“กวาร์ตาราโร” คืนฟอร์มเก่ง! คว้าท็อป 5 สปรินต์เรซ โมโตจีพี เซปัง

“เอลดิอาโบล” ฟอร์มร้อนแรงอีกครั้ง หลังบิดคว้าท็อป 5 ในรอบ “สปรินต์เรซ”

“เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ยอดนักบิดเฟรนช์จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี กลับสู่ฟอร์มร้อนแรงอีกครั้ง หลังบิดคว้าท็อป 5 ในรอบ “สปรินต์เรซ” ของศึก โมโตจีพี 2024 สนาม 19 รายการ มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย

ศึก มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ 2024 ดวลความเร็วรอบ “สปรินต์เรซ” เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดย กวาร์ตาราโร แชมป์โลก 1 สมัยเจ้าของหมายเลข 20 ได้ออกตัวจากกริดที่ 8 ส่วน รินส์ ทีมเมทชาวสแปนิช หมายเลข 42 เริ่มเกมข้างๆ กันในกริดที่ 9

เกมเรซนี้ชิงชัยทั้งสิ้น 10 รอบสนาม โดยหลังออกตัว กวาร์ตาราโร ทะยานขึ้นไปรั้งอันดับ 7 ได้อย่างรวดเร็ว และไล่เกาะกลุ่มหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ก่อนบิดเข้าป้ายในอันดับ 5 ด้วยเวลา 19 นาที 57.147 วินาที ตามหลังผู้ชนะเพียง 7.917 วินาทีเท่านั้น

ส่วน รินส์ พลาดท่าในจังหวะออกตัวเล็กน้อย ส่งผลให้รูดลงไปอยู่ในกลุ่มกลาง อย่างไรก็ดีนักบิดสแปนิชยังเค้นความเร็ว พารถแข่งคู่ใจเข้าเส้นชัยในอันดับ 11 ด้วยเวลา 20 นาที 4.131 วินาที ตามหลังผู้ชนะ14.901 วินาที

ทั้งนี้ ศึก มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ จะดวลความเร็วรอบ “เมนกรังด์ปรีซ์” ในวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายนนี้ 14.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง SPOTV และ SPOTV

—————————–
#60ปีไทยยามาฮ่ามอเตอร์ #ดีใจที่ได้เจอ
#YamahaSocietyThailand #RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #YamahaWorldChampion #YamahaNumber1RacingTeam
#YamahaMotoGP24
#YamahaFactoryRacingTeam #MonsterEnergyYamahaMotoGPteam
#FQ20 #AR42

“ยามาฮ่า” คัมแบ็ก! “กวาร์ตาราโร” ควง “รินส์” ตีตั๋ว Q2 โมโตจีพี เซปังฯ

“เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร และ อเล็กซ์ รินส์ คู่หูนักบิด มอนสเตอร์ ยามาฮ่า เค้นความเร็วยอดเยี่ยมกับเครื่องยนต์ใหม่ของรถแข่ง M1 ตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบ Q2 ได้แบบแพ็คคู่ได้พร้อมกันครั้งแรกของปี ในศึก โมโตจีพี 2024 สนาม 19 รายการ มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ ส่งสัญญาณคัมแบ็กกลุ่มหน้าอีกครั้งที่ เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย

การซ้อมอย่างเป็นทางการของ ศึก มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ มีขึ้นเมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดย มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี เข้าสู่สุดสัปดาห์นี้ด้วยความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ คือการติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่ให้กับรถแข่ง M1 และความพยายามครั้งนี้ของ ยามาฮ่า ส่งสัญญาณที่ดีอย่างมาก โดยเฉพาะกับ เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ซึ่งมีคาแร็กเตอร์ที่ต้องใช้พละกำลังเครื่องยนต์สูง

ผลการซ้อมในรอบตัดตัว (PR) ปรากฏว่า กวาร์ตาราโร นักบิดเฟรนช์หมายเลข 20 รั้งอันดับ 6 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 58.303 วินาที ตามหลังหัวแถว 0.624 วินาที ส่วน รินส์ ทีมเมทชาวสแปนิชหมายเลข 42 รั้งอันดับ 8 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 58.336 วินาที ตามหลัง 0.657 วินาที ผ่านเข้าสู่การควอลิฟายรอบ Q2 ได้ทั้งคู่เป็นครั้งแรกของฤดูกาล

ทั้งนี้ ศึก มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ จะจับเวลารอบควอลิฟายและดวลความเร็วรอบ “สปรินต์เรซ” ในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายนนี้ ก่อนจะแข่งขันรอบ “เมนกรังด์ปรีซ์” ในวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายนนี้ 14.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง PPTVHD36 และ SPOTV

—————————–
#60ปีไทยยามาฮ่ามอเตอร์ #ดีใจที่ได้เจอ
#YamahaSocietyThailand #RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #YamahaWorldChampion #YamahaNumber1RacingTeam
#YamahaMotoGP24
#YamahaFactoryRacingTeam #MonsterEnergyYamahaMotoGPteam
#FQ20 #AR42

ไทยฮอนด้า จัดงานแฟชั่นโชว์สุดล้ำ ‘Honda Fashion A.T. Week’ เป็นครั้งแรก! เผยโฉม New Honda Giorno+ และ All New LEAD125

ไทยฮอนด้า ยกระดับความตื่นเต้นครั้งใหม่เป็นครั้งแรก กับงาน ‘Honda Fashion A.T. Week – The Ultimate Runway Show’ พร้อมมอบประสบการณ์แฟชั่นโชว์ระดับไฮเอนด์ ผ่านการเปิดตัวโมเดลใหม่ล่าสุด New Honda Giorno+ และ All New LEAD125 ในบรรยากาศที่ผสมผสานความไฮแฟชั่น มินิมอลแต่มีสไตล์ เข้ากับนวัตกรรมยานยนต์ ณ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์

งาน ‘Honda Fashion A.T. Week – The Ultimate Runway Show’ มาพร้อมไฮไลต์สุดพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเดินแบบของเหล่านายแบบและนางแบบที่นำเสนอมอเตอร์ไซค์ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ New Honda Giorno+ ที่มาในคอนเซ็ปต์ “The New High ทุกสไตล์ไปได้ไกลกว่า” ซึ่งยังคงรักษาเอกลักษณ์ของความโมเดิร์นคลาสสิกเหนือกาลเวลา ผสมผสานด้วยเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ที่ล้ำสมัย กลับมาพร้อมกับ 6 สี 7 สไตล์ใหม่ที่เหมาะกับวัยรุ่นสายแฟชั่นอย่างแท้จริง ส่วน All New LEAD125 ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาภายใต้คอนเซ็ปต์ “Minimal is the new maximal มินิมอลที่ใช่ เป็นได้มากกว่า” ซึ่งมีดีไซน์ที่เรียบง่าย ดูมินิมอลแต่มีสไตล์ จึงทำให้รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 รุ่น สามารถตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ต่อด้วยการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์สุดพิเศษ ‘เจษ-เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์’ ที่มาพร้อมการโชว์ตีกลองสุดเท่ สร้างสีสันและเพิ่มจังหวะความมันส์ให้กับบรรยากาศในงาน ก่อนจะส่งต่อเวทีให้ ‘เจฟ-วรกมล ซาเตอร์’ นักร้องและนักแสดงชื่อดังที่ขึ้นโชว์การร้องเพลงสด ๆ อย่างเต็มอารมณ์ ส่งท้ายกิจกรรมด้วยความสนุกและความประทับใจ

ติดตามรายละเอียดกิจกรรม New Honda Giorno+ และ All New LEAD125 ได้ที่
Facebook : www.facebook.com/hondamotorcyclethailand
IG : www.instagram.com/hondamotorcyclethailand
Tiktok: www.tiktok.com/@hondamotorcycletha
Youtube: www.youtube.com/HondaMotorcycleTHA

#RiseToNewHigh #MinimalisTheNewMaximal #เครื่องยนต์eSP+ #Giorno+ #ผู้นำออโตเมติกคือฮอนด้า #ออโตเมติก4วาล์วคือฮอนด้า #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #HondaMotorcycleThailand #ไทยฮอนด้า #ThaiHonda
#มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า

กวาร์ตาราโร – รินส์ มอบโชคหนุ่มนนท์ฯ เฮลั่น หลังจับรางวัลผู้โชคดีซื้อบัตร YAMAHA Stand ชม MotoGP

บัตร YAMAHA Stand ชม MotoGP รับ YAMAHA R15M Connected-ABS มูลค่า 1.38 แสนบาท

นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด พร้อมด้วย ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลก 1 สมัย และ อเล็กซ์ รินส์ 2 นักแข่งในสังกัด มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ทีม ร่วมกันจับรางวัลผู้โชคดีจากการซื้อบัตรชมการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี รายการ พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024 ณ สนามช้างฯ

สำหรับการจำหน่ายบัตรชมการแข่งขันในครั้งนี้ได้เริ่มเปิดจำหน่ายในวันที่ 21 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา โดยบัตร YAMAHA Stand วางจำหน่ายในราคา 2,000 บาท สำหรับลูกค้ารถจักรยานยนต์ยามาฮ่าสามารถรับส่วนลด 20 % เพียงโชว์กุญแจรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทุกรุ่นที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ใน 7-11 ทุกสาขา พร้อมรับสิทธิ์ในการลุ้นรางวัลใหญ่รถจักรยานยนต์ YAMAHA R15M Connected-ABS มูลค่า 138,000 บาท โดยได้มีการจับรางวัลในกิจกรรม Meet & Greet 2 นักแข่งระดับโลก ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร และ อเล็กซ์ รินส์ ในวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยผู้โชคดีที่ได้รับรางวัล YAMAHA R15M Connected-ABS ได้แก่ นายเดชฤทธิ์ เฉวียงวงค์ อายุ 39 ปี จากจังหวัดนนทบุรี ที่ได้ซื้อบัตรเข้ามาชมการแข่งขัน พร้อมร่วมกิจกรรม Meet & Greet 2 นักแข่ง ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร และ อเล็กซ์ รินส์ ที่โดมยักษ์ติดแอร์ YAMAHA GP PAVILION อีกด้วย

โดยการจับรางวัลในครั้งนี้มีท่านปลัดอำเภอ และสื่อมวลชนชั้นนำของประเทศไทย และแฟนคลับชาวยามาฮ่า ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ กิจกรรม Meet & Greet ณ โดมยักษ์ติดแอร์ YAMAHA GP PAVILION เมื่อเร็วๆ นี้

“ยามาฮ่า” พร้อมดวล มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ “กวาร์ตาราโร-รินส์” หวังสานต่อการทำงานจากไทย

มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี พร้อมดวลศึก โมโตจีพี 2024 สนาม 19 รายการ มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ เดินหน้าสานต่อการทำงานที่ดี ขณะ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร และ อเล็กซ์ รินส์ คู่หูนักบิดของทีมเผยการเปลี่ยนแปลงเซ็ตติ้งรถแข่งในไทย สร้างความแตกต่างอย่างมาก หวังสร้างผลลัพธ์ที่ดีในสุดสัปดาห์นี้ ที่ เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย

ก่อนเข้าสู่ มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ ได้มีการยืนยันจาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ว่าทั้ง กวาร์ตาราโร นักบิดเฟรนช์หมายเลข 20 และ รินส์ ทีมเมทชาวสแปนิชหมายเลข 42 จะได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่ให้กับรถแข่ง M1 เพื่อลงแข่งขันในสุดสัปดาห์นี้

กวาร์ตาราโร กล่าวว่า “ตอนนี้เราอยู่ที่ มาเลเซีย แล้ว ซึ่งเป็นเรซสุดท้ายในโซนเอเชีย และถือเป็นเรซสุดท้ายในช่วง 3 สนามติดต่อกัน มาดูกันว่าเราจะทำอะไรได้บ้างสำหรับสุดสัปดาห์นี้ หลังจากที่ก่อนเปิดฤดูกาลเราได้ทดสอบกันที่นี่ มันยากมากแต่หลังจากนั้นเราสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ผมคิดว่ารถแข่งของเราแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง และหวังว่าจะสามารถเจอผลลัพธ์เป็นบวกได้บ้าง แน่นอนว่าเราจะได้ใช้เครื่องยนต์ใหม่ ซึ่งมันดีขึ้นอย่างชัดเจน“

รินส์ เผยว่า “เราได้ทดลองบางสิ่งที่แตกต่างในเรซที่ บุรีรัมย์ มันคือความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากวันเสาร์ไปสู่วันอาทิตย์ แต่เพราะฝนที่ตกในวันอาทิตย์ ผมจึงทำได้เพียงทดลองรถแข่งที่เซ็ตติ้งแบบฝน ดังนั้น เราจะทำงานกันต่อเนื่องกับเซ็ตติ้งนี้ในการแข่งขันที่ เซปัง หวังว่าจะมีบางช่วงที่เป็นแทร็กแห้ง ซึ่งนั่นจะทำให้เราได้ข้อมูลที่ดี และจากนั้นเราจะดูว่าอะไรบ้างที่สามารถปรับปรุงได้”

ทั้งนี้ ศึก มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ จะลงซ้อมในวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ก่อนจะจับเวลารอบควอลิฟายและดวลความเร็วรอบ “สปรินต์เรซ” ในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายนนี้ และชิงชัยรอบ “เมนกรังด์ปรีซ์” ในวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ถ่ายทอดสดทาง PPTVHD36 และ SPOTV

—————————–
#60ปีไทยยามาฮ่ามอเตอร์ #ดีใจที่ได้เจอ
#YamahaSocietyThailand #RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #YamahaWorldChampion #YamahaNumber1RacingTeam
#YamahaMotoGP24
#YamahaFactoryRacingTeam #MonsterEnergyYamahaMotoGPteam
#FQ20 #AR42

ยามาฮ่าจัดทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ชวนชาว ยามาฮ่า ไรเดอร์สคลับ ร่วมขับทัวริ่งทริปชมการแข่งขัน MotoGP กรุงเทพ – บุรีรัมย์

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด จัดทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ สำหรับลูกค้ารถจักรยานยนต์ยามาฮ่า บิ๊กไบค์ ออกเดินทางขับขี่ด้วยขบวนทัวริ่ง จาก ยามาฮ่า ไรเดอร์สคลับ ถ.ประเสริฐมนูกิจ ชมเรซการแข่งขันระดับโลกที่สนามช้างฯ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ กับทริป YAMAHA RIDERS’ CLUB THAILAND MOTOGP TRIP 2024 ด้วยแพคเกจสุดคุ้ม 7,900 บาท รับบัตร Grand Stand 1 ใบ พร้อมที่พักสุดหรู 3 วัน 2 คืน พร้อมอาหาร และเครื่องดื่มแบบจัดเต็ม 6 มื้อ อัดแน่นกิจกรรม และของรางวัลอย่างมากมายให้ทุกท่านประทับใจ

โดยทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ในครั้งนี้มีลูกค้าเข้าร่วมอย่างเต็มพิกัดจำนวน 40 คัน เดินทางปลอดภัยตลอดเส้นทางกับทีมมาร์แชล พร้อมรถเซอร์วิส ตลอดการเดินทางสำหรับผู้ที่พลาดกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟในครั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลกิจกรรมอื่นๆ ได้ที่ Facebook : YAMAHA RIDER’ CLUB THAILAND

#YamahaRidersclubThailand
#MotoGP2024
#ThaiGP
#YamahaMotoGP
#YZRM1

บทสรุป PT Grand Prix of Thailand 2024

หน้าประวัติศาสตร์ “โมโตจีพี สนามประเทศไทย” ที่ต้องจารึกไว้

ปิดฉากลงอย่างสุดประทับใจ ทั้งความยิ่งใหญ่อลังการ ธีมเสน่ห์อีสาน “ฅนบุรีรัมย์” รวมทั้ง “หมูเด้ง”ที่มาสร้างไวรัลไปทั่วโลก เติมเต็มสุดสัปดาห์แห่งความมันส์ของสุดยอดศึกสองล้อที่เร็วที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกกับการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ โมโตจีพี รายการ “พีที กรังด์ปรีซ์  ออฟ ไทยแลนด์ 2024” ระหว่างวันที่ 25-27 ตุลาคม 2024 ที่  สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ นี่คืออีกหนึ่งความภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ของคนไทยทั้งประเทศในการจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยจัดขึ้นบนผืนแผ่นดินไทย

ภายใต้การขับเคลื่อน ความร่วมมือที่ผนึกแน่นทั้งภาครัฐ เอกชนและภาคประชาชนมากมาย ที่ขับเคลื่อนเทศกาลมอเตอร์สปอร์ตขนาดยักษ์นี้ เนรมิตกิจกรรมที่สมบูรณ์พร้อมทั้งด้านในและนอกสนาม ในฐานะที่ประเทศไทยและคนไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกัน เพื่อให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบ ราบรื่น และงดงามที่สุด เมื่อถูกถ่ายทอดออกไปสู่สายตาชาวโลก

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในปีนี้ถือว่า การจัดงานโมโตจีพี สนามประเทศไทย ประสบความสำเร็จอย่างมากในทุกมิติ ตลอด 3 วันมีผู้ร่วมงาน  205,343 คน แบ่งเป็นผู้เข้าร่วมงานชาวไทย จำนวน 154,666 คน และผู้เข้าร่วมงานชาวต่างชาติ จำนวน 50,677 คน เพิ่มจากในปี 2023 ที่มียอดผู้ร่วมงาน 179,811 คน โดยเฉพาะผู้ชมชาวไทย ในปีที่ผ่านมา 127,665 คน เพิ่มขึ้นถึง 27,001 คน แสดงให้เห็นถึงความนิยมในกีฬามอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดียิ่ง โดยในการจัดงานครั้งนี้ในแง่ของผู้ชม, บรรยากาศ รวมทั้งสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในรอบการจัดงาน 5 ปี คือ 4,759 ล้านบาท

ทั้งนี้สิ่งที่เป็นความงดงามคือ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยทำผลงานดีเยี่ยมแม้จะออกสตาร์ตจากลำดับที่ 13 แต่สามารถไล่แซงขึ้นมา จนเกือบขึ้นโพเดี้ยม จบในอันดับที่ 4 สร้างความสุข ความประทับใจให้กับคนไทย

นายเนวิน ชิดชอบ ประธาน สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า โมโตจีพีวิถีไทย ความภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ ของคนไทยทั้งประเทศ ในปีนี้จัดในธีม “ฅนบุรีรัมย์” แสดงให้เห็นถึงเมืองเล็กๆที่ไม่มีทรัพยากรอะไรมากมาย แต่ทุกอย่างเป็นสิ่งที่“ฅนบุรีรัมย์” สามารถสร้างขึ้นมาได้ จนกลายเป็น Destination หนึ่งของโลก ทั้งฟุตบอลและมอเตอร์สปอร์ต

ในปีนี้เริ่มต้นกิจกรรม Pre-Event โมโตจีพี ต้อนรับนักแข่งด้วยธีมเสน่ห์อีสาน ท่อง “ปราสาทหินเมืองต่ำ”-ถ่ายวีดีโอโปรโมตประเทศ ที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้เหล่านักบิดซูเปอร์สตาร์ของโลกที่ร่วมงาน รวมทั้งทีมงานดอร์น่า สปอร์ตอย่างมาก นักบิดได้ชมและลองย้อม “ผ้าอัคนี” ผ้าย้อมดินภูเขาไฟ ภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีสวยงาม รวมทั้งทดลองชิมอาหารเชิดชูถิ่นอย่าง “ขนมตดหมา” เมนูชื่อแปลกแต่แสนอร่อย

รวมทั้งมี “ฅนบุรีรัมย์” ที่ได้รับโอกาสสำคัญในงานระดับโลกในบ้านเกิด อาทิ “ข้าวฟ่าง” กัลป์ธีรา ทรงประโคน ศิลปินสาวชาวบุรีรัมย์จาก The Voice Thailand ซีซั่น 6 ได้รับเลือกเป็นผู้ขับร้องเพลงชาติไทย ในเวอร์ชั่นการร้องสด ประกอบวงออเคสตร้าที่เป็นลูกหลานบุรีรัมย์ และ “ศศลักษณ์ ไหประโคน” แข้งบุรีรัมย์และทีมชาติไทย ฅนบุรีรัมย์ที่ได้รับเกียรติเป็นผู้โบกธงตราหมากรุก ในการแข่งขันรุ่น MotoGP โดยนับเป็นชาวไทยและลูกหลานบุรีรัมย์คนที่ 2 ที่ได้โบกธงในงานระดับโลก ต่อจาก “ลิซ่า” ลลิษา มโนบาล ที่ได้โบกธงตราหมากรุก ในการแข่งขันรถฟอร์มูล่าวันหรือ F1 มาแล้ว

ไฮไลต์สำคัญที่สร้างสีสัน ไวรัลอีกครั้งกับ “หมูเด้ง” ที่เพจหลัก Motogp.com เผยภาพ “หมูเด้ง” ออกสตาร์ตในกริดสุดท้ายของรุ่น MotoGP ลำดับที่ 23 โดยไม่ต้องผ่านรอบควอลิฟาย ถูกกล่าวขานและแชร์ออกไปทั่วโลก  เหล่าแฟนคลับชูป้ายเชียร์หมูเด้งในสนาม โดยก่อนการแข่งขัน ดอร์น่า สปอร์ตได้ทำภาพกราฟิกโปรโมตสนามประเทศไทย มีข้อความภาษาไทยว่า ยินดีต้อนรับ, ไทยจีพี และมีภาพหมูเด้งล้อมกรอบอยู่ด้านล่าง เขียนข้อความว่า ขอบคุณ

นอกจากนี้ฝ่ายจัดการแข่งขัน สนามประเทศไทยได้ผุด แคมเปญ ThaiGP x MOODENG แจกจ่ายเสื้อลิขสิทธิ์ MotoGP ที่มีภาพหมูเด้งขี่รถแข่ง สุดน่ารักแจกให้กับผู้โชคดี เพียง 20 คน พร้อมส่วนลดครึ่งราคาในการเยี่ยมชมหมูเด้งที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ซึ่งทีมดอร์น่า สปอร์ต ได้นำเสื้อ  ThaiGP x MOODENG แจกจ่ายให้นักบิดระดับซูเปอร์สตาร์ของโลกได้สวมใส่ ทำให้ได้รู้ว่านักบิดเหล่านี้ต่างตกหลุมรัก ฮิปโปน้อย “หมูเด้ง” ของไทยเช่นกัน

ทั้งนี้ที่ถูกชื่นชมตลอดมา คือเสน่ห์ของสนามที่มีความสนุก หลากหลาย ไม่เหมือนใคร จัดเต็มทั้งคอนเสิร์ต, มวยและ PT Grand Prix Expo   ที่มีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกช้อป ชิม รวมถึงพาวิลเลียนขนาดยักษ์ของแบรนด์สินค้าและหน่วยงานราชการให้ร่วมสนุกร่วมชมมากมาย ได้แก่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด, น้ำแร่ธรรมชาติ ตราช้าง, ฮอนด้า, ยามาฮ่า, โตโยต้า, ดูคาติ , กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.)  ฯลฯ  พิเศษสุดสำหรับในปีนี้ ยังมี “ไทไทย พาวิลเลียน” ที่นำเสนอแนวคิด รากฐานภูมิปัญญาภายใต้แนวคิดใหม่ สวยงามอลังการอย่างมาก

นอกจากนี้หลังจบการแข่งขันคณะทำงานของไทย ได้ประชุมร่วมกับ “ดอร์น่า สปอร์ต” ทีมดอร์น่าได้กล่าวชื่นชมการจัดงานสนามประเทศไทยว่า เป็นการบริหารจัดการภาพรวมของกิจกรรมที่ดีที่สุดในทุกสนามที่ผ่านมา ทำเอาทีมงานที่เหน็ดเหนื่อยจากการเตรียมงานมากกว่า 6 เดือน ก่อนเข้าสู่อีเว้นต์มอเตอร์สปอร์ตขนาดยักษ์นี้ ภาคภูมิใจหายเหนื่อย โดยหลายเสียงได้ชื่นชมว่า Everything is perfect ที่แสดงให้เห็นถึงการจัดงานฝีมือคนไทย และความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งรัฐ-เอกชน ที่ทำให้เกิดงานที่ดีที่สุดอีกหนึ่งงานไม่แพ้ใครในโลก ทั้งยังสร้างความสุข รอยยิ้มให้แฟนมอเตอร์ปอร์ต เศรษฐกิจหมุนเวียนทั้งในจังหวัด พื้นที่ใกล้เคียง สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ

ทั้งนี้ โมโตจีพี ในปี 2025 จะเป็นปีแรกที่ไทยได้รับเกียรติอย่างมาก ในการเปิดฤดูกาลอย่างยิ่งใหญ่ในประเทศไทย โดยได้มีการประกาศ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 จะมีการแถลงข่าวเปิดฤดูกาล เปิดตัวนักแข่ง ทีมแข่งและรถที่ใช้แข่งขันที่กรุงเทพ รวมทั้งการจัด Pre Season test ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ในวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ 2568 ต่อด้วยการแข่งขันโมโตจีพี สนามแรกของฤดูกาล ประเดิมแข่งขันกันในวันที่ 28 กุมภาพันธ์-2 มีนาคม 2568 โดยมีนักแข่งไทย “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยคนแรกที่ลงแข่งขันในรุ่น MotoGP แฟนความเร็วกาปฏิทินรอไว้ แล้วมาร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ไปด้วยกันอีกครั้ง

IDEMITSU เปิดบูธยิ่งใหญ่… สัมผัสสุดยอดประสบการณ์ระดับโลก ThaiGP 2024

IDEMITSU ชวนสัมผัสใกล้ชิดกับรถแข่งระดับโลกได้แบบเต็มตา เต็มอารมณ์

IDEMITSU ผู้นำด้านน้ำมันเครื่องจากประเทศญี่ปุ่น เชิญทุกท่านเข้ามาร่วมสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ระดับโลก กับกิจกรรมและโซนจัดโชว์ภายในบูธ IDEMITSU ในรายการแข่งขัน ThaiGP 2024 วันที่ 25-26 ต.ค. 67 จ.บุรีรัมย์

IDEMITSU เปิดบูธยิ่งใหญ่… สัมผัสสุดยอดประสบการณ์ระดับโลก ThaiGP 2024 เชิญทุกท่านเข้ามาร่วมสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ระดับโลก กับกิจกรรมและโซนจัดโชว์ภายในบูธ IDEMITSU ในรายการแข่งขัน ThaiGP 2024 วันที่ 25-26 ต.ค. 67 จ.บุรีรัมย์

กิจกรรม Meet & Greet กระทบไหล่นักแข่งระดับโลกสังกัด IDEMITSU พร้อมรับลายเซ็น และร่วมถ่ายภาพ นักแข่งที่ชื่นชอบแบบสุด Exclusive ที่บูธ IDEMITSU นำทัพโดย ทาคาอากิ นาคากามิ นักแข่งจากประเทศญี่ปุ่น ในรุ่น MotoGP ตามด้วยนักบิดขวัญใจชาวไทย สมเกียรติ จันทรา และ มาริโอ้ เซอโย อาจิ ในรุ่น Moto2 และสองนักบิด ในรุ่น Moto3 ไทโย ฟุรุซาโตะ พร้อมทีมเมท ก๊องส์ ธัชกร บัวศรี สุดยอดนักบิดดาวรุ่งจากประเทศไทย นักแข่งทั้งหมด จะมาพบกับทุกท่าน ณ บูธ IDEMITSU วันที่ 25-26 ต.ค. 67 เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป

โซนมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก เป็นมุมพิเศษในบูธ IDEMITSU ที่จัดไว้เฉพาะ เพื่อโชว์รถจักรยานยนต์ในการแข่งขัน ระดับโลกครบทุกคลาส ตั้งแต่รุ่น Moto3 Moto2 จนถึง รุ่น MotoGP ทั้งสิ้นถึง 5 คัน ผู้เข้าชมในบูธ IDEMITSU สามารถสัมผัสใกล้ชิดกับรถแข่งระดับโลกได้แบบเต็มตา เต็มอารมณ์

โซนกิจกรรมภายในบูธ IDEMITSU พร้อมแจกของรางวัลตลอดทั้งวัน! เริ่มต้อนรับแขกด้วยเกมส์ VR สุดไฮเทค สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความรู้สึกในการแข่งขันเสมือนจริง และยังมี ตู้คีบ VIP IDEMITSU สำหรับลูกค้าที่สนับสนุน ผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องอิเดมิตสึ ลุ้นรับของรางวัลลิมิเต็ดสุดพรีเมียม และเกมส์สนุกๆ อีกมากมายตลอดวัน พร้อมแจกของรางวัลเต็มพิกัด! โปรโมชั่นสุดแรง! ภายในบูธ IDEMITSU พบผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องราคาพิเศษเฉพาะภายในงาน ThaiGP 2024

พร้อมรับฟรีของที่ระลึกสุดลิมิเต็ดในทุกรายการผลิตภัณฑ์อีกด้วย โซน Live สดการแข่งขัน! จอขนาดใหญ่จัดเต็มทั้งภาพ และเสียง ถ่ายทอดสดจากสนามการแข่งขัน ThaiGP 2024 ร่วมชม ร่วมเชียร์ สมเกียรติ จันทรา และนักแข่งไทยคว้าชัยในโฮมเรซ พร้อมร่วมเชียร์นักแข่งในดวงใจแบบติดขอบจอได้ตลอดการแข่งขัน สนุกมันส์พร้อมกัน เต็มอรรถรสภายในบูธติดแอร์เย็นฉ่ำ พร้อมต้อนรับแฟนมอเตอร์สปอร์ต

แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทย สามารถติดตามข่าวสารของทัพนักบิดสังกัดอิเดมิตสึ ในศึก MotoGP ตลอดทั้งฤดูกาล 2024 และติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตของ IDEMITSU ทั้งหมดได้ที่เพจ Idemitsu Thailand Motorsport

เด็กไทยฟอร์มสด! ซิวตั๋ว Asia Talent Cup 2025

การคัดตัว Selection Asia Talent Cup 2025 โชว์สกิลปล่อยพลัง 

อุ้ม นพรุธพงศ์ นักแข่งเยาวชนไทยจาก Honda Thailand Talent Cup ลงดวลคันเร่งคัดตัวระดับเยาวชนเอเชีย โชว์สกิลปล่อยพลัง เข้าตากรรมการ! ผ่านการคัดเลือกลงแข่งขันรายการ Asia Talent Cup 2025

บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด เดินหน้าพาเด็กไทยล่าฝัน ส่งนักแข่งดาวรุ่งร่วมคัดตัวในรอบ Selection ชิงตั๋วลงสู้ศึกคันเร่งรายการ Asia Talent Cup 2025 โดยในปีนี้ส่งนักบิดเยาวชนไทยลงสนามคัดเลือกถึง 3 คน ด้วยกัน คือ อุ้ม นพรุธพงศ์ บุญประเวศ, ชินโจ ณภัทร จาตูม และ น้องเฟอร์ ปัญจรุจน์ จิตรวิรุฬฉัตร์ บดคันเร่งกับนักบิดจากทั่วเอเชีย ณ สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2567

สำหรับนักแข่งเยาวชนดาวรุ่งทั้ง 3 คน เป็นดาวรุ่งนักบิดไทยจากโครงการ ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม ที่ได้โอกาสลงแข่งขันรอบ Selection ในรากการ Asia Talent Cup นี้ ล้วนมีที่มาจากโครงการ Honda Thailand Talent Cup ซึ่งก็เป็นผลผลิตจากโครงการ Honda Race to the Dream ที่ทาง ไทยฮอนด้า มุ่งมั่นสร้างนักแข่งมืออาชีพสู่เวทีแข่งขันระดับโลกให้ได้ โดยเส้นทางที่ว่ามานั้นเริ่มนับหนึ่งกันที่โครงการ Honda Academy Thailand ที่รับสมัครเด็กไทยทั่วประเทศอายุระหว่าง 9-14 ปี เข้าร่วมแสดงศักยภาพบนแทร็คแข่งขัน ฝึกฝนทักษะในรูปแบบของ Academy สะสม skills ตามหลักสูตร จากนั้นจึงก้าวเข้าสู่การแข่งขันรายการ Honda Thailand Talent Cup ที่เปิดโอกาสให้นักแข่งที่มีความมุ่งมั่นและอายุไม่เกิน 20 ปี มาขับขี่ Honda NSF250R แข่งขันเพื่อเฟ้นหานักแข่งดาวรุ่งที่จะก้าวขึ้นสู่การชิงตั๋วเข้าแข่งขันรายการ Asia Talent Cup ซึ่งในก้าวต่อไปของนักแข่งจาก Honda Race to the Dream หลังจากผ่านศึก Asia Talent Cup แล้ว จะถูกสนับสนุนให้ไปหาประสบการณ์ในสนามแข่งในยุโรปอย่างรายการ FIM JuniorGP World Championship และเมื่อถึงเวลาก็จะมีโอกาสไปต่อในการแข่งขัน Moto 3 และ Moto 2 ต่อไป ซึ่งสุดท้ายเส้นทางก็จะมาจบลงที่การแข่งขันระดับท็อปคลาส คือ MotoGP นั่นเอง

ในรอบ Selection รายการ Asia Talent Cup 2025 ที่ได้จัดขึ้นในวันที่ 30 ตุลาคม 2567 ณ สนามแข่ง เซปัง คาร์ท เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย มีดาวรุ่งนักบิดที่มาจากทั่วเอเชียเข้าร่วมชิงตั๋วที่นั่งเข้าร่วมการแข่งขันใน Asia Talent Cup 2025 กันอย่างคับคั่ง ซึ่งการคัดเลือกนักแข่งที่จะเข้าแข่งกันในฤดูกาล 2025 ก็มีโปรแกรมเพียง 1 วัน แล้วประกาศผลทันทีในวันเดียวกัน นั่นก็แปลว่า ห้ามพลาด! เด็ดขาด ซึ่งหลังจากนักบิดเยาวชนไทยและชาติอื่นๆ ต่างทยอยกันลงกดคันเร่งโชว์ทักษะ และขับเคี่ยวคันเร่งกันแบบดุเดือดตั้งแต่เช้าจนถึงบ่ายทั้งหมด 3 รอบ ทีมควบคุมการ Selection รายการ Asia Talent Cup 2025 จึงได้ประกาศผลการคัดเลือกออกมา ปรากฏว่านักบิดเยาวชนไทยที่ฝ่าทัพนักบิดเยาวชนจากทั่วเอเชียมาได้ คือ อุ้ม นพรุธพงศ์ บุญประเวศ นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของโครงการ Honda Thailand Talent Cup ที่สามารถส่งนักแข่งไทยผ่านการคัดเลือกเข้าสู่การแข่งขัน Asia Talent Cup 2025 ได้อย่างต่อเนื่อง และมีไอดอลอย่าง ก้อง-สมเกียรติ จันทรา ที่ตอนนี้โชว์ฟอร์มได้สุดยอดใน Moto2 และในฤดูกาล 2025 ก็จะขยับขึ้นสู่รุ่นใหญ่สุดคือ MotoGP

ขอร่วมยินดีกับดาวรุ่งจากโครงการ Honda Thailand Talent Cup ที่สามารถเก็บตั๋วไปร่วมรายการ Asia Talentcup 2025 ในปีหน้าได้สำเร็จ และนั่นจะเป็นบันไดเพื่อการพัฒนาตัวเองขึ้นไปสู่การแข่งขันในระดับโลกได้อย่างไม่ยากลำบากนัก

กลับมาอีกครั้ง กับ The 3 Fifty Journey Exclusive Full Moon Party

สมาชิก FORZA350 ขับขี่กินลมชมวิวแบบชิวๆ กรุงเทพฯ – พัทยา

กลับมาสร้างความสนุกสานอีกครั้งกับกิจกรรม The 3 Fifty Journey ครั้งนี้ พาเหล่าลูกค้าสมาชิก FORZA350 ขับขี่กินลมชมวิวแบบชิวๆ กรุงเทพฯ – พัทยา กับร้านตัวแทนจำหน่ายกรุงเทพฯ และปริมณฑล

เริ่มออกสตาร์ทจาก ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้ากรุงเทพ รามคำแหง รวมพลคนพันธุ์ซ่าส์ 30 คัน และอินเฟนเซอร์ชื่อดัง ที่จะเก็บภาพ และวีดีโอ บรรยากาศการขับขี่และกิจกรรมสนุกๆ ที่มีเอาไว้ให้ได้ลุ้นรางวัล ยอดไลค์รวมกลุ่ม ภาพถ่ายสวยงามที่มี กูรู ทางด้านถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์ การแต่งภาพและการใช้แอพเพิ่มความพรีเมี่ยมให้กับภาพของแต่ละคน เก็บเอาไว้เป็นสตอรี่

จุดแรกที่เริ่มความสนุกตื่นเต้น กับที่เช้คอินสุดชิค Loft Land ร้านกาแฟที่มีมุมถ่ายภาพสวยๆ เครื่องดื่มสดชื่น และขนมเค้กรสชาติหวาน นุ่นละมุนลิ้น ให้เวลาได้เดินถ่ายรูป พักผ่อน เต็มอิ่มกับบรรยากาศในวันหยุดกับเพื่อนๆ ทั้งที่มาด้วยกัน และเพื่อใหม่ที่มาเจอกันในงาน

จากออกสตาร์ทมาช่วงสาย ก็เลยได้แวะทานอาหารเร็วหน่อย ที่ร้าน มุมอร่อย โคโม่ ชลบุรี ร้านอาหารระดับพรีเมี่ยม ที่มีทั้งอาหารอร่อยเอาไง้รอบรับ และบรรยากาศวิวรอบช้าง เปรียบดั่งอยู่ต่างประเทศ และที่นี่ก็มีกลุ่มสมาชิก เจ้าถิ่นฝั่งตะวันอออกมาร่วมขบวนอีก 20 คัน ทำให้ทริปนี้มีรถร่วมขบวนทั้งหมด เกือบ 70 คัน แต่เพื่อความปลอดภัยของการขับขี่บนท้องถนน ทีมได้จัด เจ้าหน้าที่ ตำรวจ และครูฝึกขับขี่ปลอดภัย ช่วยดูแลตลอดการเดินทาง โดยอยู่ในกฎการจราจรอย่างเคร่งคัด

หลังจากอิ่มอร่อย และถ่ายรูประหว่างทาง ก็ไปกันต่อที่ ฐานทัพเรื่อง เพื่อขึ้นชมเรือหลวงจักรีนฤเบศร แบบเอ็กซ์คลูซีฟ และแน่นอนว่าความทรงจำที่ต้องเก็บไว้กับภาพถ่ายบนเรือหลวงที่มีความทันสมัย และใหญ่ที่สุดในทะเลอ่าวไทย

สิ้นสุดกันที่จุดหมายปลายทาง เข้าสู้ที่พักสลัดคราบแปลงร่างพร้อมสำหรับงานปาร์ตี้ Full Moon & Full Color ที่มีทั้ง แสง สี เสียง และอาหารเครื่องดื่ม ให้ได้สนุกสนาน กันเต็มที่ ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ พร้อมกับมีการจับรางวัลแจกของรางวัลแบบจุใจวัยรุ่น ที่มาให้ได้ลุ้นกันทุกคัน ทั้งของแต่งรถ และแอพพลีเรียล สุดเท่ แด็นซ์กันสุดเหวี่ยงกับดีเจสาวเซ็กซี่ ในค่ำคืนกันสุดบันเทิง

ช่วงสายๆ ของวันอาทิตย์ หลังจากสุดเหวี่ยงกันเต็มคาลาเบลกับปาร์ตี้ ก็ตั้งขบวนออกเดินทางกันที่ร้านอาหาร สุดทางรัก ริมชายหาด จัดเสบียงเติมสารอาหารที่เต็มไปด้วยไอโอดีนจากท้องทะเลไทย มีการแจกขิงรางวัล และเล่นเกมสนุกแจกของรางวัลกันอีกชุดใหญ่ ก่อนที่จะถึงจุดแยกย้ายที่ปั๊มน้ำมันเพิ่มเติมเต็มให้กับรถทุกคัน และล่ำลา กลับบ้านโดยสวัสดิภาพ

🛵 YAMAHA GRAND FILANO HYBRID ชวนชาวGRANDOM ✨️CHECK IN ชลบุรี

📍ใน “ติดเศร้าคอนเสิร์ต บอกตัวเอง ในวันที่เธอไม่อยู่”
คอนเสิร์ตสุดอบอุ่น ที่ฮีลใจทุกคนด้วยศิลปินเจ้าพ่อเพลงเศร้า อาทิ แว่นใหญ่ และ TINN พร้อม ศิลปิน Special Guest วง “Whal & Dolph”

ชาว GRANDOM ชลบุรี ร่วมจอยไปกับขบวน GRAND FILANO HYBRID ฮีลใจกับกลิ่นอายของทะเลพร้อมกันทั่วเมืองชล🏝

📍 วันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป
ณ ศรีราชาฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลชลบุรี

ชาว GRANDOM ชลบุรีห้ามพลาด‼️

#AUTOMATICCHECKIN2024
#GRANDOM #ชลบุรี
#YamahaSocietyThailand
#RideFanJourney

—————————–
#ยามาฮ่าเร่งชีวิตให้เร้าใจ
#Yamaha #RevsYourHeart
#YamahaSocietyThailand

ครั้งแรก จากไทยฮอนด้ากับการเปิดตัวรถจักรยานยนต์บนแฟชั่นรันเวย์ 2 รุ่นใหม่

‘All New Honda Lead125’ และ ‘New Honda Giorno+’
ในงาน “Honda Fashion A.T. Week”
 
ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย ครั้งแรกกับการจัดงานแฟชั่นโชว์สุดอลังการระดับไฮแอนด์อย่างงาน ‘Honda Fashion A.T. Week  – The Ultimate Runway Show’ เปิดตัวรถจักรยานยนต์ 2 รุ่นใหม่ พร้อม 2 พรีเซนเตอร์ ตอบโจทย์ทุกสไตล์ที่แตกต่างของคนรุ่นใหม่ นำโดย ‘All New Honda Lead125’ ภายใต้คอนเซปต์ ‘Minimal is The New Maximal มินิมอลที่ใช่ เป็นได้มากกว่า’ โดยได้นักแสดงหนุ่มสุดฮอตอย่าง ‘เจษ-เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์’ มาเป็นพรีเซนเตอร์ ส่วนอีกหนี่งรุ่นที่กลับมาสานต่อความสำเร็จก็คือ ‘New Honda Giorno+’ ที่เปิดตัว 6 สีกับ 7 สไตล์ใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ ‘Rise to New High พาสไตล์คุณเหนือสไตล์ใคร’ ซึ่งมาพร้อมพรีเซนเตอร์ศิลปินนักแสดงผู้มากความสามารถอย่าง ‘เจฟ- วรกมล ซาเตอร์’ ซึ่งงานครั้งนี้ถูกจัดขึ้น ณ เอ็ม กลาส (EM GLASS) ศูนยการค้าเอ็มสเฟียร์ ชั้น G
สำหรับ All New Honda Lead125 เปิดตัวครั้งใหม่กับดีไซน์ใหม่รอบคัน ภายใต้คอนเซปต์ ‘Minimal is The New Maximal มินิมอลที่ใช่ เป็นได้มากกว่า’ ด้านหน้าเพิ่มดีไซน์เส้นสายโครเมียม ตัดกับฝาครอบด้านหน้าสีดำเสริมลุคสปอร์ต ยกระดับความมินิมอลให้เท่มากขึ้น หน้าปัดเรือนไมล์ดีไซน์ใหม่ สะดุดตาด้วยชุดไฟ LED ทั้งไฟหน้าและไฟท้ายรูปทรงเรียวเข้ากับดีไซน์รถได้เป็นอย่างดี พร้อมด้วยความสะดวกสบายรอบคัน ทั้งช่องชาร์จไฟสำรอง USB Type C พร้อมคอนโซลหน้าขนาดใหญ่ ถังเติมน้ำมันด้านหน้า เปิด-ปิด ได้ง่ายช่วยให้เติมน้ำมันแบบไม่ต้องลงจากรถ ช่องเก็บของใต้เบาะแบบ Maximal จุของได้เต็มที่ สามารถใส่หมวกกันน็อคได้ถึง 2 ใบ และกุญแจรีโมทอัจฉริยะ พร้อมมอบสมรรถนะการขับขี่ที่นุ่นนวล และแรงได้อย่างใจด้วยเครื่องยนต์ eSP+ 125 ซีซี 4 วาล์ว
โดยในครั้งนี้ นำเสนอความโดดเด่นไม่ซ้ำใครไปกับ All New Honda Lead125 รุ่น Special Edition ที่สะท้อนความสปอร์ตได้มากกว่าด้วยสีดำด้าน เพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ด้วย Emblem สีแดง Special Edition ลงตัวทุกรายละเอียดด้วยโช้ค และคาลิปเปอร์เบรคสีแดง รวมถึงล้อสีดำด้านเสริมลุคสปอร์ตให้มากกว่าเดิม ลงตัวด้วยไฟท้าย LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยวแบบมินิมอลอย่างมีสไตล์
All New Honda Lead125 รุ่น Standard สีขาว และ สีแดง พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในราคาแนะนำที่ 61,500 บาท และรุ่น Special Edition สีดำ ราคาแนะนำ 62,500 บาท
พิเศษไปอีกขั้นกับ All New LEAD125 Öhlins Special Edition ยกระดับความเท่ด้วยโช้คอัพที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี STX 46 สุดล้ำจาก Öhlins โช้คแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ขับขี่มั่นใจเหนือระดับเสริมความพรีเมียมในทุกรายละเอียดด้วยสติกเกอร์ Öhlins รอบคัน โดดเด่นด้วย Emblem สีทองและสติกเกอร์วงล้อสะท้อนความสปอร์ตล้ำเหนือใคร ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 500 คันเท่านั้น ในราคาแนะนำ 72,200 บาท พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป

พร้อมกันนี้ ไทยฮอนด้ายังมาพร้อมโปรโมชันพิเศษให้กับผู้ทำการจองรถ All New Honda Lead125 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 67 ด้วยแพคเกจ HSP (Honda Service Premium Package) ตรวจเช็คระยะฟรีตลอดระยะเวลา 2 ปี หรือระยะทาง 18,000 กิโลเมตร กดรับสิทธิ์ผ่าน Application “My Honda Moto” ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น : https://myhonda.page.link/invite

สำหรับ New Honda Giorno+ กลับมาพร้อม 6 สี 7 สไตล์ใหม่ ที่ครั้งนี้อัปลุคใหม่ให้โมเดิร์นชิคกว่าที่เคย ขนทัพสีสันใหม่ที่สายแฟต้องมี ภายใต้คอนเซปต์ ‘Rise to New High พาสไตล์คุณเหนือสไตล์ใคร’ ดีไซน์โดดเด่นด้วยฝาครอบหน้าที่เปลี่ยนโฉมใหม่ พร้อม Emblem สีโครเมียมสะดุดตา และยังคงเทคโนโลยีล้ำสมัยขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ eSP+ 4 วาล์ว 125 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้การขับขี่ที่คล่องตัว ปลอดภัยด้วยดิสก์เบรกหน้า ระบบ ABS (เฉพาะรุ่น ABS) และ Combi Brake เสริมด้วยกุญแจรีโมทอัจฉริยะ Honda Smart Key พื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ USB Socket และจุดเติมน้ำมันด้านหน้า เพื่อความสะดวกสบายสูงสุด โดยพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันนี้ ทั้งหมด 6 สี 7 สไตล์
  • รุ่น ABS มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีส้ม-ดำ สีเทา-ดำ สีขาว-ดำ และสีดำ ราคาแนะนำ 67,700 บาท
  • รุ่น CBS มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเขียว-ดำ สีเหลือง-ดำ และสีดำ ราคาแนะนำ 62,700 บาท
สำหรับลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 รุ่นใหม่อย่าง ‘All New Honda Lead125’ และ ‘New Honda Giorno+’ พร้อมวางจำหน่ายที่ศูนย์ Honda Wing Center ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป
ติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรมจากรถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้ที่
เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : www.facebook.com/hondamotorcyclethailand
#NewHondaGiorno+ #RiseToNewHigh
#AllNewHondaLead125 #MinimalisTheNewMaximal
#มินิมอลที่ใช่​เป็นได้มากกว่า
#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #HondaMotorcycleThailand
#ไทยฮอนด้า #ThaiHonda