Riding Magazine January 2016 Vol.21 No.244
Riding Magazine December 2015 Vol.21 No.243
Riding Magazine November 2015 Vol.21 No.242
Riding Magazine October 2015 Vol.21 No.241
Riding Magazine August 2015 Vol.20 No.239
Riding Magazine July 2015 Vol.20 No.238
Riding Magazine June 2015 Vol.20 No.237
Riding Magazine May 2015 Vol.20 No.236
ระเบิดความมันส์เกมการแข่งขันสู่นักแข่งมืออาชีพ Yamaha CUP RACE 2016 สนามที่ 3 จ.ตรัง
นางสรวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายสื่อสารการตลาด และประชาสัมพันธ์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าในจังหวัดตรัง นางนงค์ลักษณ์ บำรุงชาติอุดม กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ่นส่วน ตรัง.เอส.ที. จำกัด และ นายเอกสิทธิ์ วัจน์ประภาศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรังเทพนคร จำกัด ร่วมเปิดเกมการแข่งขัน Yamaha CUP RACE 2016 สนามที่ 3 จังหวัดตรัง โดยมี นายกิจ หลีกภัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน พร้อมด้วยเหล่าผู้ให้การสนันสนุนการแข่งขัน Yamaha CUP RACE 2016 ณ สนามกีฬาทุ่งแจ้ง ลานเรือนพระ จ.ตรัง เมื่อเร็วๆ นี้
2015 KX250F
โลกหมุนเร็วขึ้น ทุกอย่างขับเคลื่อนเร็วตาม เพิ่งจะผ่านกลางปีไปไม่นานแต่การมาถึงของโมโตครอสปี 2015 ก็มาถึงแล้ว ด้วยการสนับสนุนเป็นอย่างดีโดยยางรถจักรยานยนต์ควิกและวงล้อโยโก ทำให้คอลัมน์ทดลองสัมผัสโมโตครอสแซมเปิ้ลของปี 2015 เริ่มต้นได้อย่างทันการณ์ พบกับรุ่นแรก ของการรีวิว KX250F

มีอะไรใหม่ใน 2015 KX250F
ภายนอกเท่าที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือโทนสีของน็อตข้างเครื่องที่เดิมใช้สีน้ำเงินก็เปลี่ยนเป็นอะโนไดซ์สีเขียวซึ่งเป็นโทนเดียวกับพลาสติกของตัวรถ อีกชิ้นที่เปลี่ยนเป็นเขียวเช่นกันคือสปริงโช้คหลัง ส่วนโช้คหน้า ที่เป็นระบบ SFF ผลงานโชวานั้นได้ใช้กระบอกโช้คผิวด้านสีเทาอ่อนเหมือนที่ใช้ในรถแข่งของแชมป์มาเพิ่มความเข้มขลัง จานเบรกหน้าเพิ่มขนาดจาก 250 มม. เป็น 270 มม. คือขนาดโอเวอร์ไซส์ที่มีขายเป็นของแต่งกันเลย กับซับเฟรมที่เบาขึ้นเล็กน้อย






เครื่องยนต์
ภายในเครื่องยนต์แบบ DOHC 4 จังหวะสูบเดียว ได้มีการพัฒนาลูกสูบใหม่ที่เรียกว่า Bridged Box Bottom พร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีอยู่ยังพร้อมพรั่ง ด้วยระบบหัวฉีดคู่อันเลื่องลือ เรือนลิ้นเร่ง 43 มม. ของเคฮิน แถมยังสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้กำลังด้วยปลั๊กเปลี่ยนนิสัย เลือกใช้ตามสภาพสนามได้ถึง 3 แบบมาให้สั่งงานระบบหัวฉีดง่ายๆ เพียงแค่เสียบปลั๊กเข้าไปเท่านั้น ท่อไอเสียพร้อมคอท่อสไตล์เมก้า
บอมบ์ อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่รู้ใจผู้ขับขี่ก็คือระบบช่วยการออกตัว Launch Control ที่จะช่วยปรับสมดุลระหว่างรอบเครื่องยนต์กับการหมุนฟรีของล้อหลัง ลดอาการล้อฟรีมากเกินควร ช่วยให้ชิงโค้งแรกได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยระบบนี้จะทำงานด้วยปุ่มกดด้านซ้ายของแฮนด์ แสดงสถานะทำงานด้วยสัญญาณไฟกระพริบ โดยจะทำงานในเกียร์ 1 และ 2 เท่านั้น ยกเลิกระบบอัตโนมัติทันทีที่เข้าสู่ตำแหน่งเกียร์ 3


กันสะเทือน
ด้านหน้ายังคงคบหากับ Showa ด้วยระบบ SFF แบบที่ 2 (Saparate Function Front Fork) Type 2 ด้วยการแยกทำงานระหว่างด้านซ้ายที่เป็นระบบวาล์วน้ำมันสร้างความหนืด ส่วนด้านขวาทำหน้าที่ยันออกและรับแรงกระแทกด้วยสปริง ลดได้ทั้งน้ำหนักและความฝืดสามารถปรับพรีโหลดของสปริงได้จากภายนอก โดยที่แกนโช้คนั้นก็ยังคงมีการเคลือบผิวที่จัดให้สาวกสีเขียวเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวจนถึงปัจจุบัน ส่วนด้านหลังก็เป็นโช้คเดี่ยวกับระบบกระเดื่องเช่นเคย
มิติปรับได้กับเบรกแบรนด์ดัง
อีกส่วนที่คาวาซากิคิดเผื่อสำหรับนักขี่นักแข่งที่มีสรีระแตกต่าง ด้วยการจัดวางตำแหน่งของแฮนด์เดิลบาร์ เรนธอล (Renthal) ที่สามารถขยับปรับหน้าหลังได้ และพักเท้าที่สามารถปรับสูงต่ำได้เช่นกัน อีกหนึ่งความใส่ใจของระบบเบรกที่นอกจากจะมี Nissin เป็นผู้รับเหมาในส่วนปั๊มเบรกและคาลิเปอร์แล้ว จานเบรกที่ใช้ก็ปั๊มตรา Braking เบรกดียี่ห้อดังมาให้จากไลน์ผลิตอีกด้วย
ขอบคุณการประสานงานถ่ายทำและทดลองโดยคุณเกรียงไกร วรรัตนธรรม แห่งศรีสกลมอเตอร์สปอร์ต ผู้จำหน่ายรถแข่งคาวาซากิ KX250F โทร 08-1873-4551 คุณสาโรจน์ ทศพร เจ้าของรถใจดี และ คุณประสิทธิ์ กองเงิน (ลุงแจ๋นด่านขุนทด) ผู้ร่วมประสานงานของกลุ่ม ด่านขุนทดโมโตครอสเอื้อเฟื้อสถานที่ ชุดนักทดสอบ จากร้านเดิร์ทช็อพ พบกันใหม่กับคิวต่อไปของ 2015 MX Sample เร็วๆ นี้

ข้อมูลเทคนิค 2015 KX250F
เครื่องยนต์ ระบายความร้อนด้วยน้ำ, 4 จังหวะสูบเดียว
DOHC 4 วาล์ว
ปริมาตรกระบอกสูบ 249cc
ลูกสูบ x ระยะชัก 77.0 x 53.6 มม.
ระบบเชื้อเพลิง 2 หัวฉีด DFI เรือนลิ้นเร่งเคฮิน 43 มม.
อัตราส่วนการอัด 13.8:1
ระบบจุดระเบิด Digital DC-CDI
ระบบส่งกำลัง เกียร์ 5 สปีด คลัทช์แบบหลายแผ่น
ระบบขับเคลื่อน โซ่ 520
เฟรม เฟรมเหลี่ยมอลูมินัม
แรค / เทรล 28.7 องศา / 5.0 นิ้ว
โช้คหน้า 48 มม. หัวกลับ Showa SFF ทำงานแยกส่วน
สปริงพรีโหลด 40 ระดับ คอมเพรสชั่น 22 ระดับ
รีบาวด์ 20 ระดับ ช่วงยุบ 12.4 นิ้ว
โช้คหลัง กระเดื่องยูนิแทรคพร้อมโช้คเดี่ยว SHOWA
โลว์สปีด 19 ระดับ และ ไฮสปีด 4 รอบ
รีบาวด์ 22 ระดับ ปรับสปริงพรีโหลด
ช่วงยุบ12.2 นิ้ว
ยางหน้า 80/100-21
ยางหลัง 100/90-19
เบรกหน้า ดิสก์เบรกเดี่ยว 270 มม. กึ่งโฟล์ทติ้ง
คาลิเปอร์ลูกสูบคู่
เบรกหลัง ดิสก์เบรกเดี่ยว 240 มม. คาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว
ยาว 85.4 นิ้ว
กว้าง 32.3 นิ้ว
สูง 50.0 นิ้ว
ฐานล้อ 58.1 นิ้ว
สูงจากพื้น 13.0 นิ้ว
สูงถึงเบาะ 37.2 นิ้ว
น้ำหนัก 104.2 กก.
ถังน้ำมันจุ 7.3 ลิตร
ความเห็นนักทดสอบ : “เขมรัฐ สุธรรมวาท”
“รูปร่างหน้าตาอาจไม่ดูหวือหวาเหมือน CRF หรือ YZF ที่เพิ่งปรับโฉม แต่มองรายละเอียดดีๆ KX250F น่าจะเป็นรถที่ให้เทคโนโลยีใหม่ๆ ติดตัวมามากที่สุดในบรรดาซามูไรทั้งหมด แถมยังปรับตำแหน่งได้ตามความชอบด้วยนี่สิเด็ด เป็นลูกเล่นง่ายๆ แต่ใช้ได้จริงเดิมทุกกระเบียดเลยครับคันนี้ การสตาร์ทเครื่องยนต์จัดว่าง่ายมาก มีเพียงความรู้สึกแน่นของกำลังอัดที่ต้องออกแรง ผ่านไป พอเลยจุดนั้นมันไม่มีความหนืดมารั้งเท้าเอาไว้เลย กดเน้นแบบแน่นๆ บรึ๊ม! ติดเครื่องได้ง่ายเลยครับ คันนี้ตั้งรอบเดินเบาไว้ค่อนข้างสูง แต่จากการขับขี่คาแรคเตอร์ของกำลังเครื่องยนต์จะมีให้ในย่านกลางถึงปลายอย่างชัดเจน รอบต้นๆ ไม่มีให้กระทุ้งออกเลยครับ (ใช้คัปเลอร์สีเขียวสแตนดาร์ด) แต่พออยู่ในย่านกำลังของมันก็อาละวาดเต็มที่เหมือนกัน กำลังแบบทันใจเดินรอบได้สูงไม่ตันง่ายเป็นผลจากการใช้ 2 หัวฉีดชัดเจน การชิพเกียร์ทำได้ง่ายมากจริงๆ ครับ ชอบมากไม่ต้องออกแรงมาก ไม่มีวืด ระบบช่วยสตาร์ท ลันช์คอนโทรล ช่วยได้จริงๆ กับการปั่นฟรีเมื่อรอบเกิน แต่ถ้าเดินรอบไม่ถึงการที่ล้อหน้ากระตุกขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับโช้คหน้าให้ความรู้สึกของตัวแข่งโรงงาน การทำงานช่วงแรกนั้นซับได้ในระดับปานกลางครับ ยังสะท้านขึ้นมือให้รู้สึกอยู่ และเมื่อต้องกดเบรกเพื่อเตรียมตัวเลี้ยวในช่วงบั๊มของพื้นสนาม การยุบตัว ของโช้คเหมือนจะใช้พื้นที่ไปซะหมด ความแข็งกระด้างสวนทางมาให้รู้สึกทันที ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะจานเบรกขนาดใหญ่ที่ทำให้การตอบสนองของเบรกหน้าฉับไวอย่างชัดเจน แต่กับการชนหน้าเนินหนักๆ หรือโดดลงพื้นแน่นๆ รู้สึกถึงการซับให้ปลอดภัย มันรองรับได้สมบูรณ์ครับมิติของตัวรถแคบหนีบง่าย แฮนด์สูงเบาะต่ำ ทำให้คุ้นเคยได้ไว การทำงานของโช้คหน้าเดิมๆ ชุดนี้ทำให้การเลี้ยวต้องใช้การเอียงรถเข้าช่วยเยอะๆ เป็นรถที่เลี้ยวได้แน่น ในการโดดเนินรถให้สมดุลได้ดี ลุยระนาดยังมีความรู้สึกของน้ำหนักท้ายสะท้อนมาหน่วงๆ อยู่นิดหน่อย และปลอกแฮนด์ที่มีขนาดใหญ่และหนาทำให้การจับถือของผู้ขับขี่รู้สึกใหญ่ แม้ว่าสัมผัสในส่วนอื่นจะเล็กและบางก็ตาม ราคาค่าตัว 310,000 บาท จัดว่าดีดสูงกว่าคู่แข่ง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับแฟนคาวาฯ และเมื่อพิจารณาสเปคของเทคโนโลยีที่ให้มาแล้วถือว่าเป็นส่วนต่างที่สมเหตุสมผลครับ”
2015 CRF 250R
เปลี่ยนโฉมมาแค่ปีเดียวแต่เวอร์ชั่นสองของโฉมนี้ CRF250R ก็มาพร้อมกับการอัพเกรดอุปกรณ์แบบไม่น่าเชื่อ กับการเปลี่ยนระบบกันสะเทือนหน้าใหม่ แถมเพิ่มความสบายในการเลือกใช้ขุมกำลังที่ง่ายเพียงแค่กดปุ่ม นำเข้าและจำหน่ายโดยฮอนด้าบิ๊กวิงด้วยราคาต่ำลงกว่าปีก่อนหน้า ที่ 275,000 บาท มีอะไรใหม่ สองจุดใหญ่ที่กล่าวขานถึงกันอย่างมากมายคือ กันสะเทือนหน้า ที่ขยับปรับขนาดจาก 48 มม. ในปี 2014 เป็น 49 มม. แต่ขนาดกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลยเมื่อเทียบกับระบบที่นำมาใช้ชื่อว่า SFF-Air fork เจ้าระบบ SFF (Saparate Front Fork) แยกการทำงานข้างหนึ่งเป็นวาล์วน้ำมันทำหน้าที่ดึง อีกข้างเป็นสปริงทำหน้าที่ดัน นี่ไม่ใช่ของใหม่ KX250F กับ RM-Z250 ใช้มาก่อนหน้าหลายปี แต่ที่เกทับคู่แข่งได้ก็ตรงที่ Air fork ซึ่งหมายถึงการนำเอาอากาศมาใช้แทนสปริงในกระบอกโช้คด้านซ้าย ซึ่งมีใช้ในระดับ 450F ทำให้ CRF250R เป็นรุ่นแรกในคลาส 250F ที่นำระบบนี้มาใช้






อีกจุดก็คือทางเลือกในการปรับเปลี่ยนโปรแกรมจุดระเบิด ว่ากันโดยระบบก็ไม่ใช่ของใหม่เมื่อคู่แข่งใช้มาก่อนหน้า นานหลายปี (อีกแล้ว) แต่ฮอนด้าก็สร้างความแตกต่างได้อีกด้วยวิธีการปรับเปลี่ยนที่ง่ายดาย เพียงแค่กดปุ่มที่ด้านขวา ของแฮนด์ค้างเอาไว้ ไฟสีน้ำเงินกระพริบ 1 ครั้งคือโหมด Standard (มาตรฐาน) ไฟกระพริบ 2 ครั้งคือโหมด Smooth นุ่มนวลสำหรับขี่พื้นแข็งหรือสนามลื่น ไฟกระพริบ 3 ครั้งคือโหมด Aggressive ดุดันเรียกรอบทันใจ การปรับโหมดจะค้างเอาไว้แม้ดับเครื่องยนต์ เมื่อสตาร์ทเครื่องครั้งใหม่ก็จะยังคงอยู่ในโหมดเดิม
นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มขนาดของจานดิสก์หน้าจาก 240 มม. เป็น 260 มม. โตขึ้น 20 มม. เท่ากับ 250SX-F แต่เล็กกว่า KX250F เพิ่มความเข้มด้วยสีดำของพลาสติกกันหม้อน้ำและการ์ดดิสก์หลัง




เครื่องยนต์
4 จังหวะสูบเดียว แคมชาฟท์เดี่ยว 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ระบบยูนิแคมทำให้ฝาสูบมีขนาดเล็กเครื่องยนต์ดูกระทัดรัด ระบบ
ไอเสียใช้ปลายแยกออกสองฝั่งเพื่อบาลานซ์ที่ดีและให้เสียงที่เบาลง ปลายที่สั้นทำให้ตัวรถดูไม่เทอะทะ
เฟรมและกันสะเทือน
เฟรมอลูมินัมขนาดใหญ่แข็งแรงกับซับเฟรมน้ำหนักเบา กันสะเทือนใช้บริการของโชวาเหมือนเดิม โช้คหน้าเปลี่ยนใหม่ไฮเทคแต่โช้คหลังก็ยังคงมาตรฐานการปรับตั้งที่ครบเครื่องด้วยโช้คเดี่ยวและกระเดื่องทดแรง ระบบ HPSD (Honda Prograssive Steering Damper) ช่วยเพิ่มความมั่นคงของด้านหน้ารถก็ยังคงมีให้ใช้งานด้วยโช้คตัวจิ๋วหลังป้ายเบอร์ ดิสก์เบรกเป็นหน้าที่ของ Nissin
สีสันและมิติ
ชิ้นพลาสติกและกราฟฟิคยังไลน์เดียวกับ 2014 เพิ่มขนาดของโลโก้ CRF ให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น แฮนเดิล บาร์ยังจัดไปด้วยไซส์มาตรฐานแบรนด์ Renthal สีเข้มเหมือนเดิม สัดส่วนของตัวรถซึ่งเป็นที่ติดอกติดใจของหลายๆ คนยังคงมั่นใจได้ว่าระหว่างปี 2014 กับ 2015 จะให้ความรู้สึกในการควบคุมไม่แตกต่างกัน
สนใจเป็นเจ้าของติดต่อได้ที่ศูนย์จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์ โชว์รูมบิ๊กวิงทุกสาขาทั่วประเทศ หรือติดต่อ Plang Promedic ทางเฟซบุค ขอบคุณน้องเพลง เกษตร สุคนธรัตน์ เจ้าของรถที่ยกมาลงพื้นสตาร์ทเครื่องให้ทีมงานไรดิ้งได้ทดสอบและถ่ายทำเป็นครั้งแรก ขอบคุณสนามศรีสมานโมโตครอสแทร็ค ชุดนักทดสอบจากเดิร์ทช็อพ ขาดไม่ได้สำหรับผู้สนับสนุนคอลัมน์โดยยางรถจักรยานยนต์ควิกและวงล้อโยโก ที่ท่านสามารถเลือกใช้กับรถวิบากคันเก่งได้อย่างมั่นใจ ฉบับหน้าพบกันใหม่ใครจะเป็นรายที่สามของปี กับ 2015 MX Sample โปรดติดตาม
ความเห็นนักทดสอบ
“เขมรัฐ สุธรรมวาท”
“เป็นมิติของตัวรถที่ขับขี่ครั้งใดก็ยังรู้สึกคุ้นเคยได้อย่างรวดเร็วครับ การสตาร์ทเครื่องยนต์สำหรับคันที่ทดสอบนี้ยังต้องมีการหาจังหวะกันอยู่บ้างนิดหน่อย แม้จะขับขี่จนเครื่องร้อนไปแล้วก็ตาม คันสตาร์ทไม่หนักครับแต่หาจังหวะสตาร์ทให้ติดอาจจะต้องออกแรงหลายครั้งหน่อย น้ำหนักคลัทช์กลางๆ ไม่นุ่มไปไม่หนักเกิน การชิพเกียร์ก็ง่ายครับ เบาแรงไม่ติดขัด เบรกหน้าและหลังฉับไว ขนาดของเบรกหน้าที่โตขึ้นช่วยให้เบรกดีขึ้นเล็กน้อยไม่รู้สึกต่างกันมากครับ ปลอกแฮนด์สั้นอ้วน คนมือใหญ่น่าจะชอบใจแต่น่าจะเป็นชิ้นแรกที่ผมจะเปลี่ยนเพราะส่วนตัวแล้วชอบปลอกแฮนด์เล็กครับ โฟกัสกันเข้าไปที่ของใหม่ๆ กันเลยแล้วกันนะครับ เครื่องยนต์ที่ให้การกดปุ่มปรับโหมดมาแบบนี้ผมว่ามันเป็นไอเดียที่ทำเอารูปแบบคัปเลอร์เสียบนี่เชยไปเลย เราจะสั่งงานมันได้เมื่อตอนที่ติดเครื่องยนต์อยู่นะครับ กดค้างไว้แค่ 2-3 วินาที แล้วปล่อยนิ้วออกมาดูไฟกระพริบ ง่ายมาก ไม่ต้องพก ไม่ต้องกลัวหาย ถามว่าแต่ละโหมดต่างกันมากไหม ต่างกันชัดเจนแต่ก็ยังอยู่ในข้อจำกัดของสเปคเดิมๆ นะครับ ก็เลือกใช้เอาให้เหมาะกับพื้นผิวและสภาพสนาม ส่วนความแรงถ้าอยากได้มากกว่านี้ก็ต้องจัดของแต่งเข้าไป เพราะสไตล์รอบเครื่องยนต์ก็ยังเน้นการควบคุมที่ง่ายเป็นมาตรฐานไว้ก่อน โอกาสพลาดจากรอบโอเวอร์น้อยมาก การเร่งยังคุมไลน์ได้ง่าย กันสะเทือนก็พยายามจับอาการโดยเฉพาะที่ด้านหน้า มีเสียงร่ำลือว่าโช้คลมตัวใหม่นี่แข็งน่าดู เท่าที่ลองผมว่ามันยังนุ่มกว่า KX250F อยู่นะ มีช่วงยุบปกติในการทำงานที่มากกว่า โดดหน้าเปิดลงไปก็ไม่ขึ้นมือ มีบ้างกับบั๊มถี่แต่ไม่มาก เรื่องทรงตัวยังมั่นคงและยังคงช่วยให้การเลี้ยวปกติ CRF250R ปี 2015 เป็นอีกปีที่ต้องจดจำจากการปล่อยของทั้งส่วนเครื่องยนต์และกันสะเทือน แต่รวมๆ แล้วก็ยังคงความเป็นรถที่ควบคุมง่าย ทั้งตัวรถและเครื่องยนต์ โช้คหน้าเทคโนโลยีใหม่ที่ปรับง่ายขึ้น เครื่องยนต์ที่มีโหมดจุดระเบิดให้เลือกใช้ หากจะต้องการก็คงเพียงแค่ท่ออีกสักใบเพื่อให้เร้าใจเวลาขี่มากขึ้นครับ”