เรียกเสียงฮือฮาเป็นขวัญใจวัยโจ๋อย่างรวดเร็วสำหรับรถจักรยานยนต์ จากค่ายฮอนด้าจากอดีตถึงวันนี้ ฮอนด้าตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่มีหลากหลายอย่างต่อเนื่อง ทั้งเทคโนโลยีเครื่องยนต์ล้ำสมัย การออกแบบดีไซน์โดดเด่น ออพชั่นเสริมมาก แต่ความเก๋าที่มีมาอย่างยาวนานควบคู่กันมาก็คือ ความคลาสสิคเรโทรที่เป็นอมตะ ถึงแม้ว่ายุคนี้จะเป็นยุคของดิจิตอลและนำเสนอเทคโนโลยีสุดล้ำนำสมัย แต่ความคลาสสิคยังคงเป็นที่ต้องการอยู่เสมอ

Honda Super Cub กลับมาโดดเด่นอีกครั้งหลังจากหายไปนาน และได้เวลาปรับโฉมตามต้นฉบับในประเทศญี่ปุ่นที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมาในสไตล์ที่ย้อนยุคยิ่งกว่าเดิม All New Honda Super Cub ได้ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด Forever Retro มาในสไตล์ออริจินอลเจแปนคงความเก๋าโจ๋ไม่เปลี่ยนแปลงอย่างเอกลักษณ์ไฟกลมที่ดูคลาสสิคเพิ่มเติมด้วยเสน่ห์ใหม่ ไฟ LED สะกดทุกสายตา และยิ่งเก๋ายิ่งขึ้นด้วยการนำดีไซน์ของ Super Cub รุ่นแรกของโลกมาผสานกับความโมเดิร์นสมัยใหม่อย่างลงตัว สีสันแบบทูโทรเบาะนั่งเป็นแบบแยกสองตอนมีความกว้างนั่งได้สบายๆ สามารถเปิดยกเบาะเติมน้ำมันด้วยกุญแจล็อคด้านซ้าย ไฟเลี้ยวแยกซ้ายและขวาทรงกลมสุดเรโทรที่แสดงความเป็น Cub ได้อย่างชัดเจน หน้าปัดเรือนไมล์คงความเรโทร อ่านง่ายเด่นชัด บอกความเร็ว ระดับน้ำมัน ตำแหน่งเกียร์ สัญญาณไฟครบครัน ให้ความรู้สึกความเป็นเรโทรมากยิ่งขึ้น สวิทช์กุญแจใช้งานได้สะดวกสบายและปลอดภัยด้วยระบบชัตเตอร์คีย์ ส่วนในการสตาร์ทจะมี 2 แบบ ทั้งคันสตาร์ทเท้าและสวิทช์สตาร์ทมือไฟฟ้าใช้งานง่าย

Honda Super Cub มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 109.17 ซีซี 4 จังหวะ SOHC แบบซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ ระบายความร้อนด้วยอากาศ กระบอกสูบ ช่วงชัก 50.0 x 55.6 มม. คลัทช์เปียกแบบหลายแผ่นซ้อนกัน ระบบควบคุมการจุดระเบิดล่วงหน้าด้วยคอมพิวเตอร์ ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI ระบบเกียร์เป็นแบบเกียร์วน 4 ระดับ ถังน้ำมันใหญ่ถึง 4.2 ลิตร เครื่องยนต์หัวฉีด PGM-FI ประหยัดสูงสุด 60.1 กม./ ลิตร มิติตัวรถ ยาว x กว้าง x สูง 694 x 1,858 x 1,044 มิลลิเมตร มีเฟรมแบบแบ๊คโบน มีความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 4.2 ลิตร ระบบกันสะเทือนหน้า เทเลสโคปิค ระบบกันสะเทือนหลัง สวิงอาร์มทำงานร่วมกับโช้คอัพคู่ระบบเบรก หน้าและหลัง ใช้เป็นดรัมเบรก วงล้อซี่ลวดขนาด 17 นิ้ว ยางหน้า 70/90-17M/C 38P ยาหลัง 80/90-17M/C 50P น้ำหนักตัวรถ 101 กิโลกรัม มีให้เลือก 6 สี ได้แก่ เขียว-ขาว, น้ำเงิน-ขาว, แดง-ขาว,เหลือง-ขาว, ชมพูขาว และขาวล้วน

ความคิดเห็นนักทดสอบ
มันจี๊ดบิดติดมือดีจัง… Honda Super Cub ขี่สนุกมาก ออกแบบมาย้อนยุคเลย ด้วยรูปทรงที่ยังคงความเป็นออริจินัลแท้ไว้อย่างครบถ้วน ไฟหน้ากลมๆ ออพชั่นเสริมไม่ต้องถามไม่มี คงความเป็นรถตระกูล
ซูเปอร์คัพจากอดีตสู่ปัจจุบัน รูปร่างหน้าตามาแบบนี้ไม่ต้องไปหารถเก่ามาปลุกให้เสียเวลา การประกอบชิ้นงานมีความแน่นและมีความหนาของพลาสติกไม่มีเสียงสั่นกระพรือให้รำคาญหู รูปทรงกะทัดรัดนั่งคร่อมแล้วรู้สึกมั่นใจวางเท้าลงเหยียบได้เต็มทั้งสองเท้า เครื่องยนต์แบบสูบเดี่ยว ระบบหัวฉีด PGM-Fi มันของแน่นอนอยู่แล้ว ให้ประหยัดน้ำมันนั่นเอง แต่ไม่ได้วัดค่าเฉลี่ยเพราะขี่แล้วมัน 555.. เอาเป็นว่าเติมเต็มถังใช้กันยาวๆ เสริมระบบสตาร์ทไฟฟ้าเพื่อความสะดวก แต่ก็ยังมีสตาร์ทเท้าให้ด้วย เอกลักษณ์ของเครื่องยนต์ของรถสไตล์นี้มีอัตราเร่งรอบต้นๆ ดีมาก รถพุ่งออกไปเร็วต่อเกียร์ได้รับกัน ขี่ง่าย เสียงอาจจะดังไปหน่อยเมื่อแช่คันเร่งไปยาว ท่านั่งสบายกับเบาะแบบแยก คล่องตัวด้วยขอบอกเลย ซอกแซกหายห่วง ระยะแฮนด์ไม่กว้างมากควบคุมง่าย ขนาดหน้ายางเล็กร่อนพลิกรถเร็วแต่ต้องระมัดระวังในการเข้าโค้งด้วยความเร็วเช่นกัน เบรกถึงจะเป็นดรัมทั้งหน้า/หลังก็เอาอยู่เพราะความเร็วสูงสุดเพียง 105 กม./ชม.เอาไว้ขี่เล่น หรือขี่ใช้งาน เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัยจริงๆ ลองแล้วจะรู้ว่ามันดี คุ้มค่า คุ้มราคา ที่ 47,100 บาท

ปิดจ๊อบแล้วสำหรับภารกิจสุดพิเศษ CB300R NEO SPORT CAFÉE CUSTOM BIKE ที่ทางนิตยสารไรดิ้งได้นำเสนอไอเดียเพื่อเป็นแนวทางให้กับเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ชื่นชอบการแต่งรถ โดยที่ได้รับการสนับสนุนจากอะไหล่แต่งจาก H2C ค่ายดังที่จับมือร่วมกับฮอนด้าในการสร้างชิ้นงานให้กับรถแต่ละรุ่น, KITACO แบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่น นี่ก็เป็นออฟฟิเชียลฮอนด้า เป็นของแต่งที่มีศูนย์อยู่ฮอนด้าวิงเซ็นเตอร์และบิ๊กวิง, Genma (เกนม่า) งานอลูมินัม CNC ที่มีชิ้นงานให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบหลายรุ่น, RACING BOY ชุดแต่งที่รู้จักกันทั่วเอเชีย, โช้คอัพ Gazi แบรนด์ดังสำหรับนักแข่งรถชั้นนำ และ โซ่ OSAKI คุณภาพเป็นที่ยอมรับและมีความสวยงาม

หลังจากที่ผ่านการปรับตกแต่งเพิ่มเติมไปเมื่อสองครั้งที่แล้ว ตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายเก็บรายละเอียดต่างๆ และมีการเพิ่มเติมของแต่งเข้าไปอีกทำให้รถดูสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ก็ขอร่ายเก็บทั้งคันเลยแล้วกันว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง รูปทรง การดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวเสริมความเป็นสปอร์ตให้ลงตัวกับความคลาสสิคทำให้น่าขับขี่มากยิ่งขึ้น สไตล์ของ Neo Sport Cafe แต่งแต้มเติมสีสันลวดลายใหม่ ด้วยสติ๊กเกอร์ด้านข้างปีกหม้อน้ำและถังน้ำมัน ที่เป็นลายออฟฟิเชียลพาร์ทเนอร์ของ H2C และ KITACO ซึ่งจับมือกันในการออกแบบอุปกรณ์ของแต่งในหลายรุ่นเพื่อสามารถหาชิ้นส่วนได้ง่ายและตรงรุ่น ไฟหน้าทรงกลมเพิ่มให้ดูมีความเท่เป็นแนวคาเฟ่ด้วยวินชิลด์สีดำทรงเตี้ยครอบปิดจอแสดงผลให้ดูมีกลิ่นอายของความคลาสสิค แฮนด์เดิ้ลบาร์อลูมินัมไดซ์สีแดง FatBar เสริมความแข็งแกร่งที่ให้การควบคุมการเลี้ยวที่เบาแรงและสะดวกมากยิ่งขึ้น จับยึดประกบด้วยตุ๊กตาอลูมินัม ชุดปั๊มบน RACING BOY และมาพร้อมกับคลัทช์ไฮโดรลิคแบบตู้ปลาใส ร้อยต่อด้วยสายถักสแตนเลส บังโคลนหน้าที่เพิ่มความโดดเด่นและคมเข้มเป็นเคฟล่าร์แท้ของ H2C ซึ่งหาซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่าย ราคาเอาเรื่องเหมือนกันนะ เข้ารับกับโช้คอัพหน้าที่เป็นแบบหัวกลับซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ติดมาให้กับตัวรถรุ่นนี้อยู่แล้วเป็นการนำเอาของ X-ADV มาใส่ แกนขนาด 41 มม. ดิสก์เบรกหน้าจานเดี่ยว คาลิเปอร์แบบ 4 พอร์ท เรเดียลเม้าท์ อันนี้ก็ไม่ธรรมดาประสิทธิภาพระดับเดียวกับบิ๊กไบค์ เพราะนำมาจาก CBR1000RR ติดตั้งการ์ดจานดิสก์เบรกหน้า Genma ท่านั่งถูกจัดระเบียบใหม่ให้นั่งควบคุมได้กระชับด้วยการวางเท้าด้วยชุดพักเท้าแบบเกียร์โยง พักเท้าหลังสำหรับสาวๆ ซ้อนท้ายของ Genma บั้นท้ายกับชุดติดแผ่นป้ายทะเบียนสั้น และเสริมความสูงขาตั้งด้านข้าง

เครื่องยนต์กันสไลด์ด้วยการ์ดด้านข้างแคร้งอลูมินัม และ อันเดอร์เคราริ่งการ์ดกันกระแทก KITACO ที่ช่วยป้องกันและให้ความสวยงาม หม้อน้ำอลูมินัมที่ต้องการปกป้องเศษหินเศษดินปิดบังด้วยการ์ดหม้อน้ำสแตนเลส ท่อไอเสียเพิ่มความดุดันและมีความโดดเด่นสวมด้วยสลิปออนสแตนเลสคอสปริง ดิสก์เบรกหลังคาลิเปอร์เดี่ยว ระบบซับเพนชั่นหลังโมโนโช้คอัพเลเวลด้วยโช้คอัพของ Gazi พร้อมกระบอกซับแท้งค์แยก ที่สามารถปรับพรีโหลด และ รีบาวด์ได้ สวิงอาร์มติดตัวยกสแตนหลังง่ายต่อการเซอร์วิสและหางปลาสำหรับการตั้ง และร้อยสเตอร์ขับเคลื่อนด้วยโซ่ OSAKI สีทอง วงล้อเปลี่ยนใหม่ใช้เป็นวงล้ออลูมินัม YOKO Series7 ที่มีความแข็งน้ำหนักเบา และเพิ่มขนาดหน้ากว้างใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับกับยางที่อัพไซส์ด้วยเช่นกัน ส่วนนี้มีการดัดแปลงดุมล้อหน้า/หลัง โดยใช้ดุมล้อของ CRF250L และการเสริมสเปเซอร์การจับจานดิสก์หน้าใหม่

นี่เป็นเพียงการนำเสนอไอเดียการแต่งรถง่ายๆ ด้วยของแต่งจากฮอนด้า และ อีกหลายๆ ผู้สนับสนุน ซึ่งหาซื้อได้ง่ายทั่วไป อาจไม่โดนใจใคร แต่มันก็ทำให้รถคันนี้มันน่ามองมากยิ่งขึ้น Honda CB300R Neo Sport Cafe

ฉบับก่อนหน้านี้เราได้ให้ความกระจ่างในการปรับตั้งความแข็งของสปริงไปแล้ว ครั้งนี้มาถึงอีกหนึ่งฟังก์ชั่นการปรับแต่งที่มักจะเป็นตัวสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก เรียกว่าหากโช้ครุ่นใดสามารถปรับการทำงานนี้ได้จะกลายเป็นการยกระดับขึ้นมาอีกขั้นทีเดียว นั่นคือการปรับรีบาวด์ ซึ่งมีอยู่ในโช้คอัพของ Racing Boy ในรุ่น SB-2 Series นั่นเองการปรับความแข็งของสปริงนั้นเป็นกลไกพื้นฐานที่ทำได้ไม่ยาก มองเห็นและเข้าใจถึงการทำงานได้จากภายนอกทำให้มันกลายเป็นการปรับพื้นฐานที่มีในโช้คทั่วไป แตกต่างกันคือจะเป็นการปรับแบบนับเป็นล็อค หรือปรับละเอียดแบบหมุนเกลียวเท่านั้น สำหรับโช้คอัพ Racing Boy ในรุ่น SB-2 Series นั้น นอกจากจะใช้การปรับความแข็งของสปริงอย่างละเอียดด้วยการขันเกลียวแล้ว ยังเพิ่มการปรับรีบาวด์มาให้ใช้งานกันอีกด้วย

S หนืดน้อย H หนืดมาก ปรับแสนง่ายด้วยมือเปล่า

ลูกบิดปรับรีบาวด์มักจะอยู่ใต้ขดลวดสปริง

ปรับสปริงเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่ปรับรีบาวด์จะมีในโช้คอัพอีกระดับเท่านั้น

รีบาวด์คืออะไร
เมื่อเราเอ่ยถึงธรรมชาติของสปริงที่เมื่อถูกกดให้หดลงเท่าไรก็จะยืดตัวออกด้วยแรงที่เท่ากัน รีบาวด์คือตอนที่สปริงยืดตัวออกนั่นเอง การปรับรีบาวด์ก็หมายถึงการปรับให้สปริงนั้นยืดตัวออกช้าหรือเร็วตามที่เราต้องการ ส่วนมากมักจะนิยมปรับให้คืนตัวช้าลงซึ่งจะทำให้โช้คมีความนุ่มนวลมากขึ้น แม้ว่าจะยุบตัวเร็วแต่การคืนตัวที่ช้าคล้ายกับว่าสปริงนั้นมีความหนืดมารั้งเอาไว้ ทำให้การปรับรีบาวด์ถูกเรียกอีกอย่างว่าการปรับหนืดนั่นเอง

รีบาวด์ดีอย่างไร
หากไม่มีกลไกรีบาวด์เราคงต้องกระเด้งตัวลอยทุกครั้งหลังจากที่รถตกหลุมแน่ๆ ที่จริงในโช้คทุกตัวจะมีกลไกรีบาวด์ที่จะช่วยลดความเร็วในการยืดตัวของสปริง ซึ่งก็คือชุดลูกสูบน้ำมันที่ทำงานอยู่ในแกนกลางโช้คนั่นเองที่ทำให้เรายังนั่งสบายอยู่ได้ การปรับรีบาวด์ก็เพื่อให้เหมาะสมกับวิธีการขับขี่ของแต่ละคน สำหรับคนที่ขับขี่ช้าควรจะปรับน้อยๆ เพราะการปรับรีบาวด์มากเกินไปจะทำให้รู้สึกกระด้าง ตรงกันข้ามหากเป็นคนขับขี่ด้วยความเร็วการปรับรีบาวด์มากขึ้นจะช่วยให้รถทรงตัวได้มั่นคง ดังนั้นการเลือกใช้โช้คที่ปรับรีบาวด์ได้ ประกอบกับการปรับใช้ที่ถูกต้องเหมาะสม จึงเป็นผลดีที่จะช่วยให้รถเกาะถนนได้อย่างปลอดภัยที่สุดนั่นเอง

ปรับง่ายได้ด้วยมือเปล่า
ด้วยการทำงานที่ยุ่งยากของกลไกในห้องน้ำมันที่ซับซ้อนทำให้เราไม่สามารถเห็นการทำงานของระบบปรับความหนืดได้ แต่การปรับค่าการทำงานนั้นตรงกันข้าม ผู้ใช้งานสามารถปรับรีบาวด์นี้ได้ด้วยมือเปล่า โดย Racing Boy ได้ออกแบบให้เป็นลูกบิดหมุนเป็นคลิกที่ด้านล่างของสปริงโช้ค ทิศทางการปรับตามความหมายของอักษรย่อ H หมายถึง Hard คือการหน่วงมากให้คืนตัวช้า (หนืดมาก) ส่วนอีกด้านเป็น S หมายถึง Soft คือการหน่วงน้อยให้คืนตัวเร็ว (หนืดน้อย) ไม่ควรปรับครั้งละมากๆ เพียง 3-5 คลิ๊กก็เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนแล้วมีของดีต้องใช้ให้เป็น แล้วจะเห็นความคุ้มค่า ด้วยความปรารถนาดีจากเรซซิ่งบอย