Yamaha Test Automatic

ชุ่มฉ่ำ เต็มๆ กับบรรยากาศของฤดูฝน แต่ทำอะไรกับทีมสื่อทดสอบพวกเราไม่ได้ ทริปความมันครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อลองของจริงกับสมรรถนะเครื่องยนต์ BLUE CORE ที่อยู่ใน NMAX และ Aerox155 รวมถึงเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมายการเดินทางอันแสนบันเทิง จากกรุงเทพฯ ถึง เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ระยะทางเกือบ 500 กิโลเมตร กับทีมนักทดสอบจากนิตยสารชื่อดัง 6 ฉบับ Inside Motor Racing, Fastbike Thailand, Road Racing, Cycle Road, เซียนมอไซค์ และ Riding พร้อมรถทดสอบ Yamaha NMAX และ Aerox155 รถออโตเมติกระดับสุดยอดแห่งยุค

ถึงแม้ตัวรถจะออกแบบมาคนละสไตล์เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มลูกค้าต่างวัย แต่หัวใจสำคัญคือเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ช่วยให้การขับขี่นั้นมีความเร้าใจมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าด้วยรถที่มีไรดิ้งโพลสิชั่นที่ต่างกัน การนั่ง การควบคุมก็ต่างกันไป ถ้าเรื่องของความสบายเวลาขับขี่เดินทางไกลๆ ต้องยกให้กับ NMAX ที่นั่งได้สบายกว่า แฮนด์ยกสูงไม่ต้องก้มลงมาก การวางเท้าก็สามารถที่จะขยับตำแหน่งตามสรีระของผู้ขับขี่ได้ เบาะกว้างนั่งสบายมีสโล้ปรับกับก้น ตัวรถมีบาร์ล้านซ์ที่ดี ควบคุมได้ง่าย เบาแรง ซิกแซก คล่องตัว ใช้งานได้ดีทั้งในเมืองและการขับขี่ออกทริปสั้นๆ

ครั้งนี้ได้บิดกันยาวๆ กับเครื่องยนต์ 155 ซีซี ที่มีกำลังเพียงพอมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด VVA ระบบวาล์วแปรผัน ช่วยให้รอบการทำงานในรอบกลางมีกำลังอย่างต่อเนื่อง เพราะทริปนี้คันเร่งแทบไม่ได้ยกกันเลย ลากกันหมดปลอกในความเร็ว 118-120 กม./ชม. ทำให้เห็นถึงจุดเด่นของเครื่องยนต์ในรอบประมาณ 6,000-6,500 VVA ระบบวาล์วจะทำงานเหมือนมีแรงกระชาก หรือ แรงดันท้ายให้รถพุ่งไปข้างหน้าต่อเนื่องกับรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้น ให้กำลังอย่างต่อเนื่องไม่มีตก เพราะครั้งนี้เส้นทางขับขี่ต้องขึ้นเขาที่มีความชัน เพราะฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงเรื่องความประหยัด เน้นความเร้าใจช่วงล่างที่ให้มาก็แตกต่างกันอีก NMAX วงล้อหน้าขนาด 14 นิ้ว ล้อหลัง 13 นิ้ว Aerox155 หน้า/หลัง 14 นิ้ว ส่งผลให้เห็นถึงการออกตัวชัดเจน NMAX จะพุ่งออกมาได้เร็วกว่าด้วยวงล้อที่เล็ก แต่ Aerox155 จะมาได้เปรียบในช่วงปลายๆ ด้วยขนาดวงล้อใหญ่ไหลยาวๆ ยางเดิมๆ โช้คอัพเดิมๆ การยึดเกาะบนพื้นผิวถนนได้มากกว่า การทรงตัวในโค้งที่ดีกว่าแต่ก็ต้องโหนตัวช่วยเล็กน้อย แม้กระทั่งพื้นที่เปียกแฉะไปด้วยน้ำฝนก็ยังสามารถผ่ามาได้

ความรู้สึกนักทดสอบ

จตุรงค์ หมื่นทิพย์ Riding

ตื๊ดๆ ติดมือบิดสนุก ออโตเมติก NMAX vs Aerox155 เครื่องยนต์ บูลคอร์ พร้อมระบบ VVA วาล์วแปรผัน ตอบสนองทุกรอบเครื่องยนต์ให้กำลังที่ต่อเนื่อง ช่วงปลายๆ จะขี่ที่รอบสูงได้อย่างเต็มกำลัง ท่านั่งสบายๆ คุมรถได้ง่าย ยางขนาดใหญ่เกาะถนนเข้าโค้งมั่นใจ ถึงแม้จะต้องลุยกับสายฝน และพื้นถนนที่เปียกแฉะเดินทางจากกรุงเทพฯ มาถึงเขาค้อระยะทางเกือบๆ 500 กิโลเมตร ขี่สนุก มันเร้าใจ ตอบโจทย์การใช้งาน…แบบนี้ขี่ไม่เลิก

ทนง แซ่เล้า Cycle Road

การเดินทางในครั้งนี้สนุกมากแม้ว่าระหว่างทางจะเจอฝนตกเป็นระยะ แต่ก็ได้สัมผัสถึงอากาศเย็นที่ซาบซ่า ช่วงสุดท้ายก่อนถึงที่พักต้องขี่รถลุยหมอกที่ลงหนามากแต่ก็ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย เครื่องยนต์ของ Yamaha Aerox155 จัดจ้านบิดติดมือจึงทำให้ขี่สนุกไม่จืดชืด ส่วนเบรก ABS ช่วยทำให้การหยุดรถบนยอดเขาที่เปียกลื่นนั้นเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย

พลสิทธิ์ นาคใจเสือ Road Racing

ทริปนี้ได้ควงคู่ NMAX กับระยะทางคงไม่ใช่ปัญหา บล็อคเครื่องยนต์ขนาด 155
ซีซี แค่นี้ก็จบแล้ว ท่านั่งสบายควบคุมง่าย มีความคล่องตัว ที่สำคัญประหยัดน้ำมัน ด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์แบบ BLUE CORE ให้กำลังขึ้นเขาเยี่ยมเลย เพราะมีระบบ VVA ช่วยให้รอบเครื่องช่วงกลางที่ต่อเนื่องแช่กันได้ยาวๆ มาประกบคู่กับบรรยากาศที่เขาค้อก็บอกได้เลยว่าฟินมาก อากาศดีขี่รถสนุก

สาธิต สถิตดี Inside Motoracing

จุดหมาย เขาค้อ เพชรบูรณ์ กับรถออโต้ไซส์ 155 ซีซี ระยะทางถึงจุดหมายก็ 440 กิโลเมตรเห็นจะได้ พาขบวนยกชุดบิดหมดปลอก อัตราเร่งที่มีวาล์ว VVA เป็นหัวใจ ความสบายของท่านั่ง และความประหยัด ทำให้การเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยความประทับใจ เปลี่ยนความคิดเรื่องที่จะออกเที่ยวแล้วต้องเป็นรถใหญ่ๆ เท่านั้น ที่สำคัญ Ubox ของทั้ง 2 รุ่นนี้ใหญ่พอจนไม่ต้องแบกของขึ้นบ่าให้ลำบาก กลายเป็นว่าชักติดใจ อยากเดินทางท่องเที่ยวไปกับออโตเมติก “โซฟาซิ่ง” นี้อีกสักรอบแล้วซิ

อาทิตย์ ฉิมพาลี เซียน มอเตอร์ไซค์

ตอบโจทย์สำหรับผู้ชายหุ่นหมี เรียกได้ว่าถูกใจคนทุกไซส์เลยทีเดียวสำหรับ 2 คู่หูสายพันธ์ุ ผู้นำออโตเมติก จากค่ายยามาฮ่า NMAX & Aerox155 ซึ่งหลังจากได้ร่วมออกทริปแล้ว กล้าการันตี ด้วยความเป็นคนที่มีน้ำหนักเยอะกว่าคนอื่น ว่ารถทั้ง 2 รุ่นนี้มีดีที่สมรรถนะที่เร้าใจ Aerox เป็นรถที่มีความโฉบเฉี่ยว ควบคุมง่ายมากๆ แรงดี บิดมัน ได้อารมณ์สปอร์ตออโตเมติก ส่วน NMAX จะเป็นแนวบิดเพลินๆ แรงกำลังดี ขับขี่สบาย ทั้งท่านั่งขับ และการควบคุมจริงๆ

เกียรติพร ลีลาวันทนพันธุ์ Fastbikes Thailand Magazine

NMAX & Aerox155 ทั้งสองรุ่นเป็นสกู๊ตเตอร์ที่ขี่ง่าย เเละมีสมรรถนะที่จัดจ้านจากเครื่องยนต์พิกัด 155 ซีซี พร้อมด้วย VVA วาล์ว ที่ทำให้เครื่องยนต์มีกำลังบิดติดมือทุกรอบ ความปลอดภัยก็เหนือระดับด้วยระบบเบรก ABS นอกจากนั้นไม่ว่าจะเป็นช่วงล่างหนึบๆ สมาร์ทคีย์ล้ำๆ น้ำหนักที่เบา หรือยางหลัง Oversize in spec ทางชันขี่ได้ ถนนเปียกขี่ดี ทางเรียบบิดมันส์ ลองแล้วต้องชอบแน่นอน

 

 

รอสซี่-บีญาเลส คืนฟอร์มร้อนแรง ยามาฮ่าผงาดดับเบิ้ลโพเดี้ยมออสซี่

ทัพนักบิดยามาฮ่าคืนฟอร์มร้อนแรงหลังเปิดเกมสุดดุเดือดในเกมการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก MotoGP 2017 สนามที่ 16 รายการ ออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์ ประเทศออสเตรเลีย โดย วาเลนติโน รอสซี่ นักบิดจอมเก๋าอิตาเลียน ควงคู่ทีมเมทดาวรุ่งสแปนิชอย่าง มาเวริค บีญาเลส ทีม “มูวิสตาร์ ยามาฮ่า โมโตจีพี” กระชากคันเร่งรถแข่งยามาฮ่า YZR-M1 ผงาดยืนโพเดี้ยมอันดับ 2 และ 3 ขณะที่ โยฮันน์ ซาร์โก นักบิดฝรั่งเศสจาก ทีม “มอนสเตอร์ ยามาฮ่า เทคทรี” เค้นฟอร์มเก่งคว้าแชมป์ทีมอิสระ หลังจบการแข่งขันสุดมันส์

 

2018 KTM 250SX-F

หลังจากคว้าตำแหน่งแชมป์โลก MX2 World Championship มาครองได้อย่างต่อเนื่องหลายสมัย รวมทั้งในฤดูกาลนี้ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไป ทำให้ทาง KTM เคลมได้อย่างเต็มปากว่า นี่คือที่สุดของ MXer250F จากขุมพลังเครื่องยนต์ที่ได้รับข้อมูลการพัฒนาโดยตรงจากทีมแข่งแฟคทอรี่ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ KTM จะใช้ประโยคว่า powerfull championship winning engine หรือ เครื่องยนต์ที่นำแชมป์มาสู่ทีมนั่นเอง

ในไลน์การผลิตทั้งหมดของ MXer เครื่องยนต์สี่จังหวะ ยังคงเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ ติดตั้ง E-starter , ใช้ WP suspension , มี traction control และ map selection อีกทั้งยังพัฒนาตัวโครงสร้างรถทั้งหมดด้วยการ “ทำให้เบา” ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า เครื่องยนต์ของ KTM 250SX-F นั้น มีความแข็งแกร่งมากที่สุดในพิทรถแข่งรุ่น MX2 ด้วยรอบการทำงานที่สามารถเค้นได้สูงถึง 14,000 รอบ ต่อนาที ในขณะที่แรงบิดของเครื่องยนต์ก็สามารถส่งออกมาได้เต็มที่ในทุกๆ ย่านการทำงานของรอบเครื่องยนต์ ด้วยพื้นฐานที่ยอดเยี่ยมของเครื่องยนต์ KTM ที่ได้รับการเสริมประสิทธิภาพ ระบบควบคุมการทำงานเครื่องยนต์ Engine Management System จาก Keihin ที่ทำงานร่วมกับระบบหัวฉีดไฟฟ้าที่มีขนาดเรือนลิ้นเร่ง 44 มม.ที่มีส่วนสำคัญให้เครื่องยนต์มีการตอบสนองที่ยอดเยี่ยมในทุกจังหวะขับขี่ โดยหัวใจของระบบจัดการนี้ก็คือ การออกแบบ ECU ขนาดกะทัดรัด มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง โดยเฉพาะการควบคุมในส่วนของ traction และ launch control ที่มีส่วนทำให้ 250SX-F มีสมรรถนะการยึดเกาะในทุกๆ สถานการณ์การขับขี่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งผู้ขี่สามารถเลือกใช้กำลังเครื่องยนต์ที่เหมาะสมได้ด้วยการสั่งการที่ปุ่ม map switch บนแฮนด์เดิ้ลบาร์ เพื่อปรับเปลี่ยนค่า mapping ที่ต้องการ

โดยมาตรฐานของปุ่ม map switch หรือ map select switch บนแฮนด์เดิ้ลบาร์นั้น จะมีหน้าที่อยู่สามอย่างด้วยกัน คือ เปิดใช้งานระบบ traction control , เลือกใช้งาน launch control , และเลือกใช้กราฟหรือค่าแมปปิ้งที่ต้องการ ซึ่งจะมี standard กับ advanced ซึ่งปัจจุบัน 250SX-F ก็เป็นเช่นทุกรุ่นในกลุ่มเครื่องยนต์สี่จังหวะของ KTM ที่ติดตั้งระบบสตาร์ทไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงาน ดังนั้นทั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ และระบบสตาร์ท จึงจำเป็นต้องมีแหล่งพลังงาน โดย KTM ได้ติดตั้งแบตเตอรี่ lithium ion ใหม่ ที่มีน้ำหนักเบาแต่มีกำลังไฟที่มากขึ้นสำหรับรองรับการจ่ายไฟให้กับระบบต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สำหรับสเปค 2018 KTM 250SX-F มีรายละเอียดดังนี้
Engine : 1-cylinder, 4-stroke engine
Displacement : 249.9 cm³
Bore : 78 mm
Stroke : 52.3 mm
Starter : Electric starter

Transmission : 5-speed
Primary drive : 24:73
Secondary gear ratio : 14:51
Clutch : Wet, CSS multi-disc clutch,
Brembo hydraulics
EMS : Keihin EMS
Frame : 25CrMo4 steel central-tube frame
Front suspension : WP-USD, AER 48, Ø 48 mm
Rear suspension : WP shock absorber
with linkage
Suspension travel (front) : 310 mm
Suspension travel (rear) : 300 mm
Front brake : Disc brake
Rear brake : Disc brake
Front brake disc diameter : 260 mm
Rear brake disc diameter : 220 mm
Chain : 5/8 x 1/4”
Steering head angle : 63.9 °
Wheelbase : 1485 ± 10 mm
Ground clearance : 370 mm
Seat height : 960 mm
Tank capacity (approx.) : 7 l
Weight READY TO RACE (without fuel) : 98.2 kg

Buccaneer 250I Cafe Racer

ค่ายนี้มีดีไม่ธรรมดา STALLION จากยอดขายอันถล่มทลายของรถคลาสสิค Centaur ทำให้กระแสของรถประเภทนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนค่ายอื่นอิจฉาไปตามๆ กัน แต่ยังมีอีกหนึ่งที่มาแบบเงียบๆ ในกลุ่มของผู้ที่ชื่นชอบรถที่มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ที่โดดเด่นทั้งดีไซน์และสมรรถนะของเครื่องยนต์

ถ้าใครได้ไปร่วมงาน BIG Motor Sale ที่ผ่านมา ภายในบูธของ Stallion ที่นำรถมาโชว์อย่างมากมาย แต่มุมโชว์รถที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เข้าชมได้อย่างไม่น้อยหน้าค่ายใหญ่ๆ ก็คงจะเป็นมุมของการแต่งที่จัดของเล่นสุดชิคปรับแต่งเสริมความหล่อให้กับ BUCCANEER 250i ในสไตล์ คาเฟ่ เรเซอร์ ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้ว่าคันนี้คือรถรุ่นอะไร เพราะมีการปรับเปลี่ยนหน้าตาจากเดิมโดยสิ้นเชิง และแน่นอนว่ามันสวยเฉียบเนี๊ยบทุกรายละเอียดไฟหน้าทรงสามเหลี่ยม การที่ใช้ยางหน้ากว้างอวบๆ อ้วนๆ ลายดอกใบเลื่อยกับวงล้อซี่ลวด ปรับเสริมชุดรับแรงกระแทก โช้คอัพหน้า Upside Down แฮนด์จับโช้คใต้แผงคอตามสไตล์คาเฟ่ เรเซอร์ ประกับคันเร่งอลูมินัมแบบสองสาย ปลอกแฮนด์ยางสีแดง ปั๊มแรงดันดิสก์เบรกหน้าแท้งค์ตู้ปลา RCB คาลิเปอร์แบบสองลูกสูบ สายถักสแตนเลส ถังน้ำมันถูกออกแบบสร้างขึ้นใหม่มีความยาวเพิ่มขึ้น และเจาะท่อที่ด้านข้างเป็นตัวบอกระดับของน้ำมัน เบาะนั่งแต่งทรงสปอร์ตย้อนยุคท้ายแบบตูดมดฝังไฟท้ายทับทิมแดง เสริมฟองน้ำหุ้มด้วยหนังสีแดงเย็บลาย ท่านั่งถูกบังคับด้วยพักเท้าแบบสปอร์ตเกียร์โยงอลูมินัม โช้คอัพหลังเดี่ยวแกนใหญ่สปริงสีฟ้าปรับพรีโหลดได้ ยึดกับสวิงอาร์มดามบนเสริมความแข็งแรง ดิสก์เบรกหลังคาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยวจานขอบหยักเซาะร่องระบายความร้อน

เครื่องยนต์ขนาด 250 ซีซี แบบ V-Twin 2 สูบ ระบายความร้อนด้วยอากาศ น่าจะเป็นรุ่นแรกเลยก็ว่าได้ที่มีขายอย่างเป็นทางการ ให้กำลังช่วงต้นและกลางที่เหมาะสมสนุกกับแรงบิดที่มาเร็ว มีการอัพเสริมเติมแต่งด้วยท่อไอเสียเดินไลน์ใหม่ ด้วยสแตนเลสทั้งใบ เสร็จแล้วออกมาหน้าตาโหดๆ ดิบๆ แต่ก็แฝงด้วยความเท่ของแนวคาเฟ่ เรเซอร์

KTM 1190 ADVENTURE

 

 

เครื่องยนต์
 แบบ 4 จังหวะ สูบ V2  4 วาล์ว DOHC
 ปริมาตรกระบอกสูบ  1195 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด 12.5:1
 กระบอกสูบ x ระยะชัก 105 x 69 mm
 ระบบหล่อลื่น  แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน  หัวฉีด
 ระบบจุดระเบิด  จุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์
 ระบบคลัทช์  แบบเปีกยหลายแผ่นซ้อนกัน
 ระบบเกียร์  6 สปีด
ระบบสตาร์ท  สตาร์ทมือ
น้ำมันเชื้อเพลิง  E20,91,95
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง 23 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง  –
กว้าง*ยาว*สูง  –
น้ำหนักรวม 230 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือน

หน้า :โช้คแบบUPSIDE DOWN 48 มม.

หลัง : โมโนโช้ค

ระบบเบรก

หน้า : ดิสก์เบรคคู่ขนาด BREMBO 320 MM. ปั้มเบรก 2 ลูกสูบ พร้อม ABS

หลัง : ดิสก์เบรค BREMBO 268 MM. ปั้มเบรก 2 ลูกสูบ พร้อม ABS

ยาง/ล้อ

หน้า : 120/70-R19

หลัง : 170/60 R17

Innovative QBIX Automatic

กระแสเหมือนจะเงียบๆ หายไปสำหรับรถออโตเมิกแต่ละค่ายหันไปแข่งขันแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มของรถสปอร์ต แต่ลืมไปว่าเม็ดเงินส่วนใหญ่มาจากรถตลาดที่สามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวกสบาย

การเปิดตัวของ QBIX ที่ฮือฮาในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา อาจได้รับการตอบรับเพียงชั่วครู่ชั่วคราว แต่เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เห็นว่ารถออโตเมติกเทรนด์ใหม่นั้นสามารถที่จะสร้างความโดดเด่นได้ไม่น้อย อย่างเช่นคันนี้ที่เน้นการปรับแต่งภายนอก เพิ่มเติมสีสันและอุปกรณ์แต่ง ดูเหมือนจะเรียบง่าย แต่ก็โดดเด่นโดยใช้สี และการตัดลวดลายใหม่
ตัวรถทรงเหลี่ยมๆ โค้งๆ ขนาดไม่ใหญ่มาก ก็จะเน้นการแต่งที่อุปกรณ์เสริม ชุดการควบคุม แฮนด์บาร์ ค้ำด้วยขายึดที่เป็นชุดเดียวกับกระจกมองหลัง ประกับคันเร่งอลูมินัมสายเร่งคู่ ป้องกันสายคันเร่งค้าง ปลอกแฮนด์ยางนิ่ม RCB ก้านเบรกปรับระดับ และสวิตช์ ปิด/เปิด สตาร์ทไฟฟ้าใหม่ ชุดเรือนไมล์ ฟูลดิจิตอลอ่านค่าได้ง่ายชัดเจน ช่องเก็บของอินเนอร์มีช่องชาร์ทไฟสำหรับ เครื่องเล่น โทรศัพท์, แท็บเล็ต และ GPRS สำหรับนำทาง เบาะนั่งมีการปรับแต่งใหม่ครอบปิดท้ายนั่งคนเดียวสำหรับสายโสด เป็นเบาะที่ดีไซน์ให้รับกับก้นนั่งไม่ลื่นไถล พื้นวางเท้ายกขึ้น มีกันโครงเสริมความแข็งแรง ช่องสำหรับเติมน้ำมันยึดด้วยขาอลูมินัมง่ายต่อการเปิด

วงล้อแม็ก หน้า/หลัง ดิสก์เบรกหน้า เปลี่ยนจานดิสก์แบบให้ตัวได้ คาลิเปอร์ทรงสปอร์ตลูกสูบคู่ รูไล่ด้านข้างพร้อมด้วยสายถักไล่น้ำมัน ดรัมเบรกหลังขารั้งอลูมินัม ส่วนของเครื่องยนต์เสริมความจี๊ดจ๊าดด้วยท่อไอเสียเดินย้อนปลายทรงกล่อง

 

TRK 502

 

เครื่องยนต์
 แบบ   4 จังหวะ/2 สูบเรียง 4 วาล์ว
 ปริมาตรกระบอกสูบ 499.6 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด  11.5:1
 กระบอกสูบ x ระยะชัก 69.0 x 66.8 mm
 ระบบหล่อลื่น  แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน  หัวฉีด
 ระบบจุดระเบิด  จุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์ EFI
 ระบบคลัทช์  คลัทช์เปียก
 ระบบเกียร์  เกียร์ 6 สปีด
ระบบสตาร์ท  สตาร์ทมือ
น้ำมันเชื้อเพลิง  E20,91,95
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง  20 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง  –
กว้าง*ยาว*สูง 912 x 2,180 x 1,465 มิลลิเมตร
น้ำหนักรวม  210 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือน

หน้า : โช้คหน้า Upside-Down

หลัง : โช้คอัพเดี่ยวแบบสวิงอาร์ม

ระบบเบรก

หน้า : ดิสก์เบรกคู่ + ABS

หลัง : ดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 260 มม. + ABS

ยาง/ล้อ

หน้า : 120/70-17

หลัง : 160/60-17

 

Z125 PRO

เครื่องยนต์
 แบบ 4 จังหวะ 1 ลูกสูบ SOHC, 2 วาล์ว
 ปริมาตรกระบอกสูบ  125 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด 9.8:1
 กระบอกสูบ x ระยะชัก 56.0 x 50.6 mm
 ระบบหล่อลื่น  แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน  หัวฉีด
 ระบบจุดระเบิด จุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์
 ระบบคลัทช์  ครัทช์เปียก
 ระบบเกียร์  4 สปีด
ระบบสตาร์ท สตาร์ทมือ
น้ำมันเชื้อเพลิง E20,91,95
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง  7.4 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง  –
กว้าง*ยาว*สูง 740 * 1,700 * 1,005มิลลิเมตร
น้ำหนักรวม 101 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือน

หน้า : โช้คหน้าหัวกลับ ปรับ PRELOAD และ REBOUND ได้

หลัง :โช้คหลังแบบออฟเซต ปรับ PRELOAD 4 ระดับ แนวนอน

ระบบเบรก

หน้า : Disc

หลัง : Disc

ยาง/ล้อ

หน้า : 100/90ZR12M/C (49J)

หลัง : 120/70ZR12M/C (51L)

Z125

เครื่องยนต์
 แบบ 4 จังหวะ 1 ลูกสูบ SOHC, 2 วาล์ว
 ปริมาตรกระบอกสูบ  125 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด 9.8:1
 กระบอกสูบ x ระยะชัก 56.0 x 50.6 mm
 ระบบหล่อลื่น  แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน  หัวฉีด
 ระบบจุดระเบิด จุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์
 ระบบคลัทช์  ครัทช์เปียก
 ระบบเกียร์  4 สปีด
ระบบสตาร์ท สตาร์ทมือ
น้ำมันเชื้อเพลิง E20,91,95
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง  7.4 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง  –
กว้าง*ยาว*สูง 740 * 1,700 * 1,005มิลลิเมตร
น้ำหนักรวม 101 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือน

หน้า : ช้คแบบหัวกลับ ขนาด 30 มม.

หลัง : โช๊คเดี่ยว แบบออฟเซ็ตแนวนอน ปรับระดับได้

ระบบเบรก

หน้า : Disc

หลัง : Disc

ยาง/ล้อ

หน้า : 100/90ZR12M/C (49J)

หลัง : 120/70ZR12M/C (51L)

KX85

 

เครื่องยนต์
 แบบ 2 จังหวะ 1 ลูกสูบ Piston reed valve
 ปริมาตรกระบอกสูบ  84 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด 10.9:1
 กระบอกสูบ x ระยะชัก 48.5x 45.8 mm
 ระบบหล่อลื่น  แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน คาร์บูเรเตอร์ Keihin PWK 28
 ระบบจุดระเบิด จุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์
 ระบบคลัทช์ แบบเปียกสั่งงานด้วยสายสลิงจากก้านคลัทช์บนแฮนด์ฝั่งซ้าย
 ระบบเกียร์ 6 เกียร์ แบบ Return
ระบบสตาร์ท สตาร์ทเท้า
น้ำมันเชื้อเพลิง E20,91,95
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง  5 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง  –
กว้าง*ยาว*สูง 765 x 1,920  x 1,150  มิลลิเมตร
น้ำหนักรวม 77 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือน

หน้า :  โช้คอับเทเลสโคปิคหัวกลับ ขนาด 36 มม.ปรับตั้งค่าความกระด้างแข็งได้ 20 ระดับ

หลัง : โช้คอับเดี่ยว บอกต่อด้วยกระปุกซับแท้งค์ปรับตั้งค่าความกระด้างแข็งได้ 24 ระดับ

ระบบเบรก

หน้า : Disc

หลัง : Disc

ยาง/ล้อ

หน้า : 70/100-19 42M

หลัง : 90/100-16 52M

KX65

 

เครื่องยนต์
 แบบ 2 จังหวะ 1 ลูกสูบ Piston reed valve
 ปริมาตรกระบอกสูบ  64 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด 8.4:1
 กระบอกสูบ x ระยะชัก 44.5 x 41.6 mm
 ระบบหล่อลื่น  แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน คาร์บูเรเตอร์ Keihin PWK 28
 ระบบจุดระเบิด จุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์
 ระบบคลัทช์  ครัชเปียก
 ระบบเกียร์ 6 เกียร์ แบบ Return
ระบบสตาร์ท สตาร์ทเท้า
น้ำมันเชื้อเพลิง E20,91,95
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง 3.8 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง  –
กว้าง*ยาว*สูง 760 x 1,590 x 995 มิลลิเมตร
น้ำหนักรวม 57 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือน

หน้า :  telescopic fork

หลัง : Bottom-Link Uni-Trak

ระบบเบรก

หน้า : Disc

หลัง : Disc

ยาง/ล้อ

หน้า : 60/100-14 30M

หลัง : 80/100-12 41M

 

KLX250

 

เครื่องยนต์
 แบบ   4 จังหวะ 1สูบ DOHC, 4 วาล์ว
 ปริมาตรกระบอกสูบ  249 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด 11.0:1
 กระบอกสูบ x ระยะชัก  72.0 x 61.2 mm
 ระบบหล่อลื่น  แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน คาร์บูเรอเตอร์ Keihin CVK34
 ระบบจุดระเบิด จุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์
 ระบบคลัทช์  ครัทช์เปียก
 ระบบเกียร์  6 เกียร์ แบบ Return
ระบบสตาร์ท สตาร์ทไฟฟ้า
น้ำมันเชื้อเพลิง E20,91,95
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง 7.7 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง  –
กว้าง*ยาว*สูง 820 x 2,200 x 1,205 มิลลิเมตร
น้ำหนักรวม  126 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือน

หน้า :  โช้คอัพแบบหัวกลับ ขนาด 43 มม

หลัง :  โช้คเดี่ยว-ยูนิแทร็ค แบบใหม่ ปรับได้ 16 ระดับ

ระบบเบรก

หน้า : ดิสก์เบรค ขนาด 250 มม. ลูกสูบคู่

หลัง : ดิสก์เบรค ขนาด 240 มม. ลูกสูบเดี่ยว

ยาง/ล้อ

หน้า :  3.00-21 51P

หลัง : 4.60-18 63P