Riding Magaze August 2014 Vol.19 No.227
Riding Magaze July 2014 Vol.19 No.226
Riding Magaze June 2014 Vol.19 No.225
Riding Magaze May 2014 Vol.19 No.224
Riding Magaze ApRil 2014 Vol.19 No.223
2015 RM-Z450 อัพเกรดโช้คหน้าและโหมดช่วยสตาร์ท
สีเหลืองที่ทรงเสน่ห์ของรถวิบากเป็นภาพติดตามานานกับตระกูล RM สืบต่อความโดดเด่นมาเป็น RM-Z ในเวอร์ชั่น 4 จังหวะ สมรรถนะเพื่อการแข่งขันที่ไม่เป็นรองใคร เพียงแค่มันไม่ได้รับความสนใจที่จะปรับปรุงรูปโฉมที่ใช้มาหลายปีต่อเนื่อง สำหรับปี 2015 RM-Z450 ก็ยังคงเส้นสายโครงร่างหลักๆ ไว้อย่างเดิม จัดเพิ่มเข้ามาด้วยเทคโนโลยีของระบบกันสะเทือน ระบบช่วยสตาร์ท เครื่องยนต์เก็บรายละเอียดใหม่และได้แก้ไขเฟรมเพื่อการขับขี่ที่ดีมากยิ่งขึ้น
เป็นรถโมโตครอสที่มีความโดดเด่นในตัวเองอยู่หลายอย่าง แต่การพัฒนาที่ดูจะเชื่องช้าและรูปร่างหน้าตาที่ไม่ได้ปรับเปลี่ยนแก้เลี่ยนกันบ้างเลยนี่ทำให้ RM-Z เป็นรถที่ดูชินตา (แม้ว่าจริงๆ แล้วจะยังไม่เชย) แต่ความน่าสนใจจากรูปลักษณ์ภายนอกนั้นต้องยอมรับว่าขาดความน่าสนใจน่าค้นหาไปพอสมควร ทั้งที่ในความจริงแล้วได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีในสองส่วนหลักคือระบบโครงสร้างกันสะเทือนและระบบเครื่องยนต์มาอย่างต่อเนื่องโดยนักแข่งระดับโลกทั้งทางฝั่งอเมริกา ยุโรป หรือแม้แต่ญี่ปุ่นเอง ทำให้สมรรถนะความแรงและระบบรองรับของ RM-Z ไม่เป็นสองรองใครยังเกาะกระแสได้แบบเท่าทัน ที่เหลือยังขัดตากันแค่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น




เรื่องใหญ่ในระบบแชสซี
ข้ามเรื่องหน้าตากันไปได้เลยสำหรับ RM-Z450 ปี 2015 ว่ากันที่รายละเอียดล้วนๆ ด้วยการปรับปรุงเฟรมเสียใหม่เป้าหมายให้การควบคุมโดยเฉพาะการเลี้ยวที่ดีอยู่แล้ว ดียิ่งขึ้นไปอีกกับการปรับมุมของเฟรมให้รับกับการเอียงรถเพื่อเลี้ยวทุกองศา แข็งแกร่งขึ้นแต่ลดน้ำหนักลงได้ 4% ทว่ามีอีกส่วนที่น่าสนใจกว่าก็คือกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับที่ถึงเวลาจัดวางเทคโนโลยีให้เท่าทัน KXF และ CRF ซึ่งล้ำหน้าไปก่อนแล้วกับระบบโช้คหน้าที่ใช้อากาศแทนสปริง สำหรับ RM-Z450 เป็นผลงานของ Showa SFF AIR FORK ขนาด 49 ซีซี ที่ซับซ้อนด้วยวาล์วอากาศถึง 3 จุด (ในโช้คด้านขวา) สำหรับห้องอัดอากาศ 3 ห้อง เพื่อการปรับความแข็งอ่อนแทนการทำงานของสปริง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยังต้องเรียนรู้เพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบข้อดีของการใช้อากาศแทนสปริงก็คือน้ำหนักที่เบากว่า ปรับค่าการทำงานโดยไม่ต้องถอดชิ้นส่วนให้ยุ่งยาก
ทีเด็ดในระบบเครื่องยนต์
ดูเหมือนไม่มีมากมายแต่ก็มีการแจ้งรายละเอียดเรื่องการปรับปรุงมาหลายจุดเหมือนกัน เริ่มจากการแก้ไขเฟืองเกียร์ต่างๆ ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับระบบลดกำลังอัดขณะสตาร์ทเครื่องยนต์เพื่อช่วยลดความยุ่งยากของการถีบคันสตาร์ทยาวๆ ให้เครื่องยนต์ติดได้ง่ายขึ้น ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำออกแบบข้อต่อท่อทางเดินน้ำหล่อเย็นที่วางหลังแผงหม้อน้ำด้านขวาจากทรงตัวที T ให้เป็นทรงตัววาย Y เพื่อการหมุนเวียนถ่ายเทของน้ำระหว่างแผงระบายความร้อนทั้งสองได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการแก้ไขรูปทรงของฝาครอบปั๊มน้ำด้วย ลึกเข้าไปในชุดเกียร์ได้มีการแก้ไขลูกเบี้ยวสำหรับเปลี่ยนเกียร์ให้ทำงานได้ราบรื่น เปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวลยิ่งขึ้น ส่วนความแรงของเครื่องยนต์แบบสำเร็จรูปก็ยังคงมีให้เลือกถึง 3 แบบจากคัปเลอร์ที่ใช้มาตลอด สิ่งใหม่ในปีนี้สำหรับ RM-Z450 ก็คือระบบช่วยในการออกสตาร์ท ซูซูกิเรียกระบบนี้ของตัวเองว่า Suzuki Holeshot Assist Control (S-HAC) โดยจะมีลูกเล่นให้เลือกถึง 3 โหมดสำหรับการออกสตาร์ทในพื้น 3 แบบ ด้วยการกดปุ่มที่สวิทช์บนแฮนด์ด้านซ้ายเพียงปุ่มเดียว ขอบคุณเสี่ยต่อเจ้าของรถที่อนุญาตให้ทีมงานของเราได้ถ่ายทำกันอย่างเต็มที่ ขอบคุณพี่น้อยบ้านข้าวสารสำหรับสนามในการถ่ายทำและการต้อนรับที่ประทับใจเสมอ ขอบคุณชุดนักทดสอบจากร้านเดิร์ทช็อพ แล้วพบกันใหม่กับการรีวิวรถวิบากสไตล์ไรดิ้งแมกกาซีน สาระเพื่อความสะใจในฉบับหน้า
ข้อมูลเทคนิค 2015 RM-Z450
เครื่องยนต์ ระบายความร้อนด้วยน้ำ,
4 จังหวะสูบเดียว DOHC 4 วาล์ว
ปริมาตรกระบอกสูบ 449cc
ลูกสูบ x ระยะชัก 96.0 x 62.1 มม.
ระบบเชื้อเพลิง หัวฉีด
อัตราส่วนการอัด 12.5:1
ระบบจุดระเบิด CDI
ระบบส่งกำลัง เกียร์ 5 สปีด คลัทช์แบบหลายแผ่น
ระบบขับเคลื่อน โซ่ 520
โช้คหน้า หัวกลับ SHOWA SFF AIR FORK
โช้คหลัง โช้คเดี่ยวพร้อมกระเดื่อง ปรับได้เต็มรูปแบบ
ยางหน้า 80/100-21
ยางหลัง 110/90-19
เบรกหน้า ดิสก์เบรกคาลิเปอร์ลูกสูบคู่
เบรกหลัง ดิสก์เบรกคาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว
ยาว 2,190 มม.
กว้าง 830 มม.
สูง 1,270 มม.
ฐานล้อ 1,495 มม.
สูงจากพื้น 325 มม.
สูงถึงเบาะ 955 มม.
น้ำหนัก 112 กก.
ถังน้ำมันจุ 6.2 ลิตร

ความเห็นนักทดสอบ
“มิติตัวรถของ 450F สมัยนี้แทบไม่ต่างจาก 250F สักเท่าไร การควบคุมผมว่าเป็นรถที่เลี้ยวได้นิ่งมากนะครับ ทั้งบนพื้นราบและการเลี้ยวในแบงค์ ทรงตัวได้ดี เก็บมุมเลี้ยวได้แคบครับ ยิ่งการเลี้ยวแบงค์นี่แทบจะไม่เหลือความเทอะทะในบอดี้นี้เอาไว้เลย โช้คอัพหน้าตัวใหม่ SFF AIR FORK นี่ผมว่าก็มาคาแรคเตอร์เดียวกันกับโช้คที่ใช้อากาศแทนสปริงของทุกรุ่น คือแข็งค่อนไปทางกระด้าง เดิมๆ มานี่ไม่ต้องถามหาเรื่องการเก็บรายละเอียดแบบว่าเล็กๆ น้อยๆ แต่จะดีมากๆ กับการรับแรงกด กระแทกจากการโดดสูงๆ หรือชนหน้าเนินแรงๆ มันหนึบและแน่นแบบไม่ต้องกังวลอะไรเลย โช้คหลังทำงานได้สัมพันธ์ครับ จะรู้สึกถึงความนุ่มนวลได้มากกว่าแม้ว่าจะขี่ได้ไม่เร็วจากสภาพสนามที่บังคับอยู่แต่ก็นุ่มหนึบและมั่นคงครับ ระบบหัวฉีดที่ได้รับการพัฒนามาจนสมบูรณ์มันทำให้การควบคุมคันเร่งง่ายดาย อารมณ์ดุเดือดของเค้าจริงๆ นี่จะมาในรอบกลางถึงกลายอยู่แล้วในรถขนาดนี้ แต่ว่าในรอบต่ำก็มีแรงบิดให้ใช้ได้ไม่ขาดตอน เป็นรถที่ขี่ไม่ยากในการควบคุมกำลังของมัน บวกกับการทรงตัวที่ผมว่ามันนิ่งมันแน่นแล้วเนี่ย มันทำให้เป็นรถที่ขี่ง่าย มั่นใจที่จะขี่ครับ ระบบ S-HAC ช่วยในการออกตัวทำงานได้อย่างน่าประทับใจนะครับ ใช้งานได้ง่ายด้วยวิธีเดียวกันกับค่ายอื่นๆ เสียดายที่ก่อนไปไม่มีเวลาค้นข้อมูลว่ามีโหมดให้เลือกด้วย แต่เท่าที่ลองดูแล้วเปรียบเทียบระหว่างการเปิดใช้กับไม่ได้เปิดใช้แล้วมันแตกต่างกันชัดมาก โดยเฉพาะการออกสตาร์ทด้วยรอบเครื่องแบบล้นๆ มันทำให้ความแรงขนาด 450 ซีซี ปั่นฟรีลงพื้นนั้นคุมง่ายขึ้นเยอะ ไม่ต้องกังวลหน้าจะยกท้ายจะดิ้น อร่อยเต็มคันเร่งกันไปเลยครับ”
เอ.พี.ฮอนด้า คว้ารางวัล Asia Responsible Entrepreneurship Awards 2016
คุณจุฑามาศ อินปริงกานันท์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปฝ่ายธุรกิจเพื่อสังคม ส่วนงานการสื่อสารผู้จำหน่าย บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย รับมอบรางวัล Asia Responsible Entrepreneurship Awards (AREA) 2016 สาขา Health Promotion จากสถาบัน Enterprise Asia ในฐานะองค์กรที่ดำเนินกิจกรรมบริจาคโลหิตในประเทศไทยอย่างครบวงจรและต่อเนื่อง โดยมีตันศรี ดร.ฟง ฉาน ออน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรมนุษย์ ประเทศมาเลเซีย ให้เกียรติเป็นผู้มอบ ณ รีสอร์ตเวิลด์ เซนโตซ่า ประเทศสิงค์โปร์ เมื่อเร็วๆนี้
Riding Magaze February 2014 Vol.19 No.221
Ducati Diavel Carbon Red
การปรับเปลี่ยนของยุคใหม่ๆ ที่มีเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่ล้ำนำสมัย ไม่ว่าจะในเรื่องของสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่ช่วยให้การขับขี่สนุกสนานเร้าใจ และยังมีดีออกแบบดีไซน์ที่โดดเด่น ในการดึงดูดความสนในของผู้ที่ชื่นชอบในความสวยงาม
ค่ายความแรงจากแดนมะกาโรนีรถแต่ละคันต่างก็มีเอกลักษณ์ เรียกได้ว่าความสวย ความเท่ห์ และความเร้าใจของรถจักรยานยนต์ Ducati มีการปรับเปลี่ยนและพัฒนา จากรถสไตล์คลาสสิค สปอร์ต เน็คเก็ด ทัวร์ริ่ง มาจนถึง DAIVEL ซึ่งเป็นรถที่มีการดีไซน์แปลกตาไปจากสปอร์ตทั่วไปDucati Diavel Carbon Red รุ่นใหญ่ในระดับพี่บิ๊กของรถจักรยานยนต์สไตล์เน็กเก็ด เป็นที่หลงใหลของนักบิดอีกหลายๆ คน กับเจ้าเน็กเก็ดบิ๊กบึ้ม Diavel กับรูปร่างน่าตาที่ดุดันตั้งแต่ด้านหน้าปีกข้างที่มีช่องแอร์โร่ฟิลสำหรับการดักลมระบายความร้อน การนำคาร์บอนไฟเบอร์มาใช้เพิ่มความเท่ และมาพร้อมกับออพชั่นตั้งแต่ภายนอกยันไปถึงภายใน
ปรับเปลี่ยนกันตั้งแต่สรีระท่านั่งให้ความสบายกับเบาะที่ใหญ่และปาดเว้าลึกให้ต่ำลงมาเหยียดเท้าไปง่าย พร้อมกับแผงเรือนไมล์จอแ LCD อ่านค่าแบบ ดิจิตอลแฮนด์อลูมินัม ที่มีดีไซน์โดดเด่นยกสูงขึ้นมา ชุดปั๊มแรงดันดิสก์เบรกแท้งของดูคาติแต่ใช้ก้านแต่งของ rizoma ปลอกแฮนด์แบบสปอร์ต กระจกมองข้างติดตั้งที่ปลายแฮนด์ โช้คอัพหน้าหัวกลับ Upside Dowm แกนโคสติ้ง ทวินดิสก์เบรกหน้า คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ brembo เรเดียลเม้าท์ วงล้อแม็กอลูมินัมแบบสปอร์ต ช่วงหลังสวิงอาร์มเดี่ยวและเพิ่มความนิ่มนวลด้วย ระบบซับเพนชั่นหลังเดี่ยวที่ซ่อนจุดยึดอยู่ด้านใต้วางแนวนอน ไฟท้ายและไปเลี้ยวแยกส่วนและเครื่องยนต์ 1200 ซีซี 4 จังหวะ 2 สูบ แบบ L-Twinเสริมสมรรถนะความดุดันให้ขี่มันยิ่งขึ้นกับชุดท่อไอเสีย 2-1-2 ปลายเคฟล่าร์ TERMIGNONI เรียกได้ว่าหล่อแบบสุดๆ กับพี่ใหญ่
TORNADO TNT25 STYLE UP. RIDE DESIGN.
ออกมาตอกย้ำและสะเทือนวงการอีกครั้งกับรถจักรยานยนต์ค่ายน้องใหม่ Benelli เจ้าแห่งรถเปลือยมาแรงส่งโมเดลใหม่ TNT25 เน็คเก็ดสปอร์ต ลุยสำหรับการใช้งานที่คล่องตัวในเมือง กับรูปลักษณ์ใหม่พร้อมออพชั่นสุดเท่ หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากกับรถสไตล์เน็คเก็ดไบค์ ในรุ่น 600 ซีซีและ 300 ซีซี ล่าสุดเผยโฉมใหม่น้องเล็กตระกูล TNT Series ซึ่งเป็นจุดแข็งของ Benelli กับโมเดลรถเปลือยที่เน้นการใช้งานที่คล่องตัวสีสันโดดเด่น
เน้นสมรรถนะการขับขี่เร้าใจ ตอบสนองฉับไว เร่งติดมือ
TNT25 ใหม่ล่าสุดมาพร้อมกับ เฟรมแบบไดมอนสตีลเหล็กกลมเชื่อมสไตล์อิตาลีที่ช่วยกระจายแรงบิดทรงเลขาคณิต เครื่องยนต์ใหม่ ขนาด 249 ซีซี แบบสูบเดียว 4 จังหวะ 4 วาล์ว DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด EFI โดยอ่านค่าด้วยกล่อง ECU เพื่อความแม่นยำให้การเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ระบบคลัทช์เปียกแบบมัลติเพลทหลายแผ่นเรียงซ้อนกัน เพื่อความนิ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์ กำลังอัด 11.2:1 ให้แรงบิดสูงสุด 21 นิวตัน-เมตร ที่ 7,500รอบ/นาที พร้อมกับความเร้าใจด้วยชุดเกียร์ 6 สปีดปราดเปรียว โฉบเฉี่ยว คล่องตัว ควบคุมง่ายจุดแข็งที่ทำให้ Benelli สามารถขึ้นมาได้รับความนิยมก็คือความเป็นเน็คเก็ดพันธุ์แท้ ท่านั่งที่ดูสมาร์ท ยืดอกหลังตรง เบาะปาดแต่งขอบให้นั่งได้แนบสนิท ควบคุมบังคับด้วยแฮนด์บาร์ พักเท้าสปอร์ตเกียร์โยง ช่วงหน้าโช้คหัวกลับ Up Sidedown แกน 41 มม. ซึ่ง Benelli เป็นค่ายรถจักรยายนต์เดียวที่เสริมสมรรถนะด้วยโช้คหัวกลับในรถที่มีซีซีต่ำกว่า 600 ซีซี วงล้อแม็กอลูมินัมที่มีหน้ากว้างบีบเบ่งให้ยางขนาดใหญ่หน้า 110/70-17 หลัง 140/70-17 โช้คอัพหลังเดี่ยวขยับปรับตำแหน่งเข้าสู่จุดศูนย์กลางของตัวรถเพื่อให้การทรงตัวที่เป็นเยี่ยม
รูปลักษณ์โดดเด่น เน็คเก็ดสปอร์ต
ตระกูล TNT SERIESสีสันเป็นอีกจุดที่สามารถดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี สีแดง โดดเด่นสะดุดตา ไฟหน้าไดมอนเชฟส่องสว่างด้วยหลอดไฮโดรเจนคู่ เรือนไมล์ดิจิตอล พร้อมฟังก์ชั่นบอกเลขระยะทาง ความเร็ว ระดับน้ำมัน และที่สำคัญมีไฟบอกตำแหน่งเกียร์มาให้ด้วย ส่วนความเร็วต่อรอบแบบอะนาล็อค ชุดครอบถังน้ำมันวัสดุ ABS ที่มีความเหนียวทนทาน ด้านล่างเคราริ่งอันเดอร์เอ็นจิ้นเสริมเพื่อความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น บั้นท้ายก็สปอร์ตมีมือจับที่ดีไซน์เข้ารับกับมุมเหลี่ยมของช่วงท้ายดูแล้วกลมกลืน ไฟท้ายให้ความรู้สึกปราดเปรียว ส่องสว่างเห็นชัดด้วยหลอดไฟ LED
ความคิดเห็นนักทดสอบ
ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่เกินความคาดหมายสำหรับ TNT25 ใหม่รุ่นนี้ และเชื่อว่าหลายๆ คน ที่เห็นครั้งแรกคงคิดเหมือนกัน มันจะแรงรึเปล่า การทรงตัวดีจะนิ่งไหม…ผมมีคำตอบให้รูปทรงถ้ามองเผินๆ ก็ละม้ายคล้ายคลึงกับตัว TNT300 กับไฟหน้า แต่มองลึกๆ เข้าไปจะเห็นถึงความแตกต่าง ด้วยการใช้เฟรมที่เปลี่ยนจุดยึดเครื่องใหม่ ตำแหน่งของโช้คอัพหลังที่ไปอยู่กึ่งกลางแทน ความโฉบเฉี่ยวที่กะทัดรัดมากขึ้น มีการเสริมเคราริ่งอันเดอร์เอ็นจิ้นดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น สมรรถนะของเครื่องยนต์ยังลังเลก่อนที่จะได้สัมผัสจริงๆ จังๆ การได้คร่อมครั้งแรก รู้สึกว่ามันกระชับเพรียว ไม่สูงมากจนเกินไป แฮนด์จับได้ถนัดมือไม่กว้างมากจนเกินไป ทำให้การเลี้ยวที่ง่ายและคล่องเมื่อต้องการซิกแซก สำหรับเครื่องยนต์ในช่วงต้นๆ จะค่อนข้างมาเร็วและหมดเร็ว แต่ตั้งแต่เกียร์ 4-6 จะสามารถลากได้ยาวๆ เลยและกำลังของเครื่องยนต์ที่มรอบส่งได้อย่างต่อเนื่องถึงแม้จะท็อปสปีดได้ถึง 147 กม./ชม. เครื่องยนต์ยังไม่มีอาการตึงหรือส่งเสียงลั่นเหมือนต้องการที่จะไปต่อได้อีก การทรงตัวในโค้งความเร็ว ตรงนรี้ด้วยจุดด้อยของ Benelli ที่มีน้ำหนักที่มากกว่าค่ายอื่น แต่กลับเป็นจุดเด่นที่ทำให้รถนิ่งเมื่อมีความเร็วอยู่ในโค้ง รวมไปถึงวงล้อแม็กที่มีหน้ากว้างทำให้หน้ายางสัมผัสพื้นถนนได้เต็มจึงสามารถเลี้ยวได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น ความนิ่มนวลการเลี้ยวทั้งโค้งแคบและโค้งกว้างกับโช้คอัพหลังที่ปรับตำแหน่งมาอยู่กึ่งกลางช่วยลดอาการแกว่งหรือย้วยไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนโช้คอัพหน้า ที่เป็นแบบหัวกลับช่วยซึมซัแรงกระแทกบนพื้นขรุขระและหลุม เท่าที่ได้สัมผัสแล้วยังไม่เจออาการแกว่งหรือส่ายจนเสียการทรงตัว ระบบเบรก ดิสก์หน้าเดี่ยวคาลิเปอร์แบบลูกสูบคู่กับจานดิสก์ขนาดใหญ่ให้การตอบสนองที่ฉับไวทั้งการชะลอหรือหยุดกะทันหัน และส่วนที่ติดตั้งมาเพื่อการใช้งานที่สะดวกอย่างเรือนไมล์ ที่มีฟังก์ชั่นครบครันไม่ต่างกับซูเปอร์ไบค์รุ่นใหญ่ สวิตช์การทำงานของไฟเลี้ยวและสตาร์ทก็อยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานได้ง่าย ต้องเลยบอกเลยอย่ามองแต่เพียงภายนอกหรือตัดสินใจแค่แบรนด์ ถ้าได้สัมผัสแล้วคุณอาจจะชอบหรือลืมค่ายอื่นไปเลย กับของดีราคาไม่แพง