Jorge Martin (Prima Pramac Racing) แชมป์โลกถ้า …
1. เขาจบอันดับที่ 9หรือสูงกว่า
2. เขาจบอันดับที่ 10 , 11 , 12 , 13 , 14 และ Bagnaia จบอันดับที่ไม่สูงกว่าอันดับที่ 2
3.Bagnaia จบอันดับที่ไม่สูงกว่าอันดับที่ 3
Francesco Bagnaia (Ducati Lenovo Team) แชมป์โลกถ้า …
1. เขาชนะและ Martin จบอันดับได้ไม่เกินอันดับที่ 10
2. เขาจบอันดับ 2 และ Martin จบอันดับได้ไม่เกินอันดับที่ 15

#MotoGP2024 #TheRematch #solidarity

“คาเครุ”  ออกนำม้วนเดียวจบผงาดคว้าชัยชนะ

คาเครุ โอกุนุกิ นักบิดดาวรุ่งเลือดใหม่ชาวญี่ปุ่นวัย 17 ปี สร้างผลงานร้อนแรง ออกนำม้วนเดียวจบผงาดคว้าชัยชนะเรซแรกในศึกเฟ้นดาวรุ่งสู่เวทีโลก Yamaha R3 bLU cRU Asia-Pacific Championship 2024 สนามสุดท้าย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่ เดอะ เบนด์ มอเตอร์สปอร์ต พาร์ค ประเทศออสเตรเลีย พร้อมปิดจ็อบผงาดตำแหน่งแชมป์ประจำปีไปครอง

เกมเรซนี้ดวลกันทั้งสิ้น 9 รอบสนาม โดย คาเครุ เจ้าของรถแข่งหมายเลข 31 ออกตัวจากตำแหน่งโพล ทะยานขึ้นนำอย่างรวดเร็ว โดยนักบิดไทยวัย 14 ปีอย่าง “เชลล์” ศักดิ์ชัย คงดวงดี เจ้าของหมายเลข 54 รวมถึงนักบิดเจ้าถิ่นอย่าง ฮันเตอร์ คอร์นีย์ หมายเลข 40 และ เฮย์เดน ฟอร์ดิซ ดาวรุ่งนิวซีแลนด์ ไล่บดเพื่อชิงอันดับ 2 อย่างสุดมัน

มอนสเตอร์ ยามาฮ่า เดินหน้ายกระดับความเร็วรถแข่ง M1 อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด “เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร นักบิดเฟรนช์ควงคู่ อเล็กซ์ รินส์ ทีมเมทชาวสแปนิชคว้ากริดสตาร์ตแถวที่ 3 ลุ้นขยับผลงานในศึก โมโตจีพี 2024 สนามรองสุดท้าย ที่ มาเลเซีย สุดสัปดาห์นี้

ศึก มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ 2024 ผ่านการแข่งขันรอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ตเมื่อวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ภายใต้การทำงานอย่างหนักของวิศวกร และทีมงานของ ยามาฮ่า กับการพัฒนารถแข่ง M1

ผลควอลิฟายออกมาอย่างน่าประทับใจ โดย กวาร์ตาราโร แชมป์โลก 1 สมัย พารถแข่งหมายเลข 20 ทะยานคว้ากริดที่ 8 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 57.592 วินาที ส่วน รินส์ เจ้าของรถแข่งหมายเลข 42 ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 9 ด้วยเวลา 1 นาที 57.726 วินาที

สำหรับ คู่หู “มอนสเตอร์ ยามาฮ่า” จะได้เริ่มเกมไล่ล่าผลงานจากแถวที่ 3 โดยการแข่งขันรอบ “สปรินต์เรซ” จะมีขึ้นบ่ายวันเสาร์นี้ 14.00 น. ขณะที่ “เมนกรังด์ปรีซ์” จะดวลความเร็วในวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายนนี้ 14.00 น. ถ่ายทอดสดทาง PPTVHD36 และ SPOTV

—————————–
#60ปีไทยยามาฮ่ามอเตอร์ #ดีใจที่ได้เจอ
#YamahaSocietyThailand #RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits
#YamahaRacing #YamahaWorldChampion #YamahaNumber1RacingTeam
#YamahaMotoGP24
#YamahaFactoryRacingTeam #MonsterEnergyYamahaMotoGPteam
#FQ20 #AR42

Petronas Grand Prix of Malaysia – Sepang International Circuit

เกมรองสนามสุดท้ายของการชิงแชมป์โลกรถจักรยานยนต์ทางเรียบ MotoGP ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ในรายการ มาเลเซียน กรังด์ ปรีซ์ จะที่สนาม เซปัง มีหลากหลายอารมณ์ ความผิดพลาด สมหวัง ผิดหวัง เรื่องเศร้า คละเคล้ากันไป ทว่าไปแล้วรุ่นเล็ก Moto3 และ รุ่นกลาง Moto2 ก็ได้แชมป์โลกคนใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ทุกสิ่งทุกอ่ยางจับจ้องมาอยู่ที่คู่ชิงในรุ่นใหญ่ MotoGP ระหว่างแชมป์โลก ฟรานเชสโก้ บันญาญ่า และ ฮอร์เก้ มาร์ติน ที่ต้องตัดสินกันในทุกๆ เรซ และลุ้นกันจนถึงสนามสุดท้าย

Tissot Sprint Race

ฟ้าฝนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ทีมงานต้องวุ่นวายกับการเลือกยาง เพราะก่อนแข่งฝนตกลงมาเล็กน้อย แต่เมื่อสตาร์ทออกตัวไปสักพักแทร็คก็แห้ง และมาร์ตินก็แซงขึ้นจากตำแหน่งที่สองบนกริดสตาร์ทได้สำเร็จ ขึ้นนำหัวขบวน บันญาญ่า หวังจะปิดเกมเร็วตั้งแต่เริ่มหวังแซงขึ้นด้านนอก ทำให้ทั้งคู่พุ่งขึ้นนำหน้าไปพร้อมๆ กัน ขณะที่สถานการณ์คู่หน้ายังไล่กันไม่ห่าง มาร์ก มาร์เกซ ก็ขยับตามมาติดๆ พร้อมกับน้องชาย อเล็กซ์ มาร์เกซ

เกมใส่กันเต็มที่ มาร์ติน ยังคงนิ่งรักษาตำแหน่งไว้ได้ บันญาญ่า และ มาร์เกซ ไล่ตามมาอย่างดุเดือด แต่แล้ว บันญาญ่า เข้าโค้งล้อหน้าไปสะดุดกับเป๊กขอบแทร็ค ลื่นไถลออกจากการแข่งขัน ขณะที่ มาร์ติน ที่นำแต่ยังไม่หมดความกดดัน มาร์เกซ แรงขึ้นมาทำท่าว่าจะแซงแต่ มาร์ติน ยังปิดไลน์ไม่ให้แซงได้สำเร็จ จบเรซ มาร์ติน ได้วินเอร์โพเดี้ยม ขยับหนีห่าง 29 คะแนน มาร์เกซ เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 2 และ บาสเตียนีนี่ ได้รับอันดับ 3

MotoGP

เดอะ รีแมตช์ คู่ชิงแชมป์โลกที่สมน้ำสนเนื้อ ของนักบิดชาว อิตาลี และ สเปน บนแมทชีน ดูคาติ บันญาญ่า ออกตัวได้อย่างเหลือเชื่อพุ่งขึ้นเป็นผู้นำเบียดในโค้งแรก มาร์ติน เปิดทางให้แล้วเกาะติดท้าย ต่างคนต่างแย่งชิงตำแหน่งผู้นำอย่างน่าตื่นเต้น มาร์ติน แซงขึ้นนำและเกือบจะชนกันบนทางตรง ข้างหลังเป็น มาร์เกซ ที่คอยตามไม่ห่าง เมื่อถึงรอบที่ 5 บันญาญ่า ก็พลิกแซงขึ้นมาได้จากความผิดพลาดเล็กน้อยของ มาร์ติน และขยับยืดหนีห่างออกไป มีดราม่าเกิดขึ้นอีกครั้ง มาร์เกซ เปิดคันเร่งรีบจนเกินไปทำให้ล้มลงไป บาสเตียนีนี่  ขยับขึ้นมาแทนที่ ตามมาด้วย อเล็กซ์ มาร์เกซ ที่กำลังปัดหนีจาก เปโดร อาคอสต้า

เกมที่ดูเหมือนว่า บันญาญ่า จะทิ้งห่าง แต่กลับมาพลาดที่โค้ง 9 ทำให้ระยะห่างลดลง แต่ก็ยังเพียงพอที่จะเอาตัวรอดจากการไล่ของ มาร์ติน ในช่วงท้ายของเรซ จบทำให้เกมในเรซนี้ บันญาญ่า เข้าเส้นชัยและคว้าชัยชนะด้วยเวลาห่าง 3.141 วินาที มาร์ติน ที่ไม่เสี่ยงกับเกมช่วงท้าย ขึ้นรีรับอันดับ 2 และ บาสเตียนินี่ ก็เกือบเสียโพเดี้ยมในช่วงโค้งสุดท้าย แต่ยังคงรักษาที่ยืนโพเดี้ยมอันดับ 3 ขณะที่ ควอตาราโร่ หนึ่งเดียวของค่ายรถจากเอเชีย จบการแข่งขันใน 6 อันดับทำผลงานกรังด์ปรีซ์ที่ดีที่สุดของเขาและของยามาฮ่าในฤดูกาลนี้

Moto2

เมื่อไฟดับลง มากอส รามีเรซ ออกตัวได้อย่างเหลือเชื่อ โดยออกตัวจากตำแหน่งโพลเข้าโค้งแรกเก็บโฮลชอต อย่างไรก็ตาม เวียติ ก็ค่อยขยับขึ้นมาไล่ท้ายและแซงขึ้นนำ นาวาโร่ และ ไอ โอกูระ ก็ตามดูเกมอยู่ข้างหลัง ขณะที่เกมไล่เรียงกันเป็นแถวยาวในช่วงแรก ผ่านไป 6 รอบ แต่ละคนเริ่มเปิดเกมชิงตำแหน่งกันมากขึ้น เวียติ ยังได้เปรียบเป็นผู้นำ โอกุระ ไต่ขึ้นมาอยู่ที่ 3 หวังจะล้างอาถรรพ์ที่เซปัง ไล่แซงผ่าน รามิเรซ ไปได้ในรอบที่ 9 จากนั้นก็ตั้งเป้าไปที่ เวียติ ผู้นำ

แต่แล้วในรอบที่ 11 ว่าที่แชมป์โลก โอกูระ ต้องยุติการแข่งขันเพราะพลาดล้มแบบไม่น่าเชื่อช่วงท้ายเรซ ข้างหลังก็ปั่นป่วน ด้วยการไล่เบียดกันสูสี ขณะที่ผู้นำ เวียติ กลับมาตั้งสติได้ และเร่งขยับช่องว่างนำหน้าเป็น 1 วินาที รักษาเวลาต่อรอบ และตำแหน่งหัวขบวนเอาไว้ได้ และก็ผ่านธงตราหมากรุกคว้าชัยชนะครั้งที่ 3 ของฤดูกาลนี้ นาวาร์โร่ ได้อันดับที่ 2 ในขณะที่ อีซาน กัววาร่า ยืนโพเดี้ยมอันดับ 3 โดยเบียดเอาชนะ ดิกซัน ในรอบสุดท้าย และอันดับที่ 5 เป็นของ โทนี่ อาร์บอลิโน่ ในขณะเดียวกัน รามิเรซ หล่นไปจบอันดับที่ 6 โดยไม่สามารถ

สำหรับนักแข่งไทย ก้อง สมเกียรติ จันทรา ถึงจะฝืนอาการเจ็บขาออกสตาร์ทจาก ที่ 13 ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม หาจังหวะในแต่ละรอบไล่แซงจนสามารถผ่านเข้าเส้นชัยในอันดับ 9

Moto3

รุ่นเล็กจรวดพุ่งพรวดแบบรั้งไว้ไม่อยู่ ถึงจะได้แชมป์โลกไปแล้ว แต่ยังแรงดีไม่มีแผ่ว ดาวิด อลอนโซ่ สร้างประวัติศาสตร์ในรายการ PETRONAS Grand Prix of Malaysia หลังจากคว้าชัยชนะเป็นครั้งที่ 13 ในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นชัยชนะติดต่อกันครั้งที่ 6 ของอลอนโซ แต่สำหรับเรซนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ อลอนโซ่ ต้องทำงานหนักเพราะ ไทโย ฟูรุซาโตะ พร้อมกับฟอร์มที่ร้อนแรงไล่กดดันไม่ห่างเลย

เกมที่ดูเหมือนว่าจะไม่เน้นของว่าที่แชมป์ แต่ด้วยสปีริตใส่กันเต็มคันเร่ง ทำให้เรซนี้สนุกตื่นเต้น แต่ก็มีดราม่าเล็กน้อยของการปะทะกันของนักแข่ง แดเนียล โฮลกาโด้ รถวิ่งเข้าชนทำให้ อลอนโซ่ หล่นไปอยู่นอก 10 อันดับแรก ในขณะเดียวกัน เอเดรียน เฟอร์นานเดซ และ แองเจิล ปิเกเรส ก็ทำผลงานได้น่าผิดหวังในช่วงสุดสัปดาห์เช่นกัน เนื่องจากทั้งคู่ต้องออกจากการแข่งขันเนื่องจากปัญหาทางเทคนิคของรถแข่ง ฟูรุซาโตะ มีโอกาสที่จะได้ลุ้นในอันดับที่ 1 และก็เกือบพลาดโดน ออร์โทลา เสียบเข้าใน ฟูรุซาโตะ โค้งที่ 14 จนเสียตำแหน่งไป แต่ยังฮึดไล่กลับมาอยู่ในอันดับที่ 2 ได้อีกครั้ง ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้นที่ข้างหน้า คอลลิน ไวเยอร์ เร่งเพื่อขึ้นบนโพเดี้ยม

อิเดมิตซึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ประจำปี 2024 สนามที่ 6

การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์นักบิดดาวรุ่งแห่งทวีปเอเชีย รายการอิเดมิตซึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ประจำปี 2024 สนามที่ 6 และเป็นสังเวียนส่งท้ายของฤดูกาล มีคิวรูดม่านเกมดวลความเร็วที่สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ซึ่งจัดร่วมเป็นซับพอร์ตเรซในศึกใหญ่ระดับโลก โมโตจีพี ในสุดสัปดาห์นี้

โดยช่วงเที่ยงของวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เป็นการลงสนามรอบการควอลิฟายเพื่อจัดอันดับกริดสตาร์ท ก่อนทำการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศจำนวน 2 เรซ ในช่วงเย็นของวันเสาร์ที่ 2 และวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ในสนามนี้มีนักบิดดาวรุ่งจากประเทศไทยจากรายการ Honda Thailand Talent Cup เข้าร่วมการแข่งขันถึง 4 คน ประกอบด้วย ไม้คิว-เกียรติศักดิ์ สิงหพงษ์ #20 อุ้ม-นพรุจน์พงศ์ บุญประเวศน์ #26 ไฮเป็ก-กฤษฎา ธนะโชติ#23 และออสติน-ธนฉรรต ประทุมทอง#5

ผลการควอลิฟายปรากฏว่า นักบิดดาวรุ่งจากโครงการปั้นนักบิดไทยสู่โมโตจีพี Race to The Dream สปิริตไทย ท้าทายสู่ฝัน ควบตัวแข่งคู่ใจ ฮอนด้า เอ็นเอสเอฟ 250 อาร์ สามารถกดเวลาต่อรอบขึ้นอยู่ในกลุ่มหัวแถวในบรรดาดาวรุ่งแถวหน้าจากทั่วเอเชีย ทำให้ ไม้คิว-เกียรติศักดิ์ สิงหพงษ์ #20 คว้ากริดที่ 7ขณะที่ทีมเมท ออสติน-ธนฉรรต ประทุมทอง#5 คว้ากริดที่14 ไฮเป็ก-กฤษฎา ธนะโชติ#23คว้ากริดที่ 15 ส่วนอุ้ม-นพรุจน์พงศ์ บุญประเวศน์ #26 คว้ากริดที่ 16

ศึกชิงแชมป์นักบิดดาวรุ่งแห่งทวีปเอเชีย ปี 2024 สนามปิดฤดูกาล เตรียมดวลเดือดรอบชิงชนะเลิศ เรซแรก แข่งขันจำนวน 11 รอบสนาม จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน หลังจากที่ไฟแดงดับลง นักแข่งไทยกดคันเร่งขึ้นมาเพื่อขึ้นมาหัวได้ แต่ในกลุ่มนำยังเป็นนักแข่งจากญี่ปุ่น ส่วนนักแข่งไทยยังเป็น ไม้คิว-เกียรติศักดิ์ สิงหพงษ์ #20 ที่พยายามสอดแทรกขึ้นมาในกลุ่มผู้นำ ส่วนนักแข่งไทย ออสติน-ธนฉรรต ประทุมทอง#5ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 13 ส่วนไฮเป็ก-กฤษฎา ธนะโชติ#23 ไล่อันดับขึ้นมาที่ 15

ผ่านไปครึ่งทางการแข่งขันในเรซที่หนึ่ง กลุ่มผู้นำยังคงเป็นนักแข่งญี่ปุ่นที่ขับขี่กันแบบล้อต่อล้อ ส่วนไม้คิว-เกียรติศักดิ์ สิงหพงษ์ #20 เริ่มอาศัยจังหวะแซงสามารถขึ้นถึงอันดับที่ 6 ส่วนออสติน-ธนฉรรต ประทุมทอง#5 เริ่มขยับมาอันดับที่ 12

มาถึงรอบสุดท้ายของการแข่งขัน นักแข่งไทยยังหยายามไต่อันดับขึ้นมา เมื่อผ่านธงตราหมากรุก ไม้คิว-เกียรติศักดิ์ สิงหพงษ์ #20 จบอันดับที่ 8 สามารถเก็บสะสมมาได้อีก 8 คะแนนส่วน ออสติน-ธนฉรรต ประทุมทอง#5 จบอันดับที่12 เก็บได้อีก 4 คะแนน ส่วนไฮเป็ก-กฤษฎา ธนะโชติ#23 จบอันดับที่ 15 นักแข่งไทยอีกคนที่ได้สิทธิ์ไวด์การ์ด อุ้ม-นพรุจน์พงศ์ บุญประเวศน์ #26 จบอันดับที่ 17

การแข่งขันในเรซที่สองเป็นการเปิดหัวแข่งขันในวันอาทิตย์ นักแข่งดาวรุ่งของไทยยังคงประจำกริดสตาร์ท เมื่อไฟแดงดับลง นักแข่งจากแดนอาทิตย์อุทัยยังคงพุ่งออกขึ้นนำมา ตามมาด้วย ไม้คิว-เกียรติศักดิ์ สิงหพงษ์ #20 ที่ตามมาในกลุ่มที่สองที่มีนักแข่งไทยอีกสามคนที่ขึ้นมาพัวพันกันในกลุ่มนี้ได้แก่ ออสติน-ธนฉรรต ประทุมทอง#5และ อุ้ม-นพรุจน์พงศ์ บุญประเวศน์ #26 ซึ่งในกลุ่มหัวแถวยังคงเป็นนักแข่งจากประเทศญี่ปุ่น เมื่อจบการแข่งขัน ไม้คิว-เกียรติศักดิ์ สิงหพงษ์ #20 เข้าเส้นชัยมาเป็นที่  6 ส่วน ออสติน-ธนฉรรต ประทุมทอง#5 เข้ามาเป็นที่ 12 ตามมาด้วย อุ้ม-นพรุจน์พงศ์ บุญประเวศน์ #26 เข้ามาอันดับที่ 13 ขณะที่ ไฮเป็ก-กฤษฎา ธนะโชติ#23 เข้ามาเป็นอันดับที่ 16

เมื่อจบการแข่งขันสนามสุดท้ายปิดฤดูกาล 2024 ทำให้คะแนนสะสมประจำปีของนักแข่งไทย ไม้คิว-เกียรติศักดิ์ สิงหพงษ์ #20 มีคะแนนสะสมที่ 129 คะแนน ออสติน-ธนฉรรต ประทุมทอง#5 มีคะแนนสะสมที่ 37 คะแนน ไฮเป็ก-กฤษฎา ธนะโชติ#23 มีคะแนนสะสมที่ 28 คะแนน อุ้ม-นพรุจน์พงศ์ บุญประเวศน์ #26 มีคะแนนสะสมที่ 14 คะแนน