ตามรอยฝันของการสร้างทีมแข่งและนักแข่งใหม่ประดับวงการสองล้อทางเรียบเมืองไทย “ไทยแลนด์ ดรีม คัพ” โดยบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ด้วยการให้ข้อมูลที่จำเป็น จัดอบรมช่างเพื่อปรับแต่งรถแข่ง อบรมนักแข่ง ไปจนถึงจัดการแข่งขันให้แจ้งเกิดกันในรายการระดับประเทศ ไรดิ้ง เทส ออน แทร็ค ครั้งนี้เราพามารู้จักกับทีมที่คว้าอันดับหนึ่งในนัดเปิดสนาม CBR300R ของทีมแข่ง เอเชีย เรซซิ่งทีม จากจังหวัดชลบุรีASIA RACING TEAM เป็นชื่อทีมแข่งจาก บริษัท เอเชีย ซิตี้ มอเตอร์ จำกัด ร้านตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในจังหวัดชลบุรี มีคุณอดุลย์ ขำทวี เป็นผู้จัดการทีม ประสานงานโดยสุริยา ผลาผล ดูแลรถแข่งโดยช่างถึง 3 คน วิษณุ แสงอรุณ, กิตติ แม่นยำ, เอกพงษ์ อิ่นแก้ว และได้นักบิดร่างโย่งจากขอนแก่นมาเป็นมือหวดประจำทีม ปลวัชร์ อารยะสัจพงษ์ อายุ 17 ปี

เครื่องเดิมเติมของตามกติกา
ด้วยสเปคของเครื่องยนต์ที่บังคับเอาไว้ว่าให้คงเดิม ส่วนที่จะเพิ่มเสริมความแรงก็ต้องเป็นไปตามกติกาซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชิ้นงานที่ได้ของมาเหมือนกันในเบื้องต้น ก่อนจะขยับขยายให้ปรับเปลี่ยนได้ตามความสะดวกของผู้สนับสนุน กรองอากาศสามารถถอดไส้กรองออกได้แต่ตัวหม้อกรองต้องคงอยู่ ท่อไอเสียก่อนหน้าทางฮอนด้าจัดหามาให้เหมือนกันก่อนที่ภายหลังจะเปิดให้สามารถเลือกใช้ตามสะดวก ทางทีมงานเลือกใช้แบรนด์ ENDURANCE ปลายสั้น กับการทดสเตอร์เน้นไหลหน้าใหญ่หลังเล็ก 17/41 เพื่อสนามไทยแลนด์เซอร์กิต และเพิ่มหลังสำหรับดันขึ้นเขาอีกนิดที่ 17/42 เพื่อสนามพีระฯเซอร์กิต ลดขนาดโซ่ลงมาใช้แค่เบอร์ 415 ของ D.I.D ก็เพียงพอ

กล่องไฟบังคับใช้ HRC
ถือเป็นมิติใหม่ของรถแข่งในระดับเริ่มต้น เมื่อฮอนด้าจัดกล่องเทพที่อุดมไปด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่เห็นในระดับนานาชาติมาให้ทีมหน้าใหม่ของไทยได้ใช้กันจริง ว่าด้วยเรื่องของการใช้ KILLER SWITCH แทนกุญแจ PIT LANE SWITCH สวิทช์ตัดรอบการทำงานบังคับความเร็วของรถขณะอยู่ในพิทเลน ฟังก์ชั่นการตัดไฟจุดระเบิดเพื่อช่วยขณะเปลี่ยนเกียร์สูงขึ้น ลักษณะการทำงานเหมือนชิพเตอร์แต่สั่งงานด้วยนิ้วโป้งมือซ้าย สวิทช์ที่นักแข่งเลือกการจุดระเปิดระหว่างแข่งขันได้ถึง 2 แบบ ลูกเล่นเหล่านี้ทุกทีมในโครงการไทยแลนด์ ดรีม คัพ ล้วนได้สัมผัสกันทั่วถึง
แฮนด์กดย้อนยุค
ส่วนที่บังคับน้อยสุดน่าจะเป็นเรื่องของตัวรถและท่านั่งการขับขี่ ที่นักแข่งแต่ละคนจะมีความถนัดที่ไม่เหมือนกัน เฟรมเดิมได้ทำการล็อคสต๊อปเปอร์บังคับเลี้ยวให้บังคับแฮนด์ได้น้อยลง พักเท้าใช้บริการของ NUI RACING ส่วนแฮนด์เป็นแบบประกอบจับโช้คที่ปรับได้มากกว่าทั้งความกว้างและมุมกาง รวมถึงความสูงที่กดลงต่ำจากปลายโช้คถึง 3 ซม. พร้อมทั้งจับแคบและกดต่ำกว่าปกติมาก โช้คหน้าบังคับเดิมจึงทำการเซ็ทภายในใหม่ให้หนึบมากยิ่งขึ้นโดยการช่วยเหลือของ YSS พร้อมกับจับโช้คแก๊สทั้งแท่งมาใช้แทนที่โช้คเดิม ยางล็อคสเปคเป็นของ IRC รุ่น IZR ขนาด 110/70-17 และ 140-70-17 ระบบเบรกยกอุปกรณ์ ABS ออกทั้งหมด พร้อมบังคับติดตั้งกันสะบัดเพื่อความมั่นคงของตัวรถ

การทดสอบและถ่ายทำครั้งนี้นัดหมายกันที่ สนามแข่งไทยแลนด์เซอร์กิต ต้องขอขอบคุณที่เอื้อเฟื้อสถานที่เป็นอย่างดีทุกครั้ง ขอบคุณทีมงานเอเชียเรซซิ่งทีมทุกท่าน ขอบคุณชุดนักทดสอบจากร้านเดิร์ทช็อพและแพดด็อค เครื่องดื่ม GSD สนับสนุนความสดชื่นทุกกิจกรรม

ความเห็นนักทดสอบ “เขมรัฐ สุธรรมวาท”
“ผมอยากลองมานานแล้วกับ CBR300R เวอร์ชั่นตัวแข่ง เพราะบางอย่างในรถสแตนดาร์ดรุ่นนี้มัน ไม่เอื้อให้ขี่ในสนามเท่าไร แต่ได้มาลองคันนี้รู้สึกสนุกกับมันนะครับ เครื่องยนต์ 300 ซีซี สูบเดียวเดิมๆ เพิ่มแต่กล่องกับท่อแต่วิ่งได้กระฉับกระเฉงประทับใจมากๆ แสดงถึงต้นกำลังที่ดีมากๆ อยู่แล้ว ปรับตัวกันนิดกับเกียร์กลับแบบต่อตรง 1 งัดขึ้น 2-6 กดลง ต้องมีสมาธิครับกับเกียร์ที่ต่างจากรถโชว์รูมแบบนี้ การตอบสนองถือว่าห้าวใช้ได้เลย แต่ก็ยังมีความสั่นสะเทือนส่งมาให้รู้สึกที่ปลายแฮนด์และพักเท้าอยู่บ้าง อัตราทดลงตัวได้ใช้หมดทุกเกียร์รอบสนามครับ มีเรื่องที่ต้องทำความคุ้นเคยและเรียนรู้กับมันหลายอย่างทีเดียว การได้ลองเพียง 2 ฮีทก่อนฝนตกถือว่าน้อยไปหน่อยมิติรถคืออย่างแรก แฮนด์ที่ถูกกดต่ำ หดสั้น และบีบมุมแคบ คืออย่างแรกที่ต้องหาทางจัดร่างกายที่พอดีให้ได้ สไตล์นี้เคยนิยมแพร่หลายในยุค 2 จังหวะเฟื่องฟู ประการที่สองคือท่อไอเสียปลายสั้นที่ติดตั้งจนชิดพักเท้าขวา เหตุผลของทีมงานคือนักแข่งมีสไตล์การขี่ที่แบนรถเยอะจึงต้องยกหลบพื้น ปัญหาจึงมาตกที่นักทดสอบอย่างผมเมื่อส้นเท้าติดท่อ จะเหยียบจะวางมันไม่เป็นธรรมชาติเอาซะเลย ระบบไฟคืออีกเรื่องที่สนุกดี ออกจะตื่นเต้นนะกับโหมดพิทเลนที่มีโอกาสลองเป็นครั้งแรก สำหรับสวิทช์เลือกโหมดไฟจุดระเบิดนั้นไม่พบว่ามีความแตกต่างกันมากมายนัก ส่วนสวิทช์ตัดไฟตอนแปลี่ยนเกียร์สังเกตดูว่ามีความต่างจากการใช้คลัทช์มือตรงที่เมื่อกดปุ่มให้ไฟตัดแล้วเปลี่ยนเกียร์ขึ้น เข็มวัดรอบจะหล่นลงมาแล้วเริ่มไล่รอบขึ้นไปใหม่ ต่างจากการใช้คลัทช์มือที่รอบจะสวิงอย่างเห็นได้ชัด ระบบนี้ใช้ได้แต่การ เปลี่ยนเกียร์สูงขึ้นเท่านั้น ส่วนการเปลี่ยนเกียร์ต่ำลงยังต้องใช้คลัทช์เหมือนปกติครับ กันสะเทือนเยี่ยมมากครับ รถทรงตัวได้นิ่งทุกสภาวะ มีบางครั้งที่เข้าลึกไปกดเบรกหนักมันก็มีการเด้งสวนของโช้คหน้าเป็นลูกๆ ไม่สับถี่หน้าไถล แบบนี้พอประคองเข้าโค้งได้ ด้านหลังนิ่งสนิทไม่มีอาการเลยครับ เบรกถอด ABS ออกแล้วยังใช้งานง่าย ทำงานตามน้ำหนักกดCBR300R ของทีมเอเชียเรซซิ่ง เป็นรถที่มีท่านั่งขับขี่ที่เฉพาะตัวมาก เครื่องยนต์ดุดันตอบสนองทันใจ ช่วงล่างไว้ใจได้ เบรกใช้ง่าย กับระบบไฟเป็นลูกเล่นแปลกใหม่ประทับใจมากครับ”

จตุรงค์ หมื่นทิพย์
“น้อยครั้งที่จะได้เทสต์รถแข่งจริงๆ ต้องบอกว่ามันพร้อมไปซะทุกส่วน การปรับเซ็ทตำแหน่งท่านั่งที่อ้างอิงมาจากความถนัดของนักแข่ง ทำให้ตัวผมเองไม่ได้ไปขยับหรือปรับอะไรเพิ่มเติมต้องปรับตัวเข้าหารถเพื่อเอาฟิลลิ่งออกมาจริงๆ ก็ค่อนข้างที่จะยาก เพราะสรีระของนักแข่งสูงกว่า การยกระดับของพักเท้าที่สูงและเยื้องไปด้านหลัง และแฮนด์จับโช้คที่กดองศาลงต่ำ มันถูกบังทำให้ก้มลงไปแนบกับถังโดยอัตโนมัติ ซึ่งมันก็ดีนะนั่งได้กระชับก้มหมอบสบายและง่ายต่อการพลิกเลี้ยวที่ไม่ต้องยกตัวสูงมาก แต่ก็ต้องแลกกับความเมื่อยเล็กน้อย สิ่งที่โดดเด่นต้องยกให้ระบบการเซ็ทช่วงล่างที่ช่วยให้การเข้าโค้งเป็นไปอย่างราบรื่น ในจังหวะล้นต้องกดเบรกหน้าหน้าแล้วพับรถในความเร็ว ก็สามารถดึงเข้ามาได้ถึงแม้จะมีอาการสับถี่ๆ เครื่องยนต์ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ให้การตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ถึงจะเป็นสแตนดาร์ด แต่มีการปรับจูนด้วยกล่องทำให้ถ่ายทอดกำลังออกมาได้แบบเหลือเฟือ แต่ใช้เพียง 9,500-10,000 รอบ/นาที เท่านั้น ระบบควิกชิฟที่ติดตั้งด้วยสวิตช์เป็นปุ่มที่ด้านซ้าย ช่วยให้การชิฟเกียร์ในทางตรงๆ ได้ต่อเนื่อง แต่การเชนเกียร์เข้าโค้งก็ยังต้องใช้เท้าด้วยความถนัดส่วนตัว อ่อ…การเข้าเกียร์ของคันนี้เป็นเกียร์กลับ 1 งัดขึ้น 2-6 ตบลง ออกไปลองรอบแรกๆ เล่นเอาหายใจไม่ทั่วท้องเหมือนกัน ต้องใช้เวลาอยู่หลายรอบกว่าจะชิน แต่ก็ยังไม่ถนัดมันจะส่งผลอย่างชัดเจนในช่วงทางตรง และการยิงออกจากโค้ง ซึ่งมันได้ผลดีมากแต่จะขัดๆ กับความรู้สึกโดยธรรมชาติ สรุปโดยรวมๆ แล้ว เป็นรถแข่งที่มีความพร้อมเลยทีเดียว ทั้งย่านของกำลังเครื่องยนต์ และการเซ็ทช่วงล่างที่มีส่วนในการควบคุมรถให้เลี้ยวได้ง่าย ช่วงดี เครื่องดีมีชัยไปกว่าครึ่ง”