Super Cub 2018

เครื่องยนต์
 แบบ ระบบจ่ายน้ำมันหัวฉีด  4 จังหวะ/ 1 สูบ
 ปริมาตรกระบอกสูบ  109.17 cc
 อัตราส่วนกำลังอัด  9.3:1
 กระบอกสูบ x ระยะชัก  50.0 * 55.6 mm
 ระบบหล่อลื่น  แบบเปียก
 ระบบจ่ายน้ำมัน  หัวฉีด
 ระบบจุดระเบิด  จุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์
 ระบบคลัทช์  ครัทช์เปียกหลายแผ่นซ้อนกัน
 ระบบเกียร์  เกียร์วน 4 ระดับ
ระบบสตาร์ท  สตาร์ทมือ,สตาร์ทเท้า
น้ำมันเชื้อเพลิง  E20,91,95
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง  4.2 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง   –
กว้าง*ยาว*สูง  694 * 1858 * 1144 มิลลิเมตร
น้ำหนักรวม  101 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือน

หน้า : โช้คหน้าแบบเทเลสโคปิค

หลัง : โช้คอัพแบบสวิงอาร์ม

ระบบเบรก

หน้า : ดรัมเบรก

หลัง : ดรัมเบรก

ยาง/ล้อ

หน้า : 70/90-17 M/C 38P

หลัง : 80/90-17 M/C 5oP

 

2018 Honda Redmoto : CRF400RX Supermoto

สำหรับ CRF4500RX enduro และ CRF400RX endure นี้จะเป็นโมเดลพิเศษจาก Honda Redmoto ที่เป็นผู้จำหน่ายในอิตาลี ได้ทำการพัฒนาปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อตลาดในอิตาลีโดยเฉพาะดังนั้นพื้นฐานบางอย่างอาจจะมีแตกต่างไปจากโมเดลปกติทั่วไปอยู่บ้าง โดยใน CRF450RX endure นั้นจะเป็นรถในนิยามที่ว่า a race ready endure machine หรือตรงๆคือ รถแข่งเอ็นดูโร่ นั่นเอง โดยจะมาพร้อมกับระบบกันสะเทือนเฉพาะสำหรับการแข่งเอ็นดูโร่ endure-spec suspension , PGM-Fi และ EMSB(Engine Mode Select Button) และ mapping ที่เซ็ทมาโดยเฉพาะเพื่อการใช้งานในแบบเอ็นดูโร่ ซึ่งโหมดการขับขี่ใน Mode1จะเป็นแบบ Aggressive : Mode2 จะเป็นแบบ Enduro : Mode3 จะเป็นแบบ Extreme วงล้อหลังขนาด 18 นิ้ว ใช้ระบบสตาร์ทไฟฟ้า electric start ซึ่งจะไม่มีคันสตาร์ทติดตั้งมาให้ แบตเตอรี่ Li-On ใหม่ที่นำหนักลดลงมากกว่า 600 กรัม หลอดไฟแบบ Full LED เป็นต้น

ถัดมาที่ CRF400EX Enduro เป็นรถที่ทาง Red Moto ได้ปรับลดกำลังเครื่องยนต์ให้มีการขับขี่ที่นุ่มนวลมากขึ้น ควบคุมได้ง่ายดายมากขึ้น ด้วยการปรับขนาดเครื่องยนต์ลงมาอยู่ที่ 413 ซีซี เพื่อรองรับนักแข่งในระดับ hobby-rider หรือผู้ขี่ที่ต้องการสนุกสนานเป็นกิจกรรมยามว่าง ที่ต้องการสัมผัสถึงประสิทธิภาพที่นุ่มนวลมั่นคงของแชสซี่ส์Honda ซึ่งเป็นเฟรมเจเนอเรชั่นที่ 7 แบบ Aluminium beam frame ที่ใช้ในรถวิบากสมรรถนะสูงของHonda พร้อมกันนี้ได้ตั้งค่า EMSB มาให้ 3 โหมด คือ Mode1แบบ Aggressive : Mode2 แบบ Soft : Mode3แบบ Supersoft โดยพื้นฐานอื่นนั้นยังคงแบบเดียวกับ CRF450RX Enduro

พร้อมกันนี้ Redmoto ยังได้ส่ง CRF450RX Supermoto ที่มาพร้อมกับนิยาม Excitement on the road ที่เป็นรถสไตล์ซูเปอร์โมโตที่มีสเปคในระดับรถแข่งที่ได้มีการปรับแผงคอ หรือ Tripple clamp ใหม่ รวมทั้งติดตั้งถังเชื้อเพลิงขนาด 8.5 ลิตรเพื่อเพิ่มระยะทางในการใช้งาน และเสริมสมรรถนะการหยุดรถที่มีประสิทธิภาพด้วยเบรก Brembo ที่มีขนาดจานดิสก์หน้า 320 มม. โดยได้เซ็ทค่า EMSB มาสามโหมด คือ Mode1:Standard , Mode2 :Rain , Mode3 : Aggressive

เดอะด๊อกเตอร์ VR46 ไล่บู๊สุดมันส์บิดยามาฮ่า M1 ยืนโพเดี้ยมโมโตจีพี 2018 สนามแรก

แชมป์โลก 9 สมัย “เดอะด๊อกเตอร์” วาเลนติโน่ รอสซี่ #46 ยอดนักบิดชาวอิตาเลี่ยนสังกัดทีมมูวิสตาร์ ยามาฮ่า โมโตจีพี โชว์ฟอร์มแกร่งสุดเก๋า กระชากคันเร่งรถแข่ง YZR-M1 ดุดันไล่บู๊นักแข่งรุ่นน้องแบบสุดมันส์ ก่อนทะยานเข้าเส้นคว้าชัยชนะอันดับที่ 3 ยืนโพเดี้ยมศึกโมโตจีพี 2018 สนามแรกได้สำเร็จ โดยทีมเมทสุดหล่อ มาเวริค บีญาเลส #25 นักบิดเลือดกระทิงดุก็ร้อนแรงไม่แพ้กันแม้สตาร์ทจากกริดที่ 12 แต่สามารถไล่แซงคู่แข่งขึ้นมาจนสามารถจบการแข่งขันได้ในอันดับที่ 6 ได้ในที่สุด ส่วน โยฮัน ซาโก้ #5 นักบิดฝรั่งเศสสังกัดทีมมอนสเตอร์ ยามาฮ่า เทคทรีเจ้าของตำแหน่งรุกกี้ปี 2017 ที่คว้าตำแหน่งโพลโพซิชั่นแรกของปีจบอันดับที่ 8 หลังจากที่เป็นผู้นำจ่าฝูงได้ถึง 17 รอบก่อนแผ่วปลายในช่วงท้ายเกม และเพื่อนร่วมทีมอย่าง ฮาฟิซ ไซอาห์ริน #55 นักบิดมาเลเซียก็สามารถเก็บแต้มในการลงชิงชัยรุ่นพรีเมี่ยมคลาสเป็นครั้งแรกด้วยการจบการแข่งขันในอันดับที่ 14 โดยการแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้น ณ สนามโลเซล อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศกาตาร์ เมื่อเร็วๆ นี้

ฮอนด้า จัดแข่งขัน “ทักษะขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ระดับประเทศ ครั้งที่ 15”

บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เดินหน้ายกระดับมาตรฐานการทำกิจกรรมขับขี่ปลอดภัยภายใต้โครงการ “ฮอนด้า เมืองไทย ขับขี่ปลอดภัย”  (Safety Thailand) จัดการแข่งขัน “ทักษะขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ระดับประเทศ ครั้งที่ 15″ เฟ้นหาสุดยอดครูฝึกขับขี่ปลอดภัย เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพทักษะการขับขี่ปลอดภัยให้กับ ครูฝึกประจำร้านผู้จำหน่าย อาจารย์และนักศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จากทั่วประเทศ ณ ศูนย์ฝึกอบรมขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า กรุงเทพฯ

นายอารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า การแข่งขันทักษะขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ระดับประเทศ ครั้งที่ 15 มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานของ Honda Safety Riding และพัฒนาทักษะของวิทยากรครูฝึกขับขี่ปลอดภัย ตลอดจนสร้างความเข้าใจและสัมพันธ์อันดีของวิทยากรระหว่างภาครัฐบาลและภาคเอกชน ในการพัฒนายกระดับคุณภาพการขับขี่ปลอดภัย รวมทั้งสร้างขวัญกำลังใจแก่วิทยากรครูฝึกขับขี่ปลอดภัย โดยมีครูฝึกจากทั่วประเทศเข้าร่วมแข่งขัน ทั้งสิ้น 207 คน โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องผ่านการแข่งขันทั้งหมด 3 สถานี ประกอบด้วย สถานีทดสอบที่ 1 : การเบรก (Braking) เพื่อวัดความสามารถในการเบรก ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญยิ่งของครูฝึก โดยจะทดสอบการเบรกหยุดรถจักรยานยนต์อย่างนุ่มนวล ในระยะทางสั้นที่สุด พร้อมด้วยท่าทางการขับขี่ที่ถูกต้องสมเป็นครูฝึก, สถานีทดสอบที่ 2 : ความคล่องตัว (Slalom) เพื่อทดสอบความคล่องตัวในขณะขับขี่ สามารถบังคับรถจักรยานยนต์ ใช้คันเร่ง เกียร์ เบรก ท่าทางการขับขี่ได้อย่างสัมพันธ์กัน และสถานีทดสอบที่ 3 : การขับขี่ทรงตัวบนกระดานแคบ (Narrow Plank) เพื่อทดสอบความสามารถในการขับขี่ทรงตัว ด้วยความเร็วต่ำ เคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ และใช้ทางท่าทางการขับขี่ที่ถูกต้อง โดยผู้เข้าแข่งขันทุกคนมีคะแนนสะสมคนละ 1,000 คะแนน ในทุกสถานี ซึ่งคะแนนจะถูกตัดออกไปในกรณีที่ผู้แข่งขันเข้าข่ายที่ต้องเสียคะแนนตามที่ถูกระบุอยู่ในแต่ละสถานี เช่น รถล้ม, เท้าแตะพื้น, ชนกรวยยาง ฯลฯ โดยผู้ที่มีคะแนนสะสมสูงสุดหลังแข่งขันครบทั้ง 3 สถานี จะเป็นผู้ชนะ

ผลการแข่งขันปรากฏว่าผู้ชนะในแต่ละประเภท มีดังนี้ รุ่นบิ๊กไบค์ ผู้ชนะเลิศได้แก่ นายบุญมา ไชยชนะ (บริษัท เกียรติสุรนนท์อุบลราชธานี จำกัด จ.อุบลราชธานี)  รุ่นครูฝึกชาย ผู้ชนะเลิศได้แก่ นายนพดล คงมณี (บริษัท ศุภกิตติ์มอเตอร์สุราษฎร์ธานี จำกัด จ.สุราษฎร์ธานี) รุ่นครูฝึกหญิงผู้ชนะเลิศได้แก่ นางสาวสงกรานต์ สารปิง (บริษัท ที เค ซี มอเตอร์ไบค์ จำกัด จ.กำแพงเพชร) รุ่นครู-อาจารย์ ผู้ชนะเลิศได้แก่ ว่าที่ร.ต.ธีระพล กุลสิงห์ (วิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร) รุ่นนักเรียน ผู้ชนะเลิศได้แก่ นายครรชิต ขันทอง (วิทยาลัยเทคนิตกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร)

 

โดยสำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจที่จะเสริมสร้างทักษะการขับขี่ปลอดภัยจากเหล่าสุดยอดครูฝึกเหล่านี้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 02-7576111-2 , 02-7353999 หรือสามารถเดินทางไปติดต่อด้วยตัวเองได้ที่ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้าทั้ง 4 แห่ง กรุงเทพฯ  สมุทรปราการ เชียงใหม่ ภูเก็ต และศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้าของร้านผู้จำหน่ายฯทั่วประเทศอีก 13 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พิษณุโลก กำแพงเพชร ราชบุรี เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี ยโสธร อุบลราชธานี บุรีรัมย์ นครสวรรค์ ระยอง สงขลา อำนาจเจริญ

CB150R Concept Scrambler Cafe

พูดถึงสำนักตกแต่ง อุดมการณ์ช่าง หลายต่อหลายท่านจะนึกถึงการแต่งรถ งานแปลง งานสร้าง ที่เป็นงานถนัดและได้รับการยอมรับโดยทั่วกันในวงการ และสำหรับ Honda CB150R Concept Scrambler Cafe’ คันนี้ก็เข้าเป้าตามความคาดหมายด้วยไอเดียการปรับแต่งที่โดดเด่นและอุปกรณ์เสริมที่ทำให้ตัวรถน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

ตามากสีน้ำตาลจาก Noi Watdan 24 เข้าชุดกันกับปลอกครอบกระบอกโช้คหนังถักสีน้ำตาลให้อารมณ์คาเฟ่มากๆมาดูกันที่วงล้อซี่ลวดขนาด 17 นิ้ว รับกับยาง Timsun หน้า120/80-17 หลัง 140/80-17 พร้อมกับชุดเบรก หน้าและหลัง เป็นงานสร้างทั้งหมด ด้านหน้าเสริมบังโคลนหน้าขนาดเล็กงานสร้าง ใส่การ์ดบังไฟหน้า เปลี่ยนแฮนด์ใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิมและยกแฮนด์ให้สูงขึ้นด้วยตุ๊กตาแฮนด์ ติดกระจกมองหลังทรงเล็กไว้ มือเบรก มือคลัทซ์ ใช้ของ GTR ปรับระดับ ปั๊มลอยใช้ RCB ตู้ปลา ปลอกแฮนด์หนังแท้ ติดปลายแฮนด์ H2C การ์ดบังหม้อน้ำ Wasps การ์ดบังใต้ท้องงานสร้าง Kitaco เดินท่อสแตนเลสยกขึ้นบน ปลายท่อออกซ้าย โช้คหลังมั่นใจใช้ Combiz ยกเฟรมหลังออกตัดโครงทำเบาะพร้อมสร้างไฟท้ายฝังไว้ใต้เบาะสว่างชัด

สนใจแต่งรถงานแปลง งานสร้าง หรืออยากที่จะแต่งแบบนี้ก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์ จัดไปถ้าชอบ

“ยามาฮ่า” ทุ่มทุนเอาใจคอมอเตอร์สปอร์ต หนุน “พีพีทีวี” ยิงสด โมโตจีพี 19 สนาม

นายธีระพงษ์ โอภาสกรกุล  ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายกีฬายานยนต์ และสถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า พร้อมผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และนักแข่งสังกัด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ร่วมงานแถลงข่าวการถ่ายทอดสดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด รายการ MotoGP 2018 ในฐานะที่ยามาฮ่าเป็นผู้สนับสนุนการถ่ายทอดสดที่ทางสถานีโทรทัศน์พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 ได้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดการแข่งขันตลอดฤดูกาล 2018 โดยมี นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ (คนกลาง) กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 ร่วมถ่ายภาพในงานแถลงข่าวครั้งนี้ ที่จัดขึ้น ณ ห้องปาริชาติ โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน เมื่อเร็วๆ นี้

 

 

 

กระหึ่มโฮมเรซ “มุกข์#44” นักบิดสาวแกร่งคว้าแชมป์ศึกเอเชียฯ

เสียงเพลงชาติไทยกระหึ่มโฮมเรซสะใจกองเชียร์ หลังสาวแกร่งหนึ่งเดียวของไทย “มุกข์-มุกข์ลดา สารพืช” สังกัดเอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ระเบิดฟอร์มสุดยอดเหนือเหล่านักบิดชาย สามารถผงาดคว้าแชมป์ได้สำเร็จในศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี. เรซสอง ที่สนามช้างฯ เซอร์กิต

 

 

การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2018 สนามแรก จัดขึ้นบนสังเวียนช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร ในวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม 2561 เป็นการชิงชัยเรซที่สองของทุกรุ่นการแข่งขัน

โดยรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี. แข่งขันทั้งสิ้น 10 รอบสนาม ผลปรากฏว่า “มุกข์-มุกข์ลดา สารพืช” หมายเลข 44 นักบิดสาวแกร่งหนึ่งเดียวของไทยจาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเหนือนักบิดชายทั้งหมดในรุ่นนี้ หลังควบตัวแข่งฮอนด้า CBR 250 RR ออกสตาร์ทในกริดที่ 8 ก่อนเข้าวินรับธงตราหมากรุกเป็นคันแรก ด้วยเวลา 19 นาที 11.848 วินาที ขณะที่ทีมเมท “นิว-กฤชพร แก้วสนธิ” หมายเลข 35 นักบิดหน้าใหม่ประจำทีม จบการแข่งขันในอันดับที่ 7 ด้วยเวลาตามหลัง 1.302 วินาที เก็บแต้มสะสมได้ทั้งสองเรซ

มุกข์ลดา กล่าวภายหลังคว้าแชมป์เรซที่ 2 ของเอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. ที่บุรีรัมย์ ว่า “เป็นวันที่ยอดเยี่ยมของ มุกข์ มากๆ ค่ะ เมื่อวานเรามีความผิดพลาดเล็กน้อย และวันนี้เราแก้ไขข้อผิดพลาดทุกอย่างได้ รู้สึกดีใจมากที่คว้าแชมป์ในวันนี้ให้กับคนไทย และให้กับทีม ขอขอบคุณทีมงานที่ทำงานอย่างหนักตลอดสุดสัปดาห์ และขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยที่ให้กำลังใจจากทั่วประเทศ”

ขณะที่รุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี. ดวลความเร็ว 18 รอบสนาม สองนักบิดค่ายปีกนก “แชมป์-ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์” หมายเลข 123 และคู่หูนักบิดชาวญี่ปุ่น “เคซูเกะ คูริฮาระ” หมายเลข 88 สามารถประเดิมผลงานสนามแรกของปีได้ไม่เลว หลังเก็บแต้มแรกได้ทั้งคู่ ด้วยการจบการแข่งขันเรซนี้ในอันดับที่ 12 และ 13 ตามลำดับ

สำหรับสนามต่อไปของศึกเอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2018 เตรียมจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 19-22 เมษายน นี้ ที่สนามเดอะ เบนด์ มอเตอร์สปอร์ต พาร์ก ประเทศออสเตรเลีย.

 

กีฬามอเตอร์สปอร์ตชาวไทย สามารถติดตามข่าวสารและร่วมส่งแรงใจเชียร์ทีมแข่งสัญชาติไทย “เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ได้ทางเว็บไซต์ www.aphondaracingthailand.com

2018 Husqvarna FC450 Rockstar Edition

หลังจากที่เปิดจำหน่าย FC450 ในเวอร์ชั่นสแตนดาร์ดไปตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา สำหรับ Mxer โมเดล 2018 จาก Husqvarna จนกระทั่งล่าสุดได้มีการเปิดตัวทีมแข่งแฟคทอรี่ที่จะร่วมแข่งขันใน AMA Supercross ก็ได้มีการเปิดตัวรถแข่งของทีมโรงงาน หรือ workbikes ซึ่งพิเศษและแตกต่างกับวิถีของรถแข่งทีมโรงงานทั่วไป คือ จะมีการเปิดจำหน่ายสำหรับผู้สนใจด้วยนั่นเอง และนี่คือรถโมโตครอสตัวท็อปสุดจาก Husqvarna ในพิกัด 450F ด้วยรุ่น FC450 Rockstar Edition

ด้วยความตั้งใจที่จะพัฒนารถแข่งให้สามารถลงชิงชัยในเกมระดับสูงสุดแห่งวงการซูเปอร์ครอสที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นรายการที่เป็นสุดยอดของการชิงชัย อย่าง AMA Supercross ดังนั้นจึงได้นำเอาพื้นฐานของรถซูเปอร์ครอส/โมโตครอส รุ่น FC450 มาทำการปรับแต่งเพิ่มเติมสมรรถนะ ซึ่งในเบื้องต้นของข้อมูลการพัฒนา FC450 Rockstar Edition นั้น อยู่ที่เครื่องยนต์กับแชสซีส์ เพื่อให้มีสมรรถนะที่มากเพียงพอกับการยืนหยัดในสนามแข่งขันที่เต็มไปด้วยยอดนักแข่งในระดับโลก  ในส่วนของเครื่องยนต์สี่จังหวะ SOHC นั้นได้รับการปรับชิ้นส่วนจนมีส่วนช่วยให้มีความกระทัดรัดยิ่งขึ้นจากการเปลี่ยนชิ้นส่วนฝาสูบใหม่ จนมิติภายนอกมีความแตกต่างไปเล็กน้อยจากเวอร์ชั่นสแตนดาร์ดรวมทั้งน้ำหนักที่ลดลงอีกด้วย อีกทั้งชิ้นส่วนภายในบางอย่างที่ปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มสมรรถนะให้ได้ขุมพลังที่เพิ่มขึ้นนี้ จึงจำเป็นต้องมีการคำนึงถึงประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ดังนั้น ระบบระบายความร้อนจึงได้รับการอัพเกรดเพิ่มเติมขึ้น เพื่อลดความร้อนในขณะที่เครื่องยนต์ต้องทำงานอย่างหนักจากการอัพเกรดชิ้นส่วนเครื่องยนต์ รวมทั้งการปรับเปลี่ยนชุดเกียร์บ๊อกซ์ใหม่ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานในสนามแข่งขันแบบซูเปอร์ครอสโดยเฉพาะ นอกจากนั้นยังได้มีการปรับในส่วนของระบบไอเสียในส่วนของการพัฒนาท่อไอเสียให้กับรถแข่งใหม่

จากชิ่นส่วนและการปรับแต่งเพื่อเสริมสมรรถนะด้านของกำลังขับเคลื่อนให้กับเครื่องยนต์ใหม่แล้ว จึงจำเป็นต้องมีการเสริมความแข็งแกร่งในส่วนของแชสซีส์ของตัวรถแข่งใหม่ เพื่อเพิ่มความเที่ยงตรงและความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างของเฟรมอีกทั้งยังมีการลดน้ำหนักด้วยการออกแบบซับเฟรมใหม่ที่ช่วยให้น้ำหนักลดลงจากเดิม 250 กรัม และยังได้ปรับในส่วนของชุดแผงคอโดยเฉพาะส่วน Upper Triple Clamp ใหม่ อีกทั้งยังได้นำชิ้นส่วนที่ผลิตใหม่จากวัสดุพิเศษอย่าง carbon fifififfiiber มาใช้แทนของเดิม อาทิ การ์ดป้องกันต่างๆ และยังมีการเปลี่ยนแฮนเดิ้ลบาร์ใหม่เป็น Pro Taper ซีรี่ส์ใหม่ รวมทั้งการปรับแบบของชิ้นส่วนของ body part ใหม่ด้วย โดย Husqvarna FC450 Rockstar Edition นี้ จะพร้อมวางจำหน่ายในทวีปอเมริกาเหนือเริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป หลังจากที่การแข่งขัน AMA Supercross เริ่มเปิดฤดูกาลได้หนึ่งเดือน โดยนักแข่งในทีม Rockstar Energy Husqvarna Factory Racing จะนำทีมโดย Jason Anderson กับ Dean Wilson ที่จะนำ FC450 เวอร์ชั่น workbikes นี้ ลงไล่ล่าความสำเร็จใน 2018 SX series

สำหรับข้อมูลสเปคพื้นฐานของรถมีดังนี้

ENGINE
Engine type Single cylinder, 4-stroke
Displacement 449.9 ccm
Bore/stroke 95/63.4 mm
Compression ratio 12.75:1
Starter/battery Electric starter / Lithium Ion 12V 2.0Ah
Transmission 5 gears
Fuel system Keihin EFI, throttle body 44 mm
Control 4 V / SOHC with rocker levers
Lubrication Pressure lubrication with 2 oil pumps
Gear ratios 16:32 18:30 20:28 22:26 24:24 –
Primary ratio 31:76
Final drive 13:48
Cooling Liquid cooling
Clutch Wet multi-disc DDS-clutch, Magura hydraulics
Ignition / Engine Management Keihin EMS

CHASSIS
Frame Central double-cradle-type 25CrMo4 steel
Subframe Carbon fiber reinforced polyamide
Handlebar Pro Taper, Aluminum Ø 28/22 mm
Front suspension WP USD, AER 48
Rear suspension WP Monoshock with linkage
Suspension travel front/rear 310/300 mm
Front/rear brakes Disc brake Ø 260/220 mm
Front/rear rims 1.60 x 21”; 2.15 x 19” DID
Front/rear tires 80/100-21”; 120/90-19”
Chain 5/8 x 1/4”
Silencer Aluminum
Steering head angle 26.1°
Triple clamp offset 22 mm
Wheel base 1,485 ± 10 mm / 58.5 ± 0.4 in
Ground clearance 370 mm / 14.6 in
Seat height 960 mm / 37.8 in
Tank capacity, approx. 7 l / 1.85 gal
Weight, without fuel, approx. 100.5 kg / 221.6 l

ซาโก้-รอสซี่-บีญาเลส ท็อปไฟว์ เวลาซ้อมดีสุดบนแทร็คโลเซล เซอร์กิต

นักแข่งโมโตจีพีของยามาฮ่า ฟอร์มสุดยอดจากการซ้อม MotoGP™ Official Test Losail ประเทศกาต้าร์ ทั้ง วาเลนติโน่ รอสซี่-มาเวริค บีญาเลส ทีมมูวิสตาร์ ยามาฮ่า โมโตจีพี และโยฮัน ซาโก้-ฮาฟิซช์ ไซอาห์ริน ทีมมอนสเตอร์ ยามาฮ่า เทคทรี ต่างทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดย โยฮัน ซาโก้ นำ Yamaha YZR-M1 ทำเวลาดีที่สุด ตามด้วยวาเลนติโน่ รอสซี่ และมาเวริค บีญาเลส อันดับที่ 5 ส่วน ฮาฟิซช์ ไซอาห์ริน มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องได้เร็วขึ้น อยู่ในอันดับที่ 16 จากเวลารวม 3 วันของการซ้อม

วันสุดท้ายของการซ้อมรถแข่งโมโตจีพีในสนามโลเซล เซอร์กิต ประเทศกาต้าร์ ก่อนที่จะเปิดฤดูกาลแข่งโมโตจีพี 2018 ใน 2 อาทิตย์ที่จะถึง มีการให้ทดสอบสนามแข่งแบบ Wet Track ในช่วงหลังการซ้อมบนแทร็คปกติเพื่อให้ทีมแข่งได้เก็บข้อมูลบนแทร็คที่ลื่นเผื่อในกรณีมีฝนตกในช่วงแข่งจริง

และในวันสุดท้ายนักแข่งยามาฮ่า ต่างได้พบกับข้อมูลที่ดีสำหรับการปรับเซ็ทอัพรถแข่ง YZR-M1 ปี 2018 โดย โยฮัน ซาโก้ ทำเวลาดีที่สุดของวัน 1:54.029 นาทีในรอบที่ 29 จาก 53 รอบ และวาเลนติโน่ รอสซี่ ทำเวลาตามมาอันดับ 2 อยู่ที่ 1:54.276 นาที ในรอบที่ 42 จาก 49 รอบ ส่วน มาเวริค บีญาเลส ทำเวลาได้ 1:54.471 นาที ในรอบที่ 38 จาก 40 รอบ และฮาฟิซช์ ไซอาห์ริน ทำเวลามาที่ 1:55.273 นาที ในรอบที่ 30 จากการวิ่ง 44 รอบ ซึ่งเป็นเวลาดีที่สุดของ 4 นักแข่งยามาฮ่าจากการซ้อมทั้ง 3 วัน

โยฮัน ซาโก้ อันดับ 1 : 1:54.029 นาที “เป็นการซ้อมที่ดีมากในวันสุดท้าย ผมจบการซ้อมด้วยเวลาดีที่สุด ผมคิดว่าเราน่าจะทำให้ 1’53 ปลาย แต่เราต้องทำความเข้าใจไปทีละขั้นกับการจะขี่ด้วยความเร็ว ซึ่งเป็นการทำงานที่ดีมากทั้งกับทีมในทุกๆ สิ่งที่เราได้ทำตลอดทั้ง 3 วัน นี่ทำให้ผมมั่นใจมาก เมื่อเราลองขี่ต่อเนื่องเหมือนกับการลองเทสต์แบบแข่งจริงมันไม่ได้เร็วเกินไป ผมลองวิ่ง 17 รอบมันอาจจะดูเหนื่อยหน่อยกับวันที่เราซ้อมอย่างหนัก อย่างไรก็ตามรถของเราคงที่และผมรู้สึกเบาใจเป็นอย่างมากกับรถแข่ง ผมมีความสุขมากแต่ต้องเก็บความรู้สึกนี้ไว้ก่อน เพื่อเริ่มต้นกับการแข่งขันในอีก 2 อาทิตย์ข้างหน้า”

วาเลนติโน่ รอสซี่ อันดับ 2: 1:54.276 นาที “ผมแฮปปี้มากหลังจากการซ็อมในช่วงบ่ายได้ผ่านไป เป็นเพราะว่าเราทำงานกันอย่างหนักในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ช่วงบ่ายนี้เราทำงานกับข้อมูลด้วยกันทั้งหมด และผมสามารถทำเวลาที่ดีกับอันดับที่ 2 ซึ่งผมได้พบกับจังหวะที่ดี แต่เวลาของทุกคนใกล้เคียงกันมาก มีนักแข่งหลายคนที่แข็งแกร่ง เรายังมีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับยางหน้า และหลังและผมได้ลองวิ่งแข่งได้ครึ่งทาง เราได้พยายามทำความเข้าใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะดูกันในอีก 2 อาทิตย์”

มาเวริค บีญาเลส อันดับ 5: 1:54.471 นาที “ในช่วง 40 นาทีสุดท้ายผมคิดว่าเราทำได้ดี ผมรู้สึกดีกับรถ แต่ไม่เต็มร้อย เรายังต้องมีการปรับปรุง อย่างไรก็ตาม 3 วันนี้เราทำงานกันอย่างหนักแต่ก็อาจจะมีบางสิ่งที่หายไปบ้างที่ผมไม่สามารถบอกอะไรได้มาก เมื่อเรามีการเปลี่ยนแปลงการเซ็ทรถในช่วง 40 นาทีสุดท้ายผมรู้สึกว่ารถแข่งแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ผมคิดว่าถ้าเรามุ่งหวังจะทำเวลาผมสามารถทำได้ดี หลังจากเปลี่ยนรถแข่งแล้วผมพบว่ารถแข่งสมบูรณ์มากขึ้น ผมเก็บจังหวะได้ดีขึ้น หลังจากวันนี้เราจะได้ข้อสรุปอะไรบางอย่างแล้ว”

ฮาฟิซช์ ไซอาห์ริน อันดับที่ 16: 1:55.273 นาที “ผมมีความสุขมากกับการซ้อมวันสุดท้าย ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะวิ่งได้ 1:55 อ่อน และยืนเวลาได้อย่างสม่ำเสมอ ต้องขอบคุณทีมงานมอนสเตอร์ ยามาฮ่า เทคทรี เราทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ เราทำงานหนักเพื่อจะไปให้ถึงเป้าหมายขยับอันดับไปข้างหน้าให้มากที่สุดเท่าที่เราทำได้ ด้วยความสัตย์จริงเวลาในวันนี้เป็นที่เซอร์ไพร์สสำหรับผม แม้ว่าจะมีการผิดพลาดบ้างในระหว่างการทดลองวิ่งเหมือนแข่งจริง แต่ผมเข้าใจไปกับมันได้เร็ว และรู้ว่าสิ่งใดที่จะต้องทำในวันแข่งขัน ผมตื่นเต้นมาก และต้องขอขอบคุณอีกครั้งกับทีมงานเรา สปอนเซอร์ของเรา และแฟนคลับของเรา พวกเขาเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับผม”

ขุนพล YAMAHA THAILAND RACING TEAM สู้ศึกชิงแชมป์เอเชียสนามแรก เป้าหมายมีเพียงหนึ่งเดียว!!! คว้าโพเดี้ยมทุกรุ่น ต่อหน้ากองเชียร์ไทยในสนามโฮมเรซ

เตรียมระเบิดความมันส์กับเกมการแข่งขันความเร็วสองล้อศึกชิงแชมป์ระดับทวีปเอเชีย ในรายการ FIM ASIA ROAD RACING CHAMPIONSHIP 2018 ซึ่งในปีนี้มีโปรแกรมการชิงชัยด้วยกันทั้งหมด 6 สนาม โดยเปิดฤดูกาลประเดิมความเร้าใจสนามแรกกันที่ประเทศไทย ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 2 – 4 มีนาคม 2561  สำหรับทีม YAMAHA THAILAND RACING TEAM ที่ถือได้ว่าเป็นทีมแข่งระดับท๊อปคลาสของเมืองไทย และระดับเอเชียนั้น ได้เตรียมความพร้อมมาอย่างเต็มที่ ด้วยการจัดทัพนักบิดมาเต็มพิกัดพร้อมขับเคี่ยวชิงบัลลังก์ “แชมป์เอเชีย” กับนักบิดฝีมือระดับพระกาฬจากทั่วทวีปเอเชีย เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำทางด้านมอเตอร์สปอร์ตของเมืองไทย และทวีปเอเชียตัวจริง โดยยังคงส่งขุนพลนักบิดลงทำการชิงชัยด้วยกัน 2 รุ่น คือ SuperSports 600 cc และรุ่น Asia Production 250 cc

โดยในรุ่น SuperSports 600 cc นั้น นำทัพโดย “ตั้น – เดชา ไกรศาสตร์” นักบิดจอมเก๋าเจ้าของแชมป์ในรุ่นนี้ 2 สมัย (ปี 2007 และ 2010) ที่จะผนึกกำลังกับนักแข่งรุ่นน้องอย่าง “โฟลท – รัฐพงษ์ วิไลโรจน์” ซึ่งเข้ามาเสริมทัพในช่วงวินาทีสุดท้ายแทน “เบียร์ – เฉลิมพล ผลไม้” ที่ได้รับบาดเจ็บจากการซ้อมในช่วงที่ทีมเตรียมความพร้อมก่อนเปิดฤดูการแข่งขัน และแพทย์ที่ทำการรักษายังไม่อนุญาตให้ลงทำการแข่งขันในสนามแรก เนื่องจากเกรงจะส่งผลกระทบกับอาการบาดเจ็บมากยิ่งขึ้น โดยนักบิด YAMAHA THAILAND RACING TEAM จะลงแข่งขันด้วยการขับขี่รถแข่ง YZF-R6 รถซูเปอร์สปอร์ตสายพันธุ์แรงจากตระกูล R-Series และวางเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่การคว้าแชมป์ในรุ่น SuperSports 600 cc ให้กลับสู่เมืองไทยอีกครั้ง ส่วนรุ่น Asia Production 250 cc ในปี 2018 นี้ ยังคงนำทัพโดย “ตี – อนุภาพ ซามูล” นักบิดดีกรีแชมป์ Suzuka 4Hrs. ปี 2018 และมีประสบการณ์ในการลงชิงชัยในรุ่นนี้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งจะรวมพลังกับ “ต๋ง – พีรพงศ์ บุญเลิศ” ทีมเมทที่ร่วมกันคว้าแชมป์ Suzuka 4Hrs. และ “ฟอง – คณาทัต ใจมั่น” นักบิดดาวรุ่งยามาฮ่าที่เข้ามาเสริมทีมในรุ่นนี้แทน “เติ้ล – พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง” ซึ่งติดภาระกิจเรื่องการศึกษา โดยสามนักบิด YAMAHA THAILAND RACING TEAM จะใช้รถแข่ง R-Series รุ่น YZF-R25 ลงทำการไล่ล่าตำแหน่งบนโพเดี้ยม และบัลลังก์แชมป์ในปีนี้

สำหรับเกมการแข่งขัน FIM ASIA ROAD RACING CHAMPIONSHIP 2018 จะเริ่มต้นด้วยโปรแกรม Pre-Season Test ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-28 กุมภาพพันธ์ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมอย่างเป็นทางการครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะต่อด้วยเกมเปิดฤดูกาลสนามแรกที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 มีนาคม โดยทั้ง 2 โปรแกรมนี้จะมีขึ้น ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นแทร็ค “โฮมเรซ” สำหรับนักบิดทีม YAMAHA THAILAND RACING TEAM ที่มั่นใจเต็มร้อยว่าจะสามารถทำผลงานระดับมาสเตอร์พีซได้ต่อหน้ากองเชียร์ชาวไทย ด้วยการยืนโพเดี้ยมสูงสุดได้ทั้ง 2 รุ่นที่ลงทำการชิงชัย โดยแฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยสามารถติดตามผลงาน และร่วมส่งกำลังใจให้ทัพนักบิด YAMAHA THAILAND RACING TEAM ในการคว้าบัลลังก์ “แชมป์เอเชีย” ในปีนี้ได้ผ่านทาง Facebook : Yamaha Thailand Racing Team และ Yamaha Society Thailand

Benelli TNT125 Scrambler

เปลี่ยนสู่ความเท่ล้ำสมัยท้าทายกับไอเดียการแต่งรถ จากรถสไตล์เน็คเก็ดไบค์ปรับลุคใหม่จากสำนักแต่ง TONYS BIKE DESIGN ให้กลายเป็น Benelli TNT125 Scrambler ผสมกับศิลปะของ Custom ในแบบอนาคต

การเปลี่ยนลุคใหม่จากอีกสไตล์ให้เป็นรถอีกสไตล์ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป อย่างเช่น TNT125 คันนี้ ที่จัดแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ฉีกแนวไปจากเดิม โดยที่ใช้เมนเฟรมเดิมแต่เพิ่มเติมที่ออพชั่น ช่วงนหน้ายกออกทั้งยวง สร้างหน้ากากไฟใหม่ตามแบบในจินตนาการ ดีไซน์เจาะช่องไฟสปอร์ตไลท์พร้อมไฟเลี้ยว LED ย้ายจุดยึดตำแหน่งไมล์ให้ขึ้นมาอยู่บนแฮนด์เพื่อองค์ประกอบตำแหน่งรถที่โดดเด่นขึ้น สีสันเข้มด้วยสีน้ำตาลคาดเส้นเหลืองโช้คอัพหน้าที่เป็นแบบหัวกลับมีให้มาพร้อมปรับระดับความเตี้ยลงกว่าเดิม ดิสก์เบรกหน้าคาลิเปอร์แบบ 4 พอร์ท แฮนด์บาร์ติดกระจกทรงกลมที่ปลายแฮนด์ เบาะนั่งเป็นชิ้นเดียวโดยตัดแต่งท้ายสั้นลง ไฟท้าย LED ดัดโค้งเข้ารูป ไฟเลี้ยวก็ลดขนาดให้เล็กลง พักเท้าสไตล์สปอร์ตมีแค่สำหรับผู้ขับขี่ โช้คอัพหลังเดี่ยวเซ็ทอัพความหนืดใหม่รองรับการขับขี่ที่เร้าใจมากยิ่งขึ้น

เครื่องยนต์ ขนาดวามจุ 250 ซีซี สูบเดี่ยว ระบายความร้อนด้วยน้ำโดยใช้แผงหม้อน้ำอลูมินัมเสริมความเด่นด้วยสายยางสีต่อเข้าวาล์วด้านใน ป้อนเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด ควบคุมการทำงานด้วยอิเล็กทรอนิกส์ คลุกเคล้ากระบวนการเผาไหม้ถ่ายออกสู่ท่อไอเสียแยกปลายเป็นท่อคู่ออกข้าง Full System ดิสก์เบรกหลังคาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว

เพิ่มองค์ประกอบของรถให้ใหญ่ขึ้นโดยเพิ่มขนาดยาง หน้า 120/60-17 ยางหลัง 160/60-17 เพื่อให้รถดูใหญ่และบึกบึนสมกับเป็น Custom Scrambler ในจิตนาการของ TONYS BIKE DESIGN

YAMAHA FINO125 FITS ALL FEELINGS ความลงตัวใหม่…ใช่ทุกแนว สีใหม่…แนวไหน ก็ใช่เลย

ยามาฮ่า เดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำรถจักรยานยนต์ออโตเมติกแฟชั่นอีกครั้ง พร้อมตอบสนองคนรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยสีสัน ด้วย “YAMAHA FINO125 ใหม่” กับสโลแกน “Fits All Feelings…ความลงตัวใหม่…ใช่ทุกแนว” เต็มเปี่ยมด้วยสีสันแนวใหม่ของออโตเมติกแฟชั่น สีใหม่…แนวไหน ก็ใช่เลย พร้อมอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่โดนใจใช่ทุกแนว…แนวแรง…ด้วยพลังเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด 125 ซีซี, แนวล้ำ…ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะใหม่ Stop & Start System และแนวประหยัด…ด้วยเครื่องยนต์ BLUE CORE และเติมน้ำมันได้หลายประเภทจนถึง E85 โดยมีให้เลือกด้วยกัน 2 แนว 2 สไตล์ คือ รุ่น PREMIUM และรุ่น STANDARD

สำหรับ YAMAHA FINO125 ใหม่…เต็มเปี่ยมด้วยสีสันแนวใหม่ของออโตเมติกแฟชั่น และเทคโนโลยีที่ใช่สำหรับทุกแนว มาพร้อมเครื่องยนต์ BLUE CORE 125 ซีซี จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอัจฉริยะ เทคโนโลยีแห่งความแรง และความประหยัด เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ ระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น และลดการสูญเสียกำลัง ประหยัดน้ำมันสูงสุด และช่วยลดมลพิษ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม… YAMAHA FINO125 รุ่น STANDARD มาพร้อมกล่อง ECU สมองกลอัจฉริยะแบบ (FFV)   FLEX FUEL VIHICLE ที่คำนวณค่าการจ่ายน้ำมันให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้สามารถเติมน้ำมันเชื้อเพลิงได้ทั้งเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ทุกประเภทไปจนถึง E85* YAMAHA FINO125 รุ่น PREMIUM ประหยัดอีกขั้นด้วยระบบดับเครื่องยนต์อัจฉริยะ STOP & START SYSTEM ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันในขณะขับขี่ และต้องหยุดรถนานเกินกว่า 5 วินาทีขึ้นไป ไม่ว่าจะหยุดจอดรอสัญญาณไฟจราจร หรือหยุดจอดชั่วคราว ระบบ STOP & START SYSTEM** จะสั่งการให้เครื่องยนต์หยุดทำงานโดยอัตโนมัติ พร้อมสัญญาณไฟกะพริบแจ้งการทำงานของระบบที่อยู่บนมิเตอร์ และเพียงแค่บิดคันเร่ง เครื่องยนต์พร้อมจะทำงานต่อทันที ส่งผลให้ลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน และประหยัดมากยิ่งขึ้น YAMAHA FINO125 ใหม่ ยังคงมาพร้อมกับฟังก์ชั่น และฟีเจอร์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมตอบสนองต่อการใช้งานด้วยความลงตัวใหม่…ใช่ทุกแนว ด้วยไฟหน้า FULL LED สไตล์โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟหรี่ Diamond Cut Lens, เรือนไมล์แยกส่วน Duo Meter พร้อมไฟแสดงการขับขี่แบบประหยัด ECO LAMP, MEGA BOX ขนาดใหญ่จุใจ 8.2 ลิตร สามารถเก็บแก็ดเจ็ตต่างๆ ของคนวัยมันส์ได้แบบเต็มเหนี่ยว, กุญแจรีโมท ANSWER BACK SYSTEM ที่สามารถเปิดช่องกุญแจอัตโนมัติพร้อมไฟเรืองแสง และส่งสัญญาณบอกตำแหน่งรถ และสำหรับรุ่น PREMIUM มาพร้อมล้อแม็กขนาด 14” เทรนด์สปอร์ต สุดแกร่ง  YAMAHA FINO125 ใหม่ มีให้เลือกเป็นเจ้าของด้วยกัน 2 แนว 2 สไตล์ ซึ่งมาพร้อมฟังก์ชั่น และฟีเจอร์แบบจัดเต็ม ใน รุ่น PREMIUM พร้อมสีสันใหม่แบบทูโทน สีเทา-น้ำเงิน ราคาจำหน่าย 51,500 บาท และรุ่น STANDARD ที่สามารถเติมน้ำมันเชื้อเพลิงได้ทั้งเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ทุกประเภทไปจนถึง E85* ที่มีสีสันให้เลือก 3 สไตล์ คือ สีเทา-แดง, สีขาว-ฟ้า และสีขาว-ดำ ราคา 46,000 บาท โดยสามารถเลือกเป็นเจ้าของ YAMAHA FINO125 ใหม่ สีใหม่…แนวไหน ก็ใช่เลย ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ที่โชว์รูม ยามาฮ่า สแควร์ ทุกสาขา  และร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ

*สามารถเติมน้ำมันได้ทั้งเบินซิน และแก๊สโซฮอล์ทุกประเภทจนถึง E85 เฉพาะในรุ่น Standard

**ระบบดับเครื่องยนต์อัจฉริยะ Stop & Start System มีเฉพาะในรุ่น Premium