“ไทยฮอนด้า” เอาใจลูกค้า “ฮอนด้า บิ๊กไบค์” จัด Meet & Greet สุดเอ็กซ์คลูซีฟ กระทบไหล่ “มาร์ค มาร์เกซ” แชมป์โลกผู้ยิ่งใหญ่

บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด โหมโรง โมโตจีพี จัดกิจกรรมสุดพิเศษเอาใจลูกค้า “ฮอนด้า บิ๊กไบค์” กระทบไหล่ “มาร์ค มาร์เกซ” แชมป์โลก 8 สมัยจาก เรปโซล ฮอนด้า ก่อนลุยศึก โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ สุดสัปดาห์นี้ ที่ สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์

กิจกรรมดังกล่าวมีขึ้นที่ Honda BigWing รามอินทรา ในช่วงเช้าวันอังคารที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา โดย บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด มอบประสบการณ์สุดพิเศษให้ตัวแทนจาก ดีลเลอร์ บิ๊กวิง 15 สาขา และลูกค้า ฮอนด้า บิ๊กไบค์ 25 คน เข้าร่วม Meet & Greet กับ “มาร์ค มาร์เกซ” นักบิดชาวสแปนิชที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับ ฮอนด้า ใน โมโตจีพี และเป็นขวัญใจของแฟนคลับทั่วโลกจากลีลาการบิดที่เร้าใจ แถมยังคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 8 ต่อหน้าแฟนชาวไทยเมื่อปี 2019

โดย มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร ไทยฮอนด้า ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และมอบของขวัญสุดพิเศษจาก “ไทยฮอนด้า” ให้กับมือของ มาร์เกซ ขณะเดียวกันยังเซอร์ไพรส์ผู้เข้าร่วมงานทั้ง 40 คน ด้วยของขวัญพร้อมลายเซ็นจากมือของ “มาร์ค มาร์เกซ” ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับทุกคนภายในงานอย่างมาก
ปิดท้ายกิจกรรมครั้งนี้ด้วยการถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน โดยมี “มาร์ค มาร์เกซ” เป็นพระเอกของงาน พร้อมด้วย ดร.อารักษ์ พรประภา ประธาน บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ร่วมกับ มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร ไทยฮอนด้า และลูกค้าผู้ร่วมงาน 40 คน ยอดนักบิดไทย 2 คน อย่าง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา และ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ก่อนจะเดินทางไปแข่งขันในศึก โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ระหว่างวันที่ 27-29 ตุลาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

Honda เปิดตัว ‘Monkey 56th Anniversary Custom Edition’ สีเทาใหม่สไตล์ Grey Ray

CUB House by Honda เปิดตัว ‘New Monkey 56th Anniversary Custom Edition’ รถคัสต้อมตัวใหม่ล่าสุด เนื่องในโอกาสครบรอบ 56 ปี ของ Monkey ความซนระดับตำนานของเจ้าลิงสุดซ่าที่มีมาตั้งแต่ปี 1967 มาในธีมสีเทาใหม่ ‘Grey Ray’ พร้อมกับลาย Monkey Limited Edition 56 ปี เอาใจแฟนคลับสาวกลิงให้ได้สะสม

‘New Monkey 56th Anniversary Custom Edition’ มาพร้อมคอนเซปต์ ‘Born to Be New Grey Ray’ กับสีเทาใหม่ ‘Grey Ray’ เท่ ขรึมอย่างแตกต่าง ให้อารมณ์สปอร์ต์ด้วย Silver Chrome ลุคสปอร์ตพรีเมี่ยม แต่ไม่ทิ้งลายความแสบซุกซน มาพร้อมกับ Soft Emblem เจ้าลิงสุดซ่าใส่แว่น ก๊อกเกิ้ล ที่เป็นเอกลักษณ์ของความซนที่ไม่เคยเก่า เข้าคู่กับเบาะลายตารางหมากรุกที่สะท้อนความซนของรถได้เป็นอย่างดี

สำหรับสาวก Monkey ที่ต้องการเป็นเจ้าของ New Monkey Limited Edition 56th Anniversary ก่อนใคร สามารถเข้าไปชมรถคันจริงได้ที่ CUB House Flagship Store ทั้ง 15 สาขา และ CUB House Corner ทั้ง 23 สาขาทั่วประเทศไทย ในราคาแนะนำ 109,900 บาท
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th/cubhouse/
เฟซบุ๊ก CUB House : fb.com/cubhousebyhonda
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : fb.com/hondamotorcyclethailand

ฮอนด้าจัดเต็มความมันส์ วัยรุ่นพัทยาแห่ร่วมงาน ‘The New High Experience’

ไทยฮอนด้า มอบประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟให้กับคนรุ่นใหม่แบบจัดเต็ม ขนทัพ New Honda Giorno+ บุกจังหวัดชลบุรีในงาน ‘The New High Experience’ ณ ลานเครื่องบิน ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ New Honda Giorno+ ได้ใกล้ชิดกับพรีเซนเตอร์ซุปตาร์เมืองไทยอย่าง ‘ณเดชน์-คูกิมิยะ’ และนักร้องสาวเท่เสียงดี ‘Sarah Salola’ ในมินิคอนเสิร์ตอย่างใกล้ชิด โดยมีแฟนคลับและผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานอย่างล้นหลาม

ภายในงานครั้งนี้ ไทยฮอนด้าได้จัดกิจกรรมให้ลูกค้าได้มาทดลองขับขี่ New Honda Giorno+ พร้อมจัดมุมให้ถ่ายรูปอวดสไตล์สุดไฮแฟชั่นของแต่ละคน พร้อมชิงเงินรางวัลกว่า 10,000 บาท และได้ Meet & Greet ถ่ายรูปกระทบไหล่กับพรีเซนเตอร์ ‘ณเดชน์-คูกิมิยะ’ อีกทั้งยังมีโซนรถแต่ง New Honda Giorno+ จากสำนักแต่งชั้นนำของเมืองไทย หลากหลายสไตล์มาให้ชมกันถึงที่ นอกจากนี้ยังมีสินค้า Collection จาก Honda และสินค้าจาก H2C สำหรับรุ่น Giorno+ ให้เลือกช็อปกันอีกด้วย

สำหรับกิจกรรม ‘The New High Experience’ ครั้งถัดไป พร้อมระเบิดความมันส์กันต่อที่ภาคเหนือ พบกันที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ ลาน Central Festival Chiangmai ในวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคมนี้ นำทัพโดยศิลปินชื่อดังอย่างวง ‘Mirr’ และกิจกรรมมากมายภายในงานให้ร่วมสนุก
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของงาน The New High Experience ได้ที่

2024 Honda Forza&ADV750

ข่าวแจกสั้นพร้อมภาพจาก Honda Europe ที่ประชาสัมพันธ์ ทิศทางทำตลาดรถจักรยานยนต์โมเดลใหม่ ซึ่งรุ่นพิเศษใหม่และสีใหม่สำหรับ ปี2024ของรุ่น X-ADV; สีใหม่สำหรับ FORZA 750 แน่นอนว่าไม่มีรายละเอียดอย่างเป็นทางการอะไรอื่นนอกจาก การแจ้งถึงสีสันของรถรุ่นดังกล่าว กับการขยับตัวแบบไมเนอร์เช้นจ์ ซึ่งมีคร่าวๆตามข้อความสั้นๆที่อีเมล์แจกมาดังนี้

24YM X-ADV

 

24YM FORZA750 24YM FORZA750
24YM X-ADV

X-ADV Special Editions ใหม่ 2 รุ่น – Iridium Grey Metallic และ Grand Prix Red พร้อมกราฟิก ‘Big Logo’
X-ADV มีอยู่ใน Puco Blue ใหม่ด้วย
ปีที่แล้ว X-ADV เป็นรถจักรยานยนต์ที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับสามของฮอนด้าที่มีขนาดเกิน 350 ซีซี
X-ADV เกือบ 60,000 คันจำหน่ายในยุโรปตั้งแต่ปี 2559
ตระกูล Forza อันทรงเกียรติได้รับการเสริมด้วยรุ่น Matt Ballistic Black Metallic ใหม่ Forza 750 พร้อมชิ้นส่วนสีดำใหม่ การตกแต่ง และรายละเอียดสีทอง
Forza 750 วางจำหน่ายแล้วในสีแดง Candy Chromosphere Red ใหม่
รถยุโรป 2 รุ่นยอดนิยมของฮอนด้า X-ADV และ Forza 750 ได้รับการอัปเดตสีใหม่ที่น่าตื่นเต้นสำหรับ 24YM

X-ADV line-up สำหรับ 24YM เป็นรุ่นพิเศษใหม่สองรุ่น วางจำหน่ายทั่วยุโรปทั้งสี Iridium Grey Metallic และ Grand Prix Red รุ่นพิเศษทั้งสองรุ่นจะมีกราฟิก ‘โลโก้ขนาดใหญ่’ ที่โดดเด่น

ฮอนด้ายกทัพคว้าชัย ปิดฤดูกาล MXGP 2023 ควบโพเดียมคะแนนรวม Motocross of Nations ที่ฝรั่งเศส

ขุนพลนักบิดจากฮอนด้าโชว์ผลงานได้อย่างน่ายอดเยี่ยม กับชัยชนะของยอดนักบิดหนุ่มจากออสเตรเลีย “เจ็ตต์ ลอว์เรนซ์” (Jett Lawrence) ในคลาส MXGP & Open ขณะที่ผลการแข่งขันรวมของสนามนี้ทีมออสเตรเลียของคู่พี่น้อง “เจ็ตต์ ลอว์เรนซ์” (Jett Lawrence) และฮันเตอร์ ลอว์เรนซ์ (Hunter Lawrence) ขึ้นโพเดียมในอันดับที่ 2 ในรายการแข่งขัน Motocross of Nations ส่งท้ายฤดูกาลในรายการ MXGP 2023 ที่ เออนี่ ประเทศฝรั่งเศส (Ernee circuit in France)

Motocross of Nations การแข่งขันพิเศษท่ามกลางผู้ชมกว่าหนึ่งแสนคน ดวลกัน 3 เรซ คือ MXGP & MX2, MX2 & Open และ MXGP & Open การแข่งขันเรซแรกใน MXGP & MX2 นักบิดฮอนด้าค่อนข้างโชคร้ายเมื่อ “เจ็ตต์ ลอว์เรนซ์” (Jett Lawrence) พลาดล้มในช่วงต้นเรซ แต่พยายามยกรถแข่งขึ้นมาต่อสู้ต่ออีกครั้งและเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับที่ 6 ตามติดด้วย “ทิม ไกจ์เซอร์” (Tim Gajser) ในอันดับที่ 7 และ “ฮันเตอร์ ลอว์เรนซ์” (Hunter Lawrence) ในอันดับที่ 10

ต่อเนื่องกันเรซที่ 2 ใน MX2 & Open นักแข่งหลักจาก MX2 ได้ลงสนามอีกครั้งพร้อมต้อนรับนักบิดจากคลาสโอเพ่นร่วมแข่งขันด้วย ซึ่งนักบิดฮอนด้าอย่าง “ฮันเตอร์ ลอว์เรนซ์” (Hunter Lawrence) ทำผลงานด้วยการบวกแต้มให้กับทีมออสเตรเลียจากอันดับที่ 5 และผลงานของทีมสเปนโดย “รูเบน เฟอร์นานเดซ” (Ruben Fernandez) ในอันดับที่ 7
ขณะเรซที่ 3 ใน MXGP & Open “เจ็ตต์ ลอว์เรนซ์” (Jett Lawrence) บิดยอดรถแข่ง Honda CRF450R ออกสตาร์ตได้อย่างยอดเยี่ยมโชว์ความแข็งแกร่งตลอดทั้งเรซ สามารถควบคุมเกมเอาไว้และคว้าชัยชนะห่างจากคู่แข่งถึง 7 วินาที พร้อมคะแนนให้กับทีมออสเตรเลีย โดยมี “ทิม ไกจ์เซอร์” (Tim Gajser) บวกผลงานให้กับทีมสโลวีเนียจากอันดับที่ 5
จบการแข่งขันทั้ง 3 เรซ คะแนนรวมเป็นนักบิดฮอนด้าจากทีมออสเตรเลียของ “เจ็ตต์ ลอว์เรนซ์” (Jett Lawrence) คว้าโพเดียมในอันดับที่ 2 มาครอง โดยมีทีมสเปนของ “รูเบน เฟอร์นานเดซ” (Ruben Fernandez) รั้งอันดับที่ 7 และสโลวีเนียของ “ทิม ไกเซอร์” (Tim Gajser) อยู่ในอันดับที่ 9
ทั้งนี้ MXGP 2023 นับเป็นฤดูกาลสุดท้าทายของทัพนักบิดฮอนด้าและยอดรถแข่งทางฝุ่นอย่าง Honda CRF450R อย่างแท้จริง เมื่อตัวหลักอย่าง “ทิม ไกเซอร์” (Tim Gajser) นั้นได้รับบาดเจ็บหนักตั้งแต่ต้นฤดูกาล แต่ก็สามารถเรียกฟอร์มการขับขี่ที่ร้อนแรงได้ทันทีเมื่อลงแข่ง ขณะที่ทีมเมท “รูเบน เฟอร์นานเดซ” (Ruben Fernandez) ได้แสดงพัฒนาการพร้อมยกระดับการแข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งนักบิดที่พัฒนาขึ้นมาในรุ่น MX2 อย่าง “เจ็ตต์ ลอว์เรนซ์” (Jett Lawrence) ที่จะเป็นกำลังสำคัญในอนาคต ที่ฮอนด้าจะพร้อมกลับมาสู่การแข่งขันอีกครั้งในฤดูกาลหน้า

“กวาร์ตาราโร” บู๊โหด! คัมแบ็กคว้าโพเดียม โมโตจีพี สนาม 15 อินโดนีเซีย

“เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ยอดนักบิดเฟรนช์จาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า คืนฟอร์มเก่งอีกครั้ง ไล่ล่าอันดับสุดโหดก่อนบิดคว้าโพเดียมอันดับ 3 ในศึก โมโตจีพี สนาม 15 รายการ อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ ประเทศอินโดนีเซีย

ศึก โมโตจีพี 2023 สนาม 15 รายการ อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ สนาม เปอร์ตามิน่า มันดาลิกา เซอร์กิต ประเทศอินโดนีเซีย ชิงชัยทั้งสิ้น 26 รอบสนาม

เกมสนามนี้ มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี กลับมาอยู่ในความมั่นใจอีกครั้ง เมื่อ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลกปี 2021 เจ้าของหมายเลข 20 ได้ออกตัวจากกริดที่ 4 ส่วนทีมเมทชาวอิตาเลียนอย่าง ฟรานโก มอร์บิเดลลี เจ้าของหมายเลข 21 ได้ออกตัวจากกริดที่ 15
กวาร์ตาราโร ออกสตาร์ตได้ยอดเยี่ยมอีกครั้ง ทะยานขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ได้ในโค้งแรก แต่ก็โดนคู่แข่งเบียดลงมารั้งอันดับ 5 หลังผ่านไป 5 รอบแรกของการแข่งขัน โดยนักบิดเฟรนช์ค่อยๆ สร้างความเร็วขึ้นมาอย่างต่อเนื่องกับการไล่บี้ในกลุ่มหน้า ก่อนจะไล่แซงคู่แข่งขึ้นมาคว้าอันดับ 3 ได้สำเร็จ ด้วยเวลา 41 นาที 20.726 วินาที ตามหลังผู้ชนะเพียง 0.433 วินาทีเท่านั้น ส่วน มอร์บิเดลลี เข้าป้ายในอันดับ 14
จากฟอร์มยอดเยี่ยมดังกล่าว ส่งผลให้ กวาร์ตาราโร กลับมาคว้าโพเดียมได้อีกครั้ง และนี่คือการขึ้นโพเดียม 2 ครั้งใน 3 สนามล่าสุด โดยดาวบิดเฟรนช์ยังคงรั้งอันดับ 10 บนตารางแชมเปียนชิพ มีทั้งสิ้น 132 คะแนน ขณะที่ มอรร์บิเดลลี รั้งอันดับ 12 มีทั้งสิ้น 79 คะแนน
ทั้งนี้ ศึก โมโตจีพี 2023 สนามถัดไป รายการ ออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์ จะดวลความเร็วระหว่างวันที่ 20-22 ตุลาคมนี้ ที่ สนาม ฟิลลิปส์ ไอส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย

ยามาฮ่ามอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่นโชว์นวัตกรรมสุดล้ำ เปิดตัวบูธภายใต้แนวคิด “FEEL LIFE” ภายในงาน JAPAN MOBILITY SHOW 2023

บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ประกาศเข้าร่วมโชว์นวัตกรรมในงาน JAPAN MOBILITY SHOW 2023 ซึ่งจัดโดย JAPAN AUTOMOBILE MANUFACTURING ASSOCIATION,INC. โดยบูธ “FEEL LIFE” ของ YAMAHA จะนำนวัตกรรมสุดล้ำมาร่วมจัดแสดงภายในงานจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม ถึง 5 พฤศจิกายน ณ เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ภายในบูธยามาฮ่า “FEEL LIFE” โชว์นวัตกรรมสุดล้ำพร้อมจัดแสดงรถจักรยานยนต์ ยานยนต์ไฟฟ้า รถจักรยานไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์อื่นๆ พร้อมกันนี้จะทำการเปิดตัวโมเดลที่เป็น WORLD PREMIERE MODELS อีก 6 รุ่น นอกจากนี้ที่บูธยังจัดแสดงเทคโนโลยีเครื่องเสียง จากบริษัท ยามาฮ่าคอร์เปอเรชั่น ที่ร่วมใช้แบรนด์ยามาฮ่ากับยามาฮ่ามอเตอร์ ด้วยการแสดงบนเวทีและกิจกรรมอื่นๆ ที่แสดงเทคโนโลยีล่าสุดจากแบรนด์ยามาฮ่าทั้งสองบริษัท

ภายใต้แนวความคิด “FEEL LIFE” ของยามาฮ่าในปีนี้ ได้สื่อให้เห็นว่าเรากำลังสูญเสียความเป็นมนุษย์ จากการแยกตัวจากสังคม หรือการจำกัดการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน อย่างไรก็ตามถึงเวลาทวงคืนการใช้ชีวิตและเริ่มต้นค้นหาความเพลิดเพลินอีกครั้ง เพื่อพลิกฟื้นหัวใจทุกช่วงเวลาและการปฏิวัติความรู้สึก ที่ “ยามาฮ่า” เราพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้วยการระลึกถึงเรื่องนี้อยู่เสมอ ที่ยามาฮ่า เราพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อมนุษย์ เพื่อสร้างทุกความเป็นไปได้ รวมทุกคนเป็นหนึ่งเดียว ค้นหาประสบการณ์ใหม่ ท้าทายและเติบโต สำรวจตัวเองและเพิ่มศักยภาพด้วยประสบการณ์ใหม่ๆ จากทุกความเป็นไปได้ กระตุ้นความรู้สึกและ เติมเต็มชีวิตพร้อมทั้งยังมี WORLD PREMIERE MODELS โมเดลใหม่อีก 6 รุ่นจากยามาฮ่าที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลก ภายในงาน JAPAN MOBILITY SHOW ได้แก่

 

1. MOTOROiD2 ยานพาหนะส่วนบุคคลที่สามารถจดจำเจ้าของรถ ตั้งรถและปรับสมดุลของรถได้ด้วยตัวเอง สามารถเคลื่อนที่ตามท่าทางของเจ้าของได้และเดินทางเคียงข้างผู้ขับขี่ตลอดการเดินทาง
2. TRICERA รถสามล้อไฟฟ้าเปิดประทุน สามารถบังคับเลี้ยวได้ทั้ง 3 ล้อ จากคนขับเพื่อความตื่นเต้นและเร้าใจ
3. รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ELOVE ที่ถูกสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีที่ใช้ในการพัฒนา MOTOBOT ใช้ระบบ (AMSAS) Advanced Motorcycle Stabilization Assistant System สามารถทรงตัวด้วยตัวเองในความเร็วต่ำ
4. E-FV รถจักรยานไฟฟ้าขนาดเล็ก (MINIBIKE) สำหรับกิจกรรมในครอบครัว ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ พร้อมติดตั้งเทคโนโลยี Active Sound Control ช่วยให้ผู้ขี่เพลิดเพลินแบบเดียวกับรถที่ใช้น้ำมัน โดยสร้างเสียงการขับเคลื่อนของเครื่องยนต์เมื่อสตาร์ทหรือดับเครื่อง
5. Y-00Z MTB รถจักรยาน Mountain Bike ไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นจากแนวคิด Yamaha Motor Off-Road DNA ที่เสริมระบบระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแยกส่วน ร่วมกับบังคับเลี้ยวไฟฟ้า Electric Power Steering (EPS) system
6. Y-01W AWD รถจักรยานไฟฟ้าแนว Adventure ขับเคลื่อนสองล้อ
นอกจากนี้ ยังมีรถจักรยานยนต์ ยานยนต์ไฟฟ้า รถจักรยานไฟฟ้า และนวัตกรรมล้ำสมัยจาก YAMAHA MOTOR และ YAMAHA CORPORATION โดยท่านที่สนใจสามารถเข้าชมเว็บไซต์ได้ที่ https://global.yamaha-motor.com/…/japan-mobilityshow-2023/
และในปีนี้ ยามาฮ่าได้ยกทัพสื่อมวลชน และ Influencer เข้าร่วมชมภายในงาน JAPAN MOBILITY SHOW 2023 มากมาย โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง www.yamaha-motor.co.th หรือที่ Facebook: Yamaha Society Thailand

“ก้อง-สมเกียรติ” ฟิตเต็มร้อย! บินล่าแชมป์ต่อ ในโมโตทู อินโดนีเซีย

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ผู้สร้างประวัติศาสตร์คว้า 2 ชัยชนะใน “เวิลด์ กรังด์ปรีซ์” ลั่นฟิตเต็มร้อย! พร้อมเดินหน้าล่าชัยชนะในศึก โมโตทู สนามถัดไปรายการ อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ หลังได้รับใจอย่างเต็มเปี่ยม ในการกลับบ้านครั้งนี้ เจ้าตัวขอบคุณกำลังใจจากแฟนชาวไทย พร้อมความมุ่งมั่นทำแต้มโซนเอเชียทะยานขึ้นสู่ท็อปไฟว์ของโลก ก่อนบินลุยศึก โมโตทู ที่ มันดาลิกา ประเทศอินโดนีเซีย สุดสัปดาห์นี้

นักบิดไทยเจ้าของหมายเลข 35 ที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าชัยชนะเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ในศึกโมโตทู ครั้งที่ 2 ของตนเองในรายการ เจแปนีส กรังด์ปรีซ์ ที่ผ่านมา ด้วยการสร้างสถิติใหม่ตลอดทั้งสุดสัปดาห์ที่ สนาม โมบิลิตี้ รีสอร์ท โมเตกิ ส่งผลให้ขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 6 บนตารางคะแนนสะสม ตามหลังอันดับท็อปไฟว์แค่เพียง 5 แต้ม
“ก้อง-สมเกียรติ” ใช้ช่วงเวลาสัปดาห์เศษๆ กลับมาพักผ่อนและเก็บตัวฝึกซ้อมในเมืองไทย พร้อมกับเปิดตัวรถแข่งลายพิเศษสำหรับการแข่งขัน “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023” ซึ่งเจ้าตัวมีส่วนร่วมในการออกแบบ สะท้อนตัวตนออกมาอย่างสวยงามและมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น
“กลับมาเมืองไทยรอบนี้มีความพิเศษมากครับ ได้เจอครอบครัว เพื่อนๆ และแฟนคลับที่ให้กำลังใจมาตลอด ครั้งนี้คุณแม่ได้มารอรับผมถึงสนามบินด้วยตนเอง โดยการนำถ้วยแชมป์กลับมาให้คนไทยทุกๆ คนที่คอยเชียร์ผมมาตลอดได้ ถือเป็นการเติมพลังให้ตัวผมเองได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัวลายรถแข่งพิเศษที่จะใช้ในโฮมเรซด้วย ผมอยากให้ทั่วโลกได้เห็นความสวยงามและเอกลักษณ์ของไทยผ่านรถแข่งของผม และแน่นอนผมจะทำผลงานอย่างเต็มที่เพื่อเป็นของขวัญให้แฟนๆ ชาวไทยครับ” สมเกียรติ เผยนักบิดไทยวัย 25 ปี ที่เดินทางกลับไปพร้อมถ้วยรางวัลแชมป์ เจแปนีส กรังด์ปรีซ์ เปิดเผยว่า “ก่อนอื่นผมอยากจะขอขอบคุณชาวไทยที่คอยส่งแรงใจเชียร์ผมมาตลอด รวมถึงผู้สนับสนุนและทุกคนที่เกี่ยวข้องครับ””เราทำมันได้อีกครั้งที่ ญี่ปุ่น หลังรอคอยโพเดียมแรกมาหลายเดือน ซึ่งทำให้ผมมีความมั่นใจขึ้นอย่างมากกับการแข่งขันช่วงที่เหลืออยู่ของปีนี้ แน่นอนว่าช่วงนี้เราแข่งในโซนเอเชีย เป็นช่วงที่ผมต้องทำคะแนนให้ได้มากที่สุด และมีหลายสนามที่ผมถนัดด้วย””สนามต่อไปที่ อินโดนีเซีย เราชนะในปีที่ผ่านมา ผมหวังจะทำมันให้ได้อีกครั้ง รวมถึงสนามในเมืองไทยซึ่งเป็นโฮมเรซด้วยครับ เป้าหมายผมยังอยู่ที่ท็อปไฟว์บนตารางชิงแชมป์โลกของ โมโตทู ซึ่งเราเข้าใกล้มากแล้ว ตอนนี้รถแข่งของเราลงตัวและต้องพยายามรักษามาตรฐานนี้ไว้ให้ได้ในทุกๆ สนามครับ” สมเกียรติ ทิ้งท้าย
ทั้งนี้ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา เดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันจันทร์ที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้บริหารจาก “ไทยฮอนด้า” ครอบครัว และแฟนคลับร่วมให้กำลังใจอย่างอบอุ่น เพื่อลุยศึก อินโดนีเซียน กรังปรีซ์ ระหว่างวันที่ 13-15 ตุลาคมนี้ ที่ เปอร์ตามิน่า มันดาลิกา อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งนักบิดไทยคว้าชัยชนะมาครองได้ในปีที่ผ่านมา
แฟนความเร็วชาวไทยสามารถติดตามข่าวสารพร้อมส่งกำลังใจเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา และติดตามความเคลื่อนไหวของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : Race to The Dream

“ก๊องส์-ธัชกร” ลุยเดือด! คว้าท็อป 8 จูเนียร์ จีพี สนาม 6 “ปิเกราส” บิดฮอนด้า คว้าแชมป์โลก

“ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” โชว์ทักษะระดับโลกไล่บี้กับดาวรุ่งหัวแถวของโลกในศึก จูเนียร์ จีพี สนาม 6 ก่อนบิดคว้าอันดับ 8 ที่ มอเตอร์แลนด์ อารากอน ประเทศสเปน ขณะ อังเกล ปิเกราส นักบิดสแปนิชจาก ฮอนด้า ผงาดคว้าแชมป์โลกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดย “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยเจ้าของหมายเลข 5 สังกัด ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 6 โดยต้องดวลกับดาวรุ่งแถวหน้าของโลกในรายการนี้
หลังออกตัว “ก๊องส์-ธัชกร” ยังคงไล่บี้กับกลุ่มหน้าได้อย่างสุดมันส์ ด้วยการรั้งอันดับ 6 อย่างเหนียวแน่น ทว่าหลังผ่านครึ่งทางการแข่งขัน ดาวรุ่งชาวไทยเสียจังหวะหล่นลงไปอยู่ในอันดับ 9 ภายใต้การขับเคี่ยวอย่างเข้มข้นเกมมาเข้มข้นสุดๆ ในรอบสุดท้าย เมื่อนักบิดไทยขยับขึ้นมาถึงอันดับ 5 ทว่านักบิดกลุ่มหน้าเกี่ยวกันล้มถึง 3 คัน ขณะที่ “ก๊องส์-ธัชกร” ต้องเลี่ยงการชนในกลุ่มหน้า ก่อนบิดเข้าป้ายในอันดับ 8 อย่างสุดมันส์ ด้วยเวลาตามหลังผู้ชนะอย่าง อังเกล ปิเกราส นักบิดฮอนด้า เพียง 1.564 วินาที
หลังผ่านสนาม 6 “ก๊องส์-ธัชกร” ยังคงรั้งอันดับ 10 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ มีทั้งสิ้น 59 คะแนน ขณะที่ ปิเกราส และรถแข่ง “ฮอนด้า” ผงาดคว้าแชมป์โลกในศึก จูเนียร์ จีพี ไปครองได้สำเร็จ
ทั้งนี้ ศึก จูเนียร์ จีพี 2023 สนามถัดไปซึ่งเป็นสนามสุดท้ายของฤดูกาล จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 4-5 พฤศจิกายนนี้ ที่ เซอร์กิต ริคาร์โด ตอร์โม เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน
แฟนความเร็วชาวไทยสามารถติดตามข่าวสาร ส่งกำลังใจเชียร์ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี และติดตามความเคลื่อนไหวของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม https://www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

“ก๊องส์-ธัชกร” คว้ากริดที่ 7 ลุ้นล่าโพเดียม จูเนียร์ จีพี สนาม 6 ที่สเปน

“ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ฟอร์มร้อนแรง ทะยานคว้ากริดที่ 7 ในศึกดาวรุ่งชิงแชมป์โลก “จูเนียร์ จีพี” สนาม 6 ลุ้นล่าโพเดียมวันอาทิตย์นี้ที่ มอเตอร์แลนด์ อารากอน ประเทศสเปนศึกจักรยานยนต์ทางเรียบดาวรุ่งชิงแชมป์โลก รายการ เอฟไอเอ็ม จูเนียร์ จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2023 สนาม 6 มีคิวดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคมนี้ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยอย่าง “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี เจ้าของหมายเลข 5 จากสังกัด ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ เริ่มต้นสุดสัปดาห์ได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถทะลุเข้าสู่การควอลิฟายรอบ Q2 ได้แบบอัตโนมัติ

ล่าสุดผ่านการแข่งขันรอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ตเมื่อวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า “ก๊องส์-ธัชกร” ยกระดับความเร็วได้อย่างยอดเยี่ยม ทะยานคว้ากริดที่ 7 ไปครองด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 59.183 วินาที สร้างโอกาสในการลุ้นโพเดียมสนามนี้อย่างมาก ตามหลังเจ้าของโพลเพียง 0.564 วินาทีเท่านั้นทั้งนี้ ศึก จูเนียร์ จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2023 สนาม 6 จะดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคมนี้ 18.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง https://www.youtube.com/@FIMJuniorGP

แฟนความเร็วชาวไทยสามารถติดตามข่าวสาร ส่งกำลังใจเชียร์ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี และติดตามความเคลื่อนไหวของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม https://www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

“ก๊องส์-ธัชกร” ฟิตเต็มร้อย! พร้อมลุยศึกดาวรุ่งชิงแชมป์โลกสนาม 6 อารากอน สเปน

“ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” เดินทางถึงสนามมอเตอร์แลนด์ อารากอน เพื่อลุยศึกสองล้อดาวรุ่งชิงแชมป์โลก “จูเนียร์จีพี” สนาม 6 เป็นที่เรียบร้อย เจ้าตัวเผยพร้อมเต็มร้อย หวังสร้างผลงานไล่ล่ากลุ่มหน้าในสุดสัปดาห์นี้ที่ ประเทศสเปน ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบดาวรุ่งชิงแชมป์โลก รายการ เอฟไอเอ็ม จูเนียร์จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2023 สนาม 6 มีคิวดวลความเร็วระหว่างวันที่ 7-8 ตุลาคมนี้ ที่ มอเตอร์แลนด์ อารากอน ประเทศสเปน หลังเว้นช่วงการแข่งขันนานเกือบ 3 เดือน โดยล่าสุดยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยอย่าง “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี เจ้าของรถแข่งหมายเลข 5 จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ได้เดินทางเข้าร่วมทีมเพื่อกลับเข้าสู่โปรแกรมการแข่งขันเป็นที่เรียบร้อย หลังเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างหนักในเมืองไทย
“ก๊องส์-ธัชกร” สร้างผลงานอย่างโดดเด่นในฤดูกาลนี้ โดยสามารถคว้าโพเดียมมาครองได้สำเร็จ จากการบิดเข้าป้ายในอันดับ 2 กับการแข่งขันในสนามสุดหินอย่าง อัลการ์ฟ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศโปรตุเกส เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา รั้งอันดับ 10 บนตารางคะแนนสะสม มีทั้งสิ้น 51 คะแนนสำหรับ “ก๊องส์-ธัชกร” ได้รับการจับตามองอย่างมากจาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย ในศึก โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ หลังผ่านการแข่งขันด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ดมาแล้วทั้งสิ้น 3 สนาม คือ ซัคเซนริง ประเทศเยอรมนี, เรดบูล ริง ประเทศออสเตรีย และล่าสุดที่ เซอร์กิต เดอ บาร์เซโลน่า-คาตาลุนญ่า ประเทศสเปน ด้วยพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมทั้งการยกระดับความเร็วในทุกช่วงที่ลงสนาม และการทำงานเซ็ตติ้งร่วมกับทีมช่าง
ทั้งนี้ ศึก จูเนียร์จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2023 สนาม 6 จะเข้าสู๋โปรแกรมการซ้อมอิสระในวันศุกร์ที่ 6 ตุลาคมนี้ ก่อนจะจับเวลารอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ตในวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคมนี้ และดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคมนี้ 18.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง https://www.youtube.com/@FIMJuniorGP
แฟนความเร็วชาวไทยสามารถติดตามข่าวสาร ส่งกำลังใจเชียร์ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี และติดตามความเคลื่อนไหวของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม https://www.facebook.com/HondaRacingTeamTH