ยามาฮ่าเปิดประสบการณ์ความมันไม่จำกัดพิกัดในกิจกรรม YAMAHA Track Day 2024

 เสริมทักษะในการขับขี่บน Track ระดับโลกที่บุรีรัมย์

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด จัดกิจกรรม YAMAHA Track Day 2024 เอาใจลูกค้าที่ชื่นชอบการขับขี่รถจักรยานยนต์แบบ ไม่จำกัดพิกัดความมัน ตั้งแต่พิกัด 155 ซีซี – 1,000 ซีซี พร้อมเสริมสร้างทักษะการขับขี่ในสนามแข่งขัน ปูทางตั้งแต่เบสิก จนถึงระดับ Advance จากทีมงานชั้นนำระดับโลก YAMAHA THAILAND RACING TEAM และอดีตนักแข่งชั้นนำระดับเอเชีย และระดับประเทศมาร่วมถ่ายทอดเทคนิคต่างๆ ให้การขับขี่ในสนามแข่งขันเป็นเรื่องที่สนุก และปลอดภัย รวมถึงปลุกความเร้าใจกับรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าคันโปรด และเรียนรู้รูปแบบการขับขี่ในกฎและกติกาของการแข่งขัน โดยในครั้งนี้เปิด 6 รุ่นสุดเร้าใจได้แก่
1.รุ่น Advance 500 – 1000 ซีซี
2.รุ่น Intermediate 500 – 1000 ซีซี
3.รุ่น Beginner 500 – 1000 ซีซี
4.รุ่น Advance 155 -321 ซีซี
5.รุ่น Beginner 155 -321 ซีซี
6 . รุ่น Automatic (XMAX & Areox)

โดยในกิจกรรม YAMAHA Track Day 2024 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากสมาชิก ยามาฮ่าคลับ และยามาฮ่า ไรเดอร์สคลับ เข้าร่วมเปิดประสบการณ์กันอย่างมากมาย ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เมื่อเร็วๆ นี้

#YamahaTrackDay2024
#YamahaThailandRacingTeam
#YamahaSocietyThailand
#YamahaClubThailand
#YamahaRidersclubThailand
#YamahaChampionship2024

“ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” ปลดล็อคคว้าโพเดียมท็อป 3 “เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง” สนามที่ 4 อินโดนีเซีย

“ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” พร้อม Honda CBR Series ระเบิดผลงานเขย่าแถวหน้าเอเชีย

รุ่น “ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี” (SS600) ที่นักบิดดาวรุ่งไทยต้องวัดฝีมือกับนักบิดระดับหัวแถวมากประสบการณ์ “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” และสุดยอดรถแข่ง Honda CBR600RR หมายเลข 85 ทำผลงานปลดล็อคคว้าโพเดียมท็อป 3 ได้สำเร็จ จบการแข่งขันรั้งอันดับที่ 5 ตารางคะแนนสะสม มี 74 คะแนน ด้าน “มิกซ์-ธนัช” หมายเลข 31 ที่พบอุปสรรคการปะทะในการแข่งขันแต่ยังคงมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 10 และสามารถทำเวลาสถิติต่อรอบเร็วที่สุดของการแข่งขัน (Fastest Lap) ด้วยเวลา 1.38.246 นาที จบการแข่งขันรั้งอันดับที่ 8 ตารางคะแนนสะสมมี 58 คะแนน โดยนักบิด ดาวรุ่งจาก Honda เหมาอันดับ 1-5 ในรุ่นนี้ ด้วยสุดยอดตัวแข่ง Honda CBR600RR

รุ่น “เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี” (ASB1000) “ชิพ-นครินทร์” และรถแข่ง Honda CBR1000RR-R หมายเลข 41 สังกัด “ฮอนด้า เอเชีย ดรีม เรซซิ่ง วิท แอสติโม” หลังโชคร้ายเกิดอุบัติเหตุในโค้งแรกหลุดออกจากสนามไปอย่างน่าเสีย โดยเจ้าตัวไม่ยอมแพ้กลับมาสู้ในเกมอีกครั้ง โดยสามารถจบการแข่งขันในอันดับที่ 9 เก็บคะแนนสะสมได้สำเร็จ โดยจบการแข่งขันสนามที่ 4 รั้งท็อป 3 ของตารางด้วยคะแนนสะสม 92 คะแนน

ทั้งนี้ โปรแกรมการแข่งขัน FIM Asia Road Racing Championship 2024 จะกลับมาดวลกันอีกครั้งในสนามที่ 5 ณ สนามเปโตรนาส เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย (Petronas Sepang International Circuit, Malaysia) ระหว่างวันที่ 13 – 15 กันยายนนี้

แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย สามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว รวมถึงส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าทุกคนได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

#ThaiHonda #Motorsport #RaceToTheOne #RaceToTheDream #RaceToTheChampion #ARRC #ARRC2024 #AsiaRoadRacingChampionship2024 #NA41 #TL31 #KS85 #HondaRacingThailand #Idemitsu #Sittipol #KrungsriAuto #Kushitani #KELA #SKF #KOWA #NGK #DID #Arai #RCB #DiosDesign #FMSCT #SAT

เปิดตัวช็อกไพรส์! GPX DZ3 (ดี-ซี-ทรี) สกู๊ตเตอร์พรีเมียมสปอร์ต พิกัด 300 ค่าตัวไม่ถึงแสน!

 GPX DZ3 (ดี-ซี-ทรี) ที่สะท้อนการพัฒนาสู่ยุคใหม่ของ GPX

แบรนด์ GPX (จีพีเอ็กซ์) รถจักรยานยนต์สัญชาติไทย ที่ยังคงก้าวหน้าต่อไปและท้าทายทุกขีดจำกัด ตามสโลแกน “DARE TO CHALLENGE ไม่หยุด…ที่จะท้าทาย” เปิดตัวโมเดลใหม่ล่าสุด GPX DZ3 (ดี-ซี-ทรี) ที่สะท้อนการพัฒนาสู่ยุคใหม่ของ GPX บนเส้นทางของแบรนด์ที่ยาวนานกว่าทศวรรษ กับยอดขายภายในประเทศกว่า 240,000 คัน และติดอันดับ TOP 5 ยอดขายสูงสุดในเมืองไทยมาอย่างต่อเนื่องหลายปี และไม่ใช่แค่เพียงประสบความสำเร็จในประเทศเท่านั้น แต่ยังขยายออกสู่ตลาดในต่างประเทศอีกกว่า 10 ประเทศ อาทิ มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา ไต้หวัน กรีซ และ ญี่ปุ่น เป็นต้น

คุณไชยยศ ร่วมใจพัฒนกุล ผู้ก่อตั้งแบรนด์ GPX และกรรมการผู้จัดการ บริษัท จีพี เซลล์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวในงานเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ (รางน้ำ) ว่า “DZ3 คือการอัพเกรดในทุกมิติ สู่ยุคใหม่ของ GPX กับการพัฒนาที่ดียิ่งขึ้นกว่าที่เคยมีมา สะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาของ GPX เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์ใหม่และพร้อมสำหรับการเติบโตอีกสเตป กับการขยายสู่ตลาดในต่างประเทศต่อไป”

GPX DZ3 : THE UPPER STEP พาชีวิตไปอีกสเตป!
GPX DZ3 รถสกู๊ตเตอร์พรีเมียมสปอร์ต ในมิติใหม่ที่ให้ความคล่องตัวสูง มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่! High Performance กับเครื่องยนต์ GPX HYPER-i ขนาด 278.2 ซีซี 1 สูบ 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ มอบพละกำลังสูงสุดถึง 24.1 แรงม้าที่ 8,250 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 24.5 นิวตันเมตร ที่ 6,250 รอบต่อนาที ทำให้ทุกการขับขี่เต็มไปด้วยความสนุกและความเร้าใจ ด้านงานดีไซน์ในรุ่น DZ3 กับผลงานการออกแบบใหม่หมดทั้งคัน โดยทีมงาน R&D คนไทยของ GPX ที่เคยฝากผลงานจากการคว้ารางวัลออกแบบดีเด่นจากประเทศญี่ปุ่น ในรายการประกวด GOOD DESIGN AWARDS 2021 (G-MARK) ในรุ่นก่อนหน้ามาแล้ว ทำให้หน้าตาของเจ้า DZ3 รุ่นล่าสุดนี้ ยังคงมี DNA เอกลักษณ์ของทาง GPX ที่โดดเด่นด้วยเส้นสายงานดีไซน์ที่ให้อารมณ์ความสปอร์ต โฉบเฉี่ยวในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับดีไซน์ไฟหน้าและไฟท้าย ที่โดดเด่น สะดุดตา พร้อมไฟเลี้ยวหน้าที่ออกแบบมาให้ Built-in กับชุดแฟริ่งหน้า ส่วนไฟเลี้ยวท้ายก็ Built-in มาให้ในโคมเดียวกันกับไฟท้าย โดยมาพร้อมกับระบบส่องสว่างแบบ FULL LED รอบคัน

นอกจากนี้ GPX DZ3 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันครบครันที่ตอบโจทย์กับการใช้งานแบบ CITY USE ทั้งหน้าจอเรือนไมล์แบบ REVERSE LCD METER ดีไซน์ล้ำทันสมัย ให้อารมณ์ความสปอร์ตเต็มพิกัด สามารถปรับตั้งค่าข้อมูลบนหน้าจอแสดงผลได้ง่ายๆ ด้วยปุ่ม MODE ทั้งการปรับเซ็ททริปการเดินทาง , ปรับหน่วยระยะทางและปรับตั้งค่านาฬิกาได้ มาพร้อมการควบคุมด้วย กุญแจ KEYLESS ที่มีมาตรฐานการกันฝุ่นและน้ำที่ระดับ IP67 กับดีไซน์ตัวกุญแจ KEYLESS ที่ออกแบบมาใหม่ ให้อารมณ์ความสปอร์ต พร้อมมีฟังก์ชันอัดแน่นที่ซ่อนไว้ภายในตัว ทั้งการเปิด-ปิดเสียงสัญญาณกันขโมย และ การล็อค/ปลดล็อคตัวรถ นอกจากนี้ ยังมีความพิเศษสำหรับกุญแจ KEYLESS เนื่องจากตัวกุญแจ KEYLESS ในรถรุ่น DZ3 มีระบบ IMMOBILIZER เป็นชิปปล่อยสัญญาณในกุญแจที่ใช้เปิดคีย์สวิทซ์ ซึ่งในกรณีที่แบตเตอรี่กุญแจ KEYLESS หมด ผู้ขับขี่ก็ยังคงสามารถสตาร์ทรถใช้งานได้ โดยการนำเอากุญแจ KEYLESS มาแนบกับตำแหน่งที่อยู่บริเวณเหนือช่องเติมน้ำยาหล่อเย็น ภายในช่องด้านหน้าฝั่งขวามือ แล้วบิดสวิตซ์สำหรับใช้งานสตาร์ทรถได้ หรือจะใช้กุญแจสำรอง ที่ซ่อนอยู่ภายในกุญแจ KEYLESS ก็สามารถใช้งานเพื่อบิดสวิตซ์แล้วสตาร์ทรถได้เช่นเดียวกัน

GPX DZ3 อัพเกรดความสะดวกสบายมาให้ กับตำแหน่งถังน้ำมันด้านหน้า ที่มีความจุมากถึง 10.3 ลิตร และ เพิ่มความสะดวกสบายที่มากกว่า กับ Riding Position ที่ให้ท่านั่งที่สบาย สามารถรองรับกับสรีระของผู้ขับขี่ไซส์เอเชียได้เป็นอย่างดี พร้อมตำแหน่งการวางเท้าที่สามารถวางเท้าได้ทั้งในองศาการวางเท้าปกติและสามารถวางเท้ายืดเหยียดในตำแหน่ง Rest Position ได้ อีกทั้งเบาะนั่งที่ให้มาในดีไซน์สปอร์ต ออกแบบมาให้เว้าช่วงเบาะของผู้ขับขี่ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถวางเท้าถึงพื้นได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมสัมผัสการนั่งที่นุ่มสบาย และเสริมฟังก์ชันที่ตอบโจทย์กับยุคสมัย ด้วยช่องชาร์จเร็ว FAST CHARGE USB TYPE-C ให้ที่บริเวณภายในช่องเก็บของด้านหน้าฝั่งซ้าย ส่วนในด้านความปลอดภัยก็อัพเกรดมาให้กับระบบเบรกแบบ ABS Dual Channel พร้อมดิสก์เบรกด้านหน้าขนาด 250 มม. และ ดิสก์เบรกหลังขนาด 220 มม. ช่วยให้สามารถหยุดรถได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์

นอกจากนี้ ยังอัพเกรดฟังก์ชันมาให้ กับระบบ TCS (Traction Control System) ที่ช่วยป้องกันล้อหมุนฟรี และ ระบบกันสะเทือนที่มอบความนุ่มนวลกับโช๊คอัพหลังคู่ จากแบรนด์ดัง YSS ที่สามารถปรับค่าพรีโหลดได้ (*ฟังก์ชันเฉพาะใน DZ3-Sport )
เปิดตัว 2 Types : ความคุ้มค่าเหนือราคาStandard มีด้วยกัน 2 เฉดสี
– RACING GREY (สีเทา)
– SUPER BLACK (สีดำ)
มาพร้อมราคาส่วนลดพิเศษที่ 94,800 บาท
(จากราคาปกติที่ 100,800 บาท พร้อมรับ Voucher 6,000 บาทเป็นส่วนลดพิเศษในช่วงเปิดตัว!)Sport มาพร้อมฟังก์ชัน TCS (Traction Control System) และโช๊คอัพหลังจากแบรนด์ YSS
มีด้วยกันทั้งหมด 4 เฉดสี
– URBAN WHITE (สีขาว)
– ENERGETIC RED (สีแดง)
– OLIVE GREEN (สีเขียว)
– SUPER BLACK (สีดำ)
ราคาส่วนลดพิเศษที่ 99,800 บาท
(จากราคาปกติที่ 105,800 บาท พร้อมรับ Voucher 6,000 บาทเป็นส่วนลดพิเศษในช่วงเปิดตัว!)
พร้อมการรับประกันเครื่องยนต์ให้นานถึง 3 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร

สำหรับใครที่สนใจสามารถจองออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ booking.gpxthailand.com เพื่อรับข้อเสนอพิเศษนี้ และสามารถดูข้อมูลรถเพิ่มเติมได้ที่ www.gpxthailand.com หรือสามารถไปรับชมรถคันจริงได้ที่ตัวแทนจำหน่าย GPX ที่มีกว่า 115 แห่งครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ

 

 

โรยัล เอ็นฟีลด์ ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดตัวแคมเปญ ‘ROYAL ENFIELD AMAZING THAILAND RIDE’

ยกระดับประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยว

ด้วยการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์

โรยัล เอ็นฟีลด์ ผู้นำระดับโลกในกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง (250cc-750cc) และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยรถมอเตอร์ไซค์ในประเทศไทย ผ่านการเปิดตัวแคมเปญ ‘Royal Enfield Amazing Thailand Ride’ #TATxRoyalEnfield แคมเปญที่จะสร้างความสนุกและพาเหล่าผู้ขับขี่พบกับความตื่นเต้นและความสวยงามของประเทศ พร้อมยกระดับประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำสำหรับผู้ที่หลงใหลในการท่องเที่ยวและขับขี่มอเตอร์ไซค์ โดยนำเสนอประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครผ่านเส้นทางที่สวยงามจากความหลากหลายของภูมิประเทศ และวัฒนธรรมประเพณีของไทยอย่างสุดประทับใจ

คุณ อนุจ ดัว หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ โรยัล เอ็นฟีลด์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค กล่าวว่า “เราภูมิใจที่ได้เริ่มต้นการเดินทางที่น่าตื่นเต้นนี้ร่วมกับ ททท. แคมเปญนี้แสดงถึงการผสมผสานกันระหว่างการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมการขับขี่มอเตอร์ไซค์ ทำให้เปิดมุมมองการท่องเที่ยวแบบใหม่ๆ นักเดินทางจะได้ค้นพบความงามที่ซ่อนอยู่ในประเทศไทยและประสบการณ์ที่ได้รับจากผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์เท่านั้น การท่องเที่ยวสถานที่ไอคอนิคด้วยรถมอเตอร์ไซค์จะทำให้ทั้งทริปเต็มไปด้วยความประทับใจและความทรงจำ เรามั่นใจว่าประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครนี้จะสร้างแรงบันดาลใจและดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้ขับขี่มากมายเข้าสู่โลกของ “pure motorcycling”

นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “ด้วยความร่วมมือกับ โรยัล เอ็นฟีลด์ ในครั้งนี้ตอกย้ำจุดยืนของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำ สานต่อความสำเร็จของแคมเปญ Amazing Thailand: Your Stories Never End’ ของเรา กิจกรรมนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝน ซึ่งจะสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครผ่านเรื่องราวและมุมมองของผู้ขับขีที่หลากหลาย ความร่วมมือในครั้งนี้
ชูจุดแข็งร่วมกันของ ททท. และ โรยัล เอ็นฟีลด์ ในการสร้างการผจญภัยด้วยรถมอเตอร์ไซค์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่
ในทุกระดับ”

‘Royal Enfield Amazing Thailand Ride’ #TATxRoyalEnfield ประกอบด้วย ทริปการท่องเที่ยว ในระยะเวลา 5 วัน จัดขึ้นเมื่อวันที่ 18-23 กรกฎาคม 2567 โดยต้อนรับผู้ขับขี่ในทุกระดับพร้อมนำเสนอประสบการณ์ด้านวัฒนธรรม เอร็ดอร่อยกับอาหารไทย และแหล่งท่องเที่ยวอันสวยงามของประเทศ โดยทริปนี้มีผู้ร่วมขับขี่ 12 คนจากทั่วเอเชีย ทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ โดยเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม และเริ่มทริปอย่างเป็นทางการที่สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในเช้าวันที่ 19 กรกฎาคม โดยผู้ขับขี่ออกเดินทางสู่พัทยา และมุ่งหน้าสู่จังหวัดจันทบุรีที่ขึ้นชื่อเรื่องความงามด้านธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรม

การเดินทางของแคมเปญ ‘Royal Enfield Amazing Thailand Ride’ #TATxRoyalEnfield ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวในไทยอีกมายที่รอการมาเยือนของเหล่านักท่องเที่ยวและชาวนักบิดโรยัล เอ็นฟีลด์ โดยทริปหน้าจะมีผู้เข้าร่วมจากหลากหลายประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค มุ่งหน้าสู่ภาคเหนือเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศหน้าฝนเขียวชอุ่ม

แคมเปญ ‘Royal Enfield Amazing Thailand Ride’ #TATxRoyalEnfield เป็นมากกว่าการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยว แต่เป็นการแสดงออกถึงจิตวิญญาณของการผจญภัย รถมอเตอร์ไซค์โรยัล เอ็นฟีลด์ มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานและมีความแข็งแกร่งระดับตำนาน จะนำผู้ขับขี่ออกสู่พื้นที่ความสวยงามอันหลากหลายของประเทศไทย ค้นพบกับสถานที่ชนิดที่ใครหลายคนยังไม่เคยรู้
มาก่อนและสร้างความทรงจำที่ไม่รู้ลืมแก่ผู้ร่วมทริปทุกคน

“ฮอนด้า” ผงาดคว้าชัย Suzuka 8 Hours 2024 ครองแฮตทริกวินเนอร์ (ปี 2022-2024)

 สร้างสถิติชนะ 30 ครั้ง เอ็นดูรานซ์ ที่ประเทศญี่ปุ่น

“ฮอนด้า” ตอกย้ำศักยภาพที่เหนือกว่าอย่างต่อเนื่อง คว้าชัยชนะด้วยสุดยอดสมรรถนะรถแข่ง Honda CBR1000RR-R FIREBLADE หมายเลข 30 สังกัดทีม HRC with Japan Post ที่มี 3 นักบิดอย่าง “ทาคูมิ ทาคาฮาชิ” “เทปเป้ กาโกเอะ” และ “โยฮัน ซาโก้” ลงแข่งขันในศึกสุดทรหด Suzuka 8 Hours รายการ FIM Endurance World Championship 2024 ปีที่ 45 สนามที่ 3 ซึ่งนับเป็นการชนะปีที่ 3 ติดต่อกัน (ปี 2022-2024) พร้อมครองแชมป์รายการถึง 30 ครั้ง ณ สนามซูซูกะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นเอกลักษณ์ โดยนักแข่งวิ่งจากอีกฝั่งของแทร็กเพื่อมาขึ้นรถและออกตัว “ทาคูมิ ทาคาฮาชิ” ลงสนามแข่งเป็นคนแรก รั้งอยู่ในกลุ่มนำได้ทันที โดยมีการเข้าพิทเปลี่ยนยาง เติมน้ำมันและเปลี่ยนตัวนักแข่ง ซึ่งทีมทำได้ไม่มีข้อผิดพลาด สามารถรักษาอันดับไว้อย่างแข็งแกร่ง ขึ้นมารักษาอันดับผู้นำได้ก่อนหมด 1 ชั่วโมง และบวกเวลาหนีจากคู่ต่อสู้ไปได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีการขยับเวลาและตำแหน่งในช่วงที่ต้องเข้าพิท ก็สามารถทวงคืนอันดับที่ 1 ได้ทันที

การแข่งขันดำเนินมาถึงชั่วโมงสุดท้ายซึ่งเป็นช่วงค่ำที่ประเทศญี่ปุ่น Honda CBR1000RR-R FIREBLADE SP หมายเลข 30 สังกัดทีม HRC with Japan Post นำอยู่เป็นอันดับที่ 1 ซึ่งทีมได้ให้ “โยฮัน ซาโก้” เข้าพิทในช่วง 20 นาทีสุดท้ายและเป็น “ทาคูมิ ทาคาฮาชิ” ที่ออกไปทำหน้าที่เป็นคนสุดท้าย โดยการออกไปสู่สนามทำให้เวลาที่นำคู่แข่งอยู่ 50 วินาทีเกิดความท้าทายยิ่งขึ้น เมื่อทีมเข้ารับโทษจากการเข้าพิท และโดนปรับ 40 วินาที

จากความเหนือชั้นที่ทิ้งห่างคู่แข่งตลอดทั้งเกมทรหด 8 ชั่วโมง เมื่อการแข่งขันจบลง ลบเวลาที่ถูกปรับแล้ว “ฮอนด้า” ผงาดคว้าชัยชนะในการแข่งขันครั้งที่ 45 ศึก Suzuka 8 Hours 2024 โดยเป็นการชนะ 3 ฤดูกาลติดต่อกันตั้งแต่ปี 2022, 2023 และล่าสุดในปี 2024 ทำสถิติชนะในรายการนี้มากถึง 30 ครั้งจากทั้งหมดที่แข่งขันกัน 45 ครั้ง ทำรอบการแข่งขันไปถึง 220 รอบสนาม โดยเข้าพิทไปทั้งหมด 8 ครั้ง

ด้านยอดนักบิดไทย “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ แชมป์เปี้ยน” ที่เป็นตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขัน พร้อมทีมเมท โมฮัมหมัด ซัควาน ไซดี้ นักบิดมาเลเซีย และ แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาร์ นักบิดอินโดนีเซีย กับรถแข่ง Honda CBR1000RR-R หมายเลข 88 สังกัดทีม Honda Asia-Dream Racing with Astemo ต้องออกจากการแข่งขันไปน่าเสียดายจากปัญหาด้านเทคนิค

แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย สามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว รวมถึงส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าทุกคนได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

#RaceToTheChampion #HondaRacingThailand #HondaBigBike #CBR1000RRRFIREBLADESP #CBR1000RRR #ExcitesTheWorld #HRCwithJ

นับถอยหลังเปิดรับสมัคร! “บุรีรัมย์ มาราธอน”

เผยผลสำรวจความพึงพอใจ หัวใจสำคัญที่นักวิ่งยกให้งานนี้คือที่สุด

โค้งสุดท้ายก่อนเปิดรับสมัครนักวิ่ง “บุรีรัมย์ มาราธอน 2025” ฝ่ายจัดการแข่งขันเผยผลสำรวจความพึงพอใจของนักวิ่ง โดยผลโหวต “ทัพใหญ่กองเชียร์” ที่มีจำนวนมากกว่านักวิ่ง ได้คะแนนสูงสุด ด้วยเอกลักษณ์ไนท์ รัน ที่จัดเต็มแสงสีเสียงและดนตรี คึกคักตลอดเส้นทาง ได้รับการขนานนามว่า เทศกาลดนตรีที่มียาวที่สุด 42.195 กม. ถูกใจนักวิ่งสายแดนซ์ เปิดรับสมัคร 3-4 ส.ค.นี้ทั่วโลกผ่านช่องทางออนไลน์ โดยจะจัดแถลงข่าวในวันที่ 27 ส.ค.อย่างสุดยิ่งใหญ่ เพื่อฉลองสู่ปีที่ 9

ความเคลื่อนไหวงานไนท์ รัน อันดับหนึ่งของไทย “บุรีรัมย์ มาราธอน2025 พรีเซนเต็ด บาย น้ำแร่ธรรมชาติ ตราช้าง” ภายใต้แนวคิด สวรรค์ของนักวิ่ง ที่จะจัดแข่งขันในวันที่ 25 มกราคม 2568 ออกสตาร์ทที่สนามแข่งรถ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และเข้าเส้นชัยที่สนามฟุตบอลช้าง อารีนา หนึ่งในงานวิ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้รับการรับรองจากสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ (World Athletics) มาตรฐาน Gold Label ระยะมาราธอนรายการแรกและรายการเดียวของประเทศไทย
นายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการแข่งขัน (Race Director) บุรีรัมย์ มาราธอน เปิดเผยว่า บุรีรัมย์ มาราธอน ปีที่ผ่านมา มีจำนวนนักวิ่ง 32,822 คน แบ่งเป็น ระยะมาราธอน (42.195 กม.) จำนวน 8,432 คน , ระยะฮาล์ฟ มาราธอน (21.1 กม.) จำนวน 11,945 คน, ระยะมินิ มาราธอน (10 กม.) จำนวน 9,156 คน และระยะฟัน รัน (4.554 กม.) จำนวน 3,289 คน แบ่งเป็นผู้ชาย 59.05% , ผู้หญิง 40.95% โดยระยะ ฮาล์ฟ มาราธอน มีนักวิ่งมากที่สุดคิดเป็น 36% รองลงมาเป็นระยะมินิ มาราธอน 28%, ระยะมาราธอน 26% และฟันรัน 10% มีนักวิ่งระดับอีลีทของโลกลงแข่งขันมากถึง 45 คน เนื่องจากนักวิ่งที่มีจำนวนสูงถึง 32,822 คน ทำให้จำนวนอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ที่ดูแลรับผิดชอบในส่วนต่างๆมากถึง 6,877 คน จำนวนผู้ติดตามนักวิ่งและกองเชียร์ 64,578 คน
จากผลสำรวจความพึงพอใจของนักวิ่ง พบว่า อันดับ 1 ลงคะแนนให้ “ความประทับใจกองเชียร์ตลอดเส้นทางวิ่ง” มีคะแนนสูงสุด, รองลงมาเป็นเส้นทางวิ่งที่มีมาตรฐาน, ช่วงเวลาจัดงานมีความเหมาะสม, การปล่อยตัวนักวิ่งตรงเวลาไม่แออัด, จุดให้บริการน้ำดิ่มมีความเหมาะสมเพียงพอ, เจ้าหน้าที่ดูแลเส้นทาง ดูแลความปลอดภัยเป็นอย่างดี, Pacer Sweeper มีจำนวนเหมาะสม ดูแลนักวิ่งอย่างดี, จุดปฐมพยาบาลหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เพียงพอและรวดเร็ว, อาหารของนักวิ่งอร่อยถูกปาก และมีความเหมาะสมเพียงพอ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีเสียงสะท้อนจากนักวิ่งทั้งจุดเด่นจุดด้อยที่ทางฝ่ายจัดการแข่งขัน ไม่ละเลย มุ่งพัฒนาให้การแข่งขันบุรีรัมย์ มาราธอน พัฒนายิ่งขึ้นในทุกปี

“กองเชียร์ บุรีรัมย์มาราธอน ยกให้เป็นอันดับหนึ่งในใจของนักวิ่งทุกคน ด้วยการจัดเต็มแสงสีเสียงและดนตรี คึกคักตลอดเส้นทาง ทำให้ได้รับการขนานนามว่า เทศกาลดนตรีที่มียาวที่สุด 42.195 กม. ถูกใจนักวิ่งสายแดนซ์ มากที่สุด”

นอกเหนือจากการสำรวจความพึงพอใจตามมาตรฐานงานวิ่งแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุด ก็คือ ภาพความประทับใจของการรอรับนักวิ่งคนสุดท้ายเข้าเส้นชัย ตลอด 8 ปี ของนายเนวิน ชิดชอบ ประธานและผู้ริเริ่มจัดการการแข่งขันบุรีรัมย์ มาราธอน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจทุกรายละเอียดของฝ่ายจัดการแข่งขันที่ให้ความสำคัญต่อนักวิ่งทุกคน ชัยชนะไม่ใช่แค่ผู้ที่วิ่งเข้าเส้นชัยคนแรก แต่หมายถึงทุกคนที่ชนะใจ ร่างกายตัวเอง จนเข้าสู่เส้นชัยได้ในที่สุด

สำหรับราคาค่าสมัคร“บุรีรัมย์ มาราธอน 2025” สุดยอดไนท์ รัน อันดับหนึ่ง ฝีมือคนไทย ยังคงเท่าเดิมทั้ง 4 ระยะได้แก่ ระยะมาราธอน (42.195 กม.) 1,000 บาท, ระยะฮาล์ฟ มาราธอน (21.1 กม.) 800 บาท , ระยะมินิ มาราธอน (10 กม.) 600 บาท และระยะฟัน รัน (4.554 กม.) 500 บาท โดยผู้สมัครอายุ 60 ปีขึ้นไปจะลดราคา 50% และ 70 ปี ขึ้นไป ร่วมวิ่งฟรีเปิดรับสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ www.burirammarathon.com และ www.runningconnect.com โดยแบ่งเป็น นักวิ่งเก่า (ปี 2017-2024) สมัครวันที่ 3 สิงหาคม 2567 เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป และนักวิ่งทั่วไปสมัครวันที่ 4 สิงหาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป และจะมีการแถลงข่าวการจัดการแข่งขันในวันที่ 27 สิงหาคม 2567 เวลา 13.00 น ที่สโมสรราชพฤกษ์คลับ ถนนวิภาวดี-รังสิต กรุงเทพ” เพื่อฉลองสู่ปีที่ 9 อย่างยิ่งใหญ่

อุ่นเครื่อง! กกท.พาบุกเจาะใจ ซูเปอร์สตาร์นักบิด MotoGP 3 ทีมดัง

 พร้อมเผยความประทับใจที่มีต่อประเทศไทย-เมนูสุดโปรด

การกีฬาแห่งประเทศไทย จัดทีมบินลัดฟ้าสัมภาษณ์พิเศษ 6 หนุ่มนักบิดชื่อดังของโลกจาก 3 ทีมชั้นนำ ฮอนด้า,ยามาฮ่าและดูคาติ ที่ ทีที เซอร์กิต แอสเซน ประเทศเนเธอร์แลนด์ สังเวียนชื่อดังของโลก เรียกน้ำย่อยแฟนคลับชาวไทย ด้านโจอัน เมียร์ และ ลูก้า มารินี เผยหลงรักชายหาดและวัฒนธรรมและบรรยากาศของไทย ส่วนฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ชอบอากาศที่ประเทศไทยแม้จะค่อนข้างร้อน โดย“ผัดไทย-ข้าวเหนียวมะม่วง” ขึ้นแท่นเมนูอาหารสุดโปรดนักบิดดัง ขณะที่เมนูโปรดของ ฟรานเชสโก้ บันยาญ่าคือ สะเต๊ะ และข้าวผัด รวมทั้งยังเผยถึงความประทับใจจากการแข่งสนามประเทศไทย ก่อนแข่งขันในเดือนตุลาคมนี้ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

ล่าสุด ฝ่ายจัดการแข่งขัน โมโตจีพี สนามประเทศไทย นำโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมกับ ดอร์น่า สปอร์ต จัดทำโปรเจ็กต์ Exclusive Interview With MotoGP Riders Presented By Sports Authority Of Thailand ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ World Event สุดยิ่งใหญ่อลังการ ภายใต้ชื่อ รายการ PT Grand Prix of Thailand ที่จะระเบิดศึกในวันที่ 25-27 ตุลาคม 2567 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ส่ง “แพร” ทวินันท์ เพิ่มพูล อินฟลูเอนเซอร์สาวคนดังขวัญใจไบค์เกอร์ บินลัดฟ้าสัมภาษณ์พิเศษ 6 หนุ่มนักบิดชื่อดังของโลกมาฝากแฟนคลับ เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนการแข่งขัน

“โจอัน เมียร์ และ ลูก้า มารินี” จากฮอนด้า นอกจากจะกล่าวถึงเป้าการทำผลงานในฤดูกาลนี้ ยังเผยถึงความประทับใจ ความชื่นชอบในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น อาหาร, ชายหาดและวัฒนธรรม เมนูสุดโปรดของทั้งคู่คือ “ผัดไทย” ส่วน ลูก้า มารินี ชื่นชอบ เกาะหลีเป๊ะ

ลูก้า มารินี กล่าวถึงความประทับใจของอัฒจันทร์หลักหรือ Grand Stand สนามประเทศไทยว่า “แกรนด์ สแตนด์ เป็นส่วนที่น่าทึ่งมาก เมื่ออยู่ที่กริด สตาร์ท เราจะเห็นแฟนโมโตจีพีเต็มพื้นที่แกรนด์ สแตนด์ไปหมด แฟนๆอยู่ใกล้ชิดกับนักแข่งมากและเป็นช่วงเวลาที่สวยงามมาก”

ด้าน “ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร และ อเล็กซ์ รินส์” จากยามาฮ่า กล่าวถึง ผลงานในปีนี้ที่ต้องพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้ตำแหน่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และพยายามให้ยามาฮ่าไปสู่กลุ่มผู้นำให้ได้

ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร เผยว่า ส่วนที่ชอบที่สุดของประเทศไทย คือ แฟนชาวไทย, ผัดไทยและผมรักอากาศประเทศไทย แม้ว่าจะร้อนไปนิดหน่อย โดยทั้งฟาบิโอ กวาร์ตาราโร และ อเล็กซ์ รินส์ มีเมนูโปรดคือ “ข้าวเหนียวมะม่วง” พร้อมทิ้งท้ายด้วยการอ้อนแฟนคลับชาวไทยให้มาเชียร์ที่ “กวาร์ตาราโร สแตนด์” กันมากๆ

ส่วน “ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า, เอเนีย บาสเตียนินี” จาก ดูคาติ เผยถึง การต่อสู้ในการแข่งขันในฤดูกาล2024 และโอกาสในการคว้าแชมป์โลกมาครอง

เมนูโปรดของ ฟรานเชสโก้ บันยาญ่าคือ สะเต๊ะ และข้าวผัด ส่วน เอเนีย บาสเตียนินี ชื่นชอบผัดไทย โดยคิดว่าผัดไทยที่อร่อยต้องมีรสเผ็ด

ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า, เอเนีย บาสเตียนินี กล่าวทิ้งท้าย ว่า รอคอยการแข่งขันในประเทศไทยอย่างตื่นเต้น เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่สวยงาม แฟนชาวไทยสุดยอดมากๆ ให้การต้อนรับพวกเราอย่างดี รอคอยที่จะให้ถึงวันแข่งขันเร็วๆ เชื่อว่าจะเป็นการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมที่สุด

ในโอกาสนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย ยังมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับแฟนคลับโมโตจีพี ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ 6 นักบิดดัง มอบเสื้อ PT Grand Prix of Thailand พร้อมลายเซ็น โดยร่วมกิจกรรมได้ที่แฟนเพจ Chang Circuit Buriram
ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 19 ก.ค. ประกาศผลผู้โชคดีวันที่ 25 ก.ค.2567

แฟนโมโตจีพี ติดตามคลิป Exclusive Interview With MotoGP Riders Presented By Sports Authority Of Thailand ในตอนต่อไป ได้ที่แฟนเพจ Chang Circuit Buriram ส่วนบัตรชมการแข่งขันยังมีจำหน่ายที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ allticket

#MotoGP
#ThaiGP2024
# SportsAuthorityOfThailand

ไทยฮอนด้า เขย่ากระแสตลาดรถเอ.ที. เอาใจคนรุ่นใหม่นำร่อง เปิดตัว 2 รุ่น

 ‘New Honda FORZA350’ และ ‘Honda Scoopy Hello Kitty Limited Edition’
ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดตัวรถจักรยานยนต์เอ.ที. 2 รุ่นใหม่ในงาน ‘Thai Honda Move Forward Together: Press Conference 2024’ ณ โรงแรม Centara Grand and Bangkok Convention Centre นำโดย รถจักรยานยนต์พรีเมียมสปอร์ต ‘New Honda FORZA350’ ที่เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ดิจิทัลชูเทคโนโลยีเหนือระดับมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล TFT ใหม่ขนาด 5 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Honda RoadSync ระบบสั่งการด้วยเสียงบนสมาร์ตโฟน พร้อมด้วยปุ่มคอนโทรลเลอร์ดีไซน์ใหม่ในแบบมัลติฟังก์ชันสั่งการได้อย่างหลากหลาย ตามด้วย รถแฟชั่นเอ.ที. ‘Honda Scoopy Hello Kitty Limited Edition’ ที่มาพร้อมกับลายคาแรกเตอร์สุดน่ารักอย่าง ‘Hello Kitty’ ฉลองครบรอบ 50 ปี ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 2,000 คันเท่านั้น

มร.ยูอิจิ ชิมิซุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “รถจักรยานยนต์ฮอนด้าพร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้ารุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย เรามุ่งมั่นพัฒนารถจักรยานยนต์ที่ทันสมัยตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของลูกค้าในยุคปัจจุบัน ส่งผลให้ฮอนด้าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทุกกลุ่มรวมถึงลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทำให้ฮอนด้าสามารถครองความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในกลุ่มรถเอ.ที.มาอย่างต่อเนื่อง”

“ถึงแม้ในสถานการณ์ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในครึ่งปีแรกจะชะลอตัวและมีความต้องการในตลาดลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ด้วยกลยุทธ์ของฮอนด้า รวมถึงการผลักดันการขายของผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ทำให้เราสามารถดำเนินธุรกิจได้ดีกว่าสถานการณ์ตลาด โดยเฉพาะรถในกลุ่มเอ.ที. ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นรถกลุ่มเดียวที่มีการเติบโต ในขณะที่กลุ่มอื่นเติบโตลดลง”

“ท่ามกลางตลาดรถจักรยานยนต์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ฮอนด้าในฐานะผู้นำตลาดจึงต้องก้าวไปข้างหน้าและพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้งเพื่อเพิ่มคุณค่าให้ผลิตภัณฑ์ เราพร้อมมุ่งมั่นสานต่อความสำเร็จของการเติบโตของตลาดในกลุ่มเอ.ที. โดยมุ่งยกระดับการใช้ชีวิตของคนไทยด้วยการนำเทคโนโลยีมาผสานกับรถจักรยานยนต์ในแบบไลฟ์สไตล์ดิจิทัล ที่ครั้งนี้ได้นำเสนอผ่านโมเดลพิเศษอย่าง ‘New Honda FORZA350’ ที่ชูโรงด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำสมัย และ ‘Honda Scoopy Hello Kitty Limited Edition’ ที่เป็นการคอลแลปครั้งสำคัญกับ ‘Hello Kitty’ ฉลองครบรอบ 50 ปี โดยเรานำมาจัดแสดงเป็นครั้งแรกอีกด้วย ทั้งนี้ฮอนด้าพร้อมกระตุ้นตลาดในครึ่งปีหลังอีกจำนวน 6 รุ่น โดยตั้งเป้าการขายอยู่ที่ 1.36 – 1.40 ล้านคัน โดยคาดว่ารถในกลุ่ม เอ.ที. ยังคงที่ได้รับความนิยมสูงอย่างต่อเนื่อง”

สำหรับ ‘New Honda FORZA350’ ครั้งนี้มาพร้อมดีไซน์พรีเมียมสปอร์ตในคอนเซปต์ ‘BEYOND THE EXCEPTIONAL เหนือกว่า…ทุกความเป็นที่สุด’ โดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผล TFT ใหม่ ขนาด 5 นิ้ว แสดงผลทุกข้อมูลการขับขี่ได้ครบถ้วนชัดเจน รวมถึงการแสดงผลระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) ระบบตรวจจับและควบคุมล้อหน้า-ล้อหลังให้สัมพันธ์กัน ป้องกันรถเสียการทรงตัว ปลอดภัยในทุกการขับขี่ พร้อมเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Honda RoadSync เทคโนโลยีอัจฉริยะจากฮอนด้าที่ควบคุมการทำงานด้วยเสียงโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน ในการรับสายโทรเข้า-โทรออก, ระบบนำทาง, แอปพลิเคชันเพลง และประวัติการเดินทาง พร้อมควบคุมผ่านปุ่มคอนโทรลเลอร์ดีไซน์ใหม่ในแบบมัลติฟังก์ชันสั่งการได้หลากหลายในทุกสถานการณ์

New Honda FORZA350 เสริมความพรีเมียมเหนือระดับด้วยกระจกบังลมหน้าระบบไฟฟ้าที่ปรับความสูงได้ถึง 180 มิลลิเมตร พร้อมกับ LARGE U-BOX กล่องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ที่ใส่หมวกนิรภัยได้สองใบพร้อมไฟส่องสว่างแบบ LED และที่สุดแห่งขุมพลังความแรงด้วยเครื่องยนต์ eSP+ 4 วาล์ว 330 ซีซี. ให้สมรรถนะที่แรงขึ้น ลื่นขึ้น ขับขี่นุ่มนวล ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ คอนโทรลได้เหนือชั้น ด้วยระบบเบรก ABS ที่มาพร้อมจานเบรกขนาดใหญ่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึงโช้กอัพหลังที่ปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับรองรับการใช้งานได้ลงตัวทุกสภาพถนน

New Honda FORZA350 รุ่น RoadSync มีวางจำหน่ายทั้งหมด 4 เฉดสี ได้แก่ สีแดง-ดำ ใหม่ SUNSTORM RED, สีขาว-ดำ ใหม่ STELLAR WHITE, สีเทา-ดำ METEOR GRAY และ สีดำ COSMIC BLACK ราคาแนะนำที่ 183,000 บาท

นอกจากรุ่น New Honda FORZA350 รุ่น RoadSync ฮอนด้ายังได้นำเสนอ Special Edition จากสำนักแต่ง H2C by Honda ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ในสไตล์ทัวร์ริ่งในคอนเซปต์ ‘THE JOURNEY TO BEYOND’ พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งสุดพิเศษดีไซน์โดดเด่น มอบสมรรถนะเกินคลาสไปอีกขั้น ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 350 คัน ราคาแนะนำที่ 197,900 บาท โดยทั้ง 2 รุ่น เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป ที่ศูนย์ Honda Wing Center ทั่วประเทศ หรือจองผ่านช่องทางออนไลน์ได้ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม – 30 กันยายน 2567 ติดตามได้ที่ทางหน้าเพจ เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า

ตามด้วย ‘Honda Scoopy Hello Kitty Limited Edition’ มาพร้อมคอนเซปต์ ‘Hello Iconic Friend สองความสุด ที่ไม่หยุดคิวท์’ โดยนำเอาคาแรกเตอร์สุดน่ารักตลอดกาลอย่าง ‘Hello Kitty’ มาคอลแลปกับมอเตอร์ไซค์สุดไอคอนิกอย่าง Honda Scoopy เติมความสนุกแสนซนด้วยเฉดสีแดงลงบนตัวรถสีขาว ผสานความน่ารักที่ลงตัวด้วยโบว์สุดคาวาอี้ของ Hello Kitty ที่เพิ่มความโดดเด่นด้วย 3D Emblem พร้อมทั้งเสริมความพิเศษด้วยโลโก้ฉลองครบรอบ 50 ปี พร้อมระบุ Serial Number เสริมความลิมิเต็ดให้กับเหล่าสาวก Hello Kitty อีกด้วย

Honda Scoopy Hello Kitty Limited Edition ผลิตและวางจำหน่ายเพียง 2,000 คันเท่านั้น ในราคาแนะนำ 57,900 บาท มาพร้อมกับพรีเมียมบอกซ์เซ็ตสำหรับแฟน Hello Kitty ได้แก่ เซ็ตกุญแจรีโมตอัจฉริยะในเคสสุดน่ารักจาก Scoopy Hello Kitty รวมถึง Hello Kitty Helmet หมวกกันน็อคดีไซน์สุดคิวท์ และผ้าพันคอลาย Hello Kitty ไอเทมแฟชั่นเพิ่มความน่ารักไม่ซ้ำใคร เริ่มวางจำหน่ายวันที่ 15 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป ที่ศูนย์ Honda Wing Center ทั่วประเทศ

นอกจากนี้ ไทยฮอนด้ายังเปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างรถ Flash จาก Washing LAB เป็นน้ำยาล้างรถสูตรผสมแว๊กซ์ มั่นใจด้วยสูตรที่ทดลองและรังสรรค์ขึ้นจากประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญด้านรถจักรยานยนต์ตัวจริง อ่อนโยนต่อชิ้นส่วนรถทั้งสีเงา และสีด้าน โดยไทยฮอนด้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ล้างรถที่ตอบโจทย์เสียงของลูกค้าผู้ใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ช่วยขจัดคราบน้ำมันสิ่งสกปรกต่างๆ ได้อย่างง่ายและรวดเร็ว พร้อมวางจำหน่ายเดือนสิงหาคม เป็นต้นไปที่ Honda Wing Center ทั่วประเทศ

เตรียมติดตามรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่จากไทยฮอนด้าที่กำลังลาดรถเอ.ที

จะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ไทยฮอนด้า

มุ่งมั่นพร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ท่านสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th

เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : www.facebook.com/hondamotorcyclethailand

เฟซบุ๊กฮอนด้าบิ๊กไบค์ : www.facebook.com/HondaBigBikeTH

#NewForza350 #Beyondtheexceptional #เหนือกว่าทุกความเป็นที่สุด #หนึ่งเดียวคือฟอร์ซ่า

#HelloIconicFriend #NewScoopy #ScoopyxHelloKitty

#HondaMotorcycleThailand #ThaiHonda#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #Thaihonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou

“ชิพ-นครินทร์” ร่วมทัพยอดนักบิด พร้อม Honda CBR1000RR-R สู้ศึกทรหดในตำนาน Suzuka 8 Hours ที่ญี่ปุ่น

ศึกทรหดในตำนาน Suzuka 8 Hours ที่ญี่ปุ่น

“ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ แชมป์เปี้ยน” พร้อมยอดรถแข่ง CBR-Series อย่าง Honda CBR1000RR-R หมายเลข 88 สังกัดทีม Honda Asia-Dream Racing with Astemo ลงซ้อมเข้มเพื่อสู้ ศึกทรหด 2 ล้อในตำนานอย่าง Suzuka 8 Hours ครั้งที่ 45 ร่วมกับ โมฮัมหมัด ซัควาน ไซดี้ นักบิดมาเลเซีย และ แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาร์ นักบิดอินโดนีเซีย โดยมีคิวดวลกันระหว่างวันที่ 19 – 21 กรกฎาคม นี้ ที่สนามซูซูกะ ประเทศญี่ปุ่น

การซ้อมโปรแกรมสุดท้าย “ชิพ- นครินทร์” และเพื่อนร่วมทีม บิดยอดรถแข่ง Honda CBR1000RR-R ลงสนามท่ามกลางสภาพอากาศแปรปรวน ซึ่งนักบิดไทยเชื่อว่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้เก็บข้อมูลจากเงื่อนไขที่แตกต่างกัน กับการแข่งขันที่ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง ที่อะไรก็จะสามารถเกิดขึ้นได้ โดยการลงสนามเมื่อฤดูกาล 2023 ที่ผ่านมา นักบิดไทยและทีมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการคว้าอันดับที่ 8 มาครอง

“ชิพ-นครินทร์” ตัวแทนยอดนักบิดไทยในศึกทรหดกล่าวว่า “ในการทดสอบมีทั้งอากาศร้อนและฝนที่ตกลงมาต่อเนื่อง แต่ผมก็มีสมาธิในการขับขี่และได้วิ่งแบบระยะไกลด้วย ทีมเราได้ทดสอบกับสภาพอากาศและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน นำข้อมูลมาแชร์กันเพื่อที่จะใช้ในการเซ็ตอัพ สุดสัปดาห์นี้สภาพอากาศจะเปลี่ยนอย่างไรบ้าง แต่การแข่งขันจะยาวถึง 8 ชั่วโมง ซึ่งทีมจะพยายามทำอย่างเต็มที่”

แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย สามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว รวมถึงส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าทุกคนได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

#RaceToTheChampion #HondaRacingThailand #HondaBigBike #CBR1000RRR #ExcitesTheWorld #HondaAsiaDreamRacingwithAstemo

สิ้นสุดการรอคอย! Buriram Marathon 2025 เปิดรับสมัครปอดเหล็กทั่วโลก ผ่านช่องทางออนไลน์ ต้น ส.ค.นี้

มหกรรมแข่งขันวิ่งสุดยิ่งใหญ่ มาตรฐานระดับโลก

บุรีรัมย์ มาราธอน 2025 พรีเซนเต็ด บาย น้ำแร่ธรรมชาติ ตราช้าง หนึ่งในมหกรรมแข่งขันวิ่งสุดยิ่งใหญ่ มาตรฐานระดับโลก “โกลด์ เลเบิ้ล” ฝีมือคนไทย เตรียมกลับมาสร้างปรากฎการณ์ความประทับใจปอดเหล็กขาแรงจากทั่วโลกอีกครั้ง ในวันที่ 25 มกราคม 2568 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โดยล่าสุดได้ประกาศวันเปิดรับสมัครอย่างเป็นทางการ พร้อมกับเตรียมจัดแถลงข่าวการแข่งขันสู่ปีที่ 9 อย่างยิ่งใหญ่

ความเคลื่อนไหวงานไนท์รันอันดับหนึ่งของไทย “บุรีรัมย์ มาราธอน2025 พรีเซนเต็ด บาย น้ำแร่ธรรมชาติ ตราช้าง” ภายใต้แนวคิด สวรรค์ของนักวิ่ง ที่จะจัดแข่งขันในวันที่ 25 มกราคม 2568 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต หนึ่งในงานวิ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้รับการรับรองจากสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ (World Athletics) ด้วยมาตรฐานระดับโกลด์ เลเบิ้ล แบ่งเป็น 4 ระยะการแข่งขัน ได้แก่ ระยะมาราธอน (42.195 กม.), ระยะฮาล์ฟมาราธอน (21.1 กม.),ระยะมินิมาราธอน (10.0 กม.), ระยะฟันรัน (4.554 กม.)

นายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการแข่งขัน (Race Director) บุรีรัมย์มาราธอน เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของการจัดการแข่งขันเข้าสู่ปีที่ 9 จนได้รับการกล่าวขานจากนักวิ่งทั่วโลกมากมาย สร้างความประทับใจ และเป็นงานที่นักวิ่งตั้งเป้าที่จะไปร่วมลงแข่งขันในทุกปี เป็นหมุดหมายสำคัญที่ต้องเคลียร์ทุกภารกิจ เตรียมซ้อมอย่างเต็มร้อย เพื่อไปวิ่ง-ไปเต้น สัมผัสความน่ารักของกองเชียร์นับหมื่นคน เส้นทางการวิ่งที่สวยงาม อากาศที่เย็นสบาย การจัดงานมาตรฐานเวิลด์คลาสที่ยอดเยี่ยมที่สุดรายการหนึ่ง”

“คณะกรรมการจัดการแข่งขันได้มีมติให้ บุรีรัมย์ มาราธอน 2025 พรีเซนเต็ด บาย น้ำแร่ธรรมชาติ ตราช้าง ประจำปี 2568 เปิดรับสมัครนักวิ่งจากทั่วโลกอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 3 และ 4 สิงหาคม ผ่านช่องทางออนไลน์ มีเป้าหมายนักวิ่งทุกรุ่นที่ 30,000 คน โดยที่ผ่านได้รับความสนใจจากทั้งนักวิ่งระดับอีลีท นักวิ่งระดับท็อปจากทั่วทุกมุมโลก, ระดับแชมป์ประเทศไทยและผู้รักในการวิ่งมากมาย”

“ด้วยจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมหลายหมื่นคน นับว่าการแข่งขันรายการนี้ เป็นมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่มาก ทำให้ทั้งภาครัฐ-เอกชนที่เกี่ยวข้อง ต้องทำงานอย่างหนักในทุกด้าน และร่วมแรง ร่วมใจกันอย่างดีในทุกฝ่าย ตั้งแต่วันเปิดลงทะเบียนที่จะมีนักวิ่งหลั่งไหลเข้าสู่ระบบการจอง Bib มากมายมหาศาล พร้อมๆกันเวลาเดียวบนระบบออนไลน์ ไปจนถึงวันจัดงานที่ปิดถนน 100% แสงสีเสียงจัดเต็มระบบ กองเชียร์นับหมื่น หลังจบงานระดับเวิลด์คลาสนี้ เป็นเรื่องที่น่ายินดี เรียกว่า ชื่นใจหายเหนื่อย คือ คำชมเชย ความสุขและความประทับใจ รวมถึงเสียงสะท้อนทั้งจุดเด่นและจุดด้อย ที่ฝ่ายจัดการแข่งขันใส่ใจในทุกรายละเอียด และมีเป้าหมายในการพัฒนาการจัดการแข่งขันให้ดียิ่งๆขึ้นทุกปี เป็นมาราธอนที่ดีที่สุด รายการหนึ่งของโลกที่อยู่ในใจของนักวิ่งทุกคน เป็นสวรรค์ของนักวิ่งอย่างแท้จริง”

นักวิ่งที่สนใจสามารถสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ www.burirammarathon.com และ www.runningconnect.com โดยแบ่งเป็น นักวิ่งเก่า (ปี 2017-2024) สมัครวันที่ 3 สิงหาคม 2567 เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป และนักวิ่งทั่วไปสมัครวันที่ 4 สิงหาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป และจะมีการแถลงข่าวการจัดการแข่งขันอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 8 สิงหาคม 2567 เวลา 13.00 น ที่สโมสรราชพฤกษ์คลับ ถนนวิภาวดี-รังสิต กรุงเทพ”

เจาะผลงาน “ก้อง-สมเกียรติ” โมโตทู 2024 ครึ่งฤดูกาลแรก

นักบิดประวัติศาสตร์กับความเร็วระดับโลกของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” กับฤดูกาลที่ 6 ในศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ บทพิสูจน์ความสามารถที่ผ่าน 9 สนามแรกกับการต่อสู้อย่างหนัก ก่อนขยับขึ้นสู่ท็อป 8 ของโลก และนี่คือเส้นทางครึ่งฤดูกาลแรกที่เต็มไปด้วยสถานการณ์สุดหิน

“ก้อง-สมเกียรติ” นักบิดประวัติศาสตร์ชาวไทย เริ่มต้นฤดูกาล 2024 ในศึก โมโตทู ด้วยความท้าทายหลัง “ดอร์น่าสปอร์ต” ผู้จัดการแข่งขัน ได้มีการปรับเปลี่ยนยางในคลาสนี้ที่มีคาแร็กเตอร์แตกต่างกันกับของเดิมอย่างมาก

ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้นักบิดบิ๊กเนมหลายคนใน โมโตทู ที่ไม่คุ้นเคย รวมถึง “ก้อง-สมเกียรติ” ได้เจอความยากลำบากในการปรับตัวและงานเซ็ตติ้งร่วมกับทีมงาน

เกมสนามแรกที่ กาตาร์ นักบิดไทยได้ออกตัวจากกริดที่ 15 ก่อนจะได้ขึ้นมาคว้าอันดับ 11 ภายใต้การปรับแต่งรถแข่งที่ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งกินเวลาต่อเนื่องใน 4 สนามแรก โดย “ก้อง-สมเกียรติ” คว้าอันดับ 10 จากสนาม 2 ในโปรตุเกส จากนั้นต้องเจอปัญหาอย่างหนักในการเบรก จนพลาดแต้มครั้งแรกที่ ออสติน ในสหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ดี แม้จะยังแก้ปัญหา “เซ็ตติ้ง” แต่ “ก้อง-สมเกียรติ” ก็พาตัวเองขึ้นไปอยู่ในท็อปเท็นได้อีกครั้งที่ เซอร์กิโต เอ เฮเรซ ประเทศสเปน ในสนาม 4 จากนั้นทำผลงานโชว์ฟอร์มบิดไล่แซงคู่อย่างอย่างสุดมันส์ คว้าอันดับ 5 ในสนาม 5 เฟรนช์ กรังด์ปรีซ์ ที่ เลอมองส์ ประเทศฝรั่งเศส

ขยับเข้าสู่สนาม 6 ที่ บาร์เซโลน่า นับเป็นอีกครั้งที่ “ก้อง-สมเกียรติ” โดนโชคร้ายเล่นงาน เมื่อถูกคู่แข่งชนล้มตั้งแต่โค้งแรก พลาดแต้มอย่างน่าเสียดาย ก่อนจะกลับมาคว้าแต้มได้ที่ มูเจลโล ในประเทศอิตาลี ด้วยการบิดเข้าป้ายในอันดับ 9

จากนั้น “ก้อง-สมเกียรติ” เริ่มเข้าสู่ฟอร์มที่ร้อนแรง ด้วยการทุบสถิติเวลาต่อรอบตลอดกาลที่ ทีที เซอร์กิต แอสเซ่น ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 35.341 วินาที แม้จะมีข้อผิดพลาดในรอบควอลิฟายจนต้องออกตัวจากกริดที่ 17 ทว่าในสนามนี้เอง นักบิดชาวไทยแสดงให้เห็นถึงความเร็วระดับโลก เขาไล่แซงแข่งถึง 12 คัน ขยับขึ้นมาคว้าอันดับ 5 ได้อย่างน่าประทับใจ

โดยสนามล่าสุดก่อนพักครึ่งฤดูกาล “ก้อง-สมเกียรติ” สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการทุบสถิติเวลาต่อรอบอีกครั้ง ในสนามสุดหินอย่าง ซัคเซนริง เซอร์กิต ประเทศเยอรมนี ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 22.698 วินาที ความเร็วของเขาถูกจับตามองอย่างมากจากทุกทีม ขณะที่ยังคงเจอปัญหาในรอบควอลิฟายเช่นเคย และจะได้เริ่มเกมในกริดที่ 17 ซึ่งถือว่ายากมากต่อการเก็บคะแนนสะสม การเดินหน้าอย่างไม่ยอมแพ้ “ก้อง-สมเกียรติ” พารถแข่งคู่ใจหมายเลข 35 แซงคู่แข่งมากถึง 11 คัน บิดเข้าป้ายในอันดับ 6 อย่างสุดมันส์ แถมมีลุ้นโพเดียมอย่างเฉียดฉิว โดยหลังผ่าน 9 สนามแรก เก็บไปได้ทั้งสิ้น 56 คะแนน ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 8 บนตารางคะแนนสะสม ขณะที่เหลือการแข่งขันในฤดูกาลนี้อีกทั้งสิ้น 11 สนาม

ท่ามกลางอุปสรรค ความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้ทำผลงาน การไล่แซงคู่แข่งจำนวนนับสิบ และการทุบสถิติในฤดูกาลนี้เป็นว่าเล่นจึงถือเป็นสัญญาณที่ยอดเยี่ยม พิสูจน์ให้เห็นว่า “ก้อง-สมเกียรติ” คือ นักบิดประวัติศาสตร์กับความเร็วระดับโลกของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย โดยในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง สนามจะเข้าทางกับสไตล์การบิดของเจ้าตัว รวมถึงที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเจ้าตัวได้คว้าชัยชนะมาครองแบบหมดจรดด้วยสถิติมากมาย และยังมีโฮมเรซในประเทศไทย ที่แฟนๆ ชาวไทยรอให้กำลังใจเชียร์กันอย่างล้นหลาม

แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย ติดตามและส่งแรงใจเชียร์นักบิดประวัติศาสตร์ของคนไทยไปด้วยกัน นี่คือ นักแข่งฮอนด้า “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ฮีโร่ชาวไทย ที่ไม่เคยยอมแพ้กับการบิดไล่ตามความฝัน “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม”

#ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #MotoGP #Moto2 #SC35 #Kong #IdemitsuHondaTeamAsia

ยามาฮ่าจัดใหญ่ต่อเนื่องเปิดทดสอบ New MT-09 และ New MT-09SP ในกิจกรรม DARK SIDE MIDNIGHT TEST ที่อิมแพค สปีด พาร์ค

ลูกค้า และประชาชนทั่วไป ทดสอบ New MT-09 และ New MT-09SP

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดทดสอบ New MT-09 และ New MT-09SP ชวนชาวไบค์เกอร์ได้เข้ามาร่วมสัมผัสประสบการณ์ความ Dark Side of Japan ของรถ Hyper Naked ที่ได้รับความนิยม บนแทร็ก IMPACT Speed Park เมืองทองธานี และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เข้าร่วมทดสอบ ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกชาว Yamaha Club สมาชิก Yamaha Riders’ club และประชาชนทั่วไป กับบรรยากาศยามเย็น พร้อมกับสายฝนที่โปรยปราย ทำให้ทุกท่านได้สัมผัสกับเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีใน New MT-09 และ New MT-09SP อย่างเต็มสมรรถนะและยังสามารถปรับโหมดการขับขี่ให้เข้ากับสถานการณ์ไม่ว่าจะเป็น Standard Mode, Sport Mode เพิ่มความเร้าใจ และ Rain Mode เพิ่มความปลอดภัยในการทดสอบในช่วงฝนโปรย พร้อมกันนี้ยังมี Custom Modeให้เลือกปรับเซตได้ตามความชื่นชอบของแต่ละบุคคลอีกด้วย

โดยการเปิดทดสอบจะมีกระจายอีกอย่างต่อเนื่องไปตามจังหวัดต่างๆ สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook : Yamaha Riders’ Club Thailand สำหรับการทดสอบในครั้งนี้มีขึ้น ณ สนาม IMPACT Speed Park เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้

——————————–
#MTSeries #MT09 #Naked #Bigbike #Yamaha #DarkSideofJapan #MasterofTorque #RevsYourHeart #YamahaRidersclubthailand #YamahaBigbike