“ก้อง-สมเกียรติ” พลิกสถานการณ์ ไล่แซงคว้าท็อป 14 เก็บแต้ม โมโตทู มิซาโน

สมเกียรติ จันทรา พารถแข่งหมายเลข 35 ไล่แซงจากกริดที่ 22

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” บิดไล่แซงจากกริดที่ 22 พารถแข่งหมายเลข 35  จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย คว้าท็อป 14 ในศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2024 สนาม 13 ซาน มาริโน กรังด์ปรีซ์ ด้วยเวลา 35 นาที 47.526 วินาที เซฟแต้มสำคัญได้สำเร็จ รั้งอันดับ 11 บนตารางคะแนนชิงแชมป์โลก มีทั้งสิ้น 76 คะแนน หลังผ่านสนามสุดหินที่ มิซาโน เวิลด์ เซอร์กิต มาร์โก ซิมอนเชลลี ประเทศอิตาลี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ขณะที่ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ดาวรุ่งชาวไทยเจ้าของหมายเลข 5 จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย พยายามอย่างหนักในการแข่งขัน โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ออกตัวจากกริดที่ 26 บิดเข้าป้ายในอันดับ 21 ด้วยเวลารวม 34 นาที 40.914 วินาที

ทั้งนี้ สองนักบิดไทย “ก้อง-สมเกียรติ” และ “ก๊องส์-ธัชกร” มีคิวดวลความเร็วในศึก เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ สนามถัดไประหว่างวันที่ 20-22 กันยายนนี้ ที่ มิซาโน เวิลด์ เซอร์กิต มาร์โก ซิมอนเชลลี ประเทศอิตาลี เช่นเคย โดยจะใช้ชื่อรายการว่า เอมิเลีย-โรมันญ่า กรังด์ปรีซ์

แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย ส่งกำลังใจเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา และ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี แบบเต็มฤดูกาล พร้อมติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวนักบิดฮอนด้าทุกคน ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ : Race to The Dream

#ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #MotoGP #Moto2 #SC35 #Kong #IdemitsuHondaTeamAsia #Moto3 #TB5 #Gonz #SanMarinoGP

“กวาร์ตาราโร” ทะยานคว้าท็อป 9 “สปรินต์เรซ” มิซาโน

มอนสเตอร์ ยามาฮ่า เดินหน้ายกระดับรถแข่ง M1

“เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร นักบิดเฟรนช์จาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า เดินหน้ายกระดับรถแข่ง M1 ทะยานคว้าอันดับ 9 “สปรินต์เรซ” ในศึก โมโตจีพี 2024 สนาม 13 ซาน มาริโน กรังด์ปรีซ์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่ มิซาโน เวิลด์ เซอร์กิต มาร์โก ซิมอนเซลลี ประเทศอิตาลี

การแข่งขันรอบ “สปรินต์เรซ” ของ โมโตจีพี สนาม 13 มีขึ้นเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา โดย กวาร์ตาราโร เจ้าของรถแข่งหมายเลข 20 จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ได้ออกตัวจากกริดที่ 10 หลังมีการปรับเปลี่ยนเซ็ตติ้งหลายอย่าง ส่วนทีมเมทชาวสแปนิชอย่าง อเล็กซ์ รินส์ หมายเลข 42 เริ่มเกมจากกริดที่ 20

เกมเรซนี้ดวลทั้งสิ้น 13 รอบสนาม โดย กวาร์ตาราโร เริ่มเกมได้ดีเกาะกลุ่มอย่างได้อย่างเหนียวแน่น ก่อนบิดคว้าอันดับ 9 ด้วยเวลา 20 นาที 7.517 วินาที ตามหลังผู้ชนะเพียง 11.015 วินาที ส่วน รินส์ เค้นไม่ขึ้น บิดเข้าป้ายในอันดับ 19 ตามหลัง 24.873 วินาที

กวาร์ตาราโร กล่าวว่า “วันนี้ผมควอลิฟายมาในอันดับ 10 พูดตามตรงผมเค้นหนักมากและไม่ทำข้อผิดพลาด ผมรู้สึกว่าเราทำสุดความสามารถแล้ว สำหรับสถานการณ์ของเราในตอนนี้ และเวลาต่อรอบก็ดีมากๆ ตลอดการแข่งขันรอบ สปรินต์ เราไม่มีแทรคชั่นที่ล้อหลัง นั่นทำให้ผมมีอาการสไลด์บ่อย ผมต้องขี่ด้วยการใช้ล้อหน้าเป็นส่วนมาก โชคร้ายที่มันไม่ใช่สไตล์ของผม”

ทั้งนี้ 2 นักบิด มอนสเตอร์ ยามาฮ่า จะดวลความเร็วรอบ “เมนเรซ” ของศึก ซาน มาริโน กรังด์ปรีซ์ ในวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายนนี้ 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง SPOTV

—————————–
#60ปีไทยยามาฮ่ามอเตอร์ #ดีใจที่ได้เจอ
#YamahaSocietyThailand #RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #YamahaWorldChampion #YamahaNumber1RacingTeam
#YamahaMotoGP24
#YamahaFactoryRacingTeam #MonsterEnergyYamahaMotoGPteam
#FQ20 #AR42

𝗣𝗹𝗮𝗻-𝗕 𝗠𝗲𝗱𝗶𝗮 𝗕𝗥𝗜𝗖 𝗦𝘂𝗽𝗲𝗿𝗯𝗶𝗸𝗲 ประเดิมเดือด!

 “แสตมป์-อภิวัฒน์” คัมแบ็กคว้าโพลรุ่นใหญ่ ลุ้นชิงดำ “บอล-จักรกฤษณ์” สุดสัปดาห์นี้

“แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ยอดนักบิดไทยดีกรีระดับโลกจาก ยามาฮ่า ทีเอ็นพี พีทีที ลูบริแคนท์ส คัมแบ็กคว้าโพลในศึก แพลน-บี มีเดีย บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ 2024 สนามสุดท้าย เหนือ “บอล” จักรกฤษณ์ แสวงสวาท จ่าฝูงจาก อีสต์ เอ็นเจที พีทีที ลูบริแคนท์ส เรซซิ่ง ทีม ขณะการลุ้นแชมป์ประจำปีสุดเดือด ตัดสิน 2 เรซสุดท้าย ในสุดสัปดาห์นี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ แพลน-บี มีเดีย บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ 2024 สนามสุดท้าย มีคิวดวลความเร็ว ระหว่างวันที่ 6-8 กันยายน 2567 โดยล่าสุดเข้าสู่การแข่งขันรอบควอลิฟาย เพื่อจัดอันดับสตาร์ต

ผลควอลิฟายในรุ่นใหญ่ที่สุดของประเทศไทยอย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี ปรากฏว่า “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ อดีตนักบิดเวิลด์ซูเปอร์สปอร์ตจาก ยามาฮ่า ทีเอ็นพี พีทีที ลูบริแคนท์ส ซึ่งกลับมาแข่งขันหลังจากบาดเจ็บ สามารถคว้าโพลไปครอง ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 36.093 วินาที เหนือจ่าฝูงบนตารางแชมเปียนชิพอย่าง “บอล” จักรกฤษณ์ แสวงสวาท จาก อีสต์ เอ็นเจที พีทีที ลูบริแคนท์ส เรซซิ่ง ทีม กริดที่ 2 ถึง 0.712 วินาที ส่วนกริดที่ 3 ในเรซนี้เป็นของ “ซีเค” ชัยวิชิต นิสกุล จาก คอร์ มอเตอร์สปอร์ต ไทยแลนด์ ตามหลัง 0.989 วินาที

ด้านผลควอลิฟายในรุ่น ซูเปอร์สต็อก 1,000 ซีซี ตำแหน่งโพลตกเป็นของ ตะวัน ตั้งจิตเจริญ จาก ทีเค ฮอนด้า อิเดมิตสึ ศรีนคร ไออาร์ซี ดีไอดี อัลไพน์สตาร์ส ดิเรก ทีม ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 39.513 วินาที เฉือน นทีธาร ทองโคตร จาก ยามาฮ่า ทีเอ็นพี พีทีที ลูบริแคนท์ส กริดที่ 2 เพียง 0.389 วินาที ส่วนกริดที่ 3 ได้แก่ ออ ปิตะบุตร นักบิดจอมเก๋าจาก คอร์ มอเตอร์สปอร์ต ไทยแลนด์ ตามหลัง 0.4 วินาที

ขณะที่ผลการควอลิฟายในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ซึ่งถือเป็นอีกรุ่นที่ได้รับการติดตามอย่างมาก ปรากฏว่า ต่อศักดิ์ นวลสาย นักบิดฟอร์มแรงจาก ยามาฮ่า ทีเอ็นพี พีทีที ลูบริแคนท์ส คว้าโพลไปครองด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 41.106 วินาที เหนือดาวรุ่งอย่าง สุทธิภัทร พัชรีธร จาก สปีด800 ยัวซ่า ยามาฮ่า ตาตั้ม เรซซิ่ง ทีม ในกริดที่ 2 เพียง 0.347 วินาที ส่วนกริดที่ 3 ตกเป็นของ วัชรินทร์ ทับทิมอ่อน จาก อีสต์ เอ็นเจที พีทีที ลูบริแคนท์ส เรซซิ่ง ทีม ตามหลังหัวแถว 1.17 วินาที

ส่วนในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี ที่รวมเอาดวงดังของไทยไว้หลายคน ตำแหน่งโพลตกเป็นของ “ฟอง” คณาทัต ใจมั่น จาก ไฮสปีด เรซซิ่ง ทีม ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 46.470 วินาที เหนือ “เติ้ล” พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง มือบิดระดับเอเชียจาก สปีด800 ยัวซ่า ปอ เรซซิ่ง เชียงใหม่ กริดที่ 2 ถึง 1.268 วินาที ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ จาก อีสต์ เอ็นเจที พีทีที ลูบริแคนท์ส เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 1.403 วินาที

ปิดท้ายด้วยผลควอลิฟายในรุ่นจูเนียร์อย่าง สปอร์ต โปรดักชั่น 400 ซีซี ผลปรากฏว่า พงษ์สถิตย์ แสนหลวง นักบิดดาวรุ่งจาก ยามาฮ่า บลู ครู ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ผงาดคว้าโพลไปครองด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 51.985 วินาที เฉือนกริดที่ 2 อย่าง สวพล นิลพงษ์ จาก ศักดิ์ศิริ เรซซิ่ง ทีม เพียง 0.095 วินาทีเท่านั้น ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ ดรัณภพ ทองย้อย จาก อีสต์ เอ็นเจที พีทีที ลูบริแคนท์ส เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 0.415 วินาที

ทั้งนี้ ศึก แพลน-บี มีเดีย บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ 2024 สนามสุดท้าย จะดวลความเร็วส่งท้ายปีทั้งสิ้น 2 เรซ โดยเรซแรกจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 7 กันยายนนี้ ก่อนจะชิงชัยเรซที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน 2567

แฟนความเร็วร่วมชมและเชียร์ นักบิดไทยคว้าตำแหน่งแชมป์ประจำปีแบบติดขอบสนาม บัตรเข้าชมที่นั่งแกรนด์ สแตนด์ ราคา 100 บาท / 1 วัน ซื้อได้ที่จุดจำหน่ายบัตรหน้าทางขึ้น Grandstand (จำหน่ายบัตรวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 7-8 กันยายน 2567 เท่านั้น) พิเศษ ! เพียงซื้อบัตรชมการแข่งขัน BRIC Superbike หรือ GT World Challenge มีสิทธิ์ลุ้นรับบัตร VIP โค้ง 12 และบัตร Paddock Pass ชมการแข่งขันโมโตจีพี 2024

รับชมถ่ายทอดสดการแข่งขัน “Plan-B Media BRIC Superbike 2024” สนามที่ 4-5 ได้ในวัน 7-8 กันยายน ทาง True Sports 1 ช่อง 666 เวลา 14.30-17.15 น. หรือชม Live Streaming ทางเพจ Chang Circuit Buriram / BRIC Superbike และ Youtube : Chang International Circuit ตั้งแต่ 9.00 น. เป็นต้นไป

พร้อมเสิร์ฟความมันส์ระดับห้าดาวไปสู่ประเทศอาเซียน โดย สปป.ลาว รับชมทางช่อง MVL, เมียนมาร์ รับชมทางช่อง MVM, กัมพูชา รับชมทางช่อง TV3 ส่วนช่องทางออนไลน์ รับชมผ่านทาง You Tube : TVB Thailand และ Application MVTV และ Fanpage : MVM , MVL , TV3HD ได้ทุกช่องทาง

ไทยฮอนด้า เปิดตัวโครงการ ‘Thai Honda Creator Connect Club 2024’

จัดเวิร์กชอปปั้นครีเอเตอร์ สร้างสีสันวงการสองล้อ ชิงรางวัลรวมกว่า 8 แสนบาท

ไทยฮอนด้า เปิดตัวโครงการ ‘Thai Honda Creator Connect Club 2024 : จุดประกายสร้างสรรค์ สู่เส้นทางครีเอเตอร์มืออาชีพ’ มุ่งผลักดันครีเอเตอร์หน้าใหม่สู่วงการสองล้อ และยกระดับศักยภาพให้นำเสนอแง่มุมคอนเทนต์ที่หลากหลาย เพื่อเติมสีสันและสร้างเครือข่ายครีเอเตอร์วงการรถจักรยานยนต์ ผ่านการจัดเวิร์กชอปที่ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์จากเหล่ากูรูวงการครีเอเตอร์ พร้อมลุ้นชิงรางวัลมูลค่ารวมกว่า 800,000 บาท

คุณนคร วิมลจิตรสอาด ผู้จัดการทั่วไป สายงานการสื่อสารการตลาด บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเล็งเห็นความสำคัญของแวดวงคอนเทนต์ครีเอเตอร์ในยุคปัจจุบันที่จำเป็นต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ทำคอนเทนต์ให้ออกมาน่าสนใจและหลากหลาย ด้วยเหตุนี้ เราจึงจัดโครงการนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นเส้นทางการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ได้ก้าวเข้าสู่วงการคอนเทนต์รถจักรยานยนต์ รวมถึงเปิดเวทีให้กลุ่มครีเอเตอร์ที่มีประสบการณ์อยู่แล้ว ได้มาเพิ่มทักษะความรู้และพัฒนาศักยภาพให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือการสนับสนุนให้ครีเอเตอร์ทุกคนพร้อมนำเสนอไอเดียความคิดสร้างสรรค์เพื่อเป็นอีกพลังในการสื่อสารเรื่องราวดีๆ สู่ผู้บริโภคต่อไปในอนาคต”


ภายในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการฯ ยังมีการนำเสนอรถจักรยานยนต์ฮอนด้าหลากหลายรุ่น ซึ่งตอบโจทย์ทุกรูปแบบไลฟ์สไตล์ ทั้งฮอนด้าบิ๊กไบค์ Honda CBR650R E-Clutch และ Honda CB650R E-Clutch ร่วมด้วยฟาก CUB House by Honda ที่ได้นำ Honda C125 สีน้ำเงิน-ขาว Prestige Classy Blue และ Honda Monkey 2024 มาโชว์ความซนระดับตำนาน รวมถึง CT125 2024 สี Pearl Sugarcane Beige สีใหม่ที่เปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ และ Honda Dax 125 2024 สีน้ำเงิน Pearl Glittering Blue ที่เป็นรางวัลของผู้ชนะในโครงการฯ ทั้งนี้ เพื่อให้เหล่าครีเตอร์ได้สัมผัสประสบการณ์จริง และเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่หลากหลายสู่วงการคอนเทนต์รถจักรยานยนต์

โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการ ‘Thai Honda Creator Connect Club 2024 : จุดประกายสร้างสรรค์ สู่เส้นทางครีเอเตอร์มืออาชีพ’ จะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ Beginner Creator และ Skilled Creator โดยจะมีการทำเวิร์กชอป 3 ครั้ง ในเวิร์กชอปแต่ละครั้งจะมีโจทย์ที่ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องสร้างสรรค์คอนเทนต์ภายในระยะเวลา 3 สัปดาห์ เพื่อเก็บสะสมคะแนนและเฟ้นหาผู้ชนะที่มีผลงานโดดเด่นมากที่สุด ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 800,000 บาท และผู้เข้าร่วมจะได้รับใบประกาศนียบัตรหลังจากจบโครงการ พร้อมทั้งโอกาสได้ร่วมงานสร้างสรรค์คอนเทนต์กับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าอีกด้วย

รางวัลชนะเลิศ: New Honda Dax125 จำนวน 1 คัน, เงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท, ใบประกาศนียบัตรจากไทยฮอนด้า และได้ร่วมงานทำคอนเทนต์กับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า มูลค่า100,000 บาท
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1: เงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท , ใบประกาศนียบัตรจากไทยฮอนด้า และได้ร่วมงานทำคอนเทนต์กับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า มูลค่า 50,000 บาท
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2: เงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท , และได้ร่วมงานทำคอนเทนต์กับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า มูลค่า 20,000 บาท

ร่วมลุ้นติดตามผลผู้ชนะสำหรับงาน Thai Honda Creator Connect Club 2024 ได้ที่
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : www.facebook.com/hondamotorcyclethailand

#ThaiHondaCreatorConnectClub2024 #HondaMotorcycleThailand
#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #ThaiHonda

มิเกล โอลิเวียร่า ร่วมทีม Prima Pramac Yamaha Factory Team

มิเกล โอลิเวียร่า นักแข่งชาวโปรตุเกส ได้เซ็นสัญญากับทีมยามาฮ่า แล้วจะเข้าร่วมทีม Prima Pramac Yamaha Factory Team โดยสัญญามีระยะเวลา 2 ปี ครอบคลุมฤดูกาลแข่งขัน MotoGP ปี 2025 และ 2026

บริษัท Yamaha Motor Co., Ltd. แสดงความยินดีกับการเซ็นสัญญาครั้งนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าพวกเขามองว่าโอลิเวียร่าเป็นการเสริมทัพที่มีคุณค่า การย้ายทีมครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในเส้นทางอาชีพของโอลิเวียร่า ขึ้นอยู่กับทีมปัจจุบันของเขา การย้ายครั้งนี้อาจถือเป็นก้าวกระโดดหรือการย้ายในระดับเดียวกันไปยังผู้ผลิตรายอื่น และการได้เซ็นสัญญากับทีมโรงงานถือเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับสัญญา 2 ปีแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นจากทั้งสองฝ่าย และให้ความมั่นคงกับโอลิเวียร่าในอนาคตอันใกล้ กับ ยามาฮ่า การเซ็นสัญญากับนักแข่งดาวรุ่งอย่างโอลิเวียร่าอาจเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมและปรับปรุงความสามารถในการแข่งขันในศึก MotoGP

“ก้อง-สมเกียรติ” ชี้ยกระดับเซตติ้ง หวังล่าผลงาน โมโตทู ที่ มิซาโน

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยืนยันศักยภาพรถแข่งในทิศทางที่ถูกต้อง

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” เตรียมลุยศึก โมโตทู 2024 สนาม 13 ซาน มาริโน กรังด์ปรีซ์ เจ้าตัวเผยยกระดับเซตติ้งได้ดีจากสนามที่ผ่านมา ยืนยันศักยภาพรถแข่งในทิศทางที่ถูกต้อง ลุ้นล่าแต้มสุดสัปดาห์นี้ ที่ มิซาโน เวิลด์ เซอร์กิต มาร์โก ซิมอนเชลลี ประเทศอิตาลี

ศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2024 มีคิวดวลความเร็วระหว่างวันที่ 6-8 กันยายนนี้ ภายใต้สถานการณ์ลุ้นแชมป์ที่เข้มข้น โดยนักบิดไทยอย่าง “ก้อง-สมเกียรติ” เดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่อง หลังสร้างผลงานยอดเยี่ยมด้วยการไล่แซงจากกริด 14 บิดคว้าอันดับ 6 ในสนามที่ผ่านมาที่ มอเตอร์แลนด์ อารากอน

นักบิดขวัญใจชาวไทยเจ้าของหมายเลข 35 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย กล่าวว่า “สุดสัปดาห์นี้เราแข่งกันที่ มิซาโน ซึ่งหลังผ่านการแข่งขัน อารากอน กรังด์ปรีซ์ ผมรู้สึกว่าเรามีความคืบหน้าอย่างมากกับการเซ็ตอัพรถแข่ง มีการยกระดับไปในทิศทางที่ถูกต้อง ยังมีงานอีกเยอะที่เราต้องทำเพื่อบรรลุเป้าหมาย แต่เราก็อยู่ในทิศทางที่ถูกต้องแล้ว ผมหวังว่า ซาน มาริโน กรังด์ปรีซ์ ครั้งนี้ จะสามารถยืนยันแนวทางบวกนี้ของเราได้ หลังจากมีทิศทางที่ดีในสนามที่ผ่านมา”

ด้าน “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี นักบิดดาวรุ่งชาวไทยเจ้าของรถแข่งหมายเลข 5 จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย ก็พร้อมที่จะลุยศึก โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ เช่นกัน หลังสร้างโอกาสลุ้นแต้มอย่างเต็มตัวในสนามที่ผ่านมา ด้วยการขยับขึ้นไปสูงสุดถึงอันดับ 16 ที่ มอเตอร์แลนด์ อารากอน

ทั้งนี้ ศึก ซาน มาริโน กรังด์ปรีซ์ จะเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมในวันศุกร์ที่ 6 กันยายนนี้ ก่อนจะจับเวลารอบควอลิฟายในคืนวันเสาร์ที่ 7 กันยายนนี้ และดวลความเร็วในรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายนนี้ เริ่มต้นด้วย โมโตทรี 16.00 น. ต่อด้วย โมโตทู 17.15 น. และปิดท้ายด้วย โมโตจีพี 19.00 น. ถ่ายทอดสดทาง SPOTV

แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย ส่งกำลังใจเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา และ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี แบบเต็มฤดูกาล พร้อมติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวนักบิดฮอนด้าทุกคน ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ : Race to The Dream

 

#ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #MotoGP #Moto2 #SC35 #Kong #IdemitsuHondaTeamAsia #Moto3 #TB5 #Gonz #SanMarinoGP

ยามาฮ่า โมโตชาลเลนจ์ สุดเดือด ภูผา อีเทค “ดับเบิ้ลวินเนอร์” เก็บคะแนนขึ้นนำ

 เทคโนกาฬสินธุ์ – ดรุณาโปลีเทคนิค -พังโคนฯ ชิงโพเดียมสุดมัน

YAMAHA Moto Challenge ซีซัน 9 โครงการเรียนรู้วิชาชีพมอเตอร์สปอร์ต โชว์เชิงจาก 2 สนามที่ผ่านมา พร้อมสร้างเกมการแข่งขันสุดมัน ด้วยเชิงชั้นแห่งความเร็ว บนรถแข่ง YAMAYA R15 สุดประทับใจในการแข่งขันเก็บคะแนนสะสมสนามที่ 3 สนาม ไทยแลนด์ เซอร์กิต

เกมสตาร์ทด้วยความท้าทายของ วรายุทธ ท้าวขุนราชา #135 จากดรุณาโปลีเทคนิค ราชบุรี ออกสตาร์ทจากกริดที่ 7 ชิงเกมเปิดคันเร่งเข้าสู่โค้งที่ 1 ได้เป็นคันแรก ตามเบียดด้วย เดอะวินเนอร์จากสนามที่ 2 ภูริณัฐ ศรีบุรินทร์ #915 จากเทคโนโลยีภาคตะวันออก อดิศร ผาลา #5 จากไดโนซ่าทีม อาชีวศึกษากาฬสินธุ์ สวนแก้ว พระนอนเขต #19 จากฐานเทคโนโลยี ธนาธิป สังสุต #19 จากภักดีพาณิชยการกำแพงเพชร และสุริยา คำปลิว #93 จากพังโคนพณิชยการ โดยตลอด 10 รอบ นักแข่ง 6 คัน ต่างมุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามลิมิต ทำให้บทเรียนรู้จาก 2 สนามแรกได้นำมาเป็นประสบการณ์ที่ดีในสนามที่ 3 นี้ ส่วนนักแข่งที่เหลือต่างประกบคันเร่งด้วยความท้าทายไปกับเพื่อนเด็กช่างด้วยกัน ซึ่งได้สร้างเกมสนุกสนานให้กับกองเชียร์ที่มาร่วมชมในสนามได้เร้าใจไปด้วยกัน

หลังจากเปิดคันเร่งดวลล้อกันอย่างสนุกสนานจนครบ 10 รอบ เป็นนักบิดจากอี-เทค ภูริณัฐ ศรีบุรินทร์ #915 ที่ใช้เวลาเพียงไม่นานกลับมาเป็นผู้นำการแข่งขัน และนำยาวจนจบการแข่งขันเข้าเก็บดับเบิ้ลโพเดียมวินเนอร์ คว้าชัยชนะบนสนามแข่งไทยแลนด์ เซอร์กิตแบบ 100% พร้อมทำเรซเบสต์แล็ปของเกมสนามนี้ที่ 1.40.896 นาที และทำคะแนนสะสมนำอยู่บนหัวแถวตารางอยู่ 57 แต้ม สำหรับอันดับ 2 เป็นของ อดิศร ผาลา #5 อันดับ 3 เป็นของ สุริยา คำปลิว #93 จากพังโคนพณิชยการ อันดับ 4 วรายุทธ ท้าวขุนราชา #135 จากดรุณาโปลีเทคนิค และอันดับ 5 สวนแก้ว พระนอนเขต #19 จากฐานเทคโนโลยี

การแข่งขัน YAMAHA Moto Challenge ซีซัน 9 ในสนามสุดท้ายจะกลับคืนสู่ สนามแข่งช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บุรีรัมย์ ในช่วงเปิดเทอม 2 เดือนพฤศจิกายน 2567 นี้โดยจะทำการแข่งขันด้วยกัน 2 เรซ ร่วมติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ Facebook : YAMAHA THAILAND RACING TEAM และ YAMAHA Moto Challenge

—————————–
#60ปีไทยยามาฮ่ามอเตอร์ #69ปียามาฮ่ามอเตอร์ #ดีใจที่ได้เจอ
#YamahaSocietyThailand #RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #YamahaMotoChallenge

New Yamaha MT-09 Y-AMT 2024 SYMBIOSIS WITH DARKNESS ไฮเปอร์เน็กเก็ด

New Yamaha MT-09 Y-AMT 2024 ไฮเปอร์เน็กเก็ด ที่เรียกด่า ดุ ดิบ แต่ควบคุมง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส อรรถรสความแรงเร้าใจยังเหมือนเดิม

มันถูกพัฒนาต่อมาจาก MT-09 รุ่นมาตรฐาน ที่เพิ่งเปิดดตัวได้ไม่นานมานี้เอง โดยการพัฒนาครั้งนี้เรียกได้ว่ามีการอัพเกรดใหม่ ด้วยรหัสต่อท้าย Y-AMT ซึ่งเป็นระบบเกียร์ใหม่ เป็นครั้งแรกในรถบิ๊กไบค์ของยามาฮ่า ทำให้รถรุ่นนี้สามารถเปลี่ยนเกียร์เองโดยอัตโนมัติ หรือจะเลือกขับขี่ด้วยระบบเกียร์แมนน้วน ยังสามารถทำได้โดยเพียงนิ้มสัมผัสผ่านปุ่มที่ประกับแฮนด์ฝั่งซ้าย เหมือนกับแพดเดิลชิปในรถยนต์

Yamaha Y-AMT (Yamaha Automated Manual Transmission) มันคืออะไรล่ะ นั่นไง! มันคือระบบเกียร์อัจฉริยะ ที่สามารถเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ได้โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้ก้านคลัทช์ และคันเกียร์ เพิ่มสนุกและไม่ต้องกังวลกับการใช้คลัทช์เปลี่ยนเกียร์ หรือการออกตัวดับของไบค์มือใหม่ทั้งหลาย ในการควบคุมรถจักรยานยนต์ตามต้องการ

ซึ่งโดยพื้นฐานจริงๆ แล้วมันคือระบบเกียร์ธรรมดาทั่วไป เพียงแต่เพิ่มชุดระบบช่วยการเปลี่ยนเกียร์โดยอัตโนมัติเข้ามา ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องใช้ก้านคลัทช์ และไม่ต้องใช้คันเกียร์ อีกต่อไป เพราะเค้าไม่มีมาให้ตั้งแต่ไลน์ผลิต ช่วยทำให้การขับขี่รถบิ๊กไบค์สะดวกสบายมากขึ้น ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน, การเดินทางไกล หรืออยากไปโลดแล่นในสนามแข่ง

โดยตัวระบบจะมีโหมดมาให้เลือก 2 แบบ ได้แก่โหมด AT และโหมด MT โดยการทำงานของชุดกลไกการเปลี่ยนเกียร์ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีความรู้สึกถึงการเปลี่ยนเกียร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โหมด AT ระบบจะคำนวณรอบเครื่องยนต์ และจดจำสไตล์การใช้งาน เพื่อเปลี่ยนเกียร์ให้สัมพันธกัน แต่มันก็สามารถที่จะเปลี่ยนเกียร์ด้วยปุ่มได้ด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันการลงเนินที่มีความเร็วเพิ่มขึ้น จะได้เชนลดเกียร์เองได้ ยังแยกย่อยเป็น D / D+ ด้วยรอบเครื่องยนต์ และแรงม้าที่แตกต่างอีกด้วย ส่วนโหมด MT เน้นสนุกและเร้าใจ เปลี่ยนได้ตามใจพระเดชพระคุณท่านเลย และมันแทบไม่รู้สึกถึงการเข้าเกียร์เลย แต่จะมีเสียง และแรงกระชากนิดหน่อย ได้อารมณ์สปอร์ต

โดยในตัว MT-09 Y-AMT มี สมาร์ทคีย์ ติดมาให้ที่เหมือนกับตัว MT-09SP แต่จะไม่มีในเรื่องของระบบเบรกด้านหน้าที่เป็น Brembo Stylema โช้คหน้า KYB Premium และ โช้คเดี่ยวของ Ohlins รุ่นนี้ แต่จะให้เป็นโช้คหัวกลับ และโช้คหลังเดี่ยว สามารถปรับค่าพรีโหลดได้ตามปกติ เหมือนในตัวของ MT-09

ประกับแฮนด์ซ้าย จะเป็นส่วนที่ใช้ควบคุมการทำงานของระบบไฟฟ้าต่างๆ ของรถ และใช้ควบคุมหน้าจอเรือนไมล์ รวมถึงระบบล็อกความเร็ว และปุ่มเพิ่ม/ลดเกียร์แบบแมนน้วน ประกับแฮนด์ขวา ประกอบด้วยปุ่มสลับโหมดเกียร์อัตโนมัติ/แมนนวล, ปุ่ม Off/run/start และปุ่มเปลี่ยนโหมดการขับขี่เบาะนั่งแบบ 2 ตอน ความสูง 825 มม. แบ่งตอนผู้ขับขี่กับผู้โดยสารออกจากกัน

Yamaha MT-09 Y-AMT 2024 ใช้เครื่องยนต์ Crossplane 3 สูบเรียง ขนาด 890 ซีซี DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ มอบพละกำลังสูงสุด 119 แรงม้า ที่ 10,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 93 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบ/นาที โดยตัวรถรุ่นนี้มีควิกชิพเตอร์ ทั้ง UP และ Down มาให้ แต่ก้านชิพเตอร์จะถูกติดตั้งไว้ด้านข้างของเครื่องยนต์มีขนาดสั้น และไม่เทอะทะออกมาให้เกะกะ

แต่จริงๆ แล้ว ก่อนหน้านี้ ยามาฮ่า เป็นผู้นำด้านระบบเกียร์อัตโนมัติในรถจักรยานยนต์โดยพัฒนาระบบ YCC-S (Yamaha Chip Controlled Shift) สำหรับรถสปอร์ตทัวร์เร่อร์ (Sport Tourer) ใน YAMAHA FJR1300 โดยมีระบบคลัทซ์ไฮดรอลิกอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ธรรมดาโดยใช้คันเกียร์แบบใช้นิ้ว หลังจากนั้นได้พัฒนาเป็นระบบ Y-AMT ที่สามารถตอบสนองการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มฟิลลิ่งการขับขี่ที่เร้าใจของเกียร์ธรรมดา ทั้งยังได้เพิ่มความสะดวกสบายจากเกียร์อัตโนมัติเต็มรูปแบบ ต่างจากระบบ YCC-S ที่กระตุ้นด้วยไฮดรอลิก ขณะที่ Y-AMT ใช้แอคชูเอเตอร์ไฟฟ้า (Electric Actuator) สองตัวเพื่อดำเนินการ”

อุ่นเครื่องครั้งใหญ่! MotoGP Fan Festival 2024 กระหึ่ม แฟนความเร็วแห่ร่วมชม-เชียร์นักบิดคนโปรดแบบเอ็กซ์คลูซีฟ

MotoGP Fan Festival 2024 กับเส้นทางการจัดกรังปรีซ์อันดับหนึ่งของโลกบนผืนแผ่นดินไทย 

ถนนสู่โมโตจีพีไทยสุดคึกคัก สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ผนึกพันธมิตร เนรมิตเฟสติวัลสุดยิ่งใหญ่เอาใจแฟนความเร็ว กิจกรรมขยายฐานความนิยมสู่เส้นทางการจัดกรังปรีซ์อันดับหนึ่งของโลกบนผืนแผ่นดินไทย ที่พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ ความยิ่งใหญ่และการจดจำอีกครั้ง

ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 กันยายน 2567 สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ผนึกพันธมิตร ได้แก่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG, น้ำแร่ธรรมชาติ ตรา ช้าง และ ค่ายรถจักรยานยนต์ชื่อดัง ฮอนด้า ยามาฮ่าและดูคาติ ตอกย้ำความยิ่งใหญ่และกระแสความนิยมโมโตจีพีในประเทศไทย จัดใหญ่จัดเต็มกิจกรรม MotoGP Fan Fest 2024 Road to PT Grand Prix of Thailand ที่ ร้านจับแพะชลแกะ ราชพฤกษ์ กรุงเทพฯ เพื่อขยายฐานแฟนคลับและอุ่นเครื่องก่อนที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันศึกสองล้อรายการใหญ่ที่สุดของโลก โมโตจีพีวิถีไทย ระหว่าง 25– 27 ตุลาคม 2567 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

บรรยากาศภายในงานมีกองทัพแฟนคลับโมโตจีพีและสื่อมวลชน ร่วมงานมากกว่า 500 คน ร่วมชม-เชียร์ ร่วมลุ้นนักบิดที่ชื่นชอบกับการแข่งขัน สนามที่ 12 อรากอน จีพี ประเทศสเปน พร้อมช่วยกันส่งเสียงเชียร์ นักบิดที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวไทย “ก้อง”สมเกียรติ จันทรา และลุ้นรางวัลสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ส่งมอบประสบการณ์สุดล้ำค่าให้กับแฟนคลับโมโตจีพี อาทิ บัตร Paddock สำหรับกระทบไหล่นักบิดดังแบบใกล้ชิด, บัตร Pit Walk ที่ผู้ถือบัตรจะสามารถชมรถแข่งมูลค่าหลายร้อยล้านและพิตการทำงานของทีมชื่อดังของโลก, ของที่ระลึก ThaiGP Collection ลิขสิทธิ์แท้และของรางวัลอื่นๆมากมาย โดยมีคอนเสิร์ตจากศิลปินรุ่นใหญ่ วงร็อกหัวดำ นำโดย ปู-อานนท์ สายแสงจันทร์ และวง BLACKHEAD ที่นำเพลงฮิตมากมายมาให้ฟังอย่างจุใจ

นายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เปิดเผยว่า กิจกรรมในครั้งนี้เป็นการสานต่อความสำเร็จกับการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก หรือโมโตจีพีอีกครั้ง เทศกาลกีฬายักษ์ใหญ่ระดับเวิลด์คลาส ที่จัดเป็นปีที่ 5 ซึ่งสนามประเทศไทยเคยสร้างสถิติด้วยการเป็นแชมป์สนามแข่งที่มีผู้ชมสูงสุด และถือเป็นสนามที่มีผู้ชมจำนวนมากสนามหนึ่งของโลก ตลอด 4 ปีที่จัดการแข่งขัน MotoGP สร้างปรากฎการณ์มากมาย ทุกปีหลังเปิดจำหน่ายบัตร เพียงเปิดจองวันแรก บัตรที่นั่งแกรนด์สแตนด์ก็ถูกจองเต็มในเวลาไม่กี่นาที รวมถึงบัตรที่นั่งไซด์สแตนด์, สแตนด์พิเศษของนักแข่งต่างๆ ก็ถูกจับจองหมดก่อนถึงการแข่งขันเช่นกัน รวมถึงที่พักในจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียง ถูกจองเต็มล่วงหน้าตั้งแต่ดอร์น่า สปอร์ต ประกาศปฏิทินการแข่งขันในแต่ละปี เรียกว่าที่พักถูกจองเต็ม ก่อนที่จะเปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมเสียอีก ทั้งยังได้รับคำชื่นชมในส่วนการจัดงานที่ยิ่งใหญ่ทั้งในและนอกสนาม ดึงเสน่ห์ท้องถิ่นสู่งานมหกรรมกีฬาระดับอินเตอร์ ต้อนรับแฟนมอเตอร์สปอร์ตหลายแสนคนจากทั่วโลก ต่อยอดจนไปถึงการที่นักท่องเที่ยวและผู้เข้าร่วมชมการแข่งขันโมโตจีพี รวมถึงผู้ติดตาม ได้จับจ่าย ซื้อสินค้าและบริการในพื้นที่ ท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ มีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 4-5 พันล้านบาทต่อปี

“ในการนี้ ฝ่ายจัดการแข่งขัน ต้องการจะขยายฐานแฟนคลับ รวมทั้งสร้างกระแสการรับรู้ อุ่นเครื่องความสนุกให้กับแฟนๆโมโตจีพีในประเทศไทย ซึ่งโมโตจีพีเป็นอีกชนิดกีฬายอดนิยมของโลก สร้างความสนุกสนานและประทับใจ ถ่ายทอดสู่ 207 ประเทศ ผู้ชมกว่า 800 ล้านคนทั่วโลก จึงได้จัดกิจกรรมในครั้งนี้ พร้อมทั้งต้องการเชิญชวนคนไทย ร่วมชมและเชียร์การแข่งขันไปจนถึงวาระที่ไทยเป็นเจ้าภาพในสนามที่ 18 รวมทั้งร่วมแสดงพลังเข้าชมที่สนามแข่ง เชียร์และส่งกำลังใจ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยให้สามารถคว้าชัยโฮมเรซ เป็นการส่งท้ายในรุ่นโมโตทู ก่อนขึ้นไปสู่การแข่งขันระดับพรีเมียร์คลาส สร้างชื่อเสียง ความภาคภูมิใจ นำกีฬามาสร้างประโยชน์มหาศาลสู่ประเทศชาติอย่างยั่งยืน”

ส่วนบัตรชมการแข่งขันยังสามารถจับจองกันได้ผ่านช่องทาง Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือเว็บไซด์ allticket ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจ Chang Circuit Buriram

ไทยฮอนด้า คว้ารางวัล ‘The Most Powerful Brands of Thailand 2024’ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7

ไทยฮอนด้า สุดยอดแบรนด์รถจักรยานยนต์ที่ทรงพลังของประเทศไทย
ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย คว้ารางวัล ‘The Most Powerful Brands of Thailand 2024’ หรือ ‘สุดยอดแบรนด์ทรงพลังของประเทศไทย 2024’ ในกลุ่มยานยนต์ (Automotive) ซึ่งจัดโดยภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย งานนี้ถือเป็นการสํารวจแบรนด์ครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เป็นแบรนด์รถจักรยานยนต์หนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ สะท้อนความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วประเทศมาอย่างยาวนาน
คุณนคร วิมลจิตรสอาด ผู้จัดการทั่วไปสายงานการสื่อสารการตลาด บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “รางวัล The Most Powerful Brands of Thailand 2024 นับเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจที่ยืนยันถึงความสำเร็จของรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ที่ได้พัฒนาส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดสู่มือผู้บริโภค ทั้งด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ พร้อมที่จะตอบสนองและมุ่งมั่นที่จะส่งมอบคุณค่าใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าในหลากหลายรูปแบบให้ตรงใจผู้บริโภคอยู่เสมอ ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้ทำให้ฮอนด้าสามารถครองใจผู้บริโภคและคว้ารางวัลฯ ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 7 ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจและการสนับสนุนฮอนด้ามาโดยตลอด”
สำหรับการประเมินความแข็งแกร่งของแบรนด์ในครั้งนี้ พิจารณาครอบคลุม 4 มิติ ได้แก่ ความตระหนักในแบรนด์ (Awareness) ความชื่นชอบในแบรนด์ (Preference) การใช้ผลิตภัณฑ์ (Usage) และภาพลักษณ์ (Image) เป็นการวิเคราะห์ความสำเร็จของแบรนด์ในด้าน Market Share, Mind Share และ Heart Share โดยสํารวจกลุ่มตัวอย่างจํานวน 24,000 ตัวอย่าง แบ่งเป็นกลุ่มในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 12,000 ตัวอย่าง และใน 13 จังหวัดหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศอีก 12,000 ตัวอย่าง อายุระหว่าง 18-69 ปี ที่มีความหลากหลายทางเพศและช่วงอายุ โดยทุกคนจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการด้วยตนเอง เพื่อให้การประเมินแบรนด์มีความถูกต้องและแม่นยํา
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://bit.ly/thaihondabigbike
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : www.facebook.com/hondamotorcyclethailand
เฟซบุ๊กฮอนด้าบิ๊กไบค์ : www.facebook.com/HondaBigBikeTH/
#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #Thaihonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou

“ก้อง-สมเกียรติ” โชว์ฝีมือระดับโลก! ไล่แซงเดือด คว้าท็อป 6 โมโตทู อารากอน

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ไล่แซงคู่แข่งอย่างดุเดือดจากกริดที่ 14 ทะยานคว้าท็อป 6 

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” พิสูจน์ฝีมือระดับโลก ระเบิดฟอร์มเก่งไล่แซงคู่แข่งอย่างดุเดือดจากกริดที่ 14 ทะยานคว้าท็อป 6 ในศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2024 สนาม 12 รายการ อารากอน กรังด์ปรีซ์ หลังจบเรซสุดมันส์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ที่ มอเตอร์แลนด์ อารากอน ประเทศสเปน

การแข่งขันเรซนี้ดวลกันทั้งสิ้น 19 รอบสนาม โดย “ก้อง-สมเกียรติ” เริ่มเกมจากกริดที่ 14 ก่อนพารถแข่งคู่ใจหมายเลข 35  จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย แซงผ่านคู่แข่งได้ถึง 8 อันดับ บิดเข้าป้ายในอันดับ 6 ด้วยเวลา 36 นาที 7.462 วินาที พร้อมเก็บ 10 แต้ม รวมเป็น 74 คะแนน รั้งอันดับ 11 บนตารางคะแนนสะสม โมโตทู 2024 หลังผ่าน 12 สนามแรกของปี

ด้าน “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทย หมายเลข 5 จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย ในรุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ สามารถบิดขยับแซงคู่แข่งจากกริดที่ 27 ไต่ขึ้นไปถึงอันดับ 16 ในช่วงกลางเรซ มีลุ้นแต้มอย่างเต็มตัว แต่โชคร้ายพลาดล้มอย่างน่าเสียดาย

ทั้งนี้ 2 นักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” มีคิวดวลความเร็วสนามถัดไประหว่างวันที่ 6-8 กันยายนนี้ ที่ มิซาโน เวิลด์ เซอร์กิต มาร์โก ซิมอนเชลลี ประเทศอิตาลี ในรายการ ซาน มาริโน กรังด์ปรีซ์

แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย ส่งกำลังใจเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา และ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี แบบเต็มฤดูกาล พร้อมติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวนักบิดฮอนด้าทุกคน ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ : Race to The Dream

#ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #MotoGP #Moto2 #SC35 #Kong #IdemitsuHondaTeamAsia #Moto3 #TB5 #Gonz #AragonGP

“ก้อง-สมเกียรติ” ซิวกริดแถว 5 โมโตทู อารากอน

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยกระดับคว้ากริดที่ 14 มาครอง

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” คว้ากริดแถว 5 ในศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2024 สนาม 12 รายการ อารากอน กรังด์ปรีซ์ ต้องเจองานสุดท้าทายอีกครั้งในการล่าผลงาน ที่ มอเตอร์แลนด์ อารากอน ประเทศสเปน วันอาทิตย์นี้

การควอลิฟายของรุ่น โมโตทู มีขึ้นเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่ง “ก้อง-สมเกียรติ” เจอปัญหาอย่างหนักในการยึดเกาะ ก่อนพารถแข่งหมายเลข 35 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ยกระดับคว้ากริดที่ 14 มาครองด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 52.778 วินาที

ด้าน “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี นักบิดดาวรุ่งชาวไทย หมายเลข 5 จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย พยายามอย่างหนักในการกดเวลา ก่อนจะโชคร้ายพลาดล้มในรอบควอลิฟายอย่างน่าเสียดาย โดยจะได้ออกตัวจากท้ายแถว

ทั้งนี้ ศึก อารากอน กรังด์ปรีซ์ จะดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายนนี้ เริ่มต้นด้วย โมโตทรี 16.00 น. ต่อด้วย โมโตทู 17.15 น. และปิดท้ายด้วย โมโตจีพี 19.00 น. ถ่ายทอดสดทาง SPOTV

#ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #MotoGP #Moto2 #SC35 #Kong #IdemitsuHondaTeamAsia #Moto3 #TB5 #Gonz #AragonGP