สำหรับรถโมเดลล่าสุดในกลุ่มเอ็นดูโร่จาก KTM ทุกรุ่น ที่ออกมาในปี 2017 ล้วนมีเป้าหมายในการพัฒนาทิศทางเดียวกันคือ “น้ำหนัก” จะต้องเบากว่าโมเดลที่ออกมาก่อนหน้า ดังนั้น รถตระกูล EXC-F โมเดลล่าสุด จึงมีน้ำหนักเบาสุด , เพรียวสุด เมื่อเทียบกับรถในกลุ่ม dual sport ที่ออกมาสู่ตลาดในปีนี้ เฟรมน้ำหนักเบา chrome-moly steel frame ที่มีความแข็งแกร่ง รองรับแรงบีบอัดได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการให้ตัวที่ดีต่อแรงกระทำ ช่วยให้ได้สมรรถนะการควบคุมที่ดีแม่นยำในทุกจังหวะการควบคุมการขับขี่ที่ดี ที่สำคัญง่ายต่อการบำรุงรักษาส่วนต่างๆของรถ รวมทั้งยังออกแบบส่วนซับเฟรมให้มีน้ำหนักเบาด้วย aluminium subframe ที่มีความเบาเป็นพิเศษ รวมถึงในส่วนของสวิงอาร์มที่ออกแบบใหม่เพื่อให้ได้ตำแหน่งจุดยึดที่ลงตัวกับโช้คอัพหลัง PDS shock ด้วยการผลิตสวิงอาร์มแบบ cast aluminium ที่ให้น้ำหนักเบา และเป็นชิ้นส่วนที่มีการให้ตัวที่ดีรวมกับความแข็งแกร่งของวัสดุ นับว่าเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้รถ “นิ่ง” ในทุกจังหวะการขับขี่
ระบบกันสะเทือนหลังได้รับการปรับใหม่เพื่อให้รองรับกับเฟรมและสวิงอาร์มใหม่ ดังนั้น WP XPlor PDS จึงได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่เพื่อแก้ไขตำแหน่งจุดยึดได้เหมาะสมกับแชสซีส์ใหม่ ด้วยการออกแบบชิ้นส่วนโครงสร้างของตัวโช้คอัพใหม่ จึงต้องมีการเปลี่ยนชิ้นส่วนของลูกสูบภายในกระบอกโช้คอัพที่มีขนาดเล็กลง จาก 50 มม. เป็น 46 มม. ความยาวของโช้คอัพลดลง 2.5 มม. ตำแหน่งยึดโช้คอัพขยับเข้าไปใกล้กับศูนย์กลางของตัวรถเพิ่มขึ้นอีก 5 ม.ม. และจากการเปลี่ยนตำแหน่งยึดนี้เองจึงมีส่วนช่วยให้มีพื้นที่ว่างด้านหลังเพิ่มขึ้นสำหรับการจัดวางตำแหน่งของท่อไอเสีย
ขณะที่ในส่วนของระบบกันสะเทือนหน้านั้นได้พัฒนาใหม่ เป็นฟอร์คแบบหัวกลับ WP XPlor 48 upside-down ที่ได้ออกแบบให้ฝั่งซ้ายเป็น compression damping ส่วนฝั่งขวาเป็น rebound โดยการปรับค่า compression กับ rebound จะสามารถทำได้โดยสะดวกด้วยการปรับค่าที่บนส่วนบนสุดของฟอร์คทั้งสองข้าง และในส่วนของชุดแผงคอนั้น ได้พัฒนามาใหม่เป็น forged triple clamps ที่มีค่าออฟเซทที่ 22 ม.ม. สามารถยึดจับกับฟอร์คหน้าได้อย่างมั่นคง ช่วยให้ประสิทธิภาพในการควบคุมมีความแม่นยำยิ่งขึ้น โดยในส่วนของชุดแผงคอนี้ได้รับการออกแบบให้สามารถปรับตำแหน่งของแฮนด์เดิ้ลบาร์ได้มากกว่าสี่ตำแหน่ง ด้วยการขยับไปด้านหน้าหรือด้านหลัง เครื่องยนต์ของ 250 EXC-F ได้รับการปรับใหม่ กว่า 90% ของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์จนมีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา พร้อมๆ กับกำลังเครื่องยนต์ที่ตอบสนองที่ดียิ่งขึ้น พร้อมด้วยความแข้งแกร่งของชิ้นส่วนที่เพิ่มขึ้นอีก 30% จากกรรมวิธีการเคลือบผิววัสดุแบบ DLC นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งมอเตอร์สตาร์ทเป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงาน ดังนั้นรถทุกคันจะสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยไฟฟ้า ซึ่งมอเตอร์สตาร์ทเป็นของ Mitsuba ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของความทนทาน โดยจะใช้แหล่งพลังงานจากแบตเตอรี่แบบ lithium ion
ขณะที่ระบบการจ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดนั้นจะใช้ระบบการควบคุมที่มีประสิทธิภาพอย่าง Keihin Engine Management System โดยในส่วนของเรือนลิ้นเร่งนั้นได้มีการปรับเป็นขนาด 42 มม. ที่ช่วยให้เครื่องยนต์มีการตอบสนองที่รวดเร็วในทุกจังหวะของการควบคุมคันเร่ง
เครื่องยนต์ สี่จังหวะ สูบเดียว
ปริมาตรความจุ 249.91 ซีซี.
กระบอกสูบ 78 มม.
ช่วงชัก 52.3 มม.
การสตาร์ท Electric starter
การส่งกำลัง 6 สปีด
คลัทซ์ แบบเปียกหลายแผ่นซ้อน,
Brembo hydraulics
ระบบจัดการเครื่องยนต์ Keihin EMS
เฟรม Chrome-molybdenum
steel central-tube frame
ระบบกันสะเทือน WP
ระยะยุบตัวกันสะเทือนหน้า 300 มม.
ระยะยุบตัวกันสะเทือนหน้า 310 มม.
เบรกหน้า Disc brake
เบรกหลัง Disc brake
เส้นผ่านศูนย์กลางจานดิสก์หน้า 260 มม.
เส้นผ่านศูนย์กลางจานดิสก์หลัง 220 มม.
มุมองศาเลี้ยว 63.5 °
ระยะฐานล้อ 1482 10 มม.
ความสูงจากพื้น 355 มม.
ความสูงเบาะนั่ง 960 มม.
ความจุถังเชื้อเพลิง 8.5 ลิตร
น้ำหนักรถพร้อมแข่ง (ไม่รวมเชื้อเพลิง) 107 กก.