55 ปี IRC ส่งต่อความห่วงใย แจกหมวกกันน็อค 500 ใบ ต้อนรับปีใหม่ 2568

IRC ร่วมสนับสนุนแคมเปญ “I-SMART” ของกระทรวงคมนาคม

บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตยางรถจักรยานยนต์แบรนด์ IRC จากประเทศญี่ปุ่น ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 55 ปี ได้ร่วมสนับสนุนแคมเปญ “I-SMART” ของกระทรวงคมนาคม ด้วยการมอบหมวกกันน็อค 500 ใบ เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่

คุณพิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกูล ประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วย มร.ชิเกคิ ยามาดะ ประธานบริหาร และ คุณคณิน เหล่าจินดา กรรมการผู้จัดการ (IRC) ส่งมอบหมวกกันน็อค โดยมี คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย ดร.มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และ ดร.ชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ร่วมรับมอบ ณ กระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา

“ก้อง-สมเกียรติ” คว้ารางวัล “นักกีฬาอาชีพชายดีเด่น” 3 ปีซ้อน

“ก้อง-สมเกียรติ” เดินหน้าสร้างเกียรติประวัติอย่างต่อเนื่องใน

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักกีฬาโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์” เดินหน้าสร้างเกียรติประวัติอย่างต่อเนื่องใน “วันกีฬาแห่งชาติประจำปี 2567” คว้ารางวัล “นักกีฬาอาชีพชายดีเด่น” ถ้วยพระราชทาน ทำสถิติเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่ทำได้ เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน (นับตั้งแต่ปี 2565, 2566 และ 2567) พิสูจน์ “ความมุ่งมั่น-ความสามารถ” นักกีฬาอาชีพในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ปลุกกระแสวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยให้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

งานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติประจำปี 2567 มีขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่ อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมี นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในงานฯ พร้อมด้วย นายจักรพรรดิ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), และบุคลากรทางการกีฬา ร่วมงาน

“ก้อง-สมเกียรติ” ได้รับเกียรติรับรางวัล “นักกีฬาอาชีพชายดีเด่น” ครั้งแรกในปี 2565 หลังสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแข่งรถจักรยานยนต์ชาวไทยคนแรกที่คว้าชัยชนะในระดับเวิลด์กรังด์ปรีซ์ รุ่นโมโตทู และเป็น “นักกีฬาจากเซาท์อิสต์เอเชีย” คนแรกที่ทำได้ เพลงชาติไทยดังกระหึ่มสนาม เปอร์ตามิน่า มันดาลิกา เซอร์กิต ประเทศอินโดนีเซีย บ่งบอกว่า “นักกีฬาชาวไทย” มีความสามารถไม่แพ้ชาติใดในโลก ภายใต้โครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ที่มีเป้าหมายพาเด็กไทยไปสู่การแข่งขันระดับสูงสุดของโลกอย่าง “โมโตจีพี” ภายในปี 2025 รวมถึงโพเดียมอีก 3 ครั้ง ที่ อาร์เจนติน่า, ฝรั่งเศส และ ออสเตรีย ในปีดังกล่าว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กระแสวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทยเติบโตแบบก้าวกระโดด

จากนั้น ได้รับเกียรติรับรางวัล “นักกีฬาอาชีพชายดีเด่น” ครั้งที่ 2 ติดต่อกันในปี 2566 จากการยกระดับมาตรฐานในระดับโลกได้อย่างชัดเจน ด้วยฟอร์มที่สม่ำเสมอ คว้าชัยชนะครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่ ญี่ปุ่น พร้อมกับบันทึกสถิติมากมายในสนามนั้น และกลายเป็นนักบิดไทยคนแรกที่ขึ้นโพเดียมในโฮมเรซได้สำเร็จ กับการแข่งขันในประเทศไทยในปีเดียวกัน โดยในปีนั้นขยับอันดับโลกสูงสุดขึ้นถึงท็อป 6 เมื่อจบฤดูกาล ซึ่งไม่เคยมีนักแข่งรถคนไทยทำได้มาก่อน

ในปี 2567  “ก้อง-สมเกียรติ” แสดงถึงพัฒนาการที่เติบโตขึ้นจนได้รับการเซ็นสัญญา 2 ปี ขยับขึ้นไปสู่การแข่งขันระดับสูงสุดของโลกอย่าง โมโตจีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ในฤดูกาล 2568-2569 ร่วมกับทีมชั้นนำอย่าง อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์  ได้ตามเป้าหมาย

สำหรับ “ก้อง-สมเกียรติ” ในวัย 26 ปี สร้างประวัติศาสตร์มากมายในเวทีมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก ได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่น ไม่เคยยอมแพ้ต่ออุปสรรค และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าตัวเปิดใจว่า “ผมภูมิใจมากครับที่ได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัลทรงเกียรตินี้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ในฐานะนักกีฬาไทย ผมจะมุ่งมั่นพัฒนาตัวเองอย่างเต็มที่ ขอขอบคุณ “การกีฬาแห่งประเทศไทย” ที่มอบรางวัลนี้ให้ และ “ไทยฮอนด้า” ที่สนับสนุนผลักดันผมอย่างเต็มที่ ขอบคุณทุกกำลังใจจากแฟนๆ ชาวไทย ครอบครัว และผู้สนับสนุนต่างๆ ที่อยู่เคียงข้างเสมอมา ปีหน้าจะแข่งใน โมโตจีพี ซึ่งเป็นงานที่ยากและท้าทายมาก ผมจะสู้และทำอย่างเต็มที่”

ทั้งนี้ “ก้อง-สมเกียรติ” อยู่ระหว่างพักฤดูกาลแข่งขัน และเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การแข่งขัน โมโตจีพี ในฤดูกาลหน้า โดยมีคิวทดสอบครั้งต่อไปในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ก่อนจะเปิดฉากดวลความเร็วสนามแรกในรายการ “พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์” ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์  ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2568

แฟนความเร็วชาวไทยติดตามข่าวสาร พร้อมส่งกำลังใจเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : Race to The Dream

#SAT #นักกีฬาอาชีพชายดีเด่น #ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #MotoGP #IdemitsuHondaLCR #LCRHonda #SC35 #Kong #TheFirstThaiRiderInMotoGP

ยามาฮ่าจัดหนักส่งท้ายปีกับ “ส่งท้ายปี กับคุ้มชัวร์”

น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% ราคาเดียว 199 บาท พร้อมตรวจเช็กฟรี 10 รายการ
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ขอมอบความสุขส่งท้ายปี 2567 กับบริการตรวจเช็คฟรี 10 รายการ และรับส่วนลดราคาอะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่ง ผลิตภัณฑ์ YAMALUBE ราคาพิเศษกว่า 100 รายการ ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม – 31 ธันวาคม 2567 นี้ พร้อมกันนี้ยามาฮ่ายังส่งโปรเด็ด “ส่งท้ายปี กับคุ้มชัวร์” น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% พิเศษราคาเดียว 199 บาท ระหว่างวันที่ 17 – 21 ธันวาคม 2567 ที่ศูนย์บริการยามาฮ่า ทั่วประเทศ
เงื่อนไขโปรโมชันส่งเสริมการขาย : ลูกค้านำรถเข้ามาใช้บริการที่ศูนย์บริการยามาฮ่าทั่วประเทศ แจ้งใช้สิทธิ์โปรโมชันน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% ราคา 199 บาท สำหรับน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% รหัส 90793-AT485 (สำหรับรถเกียร์ออโตเมติก) และรหัส 90793-AT486 (สำหรับรถเกียร์ธรรมดาและรถเกียร์สปอร์ต) เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2567 และสิ้นสุดในวันที่ 21 ธันวาคม 2567 เฉพาะรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าขนาดปริมาตรกระบอกสูบไม่เกิน 400 ซีซี ที่ทำการเปิดใบแจ้งซ่อม 1 คัน ต่อ 1 สิทธิ์ พร้อมบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องฟรี เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการยามาฮ่าทั่วประเทศ
รายละเอียดของบริการเช็กฟรี 10 รายการ
1. ตรวจสอบไส้กรองอากาศ
2. ตรวจสอบการทำงานของเซ็นเซอร์ต่างๆ ด้วย YDT
3. ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง
4. ตรวจสอบการรั่วซึม และระดับน้ำยาหล่อเย็นหม้อน้ำ ถังสำรอง
5. ตรวจสอบผ้าเบรกหน้า และหลัง
6. ตรวจสอบความตึงหย่อนของโซ่ขับ
7. ตรวจสอบสภาพ และแรงดันไฟฟ้าแบตเตอรี่
8. ตรวจสอบแรงดันลมยาง และเช็กสภาพยางหน้าและหลัง
9. ตรวจสอบค่าแรงขันของน็อตแกนล้อหน้า และหลัง
10. ตรวจสอบการทำงานระบบไฟส่องสว่าง และสัญญาณไฟต่างๆ

ทีมช่างคนไทยคว้าชัยครั้งประวัติศาสตร์! ชนะเลิศการแข่งขันทักษะฝีมือช่าง ระดับเอเชีย & โอเชียเนีย ปี 2024

“Honda Asia & Oceania Motorcycle Technician Skill Contest 2024”

ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการรถจักรยานยนต์ไทยด้วยการคว้ารางวัลชนะเลิศใน “Honda Asia & Oceania Motorcycle Technician Skill Contest 2024” ณ ประเทศฟิลิปปินส์ ทั้งประเภทกลุ่ม และบุคคล ในหมวดรถบิ๊กไบค์ (Fun Bike) ซึ่งการแข่งขันทักษะฝีมือช่างระดับภูมิภาคอันทรงเกียรตินี้ได้รวบรวมสุดยอดนายช่างจากหลากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียมาประชันฝีมือ

ทีมช่างคนไทยสร้างความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ด้วยการคว้ารางวัลชนะเลิศประเภททีมจากการแข่งขันในหมวดรถบิ๊กไบค์ (Fun Bike) ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ไทยสามารถก้าวสู่จุดสูงสุดในรายการระดับภูมิภาคนี้ โดยมีการแสดงศักยภาพอันโดดเด่นทั้งในด้านความแม่นยำ ความรู้ทางเทคนิค และความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ ตัวแทนจากประเทศไทยยังคว้ารางวัลบุคคล รวมทั้งสิ้น 3 รางวัล ได้แก่
การแข่งขันหมวดรถบิ๊กไบค์ (Fun Bike)
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ นาย มนตรี เนียมนิ่ม จาก บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด (แผนกบิ๊กไบค์)
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 ได้แก่ นาย ถวิล เจียงรัมย์ จาก บริษัท บีอาร์วาย บิ๊กไบค์บุรีรัมย์ จำกัด
การแข่งขันหมวดรถเล็ก (Commuter 2)
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 ได้แก่ นาย สิทธิโชค เหรียญศรีทองคำ จาก บริษัท ฮอนด้าชุมพร จำกัด
ความสำเร็จในครั้งนี้สะท้อนถึงมาตรฐานความเป็นมืออาชีพของทีมช่างไทยที่สามารถแข่งขันกับผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย และถือเป็นก้าวสำคัญสู่การท้าชิงในเวทีการแข่งขันทักษะฝีมือช่างระดับโลก ในรายการ Honda Global Motorcycle Technician Contest ทางไทยฮอนด้ายังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทักษะของบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ให้พร้อมเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ พร้อมสนับสนุนการยกระดับมาตรฐานฝีมือช่างไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลต่อไป

ติดตามข้อมูลและรายละเอียดการแข่งขันในครั้งต่อไปได้ที่
เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : www.facebook.com/hondamotorcyclethailand

#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #ThaiHonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou

ไทยฮอนด้า พาไบค์เกอร์ 350 ทั้ง Forza และ ADV บุกเส้นทางเร้าใจไทย-ลาว

ในกิจกรรม ‘The 3Fifty Journey Beyond the Boundary’

ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย จัดกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ The 3Fifty Journey Beyond the Boundary ทริปขับขี่ข้ามพรมแดนสำหรับไบค์เกอร์รุ่น Honda Forza350 และ Honda ADV350 ในการเดินทางสุดประทับใจบนเส้นทาง ไทย – ลาวเหนือ ตลอด 3 วัน 2 คืน ที่เต็มไปด้วยความสนุก และท้าทายศักยภาพของรถจักรยานยนต์สไตล์ทัวร์ริ่ง เมื่อวันที่ 7-9 ธันวาคม ที่ผ่านมา

กิจกรรมครั้งนี้ เริ่มต้นที่การเดินทางเข้าสู่นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเพื่อปักหมุดเช็กอินแลนด์มาร์กสำคัญอย่าง ประตูชัย และพระธาตุหลวง ก่อนเดินทางสู่เมืองเฟือง ผ่านเส้นทางธรรมชาติ และบรรยากาศริมน้ำ ทั้งนี้ไฮไลต์สำคัญในวันที่สองคือการมุ่งหน้าสู่เมืองวังเวียง และขับขี่ขึ้นจุดชมวิว ณ ผาหนามไซ โดยเป็นการเปิดโอกาสให้ไบค์เกอร์ได้ทดสอบสมรรถนะรถจักรยานยนต์คันโปรดที่สามารถพิชิตทุกสภาพเส้นทางอย่างมั่นใจ

นอกจากนั้น กิจกรรม The 3Fifty Journey Beyond the Boundary ยังมอบประสบการณ์สุดเร้าใจให้ไบค์เกอร์ได้สัมผัสสมรรถนะของ Forza350 และ ADV350 บนเส้นทางที่หลากหลาย ทั้งทางเรียบและออฟโรด ด้วยสมรรถนะที่เติมเต็มการขับขี่ให้สมบูรณ์แบบในทุกเส้นทาง

ติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากรถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้ที่
เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : www.facebook.com/hondamotorcyclethailand
IG : www.instagram.com/hondamotorcyclethailand
Tiktok: www.tiktok.com/@hondamotorcycletha
Youtube: www.youtube.com/HondaMotorcycleTHA

#The3FiftyJourney #ทริปปักหมุดให้สุดคลาส #ADV350 #Forza350 #HighPremiumAT #ThaiHonda #ผู้นำออโตเมติกคือฮอนด้า #HondaClub

#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #ThaiHonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou

GoPro HERO: ของขวัญแทนใจสำหรับเก็บทุกโมเมนต์ที่ดีต่อใจในชีวิต

 GoPro HERO – ไอเทมสำคัญสำหรับเก็บทุกช่วงเวลาสำคัญในชีวิตอย่างมีสไตล์และง่ายดาย

ไม่ว่าจะเป็นงานรวมญาติ การท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ กิจกรรมกีฬา หรือกิจกรรมสร้างสรรค์ GoPro HERO ช่วยให้คุณถ่ายวิดีโอแบบจอกว้าง 16:9 ที่สมจริงด้วยมุมมองกว้างถึง 165 องศา พร้อมคุณภาพวิดีโอระดับ 4K และภาพถ่ายที่คมชัด 12MP ให้เก็บเหตุการณ์ได้ครบทุกฉากอย่างจุใจ

GoPro HERO ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายด้วยเพียง 3 โหมด เหมาะสำหรับทุกคนที่อยากเปลี่ยนประสบการณ์ให้กลายเป็นความทรงจำระดับ 4K ด้วยตัวเครื่องที่กะทัดรัดและทนทาน แบตเตอรี่ Enduro รุ่นใหม่ในตัว และการเชื่อมต่อกับแอป GoPro Quik HERO พร้อมที่จะบันทึกทุกการผจญภัยของคุณได้ง่ายดาย พร้อมสร้างวิดีโอความทรงจำให้แชร์ได้ทันที

ทำไม GoPro HERO ถึงเป็นของขวัญที่เหมาะที่สุดสำหรับแทนใจของคุณในช่วงเทศกาลนี้

1. สำหรับสายลุยสปอร์ตสุดเท่ ไม่ว่าจะเป็นการเล่น Pickleball ชิล ๆ กับเพื่อน หรือการปั่นจักรยานในยามบ่าย HERO คือเพื่อนคู่ใจที่พร้อมบันทึกทุกความเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดาย ด้วยการออกแบบที่รองรับการถ่ายภาพคุณภาพสูง น้ำหนักเบา ติดตั้งง่ายบนหมวกกันน็อก แฮนด์จักรยาน หรือแม้แต่พื้นที่เล็ก ๆ บนอุปกรณ์กีฬา มุมมองภาพกว้างและวิดีโอคมชัดระดับ 4K ช่วยเก็บพลังและความตื่นเต้นของทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็นภาพระยะใกล้ วิวทิวทัศน์สุดตระการตา หรือทุกแต้มสำคัญและทุกเส้นทางสวยงามได้อย่างไร้ที่ติ ผ่านแอป Quik ระบบกันสั่น HyperSmooth ทำให้วิดีโอของคุณนิ่งและลื่นไหลแม้ในกิจกรรมที่เต็มไปด้วยความเร็วเร้าใจ ช่วยให้คุณสร้างคอนเทนต์สุดเท่ พร้อมส่งต่อความมันส์ไม่มีสะดุด

2. สำหรับสายคาเฟ่คอนเทนต์คอนใจ ใครที่ไม่เคยพลาดคาเฟ่ใหม่ ๆ  ต้องมี HERO ตัวจิ๋วที่คุณสามารถพกใส่กระเป๋าหรือกระเป๋าเสื้อออกไปได้ทุกที่ ช่วยบันทึกภาพของคุณคมชัดและสดใสโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพลวดลายลาเต้อาร์ตระยะใกล้ หรือภาพมุมกว้างของคาเฟ่ HERO ก็สามารถช่วยผสานมุมมองทั้งแบบใกล้และกว้างได้อย่างลงตัว ด้วยวิดีโอระดับ 4K และภาพถ่ายความละเอียด 12MP ทุกโมเมนต์ ยกระดับคอนเทนต์อย่างมีคุณภาพ เพิ่มยอดวิว ดึงดูดผู้ชมได้อย่างดี

3. สายเก็บความทรงจำ ในงานรวมตัวครอบครัวและเพื่อนฝูง ไม่ว่าจะเป็นงานวันเกิดหรือดินเนอร์ในช่วงเทศกาล HERO ช่วยบันทึกทุกช่วงเวลาสำคัญได้คมชัด เลนส์มุมกว้างช่วยให้ทุกคนอยู่ในเฟรมได้ครบถ้วน มั่นใจได้ว่าสมาชิกทุกคนในครอบครัวจะเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำ นอกจากนี้ แบตเตอรี่ Enduro ใหม่ในตัวที่ใช้งานได้ยาวนานของ HERO ยังช่วยให้คุณถ่ายวิดีโอได้ถึง 100 นาที แม้จะตั้งค่าที่ความละเอียดสูงสุด ทำให้คุณไม่พลาดการบันทึกทุกช่วงเวลาที่ล้ำค่าแม้แต่วินาทีเดียว

4. สำหรับสายประดิดประดอย เก็บทุกรายละเอียดอย่างมืออาชีพ สำหรับคนที่ชอบแบ่งปันงานฝีมือ สูตรอาหาร หรือเคล็ดลับงานประดิษฐ์ อย่าพลาดที่จะมีHERO เป็นผู้ช่วยของคุณ ทำให้ทุกดีเทลมีชีวิตชีวาด้วยความคมชัดระดับ 4K การออกแบบที่ใช้งานง่ายช่วยให้ปรับตั้งค่าได้สะดวก และด้วยอุปกรณ์ติดตั้งแบบในตัว HERO สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ติดตั้งของ GoPro ได้หลากหลาย เปลี่ยนระหว่างการถ่ายมือเปล่าและการตั้งกล้องให้มั่นคงได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายวิดีโอฮาวทู ตัดต่อ Vlog HERO ก็ช่วยบันทึกกระบวนการสร้างสรรค์ของคุณตั้งแต่ต้นจนจบได้อย่างไร้ที่ติ

5. สำหรับครีเอเตอร์น้องใหม่ ถ้าคุณเพิ่งเริ่มในสายคอนเทนต์ HERO จิ๋วแต่แจ๋วตัวนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่ที่ต้องการสร้างคอนเทนต์ของตัวเองอย่างง่ายดาย ด้วยการควบคุมที่ใช้งานง่าย เพียง 3 โหมดของHERO ทำให้การเริ่มต้นถ่ายวิดีโอ การลองใช้โหมดสโลว์โมชั่น 2 เท่า หรือการถ่ายภาพนิ่งแบบมืออาชีพให้เป็นเรื่องง่าย HERO ยังเชื่อมต่อกับแอป Quik ให้คุณแก้ไขวิดีโอ เพิ่มเพลง และแชร์ได้อย่างสะดวก พร้อมด้วยแบตเตอรี่ Enduro ที่ใช้งานได้ยาวนาน ถ่ายทำต่อเนื่องได้หลายชั่วโมง ไม่ว่าจะฝีมือจะอยู่ระดับไหนก็ตาม ทำไม HERO จึงเป็นไอเทมที่ต้องมีสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

HERO เปลี่ยนประสบการณ์ในทุกวันให้กลายเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำและพร้อมแบ่งปัน ด้วยฟีเจอร์ที่ใช้งานง่ายและแบตเตอรี่ในตัวที่ใช้งานได้นานขึ้น กล้องขนาดเล็กและน้ำหนักเบานี้สามารถผสานเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณได้อย่างลงตัว ไม่ว่าคุณจะเก็บภาพการเล่นกีฬา ตะลุยคาเฟ่ บันทึกความทรงจำในงานครอบครัว หรือสร้างคอนเทนต์ที่บ้าน HERO ช่วยเพิ่มสีสันให้ทุกกิจกรรมของคุณได้อย่างมีไสตล์

ในช่วงเทศกาลนี้ อย่าลืมมอบของขวัญแทนใจให้คนพิเศษของคุณด้วย GoPro HERO ที่ผสมผสานนวัตกรรม การใช้งานง่าย และประสิทธิภาพคุณภาพสูงเข้าด้วยกัน พร้อมสำหรับการบันทึกทุกช่วงเวลา

โปรโมชั่นสุดพิเศษในช่วงเทศกาลนี้

เป็นเจ้าของ GoPro HERO ได้ในราคาเพียง 7,190 บาท (จากราคาปกติ 7,900 บาท) ระหว่างวันที่ 1-31 ธันวาคมนี้ ผ่านตัวแทนจำหน่าย GoPro ทั่วประเทศไทย!

เปิดตัวสุดยิ่งใหญ่! Poise Harley-Davidson®

เผยโฉมอาณาจักรโชว์รูมแห่งใหม่สาขาโคราช อลังการครบวงจร

 

พอยส์ ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน ออฟ โคราช (Poise Harley-Davidson® of Korat) ผู้แทนจำหน่ายมอเตอร์ไซค์คลาสสิกสุดพรีเมียมสัญชาติอเมริกันอย่างเป็นทางการ ฉลองการเปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่สุดยิ่งใหญ่ พร้อมด้วยคาเฟ่และไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้ครบวงจรสำหรับคนรัก Harley-Davidson ที่ครบครันและทันสมัยที่สุด บนถนนมิตรภาพ ใกล้ตลาดเซฟวัน .นครราชสีมา ภายใต้การบริหารงานของ “ตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์” และ “ชัยณรงค์ ปัญญาไวย์” พร้อมด้วยทีมงานคุณภาพที่ได้รับการยอมรับและคว้ารางวัลมาแล้วมากมาย

พอยส์ ฮาร์เล่ย์เดวิดสัน ออฟ โคราช ผู้แทนจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายใต้ บริษัท พีโอ มอเตอร์ไซเคิล จำกัด บริหารงานโดย โอ๊ต-ตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ บุคคลสำคัญผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของสนามแข่งรถระดับโลกอย่าง ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และ ป๊อก-ชัยณรงค์ ปัญญาไวย์ ปัจจุบัน พอยส์ ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน มี 2 สาขาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จ.ขอนแก่น และล่าสุด สาขาโคราช ตั้งอยู่ถนนมิตรภาพ ติดกับตลาดเซฟวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา ขาออกไปจังหวัดสระบุรี เพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์การขับขี่มอเตอร์ไซค์จากทั่วทั้งภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับจาก Harley-Davidson

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2567 พิธีเปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการครบวงจร พอยส์ ฮาร์เล่ย์เดวิดสัน ออฟ โคราช อย่างเป็นทางการจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ภายในงานมีการแถลงข่าว โดยได้รับเกียรติจาก มาร์ค โอ ฟลาเฮอร์ตี้ กรรมการผู้จัดการ Harley-Davidson สำหรับตลาดเกิดใหม่เอเชียและอินเดีย ร่วมด้วย เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดและสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต พร้อมทัพสื่อมวลชนและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังเข้าร่วมงานมากกว่า 100 คน

ตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีโอ มอเตอร์ไซเคิล จำกัด เปิดเผยว่า การเปิดตัวโชว์รูม พอยส์ ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน ออฟ โคราช ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการขยายฐานความสำเร็จสู่เมืองหลักซึ่งเป็นศูนย์กลางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากได้มีการเปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการไปตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา โชว์รูมได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าใน จ. นครราชสีมาและพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ ชัยภูมิ บุรีรัมย์  ปราจีนบุรี  สระบุรี และ ลพบุรี

พอยส์ ฮาร์เล่ย์เดวิดสัน ออฟ โคราช มุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการ ภายใต้แนวคิด ดูให้ครบจบที่ Poise” พร้อมนำเสนอและจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson อย่างครบครัน ตั้งแต่กลุ่ม Grand American Touring, Cruiser, Adventure Touring ตลอดจนกลุ่ม Sport รวมถึงศูนย์บริการแบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟครบวงจรสำหรับบริการบำรุงรักษา ซ่อมแซม การบริการหลังการขายที่รวดเร็วและวางใจได้ด้วยทีมที่ปรึกษาด้านการขาย และทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมและได้รับการรับรองจาก Harley-Davidson จากสหรัฐอเมริกา พร้อมกันนี้ยังจำหน่ายอะไหล่และชุดแต่งประดับยนต์แท้ 100% ตลอดจนเครื่องแต่งกายลิขสิทธิ์แท้ โชว์รูมยังครบครันด้วยคาเฟ่ และไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้เอาใจผู้ที่ชื่นชอบและรักการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson อย่างแท้จริง

ติดตามข่าวสาร พอยส์ ฮาร์เล่ย์เดวิดสัน ออฟ โคราช (ถ.มิตรภาพ ติดกับตลาดเซฟวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา ขาออกไปจังหวัดสระบุรี) Fanpage: Poise Harley-Davidson of Korat ,Line Official : @poiseharley

ยามาฮ่าฉลองครบรอบ 60 ปี ส่งความปลอดภัยมอบหมวกนิรภัยจำนวน 400 ใบ ให้กับ จ.สมุทรปราการ

โครงการผลิตหมวกนิรภัยขนาดเล็กที่ได้มาตรฐาน
นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ประธานกรรมการบริหาร นางสาวบัวทิพย์ จันทร์ดำรงกุล ผู้จัดการใหญ่ด้านการเงิน บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ถ่ายภาพร่วมกับนายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิทยา สุรินต๊ะ รองผู้กำกับการ จราจร สภ.สมุทรปราการ และ คณะผู้บริหารโรงเรียนป้วยฮั้ว ร่วมกันรับมอบในการส่งมอบหมวกกันน็อกเด็กจำนวน 100 ใบ และหมวกกันน็อกขนาดมาตรฐานจำนวน 300 ใบ รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 245,000 บาท เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 60 ปี ของบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด จึงได้จัดทำโครงการผลิตหมวกนิรภัยขนาดเล็กที่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม (มอก.) เพื่อสังคม และนำส่งมอบทั่วประเทศมากกว่า 7,700 ใบ พร้อมการส่งมอบหมวกกันน็อกขนาดมาตรฐานเพื่อแจกจ่ายใหักับประชาชนในท้องที่ จ.สมุทรปราการ เนื่องในโอกาสปีใหม่ อีกด้วย สำหรับการมอบในครั้งนี้มีขึ้น ณ โรงเรียนป้วยฮั้ว อ.เมืองสมุทรปราการ เมื่อเร็วๆ นี้

ยามาฮ่าฉลองครบรอบ 60 ปี ส่งมอบ 6 ทางม้าลายใน 6 พื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ

ทางม้าลาย เพื่อสาธารณประโยชน์ในการลดอุบัติเหตุทางถนน
นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ประธานกรรมการบริหาร นางสาวบัวทิพย์ จันทร์ดำรงกุล ผู้จัดการใหญ่ด้านการเงิน บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมมอบ ทางม้าลายเพื่อสาธารณประโยชน์ ให้กับ จ.สมุทรปราการ โดยมีนายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ และคณะผู้บริหารโรงเรียนป้วยฮั้ว ร่วมกันรับมอบ
สำหรับการมอบทางม้าลายทั้ง 6 ที่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการนั้นเพื่อให้เป็นสาธารณประโยชน์ เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 60 ปี บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ทางบริษัทฯ จึงได้จัดโครงการ “ทางม้าลาย 6 อำเภอ 6 พื้นที่ ใน จ.สมุทรปราการ” ประกอบด้วย 3 โรงเรียน และ 3 ชุมชนได้แก่ 1.โรงเรียนป้วยฮั้ว อ.เมืองสมุทรปราการ 2.โรงเรียนวัดแหลมฟ้าผ่า อ.พระประแดง 3.โรงเรียนวัดบางโฉลงนอก อ.บางพลี 4.ตลาดคุ้งบางกระเจ้า อ.พระประแดง 5.หน้าตลาดเสริมสุข อ.บางบ่อ 6.หน้าทางเข้าที่ว่าการอำเภอบางเสาธง โดยมีจุดประสงค์สำคัญในการสร้างจิตสำนึก และตระหนักถึงวินัยจราจรในการใช้รถใช้ถนนให้ปลอดภัย พร้อมทั้งปรับปรุง และสร้างทางม้าลายเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ โดยการส่งมอบในครั้งนี้มีขึ้น ณ โรงเรียนป้วยฮั้ว อ.เมืองสมุทรปราการ เมื่อเร็วๆ นี้

ระเบิดศึกชิงเจ้าความเร็วทางน้ำระดับโลก Jet Ski World Cup Grand Prix Thailand 2024 WGP#1

ขนความบันเทิงมาครบครันหวังดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก


​​นายไพรวัลย์ อารมณ์ชื่น รองประธานสภาเมืองเมืองพัทยา พร้อมด้วย พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา นายกสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทยฯ, นายปริเขต สืบสหการ ผู้อำนวยการทัวร์นาเม้นท์ WGP#1, มร.ฮิโรโนริ คาโต้ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนา คาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น และ มร.แวน ดุง ทรัง กรรมการบริหาร บริษัท สยามวอเตอร์คร้าฟท์ แอนด์ พาวเวอร์สปอร์ต จำกัด ร่วมแถลงข่าว เจ็ตสกีชิงแชมป์โลก รอบชิงชนะเลิศ รายการ WGP#1 Waterjet World Cup 2024 ณ หาดจอมเทียน เมืองพัทยา

​​นายไพรวัลย์ อารมณ์ชื่น รองประธานสภาเมืองเมืองพัทยา กล่าวว่า ตามที่ WGP#1 ได้รับเกียรติจากเมืองพัทยา รับเป็นเมืองเจ้าภาพ ทัวร์นาเม้นท์เจ็ตสกีชิงแชมป์โลก รอบชิงชนะเลิศ รายการ WGP#1 Waterjet World Cup 2024, Thailand Grand Prix ระหว่างวันที่ 11-15 ธันวาคม 2567 ณ หาดจอมเทียน เมืองพัทยา ประเทศไทย

​​นอกจากการแข่งขันเจ็ตสกีชิงแชมป์โลกดังกล่าวแล้ว WGP#1 ได้พยายามเริ่มต้นจัดงานแสดงเจ็ตสกีโลกขึ้น เพื่อเพิ่มความสำเร็จและการสร้างประโยชน์ต่อประเทศไทยและเมืองพัทยา ขยายตัว จากการเป็น “ศูนย์กลางการแข่งขันกีฬาเจ็ตสกีโลก” เพิ่มสู่การเป็น “ศูนย์กลางเวทีการค้ากีฬาเจ็ตสกีโลก”​​

พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา นายกสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความสำเร็จที่เริ่มต้นในครั้งนี้ ได้แก่ การที่บริษัท คาวาซากิ สำนักงานใหญ่ของโลก ประเทศญี่ปุ่น ได้ตัดสินใจที่จะเปิดตัวเรือรุ่นใหม่ของโลก 2025 ที่เมืองพัทยา ครั้งนี้ โดยมีการจัดประชุมผู้แทนจำหน่ายนานาชาติ เพิ่มการนำเข้าบุคลากรมายังเมืองพัทยาอีกกว่า 100 คน รวมถึงผู้ค้าเจ็ตสกีอีก 2 แบรนด์ของโลก ก็นำเจ็ตสกีมาจัดแสดงในครั้งนี้ด้วย ร่วมกับผู้ขายผลิตภัณฑ์นานาชาติต่างๆ ทำให้เชื่อมั่นต่อการมุ่งสู่เป้าหมายว่า อนาคตผู้ผลิตเจ็ตสกีและอุปกรณ์ทั่วโลก จะมาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นเวทีพบปะธุรกิจกีฬาเจ็ตสกีโลก ที่เมืองพัทยา เพิ่มการนำเข้าชาวต่างชาติมาสู่เมืองพัทยาจากเฉพาะทีมแข่งระดับ 3,000 คน ขยายตัวเป็น 4,000-5,000 คน ในอนาคต

นายปริเขต สืบสหการ ผู้อำนวยการทัวร์นาเม้นท์ WGP#1 กล่าวว่า นอกจากการแข่งขันแล้ว ในส่วนของกิจกรรมความบันเทิงนอกสนาม ยังอัดแน่นตลอดทุกวัน เริ่มต้นด้วยงาน Waterjet World Exhibition ที่มีการแสดงนวัตกรรมของเจ็ตสกียุคใหม่ ที่มีความน่าตื่นตาตื่นใจ, การเปิดตัวเจ็ตสกีรุ่นใหม่ครั้งแรกในโลก รวมทั้งมีสินค้าจากบริษัทชั้นนำ และของที่ระลึกมาจำหน่ายในงาน โดยงานมีตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายของการแข่งขัน

นอกจากพิธีเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 ธันวาคม แล้ว ยังมีไฮไลท์ของความบันเทิง อยู่ในวันที่ 14 และ 15 ธันวาคม โดยช่วงเที่ยงวันเสาร์จะเป็นโฟโต้ แอคชั่น ของ 4 สาวนางแบบส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น โพสท่าถ่ายภาพกับเรือเจ็ตสกี แฟนเจ็ตสกีที่มีบัตรเข้าชมบนแกรนด์ สแตนด์ สามารถร่วมถ่ายรูปนางแบบได้ และในช่วงเย็นจะเป็นการโชว์เจ็ตสกีฟรีสไตล์ ที่นักแข่งระดับโปรจะโชว์การเหาะเหินตีลังกามุดน้ำด้วยเรือเจ็ตสกี นอกจากจะเป็นการโชว์แล้ว ยังเป็นการเก็บคะแนนลุ้นถ้วยเวิล์ด คัพ ด้วย

ส่วนวันอาทิตย์ เริ่มช่วงเที่ยงตั้งแต่เวลา 11.20 น. เป็นการแข่งขัน เพาะกาย ร่วมกับ เจ็ตสกี แบ่งเป็นประเภทชาย 3 คน และหญิง 3 คน จากนั้นเป็นกิจกรรม โฟโต้ แอคชั่น กับนางแบบ 4 สาวจากญี่ปุ่น ก่อนที่ในช่วงเย็นจะปิดการแข่งขันด้วยเจ็ตสกีฟรีสไตล์ และช่วงค่ำ 20.00 น. เริ่มงานปาร์ตี้ฉลองแชมป์ที่ริมหาดจอมเทียน

การแข่งขันที่ได้ชื่อว่ากีฬาความเร็วทางน้ำ อันดับ 1 ของโลก “เกมส์ดีที่สุดในโลก ต้องมาชมที่เมืองไทยเท่านั้น” ทั้งภาครัฐและเอกชนตั้งใจร่วมสนับสนุนโดย การกีฬาแห่งประเทศไทย, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (Amazing Thailand), TOYOTA MOTOR THAILAND, การบินไทย, Siam watercraft, PTT Lubricants, Freedom Racing, Pattaya People Media Group, Jettribe Racing, โรงแรม ดิวารี จอมเทียน บีช พัทยา, เมืองพัทยา, IJSBA สมาคมเจ็ตสกีนานาชาติ, สมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย, WGP#1 Waterjet World Grand Prix, ห้าง makro สาขาพัทยาเหนือและสาขาพัทยาใต้, ห้าง Lotus สาขาพัทยาเหนือและสาขาพัทยาใต้

“ก้อง-สมเกียรติ” ชนะใจชาวไทย! คว้ารางวัล “นักกีฬาแห่งปี 2567”

“ก้อง-สมเกียรติ” เดินหน้าสร้างเกียรติประวัติอย่างต่อเนื่อง 

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรก ผลผลิตจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” เดินหน้าสร้างเกียรติประวัติอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคว้า “นักกีฬาแห่งปี 2567” จากผลโหวตของแฟนกีฬาทั่วประเทศ

“ก้อง-สมเกียรติ” ครองอันดับ 1 ด้วยอัตราส่วน 29.61%  จากการโหวต “นักกีฬาแห่งปี 2567” LINE TODAY Poll Of The Year 2024 จากแฟนชาวไทยทั่วประเทศ เมื่อระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา

“ก้อง-สมเกียรติ” สร้างผลงานที่โดดเด่นในการแข่งขัน โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา กับชัยชนะ 2 ครั้ง และโพเดียมอีก 6 ครั้ง และเป็นนักบิดไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ก้าวขึ้นสู่ การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี ฤดูกาล 2025 ในรุ่น “พรีเมียร์คลาส” ซึ่งถือเป็นคลาสสูงสุดของโลกที่รวมเอาดาวบิดชื่อดังไว้มากมาย โดยเจ้าของหมายเลข 35 จะบิดให้กับ อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ ด้วยสัญญา 2 ปี

โดยการทดสอบ โมโตจีพี จะมีขึ้นในวันที่ 31 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 ในช่วงเชคดาวน์ ที่ เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย และทดสอบอย่างเป็นทางการที่สนามเดียวกัน ระหว่างวันที่ 5-7 กุมภาพันธ์ 2568 จากนั้นจะกลับมาทดสอบที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ ก่อนจะดวลความเร็วสนามแรกในฤดูกาลหน้าในเมืองไทย ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์-2 มีนาคม 2568

 

แฟนความเร็วชาวไทยติดตามข่าวสาร พร้อมส่งกำลังใจเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : Race to The Dream

 

#ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #MotoGP #LCRHondaTeam #LCRHonda #SC35 #Kong

MOTOR EXPO 2024 ปิดฉากสวย พลิกฟื้นตลาดรถยนต์ ดันยอดจองกว่า 5 หมื่นคัน

“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” ร้อนแรงเกินคาด รถสันดาป ไฮบริด ยังฮิท

ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” เปิดเผยว่า “งาน MOTOR EXPO 2024 ประสบความสำเร็จอย่างสูง และมีส่วนช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมยานยนต์ปีนี้ที่ซบเซาให้กลับมาคึกคัก พร้อมสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจไทย จึงขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งผู้อุปถัมภ์ ผู้สนับสนุน ค่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ อุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงผู้เข้าชมงานที่เมืองทองธานี และชมงานผ่านระบบออนไลน์”

สำหรับยอดจองรถในงาน แบ่งเป็นรถยนต์ 54,513 คัน จักรยานยนต์ 7,982 คัน และจากข้อมูลผู้ร่วมกิจกรรม “ซื้อรถ…ชิงรถ” พบว่า มีผู้ร่วมกิจกรรมมากกว่าปีที่แล้ว โดยเป็นรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ (สันดาป, ไฮบริด และพลักอิน-ไฮบริด) 58.7 % และรถยนต์ไฟฟ้า 41.3 % รถยนต์ที่ผู้ซื้อเข้าร่วมกิจกรรมสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ HONDA, BYD, TOYOTA ส่วนรถเครื่องยนต์ที่มียอดจองสูงสุด ได้แก่ HONDA, TOYOTA, FORD ด้านรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ที่มียอดจองสูงสุด ได้แก่ BYD, AION, GEELY

นอกจากนั้น ประเภทรถที่ได้รับความสนใจ แบ่งเป็นประเภทต่างๆ ได้แก่ รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) 60.9 % รถเก๋ง 14.2 % รถท้ายลาด 12.0 % รถอเนกประสงค์ 6.9 % รถกระบะ 5.5 % และอื่นๆ 0.5 %

รถจักรยานยนต์ ที่ผู้ซื้อเข้าร่วมกิจกรรม “ซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิกไบค์” สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ZONTES, EM, ROYAL ALLOY, YAMAHA และ TRIUMPH

ราคาเฉลี่ยของรถยนต์ที่ขายได้ในงาน 1,259,928 บาท รถจักรยานยนต์เฉลี่ย 191,063 บาท เงินหมุนเวียนในงานราว 5.5 หมื่นล้านบาท ผู้เข้าชมงาน 1,426,044 คน ยอดดาวน์โหลด MOTOR EXPO Application 30,808 คน และมีผู้ชมงานออนไลน์ 2,476,001 วิว

ด้านอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง และ JOIN BOAT PLATFORM สร้างยอดเงินสะพัด รวมกว่า 30 ล้านบาท ส่วนแพคเกจ MOTOR EXPO EXCLUSIVE VISITOR ที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้ชมงานระดับวีไอพีได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเป็นอย่างมาก

พบกันใหม่ในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” อย่าพลาดติดตามรายละเอียดที่ motorexpo.co.th และทุกสื่อในเครือ “IMC สื่อสากล”