CB150 SCRAMBLER

โดดเด่นและแน่นไปด้วยออพชั่นจากสำนักแต่ง SRY Shop เป็นร้านตกแต่งและขายอะไหล่มอเตอร์ไซค์ ที่มีชื่อเสียงมายาวนานด้วยผลการประกวดรถทุกครั้งจะต้องมีชื่อติด Top 3 ตลอด และก็ไม่ได้ทำให้แฟนๆ ต้องผิดหวังกับตำแหน่งรางวัลชนะเลิศ 1 ใน 5 คัน

เริ่มใส่กันเต็มๆ สำหรับเจ้าคันนี้ คุมโทนชุดสีด้วยสีดำคาดทอง สร้างดุมใหม่ทั้งหน้า-หลังนำไปไดซ์สีทอง ใช้วงล้อซี่ลวดก้านดำ หมุดทองจาก D.I.D รุ่น CRF 250 ยางใช้ IRC หน้าขนาด 110/80-17 หลังขนาด 130/70-17 เพิ่มที่บังจานดิสก์เบรกหน้า ปั๊มล่างใช้ Brembo Radial Mount 4 พอร์ท สีดำกระบอกโช้คนำไปไดซ์สีใหม่ บังโคลนหน้าปรับแต่งให้สั้นลงพร้อมบังโช้ค เปลี่ยนกระจกไฟหน้าเป็นสีเหลือง ใส่การ์ดบังไฟหน้าเข้าชุดกับชิวหน้างานสร้าง ครอบไฟหน้าคาร์บอนเคฟล่าใส่ครอบไฟเลี้ยวงาน CNC ให้ดูแปลกตาเพิ่มที่ติดตั้งกล้องหน้ารถ มือเบรก Brembo เปลี่ยนปลอกแฮนด์ ติดกระจกมองหลังปลายแฮนด์ พร้อมใส่การ์ดแฮนด์

ตัวถังน้ำมันช่องกลางใช้หนังสีน้ำตาลเข้าชุดกันกับเบาะตอนเดียว สั่งพิเศษ Noi Watdan 24 ลงมาด้านข้าง เฟรมบังข้างสร้างเป็น ไฟเบอร์คาร์บอนเคฟล่า ติดตะแกรงทั้งซ้าย-ขวา ติดการ์ดใต้ท้องกันกระแทกงานสร้างใหม่ ท่อไอเสียของ Leovince พร้อมกันร้อนสีดำชุดเบรกหลังงานสร้าง ตูดปั้นท้ายใหม่ให้สามารถบรรทุกสัมภาระหรือใส่กล่องเข้าไป ถัดมาติดกระเป๋าใส่ของใบเล็กมาทางฝั่งซ้ายเปลี่ยนชุดโซ่ สเตอร์ ใหม่หมดใช้ของ Osaki ใส่บังสเตอร์หน้า CNC ติดกระจกใส ขาตั้งใส่ตีนเป็ดเพิ่มความมั่นคง

อยากได้แบบนี้หรือคล้ายๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก สำนักแต่ง SRY Shop อยู่แถวมหาชัยเมืองใหม่เข้าไปปรึกษาได้รับรองไม่ผิดหวัง ติดต่อได้ที่ 081-983-3395

Yamaha QBIX 125

การแข่งขันทางการตลาดของรถจักรยานยนต์ออโตเมติกมีความเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง เป็นการตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ที่ต้องการความสะดวกสบาย ใช้งานได้ง่าย และมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย ค่าย Yamaha คืออีกหนึ่งของผู้นำเทรนด์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ให้นิยามเฉพาะตัวไว้ว่า Digital Automatic Bike ที่มาในรูปทรงเหลี่ยมตามชื่อรุ่นกับ QBIX 125

 

 

รูปลักษณ์ใหม่ สร้างโลกแห่งจิตนาการ ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยี Yamaha QBIX 125 เปิดตัวเป็นครั้งแรกและที่แรกในงาน Bangkok International Motor Show 2017 ที่สร้างกระแสตอบรับเป็นอย่างดีด้วยยอดจองภายในงานที่ล้นหลาม โดยมาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่แปลกตาไปจากรถออโตเมติกทั่วไป ช่วงหน้าทรงสี่เหลี่ยมไฟหน้าตรงกลาง ไฟเลี้ยวบิ้วท์อิน ไฟท้ายขนาดใหญ่ พื้นเหยียบกว้าง และ วางถังน้ำมันไว้ด้านล่างง่ายและสะดวกในการเติมน้ำมันโดยไม่ต้องลงจากรถ พื้นฐานเครื่องยนต์แบบ Blue Core ขนาด 125 ซีซี แบบ SOHC 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ จุดสตาร์ทด้วยระบบไฟฟ้า จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด YMJET-FI ความจุถังน้ำมัน 4 ลิตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ และส่งกำลังสุดท้ายด้วยสายพาน V-Belt ที่มีความนิ่มนวล และดูแลรักษาง่ายเสริมฟิคเจอร์สุดล้ำนำเทรนด์ อย่างครบครัน

สำหรับในยุคดิจิตอลนี้ เรื่องของความทันสมัยก็ต้องมาเป็นอันดับต้นๆ เพราะฉะนั้น QBIX125 จึงมาพร้อมกับระบบ Smart Key System กุญแจรีโมทอัจฉริยะที่จะเสริมความสะดวกสบาย และสวิตช์เปิดปิดที่ทำงานได้แบบ Multi-Function ใช้งานได้ทั้งสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ ปลดล็อคแฮนด์รถ เปิดเบาะใต้รถ และเปิดปิดฝาถังน้ำมันได้ ระบบไฟส่องสว่างที่เป็นแบบ LED ทั้งคัน มีไฟ Day Light ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง หน้าจอแสดงผลแบบ Full LCD ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอุปกรณ์ Gadget หรูๆ หนึ่งชิ้น มองเห็นใช้เจนที่มีทั้งมาตรวัดความเร็ว ปริมาณเชื้อเพลิงในถัง และไฟแจ้งสถานะต่างๆ ของตัวรถ มีช่องเสียบ USB จ่ายไฟขนาด 12V ใช้สำหรับชาร์จอุปกรณ์พกพาได้ทุกชนิด มีระบบ Answer Back System ช่วยในการค้นหาตำแหน่งเวลาเกิดอาการหลงลืม ระบบ Stop&Start System ที่จะทำงานเมื่อเครื่องยนต์มีอุณหภูมิที่ 40 องศา ระบบจะทำการตัดการทำงานของเครื่องยนต์แบบอัตโนมัติขณะที่เราจอดนิ่งๆ สัก 3 วินาที แล้วสามารถติดเครื่องได้ด้วยตัวเองเพียงแค่บิดคันเร่งออกไป ช่วยในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงในขณะที่การจราจรติดขัดได้เป็นอย่างดี

เน้นการควบคุมที่มั่นคง และการเกาะพื้นที่หนึบมั่นใจตำแหน่งท่านั่งและการควบคุม เบาะกว้าง ใต้เบาะนั่งมีพื้นที่ว่างขนาด 22.5 ลิตร สามารถใส่หมวกกันน็อคแบบเปิดคางได้ทีเดียว 2 ใบ แฮนด์บาร์ กว้างเบาแรงเลี้ยวได้ง่าย ช่วงล่างถูกดีไซน์ใหม่ ระบบกันสะเทือนหน้าเทเลสโคปิค กันสะเทือนหลังแบบยูนิตสวิง ระบบดิสก์เบรกจานเดี่ยวคาลิแบบลูกเดี่ยว ระบบเบรกหลังเป็นดรัมเบรก วงล้อแม็กขนาด 12 นิ้ว ขนาดยางหน้า 130/70-12 ขนาดยางหลัง 140/70-12 มิติตัวรถ มีความกว้าง 740 มิลลิเมตร ความยาว 1860 มิลลิเมตร และความสูง 1115 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 103 กิโลกรัม ราคาของ Yamaha QBIX รุ่น Standard จะอยู่ที่ 53,500 บาท รุ่น QBIX S 125 ราคา 56,000 บาท และ Yamaha QBIX 125 ABS ราคา 59,000 บาท โดยเพื่อนๆ สามารถเข้าไปชมตัวจริงและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูม Yamaha Square ทั่วประเทศ

ความคิดเห็นนักทดสอบ
จตุรงค์ หมื่นทิพย์
เปิดโฉมมาได้แปลกแหวกแนวกว่าค่ายคู่แข่ง นำเทรนด์ใหม่ของวัยรุ่น ด้วยรูปทรงที่เน้นเป็นสี่เหลี่ยมตั้งแต่ด้านหน้าจนถึงด้านหลัง สิ่งอำนวยความสะดวกก็จัดมาให้ครบครัน ช่องเก็บของด้านหน้า และมีที่เสียบชาร์ทไฟสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าเล็กๆ สมาร์ทคีย์ ใช่งานง่ายเพียงไปตำแหน่งตามสัญลักษณ์ที่ต้องการ ทั้งเปิดเบาะ เปิดฝาเติมน้ำมัน ล็อคคอ จอแสดงผลมีความสวยงามเห็นเด่นชัดดี กล่องเก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ใส่ได้จุใจ เหมาะดีสำหรับการเก็บของสำคัญ สำหรับท่านั่งสบายๆ ด้วยเบาะที่กว้าง ระยะแฮนด์กว้างทำให้เบาแรงควบคุมง่าย วงล้อแม็กและยางหน้ากว้างทำให้การเลี้ยวเข้าโค้งได้มากขึ้นและเกาะพื้นถนนได้ดี ดิสก์เบรกหน้าพร้อม ABS ถึงจะไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ แต่มีไว้ก็อุ่นใจ ระบบ Start & Stop System ทำงานได้ดี กำลังของเครื่องยนต์อันนี้สิ ติดใจเลย ใครว่ารถขนาดเล็กจะไม่จี๊ดจ๊าด!!! ไปลองดูแล้วจะรู้ว่ามันเร้าใจมาก ช่วงต้นจัด ช่วงกลางเดินเนียนๆ ปลายธรรมดาๆ ลากได้จนถึง 104 กม./ชม. ก็คงเพียงพอแล้วสำหรับบอดี้ขนาดนี้ คันเร่งเบาบิดง่าย อัตราเชื้อเพลิง..อันนี้คงอยู่ที่ผู้ขับขี่ว่าจะให้เซฟหรือปล่อยตามอารมณ์ ขี่แล้วสนุก เบา คล่องตัว นั่งสบาย…ติดใจแน่นอน

 

CB150R RSV Custom

ด้วยสไตล์ของตัวรถที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทำให้ CB150 จากค่ายปีกนกถูกนำมาสร้างสรรค์ในรูปแบบต่างๆ มากมาย และสำนักตกแต่ง RSV Racing เจ้าของแบรนด์ดัง RSV อะไหล่ตกแต่งมอเตอร์ไซค์ที่ได้รับการยอมรับกันอย่างกว้างขวาง ก็ไม่พลาดที่จะร่วมมาโชว์ไอเดียในการปรับแต่งรถในการเข้าประกวด Honda CB150R Concept Street Cafe ซึ่งมีดีกรีติดอันดับ 1 ใน 5 ประเทศไทยด้วย มาดูว่างาน Custom ของ RSV Racing จะเป็นอย่างไร

สีสันที่มีความเงางามพื้นดำและคาดตัดด้วยสีขาวทำให้เด่นชัด เบาะหุ้มด้วยหนังสีน้ำตาล ที่ตัดแต่งช่วงท้ายใหม่และหล่อไฟเบอร์แบบตูดมด ไฟหน้าครอบด้วยชุดอลูมินัม H2C เสริมความดุดัน โช้คอัพหน้าหัวกลับของดีที่ติดมากับตัวรถ ชุดดุมล้อหน้า-หลัง แต่ง วงล้อซี่ลวดหน้า-หลัง RCB ปั๊มเบรกหน้า Brembo M4-100 mm เสริมบู๊ทกันล้มแกนล้อหน้า RSV จานดิสก์หน้า NSR250 สายเบรกหน้า Earl’s บังโคลนหน้าแต่ง RSV พร้อมขา CNC อันเดอร์เคราริ่งของแต่งจาก KITAKO ป้องกันการกระแทกชุดบนแฮนด์จับหัวโช้คแบบสปอร์ตจุกอุดตุ๊กตาแฮนด์ RSV ปั๊มเบรกบนของ Brembo เบอร์ 19 มือคลัทซ์ TWM กระจกแต่ง RSV ครอบถัง Gcraft กันล้มกลาง RSV อกล่าง Kitaco ชุดเกียร์โยง RSV–Custom คอท่อแต่งจาก RSV ท่อไอเสียจาก Leovince จานดิสก์เบรกหลังแต่งพร้อมขาจับปั๊มหลัง RSV ปั๊มหลัง Brembo โซ่ทอง RK สเตอร์หลัง RSV เบาะแต่งจากร้าน ย้ง ห้วยขวาง ท่อไอเสียสไตล์เรซซิ่งคอสแตนเลสสวมด้วยปลาย GP

อะไหล่ตกแต่งทุกอย่างพร้อมจำหน่าย สนใจติดต่อสอบถาม RSV Racing โทร. 081-930-3890

All New Honda CB1100RS

ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1959 ที่ Honda ได้เริ่มผลิตรถในตระกูล CB จากเครื่องยนต์แบบ 2 สูบ ที่ใช้รหัส CB92 Benly ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากนั้นมาฮอนด้าก็ได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องกับรูปแบบความคลาสสิค จนมาถึงปี 1969 ทางฮอนด้าได้เริ่มเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบใน CB750 ทำให้กระแสของทางค่ายปีกนกเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นจนมียอดจำหน่ายสูงขึ้น และจากนั้นมาก็มีการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ดีไซน์และการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องยนต์มาอย่างต่อเนื่อง

เครื่องยนต์ให้ความนิ่มนวล พร้อมเทคโนโลยีเสริมช่วยการขับขี่
ด้วยความนิยมของรถสไตล์คลาสสิคที่เพรียบพร้อมไปด้วยสมรรถนะความนิ่มนวล การควบคุมที่ง่าย และตอบสนองการขับขี่ที่ดี การขยับซีซีและการใช้เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ทำให้ตอบโจทย์การขับขี่ที่ครอบคลุม รถคลาสสิคไบค์ระดับตำนาน มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 จังหวะ ขนาด 1,140 ซีซี 16 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยอากาศ อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 9.5:1 ให้พลังสูงสุดที่ 66kW ที่ 7,500 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุดที่  91 Nm ที่ 5,000 รอบต่อนาที เน้นที่ความเร็วต้นถึงกลางเป็นหลักตามสไตล์ของรถแนวนี้ และยังเสริมระบบ สลิปเปอร์คลัทช์ช่วยให้การลดเกียร์ในความเร็วตัวรถไม่เสียการควบคุมและเดินคันเร่งได้อย่างราบรื่น สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยระบบไฟฟ้า ควบคุมการจ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีด PGM-FI ที่ขึ้นชื่อเรื่องการประหยัดเชื้อเพลิง ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 สปีด ส่งกำลังสุดท้ายด้วยโซ่

รูปลักษณ์ใหม่ เน้นความเป็นสปอร์ตโมเดิร์นคลาสสิค
สำหรับโฉมล่าสุด โมเดล 2017 มีการพัฒนาด้านรูปลักษณ์ให้มีความสปอร์ต และโมเดิร์นมากยิ่งขึ้น จากถังน้ำมันที่เป็นทรงเหลี่ยมดีไซน์ใหม่ที่มีความปราดเปรียวมีส่วนเว้ารับกับหน้าขาให้แนบแน่นกับตัวรถนั่งได้สบาย ความจุ 16.6 ลิตร เรือนไมล์ทรงกลมคู่บอกรอบเครื่องยนต์และความเร็ว ส่วนที่เป็นดิจิตอล บอกเวลา ระดับน้ำมัน และ ตำแหน่งของเกียร์ ไฟหน้าทรงกลมหลอดโปรเจคเตอร์ 4 ดวง ส่องได้สว่างชัดเจน เช่นเดียวกับไฟท้ายแบบ LED สมรรถนะการควบคุมที่ดีขึ้น จากการรีดน้ำหนักตัวรถโดยรวมที่ลดลง 5 กิโลกรัม พร้อมกับการลดแรงบีบคลัทช์ลง 16% ช่วยให้ นิ่มนวล ด้วยระบบคลัทช์น้ำมัน

มั่นใจในการควบคุม ช่วงล่างหนึบ พร้อมออพชั่นเสริม
ระบบกันสะเทือนด้านหน้าโช้คคู่ขนาด 43 มม ออพชั่นเสริมแบบสปอร์ตของ SHOWA จุดเด่นคือที่ยึดคาลิเปอร์แบบเรเดียลเม้าท์ ปรับสปริงพรีโหลดได้ มีระยะยุบและยืดตัวที่ 4.21 นิ้ว กันสะเทือนหลังแบบโช้คสปริงคู่ปรับสปริงแก๊สที่มีแท้งค์บิ้วท์อิน SHOWA ปรับพรีโหลดได้ ระบบเบรกหน้า Dual calipers 4 ลูกสูบ TOKICO ทำงานร่วมกับจานดิสก์เบรกคู่แบบ full-floating ขนาด 296 มม. พร้อม ABS ระบบเบรกหลังดิสก์เดี่ยวทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรกแบบ 1 ลูกสูบ สวิงอาร์มอลูมนัมขนาดใหญ่ช่วยให้น้ำหนักรวมของตัวรถน้อยลง

เครื่องยนต์ขนาดใหญ่…ใครว่าจะไม่ประหยัด
เรื่องความประหยัดน้ำมันเชื่อเพลิงซึ่งฮอนด้าให้ความใส่ใจเป็นอย่างมากรวมไปถึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการทำงานของเครื่องยนต์ที่ราบเรียบ แต่ก็ไม่ได้เซฟจนเวอร์เกินไป อยู่ที่การใช้งาน การทำงานของเครื่องยนต์ที่มีความเร็วของรอบที่ต่อเนื่องในการขับขี่เดินทางยาวๆ จะเห็นผลความประหยัด แต่ถ้าเทียบกับการใช้งานในเมืองที่ต้องใช้การเปิดคันเร่งที่ไม่สม่ำเสมอ เดี๋ยวเร่ง เดี๋ยวเบา เดี๋ยวจอด ก็อาจบริโภคมากกว่าเล็กน้อย สำหรับราคาค่าตัวก็ไม่ได้แพงจนเกินไปสำหรับ CB1100RS อยู่ที่ 559,000 บาท ต่างจาก CB1100EX ที่มีราคาอยู่ที่ 549,000 บาท พร้อมกับโปรโมชั่นสุดพิเศษ จากศูนย์บิ๊กวิงทั่วประเทศ

Riding Magazine#268 : All New PCX 150

รีวิว All New PCX 150 สัมผัสความภูมิใจครั้งใหม่ ด้วยที่สุดของเทคโนโลยีและดีไซน์หรูที่เป็นหนึ่งเดียว รายละเอียดเพิ่มเติมติดตามได้ในนิตยสารไรดิ้งฉบับ 268 เดือน มกราคม 2561 นะครับ

https://www.youtube.com/watch?v=Exo3HJ-bhH8&t=102s

Riding Magazine#268 : Yamaha QBIX 125

รีวิว Yamaha QBIX 125 Digital Automatic Bike รายละเอียดเพิ่มเติมติดตามได้ในนิตยสารไรดิ้งฉบับ 268 เดือน มกราคม 2561 นะครับ

เอ.พี.ฮอนด้าแถลงนโยบายประจำปี 2018

รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เปิดศักราชประกาศ “WHAT STOPS YOU? มุ่งไป อย่าให้อะไรมาหยุด”มุ่งไปสู่ความท้าทายเปิดมิติใหม่ตลาดรถจักรยานยนต์ไทย ประเดิมเปิดตัว 2 รุ่นใหม่ Super Cub และ CB300R เอ.พี.ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ประกาศความสำเร็จครองแชมป์เจ้าตลาดรถจักรยานยนต์ไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 29 ติดต่อกันด้วยยอดจำหน่าย 1,424,000 คัน รถตลาดรวม 1,816,000 คัน และบิ๊กไบค์รวม 12,900 คัน จากตลาดรวมทั้งสิ้น 29,600 คัน เริ่มศักราชใหม่ประกาศกลยุทธ์และทิศทางแบรนด์ “WHAT STOPS YOU? มุ่งไป อย่าให้อะไรมาหยุด” กับ 4 ความมุ่งมั่นสู่การเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืน มุ่งไปสู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่สู่ตลาดมากถึง 10 รุ่น โดยไม่หยุดในการสนองความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มุ่งไปสู่ธุรกิจใหม่ Cub House โดยไม่หยุดที่จะสร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่ มุ่งไปสู่การพัฒนาโซลูชั่นการสื่อสาร โดยไม่หยุดที่จะเข้าถึงและเข้าใจความต้องการของลูกค้าแบบรายบุคคลเพื่อบริการที่ดียิ่งขึ้น  มุ่งไปสู่มาตรฐานร้านใหม่ โดยไม่หยุดในการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ควบคู่การตอบแทนสังคมที่ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัย และการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ พร้อมผนึกกำลังกับร้านเครือข่ายผู้จำหน่ายฯ ดำเนินงานมุ่งไปสู่การเป็นองค์กรที่สังคมปรารถนาให้ดำรงอยู่อย่างแท้จริง ประเดิมเปิดศักราชด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ถึง 2 รุ่นได้แก่ All New Honda Super Cub และ Honda CB300R

 

มร.โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทยเปิดเผยว่า “ปี 2017 ที่ผ่านมาตลาดรถจักรยานยนต์ไทยเติบโตจากปัจจัยบวกของสภาพเศรษฐกิจ  โดยมีปริมาณตลาดรวม 1,816,000 คัน เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้า 4%  สำหรับฮอนด้ามียอดการจำหน่าย 1,424,000 คัน เติบโตขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในส่วนของตลาดรถบิ๊กไบค์ เรามียอดจำหน่าย 12,900 คัน จากตลาดรวม 29,600 คัน ส่งผลให้ฮอนด้ายังคงครองยอดขายอันดับ 1 ในรถทุกประเภท และเป็นผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ติดต่อกันถึง 29 ปีติดต่อกัน”

 

“สำหรับตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในปี 2018 คาดการณ์ว่าตลาดรวมรถจักรยานยนต์จะมีปริมาณ 1,870,000 คัน โดยฮอนด้าตั้งเป้าหมายการจำหน่ายที่ 1,480,000 คัน ในส่วนของตลาดรวมรถบิ๊กไบค์คาดเติบโตต่อเนื่องด้วยปริมาณ 34,500 คัน โดยฮอนด้าตั้งเป้าการจำหน่ายที่ 15,700 คัน มุ่งสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการจักรยานยนต์อีกครั้ง ด้วยการนำเสนอรถโมเดลใหม่สู่ตลาด 10 รุ่น โดยมีแผนการวางจำหน่ายรถจักรยานยนต์เครื่องยนต์ไฮบริด และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในปี 2018 นี้อย่างแน่นอน โดยวันนี้ฮอนด้าเริ่มต้นปี 2018 ด้วย 2 โมเดลใหม่ที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณของฮอนด้าอย่างสมบูรณ์แบบ ได้แก่ All New Honda Super Cub กับการคงเอกลักษณ์ของ “ออริจินัล เจแปนนิส เรโทร” และ CB300R ที่ถ่ายทอด “จิตวิญญาณคราฟต์ของวิถีแบบญี่ปุ่นกับเทคโนโลยีสปอร์ตที่ล้ำสมัย”

 

นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด  กล่าวเสริมว่า ความเป็นผู้นำตลาดยิ่งถือเป็นแรงผลักดันให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง ภายใต้วิชั่น 2030 ที่จะส่งมอบความสุขให้กับผู้คนเพื่อเพิ่มศักยภาพของการใช้ชีวิต และมุ่งเป็นผู้นำในความก้าวหน้าของการเดินทางมาสู่ทุกคน และทำให้ชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วโลกดีขึ้น  สู่การปรับตัวในทุกมิติเพื่อผลักดันให้คำว่าดีที่สุดไกลออกไปเรื่อยๆ จึงเป็นที่มาของกลยุทธ์และทิศทางแบรนด์ใหม่ “WHAT STOPS YOU? มุ่งไป อย่าให้อะไรมาหยุด” กับความมุ่งมั่นสู่ความท้าทายที่ยิ่งขึ้น

 

“มุ่งไปสู่ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ ไม่หยุดต่อความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยปีนี้มีแผนวางตลาด 10 รุ่น ถือว่ามากที่สุดเท่าที่เคยมีมา อีกทั้งยังมีเซอร์ไพรส์สร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการครั้งสำคัญด้วยการเปิดตัวเทคโนโลยีสู่อนาคตครั้งแรกในโลกกับรถจักรยานยนต์ Hybrid และ EV”

 

มุ่งไปสู่ธุรกิจใหม่ Cub House ไม่หยุดสร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่ พร้อมมอบประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ใหม่ในแบบฉบับของฮอนด้าที่สร้างคุณค่าทางจิตใจ มอบความภาคภูมิใจและมีความสุขที่ได้ครอบครอง โดยให้บริการในรูปแบบ flagship store ประเดิมเปิดสาขาแรกที่ซอยเอกมัย กรุงเทพฯ ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ และตั้งเป้าขยาย 10 สาขาภายในปีนี้ด้วย”

 

มุ่งไปสู่การพัฒนาโซลูชั่นการสื่อสาร ไม่หยุดการเข้าถึงและเข้าใจความต้องการของลูกค้าแบบรายบุคคล เพื่อการบริการที่ดียิ่งขึ้นกับลูกค้าคนพิเศษ ด้วยแอพพลิเคชั่นที่ดีที่สุดในการทำ Two-Way communication & CRM ใหม่ โดยเริ่มนำร่องกับ Honda Big Wing และ CUB House

 

และสุดท้าย มุ่งไปสู่มาตรฐานร้านใหม่ ไม่หยุดสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ด้วยรูปแบบร้านใหม่ที่จัดโซนนิ่งให้สามารถชมรถได้สะดวกสบายขึ้น และก้าวไปอีกขั้นกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์และส่วนงานบริการในรูปแบบที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ดิจิตอลของผู้ใช้ในยุคนี้ พร้อมยกระดับมาตรฐานร้านกับการตรวจประเมินร้านใหม่ที่เข้าใจความต้องการของลูกค้ายิ่งขึ้น ส่งผลต่อความพึงพอใจที่มากไปอีกขั้น” นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กล่าวทิ้งท้าย

 

สำหรับ All New Honda Super Cub ครั้งนี้มาในรูปแบบออริจินัล ที่คงเอกลักษณ์ความเป็น Japanese Retro Cub ในทุกรายละเอียด ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด “Forever Retro เจแปนนิสเรโทรแท้ ยังไงก็ไม่เปลี่ยน” โดยคงความออริจินัลด้วยไฟหน้ากลมแต่เพิ่มเติมเสน่ห์ด้วยไฟแบบ LED พร้อมไฟเลี้ยวแยกทรงกลม ตอกย้ำความเรโทรด้วยเบาะแยกสองตอนและหน้าปัดเรือนไมล์ดีไซน์สุดเรโทร ขับขี่สบายด้วยระบบเกียร์วนแบบ 4 จังหวะ เครื่องยนต์ระบบหัวฉีด PGM-FI ถังน้ำมันใหญ่จุได้ถึง 4.2 ลิตร ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 60.1 กม./ลิตร มีให้เลือก 6 สี ได้แก่ เขียว-ขาว, น้ำเงิน-ขาว, แดง-ขาว, เหลือง-ขาว, ชมพู-ขาว และขาว พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศด้วยราคาแนะนำโดยประมาณ 47,100 บาท

 

สำหรับ Honda CB300R คือรถจักรยานยนต์ที่ถูกคิดค้นขึ้นด้วยจิตวิญญาณคราฟต์จากญี่ปุ่น และผสมผสานเทคโนโลยีสปอร์ตที่ล้ำหน้า ภายใต้แนวคิด “Japan Crafted คราฟต์ให้สุด เพื่อความเท่…เร้าใจ” มาพร้อมกับเอกลักษณ์ใหม่ในแบบฉบับของ NEO SPORTS CAFÉ  ได้แก่ ไฟหน้า LED ทรงกลม โช้กหัวกลับขนาดใหญ่ 41 มม. ที่ให้สมรรถนะระดับรถบิ๊กไบค์ ดิสก์เบรกขนาด 296 มม. และเรเดียลเมาท์ 4 พอต คาลิปเปอร์ พร้อม ABS G-Sensor มั่นใจในการเบรกทุกช่วงความเร็ว  โชคหลังโมโนโชคแบบปรับได้ 7 ระดับ รองรับทุกสภาพการขับขี่ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือทัวร์ริ่ง มาพร้อมกับท่อไอเสียดีไซน์ใหม่ออกแบบอย่างโดดเด่นและลงตัว ให้เสียงที่ทรงพลังและดุดันแบบสปอร์ตตัวจริง เรือนไมล์ LCD พร้อมฟังก์ชั่นแสดงผลที่เพิ่มความสนุกในการขับขี่  ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด PGM-FI ขนาด 300ซีซี เตรียมวางจำหน่ายตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไปที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ

 

ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.aphonda.co.th และติดตามกิจกรรมต่าง ๆ ของเอ.พี. ฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊ค www.facebook.com/hondamotorcyclethailand.com

ยามาฮ่าผนึกกำลัง ปตท. และซิมเพนกวิน ส่งแคมเปญฟินน์ ฟินน์ “เติมปั๊บรับ 3 ต่อ”

ยามาฮ่าผนึกกำลัง ปตท. และซิมเพนกวิน ส่งแคมเปญฟินน์ ฟินน์ “เติมปั๊มรับ 3 ต่อ” เติมน้ำมันรับค่าโทรค่าเน็ตฟรี พร้อมลุ้น ยามาฮ่า ฟินน์ 50 คัน!!!

นางสาวจินตนา อุดมทรัพย์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ถ่ายภาพร่วมกับ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์  ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และดร. ชัยยศ จิรบวรกุล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารซิมเพนกวิน ในงานแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ “เติมปั๊มรับ 3 ต่อ” เมื่อเติมน้ำมัน ปตท. ตั้งแต่ 50 ถึง 100 บาท จะได้รับค่าโทรค่าเน็ตฟรี ตลอดปี ซึ่งเป็นการคืนกำไรให้ลูกค้าแบบง่ายๆ พร้อมลุ้นรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟินน์ 50 คัน แจกจริงแจกกันยาวนานถึง 1 ปีเต็ม ตลอดปี 2561 นี้ โดยงานแถลงข่าวมีขึ้น ณ อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถ.วิภาวดี – รังสิต เมื่อเร็วๆ นี้

ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของเวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) อีกหนึ่งกุญแจสำคัญ เสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้ พิอาจิโอ กรุ๊ป ระดับภูมิภาค

บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ชั้นนำ “พิอาจิโอ” และ “เวสป้า” พร้อมทั้งมอเตอร์ไซค์ระดับตำนาน “อาพริเลีย” และ “โมโต กุซซี่” สัญชาติอิตาเลี่ยนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ต้อนรับการมาเยือนของผู้บริหารระดับสูงจากพิอาจิโอ กรุ๊ป มร. จิอานลูกา ฟิอูเม (Mr. Gianluca Fiume) ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและกรรมการทั่วไป บริษัท พิอาจิโอ เวียดนาม และรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท พิอาจิโอ เอเชีย แปซิฟิก สายงานกลุ่มธุรกิจสองล้อ เนื่องในโอกาสการเติบโตขึ้นของการดำเนินธุรกิจจำหน่ายรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมเวสป้าในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงความสำเร็จในการดำเนินงานของ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด และเนื่องในโอกาสพิเศษของการมาถึงของ (VESPA 946) RED สุดยอดรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมเวสป้าดีไซน์สุดหรูเพื่อการกุศลอีกด้วย

มร. จิอานลูกา ฟิอูเม และคุณพรนฎา เตชะไพบูลย์ ได้ร่วมเปิดตัวสุดยอดรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมที่มาพร้อมความหรูหราและคลาสสิก ด้วย (VESPA 946) RED โดยเวสป้ารุ่นพิเศษนี้เป็นการผนึกกำลังร่วมกันระหว่างพิอาจิโอ กรุ๊ป และ (RED) เพื่อร่วมระดมทุนจากทั่วโลกด้วยการจัดจำหน่ายรถรุ่นนี้ เพื่อมอบให้แก่องค์กรที่ต้านภัยจากโรคเอดส์
วัณโรค และมาลาเรีย เพื่อร่วมแก้ปัญหาสำคัญดังกล่าวของโลกให้หมดไป
“สำหรับ (VESPA 946) RED  คือที่สุดของงานดีไซน์ร่วมสมัยที่เปี่ยมไปด้วยความงดงามของรูปทรงรถ และเป็นครั้งแรกที่ได้รับการออกแบบให้เป็นสีแดงทั้งคัน โดยทุกรายละเอียดต่างๆ ได้ผ่านการคิด และผ่านการผลิตด้วยความประณีต ผสานด้วยสุดยอดเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการจัดจำหน่าย (VESPA 946) RED  โดยทุกๆ การจัดจำหน่าย ท่านมีส่วนร่วมในการบริจาค 150 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 5,000 บาท ต่อคัน ให้แก่ Global Fund เพื่อต่อต้านภัยจากโรคเอดส์ วัณโรค และมาลาเรีย

สำหรับ (VESPA 946) RED  โดดเด่นด้วยดีไซน์ของความเป็นสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมแห่งอนาคต โดยตัวถังทำจากเหล็กกล้าให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่ง และตกแต่งด้วยวัสดุอะลูมิเนียมในส่วนบังโคลนซึ่งให้ความรู้สึกที่หรูหราและคลาสสิกไปพร้อมๆ กัน นอกเหนือไปจากสุดยอดงานดีไซน์บน (VESPA 946) RED  แล้วนั้น สกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมแห่งอนาคตคันนี้ยังเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยด้วยเครื่องยนต์
สูบเดี่ยว 155 ซีซี 4 จังหวะ 3 วาลว์ มาพร้อมกับระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ โดยช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการลดการปล่อยไอเสียได้เป็นอย่างมาก อีกทั้งเครื่องยนต์ยังมีเสียงเบา ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศแบบหมุนวน และยังมีระบบความปลอดภัยที่เหนือกว่าด้วยระบบเบรก ABS ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง เพิ่มความมั่นใจอีกขั้นด้วยระบบ ASR (Anti-Slip Regulation) ที่ช่วยป้องกันการลื่นไถลของรถแม้ต้องเผชิญกับสภาพพื้นผิวถนนที่ไม่ปรกติ เช่น ถนนลื่น เป็นต้น
(VESPA 946) RED  มาพร้อมกับชุดอุปกรณ์ตกแต่งที่หลากหลายให้ตกแต่งเวสป้ารุ่นพิเศษนี้ให้กลายเป็นคันพิเศษที่โดดเด่นและไม่เหมือนใคร

สำหรับ (VESPA 946) RED มีวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว โดยสนนราคาที่ 599,000 บาท ท่านที่สนใจสามารถเข้าสัมผัสตัวจริง และสั่งจอง (VESPA 946) RED  ได้ที่ตัวแทนจำหน่ายเวสป้าทั่วประเทศ

ติดตามข่าวสารประชาสัมพันธ์ได้ที่  www.vespa.co.th หรือ www.facebook.com/vespathailand และอินสตาแกรม @vespathailand

NEWKTM 390DUKE

ปีศาจสีส้ม หรือ The Beast ซึ่งเป็นสมญานามของมอเตอร์ไซค์รุ่นดู๊ค (Duke) ที่เปี่ยมด้วยเครื่องยนต์อันทรงพลัง น้ำหนักที่เหมาะสม คล่องตัว และการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แข็งแกร่ง ปราดเปรื่อง และดุดันนั้น ได้เวลาที่จะพบกับ “KTM 390 DUKE” โฉมใหม่ ที่แฟนๆ ชาวไทยหลายๆ คนต่างรอคอย ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่โดดเด่นและพกพาดีกรีความสนุกในการขับขี่ที่จัดจ้านเกินพิกัดความจุของตัวเอง

เครื่องยนต์สูบเดี่ยว 4 จังหวะ 4 วาล์ว DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความจุกระบอกสูบ 373.2 ซีซี แรงบิด 37นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบ/นาที 44 แรงม้า ที่ 9,000 รอบ/นาที ระบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงหัวฉีด Bosch EFI เรือนลิ้นเร่ง 46 มม.สำหรับ “KTM 390 DUKE” โฉมใหม่ โดดเด่นด้วยสุดยอดจอควบคุมแบบ “TFT Display” แบบมัลติฟังก์ชั่นอเนกประสงค์และอินเตอร์เฟสสุดล้ำ ช่วยยกระดับการแสดงข้อมูลการขับขี่อีกขั้นและมี KTM MY RIDE เป็นแพ็คเกจเสริมที่สามารถติดตั้งเพิ่มได้ โดยระบบ KTM MY RIDE นี้สามารถเชื่อมต่อบลูทูธผสานการทำงานกับสมาร์ทโฟนเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถใช้โทรศัพท์ได้ในแบบแฮนด์ฟรี รวมถึงฟังเพลงอย่างเพลิดเพลินขณะขับขี่ได้โดยผสานการทำงานเข้ากับหน้าจอทีเอฟทีซึ่งสั่งงานได้จากปุ่มเมนูบนแฮนด์ของรถ ตอบสนองการเดินทางของชีวิตคนยุคใหม่ใน DUKE R เริ่มจากชุดไฟหน้าแบบแอลอีดีใหม่ที่สะดุดตา ให้ความรู้สึกดุดัน มีรูปทรงของตัวถังที่แข็งแรง โฉบเฉี่ยวและเฉียบคมยิ่งขึ้น พร้อมส่วนของเบาะนั่งที่เผยโครงรถในมิติที่ดูสปอร์ตมากขึ้น รวมถึงเฟรมเสริมแบบยึดด้วยสลักเกลียว (Bolt-on Subframe) แบบใหม่ที่ดูโดดเด่นกว่าเดิม ส่วนการออกแบบทางสรีระศาสตร์ได้รับการปรับเปลี่ยน ด้วยท่านั่งที่ให้ควบคุมรถได้ดีขึ้นแต่ยังคงความสบาย ขณะที่ถังน้ำมันนั้นเพิ่มความจุมากขึ้นเป็น 13.4 ลิตร (มากกว่าเดิมถึง 2.4 ลิตร)

โครงสร้างตัวรถและส่วนประกอบของระบบเบรกชั้นเยี่ยมที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นโหมดการขับขี่แบบ Supermoto ได้แล้ว ระบบกันสะเทือน WP Suspension ยังยกใหม่หมดทั้งด้านหน้าและด้านหลังยิ่งเพิ่มศักยภาพให้ KTM 390 DUKE ก้าวล้ำขึ้นไปอีกขั้นสำหรับการใช้งานบนเส้นทางที่หลากหลาย ด้วยระบบดูดซับแรงสะเทือนที่ใช้เทคโนโลยี Open-cartridge Fork ลูกสูบแยก ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รับทั้งความสบายในการเดินทางและความมั่นใจในการควบคุมรถ พร้อมกับราคาเปิดตัวแนะนำที่ 199,000 บาท เท่านั้น

A.P.Honda Racing Championship 2017 Round 5:

เอ.พี.ฮอนด้า รังสรรค์บรรยากาศ “คริสมาส เดย์ 2017” แดงอร่ามสนามแข่งไทยแลนด์เซอร์กิต เพิ่มความสนุกสุดมันส์ให้เกม “เอพีอาร์ซี” ส่งท้ายปีระกา การแข่งขัน A.P.Honda Racing Championship 2017 สนามที่5 สุดคึกคักและยิ่งใหญ่สมกับเป็นเกมมอเตอร์สปอร์ตส่งท้ายปีระกา เมื่อ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด รังสรรค์บรรยากาศ “คริสมาส เดย์ 2017” ย้อมสนามแข่งไทยแลนด์เซอร์กิตให้เต็มอิ่มด้วยโทนแดง-ขาว เข้ากับช่วงเทศกาลคริสต์มาสและส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เพื่อต้อนรับสมาชิกฮอนด้า คลับ เรือนพัน ที่ห่มอาภรณ์สีแดงเข้าชมและเชียร์การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ เอ.พี.ฮอนด้า สนามรองสุดท้ายของฤดูกาล 2017

ซึ่งเป็นรายการแข่งขันที่ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด สนับสนุนให้ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ทำทีมแข่งของตนเอง เพื่อพัฒนาศักยภาพและทักษะของบุคลากรในร้าน และนำประสบการณ์จากมอเตอร์สปอร์ตไปพัฒนาการให้บริการแก่ลูกค้า ต้นคริสต์มาส ที่แต่งแต้มด้วยดวงดาวแห่งโชคลาภ เป็นทั้งแลนด์มาร์กและไฮไลท์ของบรรยากาศคริสต์มาส เดย์ พร้อมซุ้มเกมส์ต่างๆ ที่เรียงร้อยรางวัลเตรียมให้กับสมาชิกฮอนด้า คลับ ได้ขนกลับบ้านกันแบบล้นมือ และซุ้มอาหารที่หลากหลายรสชาติอัดแน่นด้วยความอร่อยชนิดเติมกันจนอิ่มแปร้

พร้อมด้วยลานโชว์ CB150R นับสิบคันที่ถูกรังสรรค์จากไอเดียสำนักแต่งการันตีด้วยรางวัลจากการประกวด อวดโฉมริมแทร็ค โชว์แด้นซ์สนุกๆ เข้าลุคคริสมาส และการประกวดเรซ ควีน สีสันคู่เกมเอพีอาร์ซีมาตลอด

ขบวนพาเหรดสง่างามชักแถวนำบรรดาสาวๆแซนตี้และรถแข่งเข้าสนาม คุณอารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด นำทีมผู้บริหาร เอ.พี.ฮอนด้า พร้อมด้วยผู้บริหารจากยางรถจักรยานยนต์ไออาร์ซี, โซ่และสเตอร์ดีไอดี และสนามแข่งรถไทยแลนด์เซอร์กิต ผู้สนับสนุนการแข่งขัน ทำพิธีเปิดการแข่งขันอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งเต็มไปด้วยความมันส์ถึง 6 รุ่นการแข่งขัน ประกอบด้วย

รุ่น Honda MSX125SF Super Challenge

รุ่น Honda CBR300R Super Star D1

รุ่น Honda CBR300R Super Star D2

รุ่น Honda CBR500R Super Star

รุ่น Honda CBR650F Super Star

รุ่น Honda CBR1000RR Super Star

และการแข่งขัน A.P.Honda Racing Championship 2017 สนามสุดท้าย เอ.พี.ฮอนด้า จะ เนรมิตสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ด้วยบรรยากาศเฉลิมฉลองชัยพร้อมพิธีมอบแชมป์เปี้ยนอย่างยิ่งใหญ่ ในวันที่ 2-3 กุมภาพันธ์ 2561

ผลการแข่งขัน สนามที่5

รุ่นHonda MSX125SF Super Challenge

1.บุญญชัย ประยูรญาติ(69) ทีมฮอนด้าประสิทธิ์มอเตอร์สระแก้ว สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น

2.ชานนท์ อินทร์ต๊ะ(46) ทีมฮอนด้าสยามกิจ AVRP Racing ลำปลายมาศ

3.ภานุพัฒน์ จันทร์ประกอบ(158) ทีมเตชอัมพร

4.อดิรุจ เส็มไข(50) ทีมTrang Motorcycle Racing

5.สวพล นิลพงษ์(2) ทีมPhuket S.T. Racing

รุ่นHonda CBR300R Super Star D1

1.ตะวัน ตั้งจิตเจริญกุล(69) ทีมฮอนด้าประสิทธิ์มอเตอร์สระแก้ว สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น

2.ศิริพจน์ พราหมโสภณ(99) ทีมพรนุภาพ

3.ภิวัฒน์ อาจทวีกูล(55) ทีมB R Y Speed Racing 2

4.อดิศักดิ์ หลงหา(91) ทีมArkom Racing

5.ธเนศ บุญเรือง(44) ทีมชาญธุรกิจ(1990) เรซซิ่ง

รุ่นHonda CBR300R Super Star D2

1.ณภัทร แสงสุวรรณ(169) ทีมฮอนด้าประสิทธิ์มอเตอร์สระแก้ว สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น

2.ชยาวิชญ์ กล่อมเกลี้ยง(10) ทีมฉะเชิงเทราชัยเจริญมอเตอร์ เรซซิ่ง

3.ถวิล เจียงรัมย์(66) ทีมB R Y Speed Racing 1

4.ภาณุพงศ์ พลายชนะ(2) ทีมPhuket S.T. Racing

5.อดิรุจ เส็มไข(50) ทีมTrang Motorcycle Racing

รุ่นHonda CBR500R Super Star

1.ประวิทย์ คำแดงสด เบอร์7 ทีมปิยะ บิ๊กไบค์

2.นัทนันท์ ศรีไหม(333) ทีมBigWing Chiangmai Tor Taozing

3.ชุมพล บุญฐิติพันธุ์ (49) ทีมNut Racing

4.พิศณุ นิราช(29) ทีมKrirkKrai Racing

5.กฤษฎา พรมนิกร(9) ทีมHonda BigWing Rama3 Racing

รุ่น Honda CBR650F Super Star

1.ศิวกร สุวิพร(5) ทีมศรีสมบูรณ์บิ๊กไบค์ เรซซิ่ง

2.จอนนี้ อันวา(52) ทีมพรนุภาพ

3.อิศรชว เขมากรณ์(19) ทีมHonda BigWing Rama3 Racing

4.มนตรี อินทะเรืองศร(34) ทีมBigWing Nhakonsawan

5.ธีระยุทธ ประทุมเทศ(99) ทีมHonda BigWing Rama3 Racing

รุ่น Honda CBR1000RR Super Star

1.ศิริพจน์ พราหมโสภณ(81) ทีมพรนุภาพ

2.วิทวัส คัมภีระ(222) ทีมBigWing Chianmai Tor Taozing

3.วรวุฒิ วะสินนิธิวงศ์(11) ทีมLo Heng Mong BigBike Racing

4.พุฒิสรรค์ ธีรพันธ์สกุล(48) ทีมB R Y Speed Racing 3

5.สรสิทธิ์ ลรานะพันธุ์(77) ทีมพรนุภาพ

 

คาวาซากิเปิดไลน์อัพ รุกตลาดรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ พร้อมโปรโมชั่นแรง! ส่งท้ายปี

บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จากัด ได้เข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 หรือ Thailand International Motor Expo 2017 โดยในปีนี้คาวาซากิได้นำรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่มาเปิดตัวภายในงานด้วยกันทั้งหมด 7 รุ่น เพื่อส่งมอบประสบการณ์ขับขี่และความสนุกสนานให้แก่แฟนๆนักบิด และบรรดานักแข่งทั้งหลาย
โดยปีนี้คาวาซากิมีการเปิดตัวรถใหม่ด้วยกันถึง 7 รุ่น ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือ ตระกูล Ninja ตระกูล Z และ ตระกูล W ซึ่งตัวไฮไลท์ คือ Ninja H2 SX (SE) รถสปอร์ตทัวร์เรอร์ ที่ได้พัฒนามาจาก Ninja H2 เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน และภายในงานยังมีโปรโมชั่นพิเศษอีกมากมาย ที่คาวาซากิจัดเต็มมาส่งท้ายปีกันอย่างจัดเต็ม Ninja H2 SX [SE] รถสปอร์ตทัวร์เรอร์ ที่จะมาชาร์ทพลังในการเดินทางของคุณให้เร้าใจมากยิ่งขึ้น โดยมาในคอนเซ็ปต์ “Supercharge Your Journey” ด้วยขุมพลังของซูเปอร์ชาร์จแรงม้าสูง การปรับพัฒนาให้รถจักรยานยนต์ที่เร็วที่สุดในสายพันธุ์สปอร์ต สามารถขับขี่ได้บนท้องถนนเพื่อการท่องเที่ยวในรูปแบบทัวร์เรอร์ โดดเด่นด้วยการส่งกำลังที่ได้รับการปรับมาเป็นพิเศษนี้เหมาะกับการขับขี่เป็นระยะทางไกล การใช้งานในชีวิตประจาวัน ยิ่งไปกว่านั้น Ninja H2 SX [SE] ยังสามารถแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางร่วมกันกับผู้โดยสารด้วยเบาะท้ายกว้างขวางนั่งสบาย ให้ความผ่อนคลายและสนุกสนานเมื่อคุณเดินทางไกล ผลลัพธ์ใหม่ล่าสุดที่คาวาซากิมอบให้แก่นักเดินทางทุกท่าน Ninja ZX-10R [SE] รถซูเปอร์สปอร์ตสายพันธ์ุแชมป์ ที่ได้รับการพัฒนามาจาก Ninja ZX-10R เจ้าแห่งสนามการแข่งขันมาหลายรายการ ล่าสุดกับ WorldSBK Championship ที่ทางคาวาซากิ คว้าแชมป์ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 ตอกย้ำสมรรถนะภาพของรถที่เหนือกว่า ซึ่ง Ninja ZX-10R SE นั้นมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่คาวาซากิได้พัฒนาขึ้นมากับระบบ KECS (Kawasaki Electronic Control Suspension) คือระบบไฟฟ้าที่ทำงานร่วมกับโช้ค Showa ทั้งด้านหน้าและหลัง โดยมีให้เลือกปรับเปลี่ยน 3 โหมดประกอบด้วย Road, Track, และ Manual พร้อมที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ผู้ขับขี่

 

Ninja 400 / Ninja 250 สปอร์ตโมเดลใหม่ คมเข้มสไตล์นินจา สมรรถนะอันเหนือชั้นด้วยขุมพลังและแซสซีใหม่แบบ All-new การควบคุมที่คล่องตัวตามสั่ง ทั้งยังมีตำแหน่งท่านั่งแบบสปอร์ตซึ่งทำให้นินจารุ่นใหม่นี้กลายเป็นรถที่ครบถ้วนทั้งความความสนุกสนานและขับขี่ง่ายในคันเดียวกัน ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ ทำให้ Ninja 400 สามารถคว้าตำแหน่งรถยอดนิยมของผู้รักการขับขี่รถจักรยานยนต์ไปครองได้อีกครั้งอย่างแน่นอน Z900RS / Z900RS Café รถสไตล์เรโทร ที่ผสมผสานความโมเดิร์นและความคลาสสิคให้เข้ากับยุคกับสมัยในปัจจุบัน โดยใช้เครื่องยนต์และโครงสร้างร่วมกับ Kawasaki Z900 มาในคอนเซ็ปต์ “True Spirit” รถจักรยานยนต์เรโทรเน็กเก็ด ขนาด 900 ซีซี 4 สูบเรียง การนำเอาจิตวิญญาณของโมเดลในตำนานอย่าง Z1 ปี ปี 1972 มาใช้ แต่ได้รับการเติมเต็มอารมณ์แบบคาเฟ่ด้วยเฉดสีและลวดลายกราฟฟิคอันโดดเด่น สะกดทุกสายตาความงดงามด้วยการออกแบบอย่างปราณีตลงตัว แต่คงไว้ซึ่งพละกำลังมหาศาล สำหรับผู้ขับขี่ที่กาลังมองหารถจักรยานยนต์ที่มีคาแรคเตอร์ และประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนาน Z900RS และ Z900RS Cafe คือรถที่มีทั้งสองคุณสมบัติแบบครบถ้วน นอกจากจะวิ่งได้ตามใจสั่งแล้ว ยังเปิดโอกาสให้คุณได้มองสิ่งรอบตัวและเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติรอบกายของคุณอีกด้วยW250 คือรถอีกหนึ่งรุ่นในตระกูล “W” ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์สไตล์เรโทรแท้ๆที่ถูกออกแบบมาสาหรับตลาดเอเชียโดยเฉพาะ เช่นเดียวกันกับรุ่น W800 รถจักรยานยนต์ W รูปลักษณ์คลาสสิคตามสมัยนิยมขนาดกลางรุ่นนี้ผสมผสานรูปลักษณ์แบบคลาสิคเข้ากับสมรรถนะด้านการขับเคลื่อนและคุณภาพงานประกอบที่แข็งแรงทนทานแบบโมเดริน์ ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่อัดแน่นไว้ด้วยเสน่ห์ของความคลาสสิค ด้วยองค์ประกอบและงานดีไซน์อย่างถังน้ำมันทรงหยดน้ำ เครื่องยนต์ตั้งตรงซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นรถจักรยานยนต์ เรโทรสายพันธุ์แท้ เสริมด้วยตำแหน่งท่านั่งที่กระชับสบาย และสร้างความเพลิดเพลินให้คุณได้ทุกวินาทีที่อยู่บนอาน และแน่นอนว่ามาพร้อมคุณภาพงานประกอบที่แข็งแรง ทนทาน ตลอดจนเก็บงานได้เรียบร้อยทั้งด้านนอกและด้านใน
W 175 / W 175[SE] รถจักรยานยนต์เรโทรพันธุ์แท้รุ่นเล็กจากตระกูล “W” ที่พัฒนาจากผู้สร้างเดียวกับตระกูล Ninja มาพร้อมรูปลักษณ์แบบดั้งเดิม ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่อัดแน่นไว้ด้วยเสน่ห์ของความคลาสสิคซึ่งชวนให้นึกถึงรถจักรยานยนต์ในอดีต มีเครื่องยนต์ปริมาตรกระบอกสูบ 177 ซีซี หนึ่งสูบ ประสิทธิภาพสูง ทำให้ W175 นั้นจะสามารถส่งมอบประสบการณ์การขับขี่แบบไร้ความกังวล ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินได้อย่างเต็มที่