Riding Magaze November 2016 Vol.22 No.254
Riding Magaze October 2016 Vol.21 No.253
Riding Magaze September 2016 Vol.21 No.252
Riding Magaze August 2016 Vol.21 No.251
Suzuki Let’s CROSS CITY
จะแบบไหนสไตล์ไหนก็สวยโดนใจ ถ้าได้แต่งเพิ่มก็จะทำให้รถจักรยานยนต์มีความน่าขับขี่มากยิ่งขึ้น ด้วยออพชั่นต่างๆ ที่มีจำหน่ายตามร้านทั่วไป แต่จะสามารถสร้างสรรค์ไอเดียความโดดเด่นได้มาเท่าไหร่นั้นก็ต้องปรับแต่งกันเอง รถจักรยานยนต์ออโตเมติก ซูซูกิ เล็ทส์ ที่มาพร้อมกับความล้ำนำสมัยของเทคโนโลยีเครื่องยนต์หัวฉีดสุดประหยัด และความสะดวกสบายของระบบการทำงานของระบบสายพานที่มีความนิ่มนวล ทั้งนี้ยังออกแบบรูปทรงได้อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
แต่สำหรับเจ้าสายพันธุ์ออโตเมติกจากค่าย ซูซูกิ คันนี้ ถูกปรับเปลี่ยนลุคใหม่ด้วยสไตล์ ครอส ซิตี้ เอาไว้สำหรับขับขี่บุกตะลุยบนเส้นทางในเมือง สีสันอาจจะไม่โหดตามสไตล์แต่ก็ช่วยเพิ่มความโดดเด่นเห็นได้ชัดเจน เน้นสมรรถนะช่วงล่างที่ช่วยในเรื่องของการรองรับแรงกระแทกเป็นอย่างดี ในส่วนของภายนอกที่เสริมโครงเป็นการ์ดเหล็กดัดกันกระแทก ตั้งแต่บังโคลนหน้า และขึ้นไปถึงคอฟเวอร์ไฟหน้า ช่วงล่างปรับสภาพเพื่อการใช้งานบนทางขรุขระและในเมือง แข็งแกร่งด้วยวงล้อแม็กขนาด 14 นิ้ว ลาย 5 ก้านเซาะร่อง รัดครอบด้วยยางดอกช่วยยึดเกาะผิวถนน ระบบดิสก์เบรกแบบลูกสูบเดี่ยว brembo สีดำพร้อมกับสายไล่อากาศถักย้ำด้วยหัววงแหวนสแตนเลส จานดิสก์เบรกเจาะหน้าสัมผัสและแต่งขอบหยัก และโช้คอัพหน้ายอดฮิตสมรรถนะเยี่ยมแบบหัวกลับ Up Side Down ผลิตภัณฑ์จาก Gazi ช่วงบนแฮนด์บาร์ซึ่งเป็นสไตล์ของรถวิบากก็เสริมการ์ดแฮนด์เพิ่มความดุดัน โครงหน้าสำหรับยึดวินด์ชิวยังลมขนาดเล็ก กระจกมองข้างทรงสปอร์ตขาดไม่ได้เพื่อความปลอดภัย ส่วนอินเนอร์ด้านในเจาะยึดที่ใส่ขวดน้ำสำหรับเดินทางไกลออพชั่นเสริมเอนกประสงค์ เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังและแบบระบายความร้อน บาร์ท้ายแบบตระแกรงสามารถรัดหมวกกันน็อคได้สบาย ฟุตบอร์ดเสริมพักเท้ายกระดับสไตล์เอ็กซ์ตรีมและเป็นตัวกันล้มด้วย
ส่วนช่วงหลังจัดมาเน้นๆ กับระบบซับเพนชั่น โช้คอัพเดี่ยวสปริงแบบแก๊สผสมน้ำมันและมีซับแท้งค์แบบบิ้วท์อินปรับพรีโหลดได้ กรองอากาศปลายสแตนเลสต่อยื่นออกมารับอากาศด้านข้าง แอบเสริมหล่อนิดๆ ด้วยคันสตาร์ทอลูมินัม ทางด้านขวาก็ดุดันด้วยท่อไอเสียแบบคอสปริงสวมด้วยปลายเหลี่ยมสแตนเลสในแบบฉบับของออโตเมติก เป็นไงล่ะ…กับการปรับแต่งสไตล์ ครอส ซิตี้ กับรถออโตเมติก ซูซูกิ เล็ทส์ ไม่ธรรมดารับรองว่าวิ่งบนทางฝุ่นได้สนุกสนานทางธรรมดาก็เท่ เกินรูปลักษณ์
Naked sport On Street
ยังคงฮิตติดกระแสไม่เลิก กับรถจักรยานยนต์สไตล์เน็กเก็ดไบค์ M-SLAZ 150 ของค่ายยามาฮ่า ที่มีการปรับแต่งเพิ่มความโดดเด่นด้วยสีสันและออพชั่นของเด็ดโดนใจไบค์เกอร์รุ่นเล็ก ด้วยรูปทรงที่มีการดีไซน์ผสมความเป็นเน็กเก็ดไบค์กับสปอร์ตเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัวทำให้รถมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และการจัดสรรออพชั่นเสริมเข้าไปตำแหน่งต่างๆ ยิ่งทำให้มีมุมมองที่ดึงดูดสายตาคนที่รักการตกแต่งเพิ่มขึ้นหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นการแต่งสีสันใหม่ ด้วยสีเขียวขาว และการใช้ชิ้นงานคาร์บอนเข้ามาให้ดูคมเข้ม ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ 2 ดวง ปีกข้างหม้อน้ำเจาะท้ายครอบแบบสปอร์ต บังโคลนหน้าคาร์บอนพร้อมกับการ์ดข้างอลูมินัม ความโดดเด่นที่เน้นความเป็นเน็กเก็ดไบค์เฟรมด้านข้างเพิ่มโครงเหล็กถักสแตนเลสชุบรุ้งการเพิ่มเติมในส่วนของระบบเบรกหน้า ดิสก์เบรกจานเดี่ยว คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ brembo โมโนบล็อก สายไล่น้ำมันถักสแตนเลสหัวอลูมินัม 45 องศา สร้างขายึดขึ้นใหม่สำหรับจับยึดกับจานดิสก์เบรกเดิม กระบอกโช้คอัพหน้าหัวกลับ USD ซึ่งเป็นออพชั่นของเดิมที่ติดมากับตัวรถ แฮนด์เดิ้ลบาร์สแตนเลสชุบรุ้งทรงต่ำประกบด้วยตัวยึดตุ๊กตาอลูมินัม ปลายแฮนด์ยึดกระจกมองหลัง ตัวปั๊มแรงดัน brembo กระปุกลอย ก้านเบรก และ ก้านคลัทช์ ZETA พับได้ ชุดพักเท้าเกียร์โยงอลูมินัม ดิสก์เบรกหลังคาลิเปอร์ brembo ลูกสูบเดี่ยว และวงล้อแม็กที่ทำสีสันใหม่ทูโทน
เครื่องยนต์ขนาด 150 ซีซี อัตราเร่งบิดติดมือ ด้านข้างแคร้งติดการ์ดและบังสเตอร์หน้าอลูมินัม รีดแรงม้าด้วยท่อไอเสียสีสันสวยงามสวมด้วยปลายอลูมินัมกระบอกสั้นคอสปริง สวิงอาร์มสปอร์ตติดตั้งบังโคลนสั้นขายึดสีทอง เซ็ทอัพระบบซับเพนชั่นโช้คอัพหลัง Gazi ออพชั่นเสริมสมรรถนะระดับชั้นนำ ช่วยการรับแรงกระแทกและให้การทรงตัวที่ดีเยี่ยม แบบซับแท้งค์แยก บังโซ่เท่ๆ แบบคาร์บอนฯ
MODERN SPORT CAFÉ RACER
นานๆ ทีจะได้เจอกับงานคัสตอมไบค์ ซึ่งเป็นการปรับแต่งที่สร้างจากไอเดียแต่ยังคงไว้ที่พื้นฐานเดิมของตัวรถ สำหรับคันนี้มาในแนวของ CAFÉE RACER ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสไตล์การแต่งที่กำลังได้รับความนิยม เป็นการปรับจากเน็กเก็ดไบค์ของเดิมพร้อมกับเพิ่มเติมของแต่งและสีสันให้ดูคมเข้ม โดยพื้นฐานจะเป็นรถเน็กเก็ดไบค์ แต่การปรับเปลี่ยนที่ทำให้มันกลายเป็น CAFE นั้นก็ไม่ได้ยากเย็นมากนัก ภาพรวมๆ ดูแล้วน่าสัมผัสมากขึ้น การใช้สีพื้นดำด้านทั้งคันทำให้ดูน่าเกรงขาม หลายจุดหลายตำแหน่งมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อความลงตัว สำหรับสไตล์ Cafe การบังคับแฮนด์ต้องลงระดับลงมาเท่ากับแผงคอหรือต่ำกว่าทำให้ต้องเปลี่ยนทรงแฮนด์ที่จับกับแผงคอตุ๊กตาใหม่ ส่วนทางด้านปลายสวมด้วยกระจกมองหลัง ปั๊มแรงดันดิสก์เบรกแท้งค์แบบตู้ปลา RCB ก้านคลัทช์ปรับระดับ และลดระดับความสูงของช่วงหน้า
ดิสก์เบรกหน้าลูกสูบคู่ จานดิสก์สร้างแบบให้ตัวได้กับโฟลท์ติ้งอลูมินัม กระบอกโช้คอัพหน้าหัวกลับ หุ้มยางกันฝุ่น วงล้อแม็กขาวขอบดำรัดรอบด้วยยางลายดอกเรโทร และบังโคลนหน้าสแตนเลสแต่งแบบสั้น สูงขึ้นมาเป็นชุดไฟหน้าที่เปลี่ยนเป็นทรงกลมพร้อมคอพเวอร์และตระแกรงครอบหน้า วินชิลด์ครอบด้านบน เรือนไมล์แยกบอกรอบเครื่องยนต์และความเร็ว ท่านั่งก็ปาดแต่งทรงเบาะใหม่เว้าให้กับที่วางเท้าซึ่งเปลี่ยนมาใช้ชุดเกียร์โยง ส่วนด้านหลัง ไฟท้ายตัดแต่งช่องสำหรับการวางของไฟท้ายทับทิมแดงทรงกลมและไฟเลี้ยว กับชุดแต่งท้ายสั้น ดิสก์เบรกหลังคาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว จานดิสก์สร้าง 200 มม. ขับเคลื่อนด้วยสเตอร์อลูมินัมและโซ่ D.I.D ปิดท้ายด้วยการเสริมสมรรถนะเครื่องยนต์ด้วยท่อไอเสียสแตนเลสเดินลอดท้องออกทางด้านขวาสวมด้วยปลายทรงกระบอกดำด้านยึดแบบคอสปริง
ยามาฮ่าบิ๊กไบค์รุกภาคเหนือ เปิดโชว์รูมเต็มรูปแบบ “ยามาฮ่า ไรเดอร์ส คลับ เชียงใหม่” อย่างเป็นทางการ
มร.ชิเงโอะ ฮายาคาวะ ประธานกรรมการบริหาร นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และ ดร.ณรงค์ คองประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เจริญมอเตอร์ เชียงใหม่ จำกัด ร่วมทำการเปิดโชว์รูม Yamaha Riders’ club Chiang Mai โดย บริษัท เจริญมอเตอร์ เชียงใหม่ จำกัด อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นโชว์รูมจำหน่ายรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ของยามาฮ่า ศูนย์บริการเต็มรูปแบบครบวงจร โดยมีช่างผู้ชำนาญพร้อมให้บริการ และพื้นที่ทดสอบการขับขี่ เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเร็วๆ นี้
เวสปิอาริโอ เปิดตัว โมโตเพล็กซ์ แบงค็อก ไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้ สัมผัสประสบการณ์การขับขี่สไตล์อิตาเลี่ยน
บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ชั้นนำ “พิอาจิโอ” และ “เวสป้า” พร้อมทั้งรถมอเตอร์ไซค์ระดับตำนาน “อาพริเลีย” และ “โมโต กุซซี่” สัญชาติอิตาลีแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ตอกย้ำความสำเร็จทางธุรกิจและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างบริษัทฯ และพิอาจิโอ กรุ๊ป (Piaggio Group) จากประเทศอิตาลี ประกาศเปิดตัว “โมโตเพล็กซ์ แบงค็อก (Motoplex Bangkok)” อย่างเป็นทางการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่สไตล์อิตาเลี่ยน พร้อมมุ่งนำเสนอไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้สองล้อครบวงจรระดับพรีเมี่ยมแห่งแรกของประเทศไทยด้วยมาตรฐานเดียวกันกับโมโตเพล็กซ์ในประเทศอิตาลี และอีกกว่า 200 แห่งทั่วโลกภายใต้แนวคิดเดียวกัน คือ “The Home of Piaggio Group Brand” ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์จากสี่แบรนด์ชั้นนำ ได้แก่ พิอาจิโอ เวสป้า อาพริเลีย และโมโต กุซซี่ พร้อมด้วยบริการหลังการขายที่ครบถ้วน ณ โมโตเพล็กซ์ แบงค็อก
Z1000r
อักษรย่อ HG มาจาก High Grade ที่สุดของความมีระดับกับรถจักรยานยนต์ตระกูล Z ที่ถูกออกแบบอย่างปราณีตพร้อมกับภาพลักษณ์อันโฉบเฉี่ยวด้วยการพัฒนาระบบเครื่องยนต์ให้ราบรื่นพร้อมทะยานสู่ท้องถนนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ระบบรองรับที่ให้ความคล่องตัวและยืดหยุ่น โช้คอัพหน้าได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อมอบสมรรถนะที่คล่องตัวและยืดหยุ่นขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งความดุดันในการขับขี่ ส่วนการซับแรงสั่นสะเทือนก็ดีขึ้นด้วยเช่นกัน ทำให้เพิ่มความสบายยามขับขี่ไปอีกขั้น การปรับค่าใหม่นี้ทำให้รถมีน้ำหนักเบาและผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างเป็นธรรมชาติและคล่องตัว อัตราส่วนด้านที่ได้รับการแก้ไขใหม่ทำให้ระยะเลื่อนของล้อหลังเพิ่มขึ้น 13 มม. (122 มม. >> 135 มม.) จึงเป็นการเสริมสมรรถนะของระบบกันสะเทือนหลัง รวมทั้งประสิทธิภาพการซับแรงสั่นสะเทือนที่ดีขึ้นให้ความรู้สึกมั่นคงของการยึดเกาะที่ล้อหลังได้เป็นอย่างดี
เครื่องยนต์และระบบไอเสียทำการตั้งค่า ECU ใหม่เพื่อให้เครื่องยนต์ถ่ายทอดกำลังได้ราบรื่นขึ้น ควบคุมง่าย มั่นใจทุกการขับขี่ และปล่อยมลภาวะในระดับที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีวาพอเรเตอร์ช่วยให้ได้ไอเสียที่สะอาดกว่าเดิม แคทตาไลเซอร์ตัวหลัก และตัวรองได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้การปล่อยมลภาวะไอเสียสะอาดขึ้น ประสิทธิภาพเบรกดีขึ้น วัสดุที่นำมาผลิตผ้าเบรกหลังได้รับการปรับปรุงประกอบกับสปริงดันกลับที่ถูกปรับตั้งให้เหมาะสมทำให้การควบคุมเบรกเพิ่มสมรรถนะของรถในภาพรวมมากขึ้น ความแตกต่างของรุ่น HIGH GRADE และรุ่นมาตรฐาน ระบบเบรก Brembo brake เพื่อเพิ่มสมรรถนะเบรกของ Z1000 ให้สุดยอดมากยิ่งขึ้นไปอีกขั้น จึงได้นำเอาเบรกสมรรถนะ Brembo ที่ติดตั้งอยู่ใน Ninja H2R มาใช้กับ Z1000 HG ด้วยคุณสมบัติของการทำงานที่มีความแม่นยำสูง การส่งถ่ายแรงเบรกให้เป็นไปอย่างราบรื่นและควบคุมรถได้อย่างยอดเยี่ยม
2017 KTM 250 EXC-F
สำหรับรถโมเดลล่าสุดในกลุ่มเอ็นดูโร่จาก KTM ทุกรุ่น ที่ออกมาในปี 2017 ล้วนมีเป้าหมายในการพัฒนาทิศทางเดียวกันคือ “น้ำหนัก” จะต้องเบากว่าโมเดลที่ออกมาก่อนหน้า ดังนั้น รถตระกูล EXC-F โมเดลล่าสุด จึงมีน้ำหนักเบาสุด , เพรียวสุด เมื่อเทียบกับรถในกลุ่ม dual sport ที่ออกมาสู่ตลาดในปีนี้ เฟรมน้ำหนักเบา chrome-moly steel frame ที่มีความแข็งแกร่ง รองรับแรงบีบอัดได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการให้ตัวที่ดีต่อแรงกระทำ ช่วยให้ได้สมรรถนะการควบคุมที่ดีแม่นยำในทุกจังหวะการควบคุมการขับขี่ที่ดี ที่สำคัญง่ายต่อการบำรุงรักษาส่วนต่างๆของรถ รวมทั้งยังออกแบบส่วนซับเฟรมให้มีน้ำหนักเบาด้วย aluminium subframe ที่มีความเบาเป็นพิเศษ รวมถึงในส่วนของสวิงอาร์มที่ออกแบบใหม่เพื่อให้ได้ตำแหน่งจุดยึดที่ลงตัวกับโช้คอัพหลัง PDS shock ด้วยการผลิตสวิงอาร์มแบบ cast aluminium ที่ให้น้ำหนักเบา และเป็นชิ้นส่วนที่มีการให้ตัวที่ดีรวมกับความแข็งแกร่งของวัสดุ นับว่าเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้รถ “นิ่ง” ในทุกจังหวะการขับขี่
ระบบกันสะเทือนหลังได้รับการปรับใหม่เพื่อให้รองรับกับเฟรมและสวิงอาร์มใหม่ ดังนั้น WP XPlor PDS จึงได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่เพื่อแก้ไขตำแหน่งจุดยึดได้เหมาะสมกับแชสซีส์ใหม่ ด้วยการออกแบบชิ้นส่วนโครงสร้างของตัวโช้คอัพใหม่ จึงต้องมีการเปลี่ยนชิ้นส่วนของลูกสูบภายในกระบอกโช้คอัพที่มีขนาดเล็กลง จาก 50 มม. เป็น 46 มม. ความยาวของโช้คอัพลดลง 2.5 มม. ตำแหน่งยึดโช้คอัพขยับเข้าไปใกล้กับศูนย์กลางของตัวรถเพิ่มขึ้นอีก 5 ม.ม. และจากการเปลี่ยนตำแหน่งยึดนี้เองจึงมีส่วนช่วยให้มีพื้นที่ว่างด้านหลังเพิ่มขึ้นสำหรับการจัดวางตำแหน่งของท่อไอเสีย
ขณะที่ในส่วนของระบบกันสะเทือนหน้านั้นได้พัฒนาใหม่ เป็นฟอร์คแบบหัวกลับ WP XPlor 48 upside-down ที่ได้ออกแบบให้ฝั่งซ้ายเป็น compression damping ส่วนฝั่งขวาเป็น rebound โดยการปรับค่า compression กับ rebound จะสามารถทำได้โดยสะดวกด้วยการปรับค่าที่บนส่วนบนสุดของฟอร์คทั้งสองข้าง และในส่วนของชุดแผงคอนั้น ได้พัฒนามาใหม่เป็น forged triple clamps ที่มีค่าออฟเซทที่ 22 ม.ม. สามารถยึดจับกับฟอร์คหน้าได้อย่างมั่นคง ช่วยให้ประสิทธิภาพในการควบคุมมีความแม่นยำยิ่งขึ้น โดยในส่วนของชุดแผงคอนี้ได้รับการออกแบบให้สามารถปรับตำแหน่งของแฮนด์เดิ้ลบาร์ได้มากกว่าสี่ตำแหน่ง ด้วยการขยับไปด้านหน้าหรือด้านหลัง เครื่องยนต์ของ 250 EXC-F ได้รับการปรับใหม่ กว่า 90% ของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์จนมีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา พร้อมๆ กับกำลังเครื่องยนต์ที่ตอบสนองที่ดียิ่งขึ้น พร้อมด้วยความแข้งแกร่งของชิ้นส่วนที่เพิ่มขึ้นอีก 30% จากกรรมวิธีการเคลือบผิววัสดุแบบ DLC นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งมอเตอร์สตาร์ทเป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงาน ดังนั้นรถทุกคันจะสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยไฟฟ้า ซึ่งมอเตอร์สตาร์ทเป็นของ Mitsuba ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของความทนทาน โดยจะใช้แหล่งพลังงานจากแบตเตอรี่แบบ lithium ion
ขณะที่ระบบการจ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดนั้นจะใช้ระบบการควบคุมที่มีประสิทธิภาพอย่าง Keihin Engine Management System โดยในส่วนของเรือนลิ้นเร่งนั้นได้มีการปรับเป็นขนาด 42 มม. ที่ช่วยให้เครื่องยนต์มีการตอบสนองที่รวดเร็วในทุกจังหวะของการควบคุมคันเร่ง
เครื่องยนต์ สี่จังหวะ สูบเดียว
ปริมาตรความจุ 249.91 ซีซี.
กระบอกสูบ 78 มม.
ช่วงชัก 52.3 มม.
การสตาร์ท Electric starter
การส่งกำลัง 6 สปีด
คลัทซ์ แบบเปียกหลายแผ่นซ้อน,
Brembo hydraulics
ระบบจัดการเครื่องยนต์ Keihin EMS
เฟรม Chrome-molybdenum
steel central-tube frame
ระบบกันสะเทือน WP
ระยะยุบตัวกันสะเทือนหน้า 300 มม.
ระยะยุบตัวกันสะเทือนหน้า 310 มม.
เบรกหน้า Disc brake
เบรกหลัง Disc brake
เส้นผ่านศูนย์กลางจานดิสก์หน้า 260 มม.
เส้นผ่านศูนย์กลางจานดิสก์หลัง 220 มม.
มุมองศาเลี้ยว 63.5 °
ระยะฐานล้อ 1482 10 มม.
ความสูงจากพื้น 355 มม.
ความสูงเบาะนั่ง 960 มม.
ความจุถังเชื้อเพลิง 8.5 ลิตร
น้ำหนักรถพร้อมแข่ง (ไม่รวมเชื้อเพลิง) 107 กก.