาร์มปั๊ม” รบกวนมาตลอดนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2023 ซึ่งยอดทีมแข่งไทยอย่าง ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ก่อนจะต้องพักการแข่งขัน 2 สนามล่าสุดที่ มิซาโน และ โดนิงตัน พาร์ค โดยทีมใช้บริการ “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ นักบิดไทยและ แอนดี้ เวอร์ดัว ดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสลงแข่งแทนในสนามดังกล่าว โดย “แสตมป์” อภิวัฒน์ เข้ารับการผ่าตัดหลังผ่านการแข่งขันที่ บาร์เซโลน่า และใช้เวลากว่า 2 เดือนในการฟื้นตัว ก่อนจะได้รับการยืนยันจากทีมให้กลับมาสู่สนามได้อีกครั้งในสนามนี้ เพื่อร่วมงานกับทีมเมทอย่าง “ตี” อนุภาพ ซามูล
นายวีรพงษ์ ธนากิจจานนท์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายกีฬายานยนต์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด “หลังพักรักษาตัวไปกว่า 2 เดือน ตอนนี้ แสตมป์ ก็ได้กลับมาสู่ทีมอีกครั้ง โดยสภาพร่างกายอยู่ที่ 95% แต่ตัวนักแข่งเองใจสู้และอยากกลับมาลงแข่งขันร่วมกับทีมให้เร็วที่สุด และเรามองว่าการฟื้นตัวโดยการลงสนามแข่งถือเป็นแนวทางที่ดีที่สุด”
“ตอนนี้การทำงานของทีมถือว่าลงตัวมากครับ ทั้งในแง่ทีมช่างที่ประสานงานกันได้ดี มีการเซ็ตรถแข่งที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักบิดของเราทั้ง อนุภาพ และ อภิวัฒน์ ก็กำลังเร่งปรับตัว ซึ่งในรายของ อภิวัฒน์ นั้นคงต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปจากสภาพร่างกาย แต่เราเชื่อมั่นว่าจะกลับมาเดินหน้าคว้าแต้มได้อีกครั้งตามเป้าที่วางไว้”
ล่าสุด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ได้เดินทางมุ่งหน้าสู่ประเทศอิตาลีเรียบร้อยแล้วเมื่อวันอังคารที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีคิวลงซ้อม 2 ครั้งแรกในวันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคมนี้ ก่อนจะจัดอันดับสตาร์ตและแข่งขันเรซแรกในวันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม และแข่งขันเรซ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคมนี้ ที่ ออโตโดรโม อินเตอร์นาซินาเล ดิ อิโมล่า ประเทศอิตาลี

“ก้อง-สมเกียรติ” เผยโปรแกรมช่วงพักเบรก ฟิตซ้อมเพื่อเป้าหมายสู่ฝันใน “เวิลด์ กรังด์ปรีซ์” พร้อมเปิดตัวคู่ซ้อมคู่ใจวิถีนักบิดระดับโลก

ในฐานะนักกีฬาอาชีพ “การเสียสละ” ชีวิตส่วนตัวถือเป็นหนึ่งในปัจจัยความสำเร็จ ทุกช่วงเวลาของนักกีฬาระดับโลกเหล่านี้ ต่างก็ต้องทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อม เพื่อให้พร้อมที่สุดสำหรับการแข่งขันที่รออยู่ เช่นเดียวกับ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักกีฬาแข่งรถชาวไทยในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รุ่น โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ที่อยู่ระหว่างช่วงพักเบรกฤดูกาล 5 สัปดาห์ โดยเจ้าตัวใช้ช่วงเวลานี้เดินทางกลับ “บ้านเกิด” เพื่อเติมพลังงานให้กับตัวเอง โดย “ก้อง” สมเกียรติ มีตารางการทำงานที่ชัดเจน เขาบอกว่าขอใช้เวลา 1 สัปดาห์เพื่อพักผ่อนกับครอบครัวและเพื่อนๆ หลังจากนั้น เขามีโปรแกรมที่ต้องทำร่วมกับ “ไทยฮอนด้า” ซึ่งสำคัญกับเขาอย่างมาก หลายคนอาจมีคำถามว่ากีฬาแข่งรถทำไมต้องออกกำลังกายและซ้อมหนักขนาดนั้น

“ก้อง” สมเกียรติ ตอบด้วยรอยยิ้มว่า “นักแข่งรถอาชีพในระดับยุโรป เขาพยายามซ้อมทุกวัน สัปดาห์ที่ว่างก็จะไปซ้อมทุกวัน ปั่นจักรยาน ขี่รถซ้อมในสนาม หรือ โมโตครอส นั่นคือเหตุผลที่ผมได้คิดได้ลองทำ มันช่วยให้เราพร้อมอยู่เสมอ มันคือความพยายามในการรักษาสภาพร่างกายให้ฟิตสมบูรณ์ เมื่อถึงเวลาที่กลับสู่โปรแกรมการแข่งขัน จะให้เรามีความเร็วในระดับที่ดีอยู่เสมอ มันคือการรักษามาตรฐานของตัวเอง”

สำหรับนักแข่งอาชีพ การมี “คู่หู” คู่ใจคือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผ่านความหนักหน่วงของการฝึกซ้อมมาได้ โดยตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา “ก้อง” สมเกียรติ มีความสนิทสนมกันอย่างมากกับ “แซงค์” กฤษฎา จำรูญจารีต แชมป์โมโตครอสประเทศไทย 4 สมัยในสังกัด ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ทั้งคู่ไม่ได้สนิทชิดเชื้อกันเพียงเพราะเป็นนักกีฬาจากสังกัดเดียวกัน แต่กลับมีไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงกัน แถมยังแลกเปลี่ยนมุมมองด้านต่างๆ แม้จะต่างกันสุดขั้วในแบบของ “ทางเรียบ” และ “ทางฝุ่น” ก็ตาม กลายเป็นการจับคู่ฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น

“ผมใช้การซ้อมโมโตครอสเพื่อสร้างกำลังแขนและขา และการฝึกสมาธิ ที่สามารถเอาไปใช้กับรถทางเรียบได้ มันช่วยฝึกในการควบคุมรถแข่ง ช่วงเบรกหนักๆ ที่รถสะบัด รถโมโตครอสจะเป็นรถที่ค่อนข้างสะบัดเยอะ หลุมค่อนข้างเยอะ เราจะพยายามทำอย่างไรให้เราขี่ได้ค่อนข้างนิ่ง ซึ่งเอาไปปรับใช้กับการขี่ทางเรียบได้ ส่วนใหญ่ในสัปดาห์หนึ่งจะมีให้เวลาซ้อมโมโตครอส 3 วัน โดยจะใช้เวลาช่วงบ่าย ประมาณ 4 ฮีต ฮีตละ 20 นาที อีก 2 วัน ผมจะฝึกทางเรียบต่อ ส่วนวันที่เหลือก็แบ่งให้กับการเล่นยิมหรือไปวิ่ง ฟื้นฟูร่างกายด้วยการออกกำลังเบาๆ ผมกับแซงค์ เราจะซ้อมด้วยกันตลอด ทุกครั้งมีแผนว่าเราจะซ้อมอะไร ทำอะไรบ้าง แก้ตรงไหน เพื่อให้สามารถเอาไปใช้กับในรายการที่เราแข่ง ซึ่ง แซงค์ เป็นแชมป์ประเทศไทย 4 สมัย เทคนิคต่างๆ ของเขาช่วยผมได้เยอะ เราพยายามแลกเปลี่ยนความคิดกัน มันช่วยผมได้เยอะมาก พอกลับไปขี่รถทางเรียบมันจะทำให้เราปรับปรุงตัวเองโดยอัตโนมัติ และเวลาผมไปซ้อมทางเรียบ ก็จะพาแซงค์ไปด้วย เราก็จะไปแลกเปลี่ยนกัน พยายามหารายละเอียดแชร์กัน” สมเกียรติ เผย

สำหรับ “ก้อง” สมเกียรติ มีตารางแข่งขัน 12 สนามที่เหลือของ โมโตทู 2023 ซึ่งถือเป็นโปรแกรมการเดินทางและการทำงานที่โหดและหินมาก ในสนามที่เหลือเหล่านั้น มีหลายสนามโปรดของเขา นั่นทำให้นักบิดไทยรายนี้มีความหวังอย่างมากที่จะขึ้นโพเดียมแรกให้ได้ และขยับอันดับโลกเข้าไปหากลุ่มหัวแถว
“ช่วง 12 สนามที่เหลือผมจะสู้อย่างเต็มที่เช่นเดียวกับที่ทำมาเสมอ ที่ ออสเตรเลีย เป็นสนามที่ผมเคยทำได้ดีและชื่นชอบ รวมถึงสนามในโซนเอเชียที่ผมอยากเก็บโพเดียมให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะที่ มาเลเซีย ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย”
“ส่วนในเมืองไทยเป้าหมายเดียวคือคว้าชัยชนะโฮมเรซให้ได้ มันคือการตอบแทนแฟนๆ ที่เข้ามาชมในสนามได้ดีที่สุด นั่นคือหนึ่งในความฝันของผม” สมเกียรติ ทิ้งท้าย
เส้นทางสายนี้ของ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยังคงเต็มไปด้วยความท้าทาย และด้วย “วิถีแห่งนักกีฬาอาชีพ” เขาทุ่มเทอย่างหนักเพื่อเป้าหมายสูงสุด ไม่เพียงใน โมโตทู ฤดูกาลนี้ และคือเป้าหมายสู่ โมโตจีพี ในอนาคต ตามโร้ดแมปของ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม”
โดยแฟนความเร็วชาวไทยสามารถติดตามข่าวสารของ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา พร้อมส่งกำลังใจเชียร์ยอดนักบิดไทยในศึก โมโตจีพี รุ่นโมโตทู ตลอดทั้งฤดูกาล และติดตามความเคลื่อนไหวของนักบิดฮอนด้าได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

Alpha Volantis Horizon300

สกู๊ตเตอร์ตัวเล็กใจใหญ่ แค่เห็นก็โดนใจ…ดีไซน์ ไม่ธรรมดา ทรงเพียวลู่ลมพนร้อม Air Intake ระบายความร้อนใต้เบาะถ่ายเทออหด้านข้างด้วย Side Vent สะท้อนความโดดเด่นด้วยระบบไฟส่องสว่าง Full LED และไฟหน้ส Daytime Running Light

แรงเกินตัว ด้วยเครื่องยนต์ 300 ซีซี สูบเดี่ยว ที่มีอัตราเร่งเร้าใจ บิดติดมือ เรียกม้าได้ทุกรอบเครื่องยนต์ ออกตัวเร็ว เร่งแซงเฉียบขาด

ท่านั่งกระชับ ควบคุมง่าย พลิกเลี้ยวได้เร็วคล่องแคล่ว ช่วงล่างแอบกระด้างนิดนึง ตกหลุมแรงๆ มีสะท้าน แต่ก็ยังถือว่าพอได้ วงล้อแม็ก 12 นิ้ว ที่ใส่ยางใหญ่มาให้ เสริมสมรรถนะการเกาะยึดได้มั่นใจ เข้าโค้งเนียนๆ ดิสก์เบรกหน้า/หลัง แบบกระจายแรงเบรก จากหลังไปข้างหน้า รู้สึกได้ถึงการชะลอหยุดด้วยการใช้แค่เบรกหลังเพียงอย่างเดียว เบรกหน้าก็ทำงานใช้ได้
เรื่องอัตราเร่งความเร็ว ทะลุ 130 กม./ชม. กับเครื่องยนต์ และบอดี้ขนาดนี้ เหลือๆ สำหรับการใข้งาน แบะการออกไปเที่ยว

CL300 The Honda Scrambler

ทรงมันได้กำลังพอดีมือ ดีไซน์คลาสสิก ผสมผสานความโมเดิลของยุคใหม่ เหมาะกับทุกเลเวล สกีลไหนก็ขี่สนุก

อัตราเร่งดี ออกเร็ว เร่งแซงกทันใจ ท่านั่งสบาย ตัวรถเพรียว ควบคุมง่าย เบรกดี ยางแจ่มลุยได้ ทางดิน ทางดำ
แค่นี่ไม่พออีกเหรอคร้าบบบบ…
ราคาสมเหตุสมผล 149,900 บาท รีบไปเอาตางค์…สู่ขอซะ

ยามาฮ่าจัดกิจกรรม FINN Fest เทศกาลลานฟินน์ ส่งตรงลงใต้เต็มอิ่มจุใจ พร้อมคอนเสิร์ต ลำไย ไหทองคำ สุดฟินน์

นายพลัฏฐ์ ประวีร์ชานนท์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดกลุ่มรถสปอร์ต และกลุ่มรถครอบครัว นายกำพล พรสูงส่ง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายภาคใต้และภาคกลาง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ถ่ายภาพร่วมกับนายภัทร บำรุงชาติอุดม กรรมการผู้จัดการ ตรังเอสทีกลการ ในกิจกรรม FINN Fest เทศกาลลานฟินน์ ครั้งที่ 3 ณ จังหวัดตรัง โดยภายในงานจัดเต็มโปรโมชั่นสุดพิเศษ! ออกรถยามาฮ่าฟินน์ ฟรีดาวน์ พร้อมรับของแถมฟรี 4 รายการ พร้อมให้บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องฟรี 1 ปี ( 4 ระยะ) จากร้าน ตรังเอสทีกลการ พร้อมการการันตีรับประกันทั้งคัน 5 ปีโดยไม่จำกัดระยะทาง

โดยภายในงานยังจัดเต็มกิจกรรมสำหรับชาวยามาฮ่า ฟินน์ อาทิ การบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องฟรีเมื่อขี่ยามาฮ่า ฟินน์เข้าร่วมงาน การแข่งขันเกมการละเล่นพื้นบ้าน 5 ชุมชน และกิจกรรม Yamaha Finn Go อร่อยกับซุ้มอาหารและเครื่องดื่มแบบจัดเต็ม ปิดท้ายด้วยคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ลำไย ไหทองคำ ที่มาร่วมส่งความฟินน์ ให้กับชาวตรังทุกท่าน
โดยกิจกรรม FINN Fest เทศกาลลานฟินน์ ครั้งที่ 3 จัดขึ้น ณ ลานหน้าอำเภอย่านตาขาว จ.ตรัง เมื่อเร็วๆ นี้ สำหรับกิจกรรม FINN Fest เทศกาลลานฟินน์ ครั้งที่ 4 จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม 2566 ที่จังหวัดราชบุรี

“ไทยยามาฮ่า” พร้อมดัน “ไอเดีย-กฤตภัทร” บิด โมโตทรี เต็มฤดูกาล

“ไทยยามาฮ่า” ยืนยันพร้อมผลักดันนักบิดดาวรุ่งชาวไทยอย่าง “ไอเดีย” กฤตภัทร เขื่อนคำ เข้าร่วมแข่งขันในศึก โมโตทรี เวิลด์ แชมเปียนชิพ แบบเต็มฤดูกาลในปีหน้า หากผลงานเป็นที่น่าพอใจในการลงบิด ไวลด์การ์ด โมโตทรี รายการ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ปลายเดือนตุลาคมนี้ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด สร้างข่าวฮือฮาด้วยการประกาศส่ง “ไอเดีย” กฤตภัทร เข้าร่วมแข่งขันในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2023 สนาม 17 รายการ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ อย่างเป็นทางการ ด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ดในรุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปียนชิพ
โดย นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า “ในปีนี้ ยามาฮ่า ยังคงภาคภูมิใจกับการเป็นส่วนหนึ่งของ โมโตจีพี ในประเทศไทย เราพร้อมสร้างความตื่นตาตื่นใจ และความประทับใจให้แฟนความเร็วชาวไทยเพื่อให้ได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีตลอดการแข่งขัน ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์”
“นอกจากนี้ เรายังภูมิใจอย่างมากที่จะส่งนักบิดดาวรุ่งชาวไทยอย่าง “ไอเดีย” กฤตภัทร เขื่อนคำ ลงแข่งขันด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ดในรุ่น โมโตทรี ภายใต้สังกัด ‘ทีมไทย’ ของเราอย่าง ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม นี่จะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเด็กไทยสู่การแข่งขันระดับเวิลด์คลาส”
ด้าน นายวีรพงษ์ ธนากิจจานนท์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายกีฬายานยนต์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “เราเตรียมการเรื่องนี้มาสักระยะแล้วครับ อย่างที่ทราบดีว่า ยามาฮ่า มีโครงการ โร้ด ทู เดอะ เวิลด์ คลาส ซึ่งเป็นแคมเปญในการผลักดันนักบิดเยาวชนไทยให้ก้าวเข้าสู่การแข่งขันระดับโลก ซึ่ง “ไอเดีย” กฤตภัทร ก็อยู่ในโร้ดแม็ปนี้ และเขาเองก็สร้างผลงานประทับใจกับการแข่งขัน Yamaha R3 bLU cRU European Championship ในปีนี้”
“ตอนนี้เราได้เตรียมแผนต่างๆ สำหรับ กฤตภัทร แล้ว โดยจะเริ่มการซ้อมรถซูเปอร์สปอร์ต และรถโมโตทรี เพื่อสร้างความคุ้นเคย นอกจากนี้จะยังส่งเข้าร่วมแข่งขันในรายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เพื่อให้คุ้นเคยกับความเร็วระดับสูง”
“นอกจากนี้ เรายังพร้อมจะผลักดันเขาให้ลงแข่งขันใน โมโตทรี เวิลด์ แชมเปียนชิพ แบบเต็มฤดูกาล หากเขาสามารถปรับตัวกับรถ โมโตทรี ได้ ถ้าเขาทำได้เราก็พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะหากเขาทำผลงานได้ดีในไวลด์การ์ด และการทำงานร่วมกับทีม ซึ่งในครึ่งนี้เราวางแผนจะใช้ทีมไทยของเรา นั่นคือ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม และอาจมีบุคลากรจากต่างชาติที่ทำงานกับเราในทีม เวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต แชมเปียนชิพ มาร่วมด้วย”
ทั้งนี้ ศึก ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ จะดวลความเร็วระหว่างวันที่ 27-29 ตุลาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์